หลังจากปล่อยให้แฟนคลับรอกันมานานถึง 2 ปี ในที่สุด บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ระดับไฮเอนท์ชั้นนำของประเทศไทย ก็ได้โอกาสเปิดตัวโครงการล่าสุดบนถนนอโศกฯ อย่าง The Lofts Asoke (เดอะ ลอฟท์ อโศก) แล้วครับ

เดอะ ลอฟท์ อโศก คือโครงการที่เน้นความหรูหรามีระดับ แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ ตามแบบฉบับของแบรนด์ เดอะ ลอฟท์ ของไรมอน แลนด์ โดยเป็นโครงการที่ 4 ของแบรนด์ ตามหลังมาจาก เดอะ ลอฟท์ เย็นอากาศ และ เดอะ ลอฟท์ สาทร ที่ขายหมดไปแล้ว ขณะที่ เดอะ ลอฟท์ เอกมัย ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างนั้นมียอดขายไปแล้วกว่า 95% และคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3 ปี 2559

การกลับมาเปิดตัวโครงการในช่วงจังหวะที่ตลาดคอนโดมิเนียมไฮเอนท์ในกรุงเทพฯ กำลังอยู่ในช่วงแย่งชิงลูกค้ากระเป๋าหนักอันอย่างอุตลุดส่งท้ายปีแบบนี้ แน่นอนว่า ไรมอน แลนด์ ย่อมพกความมั่นใจมาอย่างเต็มเปี่ยม ก่อนก้าวเข้าสู่สมรภูมิอันเดือดพล่านเช่นนี้ พร้อมกับหมายมั่นปั้นมือที่จะแย่งบัลลังก์เจ้าตลาดคอนโดไฮเอนท์กลาง CBD กลับคืนมาอีกครั้ง…เดอะ ลอฟท์ อโศก จะเปรี้ยงหรือไม่? จะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าไฮเอนท์มากน้อยแค่ไหน? และไรมอน แลนด์ มีทีเด็ดอะไรในโครงการนี้บ้าง? …เพื่อหาคำตอบเหล่า ผมจึงจำเป็นที่จะต้องเข้าไปสัมภาษณ์คุณคิพศาล เบ็ค ผู้อำนวยการฝ่ายการสร้างผลิตภัณฑ์และการตลาด (Vice President of Branding & Marketing) บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับรายละเอียดทุกซอกทุกมุมของโครงการ เดอะ ลอฟท์ อโศก ครับ

PH: โครงการ The Lofts Asoke เป็นโครงการแรกที่เปิดตัวหลังจากที่ Raimon Land ห่างหายไปจากการเปิดตัวคอนโดใหม่ในกรุงเทพฯกว่า 2 ปี การเปิดตัวในครั้งนี้คาดหมายว่าผลตอบรับจะเป็นอย่างไรครับ?

KB: เราค่อนข้างมั่นใจมากในการเปิดตัวโครงการ เดอะ ลอฟท์ อโศก ในครั้งนี้ครับ นอกเหนือจากการที่โครงการตั้งอยู่ในทำเลระดับ Grade A Prime area มีระยะห่าง 150 เมตรจาก MRT สถานีเพชรบุรี และ 200 เมตรจากแอร์พอร์ตลิงค์แล้ว เรายังมีจุดเด่นในเรื่องของ Design ที่ไม่มีใครเหมือน เป็น Style Loft ที่เป็น Signature ของแบรนด์เรา คำว่า Loft ในความหมายของไรมอน แลนด์ จะใช้ความเป็น Functional เป็นตัวนำ กล่าวคือเพดานจะต้องสูง โปร่ง ในห้องแบบปกติของเราก็จะเรียกว่า Lofts ตั้งแต่ชั้น 3 – 30 จะมีระยะจากพื้นสู่เพดานที่ 3.2 เมตร ส่วนห้องแบบ Sky Lofts ที่ชั้น 31 – 44 จะมีความสูงจากพื้นสู่เพดานที่ 5.7 เมตร และเป็นห้องแบบ Duplex ที่ให้พื้นที่ Void บริเวณห้องนั่งเล่น มากกว่าห้อง Duplex โครงการอื่นๆ
ในเรื่องของส่วนกลางเราก็ใส่ความเป็น Loft ลงไปในทุกพื้นที่ส่วนกลาง ไม่ว่าจะเป็น Triple Height Lobby ให้ความสูงที่เทียบเท่าตึก 5 ชั้น และมีส่วนกลางเล่นระดับถึง 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนต้อนรับ บริเวณโคเวิร์กกิ้ง เลาจ์/สเปซ และห้องฟิตเนสแบบ double height เมื่อขึ้นไปบริเวณชั้นที่ 31 ก็จะพบกับสวนลอยฟ้า สกาย การ์เดน แบบ double height พร้อมกับสระว่ายน้ำขนาด 25 เมตร แลเห็นทิวทัศน์กว้างขวางของกรุงเทพฯในแบบ Panorama

บริเวณโคเวิร์กกิ้ง เลาจ์ บนชั้น 2 ของอาคาร ถูกออกแบบมาให้มีนวัตกรรมล้ำสมัย พร้อมด้วยความโอ่โถงของพื้นที่และเพดานสูงโปร่ง เพื่อไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ของผู้พักอาศัยโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศแบบสังคมเล็กๆ รายล้อมด้วยเทคโนโลยี เพียบพร้อมด้วยการตกแต่งและการออกแบบที่เหมาะต่อการแลกเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ดีๆ การจัดกิจกรรม การฉายภาพยนตร์ การนั่งอ่านหนังสือ หรือการพักผ่อนในวันสบายๆได้อย่างเต็มที่

ตอนนี้หากนับตั้งแต่วันที่เราเปิดขายในรอบ VVIP สำหรับลูกค้าเก่าไรมอน แลนด์ ผลตอบรับที่ได้กลับมาถือว่าดีมาก ถ้าเทียบกับตอนเปิดตัวโครงการ เดอะ ลอฟท์ เอกมัย เพื่อสองปีที่แล้ว มาครั้งนี้เรามีความพร้อมมากขึ้น และได้พันธมิตรที่ดีในหลายๆส่วน ในด้านการออกแบบตึกเราก็ได้ศึกษามาเป็นอย่างดีในการที่จะหลบวิวบล็อคของตึกข้างเคียง เพื่อให้ทุกยูนิตได้เปิดรับวิวที่ดีที่สุด เราเลือกที่จะวางตำแหน่งของลิฟท์ที่จอดรถอัตโนมัติไว้ทางด้านทิศเหนือ ซึ่งเป็นด้านที่ค่อนข้างติดกับอาคาร 253 และในด้านทิศใต้ก็จะมีเพียงแค่ห้องแบบ 1B 35 ตรม.สองห้องเท่านั้นที่มีระเบียงหันไปเจอคอนโด Sukhumvit Living Town แต่ก็ถูกชดเชยด้วยกระจกบานใหญ่เต็มผนัง สูง 3.2 เมตร ให้เปิดรับวิวแนวเฉียงได้เต็มๆ และก็เป็นห้องที่ขนาดเล็กที่สุด เหมาะสำหรับผู้ซื้อที่อยากอยู่โครงการเราแต่มีงบประมาณที่จำกัด

โดยคาดว่า Sale Gallery น่าจะสร้างเสร็จในช่วงเมษายนปี 2559 และเราก็มองว่าในช่วง Presale จนถึงก่อนที่ Sale Gallery จะพร้อมให้เยี่ยมชม เราก็จะขายได้ตามยอดที่วางเอาไว้คือ 50%

PH: กลุ่มเป้าหมายที่ทาง Raimon Land วางไว้เป็นอย่างไร? 

KB: ขั้นต้นเลยเราก็มองที่กลุ่มคนที่คุ้นชินกับทำเลอโศก ทำงานอยู่แถวนี้ เรามองว่าตลาดอโศกเป็นตลาดที่ค่อนข้างกว้างกว่าเอกมัย ทำเลนี้มันถูกเชื่อมต่อไปยังถนนสายอื่นๆได้มากกว่า มีการคมนาคมที่ผสมผสานกันหลายอย่างมาก ทั้ง BTS, MRT, ARL, เรือ หรือรถยนต์ส่วนตัว ถ้าคนที่ใช้ชีวิต มีไลฟ์สไตล์ที่วนเวียนอยู่กับย่านนี้ ยังไงก็ต้องชอบโครงการเรา หากใครมีครอบครัว และมีลูกกำลังศึกษาอยู่ ที่นี่ก็ใกล้สถานศึกษาหลายแห่งทั้ง มศว. และโรงเรียนนานาชาติ Nist รวมถึงในอนาคตก็จะมีโรงพญาบาลบำรุงราษฎร์ใหม่มาเปิดอีก อโศกมีครบหมดครับ…แม้กระทั่งหากมองไปถึงการปล่อยเช่า ย่านอโศกเป็นย่าน CBD ที่มี expat ในระดับ management สูง มี purchasing power ในการจ่ายค่าเช่าที่มากกว่าสำหรับคอนโดไฮเอนท์ได้ และในอนาคตเมื่อโครงการ Singha Complex สร้างเสร็จ ย่านนี้ก็จะมี demand ที่เพิ่มมากขึ้นอีก

สำหรับในเรื่องรสนิยม กลุ่มเป้าหมายของเราก็น่าจะสัมผัสได้ว่า เดอะ ลอฟท์ อโศก นั้นเป็นโครงการที่ใส่ทั้งความทันสมัย ในการออกแบบ และให้ Functional ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยจริง ยูนิตก็มีเพียงแค่ 211 ยูนิต และมีที่จอดรถ 100% ผมเชื่อว่ากลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 28 – 45 ปีน่าจะรู้จักและชื่นชอบกับคอนเซปท์ Industrial Loft ครับ

PH: สัดส่วนชาวต่างชาติที่ซื้อคอนโดของ Raimon Land ดูแล้วให้ความสนใจกับโครงการนี้มากน้อยแค่ไหน?

KB: ส่วนใหญ่แล้วลูกค้าต่างชาติของเรา มักจะเลือกซื้อโครงการคอนโดตากอากาศของเรามากกว่า แต่ในรอบสองปีที่ผ่านมาเราได้มีการทำการตลาด สื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าคนไทยมากยิ่งขึ้น เรามองสัดส่วนการซื้อไปที่คนไทย 60% และตอนนี้มีลูกค้าเก่าที่เป็นคนไทยของเรามาซื้อแล้ว 30% จากยอดขายทั้งหมด อีกประเด็นนึงที่สำคัญมากคือส่วนใหญ่แล้วลูกค้าต่างชาติของเรามักจะไม่ได้อยู่ที่เมืองไทย หลายๆคนกลับมาไม่ทันซื้อรอบลูกค้าเก่า และสัดส่วนลูกค้าที่เป็นกลุ่มนักลงทุนระยะสั้นของไรมอน แลนด์ ยังมีไม่มากเท่าไหร่ เพราะเรามุ่งเน้นที่จะขายคนอยู่จริง จึงเก็บเงินดาวน์เยอะ เพื่อไม่ให้มีปัญหาเมื่อถึงเวลาโอน

PH: แรงบันดาลใจในการออกแบบอาคาร มาจากไหน ให้บริษัทอะไรในการออกแบบ ภายใต้คอนเซปท์อะไร?

KB: เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างทีมออกแบบไรมอน แลนด์ กับบริษัทที่ปรึกษาด้านการออกแบบของเราอย่าง ECO.ID ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบชั้นนำของประเทศสิงค์โปร์ห้องชุดทั้ง 211 ยูนิต ของ เดอะ ลอฟท์ อโศก ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ที่รักการใช้ชีวิตใจกลางเมือง โดยได้แรงบันดาลใจจากย่านอินดัสเตรียล แวร์เฮาส์สุดเก๋จากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นย่านไทรเบกา โซโห และลอนดอน ด็อคแลนด์ คอนโดหรูแห่งนี้มีความสูง 45 ชั้น บนพื้นที่ 1.5 ไร่ (ประมาณ 2,663 ตารางเมตร) การตกแต่งภายในสามารถใส่รายละเอียดที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของผู้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบแนว รอว์ (Raw) เน้นความดิบเปลือย สไตล์อินดัสเครียล ลอฟท์ แนว โบวด์ (Bold) ที่มีความโดดเด่น ไม่เหมือนใคร หรือแนว ฟังก์ชันนัล (Functional) ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัย

PH: ขึ้นชื่อว่า The Lofts แน่นอนว่า Hi Light คงอยู่ที่ Layout ของห้องที่ออกแบบให้มีเพดานสูงโปร่ง จากห้องปกติทั่วไป รวมถึงมีห้องแบบ Duplex ซึ่งไม่มี Supply เจ้าใหม่เจ้าไหนในอโศกทำอีกแล้ว (ยกเว้น Villa Asoke และบางห้องของ The Room Sukhumvit 21) ทาง Raimon Land มองว่า ห้อง Duplex ของ The Lofts Asoke มีอะไรที่แตกต่าง และทำไมคนที่มีเงินมากกว่า 27 ล้านถึงเลือกห้องนี้ครับ?

KB: หลายๆคนมองว่าห้อง Duplex ที่มีขนาดใหญ่นั้นขายยาก และจากสถิติที่ผ่านมามันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ โครงการอย่าง Villa Asoke ก็เป็นโครงการที่ดี ราคาไม่แพงแต่ปัจจุบันนี้ก็ยังมีห้อง Duplex เหลือขาย สิ่งนี้ก็เลยทำให้หลายๆดีเวลลอปเปอร์ที่เปิดโครงการใหม่ในอโศกกลัวว่าจะขายยาก ก็เลยไม่ทำ แต่ไรมอน แลนด์ ได้ศึกษามาเป็นอย่างดีแล้ว พบว่าปัญหาที่ผ่านมาคือโครงการส่วนใหญ่มักจะทำห้อง Duplex ทุกชั้น สัดส่วนของห้องมันก็เลยเยอะ เราเรียนรู้มาว่าไม่ควรที่จะนำมาผสมกันกับห้อง Type ปกติ ในชั้นเดียวกันโดยเราเลือกที่จะทำห้อง Duplex เป็นบางส่วน เฉพาะในโซนของ Sky Loft ตั้งแต่ชั้น 31 – 44 ซึ่งมีจำนวนแค่ 27 ห้อง ผลตอบรับคือลูกค้าให้ความสนใจเยอะมากจนตอนนี้ห้อง Duplex แบบ 1 ห้องนอน จำนวน 5 ห้อง ก็ขายหมดไปแล้ว

เราไม่มี Low Floor Duplex เพราะเรามองว่าห้อง Duplex ที่มีหน้าต่างสูงถึง 5.7 เมตร เป็น Double Hieght Ceiling จะต้องให้ผู้อยู่อาศัยได้ Take View ได้เต็มที่ในแบบที่ไม่มีอะไรมาบดบังสายตา เราให้พื้นที่ Viod ที่ใหญ่มากๆถ้าเทียบกับโครงการอื่นๆ ที่มักจะเหลือช่อง Void เอาไว้นิดเดียวตรงโซฟาห้องรับแขก เพื่อให้มีพื้นที่ในการขายมากขึ้น มีบันไดที่ใช้ได้จริง รวมถึงมีระเบียงที่กว้างใหญ่มากพอที่จะวางชุดโต๊ะนั่งเล่นได้

ที่สำคัญมากๆก็คือราคาของห้อง Sky Loft Duplex ที่เราไม่ได้ตั้งราคาขายแบบ Premium เพิ่มขึ้น แตกต่างจากที่อื่นที่มักจะคิดราคาเพิ่มเผื่อไว้ทดแทนพื้นที่ Void…ไรมอน แลนด์ ตั้งราคาขายตามปกติ ก็คือไล่ระดับราคาไปเพิ่มขึ้นประมาณชั้นละ 2,000 บาทต่อตรม. สำหรับชั้น Loft และเพิ่มขึ้น 4,000 บาทต่อตรม. สำหรับชั้น Sky Loft Duplex ซึ่งเป็นเรตปกติ

PH: Concept Industrial Loft จะถูกนำมาใช้กับงานออกแบบภายในของตัวอาคารอย่างไรครับ สไตล์ของล้อบบี้ส่วนกลาง จะเป็นแบบดิบๆ ปูนผสมกับโลหะหรือเปล่า หรือยังคงไว้ซึ่งความหรูหราตามมาตรฐานคอนโด Raimon Land ครับ?

KB: ขึ้นชื่อว่า Concept Industrial Loft ก็คงจะหนีไม่ได้ว่าจะมีบาง Element ที่เป็นดิบๆเพื่อโชว์ให้เห็นถึงวัสดุของจริงอย่างเป็นธรมชาติที่สุดครับ แต่ในความดิบของไรมอน แลนด์ ก็จะเป็นดิบแบบแพงๆ เพราะว่าเรายังคงไว้ซึ่ง DNA ของความหรูหรา ดังนั้นเวลาที่เราทำของในสไตล์ Loft ก็จะไม่ได้ดู Cheap เรายังคงใส่ Taste of luxury ลงไป ในความเป็น Loft ลูกค้าจะได้สัมผัสถึงทั้งความสูง และความกว้าง ในพื้นที่ส่วนกลางทุกชั้นของเรา ซึ่งคงไม่มีดีเวลลอปเปอร์เจ้าไหนที่ให้พื้นที่ส่นกลางเป็น Double Height ทุกห้องแบบเราครับ เมื่อเข้ามาในล้อบบี้ลูกค้าก็จะได้สัมผัสกับความสูงถึง 18 เมตรเทียบเท่าตึก 5 ชั้น work space สระ ห้องออกกำลังกาย ทั้งหมดเป็น Double Height หมดครับ

ขณะเดียวกัน วัสดุหลักในการตกแต่งอาคารก็จะเป็นเกรดเดียวกันกับโครงการ High End ของไรมอน แลนด์ อย่าง 185 ราชดำริ หรือ The River จะแตกต่างก็ตรงที่เพดานในแต่ละห้องจะถูกตกแต่งในสไตล์แบบ เดอะ ลอฟท์ เอกมัย แต่ดีกว่า มีงาน Finishing ฝ้าที่เรียบร้อย ไม่ได้โชว์สายไฟระโยงระยาง แบบห้อง bareshell ซึ่งสไตล์การตกแต่งห้อง ลูกค้าก็สามารถเลือกวัสดุได้ถึง 3 สไตล์ตามที่กล่าวไปแล้วครับ

PH:พูดถึงเรื่องที่จอดรถ ได้ข่าวมาว่าให้ที่จอดรถถึง 100% มีทั้งแบบ Mechanic Parking และวนจอดแบบปกติ แบบนี้ค่าส่วนกลางคิดเท่าไหร่ และมองว่าคนในคอนโดน่าจะนิยมแบบไหนมากกว่ากันครับ?

KB: ที่จอดรถของเราเกือบทั้งหมดเป็นแบบ Automatic Parking จำนวน 204 คัน และมีที่จอดแบบรอบตึกเพียงแค่ 7 คันเท่านั้น ถ้าพูดถึงในแง่ความนิยม ผมเชื่อว่าถ้าลูกบ้านได้ลองใช้แบบ Automatic แล้วก็จะคุ้นชินและก็ไม่อยากที่จะขับรถเพื่อวนจอดให้เสียเวลา กับเสียค่าน้ำมันอีกเลยครับ อีกประการที่สำคัญคือรูปแบบตึกของ เดอะ ลอฟท์ อโศก เป็นแบบที่ค่อนข้าง Slim นั่นหมายความว่าถ้าจะทำที่จอดรถแบบปกติ ก็จะเป็นการยากในการขับรถวนขึ้นไปจอดเป็น 10 ชั้น โดยที่ระยะในการหักพวงมาลัยก็ค่อนข้างแคบ คนที่ขับรถราคาแพง คันใหญ่ๆก็คงไม่อยากที่จะขับรถในที่แคบๆใช่ไหมครับ…ระบบ Automatic Parking ของเราให้ลิฟท์ถึง 3 ตัว ลูกบ้านแค่กดปุ่มแล้วที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของระบบจัดการแบบอัตโนมัติครับ ใช้เวลาน้อยมาก ซึ่งเราก็ไม่ได้บวกเข้าไปในค่าส่วนกลางตรม.ละ 85 บาทแต่อย่างใด เพราะนั้นคือค่าก่อสร้างที่เป็น Cost หลักอยู่แล้ว

PH: แพคเกจราคาขาย และการผ่อนดาวน์ รวมถึงโปรโมชั่น เป็นอย่างไร และดึงดูดผู้ซื้อมากแค่ไหนครับ?

KB: การที่เราเก็บเงินค่าจอง ทำสัญญา และผ่อนดาวน์ที่ค่อนข้างสูง เชื่อได้เลยว่าเราเสียโอกาสในการขายแก่กลุ่มนักเก็งกำไร หรือนักลงทุนระยะสั้นแน่นอน แต่การเก็บเงินผ่อนดาวน์ถึง 25% จะทำให้เรามั่นใจได้ว่า หากในอนาคตเมื่อเศรษฐกิจบังเอิญมีปัญหา กลุ่มลูกค้าของเราก็ยังมีกำลังมากพอที่จะโอน หากเราเก็บเงินดาวน์น้อย ลูกค้าส่วนใหญ่ก็มักจะไม่เห็นค่าของเงินที่เสียไป โดยเลือกที่จะทิ้งดาวน์ เมื่อเป็นเช่นนั้นก็จะเกิดปัญหาหนัก โดยเฉพาะกับโครงการใหญ่ๆ ที่เรามักจะเห็นช่วงเดือนสองเดือน ก่อนโอนเป็นช่วงที่มีนักเก็งกำไรปล่อยของเท่าทุน-ขาดทุนออกมามาก

โครงการ เดอะ ลอฟท์ อโศก เลือกที่จะสกัดนักเก็งกำไรเอาไว้ก่อน ช่วงแรกอาจดูว่าจะเสียเปรียบในเรื่องยอดขาย แต่ในช่วงใกล้โอนก็จะได้เปรียบแน่นอน เราพิสูจน์ให้ทั้งอุตสาหกรรมเห็นแล้วว่า ยอด Reject Transfer ของเรามีต่ำกว่า 1% อีกทั้งการที่เราเน้นคนอยู่จริง จึงทำให้จำนวนห้องรีเซลของเรามีน้อย น้อยจนคนที่ซื้อต่อต้องจำใจซื้อในราคาที่แพง เพราะว่าหาซื้อยากมาก อันที่จริงก็ไม่มีกลยุทธ์ไหนถูกหรือผิด แต่ไรมอน แลนด์ รับได้กับกลยุทธ์ยอดขายไปเรื่อยๆแต่โอนทุกรายครับ ดูอย่าง เดอะ ลอฟท์ เอกมัย ยอดขายไม่วิ่งเลยในช่วงปีแรก แต่พอมาถึงปัจจุบัน ขายไปได้ถึง 95% แล้ว

PH: อยากฝากอะไรไปถึงแฟนคลับของ Raimon Land และผู้ที่ติดตามคุณคิพศาล ในรายการ Raimon Life บ้างไหมครับ?

KB: ครับ ตอนนี้ไรมอน แลนด์ เราเริ่มมีพนักงานใหม่เข้ามาเรื่อยๆ เขาเหล่านั้นเข้ามาเพื่อที่จะสร้างความแตกต่าง และมาตรฐานใหม่ที่ดีขึ้นให้กับองค์กร เมื่อก่อนบริษัทฯอาจจะไปเน้นการโฟกัสที่การก่อสร้าง และการโอน แต่ต่อไปเราก็จะ Focus ไปที่การเปิดตัวโครงการใหม่ให้มากขึ้นในอนาคต รวมถึงการทำการตลาดที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เราพยายามจะมองหา Partner ให้มากขึ้น และเริ่มรุกการตลาดในส่วนของสื่อออนไลน์ โซเชียลมีเดีย ตัวผมเองก็เปิดโอกาสให้สัมภาษณ์มากขึ้น มีรายการ Raimon Life เป็น VDO content แบบตลกๆ ปนสาระความรู้ เพื่อที่จะอธิบายว่าบริษัทฯกำลังทำอะไรอยู่ตอนนี้บ้าง เรามีช่องทางการสื่อสารทั้ง E News และหน้า Fanpage raimonland ซึ่งมีทั้งการอัพเดทสถานะการก่อสร้าง และการร่วมเล่นเกมชิงรางวัลต่างๆ หวังว่าจะถูกใจเหล่าแฟนคลับของไรมอน แลนด์ นะครับ เราพร้อมแล้วที่จะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ในตลาดคอนโดไฮเอนท์อีกครั้งครับ