5 คอนโดติดห้างขายหมด 100% รีเซลกระฉูด

เกริก บุณยโยธิน 18 January, 2016 at 23.13 pm

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


ในยุคที่ไปไหนมาไหนก็สะดวกขึ้น เพราะมีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านรอบเมือง ในอนาคตคอนโดใกล้รถไฟฟ้าก็อาจจะไม่ใช้จุดขายหลักแล้ว เพราะรถไฟฟ้าในกทม. ก็ปาเข้าไปสองร้อยกว่าสถานีแล้ว ตัวเลือกทดแทนมีเต็มไปหมดจนนับจำนวนยูนิตไม่ไหว…แล้วถ้าคอนโดติดรถไฟฟ้าไม่ใช่จุดขายหลักแล้ว คอนโดแบบไหนล่ะที่น่าจะเป็นที่นิยมในอนาคต หลายคนบอกว่าก็คงจะเป็นคอนเซปท์คอนโด ที่เน้นจับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะตัวมั้ง หรือไม่ก็เป็นคอนโดที่เน้นส่วนกลางใหญ่ๆเพิ่มความหลากหลายในการใช้งาน

แต่เนื่องจากคอนโดเป็นอสังหาฯที่ไม่ว่ายังไง ทำเลก็เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการชี้เป็นชี้ตายว่า ในอนาคตราคามันจะขึ้นหรือจะลง…ดังนั้นหากไม่ใช่คอนโดติดรถไฟฟ้าแล้ว ทำเลที่น่าจะดูดีในสายตาผมก็คงจะเป็นติดแม่น้ำ หรือไม่ก็ติดช้อปปิ้งมอลล์ + รถไฟฟ้าล่ะฮะ แต่เนื่องจากคอนโดติดแม่น้ำที่ผมให้เป็นเกรด S นั้นมีน้อยมากเหลือเกิน วันนี้ก็เลยอยากจะแนะนำคอนโดติดช้อปปิ้งมอลล์และใกล้รถไฟฟ้าด้วย ที่แม้ว่าจะขายดีจนหมดเกลี้ยงไปแล้ว แต่กระแสรีเซลก็ยังมีเข้ามาเรื่อยๆไม่หยุดดีกว่าครับ

อันดับที่ 1: Klass Langsuan

1 เมตรจาก The Portico หลังสวน และ 200 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้าชิดลม

คอนโด Low rise ดีไซน์เก๋ ทำเลเยี่ยมจากกลุ่ม Klass Realty ที่หลายๆคนกล่าวขานกันว่าเป็นดีเวลลอปเปอร์ที่สร้างสรรค์ผลงาน คอนโดเกรดไฮเอนท์ได้คุ้มราคาที่สุด โดย Klass Langsuan เป็นคอนโดลำดับที่สองต่อจาก Klass Silom… สร้างความฮือฮาเมื่อครั้งเปิดตัว ราวๆสองปีครึ่งที่แล้ว ด้วยราคาต่อตรม.ที่ 180K – 195K ถือว่าเป็นคอนโด Low rise ยุคแรกๆที่มีราคาแตะหลักตารางเมตรละเกือบสองแสนบาท แต่ด้วยพลานุภาพของผู้ปกครองโรงเรียนมาแตร์ และเซ็นทรัลชิดลม (รวมถึง The Portico ด้วยนะ)  ทำให้คอนโดขนาด 110 ยูนิตแห่งนี้ ขายหมดไปด้วยระยะเวลาอันสั้น

จุดเด่นของ Klass Langsuan นี้ นอกจากจะเป็นในเรื่องของทำเล ที่สามารถเดินทะลุมาได้ถึงสามห้าง ไล่ตั้งแต่ เซ็นทรัล ชิดลม เมอร์คิวรี่ วิลล์ และ The Portico ก็คงจะเป็นในเรื่องของดีไซน์ที่หรูหรา และเลย์เอ้าท์ห้องที่ตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัย เพราะมีให้เลือกตั้งแต่ 1 ห้องนอนขนาด 34 – 49 ตรม. 2 นอนขนาด 61 – 74 ตรม. 3 นอนขนาด 118 ตรม. ไปจนถึงห้องดูเพล็กซ์ขนาด 106 ตรม. ที่จัดวางอยู่บนชั้น 1-2 ช่วยให้เจ้าของห้องรู้สึกเหมือนมีส่วนส่วนตัวอยู่หน้าห้อง

ในเรื่องของราคารีเซลก็หายห่วง เพราะตั้งแต่โครงการเปิดขายยันตอนนี้สร้างจะเสร็จแล้ว ราคาดีดตัวขึ้นไปถึงตรม.ละ 225,000 บาท แถมเจ้าของห้องก็ไม่ค่อยอยากขายกัน โดยเฉพาะห้อง 3 นอน ถึงดูเพล็กซ์ ว่ากันว่าจะขอบวกกันที สองล้านกว่าถึงสามล้าน (สงสัยมองว่าเก็บไว้ปล่อยเช่าเป็นโฮมออฟฟิศได้ ฮา) ยิ่งไปกว่านั้นการมาของ Nimit, Langsuan Village และศิษย์น้องอย่าง Klass Sarasin ก็ยิ่งทำให้ราคาของ Klass Langsuan กลายเป็นของถูก หายากในปัจจุบันไปเลยครับ

ex_04 in_05

อันดับที่ 2: The Address Sukhumvit 61

1 เมตรจาก Park lane เอกมัย, 170 เมตรจาก Major Cineplex เอกมัย และ 470 เมตรจาก BTS เอกมัย

แบรนด์ The Address เป็นเคยเป็นแบรนด์คอนโดที่ดีที่สุดของเอพี ก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วย Galerie Rue De โดย The Address Sukhumvit 61 เป็นโปรดักส์ไลน์สุดท้ายของแบรนด์นี้ ก่อนหายไปจากตลาดเมื่อราวๆสี่-ห้าปีมาแล้ว ความโดดเด่นของ The Address Sukhumvit 61 ก็คงจะเป็นความหรูหราในการออกแบบทั้งภายนอก และภายใน นอกจากนี้ การให้เฟอร์นิเจอร์บิวด์อินครบ ต้นตำรับ sexy bathroom กระจกทั้งห้องจากพื้นจรดฝ้า ตามสไตล์ของคอนโดเอพีเมื่อก่อน นับเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งในยุคปัจจุบัน ด้วยการที่แบรนด์ The Address ไม่ได้ขายความเป็นโลเคชั่นที่ติดรถไฟฟ้าแบบระยะประชิดเหมือนกับแบรนด์อื่นๆ แต่กลับขาย emotional ที่สะท้อนถึงตัวตนของผู้อยู่อาศัย โดยที่นี่คุณจะได้เสพศิลปะความงามในแบบ Modern Oriental ภายใต้แนวคิด Legendary Thai ที่คงความเป็นส่วนตัว ในบรรยากาศหรูหรา… งดงามด้วยเส้นสายฉลุ และระฆังสีทองอร่ามตา

คอนโดขนาด 99 ยูนิตพร้อมที่จอดรถ 70 คันแห่งนี้ มีห้องขนาด 1 ห้องนอนที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ โดยมีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 41.5 – 61.5 และยังมียูนิตสองห้องนอนขนาดใหญ่สุดถึง 109.75 ตรม. ทำให้โครงการประสบปัญหาในการขายพอสมควร กว่าจะขายได้หมดตึกก็หลังตึกเสร็จประมาณ 6 เดือน ด้วยกลยุทธ์ one price ตารางเมตรละ 120,000 บาท เล่นเอาคนซื้อมือแรกในราคาตรมละ 140,000 ถึงกับช้อคตาตั้ง!!! ยังดีที่ผู้ซื้อมือแรกหลายคนอยากอยู่เอง หรือไม่ก็เปล่าเช่ากลุ่มคนญี่ปุ่นมากกว่า จึงทำให้ผู้ซื้อที่ดันไปซื้อที่หลัง ได้โอกาสกวาดห้องราคาตารางเมตรละแสนสองมาไว้ในอ้อมอก ราวกับถูกหวยรางวัลที่หนึ่งก็ไม่ปาน สะเด่าไปเลยอีน้อง…สามปีถัดมาโครงการก็พิสูจน์ให้เห็นว่าทำเลนี้ ของแบบนี้ไม่ใช่ได้มาง่ายๆนะเว้ยเห้ย ทำให้ราคาขายรีเซลตอนนี้พุ่งเป็นขีปนาวุธเกาหลีเหนือ ขายกันเฉลี่ยตรม.ละ 176 – 180K กันเลยทีเดียว แถมห้องไม่ค่อยจะมีให้ซื้อด้วยนะ ปล่อยเช่ากันหมด

l12 l15 l19

อันดับที่ 3: Ashton Asoke

15 เมตรจาก Terminal 21 (นับแค่ระยะตึกชนตึกนะจ๊ะ) 20 เมตรจาก MRT สุขุมวิท

ถ้าถามผมว่าคอนโดไหนที่ทำลายสถิติการขายรีเซลได้ไว และกำไรดีที่สุด Ashton Asoke ก็น่าจะติดอันดับต้นๆอย่างไม่ต้องสงสัยครับ สาเหตุสำคัญก็เพราะว่าโครงการนี้มีเงินเพียงอย่างเดียวก็ยากที่จะซื้อ ต้องมีคอนเนคชั่นระดับ VVIP ถึงจะมีโอกาสจับจองเป็นเจ้าของ ด้วยการที่ตัวตึกมันสลิมเหลือเกิน ทำให้ห้องแทบจะทุกห้องมีศักดิ์ศรีแทบจะเท่าเทียมกันหมด ยกเว้นบางห้องที่ได้เปรียบตรงกระจกโค้งบานใหญ่ ดูแกรนด์ เป็นที่ฮือฮามากเมื่อสองปีก่อน ตัวผมเองได้มีโอกาสเป็นเจ้าของมาหนึ่งห้องและก็ทำสถิติปล่อยขายได้เร็วที่สุดในชีวิตคือเพียงแค่ 20 นาทีเท่านั้น ว่ากันว่าวันนั้น AMC ส่วนใหญ่เกิดอาการหงุดหงิด ขี้เกียจรอต่อคิวที่มีโควต้ามาเพียงแค่วันละชั้น สองชั้น แถมราคาก็แพงสลับถูก มึนงงไปหมด ก็เลยทนไม่ไหวเดิน เชิด ออกจากคิวไปซื้อของรีเซลที่บูธดิ เอเจนท์ กันหน้าตาเฉย โดยไม่รอดูราคาห้องโครงการ คืนกำไรให้ลูกค้ามือแรก แสนห้าถึงสองแสน สำหรับห้องหนึ่งนอน และสูงถึงห้าแสนสำหรับห้องสองนอนกระจกโค้ง (วิวฟู้ดคอร์ท กับโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์พอยท์ เนี่ยนะคุณพี่) 

แต่แล้วด้วยจำนวนยูนิต 783 ยูนิต และที่จอดรถ 371 คัน ที่เหมือนจะเกินขอบเขตของคอนโดระดับ ultra luxury ไปนิดนึง ประกอบกันคนซื้อมือหนึ่งส่วนใหญ่ เป็นคนซื้อลงทุน ซื้อกันทีละหลายห้อง บางคนเหมายกชั้น บางคนต้องซื้อพ่วงกับโครงการอื่นๆ และมีอีกจำนวนหนึ่งที่เป็นผู้ซื้อต่างชาติ ทำให้ยอดขายรีเซล ณ ปัจจุบัน ไม่หวือหวา แต่ก็มีทิศทางที่ไหลไปได้เรื่อยๆตั้งแต่การเปิดตัวเซลล์แกลลอรีที่โครงการ โดยราคาขายปัจจุบันอยู่ที่ระดับตารางเมตรละสองแสนเจ็ดขึ้นไป จากราคาเริ่มต้นที่ตารางเมตรละสองแสนกลางๆ ผมว่าใครที่ถือห้องโซนสูงของที่นี่น่าจะถือไว้ยาวๆได้เนื่องจากได้เปรียบในเรื่องราคาที่มาจากการซื้อเหมาชั้น และกำลังซื้อของสิงค์โปร์และฮ่องกง ที่มองว่ายังไงที่นี่ก็คือสุดยอดโครงการทำเลเยี่ยม ที่ใกล้ Terminal 21 ที่ดังมากในหมู่คนจีน มากที่สุดครับ

exterior-01 exterior-02 interior-02

อันดับที่ 4: CU Terrace (ระเบียงจามจุรี)

6 เมตรจาก I’m Park และ ZY Walk สามย่าน 1 กิโลเมตรจาก BTS สนามกีฬาแห่งชาติ และ MRT สามย่าน

คอนโดจากสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ แห่งนี้ แบ่งออกเป็นสองอาคารภายในพื้นที่เดียวกัน โดยอาคารที่เป็นคอนโดจะเรียกว่า CU Terrace หรือระเบียงจามจุรี จะมีห้องแบบ 1-2 ห้องนอน ขนาดห้องพักประมาณ 28 – 55 ตร.ม. จำนวน 510 ยูนิต สูง 22 ชั้น และอาคารหอพักนิสิตนานาชาติ เรือนวิรัชมิตร (CU i HOUSE)  ขนาดห้องพักประมาณ 24 ตร.ม. จำนวน 846 ยูนิต สูง 26 ชั้น

CU Terrace นับว่าเป็นคอนโดแห่งแรกๆในกทม.ที่นำแนวคิดประหยัดพลังงานมาใช้ในการออกแบบ ก่อสร้างจริง โดยอาศัยหลักการออกแบบอาคารให้เหมาะสมกับภูมิอากาศ (Climatic Design) พึ่งพาระบบธรรมชาติ (Passive Design) เข้ามาแก้ไขปัญหาก่อนอย่างมีประสิทธิภาพก่อนใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลือง

ที่พักอาศัยทั้งหมดถูกออกแบบให้หันไปสู่ทิศเหนือและทิศใต้ เพื่อกันความร้อนให้กับส่วนพักอาศัย จากการวางอาคารที่ถูกทิศทาง การออกแบบระเบียงหรือติดตั้งแผงกันแดดเพื่อช่วยป้องกันความร้อน จากแสงแดดที่มาจากทิศเหนือและทิศใต้ จะให้ประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันความร้อนเข้าสู่อาคาร นอกจากนี้ยังมีการออกแบบระบบระบายอากาศให้สามารถปรับเย็นตามธรรมชาติ(Passive Cooling) ได้ประโยชน์จากความเป็น อาคารขนาดใหญ่และสูงให้เกิดความแตกต่างระหว่างแรงกดอากาศสูงและต่ำมากกว่าอาคารขนาดเล็กทั่วไป

ราคาเมื่อตอนเปิดตัว 5 ปีที่แล้วอยู่ที่ราวๆตารางเมตรละ 60,000 บาทเท่านั้น โดยห้องขนาดเล็กสุดคือ 28 ตารางเมตรจะมีราคาประมาณ 1.69 ล้านบาท เป็นคอนโด leasehold เพียงแค่แห่งเดียวที่สร้างปรากฎการณ์แย่งกันซื้อ แต่ไม่ได้ห้อง อยากได้ก็ต้องไปซื้อต่อจาก VVIP และยังทำสถิติคอนโด leasehold ที่ราคาพุ่งสวนธรรมชาติ คือราคาตอนนี้ขายกันเกินตรม.ละ 1 แสนบาท แต่ก็ไม่คณามือกลุ่มผู้ปกครองเด็กสาธิตฯ ที่จำต้องกลั้นใจซื้อเพื่ออนาคตอันสบาย สุดติ่งของลูกหลาน อันเป็นที่รัก แถมราคาปล่อยเช่าก็ฮาร์ดคอร์ไม่ใช่เล่น สองห้องนอนปล่อยเช่ากันเดือนละ 30,000 บาท หนึ่งห้องนอน 15,000 – 16,000 ต่อเดือน บระเจ้า!!! ซื้อมาล้านเจ็ดปล่อยเช่าได้หมื่นหก นี่มันสุดยอดเบญจภาคีชัดๆ ที่สำคัญหากนิสิตอยู่กันเยอะในห้องเดียวเก็บราคาเพิ่มได้อีกแหน่ะ ส่วนคนซื้อต่อก็ภาวนาให้ลูกตัวเองเรียนจบเร็วๆจะได้รีบขายพอทำกำไรได้ เฮ้ย นี่มันคอนโด lease hold รึเปล่าเนี่ยยยย

20151228_202418 20151228_210122 20151231_150215

อันดับที่ 5: The XXXIX 

200 เมตรจาก Emquartier (แต่รั้วแนบชิดติดกัน) 250 เมตรจาก BTS พร้อมพงษ์

ไม่พูดถึงคงจะไม่ได้ The XXXIX เป็นหนึ่งในไม่กี่คอนโด collection หลังๆของแสนสิริ ที่ยังไงก็ไม่มีทางมาร่วมโปรฯแซบ เผ็ด ร้อน แน่ๆ นับจากโครงการ Pyne และ HQ เหล่าแฟนคลับของแสนสิริก็ตั้งอกตั้งใจรอคอยคอนโดระดับ ultra luxury โครงการนี้มาก ด้วยความหวังที่จะทำกำไรได้ไม่แพ้สองโครงการข้างต้น ซึ่ง The XXXIX ก็ทำหน้าที่ของมันได้อย่างดีเยี่ยม

จากแนวคิดการออกแบบสถาปัตยกรรมเป็นแบบ Modern Contemporary ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Timeless Luxury” ที่สื่อถึงความเรียบหรู โดยได้แรงบันดาลใจมาจากยุค Art Deco ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในย่าน Upper East Side ในแมนฮัตตัน จึงทำให้ทุกรายละเอียดของโครงการ THE XXXIX คืองานสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าที่ไม่เพียงแต่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ หากแต่ยังส่งเสริมคุณค่าทางด้านจิตใจต่อผู้คน และที่สำคัญ เป็นงานที่อยู่เหนือเทรนด์ใดๆ เพราะ Timeless Living คืองานที่สะท้อนคุณค่าอันเป็นนิรันดร์

screen-shot-2555-10-19-at-2.17.30-pm

Podium อันโอ่อ่าและหรูหรา ซึ่งทำจากหิน Sandstone ที่สะท้อนถึงสไตล์แบบ “Classical Modern New York” ให้ความรู้สึกหรูหรา สง่างาม และคลาสสิค ตัวอาคารภายนอกสูงสง่าและโดดเด่นอย่างลงตัวแบบสมมาตร (Symmetry Balance) ด้วยวัสุดหิน Sandstone จริงขนาดใหญ่สูงถึง 6 ชั้น ตกแต่งด้วย Aluminum Panel แผงใหญ่สี Champagne Gold ควบคู่กับ Decorative Lighting ทำให้ดูมีมิติ โดดเด่นและหรูหราสง่างาม ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน

ที่มา: www.sansiri.com

โครงการ The XXXIX เปิดตัวขายด้วยราคาแพงเป็นสถิติของแสนสิริ โดยคอนโดจำนวน 178 ยูนิตแห่งนี้ มีราคาเริ่มต้นตรม.ละแสนเก้า ด้วยห้องขนาด 50 – 323 ตารางเมตร เปิดขายตั้งแต่ตอนที่ Emquartier ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง แต่ก็ปิดการขายได้ในเวลาเพียงแค่ 2 วัน โดยไม่จำเป็นต้องไปโรดโชว์ถึงฮ่องกง ถึงตอนนี้ได้เวลาที่ทั่วโลกล้วนจับจ้องมายัง The Em District ขณะที่คอนโดรอบข้างต่างก็ขยับราคาไปตารางเมตรสองแสนปลายถึงสามแสนกว่ากันแล้ว ทำให้ผูัที่ “ทนรวย” หลายรายที่ยังถือห้องอยู่ เฝ้ารอคอยที่จะปล่อยห้องต่อในราคา new high ของตัวเอง

โดยตอนนี้ตัวแทนขายรีเซลอย่างเป็นทางการของแสนสิริ อย่างพลัส ก็ยังจนปัญญาในการหาห้องถูกกว่าตรมละสองแสนห้า ถ้าไม่ใช่ห้องติดบล๊อค ถ้าใครมีขายก็ช่วยชี้เป้าหน่อยเถอะครับ จะเป็นพระคุณ

7l

xxxix

ยังมีคอนโดติดห้าง ใกล้รถไฟฟ้าอีกหลายแห่งครับ ที่ผมไม่ได้เอามาลง เพราะมองว่าบางแห่งยังเหลือขายอยู่ และบางแห่งราคารีเซลก็ไม่ได้ปรับตัวขึ้นสูงมากนัก ส่วนใหญ่แล้วก็เพราะว่าอยู่ใกล้ห้างที่ยังไม่สร้าง หรือไม่ใช่ห้างระดับ magnet เท่าไหร่ และด้วยราคาที่สูงเกินว่าที่คนทั่วไปจะซื้อได้ล่วงหน้านานๆ ทำให้ absorption ค่อนข้างจะช้า ไม่ว่าจะเป็นโครงการ The Sky Sukhumvit, Tela Thonglor, Whizdom 101, The Tempo One, Hasu Haus, Rhythm Rangnam, Grand Belle หรือ Rhythm Sukhumvit 42 โครงการเหล่านี้ มีทำเลที่เป็นต่อทั้งนั้น ผมเชื่อว่าดูดีมีอนาคตหมดครับ อยู่ที่ว่าตัวดีเวลลอปเปอร์เองจะทำให้คนซื้อเชื่อมั่นว่าได้ของมีคุณภาพ สมราคาหรือเปล่า เท่านั้นเองครับ

อ้อ เกือบลืม ในตลาดต่างจังหวัดก็เริ่มมีห้างมาทำคอนโดอย่าง CPN Residences แล้วนะครับ ได้ข่าวว่าขายดีไม่ใช่ย่อย นี่ถ้าทาง CPN ติดใจ มาเปิดข้างๆ CTW หรือ Central Chidlom ก็คงจะดีไม่ใช่น้อยครับ

เกริก บุณยโยธิน

เกริก บุณยโยธิน

ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ

เว็บไซต์

ศุภาลัย พรีเมียร์ สามเสน-ราชวัตร

โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์

นิว เวิร์ส กรุงเทพกรีฑา

ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาต้องบอกว่าย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม...

28 February, 2024

นิว ซี-สแควร์ สวนหลวง สเตชั่น

ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านมาพบกับโครงการคอนโดพร้อมอ...

30 January, 2024

ริธึ่ม เจริญนคร ไอคอนิค

วันนี้จะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับคอนโดมิเนียมสุดฮอตชื่อโ...

29 January, 2024

วิสซ์ดอม คราฟท์ สามย่าน

Whizdom Craftz Samyan คือโครงการที่มอบ 5 องค์ประกอบพ...

4 December, 2023

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง