อยู่ให้แตกต่างในย่านอโศก กับคอนโดพร้อมอยู่สไตล์ New York Loft แท้ๆที่ The Lofts Asoke

“เคยคิดไหม…ทำไมเราต้องใช้ชีวิตหรูหราน่าเบื่อแบบเดิมที่ซ้ำและทับซ้อนเหมือนกับคนอื่นทั่วไป”

ขอทิ้งปริศนานี้ไว้เป็นคำถามปักเข้าไปในสมอง แล้วเริ่มมองหาสิ่งที่แตกต่างที่ใช่สำหรับชีวิตเรา

Luxury Condominium ส่วนมากมักจะมี design ที่เป็น pattern ซ้ำๆ แม้ผิวเผินจะดูแตกต่างแต่จะระบุเอกลักษณ์ได้ยาก เพราะส่วนใหญ่ผู้พัฒนาโครงการจะออกแบบให้ play safe ไม่กล้าจะไปทางใดสุดทาง ส่วนใหญ่ออกแบบเพื่อให้ขายกับกลุ่ม luxury ที่มีจิตใจแห่งความเป็น mass อยู่ในตัว ทำให้ขั้นสุดท้ายของงานดีไซน์ก็จะออกมาในแบบที่ขายได้สำหรับคนส่วนใหญ่ วัสดุที่เลือกใช้ก็จะวนเวียนไปมาระหว่างหินอ่อน สีทอง วับแววเป็นประกาย เป็นการทำซ้ำต่อกันไปเรื่อยๆ โดยยึดมั่นเพียงแค่รสนิยมจากจุดอ้างอิงของลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนส่วนมาก ไม่มีความกล้าฉีกรูปแบบออกมา

แต่ช่วงหลายปีให้หลัง คอนโดมิเนียมสไตล์ Loft ถูกนำมาใช้เป็นจุดขายสำหรับหลายโครงการ โดยเน้นจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ มีความ Urban Stylish ปรารถนาห้องที่มี Grand Living Space กว้างๆ เน้นเพดานห้องสูง High ceiling โดยที่ไม่ได้มองว่าความ Luxury จะต้องเป็นแค่หินอ่อนหรือโลหะทองแวววาวแบบแนวคิดเดิมๆ ทั่วไป ความหรูหราสามารถประเมินคุณค่าออกมาได้ในหลายรูปแบบ ไม่ใช่เพียงแค่มูลค่าแห่งความยากยิ่งของการหามาซึ่งวัสดุ  แต่อยู่ที่รสนิยมของกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างไปตามปัจเจกบุคคล

เสน่ห์คอนโดมิเนียมสไตล์ Loft ที่แท้จริง

ในตลาดคอนโดมิเนียมเมืองไทยแน่นอนว่าหากจะนึกถึงคอนโดมิเนียมสไตล์ Loft แบบแท้ๆ ที่มีความกล้าเลือกใช้วัสดุโลหะเหล็กสนิม บวกกับคอนกรีตและเลือกใช้กรอบหน้าต่างโลหะขนาดใหญ่ เพื่อดึงเร้าเอาคอนเซปต์ของความเป็น New York Industrial Loft โดยเค้นแรงบันดาลใจมาจากการประยุกต์คลังสินค้าเพดานสูงในเขตอุตสาหกรรมมาใช้เป็น Studio ของศิลปินและนักคิดอิสระในอดีต ก็เห็นจะมีที่โครงการ The Lofts Asoke by Raimon Land นี่แหละครับ ที่เป็น Loft แบบ Loft จัดมากๆ ชื่อโครงการก็ The Lofts ผนวกกับการตกแต่งภายในที่มอบความรู้สึกแห่งความเป็น Industrial Loft อันทรงเสน่ห์ เริ่มปะทะประสาทสัมผัสของเราตั้งแต่วินาทีแรกที่เปิดประตูเดินเข้าไป The Lofts Asoke ประสบการณ์แห่งความงดงามยิ่งใหญ่แบบนี้จะเข้าถึงตัวได้แค่วิธีเดียวคือไปสัมผัสเองด้วยกายและใจของเราเองครับ

Raimonland เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับ High-end ชั้นนำของไทยที่ได้ฝากผลงานให้เป็นที่รู้จักมาแล้วมากมาย เช่น The Lofts Yennakart, The River, 185 Rajdamri, The Lofts Ekkamai, The Lofts Silom และปัจจุบันที่สร้างเสร็จแล้วคือ The Lofts Asoke และในอนาคตจะมี, The Estelle Phrom Phong และ TAIT 12 เป็น Developer ที่มีการเติบโตและพัฒนาต่อเนื่องทุกปี

The Lofts Asoke ณ จุดศูนย์กลางของชีวิตที่ลงตัว

The Lofts Asoke อยู่ใจกลางอโศกอย่างสุขุมวิท 21 นับว่าเป็นทำเลที่มีความเป็น Inner CBD อย่างแท้จริง เพราะมีอาคารสำนักงาน โรงแรม ร้านค้า คอนโดมิเนียม สถาบันการศึกษา โรงพยาบาลตั้งอยู่เรียงรายตลอดสองข้างทางและภายในซอยย่อยต่างๆ ก็มีทั้งโครงการ Low-rise และ High-rise สลับสับเปลี่ยนกันไปตามขนาดที่ดินและถนน โดยซอยสุขุมวิท 21 นี้ทำหน้าที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ที่รับการจราจรจากซอยย่อยและเชื่อมต่อระหว่างถนนหลักเส้นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสุขุมวิท รัชดาภิเษก เพชรบุรี อโศก-ดินแดง ก่อนที่จะส่งต่อไปยังถนนรัชดาภิเษก พระรามเก้า และพระรามสี่ในลำดับถัดไป ความสำคัญของสุขุมวิท 21 ที่รองรับจำนวนรถยนต์และผู้คนมากมายต่อวันขนาดนี้ทำให้กลายเป็นถนนที่มีรถติดมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองกรุงเทพ แต่ข้อได้เปรียบของย่านรถติดนั่นก็คือมีความเจริญเติบโตสูงเพราะมีผู้คนจำนวนมากนั่นเอง

ภาพจากคลิปวิดีโอ The Lofts Asoke by Raimon Land https://youtu.be/uoqKx7-wjeo

โดยในย่านสุขุมวิท 21 นี้เป็นย่านที่มีความผสมผสานสูงมาก เป็นศูนย์รวมการคมนาคมขนส่ง หรือ Transportation Hub ทุกรูปแบบ ทั้งถนน ทางด่วน รถไฟฟ้า 3 สาย ทั้งสายสีเขียว น้ำเงิน และ Airport Rail Link รถไฟ และเรือโดยสาร นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์รวมของสถานศึกษา หรือLearning Hub เพราะมีมหาวิทยาลัย โรงเรียน และเมื่อมีคนอยู่อาศัยจำนวนมากก็ย่อมกลายเป็น Lifestyle Hub มีร้านอาหาร บาร์ คาเฟ่ โรงแรม ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ โรงพยาบาล

โดยในช่วงก่อนปี 2019 ทำเลย่านอโศกหรือสุขุมวิท 21 นี้ถูกเติมเต็มให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นด้วยพื้นที่ Retail หลายๆ แห่งเช่น Singha Complex, Metro Mall, ตลาดนัดและ Community Mall ขนาดย่อมต่างๆ ประกอบกันขึ้นเป็นย่านที่มีทั้งคนไทยและคนต่างชาติอยู่อาศัยจำนวนมาก ดังน้นคอนโดมิเนียมไม่จะโครงการอะไรก็ตามที่ตั้งอยู่ในย่านนี้ย่อมสามารถเรียกราคาขายได้ดี และมี demand สูงอยู่เสมอ เนื่องจากนิยมสำหรับกลุ่มคนทำงานทั้งไทยและ expat กลุ่มนักท่องเที่ยว รวมถึงนักเรียนนักศึกษาที่ผ่านไปผ่านมาในย่านนี้มากมายมหาศาลในแต่ละวัน

The Lofts Asoke (เดอะ ลอฟท์ อโศก) คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ สูง 37 ชั้น จำนวน 211 ยูนิต เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2016 แล้วเสร็จในปี 2019 ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใจกลางอโศก ย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต สะดวกสบายทุกการเดินทาง และยังเป็นคอนโดใกล้ MRT เพชรบุรี อยู่ในย่านอโศก ทำเลเยี่ยม ใกล้เซ็นทรัลพระราม 9 คอนโดใกล้มศว. (มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ) เพียง 200 เมตร จาก MRT เพชรบุรี  และ ARL มักกะสัน และเพียง 5 นาที จากทางด่วนพิเศษ พระราม 9 และอโศก-ดินแดง โดดเด่นด้วยสไตล์การออกแบบตกแต่งในสไตล์ลอฟท์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบ้านในมหานครนิวยอร์ค และกรุงลอนดอน มีห้องเพดานสูง 2 รูปแบบให้เลือกคือ Simplex สูง 3.17 เมตร และ Sky Loft Duplex สูง 5.7 เมตรพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมี่ยม ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้อยู่อาศัย เช่น สระว่ายน้ำลอยฟ้าบนชั้น 31, Social Lounge และ Workspace, ที่จอดรถ 100% แบบ Automated Parking ฯลฯ

The Lofts Asoke เอกลักษณ์ความต่างด้วยสไตล์ New York Industrial Loft

The Lofts Asoke คือคอนโดมิเนียมที่มีความโดดเด่นแตกต่างจากโครงการอื่นๆ ในย่านสุขุมวิท 21 ตรงที่มีความหนักแน่นและมุ่งมั่นในการเป็น Loft Style อย่างแท้จริง ไม่ใช่คอนโดที่ดู Futuristic และไม่ได้ดูหรูหราตามแบบเดิมๆ แต่ The Lofts Asoke สร้างความรู้สึกถึงความทันสมัยสำหรับคนหัวใหม่ มีความเป็น Urban Stylish เหมือนคอนโดมิเนียมต่างประเทศ ผ่านการรังสรรค์คอนเซปต์การออกแบบแนว Industrial Lofts ซึ่งเราจะเห็นปรัชญาของการผสมผสานระหว่าง Function & Form ได้จากส่วนต่างๆ ภายในโครงการโดยเริ่มตั้งแต่ที่ชั้นแรกเลย

ดูจาก Master Plan ของ THE LOFTS ASOKE กันก่อนนะครับ   

เดินเข้าจากถนนหน้าโครงการพบกับพื้นที่สีเขียว มีต้นไม้เป็นร่มไม้จากธรรมชาติคอยยืนต้อนรับอยู่หน้าบ้าน ให้ร่มเงาและความเย็นสบายและช่วยทำให้ภายในสงบแตกต่างจากภายนอกที่วุ่นวาย

ถัดเข้ามามี covered drop off เป็นจุดรับส่งที่มีหลังคากันฝนกันแดด ใช้งานได้จริงและสวยงาม รอบโครงการมีที่จอดรถสำหรับ Visitor parking ได้ทั้งหมด 10 คัน

จุด drop off มีโลโก้ของแบรนด์ Raimon Land ที่ติดกับวัสดุเหล็ก rustic steel สีน้ำตาลสนิมและข้างๆ มีศิลปะประติมากรรมสีดำ

หลังจากนั้นเดินเข้าไปในอาคารผ่านประตูกระจกระบบ keycard ก็มี Triple Volume Lobby โถงต้อนรับ ที่นั่งโซฟา และเคาน์เตอร์ concierge ต้อนรับและบริการแก่ลูกบ้าน บริการ Concierge ที่มีให้ในช่วงปีแรก (หลังจากนั้นแล้วแต่การบริหารของคณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุด) มีพนักงานประจำที่เคาน์เตอร์ชั้นล่างให้บริการถึงสองทุ่ม ช่วยประสานงานเรื่องการทำความสะอาด ดูแลคอยต้อนรับ เรียกรถแท็กซี่ และมี Night Manager ดูแลให้อย่างดี 24 ชั่วโมงเปรียบเสมือนพักอยู่ในโรงแรม

โถง lobby สูงมากกว่าปกติทั่วไป และติดตั้งวัสดุสะท้อนเงาและไฟออกแบบเป็น grid line สานถักทอกันไป มองแล้วเพลินดีเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด ช่วยสร้างความรู้สึกประทับใจให้กับคนพิเศษที่มาเยี่ยมบ้านของเรา ให้ความรู้สึกว่าที่นี่เป็นบ้านของนักประดิษฐ์ ศิลปิน นวัตกรที่รู้จักนำทั้งความสวยงามประสานกับเทคโนโลยีทันสมัยเข้าด้วยกันเพื่อสร้างสุนทรียะในการอยู่อาศัยที่เลอค่า

จัดวางโต๊ะ เก้าอี้และโซฟาหลายมุมเพื่อการใช้งานที่หลากหลาย พื้นปูพรมขนาดใหญ่เอาไว้เพื่อสัมผัสที่นุ่มนวลกว่าพื้นลายไม้ การเลือกโทนสีเฟอร์นิเจอร์ที่มาใน theme ขรึม เข้ม เท่ ลึกลับ

พื้นที่เดียวกับ Lobby ก็สามารถใช้สำหรับน่ั่งรอรถยนต์จากระบบจอดรถ Automatic Parking ได้ครับ

The Lofts Asoke มีที่จอดรถเพื่อลูกบ้านครบทุกยูนิตหรือคิดเป็น 100% ซึ่งเกินมาตรฐานสำหรับคอนโดมิเนียม Luxury ทั่วไปที่มักจะมีที่จอดรถไม่ครบทุกห้อง ถือว่าเป็นจุดเด่นมากอย่างหนึ่งของโครงการครับ ที่จอดรถอัตโนมัติแบรนด์ที่เลือกมาใช้คือ IHI เป็นเทคโนโลยีสุดล้ำจากญี่ปุ่น IHI เป็นบริษัทที่เชียวชาญด้านเทคโนโลยีวิศวกรรมขั้นสูง

รูปแบบที่เลือกมานั้นทำให้ลูกบ้านไม่ต้องออกไปตากแดดรอรถยนต์ที่หน้าลิฟต์ด้านนอกอาคาร นับว่า THE LOFTS ASOKE ออกแบบการใช้งานลิฟต์รถยนต์ที่เน้นความสะดวกสบายของผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก มีพาเลตจอดรถ 3 รูปแบบที่สามารถใช้จอดรถทั่วไป จอดรถ SUV ได้ มีพาเลตแบบ flat สำหรับการจอดรถที่หน้ากว้าง หรือรถที่มีความยาว นอกจากนี้ก็สามารถจอดรถ Big Bike ได้ด้วย

โครงการนี้มีระบบจอดรถยนต์ประเภททาวเวอร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ในด้านการบำรุงรักษาทาง Raimon Land ทำสัญญาบำรุงรักษากับ IHI จำนวน 10 ปี

กล้องวงจรปิดเพื่อดูว่ารถของเรามาแล้วหรือยัง

มีหน้าจอแสดง waiting list ของรถยนต์ในแต่ละ tower ซึ่งมี 3 tower A B และ C

ด้านหลังโซฟาตัวนี้จะมีฉากสีดำวัสดุคล้ายดำวาวลายกราฟฟิกสีทองดูมีเอกลักษณ์

ด้านหลังของฉากสีดำนี้คือ mailbox

พื้นลายไม้วางแบบ herringbone pattern ที่ช่วยเสริมความหรูหรา

เดินย้อนกลับมาทางด้านหน้าติดกับจุด drop off จะเป็น Library ที่มีบริการหนังสือพิมพ์ต่างๆวางไว้ให้นั่งอ่านสบายๆ วางองค์ประกอบความเป็นธรรมชาติด้วยพฤกษาพืชพรรณในร่มเพื่อสร้างความเป็นมิตรให้กับพื้นที่

ขยับร่างเข้าไปอีกพบกับบันไดวนโลหะสไตล์ industrial loft เพื่อเดินขึ้นไป Lounge & Workspace ที่อยู่ชั้น 2

ชั้น 2 เป็นพื้นที่ส่วนกลาง มีไฮไลท์คือ Lounge & working space

ภาพบริเวณชั้น 2 ออกแบบให้เป็น Lounge สำหรับนั่งพักผ่อน มีพื้นที่โต๊ะและเก้าอี้ Working space และด้านหลังจะมุมเล็กๆ เป็น Bar Corner สำหรับการเตรียมเครื่องดื่มเพื่อจัดสังสรรค์เล็กๆ

Working space ที่มอบความรู้สึก Raw ดูดิบๆ

สัมผัสพื้นที่สีเขียวที่หน้าบ้านได้ผ่านกระจก

มีฟังก์ชั่นการใช้งานเป็น Play room ได้ด้วย

พื้นที่กว้างขวาง

จัดวางโซฟาและองค์ประกอบต่างๆ ที่สร้างความรู้สึกแนว Industrial Loft

เพดานสูง โปร่งสบาย สว่าง

อีกมุมหนึ่งของ Lounge จะออกแบบให้คล้าย glass house สไตล์ loft ที่เน้นงานกรอบหน้าต่างโลหะกรุด้วยกระจกใสมองออกไปเห็นสิ่งแวดล้อมภายนอกได้ มีความตั้งใจออกแบบให้มองเห็นความดิบและเป็นธรรมชาติของสภาพแวดล้อมภายนอก และยังช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้าได้เต็มที่สร้างอารมณ์ที่ปลอดโปร่งสดชื่นทั้งวัน

เป็นอีกหนึ่งมุมที่น่ามานั่งทอดสายตามองต้นไม้และถนนอโศกที่ไม่หลับใหล

เฟอร์นิเจอร์ที่คัดสรรมามอบความเป็นส่วนตัวสูงแม้อยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง

มีที่นั่งหลายมุมให้เลือก

ชอบมุมนี้ครับ ดูผ่อนคลายดี

ลึกเข้าไปออกแบบฟังก์ชั่นให้เป็น private meeting lounge

สำหรับให้ลูกบ้านใช้จัดประชุมระดมสมองและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ได้ดีเพราะได้วิวธรรมชาติจากพื้นที่สีเขียวภายนอก

จากมุมนี้สามารถมองเห็นสถาปัตยกรรมรูปแบบทันสมัย

จากพื้นที่ติดหน้าบ้านที่เป็น lounge เดินเข้ามาในโถงทางเดินชั้น 2

มีห้องสำนักงานนิติบุคคล

แล้วขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 4 จะมีห้อง Fitness Center

เครื่องออกกำลังกายมากมาย เหมาะสำหรับ Cardio

ภายใน fitness center มีห้องน้ำแยกชายหญิงด้วยครับ แม้จะดูแล้วเท่ดี แต่ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เพราะผมได้กลิ่นจากท่อในห้องน้ำลอยเข้ามาใน fitness center ครับ

มีพื้นที่กว้างสำหรับการออกกำลังกายที่หลากหลาย

เครื่องนี้คือ Row GX Trainer Water Rower จากแบรนด์ Life Fitness ใช้หลักการ Fluid Resistance technology แรงต้านของน้ำมาช่วยให้การออกกำลังกายมีความนุ่มนวลและจังหวะที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น เหมาะสำหรับการออกกำลังกาย full-body Cardio

เดินผ่านประตูไปส่วนของ outdoor space เพื่อชมวิวเมือง

ที่นั่งยังคงความดิบสไตล์ industrial loft ได้อย่างคงเส้นคงวา เลือกใช้ rustic steel มาเป็นวัสดุหลัก ก็สวยดีครับ แต่โปรดระวังถ้าใส่กางเกงหรือกระโปรงสีอ่อน

จากพื้นที่ outdoor terrace มองขึ้นไปด้านบนจะได้ภาพตึกสวยๆ แบบนี้

ต่อไปเราจะขึ้นไปชั้นที่ 31

ชั้น 31 มีไฮไลท์เป็น Pool deck สระว่ายน้ำ, sky garden และ steam room

สระว่ายน้ำเป็น semi-outdoor pool

สระว่ายน้ำแห่งนี้มีความพิเศษตรงที่อยู่บนความสูง 100 เมตรเหนือระดับพื้นดิน

บรรยากาศยามค่ำคืน

มองเห็นวิวเมืองรอบด้าน

ออกแบบให้มีความ loft ด้วยเพดานสูง วัสดุแผงตาข่ายโลหะ

ทำให้ดูโปร่งสบาย

เสาทำจากวัสดุ rustic metal steel

ผนังคอนกรีตลุคแบบดิบๆ เสมือนฉาบมือ จัดวางเคาน์เตอร์หินอ่อนสีนิลลายไม้ พร้อมเก้าอี้ รองรับกับกิจกรรมสังสรรค์ มี vertical garden ไม้เลื้อยอยู่เคียงข้างที่กำลังจะเติบโตเต็มแผงช่วยบังแดดยามบ่าย ทำให้พื้นที่แห่งนี้ถูกออกแบบให้ใช้งานจริงได้ทั้งวัน ถือว่าเป็นออกแบบที่ยังคงยึด form & function ได้ดี

Sky garden มองเห็นวิวเมืองและสถาปัตยกรรมที่ทันสมัยของกรุงเทพ

สระว่ายน้ำมีส่วนที่ยื่นออกมา outdoor เต็มที่

ถ้าเราเงยหน้าขึ้นไปจะเห็นยูนิตพิเศษแบบ sky loft ยังมียูนิตรอคนมาจับจองนะครับ อยากบอกว่าตำแหน่งห้องนี้พิเศษจริงๆ มีจำนวนจำกัดมาก ใครได้ครองไปถือว่าน่าอิจฉาทีเดียว

ห้อง steam room

ห้อง steam room สามารถแชร์กันได้ทุกคน ด้านข้างกันจะมีห้องน้ำแยกชายหญิง

การออกแบบ Unit Plan ที่มีความพิเศษสไตล์ The Lofts Asoke

The Lofts Asoke มีการออกแบบ Typical floor plan ทั่วไปของแต่ละชั้นจะเป็นแบบนี้ครับ โถงลิฟต์อยู่ตรงกลาง ฝั่งทิศเหนือจะมีอาคารบังวิวอยู่จึงนำ auto parking ไปวางไว้แทน

ยูนิตที่น่าสนใจมากเป็นพิเศษคือแบบ 2 Bedroom เพราะเป็นห้องขนาดใหญ่มากกว่า 86 ตร.ม.เป็น sizing ที่อยู่อาศัยได้จริง อยู่สบาย แตกต่างจากโครงการอื่นที่มักจะเป็น 2 Bedroom ขนาดเล็ก การเป็นเจ้าของที่ The Lofts Asoke นอกจากจะได้ความเป็นส่วนตัวเพราะมียูนิตต่อชั้นน้อยที่สุดแล้ว ยังได้ Space ที่ออกแบบมาด้วยแนวคิด Practical design ไม่ใช่ฟังก์ชั่นเป็นแค่บ้านหลังที่สอง แต่กลับเป็นพื้นที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัยระยะยาวแบบจริงจัง ทำให้การตัดสินใจเลือกอยู่ห้อง 2 Bedroom เป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่า เพราะอยู่อาศัยได้ยาวนานตลอดชั่วชีวิต นอกจากนี้ที่กล่าวมา ถ้าสนใจห้องรูปแบบอื่นๆ ก็ลองสอบถามพนักงานขายได้ครับ โดยรูปแบบห้องจะมีทั้งหมด 7 แบบ ตั้งแต่ 1,2 และ 3 Bedroom ครับ

นอกจากนี้อีกความน่าสนใจคือมีห้องแบบ Sky Loft Duplex ที่มีเพดานสูงพิเศษ ปัจจุบันห้องแบบนี้ขายเกือบหมดแล้ว จริงๆ แล้วน่าจะมีห้องแบบ Sky Loft Duplex เยอะๆ หน่อยเพราะการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าดีมาก และไม่ค่อยจะมี Supply ใหม่ของห้องแบบนี้เกิดขึ้นมาบนทำเลสุขุมวิท 21 เลย

รีวิวห้องตัวอย่าง The Lofts Asoke

ห้องตัวอย่างจะจัดแสดงไว้ภายในโครงการ The Lofts Asoke ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน

ตำแหน่ง The Lofts Asoke ในแผนที่ Google Maps https://goo.gl/maps/95pWr8nzGau

GPS 13.746759, 100.562823

แผนที่

จะพามาดูชั้นพักอาศัยนะครับ โถงทางเดินจะเป็นแบบนี้

บางห้องจะเป็นแบบ single corridor ครับ

Floor plan ทั่วไปเป็นแบบนี้

ห้องตัวอย่าง 2A Loft 2 Bedroom 87 ตร.ม.

อยู่ตำแหน่ง Corner Unit ทิศตะวันตกครับ

ป้ายเลขห้องดีไซน์เหล็กสนิมแบบนี้ ดูดิบๆ สไตล์ Loft ตั้งแต่หน้าห้องเลยทีเดียว

แถม Digital Door Lock มาให้ แบรนด์ iGloohome จากสิงคโปร์ ดูฟีเจอร์การทำงานได้ที่นี่ https://www.igloohome.co/products/mortise/

บานประตูเปิดแล้วปิดเองอัตโนมัติได้ สะดวกสบาย

เริ่มเข้าในห้องจะมีโถงเล็กๆ หน้าห้อง วางของกระจุกกระจิก ติดกระจกเงาสำรวจความพร้อมก่อนออกจากบ้าน

แต่ละห้องจะมีความแตกต่างกันตาม design concept แต่ละแบบ ได้แก่ Raw จะดูดิบๆ มี emotional แบบสไตล์ Loft เต็มที่ เน้นสีน้ำตาล, Bold จะดูเท่ ขรึม เข้ม masculine เน้น 2 tone ขาวดำ, Funtional จะเป็นเรียบหรูโทนสว่างแบบโครงการอื่นทั่วไป ซึ่งปัจจุบันจะมีห้องแต่ละรูปแบบให้เลือกแบบ preset เอาไว้แล้วเรียบร้อย ชอบห้องสไตล์ไหนก็สอบถามพนักงานขายได้เลยครับ

ตรงนี้เป็นพื้นที่เอนกประสงค์ ติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ชุดครัวไว้ให้แบบนี้

ชุดครัวมีพื้นที่ทำครัวได้กว้างมาก และเก็บของได้จุใจ

Hob 3 เตา

เตาอบ

อ่างล้างจาน

เป็นห้องที่ใช้งานได้หลายฟังก์ชั่น ทำครัว กินอาหาร ทำงาน นั่งเล่น

แอร์แบบ concealed

เพดานสูง 3.15 เมตร ฝังสายไฟฟ้าไว้ในฝ้า มีตำแหน่งติดหลอดไฟฝ้าแบบที่เห็นในภาพ

การจัดแสงแบบนี้ทำให้ห้องดูแตกต่างจากโครงการอื่น ให้อารมณ์แสงสลัวๆ ดูน่าค้นหา เห็นแล้วมีความอยากซุกซนหาของที่ซ่อนอยู่

น่านั่งน่านอนมาก

สลัวๆ เซ็กซี่ๆ

แม้แสงสลัว แต่เน้นเพดานสูง ห้องจึงดูโปร่งสบาย น่าอยู่

พื้นที่ตรงนี้กว้างมากทีเดียว เราสามารถออกแบบเป็นแบบไหนก็ได้ที่เราปรารถนา

จะนั่งทำงาน นั่งกินข้าว ปาร์ตี้กับเพื่อนก็ทำได้ เพราะ space กว้าง จะทำอะไรก็ได้

เดินได้รอบโต๊ะ

พื้นที่วางตู้เย็น

เดินเข้ามาเยี่ยมห้องน้ำกลาง

จัดแสงสวยมาก และเซ็กซี่มากทีเดียว ถ่ายรูปเซลฟี่ในห้องน้ำยังไงก็ออกมาสวยจนใครๆ ก็หลงใหล

อุปกรณ์ภายในห้องน้ำครบครันตามที่เห็นในภาพ ห้องอาบน้ำมีประตูกระจกและฉากกั้นกระจก ผนังห้องน้ำกับพื้นใช้วัสดุดูเท่ๆ

สุขภัณฑ์ อ่างล้างมือที่มีก๊อกน้ำสีดำ สไตล์ Loft มีตู้เก็บของด้านล่าง และหลังกระจกเงา ปลั๊กไฟให้พร้อมใช้งาน

ฝักบัวและ rain shower สีดำ เท่ๆ

ห้องนอนเล็กอยู่ติดกับห้องน้ำกลาง

พื้นที่กว้าง สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้สบายๆ

หน้าต่างบานใหญ่ และตู้เสื้อผ้า กระจกหน้าต่างเป็นกระจก insulated ทำให้เสียงจากภายนอกไม่เข้ามารบกวนห้องภายในได้

มีพื้นที่ทำงานเล็กๆ ในห้องนอนเล็ก

แถมน้องหมา Frenchie ด้วยเหรอ!? อ่อ…ไม่ใช่ครับ อันนั้น prop ตกแต่ง แต่ยังไงก็น่ารัก

ตู้เสื้อผ้าเปิดออกมาได้แบบนี้

ภายในห้องนอนเล็กมีพื้นที่เดินค่อนข้างกว้าง

หน้าต่างบานใหญ่ มองวิวข้างนอกระยะไกล

มีพื้นที่มากพอที่จะวางโต๊ะหัวเตียงและมุมแต่งตัวแบบนี้ น่าอยู่มาก

เดินออกมาจากห้องนอนเล็กจะเห็นตู้แบบนี้

เปิดออกมาเก็บของได้อีก

ย้อนกลับมาดูมุมห้องนั่งเล่นแสนน่าค้นหา

มุมวางทีวี อยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องนอนใหญ่

ห้องนอนใหญ่ เพดานสูง น่าอยู่ดีไหมครับ

หน้าต่างใหญ่ เป็นกระจกเข้ามุม

พื้นที่รอบเตียงมีมากพอทั้ง 3 ด้าน เดินได้สะดวกรอบเตียง

กระจกเข้ามุม มองเห็นวิวระยะไกลได้ วิวที่เห็นนี้คือมุมตะวันตกเฉียงใต้

ตรงข้ามเตียงก็มีพื้นที่กว้างขวาง วางโต๊ะเก้าอี้ได้สบาย

กว้างขวาง โปร่งสบาย

พื้นที่กว้าง วางโต๊ะหัวเตียงได้

ภาพนี้เป็นห้องแบบ 2A Loft 2 Bedroom อีกห้องหนึ่งที่อยู่ติดกัน วิวในห้องนอนใหญ่จะอยู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะได้รับวิวพื้นที่สีเขียวโล่งๆ แบบนี้ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าวิวดีกว่าห้องทิศตะวันตกวิวเฉียงใต้ครับ แต่ยังไงก็แล้วแต่คนจะชอบครับ

กลับมาดูห้องนอนใหญ่กันต่อ มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าใกล้ประตูห้องน้ำใหญ่

เปิดออกมาได้แบบนี้ น่าจะเพียงพอแน่นอน ถ้าไม่พอก็คงต้องไปฝากไว้ในห้องนอนเล็กแล้วครับ

เรามาดูห้องน้ำใหญ่กันครับ

อุปกรณ์ ตู้ต่างๆ มีครบ

มีความดีงามเพราะเป็นห้องน้ำที่มีหน้าต่างให้แสงธรรมชาติเข้ามา

อ่างล้างมือ ก๊อกน้ำร้อนน้ำเย็น สีดำ

ดูวิวข้างนอกได้ด้วยครับ

shower room

และอ่างอาบน้ำ

ขอตีฟองก่อนแป๊บนึง

ฝักบัวและ rain shower สไตล์ Loft สีเข้มๆ ดำๆ ให้ความรู้สึกเป็นโลหะ

อ่างล้างมือแบรนด์ Cristina ฟังก์ชั่นดี ใช้ทนทาน

พื้นที่วางของในห้องน้ำ

ห้องตัวอย่าง แบบ 2B Loft 2 Bedroom 86 ตร.ม.

ห้อง 2 Bedroom นี้อยู่ตำแหน่งทิศตะวันออก ห้องนั่งเล่นจะได้วิวโล่ง ครัวจะเป็นครัวเข้ามุม มีห้องน้ำ 2 ห้อง ห้องจะเล็กกว่าและฟังก์ชั่นน้อยกว่าแบบ 2A ซึ่งเราอาจจะเปลี่ยนจากห้องนอนมาเป็น Studio ทำงานแทนก็ได้ครับ

ประตูหน้าห้อง แถม Digital Door Lock ไว้ให้

ป้ายหน้าห้องพร้อมกริ่ง

เป็นห้องที่อยู่สุดทางเดิน

เข้าไปพบกับโถงทางเดิน

มีตู้รองเท้าและเก็บของได้

ใช้สอยพื้นที่ได้คุ้มค่า

ถัดมาเป็นพื้นที่ทำครัวเข้ามุม

วางโต๊ะกินข้าวเล็กแบบนี้ได้

มีพื้นที่วางตู้เย็น

ตู้ชุดครัวเปิดออกได้แบบนี้

แอร์ฝังฝ้า

เชื่อมต่อสู่โซนนั่งเล่นได้

ห้องนั่งเล่น ติดกับระเบียงกว้างมาก

วางทีวีได้จอใหญ่ยักษ์ไร้ขอบประตูมาเป็นอุปสรรค

ห้องนั่งเล่น วิวโล่งระยะไกล

ระเบียงก็กว้างดีงาม วางเก้าอี้ได้

ห้องรูปแบบ 2A 86 ตร.ม.นี้จะเน้นในโซน Entertainment ที่กว้างใหญ่กว่า 2 Bedroom อื่น

ด้านหลังโซฟานั่งเล่นเป็นประตูบานเลื่อนเข้ามุมของห้องนอนเล็ก

ประตูบานเลื่อนเข้ามุมเปิด-ปิดออกได้แบบนี้ครับ

ห้องนอนเล็กนี้ ถ้าวางเตียง 5 ฟุตจะแคบเกินไป ควรวางเตียง 3.5 ฟุตแทน หรือควรออกแบบเป็นห้อง studio ทำงาน ห้องอ่านหนังสือ ตามแบบที่ห้องตัวอย่างจัดแสดงไว้นี่แหละครับ

มีแถมตู้เสื้อผ้าให้ มีแอร์ฝังฝ้า

ตู้เปิดออกได้แบบนี้

เดินออกจากห้องนอนเล็กมาจะเห็นตู้ built-in และประตูทางเข้าห้องน้ำกลาง

ตู้เปิดได้แบบนี้ครับ

ภายในห้องน้ำกลาง มีสุขภัณฑ์ อ่างล้างมือ และ shower room พร้อมฉากกั้นอาบน้ำครบถ้วน

จัดแสงสวย มีทั้ง warm light และ bright white ผสมผสานกันเพื่อสร้างความรู้สึกที่ตรงข้ามกัน

ออกมาจากห้องน้ำกลาง กลายเป็นทางสามแยก เตรียมเดินเข้าสู่ห้องนอนใหญ่

เมื่อเข้ามาจะพบกับตู้เสื้อผ้าก่อน

ตู้ผ้าเปิดออกได้แบบนี้ และข้างๆ กันคือประตูเข้าห้องน้ำ master bathroom

Master bathroom

อุปกรณ์ทุกอย่างพร้อม

ตู้กระจกเงาเปิดออกเก็บของได้

อ่างอาบน้ำ

พื้นที่ห้องนอนใหญ่เป็นห้องที่มีหน้าต่าง 2 ฝั่ง แสงส่องเข้าได้ดีเยี่ยม

แอร์ฝังฝ้า เพดานสูงโปร่งสบาย

ดูสว่างดี

ลักษณะการตกแต่งห้องตัวอย่าง 2B Loft 2 Bedroom 86 ตร.ม. อีกรูปแบบหนึ่ง ลักษณะ layout ห้องจะเหมือนกับภาพห้องตัวอย่างชุดข้างต้น ฟังก์ชั่นการใช้งานเหมือนกันทุกประการ แต่ภาพนี้จะเป็น theme การตกแต่งสไตล์ Raw ที่ให้อารมณ์แตกต่างกัน มาลองดูสไตล์นี้กันครับ

ผนังจะเป็นคนละแบบ ห้องสไตล์ Raw ผนังจะคล้ายปูนเปลือย แต่ไม่ใช่ปูนเปลือยนะครับ

พื้นห้องจะใช้ลายไม้

ดูดิบกว่า

สีของตู้ชุดครัว จะเน้นแนวโทนเข้มๆ ดุๆ

ผนังกันเลอะจะเลือกใช้วัสดุสีแบบนี้

ห้องนั่งเล่นที่ดูน่าอยู่

อารมณ์ของห้องจะเปลี่ยนไป ดูเข้มแข็งมากขึ้น

สไตล์ Raw จะแต่งห้องโดยใช้ 3 สี น้ำตาล ดำ และเทา

พื้นที่ระเบียงกว้างมาก

ธรณีระหว่างภายในและภายนอก

ราวกันตกเป็นกระจก มองเห็นวิวข้างนอกได้สวยๆ

มีก๊อกน้ำ

วางเฟอร์นิเจอร์สำหรับนั่งพักผ่อนได้สบายๆ

ส่วน CDU แอร์ต่างๆ จะถูกซ่อนไว้ข้างบนทั้งหมด

ภายในห้อง แม้จะดูดิบๆ แต่ก็อบอุ่นอยู่ในที

ภายในห้องน้ำก็เหมือนกับห้องตกแต่งสไตล์อื่นๆ ครับ

โซนห้องนอนใหญ่กับสีพื้นที่เปลี่ยนไป

ห้องนอนที่ดูแมนๆ เท่ๆ มากขึ้น

ห้องน้ำ

ดีไซน์ไม่แตกต่างกัน

ผนังในห้องนอนก็คล้ายปูนเปลือย

จัดแสง warm light ยิ่งช่วยเสริมให้กลายเป็นห้องที่น่าอยู่มาก

มองออกไปเห็นวิวข้างนอกแบบชิลๆ

จะทำงาน

หรือพักผ่อนก็ทำได้ทุกอย่าง

ห้องในส่วนของ Sky Loft Duplex บนชั้น 31 – 44 กำลังก่อสร้างอยู่เลยเข้าไปดูไม่ได้ครับ แต่วิวที่ได้ก็จะเป็นประมาณนี้ครับ

คลิกเพื่ออ่านรีวิวห้องตัวอย่าง Sky Loft Duplex

ภาพนี้เป็นวิวสุขุมวิททิศตะวันออก น่าซื้อไหมครับ

สิ่งอำนวยความสะดวกรอบทำเล THE LOFTS ASOKE

โดยรอบโครงการ THE LOFTS ASOKE มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบทุกอย่าง ได้แก่

สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT เพชรบุรี

เป็นสถานีที่มี Metro Mall อยู่ภายในด้วย มีซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร คาเฟ่แบรนด์ดังมากันครบ

มีทางเท้าที่สวยงาม และปลอดภัย

มีท่าเรืออโศก

โรงพยาบาลจักษุรัตนิน

Singha Complex อยู่ตรงข้ามกับ MRT เพชรบุรี ต้องเดินข้ามถนนไปหา ภายในเป็นอาคารสำนักงานและ Retail zone มีร้านอาหารนานาชาติ เบเกอรี่ คาเฟ่ Supermarket และร้าน hangout ต่างๆ นอกจากนี้มีพื้นที่นั่งเล่น นั่งทำงาน co-working space ด้วย

ภาพจาก www.facebook.com/SinghaComplex

ราคา THE LOFTS ASOKE

1 Bedroom 1A 49.17 ตร.ม. ชั้น 3 , 25 ราคา 9.9-11.8 ล้านบาท

1 Bedroom 1B 35.61 ตร.ม. ชั้น 16 ราคา 8.2 ล้านบาท

1 Bedroom L1B 79.09 ตร.ม. ชั้น 35 ราคา 21.8 ล้านบาท

2 Bedroom 2A 86.85 , 87.74 ตร.ม. ชั้น 3.26 ราคา 16 – 20.9 ล้านบาท

2 Bedroom 2B 85.40 ตร.ม. ชั้น 11-30 ราคา 17.3-20.9 ล้านบาท

2 Bedroom 2C 75.40 ตร.ม. ชั้น 20-27 ราคา 17.2-18.3 ล้านบาท

ราคาเฉลี่ยประมาณ 225,500 ต่อตารางเมตร (ข้อมูลเมื่อ Q1 2019)

Term of payment มีค่าจอง 100,000 บาท ค่าทำสัญญา 10%

เป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่เดือนมิถุนายน 2019 พร้อมโอนกรรมสิทธิ์

ค่ากองทุนตารางเมตรละ 800 บาท จ่ายครั้งเดียว

ค่าส่วนกลางต่อเดือน 85 บาทต่อตารางเมตร

ค่าโอนจ่ายคนละครึ่ง

มีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่โอนภายในเดือนมีนาคม 2019 รับฟรีเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ NIIQ

โดย Foreign Quota ที่นี่เต็มแล้ว เพราะเป็นโครงการที่เศรษฐีชาวต่างชาติที่เป็นฐานลูกค้าสำคัญของไรมอนแลนด์นิยมมาก

สรุปความน่าซื้อของ The Lofts Asoke

ท่ามกลางการแข่งขันของตลาดคอนโดบนถนนอโศก ที่แข่งกันเดือดมากในช่วง 5 ปีให้หลัง สิ่งที่คล้ายๆกันก็คือเราจะเห็นว่าราคาคอนโดในบริเวณนี้ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ จากแสนปลายๆต่อตรม. จนมาถึงเฉียดสามแสนบาทแล้วในปัจจุบัน…แต่ความแตกต่างซึ่งจับต้องได้ชัดเจนของ The Lofts Asoke นั้น ก็เป็นสิ่งที่ค่อนข้างได้เปรียบมากกว่าโครงการใหม่อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นระยะเดินจากรถไฟฟ้า ความเป็นส่วนตัวจากจำนวนยูนิตที่มีเพียงแค่ 211 ยูนิต จำนวนที่จอดรถ 100% และเหนือสิ่งอื่นใดก็คือการนำเอาคอนเซปท์ของ Real Loft Living มาใช้ในทุกอณูของการออกแบบ ทั้งส่วนกลาง และภายในห้อง ซึ่งนี้คือสิ่งที่นอกจากจะเห็นได้ด้วยตาแล้ว ยังจับต้องได้เป็นรูปธรรมชัดเจนที่สุด และปัจจัยดังกล่าวก็ส่งผลต่อกลุ่มลูกค้าที่สนใจโครงการนี้ ที่มักจะอยู่ในช่วงอายุ 30-45 ปี เป็นคนที่มีความคิดทันสมัย เคยอยู่อาศัยที่ต่างประเทศมาก่อน ประกอบอาชีพหลากหลาย เช่น กลุ่มผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนอินเตอร์ แพทย์ นักธุรกิจที่เป็น Business Owner มีกลุ่ม LGBT ที่มีรายได้สูง Double Income ไม่ต้องมีภาระในการเลี้ยงดูบุตร สนใจเลือกอยู่ที่นี่เพราะมีสไตล์การออกแบบมีเอกลักษณ์ถูกใจและมีความเป็นส่วนตัวสูง ไม่ใช่กลุ่ม Babyboomer ที่มองหาคอนโดสไตล์หรูหราที่เน้นพื้นที่ส่วนกลางที่ดูภูมิฐานเป็นระเบียบแบบแผน และอัดแน่นด้วย Prop ตกแต่งโลหะมันวาวเยอะๆ

สำหรับคนที่กำลังชั่งใจอยู่ว่าจะซื้อดีไหม ก็ควรต้องตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้ครับ ว่าคุณเป็นคนที่คุ้นชินกับทำเลอโศกมากน้อยแค่ไหน รวมถึงรับได้ไหมกับสภาพการจราจรที่มักจะติดขัดอยู่ตลอดเวลา ในทางกลับกันถ้าคุณเป็นคนที่ทำงานแถวนี้ คุณก็อาจจะมองว่าที่นี่คือคอนโดในฝันเลยก็ได้ เพราะอโศกมีครบหมดครับ นอกจากนี้ทำเลอโศกยังถูกเชื่อมต่อไปยังถนนสายอื่นๆได้มากกว่า มีการคมนาคมที่ผสมผสานกันหลายอย่างมาก ทั้ง BTS, MRT, ARL, เรือ หรือรถยนต์ส่วนตัว มันเหมาะสมมากกับคนที่ใช้ชีวิต มีไลฟ์สไตล์ที่วนเวียนอยู่กับย่านนี้ หรือหากใครมีครอบครัว และมีลูกกำลังศึกษาอยู่ ที่นี่ก็ใกล้สถานศึกษาหลายแห่งทั้ง มศว. และโรงเรียนนานาชาติ Nist รวมถึงในอนาคตก็จะมีอาคารสำนักงานอย่าง Rasa เพชรบุรี มาเปิด ต่อจาก Singha Complex ที่เปิดใช้งานมาสักพักอีก จึงการันตีได้ว่าที่นี่จะมี Exposure ที่โดดเด่นดึงดูดสายตาของคนที่ผ่านไปมาในย่านนี้มากกว่าในอดีตที่ผ่านมา นอกจากนี้ในเรื่องของการปล่อยเช่า ย่านอโศกเป็นย่าน CBD ที่มี expat ในระดับ management สูง มี purchasing power ในการจ่ายค่าเช่าที่มากกว่าสำหรับคอนโดระดับไฮเอนท์ขึ้นไปได้

โดยราคาขายในปัจจุบันก็ต้องบอกว่ามีการปรับตัวขึ้นตามราคาตลาดคอนโดในย่านนี้ ซึ่งหากจะว่ากันตรงๆในปัจจุบันก็มีคอนโดที่พร้อมโอนในจังหวะเวลาเดียวกันถึง 3 โครงการ โดยคู่แข่งสำคัญที่คนซื้อหลายๆคนมักจะนำมา Benchmark เปรียบเทียบกันดูก่อนก็จะเป็น THE ESSE Asoke ซึ่งราคาขายเฉลี่ยต่อตรม.สำหรับ The Lofts Asoke และ The ESSE Asoke อาจจะไม่ได้ดูต่างกันมากเท่าไหร่ แต่ถ้ามองในเรื่องของความพึงพอใจในการอยู่ห้องขนาดใหญ่ แต่ได้บรรยากาศของความสงบในการอยู่อาศัยที่มากกว่า ไม่วุ่นวายในการวนหาที่จอดรถ ใช้ส่วนกลางได้อย่างคุ้มค่า เพราะมีแค่ 211 ยูนิต อยู่แล้วดูเท่ห์ ก็คงจะต้องเลือก The Lofts Asoke เป็นคำตอบเดียวครับ

สนใจเข้าชมโครงการ THE LOFTS ASOKE

โทรศัพท์ 02-029-1888 www.theloftsasoke.com

Email: direct.marketing@raimonland.com

แผนที่ https://goo.gl/maps/WzfoSRA5oa92

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการร่วมทุนกับ Tokyo Tatemono ได้ที่นี่ http://bit.ly/2U80xkk

วิดีโอ The Lofts Asoke by Raimon Land https://youtu.be/uoqKx7-wjeo

Sneak Preview

Exclusive Interview

Design Theme

รีวิวห้องตัวอย่าง Sky Loft Duplex