เคาะแล้ว! แพคเกจกระตุ้นตลาดอสังหาฯ โดยกระทรวงการคลัง

เกริก บุณยโยธิน 10 April, 2024 at 09.44 am

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


สืบเนื่องมาจากข้อมูลของกระทรวงการคลังที่รายงานครม.ไปว่าในช่วงไตรมาสสี่ของปีที่ผ่านมา ภาคอสังหาฯติดลบถึง 8.8% ซึ่งปกติแล้วจะเคยบวกอยู่นิดๆหน่อยๆมาตลอด ก็เลยเห็นถึงสัญญาณที่ชัดเจน และก็มีมาตรการในการกระตุ้นอสังหาฯออกมาในวันนี้ที่เพิ่งได้รับการอนุมัติจากครม.ในวันนี้ ประกอบด้วย…” กฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

 

1. ลดค่าโอนและค่าจดจำนองเหลือ 0.01% สำหรับอสังหาฯที่มีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 7 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 7 ล้านบาท ต่อสัญญา(ขยายจากเพดานเดิมที่ไม่เกิน 3 ลบ.) ทั้งบ้านมือหนึ่ง และมือสอง ทั้งนี้ สำหรับผู้ซื้อที่เป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่กฎหมายได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567

 

2. ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างบ้าน (บุคคลธรรมดา) สูงสุดไม่เกิน 1 แสนบาท (ล้านละหมื่นบาท) เมื่อได้ทำสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างบ้านกับผู้รับเหมาทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล และต้องเริ่มก่อสร้างบ้านในหรือหลังวันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ แต่ไม่เกินวันที่ 31 ธ.ค. 68

 

3. สินเชื่อพิเศษเพื่อการมีบ้าน สำหรับผู้มีรายได้น้อยจาก ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (Happy Home และ Happy Life) ความร่วมมือกับ BOI ในการทำโครงการส่งเสริมกิจการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย (บ้าน BOI มูลค่าไม่เกิน 1.5 ลบ.) และ ธนาคารออมสิน ให้เงินกู้ในการทำโครงการส่งเสริมกิจการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยเช่นเดียวกัน และสินเชื่อกู้ซื้อบ้านสูงสุด 7 ล้านบาท สูงสุด 40 ปี ดอกเบี้ยปีแรก 1.95% ปีสอง 2.95% ปีที่สาม 3.95%

 

สำหรับมาตรการอื่นๆที่ผู้ประกอบการหลายๆรายกำลังลุ้นกันว่าจะมีไหม เช่น ส่วนของแนวโน้มการลดดอกเบี้ยเชิงนโยบาย และมาตรการผ่อนปรน LTV ยังต้องรอท่าทีจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพรุ่งนี้อีกทีครับ เช่นเดียวกับ มาตรการผ่อนปรน หลักเกณฑ์สำหรับชาวต่างชาติในการเช่า อสังหาฯ ประกอบด้วย ขยาย Leasehold จาก 30 เป็น 99 ปี และมาตรการ Long Visa สำหรับคนซื้ออสังหาฯ ซึ่งต้องให้ทางกระทรวงยุติธรรม และมหาดไทย ไปหารือกันในภายหลัง

 

สำหรับมาตรการทั้งหมดดังกล่าวนับว่าบางส่วนได้เป็นไปตามข้อเรียกร้องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง สมาคมอสังหาริมทรัพย์ ทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ที่ได้ยื่นมาตรการต่างๆ ในการประชุมร่วมกับรัฐบาลไปเมื่อช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 แต่อีกมาตรการสำคัญในการช่วยลดปัญหาเรื่องต้นทุนที่ดินแพง ที่มีหลายดีเวลลอปเปอร์สนับสนุนมากมาย อย่าง นโยบายจัดสรรที่ดินเพื่อลดขนาดที่ดินขั้นต่ำในการพัฒนาโครงการ บ้านเดี่ยวเริ่ม 35 ตรว. (เดิม 50 ตรว.ขึ้นไป)/ บ้านแฝด เริ่ม 28 ตรว. (เดิม 35 ตรว.ขึ้นไป)/ ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารพาณิชย์ เริ่ม 14 ตรว. (เดิม 16 ตรว.ขึ้นไป) ยังไม่มีความคืบหน้าครับ หลังจากที่หลายฝ่ายเชื่อว่าจะมีข้อสรุปในวันนี้

สำหรับรายละเอียดในแต่ละมาตรการมีรายละเอียดตามข่าวดังนี้

 

*ครม.เคาะแพกเกจอสังหาฯ ผ่าน 5 มาตรการ หวังกระตุ้น GDP โตเพิ่ม 1.7-1.8%

Source – IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Tuesday, April 09, 2024 at 16:02

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 เม.ย. 67)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสนับสนุนการมีที่อยู่อาศัยของประชาชน และเป็นการเตรียมการเพื่อรองรับการยกระดับประเทศไทย สู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก (Thailand Vision)

โดยรายละเอียดของแต่ละมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ มีดังนี้

1. การปรับปรุงมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม สำหรับที่อยู่อาศัย ปี 2567

โดยลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% เหลือ 0.01% และลดค่าจดทะเบียนการจำนอง อสังหาริมทรัพย์ จาก 1% เหลือ 0.01% เฉพาะที่จดทะเบียนโอนในคราวเดียวกัน สำหรับการซื้อขาย อสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ อาคารที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด หรือบ้านแถว หรืออาคารพาณิชย์ หรือที่ดินพร้อมอาคารดังกล่าว หรือห้องชุดที่จดทะเบียนอาคารชุด โดยมีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 7 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 7 ล้านบาทต่อสัญญา โดยไม่รวมถึงกรณีการขายเฉพาะส่วน

ทั้งนี้ สำหรับผู้ซื้อที่เป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่กฎหมายได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาถึงวันที่ 31 ธ.ค.67

2. มาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน

กำหนดให้บุคคลธรรมดา (ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล) หักลดหย่อนค่าจ้างก่อสร้างบ้านให้แก่ผู้รับจ้าง ซึ่งเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการจ่ายค่าจ้างตามสัญญาจ้างตั้งแต่วันนี้ (9 เม.ย.67) ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 68 โดยให้หักลดหย่อนภาษีได้ 1 หมื่นบาทต่อทุกจำนวนค่าก่อสร้าง 1 ล้านบาท ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันแล้วจะหักลดหย่อนได้ไม่เกิน 1 แสนบาท เฉพาะค่าจ้างก่อสร้างบ้านไม่เกิน 1 หลัง ในปีภาษีที่ก่อสร้างบ้านเสร็จ ตามสัญญาจ้างที่ได้กระทำขึ้นและเริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันนี้ (9 เม.ย.67) ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 68 และได้เสียอากรแสตมป์โดยวิธีการชำระอากรเป็นตัวเงินผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

3. โครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home วงเงินโครงการ 20,000 ล้านบาท

โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สนับสนุนสินเชื่อให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด ปลูกสร้างอาคารหรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร และเพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปี วงเงินต่อรายสูงสุด ไม่เกิน 3 ล้านบาท ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 40 ปี โดยประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถยื่นคำขอกู้กับ ธอส. ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 ธ.ค.68 หรือจนกว่า ธอส. ให้สินเชื่อเต็มตามกรอบวงเงินของโครงการ

 

4. โครงการสินเชื่อบ้าน Happy Life วงเงินโครงการ 10,000 ล้านบาท

โดย ธอส. สนับสนุนสินเชื่อให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุด ปลูกสร้างอาคารหรือซื้อที่ดินพร้อม ปลูกสร้างอาคาร เพื่อต่อเติม ขยาย หรือซ่อมแซมอาคาร หรือไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 2.98% ต่อปี วงเงินต่อรายตั้งแต่ 2.5 ล้านบาทขึ้นไป โดยประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถยื่นคำขอกู้กับ ธอส. ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หรือจนกว่า ธอส. ให้สินเชื่อเต็มตามกรอบวงเงินของโครงการ

5. การให้การส่งเสริมกิจการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย (โครงการบ้าน BOI)

คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้ออกประกาศที่ ส. 1/2567 ลงวันที่ 15 มีนาคม 2567 ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ โดยได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นระยะเวลา 3 ปี ในวงเงิน ไม่เกิน 100% ของเงินลงทุน (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) สำหรับการสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข เช่น

1) ที่อยู่อาศัยที่ขอรับการส่งเสริม กรณีอาคารชุดต้องมีพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 24 ตารางเมตร และกรณีบ้านเดี่ยวหรือบ้านแถว ต้องพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 70 ตารางเมตร

2) การก่อสร้างที่อยู่อาศัย ที่ขอรับการส่งเสริมต้องจำหน่ายให้บุคคลธรรมดาเท่านั้น โดยก่อสร้างที่อยู่อาศัย (รวมค่าที่ดิน) ราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท

3) ต้องมีที่อยู่อาศัยตามเงื่อนไขที่กำหนดไม่น้อยกว่า 80% ของที่อยู่อาศัยทั้งโครงการ

4) มีแผนผังและแบบแปลน ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ และได้รับการอนุญาตก่อสร้างอาคารตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

5) ต้องยื่นขอรับการส่งเสริมภายในวันทำการสุดท้ายของปี 2568

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง เปิดเผยว่า การจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากที่ผ่านมา ในช่วงไตรมาส 4/2566 การเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ลดลง 8.8% ถือว่าเป็นสัญญาณของการลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งต่างจากในช่วงปกติที่จะขยายตัวมาโดยตลอด

“เมื่อไตรมาส 4/2566 ภาคอสังหาฯ หดตัว 8.8% จากปกติที่เคยเป็นบวกมาตลอด ดังนั้น จึงเห็นสัญญาณที่ชัดเจน จึงได้มีมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ เพื่อให้ ครม.ได้พิจารณาเห็นชอบในวันนี้” นายกฤษฎา ระบุ

รมช.คลัง กล่าวด้วยว่า นอกเหนือจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวแล้ว ยังมีประเด็นการพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการถือครองที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติ ซึ่งมีความสำคัญ และเกี่ยวข้องกับวิสัยทัศน์ Thailand Vision ในการยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก ที่มีเป้าหมายในการดึงดูดนักลงทุนและผู้มีความเชี่ยวชาญพิเศษที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมแห่งอนาคตให้มาลงทุนในประเทศไทย รวมถึงการปรับกระบวนการทางกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการถือครองทรัพย์สิน

ดังนั้น ครม.จึงได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น ไปดำเนินการพิจารณา ศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินการซึ่งจะได้นำเสนอกลับมาให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

*มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ จะช่วยกระตุ้น GDP ปีนี้อีกราว 1.7-1.8%

ด้านนายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ จะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ทั้งห่วงโซ่อุปทานการผลิต (Supply Chain) ส่งเสริมการลงทุนภายในประเทศ อันจะก่อให้เกิด การจ้างงาน การผลิต รวมถึงอาจก่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งจะส่งผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภาพรวม

โดยกระทรวงการคลังประเมินว่า จะมีผลช่วยกระตุ้น GDP ในปีนี้ให้เพิ่มขึ้นอีกราว 1.7-1.8% ขณะที่การสูญเสียรายได้ จะเป็นในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในส่วนของการจัดเก็บรายได้ค่าธรรมเนียมที่คาดว่าจะลดลงราว 2 พันล้านบาท/เดือน แต่ทั้งนี้ อปท.จะมีรายได้เพิ่มขึ้นในส่วนของภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะ

ด้านนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ธนาคารออมสิน ยังมีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ อีก 2 โครงการ ดังนี้

1) โครงการสินเชื่อบ้านออมสินเพื่อประชาชน วงเงินโครงการ 10,000 ล้านบาท โดยสนับสนุนสินเชื่อสำหรับบุคคลทั่วไป เพื่อซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ห้องชุด หรือปลูกสร้างที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 2.95% ต่อปี โดยปีที่ 1 คิดอัตราดอกเบี้ย 1.95% วงเงินกู้ต่อรายสูงสุด ไม่เกิน 7 ล้านบาท ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 40 ปี พร้อมเงื่อนไขเงินงวดผ่อนชำระต่ำพิเศษ เริ่มต้น 2,500 บาทต่อเดือน โดยสามารถยื่นคำขอกู้กับธนาคารออมสินได้ตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.67 ถึง วันที่ 30 ธ.ค.67

2) โครงการสินเชื่อ D-HOME สำหรับผู้ประกอบการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงินโครงการ 10,000 ล้านบาท โดยสนับสนุนสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการนำไปเป็นเงินลงทุน ได้แก่ ค่าที่ดิน ค่าก่อสร้าง ค่าพัฒนาสาธารณูปโภค หรือเป็นเงินหมุนเวียนในกิจการ อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 3.50% ต่อปี ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 4 ปี ฟรีค่าธรรมเนียม โดยสามารถยื่นคำขอกู้ได้กับธนาคารออมสินตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.67 เป็นต้นไป

โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา คงขุนเทียน

โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา คงขุนเทียน

เกริก บุณยโยธิน

เกริก บุณยโยธิน

ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ

เว็บไซต์

ศุภาลัย พรีเมียร์ สามเสน-ราชวัตร

โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์

นิว เวิร์ส กรุงเทพกรีฑา

ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาต้องบอกว่าย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม...

28 February, 2024

นิว ซี-สแควร์ สวนหลวง สเตชั่น

ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านมาพบกับโครงการคอนโดพร้อมอ...

30 January, 2024

ริธึ่ม เจริญนคร ไอคอนิค

วันนี้จะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับคอนโดมิเนียมสุดฮอตชื่อโ...

29 January, 2024

วิสซ์ดอม คราฟท์ สามย่าน

Whizdom Craftz Samyan คือโครงการที่มอบ 5 องค์ประกอบพ...

4 December, 2023

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง