พาชมห้องตัวอย่าง CRAFT Ploenchit… THE MASTER CRAFT OF LIVING

ทำเลที่มีความพร้อมในทุกๆมิติ ไม่ว่าจะการเดินทางที่สะดวกสบาย ศูนย์กลางการค้า และธุรกิจ ที่มีการพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพของพื้นที่อยู่เสมอ ปฏิเสธไม่ได้ว่าพื้นที่เหล่านั้น ย่อมเป็นพื้นที่กลางเมือง ที่หลายคนปรารถนาในการใช้ชีวิตในทำเลที่ครบครันในทุกมิตินี้ แต่แน่นอนว่าพื้นที่กลางเมืองที่มีความหนาแน่นเหล่านี้ ย่อมถูกจับจองเป็นเจ้าของ หรือมีการพัฒนาจนแทบจะไม่หลงเหลือที่ดินให้ได้พัฒนาโครงการอื่นๆ หนึ่งในพื้นที่กลางเมืองเกรดเอ ที่เป็นที่ปรารถนาในใจของหลายๆคน คงเป็นย่านเพลินจิต ที่ตั้งอยู่ท่ามกลาง ระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้า ทางด่วน รายล้อมด้วยสถานทูต โรงแรมหรู แหล่งชอปปิ้งไฮเอนด์อย่าง Central Embassy เซ็นทรัลชิดลม ใกล้เกษรพลาซา เซ็นทรัลเวิลด์ สยามพารากอน ที่เกาะกลุ่มอยู่บนถนนเส้นหลักอย่างถนนเพลินจิต ที่เชื่อมถนนพระรามที่ 1 และถนนสุขุมวิท

ย่านเพลินจิตนับว่าเป็นทำเลที่เป็นศูนย์กลางระหว่าง Grade A Prime Areas ในกรุงเทพฯถึง 3 แห่ง ไม่ว่าจะเป็น วิทยุ ชิดลม-หลังสวน และสุขุมวิทตอนต้น อีกทั้งยังเป็นย่านที่เริ่มต้นจากการเป็น Residential area อันเงียบสงบมาก่อนที่จะมีการพัฒนาอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ และแหล่งไลฟ์สไตล์ต่างๆตามมา…วันนี้ย่านเพลินจิตถูกพัฒนาจากหลายๆภาคส่วน จนเป็นทำเลที่แทบจะไม่มีพื้นที่เหลือเพื่อให้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆบนถนนหลักแล้ว และโครงการคอนโดที่อยู่บนถนนหลักก็ล้วนแล้วแต่เป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่ และมีราคาที่แพงขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 3-4 ปีนี้

จากปัจจัยในเรื่องของราคาและ supply ที่ดิน ทำให้ดีเวลลอปเปอร์หลายรายต้องหันไปพัฒนาโครงการที่อยู่ในซอยย่อยแทน เพื่อรองรับ demand ที่ยังต้องการอยู่อาศัยอยู่ในทำเลนี้ แต่ติดข้อจำกัดในเรื่องของงบประมาณ และยังมองหาความเป็นส่วนตัวที่มากกว่าริมถนนใหญ่…ซอยนายเลิศ ซอยขนาดเล็ก เดินรถได้แค่ทางเดียวและมีระยะทางเพียงแค่ประมาณ 600 เมตร หากวัดจากปากซอยด้านถนนวิทยุสู่เพลินจิต คือซอยที่มีความเป็น Residential area สูงมายาวนาน เนื่องจากสภาพโดยรวมของซอยนั้นเต็มไปด้วยทาวน์เฮ้าสเก่าแก่ บ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ และ service apartment เรียงรายอยู่ตลอดสองข้างทาง ซอยเล็กๆแห่งนี้มักจะถูกใช้เป็นทางลัดเพื่อขึ้นทางด่วนสุขุมวิท จึงเป็นสาเหตุให้รถค่อนข้างติดในช่วงเวลาเร่งด่วน แต่คอนโดและ service apartment ที่ตั้งอยู่ในซอยนี้ก็ยังคงได้รับความสนใจจากกลุ่มคนที่ทำงานในละแวกเพลินจิต-สุขุมวิท เพราะสามารถเดินไปยังสถานี BTS เพลินจิตอยู่ที่หน้าปากซอยในระยะเวลาไม่กี่นาที

จากต้นทุนเดิมของความเป็นทำเลที่เงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัย บริษัท ปัญจพล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด จึงเลือกพื้นที่ในการพัฒนาโครงการ Craft Ploenchit (คราฟท์ เพลินจิต) บริเวณซอยนายเลิศ ที่ ห่างจากสถานีเพลินจิตเพียง 190 เมตร หรือเดินเพียง 2 นาที เท่านั้น อีกทั้งยังใกล้ทางขึ้นทางด่วนเพียง 450 เมตร

โดยบริษัทเลือกที่จะพัฒนาเป็นคอนโด Low Rise ในเซกเมนท์ Luxury ที่มีจำนวนยูนิตน้อย เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้พักอาศัย ผสานการออกแบบภายใต้คอนเซป Modern – Luxury – Nature – Craft โดยได้บริษัท Palmer & Turner มาออกแบบสถาปัตยกรรมและได้บริษัท N7A Architects เป็นผู้ออกแบบงานภายใน ด้วยการใช้ธรรมชาติ ความเรียบง่าย และสร้างเอกลักษณ์เฉพาะให้กับโครงการแห่งนี้ ตามชื่อ Craft Ploenchit ด้วยการผสมผสานงาน Craft ในทุกๆยูนิต เพื่อสะท้อนตัวตน แต่มีความเป็น Modern & Luxury ด้วยการคัดสรรวัสดุคุณภาพดี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตในทุกๆพื้นที่ส่วนตัว

Craft Ploenchit (คราฟท์ เพลินจิต) เป็นอาคารที่พักอาศัยสูง 8 ชั้น มีที่พักอาศัยชั้นใต้ดิน 1 ชั้น รวมทั้งหมด 90 ยูนิต  ที่จอดรถใต้ดินและเป็นระบบจอดอัตโนมัติ รองรับได้ประมาณ 90% ตั้งอยู่บนพื้นที่ 387 ตารางวา บนแปลงที่ดินรูปสามเหลี่ยม ที่โครงการเลือกใช้ประโยชน์พื้นที่ในด้านมุมของอาคาร โดยจัดสรรให้เป็นพื้นที่สวนเล่นระดับ เพื่อให้เกิดประโยชน์คุ้มค่าที่สุด โดยตัวอาคารวางตัวตามแนวเหนือใต้

ด้านทิศเหนือคือมุมแปลงที่ดินสามเหลี่ยม ที่ทางโครงการออกแบบให้เป็นสวนเล่นระดับ

ด้านทิศตะวันออก ติดกับทางด่วน ส่วนใหญ่จึงเป็นผนังทึบ มีเพียง 3 ห้องของแต่ละชั้น ที่เป็นช่องเปิดของอาคาร

ด้านทิศใต้ เป็นวิวด้านบีทีเอสเพลินจิต

ส่วนด้านทิศตะวันตกเป็นวิวด้านซอยนายเลิศ และทางเข้าโครงการ

ที่ชั้น B1 เป็นส่วนของ Lobby พื้นที่สวน และที่พักอาศัย

ที่ชั้น G เป็นทางเข้าลิฟท์จอดรถ และที่พักอาศัย

ชั้น 2-7 เป็นที่พักอาศัย

ชั้น 8 เป็นฟิตเนส และที่พักอาศัย

และส่วนของ สระว่ายน้ำ อยู่ที่ Roof top

รูปแบบห้องที่ทางโครงการออกแบบไว้ มี 3 Type คือ 1 Bedroom, 2 Bedroom, 3 Bedroom ที่ชั้น 2-8 และมีแบบ Duplex ที่ชั้น B1 และ G คือ

ห้อง 1 Bedroom มี 4 ขนาด (ราคาเริ่มต้น 8.1 ล้านบาท)

A1 : 1 Bedroom ขนาด 36.5 Sq.m. เป็นห้องสุดท้ายสุดทางเดิน สำหรับคนชอบความส่วนตัว ระเบียงห้องเปิดรับวิวทิศใต้ของโครงการ ที่ชั้น 2-8 มีชั้นละ 1 ห้อง

A2 : 1 Bedroom ขนาด 47 Sq.m. เป็นห้องสุดทางเดินเช่นกัน แต่เป็นวิวด้านทิศตะวันออก และเนื่องจากวิวด้านนี้ใกล้ทางด่วน ทางโครงการจึงออกแบบระเบียงหญ้าเทียมขนาดใหญ่ เพื่อลดเสียงรบกวนและลูกบ้านยังสามารถใช้งานได้จริง ที่ชั้น 2-7 มีชั้นละ 1 ห้อง

A3 : 1 Bedroom ขนาด 40 Sq.m. เป็นห้องกลางวิวทิศใต้ของโครงการ แปลนห้องแบ่งพื้นที่ living area และ ห้องนอนเท่าๆกัน  มีที่ชั้น 2-8 มีชั้นละ 2 ห้อง

A4 : 1 Bedroom ขนาด 46-47.5 Sq.m. เป็นห้องกลางอาคารวิวด้านทิศตะวันตก ได้ระเบียงยาว มีที่ชั้น 2-8 มีชั้นละ 3 ห้อง

ห้อง 2 Bedroom มี 4 ขนาด (ราคาเริ่มต้น 11.2 ล้านบาท)

B1 : 2 Bedroom ขนาด 57.5 Sq.m. เป็นวิวด้านทิศตะวันออก แต่เนื่องจากวิวด้านนี้ใกล้ทางด่วน ทางโครงการจึงออกแบบระเบียงหญ้าเทียมขนาดใหญ่ เพื่อลดเสียงรบกวนและสามารถใช้งานได้จริง ที่ชั้น 2-7 มีชั้นละ 1 ห้อง

B2 : 2 Bedroom ขนาด 65.5 Sq.m. ได้ระเบียงยาว และห้องนอนทั้งสองห้องหันเข้าสู่วิว ด้านทิศตะวันตก มีที่ชั้น 2-8 มีชั้นละ 1 ห้อง

B3 : 2 Bedroom ขนาด 69.5 Sq.m. เป็นห้องหัวมุมทำให้พื้นที่ห้องรับแขกได้วิวทางทิศตะวันตก และห้องนอนทั้งสองห้องเปิดรับวิวด้านทิศใต้ มีที่ชั้น 2-8 มีชั้นละ 1 ห้อง

B4 : 2 Bedroom ขนาด 74.5 Sq.m. เป็นห้องแนวลึก ที่ยื่นออกมาจากแนวอาคาร ตัวห้องวางอยู่ด้านทิศตะวันตก แต่ออกแบบให้สามารถเห็นวิวด้านทิศเหนือ และทิศใต้ได้ มีที่ชั้น 2-7 ชั้นละ 1 ห้อง

ห้อง 3 Bedroom มี 1 ขนาดคือ 97.5 Sq.m. (ราคาเริ่มต้น 19.4 ล้านบาท) เป็นห้องหัวมุมสุดปลายทางเดินวิวหลักคือวิวด้านทิศตะวันตก แต่ห้องนอนอีก 2 ห้อง มีกระจกเปิดรับวิวด้านทิศเหนือและใต้ได้ มีที่ชั้น 2-8 ชั้นละ 1 ห้อง

ส่วนห้องไฮไลท์จะเป็นห้อง Duplex มี 3 Type เช่นกันคือ 1 Bedroom, 2 Bedroom, 3 Bedroom โดยชั้นล่างของห้อง Duplex อยู่ที่ชั้น B1 ของโครงการ ทุกห้องมีระเบียงสนามหญ้าส่วนตัว และชั้นสองของห้องอยู่ที่ชั้น G ของโครงการที่สามารถมองเห็นแนวสวนรอบพื้นที่โครงการได้ การเข้าออกห้องสามารถเข้าออกห้องได้ทั้งจากชั้น B1 และชั้น G

ห้อง Duplex 1 Bedroom (Sold out) จะมีห้องนอนอยู่ที่ชั้น G และห้องน้ำ ห้องรับแขก ห้องครัว อยู่ที่ชั้น B1 มี 3 ขนาด ขนาดละ 1 ห้อง คือ

DP1-1 : 1 Bedroom ขนาด 47.5 Sq.m. เป็นห้องติดโถงลิฟท์ วิวด้านทิศตะวันออก

DP1-2 : 1 Bedroom ขนาด 63.5 Sq.m. เป็นห้องกลาง วิวด้านทิศตะวันออก

DP1-3 : 1 Bedroom ขนาด 59.5 Sq.m. เป็นห้องสุดทางเดิน วิวด้านทิศตะวันออก

ห้อง Duplex 2 Bedroom (ราคาเริ่มต้น 15.8 ล้านบาท) ออกแบบให้ห้องนอนเล็ก ห้องรับแขก ห้องน้ำ ห้องครัวอยู่ที่ชั้น B1 และห้องนอนใหญ่ห้องน้ำในตัวอยู่ที่ชั้น G

DP2-1 : 2 Bedroom ขนาด 68 Sq.m. เป็นห้องสุดทางเดิน วิวด้านทิศใต้ มี 1 ห้อง

DP2-2 : 2 Bedroom ขนาด 73-73.5 Sq.m. ห้องกลาง ได้วิวทางทิศใต้ มี 2 ห้อง

DP2-3 : 2 Bedroom ขนาด 82-84 Sq.m. ห้องกลาง วิวทิศตะวันตก มี 2 ห้อง

ห้อง 3 Bedroom แบบ Duplex เป็นห้อง Penthouse ขนาด 134 Sq.m. เป็นห้องหัวมุม ได้วิวทั้งทิศใต้และตะวันตก (ราคา 29.5 ล้านบาท)

ส่วนห้องตัวอย่างที่ทางโครงการตกแต่งให้ดู คือ 1 Bedroom Type A4 ขนาด 47 Sq.m. 

แปลนห้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ ครัวและ living area ที่ปีกด้านซ้าย และห้องนอนที่ปีกด้านขวา

ประตูทางเข้าโครงการให้เป็น Digital door lock ที่สามารถปลดล็อคผ่าน Application บนมือถือ หรือจะปลดล็อคแบบใช้กุญแจปกติก็ได้

ด้านในห้องมีความสูงเฉลี่ยอยู่ที่ 2.5 m แอร์ฝังฝ้าแบบ Conceal type พื้นห้องปูด้วย Engineered wood สีไม้โอ๊ค เชื่อมจากทางเข้าสู่ห้องนั่งเล่น

พื้นที่ส่วนที่ติดกับประตูทางเข้าเป็นพื้นที่ครัว ที่ผู้อาศัยสามารถเลือกได้ว่าต้องการเป็นครัวเปิดหรือครัวปิด เพราะในแบบห้องจริง ทางโครงการจะมี Slide Door ให้ระหว่างห้องครัวกับห้องนั่งเล่น แต่ถ้าใครไม่ชอบครัวปิด ก็สามารถยกเลิก Slide door ได้เช่นกัน

พื้นที่ครัวแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ซ้ายขวา โครงการให้ครัว Custom-made ของ Modernform โดยครัวฝั่งขวา เป็นพื้นที่เช็ดล้างทำความสะอาด ประกอบไปด้วย ชุดครัว Built-in เต็มพื้นที่จากพื้นจรดเพดาน เคาท์เตอร์เป็นอ่างล้างจาน MEX ฝังพื้น Top ครัวเป็นหินควอตสีน้ำตาลเข้ม เข้ากับชุดครัวโทนสีน้ำตาล ที่ด้านล่างเจาะช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า ติดกันเป็นตู้ Built-in และที่เหนือศีรษะออกแบบให้เป็นตู้เก็บของหรืออุปกรณ์ทำครัว มาพร้อมไฟผังด้านหลังเฟอร์นิเจอร์ครัว ที่ผนังมีกระจกผิวซาตินสีน้ำตาลดำวางยาวเต็มผนัง ป้องกันคราบจากการทำครัว

เช่นเดียวกับฝั่งซ้าย Top ครัวเป็นหินควอตสีน้ำตาลเข้ม ผนังติดตั้งกระจกผิวซาตินกันคราบน้ำมันจากการทำครัว มีเตาไฟฟ้า SMEG ฝังพื้น พร้อมที่ดูดควันด้านบนของ SIEMENS ด้านล่างเตาไฟฟ้าเป็นไมโครเวฟ SIEMENS แบบฝัง ด้านขวาเจาะช่องสำหรับวางตู้เย็นใหญ่ได้

ถัดจากครัวบริเวณห้องนั่งเล่น ด้านติดประตูครัว สามารถวางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่งติดผนังเข้ามุมได้

ในส่วนของพื้นที่ living area สามารถจัดวางชุดโซฟา ติดผนัง สำหรับนั่งดูทีวีหรือชมวิวด้านนอกผ่านระเบียงที่เชื่อมจากห้องนั่งเล่นก็ได้ ติดทางออกระเบียง โครงการเจาะช่องพร้อมแผงกัน สำหรับติดตั้งผ้าม่าน มาพร้อมประตูกระจกลามิเนตบานเลื่อนแบบเต็มผนังแบบป้องกันเสียง สูงจากพื้นจรดเพดาน

ด้านนอกระเบียง พื้นระเบียงปูด้วย Artificial wood  โทนสีน้ำตาลเข้ม ราวระเบียงเป็นกระจก ที่ปลายระเบียง มีระแนงกันพื้นที่ติดตั้ง Air Compressor เพื่อความเป็นระเบียบ

ห้องตัวอย่าง ยังทำพื้นที่ระเบียงหญ้าเทียม เพื่อให้คนซื้อจินตนาการภาพสำหรับห้องที่อยู่ด้านทิศตะวันออกติดทางด่วน ที่จะได้พื้นที่ระเบียงใหญ่ขึ้น เพื่อเว้นระยะและป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก

มาถึงในส่วนของห้องนอน แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือห้องนอน และห้องแต่งตัว ห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำออกแบบให้สามารถเข้าออกได้ทั้งจากห้องนอนและห้องนั่งเล่น

ในส่วนของห้องน้ำ แบ่งสัดส่วนพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้ง พื้นที่ส่วนแห้ง มีเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าลอยตัว พร้อมตู้กระจกสำหรับเก็บอุปกรณ์อาบน้ำได้ พร้อมโถสุขภัณฑ์ ที่ทางโครงการให้เป็นชุดสุขภัณฑ์ของ Villeroy & Bach สัญชาติเยอรมัน

ระหว่างส่วนเปียกและส่วนแห้ง มีกระจกบานเปิดกั้นพื้นที่พร้อมพื้นยกระดับเป็นขอบกันน้ำ โครงการให้ชุดอาบน้ำ ทั้ง Hand Shower และ Rain Shower พร้อมออกแบบที่วางอุปกรณ์อาบน้ำที่ผนัง ตะแกรงระบายน้ำในห้องน้ำเป็นแบบตะแกรงกันกลิ่น Top เป็นวัสดุเดียวกับพื้นห้องน้ำกระเบื้องหินอ่อนนำเข้าจากอิตาลี

ติดประตูทางเข้าห้องน้ำ เป็นห้องแต่งตัว ที่ออกแบบเป็นรูปตัว L เป็น Furniture Built-in บานเปิดปิดแบบ Soft close สูงจรดเพดาน เต็มผนังห้อง พร้อมซ่อนไฟส่องสว่าง ประกอบด้วยตู้เสื้อผ้า พร้อมชั้นเล็ก และช่องเก็บผ้าด้านบน ฝาตู้เป็นกระจกส่องบานเลื่อน อีกด้านเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมกระจกแต่งหน้า พร้อมราวแขวนเสื้อสำหรับแต่ละวัน และชั้นวางกระเป๋า หรือเก็บของที่ด้านล่างอย่างเป็นระเบียบ

ในส่วนของห้องนอน โครงการให้เตียง Queen Size แต่ก็มีพื้นที่เหลือพอหากใครต้องการเตียงขนาดใหญ่กว่า ปลายเตียงเป็นตำแหน่งติดตั้งทีวีภายในห้องนอนแบบติดผนังได้ และที่กระจกชมวิวข้างเตียง สามารถเปิดเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง รับลม หรือระบายอากาศในบางเวลาได้ ริมหน้าต่าง ทำเป็นมุมอ่านหนังสือ ทำงาน ก็ได้วิวดีไม่น้อย

ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลาง เริ่มจากโถง Lobby ที่อกแบบมาอย่างโอ่อ่า หรูหรา ด้วยความกว้าง 340 Sq.m. และความสูงถึง 6 เมตร

เชื่อมต่อกับสวน Contoured เล่นระดับขนาดใหญ่ ไล่ระดับด้วยแนวต้นไม้สูงต่ำ ให้คุณรู้สึกเหมือนถูกธรรมชาติโอบล้อม และเป็นการสร้างร่มเงาให้กับพื้นที่สวนแห่งนี้ในทุกๆการใช้งาน

ห้อง Party room ในพื้นที่ส่วนกลาง ที่สามารถจัดปาร์ตี้ หรือใช้เป็นพื้นที่พักผ่อน ทำกิจกรรมต่างๆได้

พร้อมระบบจอดรถแบบอัตโนมัติ พร้อม Lobby รอรถ ที่สามารถรองรับได้ถึง 90% มาด้วยดีไซน์รูปลักษณ์ที่ทันสมัย จำนวนลิฟท์ 2 ตัว ขนาดใหญ่ สำหรับขึ้นและลง หรือสามารถปรับเป็นลงทั้ง 2 ตัว ในกรณีที่เป็นเวลาเร่งด่วน โดยระบบอัจฉริยะนี้ใช้เวลาในการรอรถเพียง 1 นาที หลังจากทำการเรียกรถ ซึ่งถือว่ารวดเร็วมากๆกับเทคโนโลยีอันทันสมัย

ห้องฟิตเนสขนาด 68 ตารางเมตร ที่ชั้น 8 มีอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน ให้คุณได้ออกกำลังกายพร้อมชมวิวเมืองและวิวสวนสถานทูตสวิสฯไปพร้อมกับการพักผ่อน

และสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือขนาดใหญ่ ที่ชั้น Roof top ให้คุณได้พักผ่อนแบบ Exclusive ท่ามกลางวิวเมืองที่โอบล้อมรอบกาย

Craft Ploenchit (คราฟท์ เพลินจิต) ต้องถือว่าเป็นการใช้ประโยชน์ทุกอณูของแปลงที่ดิน บน Grade A Prime Area ได้อย่างคุ้มค่ามาก เพราะหากเป็น Developer รายอื่นอาจต้องคิดแล้วคิดอีกกับที่ดินแปลงสามเหลี่ยมที่น่าจะพัฒนาเป็นคอนโดได้ยาก แต่ Craft Ploenchit (คราฟท์ เพลินจิต) ก็ใช้การออกแบบ ที่พร้อมสมบูรณ์ไปด้วยความสวยงามและฟังก์ชั่น ทำลายข้อจำกัดต่างๆทำให้เกิดชิ้นงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีชกลางเมือง ตามสโลแกนคือ “THE MASTER CRAFT OF LIVING” การออกแบบที่สามารถสร้างความแตกต่าง แต่สามารถใช้งานได้จริง และถึงแม้หากดูจากแปลนห้องบาง Type จะมีเลย์เอ้าท์ที่แปลกตาไปสักหน่อย กับเหลี่ยมมุมที่ค่อนข้างเยอะในแต่ละห้อง อันเนื่องมาจากดีไซน์ของโครงการให้สามารถใช้ประโยชน์จากรูปทรงสามเหลี่ยมของที่ดินได้อย่างเต็มที่

แต่ทั้งนี้การที่โครงการเลือกขายในแบบแพคเกจ Fully Furnished พร้อมเฟอร์ฯ Built-in บางส่วน ก็สามารถช่วยให้เจ้าของห้องไม่ต้องมาวุ่นวายกับการหาเฟอร์ฯที่ match กับสไตล์ของห้องได้

สำหรับผม โครงการ Craft Ploenchit ค่อนข้างเป็นโครงการที่เอานิยามของคำว่า Craft มาถ่ายทอดให้ออกมาเป็นรูปธรรม จับต้องได้หลายส่วน ซึ่งความ “Craft” ที่สามารถสัมผัสได้จากโครงการนี้ ค่อนข้างยากที่จะหาได้ในโครงการ Low rise อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น

การออกแบบให้มีพื้นที่ Lobby Double Volume สูง 6 เมตร ที่สามารถเชื่อมต่อกับ Contour Garden เพื่อเปิดรับมุมมองแห่งการพักผ่อนได้ดีกว่า อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความประทับใจให้กับผู้มาเยือนโครงการ

การจัดวางห้องทางฝั่งที่ติดกับทางด่วนเพียงแค่ 2 ยูนิตต่อชั้น มีการออกแบบเลย์เอ้าท์ห้องให้มีระเบียงที่หลบเข้าไปด้านในตึก และชดเชยด้วยพื้นที่สวนขนาดใหญ่บริเวณระเบียง เพื่อลดทอนเสียงรบกวนและเพิ่มความ Privacy

การสร้างห้องแบบ Duplex ไว้บริเวณชั้นล่าง โดยเป็นห้องที่ลดระดับลงกว่าความสูงจากพื้นปกติ แต่คงไว้ซึ่งความโปร่งโล่งของพื้นที่ Void ที่ใหญ่ และเพิ่ม Volume of Space ที่มากกว่าด้วย Private Courtyard บริเวณระเบียง จนผู้อยู่อาศัยรู้สึกว่านี่ไม่ใช้ห้อง Duplex ที่ไม่มีวิวและ space เหมือนกับห้อง Duplex ชั้นล่างของคอนโด Low rise ทั่วไปในท้องตลาด

การสร้างที่จอดรถแบบ Automatic Parking ให้มากถึง 90% และที่สำคัญคือมีลิฟท์สำหรับเคลื่อนย้ายรถถึง 2 ตัว ซึ่งน่าจะเป็นโครงการคอนโด Low rise เพียงโครงการเดียวที่ให้มากถึงขนาดนี้

หรือแม้กระทั่งการเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ตกแต่งห้องที่เป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น ชุดสุขภัณฑ์ของ Villeroy & Bach สัญชาติเยอรมัน รวมถึงกระเบื้อหินอ่อนนำเข้าจากอิตาลี

Craft Ploenchit ดูแล้วน่าจะเหมาะกับผู้ซื้อคอนโดที่มีรสนิยมอันหรูหรา และให้ความสำคัญกับการเลือกใช้ของที่มีสไตล์ บ่งบอกถึงภาพลักษณ์อันสง่างาม การที่โครงการเลือกที่จะทำห้องให้มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ (มียูนิตขนาด 2 ห้องนอนใหญ่ – 3 ห้องนอนหลายขนาดให้เลือก) สำหรับคอนโดในยุคปัจจุบันน่าจะเป็นคำตอบได้ดี และก็เป็น supply ที่หาห้องใหม่ได้ค่อนข้างยากในทำเลเพลินจิต

ในปีนี้ทำเลเพลินจิตกำลังจะมี supply คอนโดใหม่ขึ้นมาอีก 2 โครงการ โครงการหนึ่งอยู่เลยไปทางสุดถนนวิทยุฝั่งเพชรบุรี และอีกโครงการหนึ่งอยู่บริเวณปากซอยนายเลิศฝั่งเพลินจิต ซึ่งเป็นที่คาดการณ์กันว่าราคาขายของโครงการนี้น่าจะเกินกว่าตรม.ละสองแสนกลางอย่างแน่นอน นอกจากนี้ บริเวณถนนวิทยุก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเมื่อกลุ่มรพ.กรุงเทพ (BDMS) ได้เข้าซื้อที่ดินบางส่วนของกลุ่มโรงแรมปาร์คนายเลิศ เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (BDMS Wellness Clinic) ภายใต้มูลค่าการลงทุนกว่า 12,800 ล้านบาท ซึ่งก็แน่นอนว่าคงจะช่วยทำให้ย่านเพลินจิต-วิทยุ พัฒนาขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง และเพิ่มมิติของการอยู่อาศัยได้เป็นอย่างมาก ให้กับโครงการที่อยู่ในย่านนี้….ด้วยเหตุนี้ Craft Ploenchit ที่มีระยะห่างกันเพียงแค่ 190 เมตร และมีราคาต่อตารางเมตร โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 200,000 บาท ซึ่งราคาโปรโมชั่นตอนนี้ แถมเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวตามห้องตัวอย่าง ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดูสมเหตุสมผล และอาจจะเหมาะสมมากสำหรับคนที่ชอบอยู่อย่างสงบ ในบรรยากาศคอนโด Low rise Luxury ที่ดีที่สุดในซอยนายเลิศ

***ตอนนี้โครงการผ่าน EIA เรียบร้อยและเริ่มก่อสร้างตั้งเสาเอก ไปเมื่อวัน 24 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมาแล้วครับ***