TELA Thonglor นับว่าเป็น Ultra Luxury Condo แห่งแรกที่ฉายภาพให้คนทั่วไปเห็นว่าทำเลที่ดีที่สุดของย่านทองหล่อก็คือบริเวณทองหล่อซอย 13 ซึ่งนับว่าเป็นใจกลางของย่านไลฟ์สไตล์ยามค่ำคืนที่เป็นมนต์เสน่ห์อันน่าหลงใหลมากที่สุดของย่านนี้ ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทองหล่อและย่านใกล้เคียงล้วนแต่เป็นศูนย์รวมของโครงการที่อยู่อาศัยราคาแพงทุกรูปแบบของชาวกรุงเทพ ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียมสไตล์ Penthouse เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ โรงแรม ทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว แม้กระทั่ง Pool Villa สุดหรู ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อดึงดูดเหล่าคนดัง เซเลปในแวดวงสังคมชั้นสูง ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ให้เข้ามาใช้ชีวิตในแบบที่เชื่อมโลกของการทำงานและปาร์ตี้ไว้ในที่เดียวกัน…สำหรับดีเวลลอปเปอร์ชาวไทยแล้ว การได้พัฒนาโครงการสักแห่งในย่านทองหล่อ ล้วนแล้วแต่เป็นบทพิสูจน์ที่ยอดเยี่ยมถึงการมีตัวตนในฐานะที่เป็นเคยเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาโครงการคอนโดที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้ที่ได้ชื่อว่ามีรสนิยมดีที่สุดของประเทศ แต่ลำพังแค่การสร้างคอนโดในย่านนี้จนเสร็จสมบูรณ์ หรือได้รับการตอบรับที่ดี ก็ไม่ได้เป็นหลักประกันถึงการเข้าไปครองใจกลุ่มผู้ซื้อในตลาด Luxury ได้เสมอไป บางโครงการใช้ Price Leadership Strategy เป็นตัวนำ แค่ตั้งราคาขายให้ถูกลงมากกว่าคู่แข่ง สร้างห้องที่มีขนาดเล็กกว่าตลาด เน้นกลยุทธ์ Payment ต่ำเพื่อล่อนักเก็งกำไร ก็แน่นอนว่าย่อมขายลูกค้าหมู่มากได้ แต่ในโลกของ Luxury Brand นั้น แท้จริงแล้วมีแต่คำว่า Superlative หาใช่ Comparative ที่หลายๆคนนำมาใช้จนเกิดเป็นนิยามใหม่ อย่าง Affordable Luxury ที่ลดทอนดีกรีของความหรูหราไปอย่างน่าเสียดาย

ในทางเศรษฐศาสตร์สินค้าประเภท Luxury ล้วนแต่เป็นสินค้าที่จำเป็นต้องมีคุณลักษณะสำคัญคือ “ความเหนือกว่าตลาด” ในสิ่งที่จับต้องได้ ทั้งในแง่ของราคา คุณภาพ ช่องทางในการซื้อ บริการ แต่ในแง่มุมของความเป็น New Luxury แล้วประสบการณ์ของความหรูหรามักจะถูกถ่ายทอดออกมาในแง่ของความสามารถที่จะเติมเต็ม Emotional Needs ที่แตกต่างกันไปในแต่ละราย เมื่อความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ผสานรวมกับคุณภาพ ความประณีต และคุณค่าของแบรนด์ จนสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ทางสุนทรียะของสินค้านั้นๆ (Aesthetic Experience) ไปถึงผู้ซื้อได้ว่านี่แหละคือตัวฉัน จิตใต้สำนึกของฉันบอกฉันว่าต้องซื้อ ต้องซื้อ ต้องซื้อ ก่อนที่จะโดนคนอื่นคว้าไป ไม่ว่าสินค้านั้นจะถูกตั้งราคาไว้สูงแค่ไหนก็ตาม…ถ้าสินค้าใดที่ไม่มีคนซื้อคนไหนคิดเหตุผลแบบนี้ในการซื้อเลย สินค้านั้นไม่เรียกว่าเป็นสินค้า Luxury ครับ

จริงอยู่ที่ในอาณาบริเวณแค่ 2 KM จาก BTS ทองหล่อ มีคอนโดเกิดใหม่ขายราคาแพงขึ้นมาเยอะแยะเลย แต่ในความแพงเหล่านั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกโครงการจะต้องเป็นโครงการระดับ Luxury – Ultra Luxury เสมอไป โครงการเกือบทั้งหมดจำเป็นต้องขายราคาแพงเพราะได้ที่ดินมาแพง จนละเลยถึงความสำคัญในการพัฒนาโครงการที่มีอัตลักษณ์อันตอบโจทย์ Sense of Luxury อย่างจริงจัง TELA Thonglor เปิดตัวมาในช่วงที่ราคาที่ดินในย่านทองหล่อไม่ได้พุ่งสูงมากถึงตารางวาละเฉียดสามแสนบาทอย่างยุคปัจจุบัน แต่ก็นับว่าเป็นโครงการที่เป็นเจ้าของสถิติราคา New High ในย่านทองหล่อเมื่อ 3 ปีที่แล้ว คือราวๆตรม.ละเฉียดสามแสนบาท และในปัจจุบันก็มีราคาพุ่งสูงถึงตรม.ละสามแสนหกหมื่นบาทสำหรับ 5 ห้องสุดท้ายที่โครงการเหลืออยู่ โดยที่ยากมากในการจะหาห้องรีเซลที่มีราคาน้อยกว่านี้ เนื่องจากที่นี่มีคุณลักษณะของความเป็น Luxury ที่โดดเด่นมากในเรื่องของ Scarcity (ความหายาก มีแค่ 84 ยูนิต บนทำเลที่ดีที่สุดของทองหล่อ) Excellent Quality (วัสดุก่อสร้างและแบรนด์เฟอร์ฯคุณภาพระดับโลก) Aesthetics (สุนทรีภาพอันงดงามที่ถูกถ่ายทอดผ่านงานศิลปะและ Multi -Sensory Experiential) Brand Heritage ของ Gaysorn Property ที่ถนัดมากในเรื่องของการพัฒนาทั้งพื้นที่ Retail ร้านอาหาร และโครงการที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์รสนิยมหรูหรามีระดับ จนสามารถสร้าง Premium Price ที่มีราคาสูง และดึงดูดกลุ่มผู้ซื้อให้หลงใหลจนอยากจะเป็นเจ้าของให้ได้ โดยที่เมื่อได้มาแล้วก็ไม่ค่อยอยากจะขาย เพราะขายไปก็คงจะหาซื้อใหม่ไม่ได้

ใช่ครับ ผมกำลังจะบอกว่าหากตัดในเรื่องของต้นทุนค่าที่ดินออกไป ที่นี่น่าจะเป็นหนึ่งใน 5 โครงการ Ultra Luxury Condo ที่มีสเปคในห้องดีที่สุด และมอบความประสบการณ์ความหรูหราในแบบที่ใครหลายคนต้องการ ไม่ว่าจะเป็นความเป็นส่วนตัว ไลฟ์สไตล์ ความกว้าง สูงโปร่ง ของพื้นที่ การได้อยู่รวมกันพร้อมหน้าทั้งครอบครัวรวมถึงสัตว์เลี้ยงตัวน้อย (โครงการจำกัดให้เลี้ยงเพียงแค่ 14 ตัวจากทั้งอาคาร) รวมถึง Material ที่ใช้ในการก่อสร้าง Prop ตกแต่งส่วนกลาง และอุปกรณ์ Fitting & Furniture set ต่างๆที่ล้วนแต่ได้รับการยอมรับในระดับโลกว่าเป็น Luxury Brand ของแท้ ไม่ว่าจะเป็น Bottega Veneta, Roberto Cavalli Home, Binova, Duravit, Axor, Hansgrohe, Resysta, Fisher & Paykel, bertazzoni, ไปจนถึงงาน Painting ของจิตรกรชาวอเมริกันที่ปัจจุบันมาอาศัยอยู่ที่ประเทศไทยอย่าง Douglas Dias ซึ่งทาง TELA Thonglor ลงทุนซื้อภาพ Painting มาประดับบริเวณพื้นที่ส่วนกลางถึง 22 ภาพในราคาเฉียด 2 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายเพื่อตอบโจทย์ด้านรสนิยมและการใช้งานของผู้อยู่อาศัยในระดับ Top of Hierarchy

ที่นี่มองภาพของความเป็น Ultra Luxury ที่ไม่ยอมที่จะ Compromise กับขนาดพื้นที่ใช้สอยเลยครับ คือตึกสูง 32 ชั้น แต่มีจำนวนยูนิตแค่ 84 ยูนิต แถมเป็นห้องขนาดใหญ่กว่าตลาด Ultra Luxury Condo ทั่วไปคือเริ่ม 2 ห้องนอน (111 ตารางเมตร) 3 ห้องนอน (201-202 ตารางเมตร) จนถึง 3 ห้องนอน ขนาด 349 ตารางเมตร ที่เรียกว่า Tela Sky Villa ถ้าต้องการห้องขนาดใหญ่กว่านี้ก็เห็นทีจะมีแค่ The Monument Thonglor แต่นั้นก็อยู่กันคนละทำเล คนละราคา และมีจำนวนถึง 127 ยูนิต

วันนี้ผมไปดูห้อง 3 ห้องนอน ขนาด 202 ตรม.มาครับ ซึ่งเป็น Type ที่ยังเหลือขายอยู่น้อยมาก พร้อมกับ Tela Sky Villa B ที่น่าจะเผยโฉมให้ชมราวๆช่วงเดือนสค. โดยราคาขายห้องนี้อยู่ราวๆ 80.55 ล้านบาทครับ รวมเฟอร์นิเจอร์ฯแบรนด์ดังนำเข้าโดย DM Home ความประทับใจแรกก็น่าจะเป็นในส่วนของ Private Lift ของที่นี่ ที่แม้จะเป็นตัวเดียวกับที่ The Monument Thonglor แต่เค้าก็เสียเงินค่าเขียน Software เพิ่มเพื่อความ Private และปลอดภัยเพิ่มขึ้นมาอีก 4 ล้านบาท! เพดานตามมาตรฐานคือสูง 3.2 เมตร แต่ด้วยการออกแบบโครงการสไตล์ Timeless Luxury มี Signature เป็นเส้น Façade แนวนอน ทำให้ต้องลดทอนขนาดกระจกลงเหลือประมาณเกือบๆ 3 เมตรเห็นจะได้ ทั้งนี้สิ่งที่ได้รับทดแทนก็คือพื้นที่ระเบียงที่มีความกว้าง x ยาว มากที่สุดในย่านทองหล่อคือ 17 เมตร สามารถเดินทะลุกันได้ทั้งห้อง คือแค่นับเฉพาะพื้นที่ระเบียงก็ปาเข้าไป 5 – 7 ล้านบาทแล้วล่ะครับ! ทั้งนี้การใช้ชีวิตบนระเบียงที่นี่คือใช้ได้จริงจังมาก เพราะวิวโล่งครับ เนื่องจากชั้นล่างสุดของที่พักอาศัย ซึ่งก็คือชั้น 6 ยังมีความสูงถึง 33 เมตร สูงกว่าคอนโด Low Rise 8 ชั้นอีก แถมระเบียงก็เป็นไม้สังเคราะห์แบบรักษ์โลก รับประกันยาวนานถึง 15 ปี และทำสีให้ฟรี 2 ปีแรก ภายใต้แบรนด์ Resysta จากเยอรมันที่แทบจะไม่รู้เลยว่านี่คือไม้สังเคราะห์

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 5 ถ้าตัดในเรื่องของทัศนียภาพจากสระว่ายน้ำที่ยังนับว่าวิวไม่ค่อยสวยถ้าเทียบกับคอนโด High Rise มีสระบนชั้นสูงๆ ทุกอย่างก็ดูดีได้ฟังก์ชั่นหมด (แต่ถ้าไปดูอีกหลายโครงการ Ultra Luxury ในย่านนี้ก็พบว่าเออ แปลกแฮะ ทำไมเค้าทำสระบนชั้นล่างๆกันทั้งนั้นเลยอ่ะ) ไม่ว่าจะเป็น Club House พร้อมครัวใหญ่มาก, สระว่ายน้ำขนาด 22×11 เมตร, สระว่ายน้ำเด็ก Deck lounge & lounge chairs แบบเปียก, พื้นที่ pool deck & lounge แบบแห้งขนาดใหญ่มากกกก จนแอบคิดว่าน่าจะเอาไปทำพื้นที่สระเพิ่มก็น่าจะได้ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมห้องอบไอน้ำแยกชายหญิง Pause Beauty & Spa ที่มีบริการเรียก therapist จากข้างนอกมาได้ Pulse Wellness Center พร้อมอุปกรณ์ราคาแพงจาก Techno Gym…ทั้งหมดนี้ผมว่ามันเกินกว่า Demand ของผู้พักอาศัยทั้งหมดที่มีแค่ 84 ยูนิตไปเยอะเลยครับ อ้อยังไม่นับที่จอดรถแบบวนจอดที่มีให้มากถึง 169% อีก

ผมเชื่อว่าหากใครได้มาดูก็คงจะไม่ผิดหวังละครับ สำหรับคนที่กำลังมองหา Ultra Luxury Condo ที่แท้จริงในย่านที่เป็นจุดขายมากที่สุดของทองหล่อครับ…และของดียังไม่หมดเท่านี้ เพราะผมรู้มาว่าตอนนี้ TELA Thonglor กำลังซุ่มแต่งห้อง Tela Sky Villa ขนาด 349 ตรม.ด้วยงบประมาณการแต่งห้องถึงห้องละ 37 ล้านบาท!!! ทำให้ห้องนี้เมื่อแต่งเสร็จจะพร้อมขายในราคา 255 ล้านบาทครับ แย้มให้อีกนิดว่ามีแบรนด์หลักเป็น Roberto Cavalli ที่มีไฮไลท์เป็นหินอ่อนแกะสลักลายเซ็นในราคาเฉียด 5 ล้านบาทครับ…โดยห้องนี้น่าจะพร้อมเปิดให้เข้าชมช่วงเดือนสค.นี้ และผมยังแอบรู้มาอีกว่าเกษรยังมีที่ดิน Super Prime ที่พร้อมเปิดขายโครงการบ้านเดี่ยวเร็วๆนี้ด้วยเช่นกันครับ ว้าว