แนะนำห้องน่าซื้อจาก 2 โครงการ Iconic Landmark ที่ Ideo Q Sukhumvit 36 และ Ashton Asoke – Rama 9

เกริก บุณยโยธิน 08 February, 2022 at 18.56 pm

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


สำหรับใครที่กำลังมองหาจังหวะที่ดีในการซื้อคอนโดพร้อมอยู่ ดีไซน์สวย ทำเลดี ใกล้รถไฟฟ้า ในราคาที่คัดสรรมาแล้วว่าคุ้มค่า กว่าราคาตลาด ช่วงนี้ในช่องทางออนไลน์อย่าง https://istore.ananda.co.th/th/home ก็มีโครงการคอนโดพร้อมอยู่ให้เลือกในราคาดีมากมาย ซึ่งก็แน่นอนว่า Benefits ที่ได้จากการซื้อคอนโดออนไลน์ผ่านทาง Ananda iStore ก็คือ จองง่ายกว่าไม่ต้องเสียเวลาในการไปที่ไซต์ และในบางช่วงเวลาก็มักจะมี Code ส่วนลดโปรโมชั่นพิเศษมาให้ด้วย ซึ่งช่องทางออนไลน์แบบนี้จะเหมาะกับคนที่เคยแวะเข้าไปดูโครงการมาแล้ว และยังตัดสินใจซื้อในแบบฉับพลันไม่ได้ เลยต้องมาศึกษาเปรียบเทียบราคา จุดเด่นของแต่ละโครงการทีหลัง

 

แต่ระยะหลังมานี้ต้องบอกว่าใน Ananda iStore ก็มีการอัพเดทข้อมูลของโครงการในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ พร้อม Unit Plan, Virtual Tour 360 องศา หรือแม้กระทั่ง VDO Review ที่ช่วยให้เราตัดสินใจซื้อได้ง่าย ๆ สะดวกสุด ๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปดูห้องจริงที่โครงการเลยก็ยังได้ แต่ถ้าใครที่ยังต้องการข้อมูลที่ลงลึกในแบบฟันธงไปเลยว่าซื้อห้องไหนดี พร้อมเหตุผลในการประกอบการตัดสินใจ บทความนี้ห้ามพลาดเลยกับการแนะนำห้องน่าซื้อจาก 2 โครงการดังของอนันดาฯ ที่เป็น Iconic Landmark ในย่านสุขุมวิท และพระรามเก้าอย่าง Ideo Q Sukhumvit 36 และ Ashton Asoke – Rama 9 ครับ

Ideo Q Sukhumvit 36 กับ 6 เหตุผลหลักที่คนรักย่านทองหล่อควรตัดสินใจซื้อ

1. เป็นคอนโดสูงที่โดดเด่นที่สุดในซอยสุขุมวิท 36 และทองหล่อฝั่งเลขคู่ ทั้ง ๆ ที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 36 ไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ แต่ก็ยังมี Exposure ที่โดดเด่นสะดุดตามากกว่าคอนโดสูงริมถนนใหญ่หลาย ๆ โครงการในย่านนี้อีกด้วยซ้ำ เนื่องจากมีการวางกรอบของงานดีไซน์ให้เป็น Futuristic Design โดยมีเป้าหมายให้เป็น Double Iconic Building With Skybridge หนึ่งเดียวบนย่านทองหล่อ ดังนั้นคอนเซ็ปต์ของอาคารจึงออกมาเป็น Ultra – Modern Architecture ที่ผสานองค์ประกอบของ Organic Design และ Black Bionic ทำให้เส้นสายของอาคารมีเส้นโค้งงอแบบไดนามิกสะท้อนให้เห็นถึงไลฟ์สไตล์ที่กระฉับกระเฉง ควบคู่ไปกับความลุ่มลึกที่เงียบสงบของสีดำ ทุกยูนิตสามารถมองเห็นวิว Bangkok Skyline ได้อย่างไร้สิ่งกีดขวาง แตกต่างจากอาคารโดยรอบ

2. พื้นที่ส่วนกลางที่มีการออกแบบให้เป็น Reservatorium ที่ต้องการสร้างสรรค์พื้นที่ของโครงการที่ตั้งอยู่ใจกลางสุขุมวิทให้เป็นเหมือน HIDDEN RESIDENCE ที่รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวและต้นจามจุรีขนาดใหญ่ใจกลางโครงการ ที่ได้อนุรักษ์ไว้เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของโครงการ เพื่อให้เป็นแหล่งออกซิเจนจากธรรมชาติที่คอยเติมพลังงานดี ๆ ให้กับผู้ที่พักอาศัยในโครงการจึงเปี่ยมไปด้วยความสงบ และการพักผ่อนผสมผสานความเป็นเมืองและความเป็น LUXURY RESIDENCE ให้กลายเป็นเรื่องเดียวกัน ตอบโจทย์ทุกมิติของการอยู่อาศัย เช่นเดียวกับ ส่วนกลางลอยฟ้าพร้อม Sky Bridge ที่เชื่อมการใช้งานทั้ง 2 อาคารเข้าไว้ด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ

3. ฟังก์ชั่นพื้นที่ส่วนกลางที่เอาใจกลุ่ม Expat ชาวญี่ปุ่นหลาย อย่าง ทั้ง Black Onsen Sky Pool, Virtual Fitness, Golf Simulator ที่ดึงนำจุดเด่นของวิวเปิดโล่งโดยรอบโครงการมาใช้กับการออกแบบทุกพื้นที่ส่วนกลาง

4. การดีไซน์ห้องหน้ากว้างในทุกแบบห้อง โดยใช้มุมโค้งของกระจกและขอบอาคาร แทนกระจกเข้ามุมปกติ รวมทั้งมีอ่างอาบน้ำมาให้เกือบทุก type ยกเว้นห้อง 1 นอน 34 ตรม. เช่นเดียวกับการใส่นวัตกรรมและเทคโนโลยี Urban Tech ให้ทุกยูนิตในโครงการมีความเป็น Iconic Living ที่ช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันของคุณง่ายขึ้น อาทิ ระบบที่จอดรถอัตโนมัติ (Automatic Parking System), Home automation เทคโนโลยีควบคุมระบบไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ และตรวจจับน้ำรั่ว

5. มีราคาขายที่ค่อนข้าง Competitive กว่าโครงการคอนโดสูงในย่านทองหล่อ และบริเวณริมถนนใหญ่ช่วงสุขุมวิท 36 – 38 ทั้งหมด คือมีราคาขายเฉลี่ยที่ตรม.ละ 190K โดยตอนนี้มีราคาโปรโมชั่นที่ยากจะปฏิเสธ คือ ราคาเริ่มต้น 5.99 ลบ.* สำหรับห้อง 1 นอน ขนาด 33.98 ตรม. หรือประมาณตรม.ละ 176,280 บาท และยังเป็นการขายแบบ Fully Furnished แต่งครบให้เฟอร์ฯทั้ง Built – in และลอยตัวที่ดูสวยงามมาก ๆ จาก SB Furniture และก็ยังฟรีค่าโอนฯอีกด้วย ซึ่งนับว่าเป็นราคาขายที่ Competitive มากที่สุดสำหรับคอนโด High Rise ในระดับ Luxury ที่เน้นงานดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ โดยโครงการอยู่ห่างเพียง 450 เมตร* จาก BTS ทองหล่อ เพียง 1 สถานีถึง The Emporium and EmQuartier (M District) และเพียงแค่ 10 นาที* ก็สามารถเดินทางถึง Siam Paragon

6. มอบพื้นที่ใช้สอยภายในห้องได้เต็มประสิทธิภาพสูงสุดด้วยพื้นที่ระเบียงแบบ Double Balcony ที่ใช้งานได้จริง เพราะเค้าเอา CDU แอร์ไปไว้ที่บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้ใช้งานได้เต็มที่ ไม่มีเสียง ไม่มีไอความร้อน ไม่เกะกะสายตา

ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือองค์ประกอบสำคัญที่ส่งให้ Ideo Q Sukhumvit 36 เป็น Double Iconic Building With Skybridge แห่งแรกในย่านทองหล่อ ที่รับประกันว่าหากใครได้มีโอกาสเป็นเจ้าของที่นี่ ย่อมสร้างความอิจฉาให้กับคนรอบข้างอย่างแน่นอน…แต่คำถามที่ตามมาก็คือถ้าชอบที่นี่แล้วจะเลือกซื้อห้องไหนดีล่ะ? สำหรับใครที่ยังคิดไม่ออกเรามีโพยเด็ดมาให้คุณเลือกได้ตามใจชอบถึง 3 ยูนิต ตามด้านล่างนี้เลยครับ

 

ฟันธง! 3 ยูนิตทีเด็ดที่เป็น A Must ของ Ideo Q Sukhumvit 36 ใน Ananda iStore

ยูนิตแรก: A11-03 อาคาร A ห้อง 1 นอน ขนาด 33.98 ตรม. (A1)

น่าซื้อเพราะว่า

1. เป็นห้อง Promotion ที่ราคาดีที่สุดในแบบที่ไม่เคยเห็นราคานี้เลยนับจากเปิดตัวโครงการการมา อีกทั้งยังมีเพียงแค่ห้องเดียวเท่านั้น โดยขายในราคาเพียงแค่ 5.99 ล้านบาท* ลดจากเดิมที่มีราคา 8,090,000 บาท ถึง 2,100,000 บาท ได้ครบทั้งเฟอร์ฯลอยตัวและ Built-in จาก SB และยังฟรีค่าโอนอีก 3 รายการ

2. เป็นห้อง 1 นอนที่มีขนาดกำลังดีคือประมาณ 34 ตรม. ที่เทียบเท่ากับขนาดเริ่มต้นของห้อง 1 นอนในคอนโดใหม่ย่านนี้ แต่ได้ราคาที่ถูกกว่า อีกทั้งราคาเฉลี่ยของห้องนี้ก็ยังถูกกว่าห้องอื่นในโครงการเดียวกันถึง ตรม. ละเกือบ 2 หมื่นบาท ในระยะยาวจึงน่าจะคุ้มค่าในการลงทุนขายต่อมากกว่า เพราะมีแต้มต่อของ Gap ราคาที่ถูกกว่าเยอะ

 

3. เลย์เอ้าท์ห้องมีการเพิ่มมิติในการอยู่อาศัยได้ดีกว่าห้อง 1 ห้องนอนปกติ หาแบบนี้ในย่านทองหล่อได้แค่ที่นี่ เพราะมีการเล่นเสตปของห้องที่ในส่วนของ Living และ Bedroom มีการ Drop Step บันไดลงไป ทำให้มีการแบ่งพื้นที่ชัดเจนมากยิ่ง รู้สึกไม่อึดอัด

ยูนิตที่สอง: B17-05 อาคาร B ห้อง 1 Bed Plus ขนาด 46.48 ตรม. (C1M)

น่าซื้อเพราะว่า

1. เป็นแบบ 1 Bed Plus แบบห้องมุมกระจกโค้ง ที่หาไม่ได้ในอาคาร A เพราะที่อาคาร A ห้องขนาดพอ ๆ กันจะเป็นห้อง 1 นอนขนาด 45 ตรม. จึงมีความคุ้มค่าในเชิงประโยชน์การใช้งานที่มากกว่า และยังได้อ่างอาบน้ำเหมือนกันด้วย

2. ได้วิวสองด้านทั้งฝั่ง Inner Court ของโครงการ และวิวโล่งทางทิศตะวันออก ที่ได้วิวสวนจากทั้งของโครงการเองที่ชั้น 7 อาคาร B และจากบ้านเดี่ยวบริเวณซอยสุขุมวิท 38

3. เป็นห้อง 1 Bed Plus ที่มีขนาดเล็กที่สุด แต่ได้ฟังก์ชันการใช้งานเท่ากับห้องอื่น ๆ ที่มีขนาด 49 – 50 ตรม.จึงประหยัดงบประมาณกว่า

และ 4.ข้อดีของอาคาร B คือมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าด้วยเช่นกัน เพราะมีจำนวนยูนิตต่อชั้นเพียงแค่ 5 ยูนิต ซึ่งเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่า Super Luxury คอนโดอื่น ๆ ในย่านทองหล่อ

ยูนิตที่สาม: A27-10 อาคาร A ห้อง 2 นอนขนาด 62.55 (E1)

น่าซื้อเพราะว่า

1. ถ้าจะซื้อห้องแบบ 2 ห้องนอนที่นี่ต้องเป็นห้องที่เห็นวิวฝั่งทิศใต้ชั้นสูงเท่านั้น เพราะเป็นห้องมุมเป็นวิววิวโค้งแม่น้ำได้สวยที่สุดของทองหล่อ

2. นี่คือห้อง Signature ของโครงการที่มีหลุดมาขายน้อยมาก เหลือแค่ 2 ห้องคือที่ชั้น 27 และ 30 โดยห้องนี้จะมีราคาขายเพียงแค่ตรม.ละ 202,558 บาท และมีเลย์เอาท์ที่ดีที่สุด หาไม่ได้อีกแล้วในย่านทองหล่อทั้งหมด ได้กระจกโค้งเข้ามุมเต็มแนวห้องตั้งแต่ฝั่งตะวันตกไปจนฝั่งทิศใต้ เป็นห้อง 2 นอน 2 น้ำที่เเบ่งสัดส่วนดี มีที่เก็บของเยอะตรงหน้าประตู โดยที่ส่วน Living เป็นกระจกโค้งเข้ามุมเชื่อมต่อพื้นที่ Open Space กับส่วน Kitchen & Dining ให้พื้นที่ที่กว้างมาก

3. อ่างอาบน้ำที่ห้อง Master Bedroom เป็นพื้นที่ติดอากาศเปิดรับวิวแม่น้ำได้ในขณะที่นอนแช่อ่าง ที่นอกจากจะเปิดรับแสงธรรมชาติ และระบายอากาศได้ดีแล้ว ยังให้ความรู้สึกผ่อนคลายในการแช่น้ำมากกว่าห้องน้ำที่ไม่มีช่องแสง

Ashton Asoke – Rama 9 กับ 5 เหตุผลดีๆที่ทำให้ที่นี่เป็น Luxury Condo ที่ดีที่สุดแห่งเดียวบนพระรามเก้า

เมื่อนึกถึงแบรนด์ Ashton แน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับความเป็นหนึ่งในย่านนั้น ๆ นี่คือ Luxury Condo ที่มักจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับตลาดในทุก ๆ ครั้งที่เปิดตัวโครงการโดย Ashton Asoke – Rama 9 คือโครงการที่รวบรวมเอาความเป็นที่สุดของทุกด้านเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งเรื่องของงานดีไซน์ ฟังก์ชันการใช้งาน พื้นที่ส่วนกลางแบบล้ำ ๆ รวมไปถึงที่ตั้งของโครงการที่มักจะอยู่ในจุดที่โดดเด่นที่สุดเหนือโครงการใกล้เคียง ให้ผู้ที่ได้อยู่อาศัยที่นี่ได้มีสุนทรียะแห่งการอยู่อาศัยที่ไม่เป็นสองรองใคร สำหรับโครงการคอนโดสูงบนทำเลอื่น ๆ วิวที่ได้อาจเป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณาที่จะตัดสินใจซื้อ แต่นั่นอาจไม่ใช่เหตุผลสำคัญเลยในการตัดสินใจซื้อคอนโดที่ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกพระรามเก้า ย่าน The New CBD ที่เป็นศูนย์รวมของอาคารสำนักงาน และคอนโดสูงมากมายเรียงรายอัดแน่นเต็มในทุกฝั่งถนน ในทางกลับกัน Ashton Asoke – Rama 9 คือโครงการที่มีจุดขายที่ยากจะเลียนแบบมากมาย จนเพียงพอที่จะทำให้ที่นี่เป็น Luxury Condo ที่ดีที่สุดบนสี่แยกพระรามเก้าตลอดกาลครับ

 

1. Iconic Location โครงการที่ไม่เพียงแต่ตั้งอยู่บน Super Prime Area ของแยกอโศก – พระราม 9 แต่ยังตั้งอยู่บนจุดศูนย์กลางของทำเลอย่างบริเวณหัวมุมสี่แยก ซึ่งทางอนันดามองว่าเป็น Blue Chip Location ซึ่งไม่อาจจะหาที่หัวมุมสี่แยกใหญ่เพื่อพัฒนาคอนโดแบบนี้ได้อีกแล้วในย่าน Inner CBD ทุกแห่งของกรุงเทพฯ

2. Iconic Building กับการออกแบบตึกคู่ภายใต้แนวคิด Alpha & Omega ตัวอาคารถูกออกแบบให้มีเอกลักษณ์การออกแบบด้านสถาปัตยกรรม โดดเด่น ดึงดูดสายตา ไม่เหมือนใคร เสมือนดั่ง Sculpture ของเมือง ที่สร้างความสวยงามให้กับ Skyline ของเมือง และยังสามารถสะท้อนตัวตนและสร้างความภูมิใจให้กับผู้อยู่อาศัยได้อีกด้วย รวมทั้งการออกแบบการจัดวางอาคารแบบเฉียง 45 องศากับตัวถนน ทำให้ภายในห้องพักอาศัยเปิดรับวิวที่ดีที่สุดของแต่ด้านของโครงการ ทำให้ไม่รู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางคอนโดหลายสิบโครงการ หลายพันยูนิต

3. Iconic Facility การออกแบบส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน และกระจายอยู่ทั่วโครงการทั้ง 2 อาคาร ให้คุณได้เลือกใช้ได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น สวน The O Plaza ด้านหน้าโครงการ ที่ออกแบบให้เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนหลากหลายมุม Fitness และ Virtual Bike สระว่ายน้ำที่ยื่นออกจากตัวอาคาร 6 เมตร 2 สระ Theatre, Co-living Co-kitchen เป็นต้น

4. Iconic Living ตอบโจทย์การใช้ชีวิตเมืองได้ครบทุกโหมดการใช้ชีวิต ด้วยมุมมองจากในห้องที่กว้างกว่า การออกแบบให้ทุกห้องเป็นห้องหัวมุม มีเลย์เอาท์เป็นร้อยแบบให้เลือกว่าจะเป็นหัวมุมที่ Living หรือห้องนอน มี Open Atrium พร้อม Atrium Ventilation Corridor ที่มากกว่า Single Loaded Corridor ทั่วไป คือการออกแบบโถงทางเดินระหว่างทางไปห้องพักภายในอาคาร ให้มี Atrium โถงโล่งต่อเนื่องกันทุก ๆ 10 ชั้น เพื่อเพิ่มการถ่ายเท ระบายอากาศ และเพิ่มความโปร่งโล่ง สร้างภาวะน่าสบายให้กับอาคาร เพื่อมอบคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า เช่นเดียวกับ การเพิ่มฟังก์ชั่นเพื่อรองรับรูปแบบการใช้ชีวิตแบบ New Normal ที่เพิ่มความมั่นใจให้คุณไร้กังวลจาก Covid-19 ด้วยระบบไร้สัมผัสในการเข้าพื้นที่อาคาร และการใช้พื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบให้มีระยะห่าง รวมถึงมาตรการรองรับมาตรฐานด้านสุขอนามัยต่าง ๆ

5. Iconic Layout นอกจากตัวอาคารจะสวยสะดุดตา และมากไปด้วยความหรูหราของพื้นที่ส่วนกลางแล้ว คุณภาพชีวิตในห้องก็ยังดีกว่าด้วยการออกแบบเลย์เอาท์ที่เหนือกว่า มอบดีเทลในการใช้พื้นที่ที่มากกว่าด้วยจุดเด่นที่ห้องพักทุกห้องเป็นห้องมุมที่มาพร้อม Bay Window ทำให้ได้ Function แบบ 2 Style “SKY LIVING ROOM ” และ SKY BEDROOM” พร้อมมุมมองเปิดแบบ PANORAMIC  VIEW สูงสุด 270 องศา กับห้อง หน้ากว้างสูงสุด 13.5 เมตร ที่เปิดมุมมองสู่ทิวทัศน์เมืองภายนอก ได้มากที่สุด จึงพูดได้ว่าที่นี่คือ The New Iconic Landmark และเป็น Luxury Condo ที่มีความโดดเด่น แตกต่างจากคอนโดรอบข้างและแบรนด์ Ashton อื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด

 

ฟันธง! 3 ยูนิตทีเด็ดที่เป็น A Must ของ Ashton Asoke – Rama 9  ใน Ananda iStore

ยูนิตแรก: A14-14 อาคาร Alpha ห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 35.15 ตรม. (A4M)

น่าซื้อเพราะว่า

1. เป็นห้องราคาเริ่มต้นของอาคาร Alpha ซึ่งเป็นอาคารที่ค่อนข้างได้วิวเปิดมากกว่า จากทางฝั่งทิศตะวันออกไม่ว่าจะเฉียงเหนือหรือเฉียงใต้ ซึ่งราคาเฉลี่ยของห้องฝั่งนี้จะค่อนข้างสูงกว่าห้องฝั่งอื่น ๆ โดยในระดับชั้น 14 – 17 ฝั่งนี้จะมีราคาเฉลี่ยประมาณตารางเมตรละสองแสนสองหมื่นบาทขึ้นไปทั้งหมด แต่ห้อง A14-14 บนชั้น 14 ห้องนี้ทำราคาออกมาเพียงแค่ตารางเมตรละ 207,397 บาท ราคารวม 7.29 ล้านบาท* ถูกกว่าราคาพรีเซลถึง 2.28 ล้านบาท* โดยเป็นการขายแบบ Fully Furnished ซึ่งคุ้มกว่าตอนพรีเซลมาก

2. เป็นห้อง 1 นอนนอนหัวมุมแท้ ๆ ขนาดเล็กที่มีวิวดีที่สุดของโครงการ โดยในส่วนของห้องนี้จะได้วิวเพชรบุรี – สุขุมวิท และทางด่วนดินแดง จากบริเวณห้องนั่งเล่น ในขณะที่ห้อง 1 นอนขนาดพอ ๆ กันที่ห้องอื่นได้วิวที่ค่อนข้างบีบจากอาคารข้างเคียง

 

ยูนิตที่สอง: A17-11 อาคาร Alpha ห้อง 1 นอนขนาด 40.4 ตรม. (B7)

น่าซื้อเพราะว่า

ความสมบูรณ์แบบในราคาไม่เกิน 9 ล้านบาท จริงอยู่ที่โครงการคอนโดบริเวณสี่แยกพระรามเก้านั้นแทบจะไม่มีโครงการไหนเลยที่ได้รับวิวที่เปิดโล่ง ในแบบที่เปิดหน้าต่างออกไปแล้วไม่ชนกับเพื่อนบ้านคอนโดข้าง ๆ ถ้าจะหาก็คือต้องเป็นห้องหัวมุมขนาดใหญ่ชั้นสูงมาก ๆ ทำให้คนซื้อต้องใช้งบประมาณในการซื้อที่มากตามไป สำหรับ Ashton Asoke – Rama 9 หากใครที่มองเรื่องวิวเป็นหลักก็อาจจะถอดใจ เพราะมีแต่ห้องขนาดใหญ่ทางฝั่งทิศเหนือ และตะวันออก ที่ได้วิวที่ค่อนข้างโล่งสุด แต่จริง ๆ แล้วยังมีห้อง 1 ห้องนอนขนาดกลาง 40.4 ตารางเมตรที่ขายในราคาเพียง 8.79 ล้านบาท* ถูกกว่าราคาตอนพรีเซลที่ขายราคาโดดมากที่ 11.11 ล้านบาท ถึง 2.32 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนลดที่เยอะที่สุดของห้องล็อตนี้!

แม้จะเป็นราคาที่เท่ากับห้อง A17-12A ที่อยู่ถัดออกไป 2 ห้อง แต่ได้วิวที่พรีเมียมกว่าพอสมควร ไม่มีตึกมาบล็อคในระยะใกล้ เพราะมองไกล ๆ เห็นโครงการในอนาคตจาก CPN จากบริเวณห้องนั่งเล่นเลย ทำให้ห้องนี้ได้องค์ประกอบของความสมบูรณ์แบบครบทั้งการเป็น Iconic Building, Location, Facilities, Living และวิว ในราคาที่ไม่เกิน 9 ล้านบาท* ส่วนตัวแล้วผมให้ห้องนี้เป็นห้องทีเด็ดที่สุดสำหรับห้อง Type 1 Bed Sky Living ครับ

 

ยูนิตที่สาม: O14-05 อาคาร Omega ห้องขนาด 1 ห้องนอน 32.18 ตรม. (A3)

น่าซื้อเพราะว่า

1. เป็นห้องขนาดเริ่มต้นที่มีราคาที่ถูกที่สุดของโครงการ โครงการนี้มีราคาเริ่มต้นที่ทำโปรฯล่าสุดคือ 6.59 ล้านบาท* ซึ่งเป็นการขายแบบ Fully Furnished ครับ แน่นอนว่า ด้วยการที่เป็นห้องราคาถูกสุด ความคาดหวังของคนซื้อจึงไม่ใช่เรื่องของ Value ในส่วนของวิว และความสูงของยูนิต แต่คนซื้อคาดหวังว่าห้องนี้จะมีโอกาสในการทำสร้างรายได้ และทำกำไรที่มากกว่าในอนาคตจากการปล่อยเช่า หรือการปล่อยรีเซล (ในกรณีที่ราคาถูกกว่าราคาตลาดของทั้งตึกค่อนข้างเยอะ) ซึ่งห้องนี้เป็นห้องที่มีราคาเฉลี่ยต่อตรม.เพียง 204,786 บาท แม้จะเป็นวิวฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งค่อนข้างจะบล็อคจากอาคารใกล้เคียง แต่ห้องตำแหน่งฝั่งทิศนี้ทั้งหมดก็เป็นการบล็อคในแบบมุมมองเดียวกัน วิวเดียวกัน ดังนั้นผมจึงมองว่าจะชั้นสูงหรือเตี้ยก็ไม่มีผลครับ เลือกห้องที่ราคาถูกที่สุดไปเลยดีกว่า และหากอยากได้วิวสวย ๆ ก็ไปใช้พื้นที่ส่วนกลางจะดีกว่าเยอะ ซึ่งส่วนใหญ่คนที่เช่าห้องก็มักชอบใช้พื้นที่ส่วนกลางมากกว่าอยู่ในห้องอยู่แล้ว ห้องฝั่งนี้ผมเชื่อว่าราคาค่าเช่าจะได้พอ ๆ กันหมด อยู่ที่ต้นทุนของคนซื้อแล้วละครับว่าใครจะมีแต้มต่อมากกว่ากันครับ

2. เลย์เอาท์ดีที่สุดใน List ห้องชั้น 14 ที่ชั้น 14 อาคาร Omega มีห้องเหลือออกมาทำโปรฯ 3 ห้อง คือ O14-03, 04 และ 05 เป็นห้องเลย์เอาท์แบบ Sky Bedroom ทั้งหมดโดยห้อง O14-05 (A3) จะเป็นห้องที่มีเลย์เอาท์ในแบบ Practical ใช้งานได้จริงทั้งในส่วนของครัว พื้นที่กินข้าว ห้องนั่งเล่น ที่ไม่ถูกบีบมากเหมือนกับห้อง Type A1M ห้องนี้พื้นที่ครัว ตู้เย็น และเครื่องซักผ้าจะถูกจัดไว้ในโซนเดียวกัน อีกทั้งส่วนห้องวางเครื่องซักผ้ายังมีขนาดที่ใหญ่กว่าเพียงพอให้เก็บของเพิ่มเติมได้

 

และทั้งหมดนี้ก็คือโพยห้องเด็ดที่ผม Highly Recommended สำหรับการเลือกซื้อห้องทั้ง จาก 2 โครงการดัง ทั้ง Ideo Q Sukhumvit 36 และ Ashton Asoke – Rama 9 ที่มีวางขายอยู่ตอนนี้ใน AnandaiStore ครับ สำหรับใครที่อ่านจบหมด และตัดสินใจได้แล้วว่าจะซื้อห้องไหน ก็รีบคลิกเข้าไปจองกันได้เลยตามลิงค์นี้ครับ https://anan.ly/3oiKNvY

เกริก บุณยโยธิน

เกริก บุณยโยธิน

ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ

เว็บไซต์

ศุภาลัย พรีเมียร์ สามเสน-ราชวัตร

โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์

นิว เวิร์ส กรุงเทพกรีฑา

ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาต้องบอกว่าย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม...

28 February, 2024

นิว ซี-สแควร์ สวนหลวง สเตชั่น

ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านมาพบกับโครงการคอนโดพร้อมอ...

30 January, 2024

ริธึ่ม เจริญนคร ไอคอนิค

วันนี้จะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับคอนโดมิเนียมสุดฮอตชื่อโ...

29 January, 2024

วิสซ์ดอม คราฟท์ สามย่าน

Whizdom Craftz Samyan คือโครงการที่มอบ 5 องค์ประกอบพ...

4 December, 2023

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง