หลังจาก ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสนับสนุนการมีที่อยู่อาศัยของประชาชน และเป็นการเตรียมการเพื่อรองรับการยกระดับประเทศไทย สู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก (Thailand Vision) ออกมาทั้งหมด 5 มาตรการตามบทความที่เราได้นำเสนอไปแล้ว เคาะแล้ว! แพคเกจกระตุ้นตลาดอสังหาฯ โดยกระทรวงการคลัง

โดยมาตรการแรกอย่าง การลดค่าโอนและค่าจดจำนองเหลือ 0.01% สำหรับอสังหาฯที่มีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 7 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 7 ล้านบาท ต่อสัญญา ทั้งมือ 1 และมือ 2 นับว่าเป็นมาตรการที่น่าจะเห็นผลได้เร็วที่สุดในสายตาเรา เนื่องจากจะช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาฯในกรอบที่กว้างขึ้นกว่าเดิม (ขยายจากเพดานเดิมที่ไม่เกิน 3 ลบ.) ทั้งในฟากของผู้ขายอย่างดีเวลลอปเปอร์ที่ต้องการที่ระบายสต๊อคของสินค้าในกลุ่มตลาดนี้ เพื่อให้มีรายได้มาทดแทนกลุ่มสินค้าในกลุ่มต่ำกว่า 3 ล้านบาท ที่แม้จะมีคนสนใจหาซื้อเยอะ แต่อัตรา Bank Reject ก็เยอะตามกัน จนดีเวลลอปเปอร์หลายๆรายต้องใช้กลไกทางการเงิน มาออกแพคเกจปล่อยกู้เองในสไตล์ Rent to Own โดยมาตรการนี้จะช่วยให้ลดลงมาได้ทันทีหลักแสนบาท จากค่าโอน และค่าจดจำนองที่ออกโปรฯโดยรัฐบาล โดยหากเป็นคอนโดราคา 7 ล้านบาท เดิมต้องเสียค่าใช้จ่ายทั้งค่าโอนและจดจำนอง (กรณีกู้แบงค์) รวม 210,000 บาท ก็จะเหลือแค่ 1,400 บาทเท่านั้น ซึ่งค่าใช้จ่ายที่น้อยลงดังกล่าว แน่นอนว่าดีเวลลอปเปอร์ส่วนใหญ่ก็ย่อมต้องเตรียมงบทำโปรฯในการอัดฉีดเพิ่มเติมให้เช่นกัน และเราก็คงจะได้เห็นการมัดรวมห้องใน Port Folio ของแต่ละรายที่มีราคาปริ่ม 7 ลบ.หรืออยู่ใน Gap ไม่เกิน 8 ล้าน มา Revised ราคา ทำโปรฯเพิ่มเติมเพื่ออัดให้ได้อยู่ใน Range ราคาไม่เกิน 7 ลบ.ครับ เมื่อรวมๆกันแล้ว ก็จะส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้ซื้อทันที เพราะนี่คือโอกาสในการที่จะได้ของถูกในรอบหลายปี เช่นเดียวกับราคาบ้านมือสอง หรือคอนโดรีเซลที่มีราคาประเมินต่ำกว่า 7 ล้านบาท ก็จะมีโอกาสในการขายได้มากกว่าเดิมเยอะมากเลย เพราะเราต้องอย่าลืมว่า ที่ผ่านมาตลาดบ้านมือสอง ที่มีสัดส่วนและมูลค่ามากกว่าบ้านมือหนึ่ง หลายเท่าตัว กลับถูกละเลยทั้งจากคนซื้อ ที่มองว่าไม่อยากจ่ายเงินก้อนในการซื้อเยอะ ทั้งค่าโอน ค่าจดจำนอง ค่าส่วนกลาง ในการซื้อบ้านที่เคยถูกใช้งานมาแล้ว โดยที่แบงค์ก็ปล่อยกู้ได้ไม่เต็มแถมดอกแพงอีก และก็ยังมาโดนซ้ำเติมจากคนขายอย่างนายหน้ายุคใหม่ที่ใส่ใจแต่การไปรับสต็อคห้องมือหนึ่งจากโครงการมาขาย เพราะมันง่ายกว่า ไม่ต้องทำเอกสารเดินเรื่องเยอะ แถมได้ค่าคอมเยอะและเร็วกว่าอีกในหลายๆโครงการครับ เมื่อรวมกับการที่ไม่มีโปรฯใดๆมาอัดฉีดจากรัฐบาล และจำนวนนายหน้ามือสมัครเล่นทั้งไทยและต่างชาติที่เพิ่มเข้ามามากมาย ยิ่งทำให้ตลาดบ้านมือสองอยู่ในช่วงซบเซาอย่างเห็นได้ชัดมาหลายปีมากๆแล้วครับ ทั้งๆที่หลายๆโครงการ หลายๆยูนิตมีราคาที่ถูกมากอย่างเหลือเชื่อจริงๆ แต่ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครสนใจ…ส่วนตัวแล้วผมเชียร์ให้ซื้อคอนโดมือสองสุดลิ่มทิ่มประตูเลยครับ

ทีนี้หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าเอ ตลอด 2 – 3 ปีที่ผ่านมาเนี้ย Supply ส่วนใหญ่ในตลาดมันก็มีแต่ของราคาต่ำกว่า 3 ล้าน หรือไม่ก็เป็นของในระดับ Luxury ที่มีราคาเกินกว่าตรม.ละ 2 แสนบาทไปเลยซะเป็นส่วนใหญ่ โดยมีราคารวมๆก็ 10 ล้านบาทขึ้นไปแล้ว ซึ่งอาจจะไม่ถูกจริต ตรงใจ ตอบงบประมาณของกลุ่มผู้ซื้อหลายคนที่มองหาของในแนว Affordable Luxury คือประมาณว่า มองหาคอนโดที่อยู่ในเซกเมนท์ Luxury ที่มีระดับราคาต่อตรม.ประมาณ 2 แสนบาท แต่ว่าอยากได้ห้องที่มีขนาดเล็กสุดเป็นขนาดเริ่มต้น ซึ่งก็แน่นอนว่าได้ห้องที่เล็กกว่าคนอื่นในโครงการเดียวกัน แต่ก็ยังได้รับคุณภาพชีวิตที่ดีในระดับเดียวกันกับห้องใหญ่ห้องอื่นๆ จากพื้นที่ส่วนกลางที่เข้าไปใช้งานได้เหมือนกัน โดยที่ยังตั้งอยู่บน Prime Area ที่สะดวกต่อการใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายรอบด้านได้ด้วย

ซึ่งแน่นอนว่าก็มีคนอยู่จำนวนไม่น้อยทีเดียวที่มีความต้องการอยู่อาศัยในย่านที่มีความเป็น Lifestyle มากกว่าในย่านเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียดวุ่นวาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งย่านพร้อมพงษ์ แหล่งรวมศูนย์การค้าระดับเวิลด์คลาส ได้แก่ ดิ เอ็มโพเรียม , ดิ เอ็มควอเทียร์ ตลอดจนดิ เอ็มสเฟียร์ รวมถึงแหล่งธุรกิจ โรงเรียน โรงพยาบาลชั้นนำ ที่รองรับไลฟ์สไตล์นานาชาติที่หลากหลาย อีกทั้งยังเป็นสุดยอดทำเลที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ใจกลางเมืองที่ได้รับความนิยมจากคนไทยและชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง และย่านทองหล่อ – เอกมัย ย่านที่มี Flagship Store สุดเก๋มากมาย ทั้งร้านเฟอร์นิเจอร์ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ผับบาร์เลื่องชื่อ และคอมมูนิตี้มอลล์ มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ค่อนข้างหนาแน่น โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ทั้งยังใกล้ Shopping Destination ชั้นนำมากมาย จนหลายๆคนขนานนามว่าที่นี่เป็น Central Millennials District (CMD) แต่การอยู่ในสุดยอด Prime Area ทั้ง 3 ย่านดังกล่าวนั้น หลายๆคนอาจจะมี Mindset ว่าจะต้องใช้เงินมากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไปในการเป็นเจ้าของ ซึ่งก็แน่นอนว่าด้วยราคาดังกล่าวก็ไม่เข้ามาตรการอัดฉีดจากรัฐบาลดังกล่าว แต่อย่าเพิ่งท้อใจไป เพราะในบทความนี้เราพร้อมคัดสรรห้องราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท จากคอนโดดัง พร้อมอยู่ทั่วทั้งย่านพร้อมพงษ์ – ทองหล่อ – เอกมัย มาให้คุณผู้อ่านได้เลือกตัดสินใจซื้อกันครับ และผมก็เชื่อว่าคอนโดที่อยู่ในรายชื่อดังกล่าวก็น่าจะทำโปรฯออกมาดันให้ห้องที่ตกอยู่ใน Range ราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท ขายได้ยิ่งกว่าเดิมครับ เพราะเป็นที่รู้กันว่าสำหรับกลุ่มตลาดคอนโดระดับ Luxury แล้ว ห้องขนาดใหญ่ ราคาแพงมักจะขายดีกว่า ไปไวกว่าห้องขนาดเล็กครับ เรามาดูกันว่ามีห้องแบบ “หางราชสีห์” ที่ไหนบ้างที่อยู่ใน Wishlist ของเรา (แต่ต้องบอกไว้ก่อนนะครับว่ายูนิตและราคาดังกล่าวอาจมีเปลี่ยนแปลงจากปัจจุบันได้ ต้องลองไปสอบถามที่หน้างานอีกทีนะครับ)

ย่านพร้อมพงษ์

Noble State 39 คอนโดพร้อมอยู่ราคาไม่แรง ส่วนกลางระดับ Top Class แห่งเดียวบนจุดศูนย์กลางของทำเล World Class พร้อมพงษ์ แต่งครบเริ่ม 6.9 ลบ.* เพียง 10 ยูนิตเท่านั้น

ที่ตั้งของ Noble State 39 ที่ตั้งอยู่บนซอยสุขุมวิท 39 ซอยที่เป็น  two-way ในช่วงต้นซอย ทำให้สะดวกในการเดินทางไม่ว่าจะเข้าออกถนนสุขุมวิท ที่ห่างเพียง 400 เมตร เดินทางไป Emquartier โดยใช้ซอยพร้อมใจที่เชื่อมระหว่างสุขุมวิท 39 และ 35 รวมทั้งยังสามารถใช้ซอยย่อยอื่น ๆ เชื่อมไปยังทองหล่อ เอกมัย อโศก และถนนเพชรบุรี โดยไม่ต้องผ่านถนนใหญ่ได้ และยังใกล้สถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ เพียง 450 เมตร

โครงการออกแบบพื้นที่ทั้งภายนอกและภายใน ผ่านแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรม Brutalist Architecture ที่แฝงกลิ่นอายความคลาสสิค และคงความร่วมสมัยได้อย่างมีเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยรูปทรงเรขาคณิตอันคมชัด และรายละเอียดที่มีเอกลักษณ์ ออกมาเป็นจังหวะลวดลาย “Vertical Facade” สะท้อนถึงอุดมการณ์ทางความคิดสมัยใหม่ บนพื้นฐานของเสน่ห์แบบดั้งเดิมโดยเฉพาะ Facade ที่ชั้น Facility มีการดีไซน์ให้เป็นรูปตัว V เพื่อเปิดมุมมองวิวทิวทัศน์ได้ชัดเจนมากขึ้นและเน้นเอกลักษณ์อาคารให้ดูน่าสนใจมากขึ้น การันตีด้วย BCI Asia Top 10 developers Award 2021 รางวัลที่โดดเด่นด้านแนวคิดและการออกแบบที่ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน

รวมทั้งการออกแบบพื้นที่ใช้งานภายในห้องพักอาศัยด้วยการแบ่งสัดส่วนระเบียงห้องด้วยพื้นที่วาง CDU แอร์ ให้อยู่ที่หลังผนังส่วนทึบของยูนิต ทำให้ไม่เกะกะการใช้งานที่ระเบียง รวมทั้งไม่บังสายตาจากภายในห้องสู่พื้นที่ระเบียง, ให้ตู้เสื้อผ้าที่มีพื้นที่ใช้งานได้เยอะในห้องทุกแบบ, รวมทั้งเน้นการใช้งานแบบ Flow & Fluid ด้วย Sliding Door 2 บานสำหรับห้อง 1 ห้องนอน มอบมิติการอยู่อาศัยที่แตกต่าง

ห้องเริ่มต้นของที่นี่จะเป็น 1 Bedroom S ขนาด 29.81 Sq.m.  ห้องทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส แบ่งพื้นที่ใช้งานเป็น 2 ส่วนซ้ายขวา คือพื้นที่ครัวและ living area อีกด้านคือห้องนอนและห้องน้ำ โดยโดดเด่นที่ ได้ห้องน้ำแบบ double access และประตูบานเลื่อนเข้าห้องนอน 2 บาน แยกระเบียงที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอน มีที่ชั้น 12-35 ชั้นละ 5 ยูนิต ได้วิวทิศใต้

โดยห้องโปรโมชันที่อยู่ใน Range ราคาไม่เกิน 7 ล้านก็จะมีตัวเลือกได้ทั้งห้องแบบด้านบน และ1 Bedroom M ขนาด 34.74 Sq.m. ห้องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า แบ่งพื้นที่ใช้งานเป็น 2 ส่วนซ้ายขวา คือพื้นที่ครัวและ living area อีกด้านคือห้องนอนและห้องน้ำ โดยโดดเด่นที่ ได้ห้องน้ำแบบ double access และประตูบานเลื่อนเข้าห้องนอน 2 บาน แยกระเบียงที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอน มีที่ชั้น 11-35 ชั้นละ 4-5 ยูนิต ได้วิวทิศเหนือ

อ่านรีวิวกันอีกทีได้ที่นี่เลย https://propholic.com/prop-verdict/noble-state-39-3

‘SCOPE Promsri’ คอนโดรุ่มรวยรสนิยม ที่เป็น First in Class สำหรับ Young International Premium

ราคาเริ่มต้นสำหรับห้องแบบ Partly – Furnished 6.6 ลบ.*

“SCOPE Promsri ไม่ได้เป็นคอนโดเพียงแห่งเดียวที่ใช้อยู่เองของกลุ่มผู้ซื้อคอนโดหรูทั่วไปในกรุงเทพฯ แต่เป็นคอนโดที่พร้อมจะสร้างผลตอบแทนจากการปล่อยเช่ากลุ่ม Expat ชาวญี่ปุ่นได้ไม่ยาก ไม่วุ่นวายในการ Customized อะไรเพิ่ม ในขณะเดียวกันก็น่าจะเป็นคอนโดหรูแห่งแรกของกลุ่ม Young Affluent ผู้ฉลาดเลือกที่ต้องการมอบรางวัลให้กับตัวเอง และมองหาเพื่อนบ้านที่มีรสนิยมและไลฟ์สไตล์ในแบบเดียวกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ” นี่คือคำตอบแบบสรุปรวบรัดของผมหากถามว่าคนที่ซื้อที่นี่ควรจะเป็นคนสไตล์ไหน และมีทัศนคติในการใช้ชีวิตอย่างไร

หากดูโดยเผินๆในสายตาคนทั่วไปแล้วอาจจะคิดว่าที่นี่เป็น Luxury Lowrise Condo ที่เน้น Package ราคาเป็นหลักเพื่อเข้าถึงตลาด Luxury แบบฐานกว้างสไตล์ Masstige Product ด้วยการทำแต่ห้องขนาด 1 Bed Compact ที่ราคารวมแม้ต่อตรม.จะสองแสนกว่าบาท แต่เมื่อทำออกมาเป็น 4 Type 4 ขนาดในเลย์เอาท์ใกล้เคียงกันอย่าง 1 Bed M 28 ตรม., L 30 ตรม., XL 32 ตรม. และ XXL 34 ตรม. ก็มีราคาต่อห้องเริ่มต้นอยู่ใน Range เพียงแค่ 6 – 9 ล้านนิดๆเท่านั้น* (กรุณาเช็คราคาและห้องที่ยังเหลือขายอยู่อีกครั้งที่โครงการนะครับ)

ห้องทุกห้องที่ SCOPE Promsri มาพร้อมกับวัสดุอุปกรณ์เครื่องใช้คุณภาพ International Premium ตามมาตรฐานของสโคป เช่น ชุดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวจาก MÍELE แบรนด์ชั้นนำจากเยอรมนี ทั้ง Built-in Combi Oven Microwave เตาไฟฟ้าระบบ Induction และ เครื่องดูดควัน ตู้เย็น Built-in แบรนด์ Liebherr อีกทั้งสุขภัณฑ์ Wall-hung Washlet จาก Kohler รวมถึงกระจก Reflective Glass ติด Acoustic Film และม่าน Motorised Blackout Blind

ทางด้านของคุณภาพ ‘SCOPE Promsri’ ได้คำนึงถึง ความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยเป็นอันดับแรก โดยติดตั้ง Sprinkler ในทุกห้องพักซึ่งไม่ได้อยู่ในข้อบังคับของของอาคารชุดพักอาศัย 8 ชั้น แต่ ‘SCOPE Promsri’ ได้ให้ส่วนนี้มาเพราะความปลอดภัยคือรากฐานของการอยู่อาศัยที่ดี เช่นเดียวกับงานดีไซน์รูปลักษณ์ภายนอกของโครงการ ซึ่งไม่เพียงเพื่อความสวยงามแต่ให้ความคงทนและดูแลรักษาได้ง่าย ด้วยกระจกพิเศษแบบ Reflective Glass Acoustic Film เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ผู้พักอาศัย และลดความร้อนจากภายนอกช่วยประหยัดพลังงาน และ Acoustic Film นั้นสามารถลดเสียงจากภายนอกได้เพิ่มเติมได้อีก 30% เพื่อความเงียบสนิท และยังติดตั้ง Motorised Blackout Blind ที่ควบคุมด้วยรีโมทคอนโทรล ทำให้มืดสนิทเต็มที่

ราคาค่าเช่าแนะนำรวม Services จาก ACQUA Hospitality and Beyond ต้องบอกว่าแวบแรกแอบตกใจเพราะราคาได้สูงมากจริงๆ Yield 6% กว่าๆ 35,500 – 43,500 บาทต่อเดือน แต่ต้องบอกว่าราคานี้คือต้องหักค่าสารพัด Services ออกไปอีกประมาณเดือนละ 9,000 บาทครับ แต่ก็ได้เรตดีอยู่ดีล่ะครับ เพราะจากข้อมูลพบว่าบริเวณนี้ยังไม่มีห้องเพื่อคนญี่ปุ่นอายุน้อยที่มีงบประมาณเช่าเดือนละ 30,000-35,000 บาท ซึ่งผู้เช่ากลุ่มนี้มักจะจำเป็นต้องไปเช่าห้องในบริเวณที่ไกลออกไป หรือต้องจำใจเช่าห้องสภาพไม่ดีเท่าไหร่เพื่ออยู่ในทำเลที่ดีขึ้น ตรงนี้เองที่ห้องขนาด 34 ตารางเมตรที่ ‘SCOPE Promsri’ เข้ามาตอบ demand ได้พอดีเพราะเป็น โครงการไฮเอนด์ที่ห้องพักเพียบพร้อม ใกล้ทั้ง Fuji UFM กับ Tops Fine Food เลี้ยงสัตว์ได้ มีอ่างอาบน้ำสำหรับห้อง Type ใหญ่สุดที่หันไปหน้าโครงการถนนพร้อมศรี ได้พื้นที่ส่วนกลางเยอะ (Gym ค่อนข้างใหญ่เลยครับ) รวมถึงออนเซ็นถึง 2 ห้องด้วยเช่นกัน

อ่านรีวิวกันอีกทีได้ที่นี่เลย https://shorturl.at/HJOW8

Supalai Oriental Sukhumvit 39 คอนโดที่เปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์ของอารยธรรมตะวันออก สอดคล้องหลัก ฮวงจุ้ย พร้อมที่จอดรถ 100% หาไม่ได้อีกแล้วบนสุขุมวิท 39 ราคาเริ่มต้น 5.2 ลบ.*

แม้ที่นี่อาจจะไม่ใช่คอนโดในเซกเมนท์ Luxury ที่มีระดับราคาเกินกว่าตรม.ละ 200,000 บาท แต่ก็นับว่าอยู่ในระดับไฮเอนด์ด้วยราคาเฉลี่ยต่อตรม.ที่แสนกลางๆ โดยที่ห้องส่วนใหญ่ก็เป็นห้องทีมีขนาดใหญ่ในแบบ 2 ห้องนอนขึ้นไปเยอะมากเช่นกัน  (1 ห้องนอนก็มีขนาดใหญ่กว่าที่อื่นเช่นกันกับขนาด 39-57.5 ตร.ม.) เราจึงเห็นยูนิตราคาเกิน 10 ล้านบาทค่อนข้างเยอะสำหรับโครงการนี้ เราก็มีคนที่มองหาห้อง 2 นอนใหญ่จำนวนไม่น้อยเลยที่มาตกล่องปล่องชิ้นกับที่นี่ เพราะแพ้ทางกับความ Competitive ของราคา และอัตราค่าเช่า

โครงการตั้งอยู่ในย่านสุขุมวิท 39 แต่สามารถเข้าออกจากถนนหลักได้ 2 ทาง คือ ฝั่งถนนเพชรบุรี (ผ่านซอยเพชรบุรี 38/1) และฝั่งถนนสุขุมวิท (ผ่านซอยสุขุมวิท 39) เลือกเส้นทางเพื่อเชื่อมต่อถนนสายธุรกิจได้หลายสาย อาทิ สุขุมวิท อโศก ทองหล่อ และ เพชรบุรี และสามารถเลือกเดินทางได้หลากหลาย เช่น MRT(สถานีเพชรบุรี), BTS (สถานีพร้อมพงษ์), Airport rail link (สถานีมักกะสัน) และ เรือด่วน (ท่าเรือด่วนอิตัลไทยทาวเวอร์) ทั้งนี้การมองหาคอนโดใหม่ในย่านสุขุมวิทตอนกลางที่มอบที่จอดรถสูงถึง 100% ดูจะเป็นไปได้ยากในยุคปัจจุบัน แต่ศุภาลัย โอเรียนทัล สุขุมวิท 39 ก็มีที่จอดรถถึง 100% ของจำนวนยูนิต (ไม่นับซ้อนคัน) เป็นอาคารสูง 9 ชั้น 1 อาคาร ถือว่าเป็นสัดส่วนจำนวนที่จอดรถมากกว่าค่าเฉลี่ยคอนโดในบริเวณใกล้เคียงกัน เป็นคอนโดเพียงแห่งเดียวบนสุขุมวิทที่ให้ที่จอดรถรวมถึง 1,046 คัน พร้อมสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV charger station) จำนวน 2 ช่อง

โดยคอนโดปกติทั่วไป Layout ห้องก็มักไม่แตกต่างกันมากนัก 1 Type 1 Layout แต่ที่ ศุภาลัย โอเรียนทัล สุขุมวิท 39 แต่ละอาคารก็มีห้องที่เป็นเฉพาะของแต่ละอาคาร ทำให้ตอบทุกความต้องการของทุกกลุ่มคนในย่านแบบห้องภายในโครงการมีให้เลือกหลากหลาย และมีการออกแบบเพื่อรองรับทุกความต้องการ มีพื้นที่ใช้สอยที่แตกต่าง ตั้งแต่แบบ 1- 4 ห้องนอน และขนาดพื้นที่ 39–355 ตร.ม. รองรับผู้อยู่อาศัยที่หลากหลาย และยังมีห้องพักพร้อมสวนส่วนตัว (Private garden) ที่จะให้คุณมีสวนส่วนตัวเพื่อรังสรรค์กิจกรรมยามว่างในแบบ Outdoor ได้อย่างเต็มที่ โดยห้องขนาดเล็กแบบ 1 Bedroom – 2Bedroom ขนาด 39 – 100.5 ตร.ม. จะอยู่ที่ Tower A และ B คือ อาคารด้านหน้าโครงการ แปลนอาคารและแปลนห้องของทั้งสองตึกกลับด้านกันแบบซ้ายขวา ทั้ง 2 Tower

แปลนห้องขนาดเริ่มต้น 39 ตรม. ที่มีราคาเริ่ม 5.2 ลบ.* ได้ครัวปิดติดระเบียง โดยที่ส่วน Living อยู่หน้าห้อง และวางผังเป็น Interlock กับห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว จึงทำให้ห้องนี้เหมาะกับคนที่อยู่แบบ Private มีโลกส่วนตัวสูง

หรือหากใครที่อยู่กัน 2 คนหรือมีเพื่อนมาเยี่ยมห้องบ้าง ก็น่าจะลองมองเป็น 1 ห้องนอนขนาดประมาณ 47 – 49 ตรม. ซึ่งก็ยังได้ราคาไม่เกิน 7 ล้านบาทเหมือนกัน โดย Layout ของ 1 Bedroom ขนาด 47 ตร.ม. ถือว่าเป็นห้อง 1 นอน ที่มีขนาดใหญ่มากหากเทียบกับคอนโดเปิดใหม่แห่งอื่นๆ โดยบางโครงการห้องขนาดนี้ก็จะได้เป็น 2 ห้องนอนด้วยซ้ำ ทำให้ผู้อยู่อาศัยมีพื้นที่ในการใช้ชีวิตมากขึ้น รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน โดยห้องที่อยู่ในอาคาร A, B จะมีเพดานสูง 2.55 ม. ส่วนห้องที่อยู่ในอาคาร C, D เพดานสูง 2.8 ม. พร้อมดร็อปฝ้าในห้องให้ ในส่วนห้องนอนปูพื้นด้วย Engineered wood และส่วนห้องนั่งเล่นกับครัวปูด้วยกระเบื้องขนาด 80 x 80 cm

อ่านรีวิวกันอีกทีได้ที่นี่เลย https://propholic.com/prop-verdict/supalai-oriental-sukhumvit-39-2/

และสำหรับห้องรีเซลในย่านพร้อมพงษ์ก็มีหลายๆโครงการที่น่าสนใจมาก ดังต่อไปนี้ครับ คุณผู้อ่านสามารถไปหาได้จากช่องทางออนไลน์ หรือสอบถามนายหน้าที่รู้จักได้เลยครับ H Sukhumvit 43 เริ่มประมาณ 6.5 ลบ.*/ The Lumpini 24 เริ่มประมาณ 4.9 ลบ.* /Park Origin Phrom Phong เริ่มประมาณ 4.7 ลบ.* /และ Noble Refine เริ่มประมาณ 5.5 ลบ.*

ที่มาภาพ The Lumpini 24 จาก A49

ย่านทองหล่อ

ดีที่สุดในทุกรายละเอียด CHALERMNIT ART DE MAISON เงียบสงบเป็นส่วนตัว เหมือนยกญี่ปุ่นมาไว้ใจกลางทองหล่อ พร้อมส่วนกลางใต้ดินสุดอลังการ! ราคาเริ่มต้น 6.9 ลบ.*

ทำเลทองหล่อล้วนเป็นย่านที่มีสีสันของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอันหรูหรา ราคาแพง ดังนั้นทุกโครงการคอนโดในย่านนี้จึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโทย์กลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง เมื่อมีโครงการมากขึ้น สิ่งที่ตามมาก็คืออัตลักษณ์ของโครงการที่ดูคล้ายกันไปหมด กล่าวคือหากไม่เน้นดีไซน์อันโฉบเฉี่ยวตึกเพรียวบางกระจกเยอะๆ ก็จะเป็นในสไตล์ Timeless หรือ Modern Classic โดยที่มีฟังก์ชั่นภายในโครงการที่เอาใจกลุ่มผู้พักอาศัยชาวญี่ปุ่น อันเป็นตลาดเช่าหลักของย่านนี้ แต่ Chalermnit Art De Maison นั้นเลือกที่จะนำเสนอด้วยอัตลักษณ์อันแตกต่างจากโครงการอื่นมากถึง 4 ประการ นั่นคือ

1. การออกแบบให้ทุกอณูของโครงการมีความเป็น Luxurious Modern Japanese ทั้งภายนอก ภายใน รวมถึงการก่อสร้าง ที่มาจากทีมงานญี่ปุ่นเป็นหลัก

2. การเลือกใช้งานศิลปะในการเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการ เพื่อให้เกิดคุณค่าทางสุนทรียศาสตร์ ในหมู่กลุ่มศิลปะนิยมที่มีกำลังซื้อสูง

3. การออกแบบเลย์เอ้าท์ห้องให้มีความหลากหลาย ยืดหยุ่น ชนิดที่ว่าคนที่ซื้อห้องไหนก็ต้องมีเหตุผลเฉพาะตัวในการซื้อห้องนั้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลในเรื่องความเป็นส่วนตัวก็เลือกห้องที่มี Private Lift, เหตุผลในเรื่องของความใกล้ชิดธรรมชาติก็เลือกห้องชั้น 1, เหตุผลในการเป็นครอบครัวขยายก็เลือกห้อง Duplex และเหตุผลในเรื่องวิวที่เปิดโล่งก้เลือกห้อง 2 นอนหัวมุม

และ 4. การเป็น Luxury Condo เพียงหนึ่งเดียวในสุขุมวิท 53 ย่าน Residential Area ที่เงียบสงบ แต่สะดวกสบายที่สุดในย่านทองหล่อฝั่งเลขคี่ ที่ไม่สามารถหาที่ดินในการพัฒนาโครงการรูปแบบนี้ได้อีกแล้ว

สิ่งที่ผมชอบมากและน่าจะถูกใจใครหลายคนก็คือพื้นที่ส่วนกลางที่เลือกจัดวางอยู่ในชั้นใต้ดินลึกลงไป 12 เมตรจากผิวดินแปลกและแหวกแนวจากที่อื่น ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร มีทั้ง บ่อแช่ออนเซน แยกชายหญิง ,สระว่ายน้ำในร่มสวยๆ รวมทั้งห้องฟิตเนสออกกำลังกาย แบรนด์ Techno Gym ที่ผมว่าบรรยากาศดูคล้ายกับ Onsen Hotel หรูๆที่เราคุ้นเคยกันดีที่ญี่ปุ่นเลยครับ และในแง่ของการดูแลรักษา การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางใต้ดินแบบนี้ค่อนข้างทำได้ง่ายกว่า เพราะไม่ต้องกังวลกับสภาพอากาศฝนตก แดดออก อันจะนำมาซึ่งปัญหาในการ Maintenance ทำความสะอาด ความทนทานของอุปกรณ์ที่มากกว่าในระยะยาว รวมถึงการเลือกใช้ลิฟท์จอดรถแบรนด์ IHI จากญี่ปุ่นที่ว่ากันว่าดีที่สุดของตลาดในเรื่องของประสิทธิภาพการทำงาน ช่องจอดที่กว้างกว่า และทีมบำรุงรักษา นอกจากนี้ก็ยังช่วยให้โครงการมีพื้นที่ Open Space เป็น Welcome Courtyard อยู่บริเวณด้านหน้า กึ่งกลางของทั้งสองอาคาร ที่จะช่วยสร้างความรื่นรมย์ในการพักอาศัย มากกว่าการจัดเป็นอาคารพื้นที่ส่วนกลาง และจอดรถแบบโครงการ Low Rise คอนโดแห่งอื่นๆครับ นี่คือสิ่งที่ต้องชมทีมผู้พัฒนาและน่าจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ๆให้กับตลาดคอนโด Luxury เมืองไทยได้มากพอควรเลยครับ ว่าทำไมการพัฒนาคอนโด Low Rise ส่วนใหญ่มักจะต้องเลือกระหว่าง การมีพื้นที่จอดรถเยอะๆ การจัดวางส่วนกลางบน Rooftop หรือส่วนกลาง On Ground เพียงอย่างเดียว เลือกหมดไม่ได้

ที่นี่มีห้อง 3 Type หลัก คือ 1 Bedroom, 2 Bedroom และ Duplex แต่ในแต่ละ Type มีขนาดห้อง และ Layout ห้องที่แตกต่างกันในแต่ละอาคาร ตามแต่ละตำแหน่ง และแม้แต่ในแต่ละชั้นก็มีความแตกต่างกัน รวมทั้งรายละเอียดภายในห้องทั้ง 122 units  ก็มีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ต่างกัน อาทิ 1 Bedroom แบบไซส์ใหญ่ มีระเบียงแบบ Juliet Balcony เป็นต้น ทำให้ทุกห้องเป็นเหมือนศิลปะ master piece ที่มีเพียงหนึ่งเดียวเฉพาะคุณ โดยห้องแบบ 1 Bedroom จะมีขนาด 33.4-55.0 Sq.m. มีทั้งหมด 85 units อยู่ที่อาคาร A และอาคาร B อย่างละเท่า ๆ กัน

อ่านรีวิวกันอีกทีได้ที่นี่เลย https://propholic.com/prop-verdict/chalermnit-art-de-maison/

Ideo Q Sukhumvit 36 คอนโดสูงดีไซน์สุดล้ำ ห้องหน้ากว้าง วิวสวย พร้อมฟังก์ชั่นโดนใจคนญี่ปุ่นบนย่านทองหล่อ ราคาเริ่มต้น 5.99 ลบ.*

ที่นี่เป็นคอนโดสูงที่โดดเด่นที่สุดในซอยสุขุมวิท 36 และทองหล่อฝั่งเลขคู่ ทั้ง ๆ ที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 36 ไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ แต่ก็ยังมี Exposure ที่โดดเด่นสะดุดตามากกว่าคอนโดสูงริมถนนใหญ่หลาย ๆ โครงการในย่านนี้อีกด้วยซ้ำ เนื่องจากมีการวางกรอบของงานดีไซน์ให้เป็น Futuristic Design โดยมีเป้าหมายให้เป็น Double Iconic Building With Skybridge หนึ่งเดียวบนย่านทองหล่อ ดังนั้นคอนเซ็ปต์ของอาคารจึงออกมาเป็น Ultra – Modern Architecture ที่ผสานองค์ประกอบของ Organic Design และ Black Bionic ทำให้เส้นสายของอาคารมีเส้นโค้งงอแบบไดนามิกสะท้อนให้เห็นถึงไลฟ์สไตล์ที่กระฉับกระเฉง ควบคู่ไปกับความลุ่มลึกที่เงียบสงบของสีดำ ทุกยูนิตสามารถมองเห็นวิว Bangkok Skyline ได้อย่างไร้สิ่งกีดขวาง แตกต่างจากอาคารโดยรอบ มีฟังก์ชั่นพื้นที่ส่วนกลางที่เอาใจกลุ่ม Expat ชาวญี่ปุ่นหลาย ๆ อย่าง ทั้ง Black Onsen Sky Pool, Virtual Fitness, Golf Simulator ที่ดึงนำจุดเด่นของวิวเปิดโล่งโดยรอบโครงการมาใช้กับการออกแบบทุกพื้นที่ส่วนกลาง

ที่นี่มีราคาขายที่ค่อนข้าง Competitive กว่าโครงการคอนโดสูงในย่านทองหล่อ และบริเวณริมถนนใหญ่ช่วงสุขุมวิท 36 – 38 ทั้งหมด คือมีราคาขายเฉลี่ยที่ตรม.ละ 190K โดยตอนนี้มีราคาโปรโมชั่นที่ยากจะปฏิเสธ คือ ราคาเริ่มต้น 5.99 ลบ.* สำหรับห้อง 1 นอน ขนาด 33.98 ตรม. หรือประมาณตรม.ละ 176,280 บาท เท่านั้น ซึ่งนับว่าเป็นราคาขายที่ Competitive มากที่สุดสำหรับคอนโด High Rise ในระดับ Luxury ที่เน้นงานดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ โดยโครงการอยู่ห่างเพียง 450 เมตร* จาก BTS ทองหล่อ เพียง 1 สถานีถึง The Emporium and EmQuartier (M District) และเพียงแค่ 10 นาที* ก็สามารถเดินทางถึง Siam Paragon

โดยห้องแบบ 1 Bedroom 34 Sq.m. จะเป็นห้องsizeเล็กสุดของโครงการฯ  แบ่งพื้นที่ส่วนห้องนอนและห้อง living อย่างละครึ่งซ้ายขวา เลย์เอาท์ห้องมีการเพิ่มมิติในการอยู่อาศัยได้ดีกว่าห้อง 1 ห้องนอนปกติ หาแบบนี้ในย่านทองหล่อได้แค่ที่นี่ เพราะมีการเล่นเสตปของห้องที่ในส่วนของ Living และ Bedroom มีการ Drop Step บันไดลงไป ทำให้มีการแบ่งพื้นที่ชัดเจนมากยิ่ง รู้สึกไม่อึดอัด

อ่านรีวิวกันอีกทีได้ที่นี่เลย https://propholic.com/prop-verdict/ideo-q-sukhumvit-36/

ส่วนห้องรีเซลในย่านทองหล่อนี้ค่อนข้าง Surprise มากในสายตาผมครับ ใครจะเชื่อว่าเรายังสามารถหาห้องในคอนโด High Rise ที่มีราคาแค่ 4 ลบ.ได้ในย่านทองหล่อครับ เท่าที่ผมเช็คดูคือมีหลายห้องมากๆ ตามโครงการเหล่านี้เลย Noble Remix เริ่มประมาณ 5.5 ลบ.*/ Ideo Morph Sukhumvit 38 เริ่มประมาณ 4.5 ลบ.*/ และ Rhythm Sukhumvit 36 – 38 เริ่มประมาณ 4 ลบ.*

ที่มาภาพ Ideo Morph 38 และ ASHTON Sukhumvit 38 จาก www.archdaily.com

ย่านเอกมัย

RHYTHM เอกมัย เอสเตท คอนโดสูงที่ถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกเหมือนอยู่ได้อยู่บ้านบนทำเลเอกมัย 1 ห้องนอน ทุกชั้นราคาเดียว 5.99 ล้าน* (ปกติ 7.59 ล้าน)

หากงบประมาณไม่ใช่ข้อจำกัดของผู้ที่มองหาคอนโดใจกลางเมือง แน่นอนว่าร้อยทั้งร้อยย่อมต้องการที่จะอยู่ในห้องขนาดใหญ่ระดับ 2-3 ห้องนอน มากกว่าอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก เพราะ เพราะคนเรานั้นย่อมต้องการ Space เพื่อให้ได้ใช้เวลาอันเป็นส่วนตัวในการทำอะไรก็ตามที่ตัวเองชอบ ในแต่ละช่วงเวลา เช่นเดียวกับ Space เพื่อเอาไว้เก็บของใช้ เสื้อผ้า ฯลฯ ซึ่งข้อจำกัดเหล่านี้ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยทีเดียวที่ยอม trade off กับเวลาในการเดินทางเพื่อไปซื้อโครงการแนวราบในทำเลที่อยู่ห่างออกไปจากใจกลางเมือง โดยที่ยังได้ Benefit เพิ่มเติมในเรื่องของ Peace of Mind ในการอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติจากพื้นที่สวนภายในบ้านด้วยเช่นกัน

อยู่คอนโดแม้ว่าจะกว้างขวางขนาดไหนก็ไม่รู้สึกเป็นส่วนตัว และร่มรื่นเหมือนอยู่บ้าน … ข้อจำกัดนี้ ถูกพลิกกลับมาเป็นโจทย์ในการพัฒนาคอนโดโครงการสูงพร้อมอยู่ตัวใหม่ล่าสุดอย่าง RHYTHM เอกมัย เอสเตท ให้ออกมาภายใต้แนวคิด… Feel Like Home  เพื่อให้ที่นีเป็นโครงการที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกสงบ อบอุ่น ร่มรื่น และเป็นส่วนตัวเหมือนได้อยู่บ้าน แม้ในปัจจุบันจะมีคอนโดแห่งใหม่ถูกพัฒนาขึ้นมาพอสมควรในย่านนี้ แต่ส่วนใหญ่แล้วก็ยังไม่สามารถสร้างบรรยากาศให้ก้าวผ่านคำว่าอยู่คอนโดไปได้ ด้วยข้อจำกัดในเรื่องของขนาดพื้นที่ส่วนกลาง พื้นที่สวนตามธรรมชาติ และการออกแบบเลย์เอาท์ห้อง ที่ทำให้คนที่อยู่ในคอนโดย่านนี้จำนวนไม่น้อยเลยรู้สึกว่าการอยู่คอนโดแม้ว่าจะห้องกว้างขวางขนาดไหนก็ไม่รู้สึกเป็นส่วนตัว และร่มรื่นเหมือนอยู่บ้าน ข้อจำกัดนี้ ถูกพลิกกลับมาเป็นโจทย์ในการพัฒนาคอนโดโครงการสูงพร้อมอยู่ตัวใหม่ล่าสุดอย่าง RHYTHM เอกมัย เอสเตท ให้ออกมาภายใต้แนวคิด… Feel Like Home เพื่อให้ที่นี่เป็นโครงการที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกสงบ อบอุ่น ร่มรื่น และเป็นส่วนตัวเหมือนได้อยู่บ้าน บนทำเลที่คึกคักที่สุดของเอกมัย

RHYTHM เอกมัย เอสเตท ดีไซน์พื้นที่ในยูนิตที่อยู่อาศัยให้ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยรูปแบบห้องที่หลากหลาย ตัวอาคารเป็นที่พักอาศัยสูง 32 ชั้น จำนวนห้องชุดทั้งสิ้น 303 ยูนิต ประกอบด้วยห้องชุดแบบ 1) ห้องชุด 1 ห้องนอน ขนาด 35.00 ตารางเมตร 2) ห้องชุด 1 ห้องนอน (แบบพิเศษ) ขนาด 39.50-40.00 ตารางเมตร 3) ห้องชุด 2 ห้องนอน ขนาด 74.50 – 86.50 ตารางเมตร 4) ห้องชุด 2 ห้องนอน (Duplex) ขนาด 64.00-129.50 ตารางเมตร 5) ห้องสกายวิลล่า ขนาด 109.00-121.00 ตารางเมตร 6) ห้องเพนท์เฮ้าส์ ขนาด 100.00-177.00 ตารางเมตร โดยที่นี่มีห้อง 1 bedและ 1 bed plus รวมกันเท่ากับุ 63% , 2 bed 30% , Duplex และ Sky Villa รวมกัน 6% พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในชั้น 1-7 ชั้น 31-32 และชั้น Rooftop

ที่นี่ห้องใหญ่ได้รับการตอบรับที่ดีมาก ถึงขนาดที่เค้าต้องทำห้องแบบ combine เพิ่มขึ้นมาเลยครับ ซึ่งก้แน่นอนว่าห้องขนาด 1 ห้องนอนเลยถูกดัมพ์ราคาลงมาสุดๆ เพื่อให้ตรงกับงบประมาณของกลุ่มลูกค้าที่มองหาห้องแบบ 1 นอนไว้อยู่คนเดียว โดยตอนนี้โครงการมีโปรฯเด็ดในแบบแอบๆขายอยู่ คือ 1 ห้องนอน ทุกชั้นราคาเดียว 5.99 ล้าน* (ปกติ 7.59 ล้าน) ถูกแบบเหลือเชื่อสุดๆไปเลยครับ

อ่านรีวิวได้ที่นี่ครับ https://shorturl.at/cmVY6

“The FINE Bangkok ทองหล่อ-เอกมัย” คอนโดที่เรียบง่าย อบอุ่นสไตล์ญี่ปุ่น แต่หรูหราโดดเด่นที่สุดในเอกมัยเหนือ เริ่ม 5.99 ลบ*

The FINE Bangkok Thonglor – Ekamai เป็นโครงการคอนโด High Rise ระดับ Luxury เพียงหนึ่งเดียวที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่บนทำเลเอกมัยเหนือ เป็นความร่วมมือร่วมทุนกันพัฒนาระหว่าง 2 บริษัทนักพัฒนาที่มีประสบการณ์ยาวนานจากญี่ปุ่นทั้งSANKYO HOME (THAILAND) และ KEIHAN REAL ESTATE

The FINE Bangkok Thonglor – Ekamai ถูกพัฒนาบนพื้นที่ทั้งหมด 1-1-05  ไร่ เป็นคอนโด High rise สูง 31 ชั้น ห้องพักอาศัย 220 ยูนิต ที่ถูกออกแบบทั้งภายนอก ภายในและ Landscape โดย A49 (Architects 49 Co.,Ltd.) และ IA49 IA49 (Interior Architects 49 Co.,Ltd.) ผ่านงานออกแบบที่หรูหรา สอดคล้องกับ lifestyle และให้ความสำคัญในทุกรายละเอียด “Luxury in everything Luxury in every detail” โดดเด่นแตกต่างจากคอนโดอื่น ๆ ผ่าน Facilities ที่เปิดโล่ง กว้างใหญ่ ไม่อึดอัด ใช้งานได้เต็มพื้นที่ แบ่งเป็น 4 โซน ตามความชอบของการใช้งาน

ห้องเริ่มต้นมีขนาดที่ Compact แต่ใช้งานได้จริงทุกพื้นที่ โดยมีทั้ง 1 bedroom ขนาด 34.50 – 35.00 sq.m. 2 bedroom ขนาด 50 – 56.5 sq.m. และ penthouse ขนาด 79.5 – 92 sq.m. ที่คำนึงถึงวิถีชีวิตที่คนญี่ปุ่นคุ้นเคยด้วยฟังก์ชั่นต่าง ๆ เช่น ห้องน้ำ ห้องนอนมีช่องรับแสง ที่เรียกว่า “MA”, มีพื้นที่ Genkan อยู่หน้าห้อง ครัวระบายอากาศดี มีอ่างอาบน้ำตั้งแต่ห้อง 1 – 2 นอน เป็นรูปแบบ Supply ห้องที่ค่อนข้างตอบโจทย์เทรนด์การมองหาที่พักในย่านเอกมัยในยุคปัจจุบันที่คนไทยเองก็มองหาคอนโดไว้พักผ่อนระหว่างวันหลังทำงาน หรือกลับจาก Party ในย่านทองหล่อเอกมัย ส่วนคนญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยก็มองหาคอนโดเช่าที่มีขนาดยูนิตเล็กกว่าเดิมเพื่อประหยัดงบ และการที่โครงการเป็นโครงการที่พัฒนาโดย Developer ชาวญี่ปุ่นเองก็ดูจะได้รับความน่าเชื่อถือและเป็นที่คุ้นเคยสำหรับคนญี่ปุ่นในการปล่อยเช่ามากกว่าโครงการอื่นๆโดยรอบ

ห้อง Type 1A-2M ขนาด 35 ตรม. ที่เปิดต้อนรับด้วย living area ที่มาพร้อมตู้ built-in ขนาดใหญ่ไว้วางรองเท้า เก็บของ เชื่อมต่อกับชั้นวางทีวีแบบติดผนังที่ด้านซ้ายของทางเข้าได้ เหมาะสำหรับพักผ่อน 1-2 คน หรือสำหรับเป็นห้องพักผ่อนระหว่างวัน เปลี่ยนบรรยากาศ เหมาะสำหรับคนที่ชอบห้องขนาดเล็กกลางเมือง แต่ครบทุก function การใช้งาน

โครงการขายแบบ Fully Fitted พร้อมเฟอร์นิเจอร์ Built-in เรียบหรูสไตล์ Luxury Modern Japanese ในพื้นที่ครัว และห้องน้ำ กับแบรนด์ชั้นนำอย่าง STARMARK และ TOTO Thailand ที่ไม่เพียงแต่แบรนด์ชั้นนำ แต่วัสดุที่เลือกใช้ทั้งชุดเฟอร์นิเจอร์ Built-in และพื้น ผนังของห้อง ก็เลือกสรรมาให้อย่างดี

อ่านรีวิวกันได้ที่นี่ครับ https://shorturl.at/acRW5

สำหรับย่านเอกมัยนี้ ต้องบอกว่าคอนโดรีเซลที่มีราคาดีแต่ละห้องคือ ทำเลที่ตั้งดีกว่าโครงการใหม่เกือบทุกโครงการเลยครับ แถมยังได้ห้องขนาดใหญ่กว่าอีก ไม่ว่าจะเป็น Noble Reveal เริ่มประมาณ 5 ลบ.*/ Maru Ekkamai เริ่มประมาณ 2 เริ่มประมาณ 4.5 ลบ.*/ Rhythm Ekkamai เริ่มประมาณ 5.8 ลบ.* / และ The Address Sukhumvit 61 เริ่มประมาณ 5.5 ลบ.*

ภาพ facade ของ RHYTHM Ekkamai

ย้ำอีกครั้ง!:
จะเข้ามาตรการก็ต่อเมื่อเข้า Criteria ครบทั้ง 3 อย่างนะครับ 1.ราคาซื้อขายและ 2.ราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 7 ล้านบาท และ 3.วงเงินจำนองไม่เกิน 7 ล้านบาท

ตกไปอย่างใดอย่างหนึ่งก็ไม่ได้ครับ อย่างห้องผมห้องนี้ก็เข้ามาตรการไม่ได้แม้จะตั้งขายต่ำกว่า 7 ลบ.เพราะราคาประเมินเกิน 7 ลบ.ครับ…แต่ถ้าใครสนใจบอกได้นะครับ มีส่วนลดให้อยากขายครับช่วงนี้

https://www.propholicshop.com/re/44

*หมายเหตุ:

เงื่อนไขเป็นไปตามที่แต่ละบริษัทฯกำหนด และราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

ราคาห้องรีเซลเป็นราคาเฉลี่ยจากราคาตลาดของห้องรีเซลในแต่ละโครงการ