พบกับโครงการที่เป็นที่สุดของสุขุมวิท 61 กับ The Reserve 61 Hideaway

ถ้ากล่าวถึงย่านที่มีคอนโดหรูตั้งแต่ระดับ High End จนถึง Super Luxury ขึ้นอย่างหนาแน่นในกรุงเทพฯ ก็คงหนีไม่พ้นย่านทองหล่อ-เอกมัย เพราะเป็นย่านที่เพียบพร้อม รายล้อมด้วยแหล่ง Lifestyle & Residential ทั้งร้านอาหาร ผับ บาร์, Neighborhood Mall ขนาดกลางหลายแห่ง, ร้านค้าระดับ Flagship Store, เซอร์วิส อพาร์ทเมนท์, โรงพยาบาล ไปจนถึงโรงเรียนนานาชาติ และเมื่อไม่นานมานี้ หลายคนคงเคยเห็น และอาจได้จับจองเป็นเจ้าของกันไปแล้วกับคอนโดใจกลางทองหล่อ เอกมัย ที่แตกต่างด้วยทำเลอันแสนสงบ อย่าง The Reserve Sukhumvit 61 (เดอะ รีเซิร์ฟ สุขุมวิท 61) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นโครงการที่หรูที่สุดและแพงที่สุดของสุขุมวิท 61 แถมยังขายดีจน Sold Out ไปแล้ว จนพฤกษาฯต้องเปิดตัวโครงการต่อมาที่มาพร้อมกับคอนเซปท์ Hideaway ที่สื่อถึงชีวิตพักผ่อนที่ไม่วุ่นวาย ตัดขาดจากโลกภายนอก ได้ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและส่วนกลางขนาดใหญ่ ซึ่งใหญ่ที่สุดในสุขุมวิท 61 กับโครงการ The Reserve 61 Hideaway (เดอะ รีเซิร์ฟ 61 ไฮด์อะเวย์)

ที่ยังคงเน้นกลุ่มลูกค้ากระเป๋าหนักทั้งไทยและต่างชาติ ที่ชื่นชอบสีสันของย่านทองหล่อ เอกมัย แต่ได้ใช้ชีวิตแสนสงบ ตัดขาดความวุ่นวายของเส้นสุขุมวิท และรายล้อมด้วยเพื่อนบ้านที่เป็นย่านแห่งการพักอาศัยที่แท้จริง

แม้จะมีทางเข้าออกจากถนนหลักสุขุมวิท 61 และเอกมัยซอย 1 เป็นถนนย่อย The Reserve ที่เชื่อมต่อทั้ง 2 โครงการได้อย่างลงตัว แต่ก็ไม่รบกวนซึ่งกันและกัน เพราะ The Reserve 61 Hideaway มากับพื้นที่คอร์ทส่วนกลางขนาดใหญ่ ที่รายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ ที่เป็นทั้งพื้นที่พักผ่อน และเป็น Buffer Zone เพราะการวางตัวอาคารแบบ U shape ที่ดันพื้นที่ตัวอาคาร ไปอยู่ด้านในสุดของแปลงที่ดิน ทำให้มีพื้นที่คอร์ทส่วนกลาง ส่วนตัว ที่สามารถเห็นได้จากทุกมุมของโครงการ รวมทั้งยัง private และคำนึงถึงมุมมองของโครงการเก่าอีกด้วย ที่น่าจะได้ผลพวงจากโครงการใหม่ เพราะไม่ได้เห็นในระยะประชิด แต่กลายเป็นเห็นพื้นที่ส่วนกลางที่มีทัศนียภาพอันงดงาม เป็น oasis ใจกลางทั้ง 2 โครงการ

ซึ่งประกอบด้วย facilities ครบครันมากมายแบบ TRIPLE FACILITY คือเชื่อม ตั้งแต่โถง Lobby ที่ชั้น G ที่เปิดโล่งด้วยบานกระจกสูง 6 เมตร ที่สามารถ take view พื้นที่สวน พื้นที่น้ำ และพื้นที่โดยรอบได้มุมมองที่เปิดกว้างมากที่สุด เสมือนได้ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติในทุกๆวัน

จากโถง lobby สามารถมองเห็นสระน้ำ INFINITE POOL ที่ยาวต่อกันเป็น Loop กว่า 144 เมตร แบ่งเป็นพื้นที่สระที่ว่ายได้ประมาณ 90 เมตรติดตัวอาคาร

ตรงกลางคือ HIDEAWAY GARDEN เป็น pocket seat เล่นระดับ ที่รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวจำนวนมาก ให้เหมือนได้เป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติ ไม่ว่าจะพักผ่อนอยู่ในห้องของตัวเอง หรือใช้พื้นที่ส่วนกลาง (Outside-in) อีกทั้ง HIDEAWAY GARDENนี้เชื่อมต่อกับพื้นที่ facilities ที่ชั้นใต้ดิน

ที่มีทั้ง PRIVATE SALON & SPA ,Private Steam และ Private Sauna ให้มาอย่างละ 2 ห้อง พร้อมกับ WELLNESS RETREAT & ONSEN บ่อ Onsen มีทั้งบ่อน้ำร้อนและน้ำเย็น ในตัวสำหรับห้องทั้งชายและหญิง

ส่วนพื้นที่ชั้นใต้ดินเชื่อมต่อกับ พื้นที่จอดรถรองรับ Basement ระบบ conventional 100% ของจำนวนยูนิต ที่ออกแบบเส้นทางเข้าออกกดลงใต้ดินตั้งแต่ออกจากพื้นที่ drop off area ที่โถง lobby

ตัวอาคารแบ่งเป็น 2 อาคาร แต่มีทางเชื่อมระหว่างอาคารที่ชั้น 3 (Pathway on 3^rd )ที่เชื่อมต่อ The Reserve Lounge และ Fitness suite ให้สะดวกต่อการใช้งานร่วมกันทั้ง 2  อาคาร 

ห้อง FITNESS SUITE, THE RESERVE LOUNGE ที่เป็น Corner Area เป็นมุมมองให้ทุกคนมา enjoy พื้นที่ใช้งาน สุด private เฉพาะคุณ

ส่วนตัวอาคารภายนอกใช้หิน lime stone เป็นหินตะกอนที่มีความคงทนและมีลวดลายสวยงาม สีของหินจะไม่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา เรียกได้ว่าเป็น Classic material ที่ไม่ต้องปรุงแต่ง โดดเด่นด้วยความสวยงามของตัวเอง และยังเข้ากับพื้นที่ของการพักผ่อน เหมือนได้พักผ่อนอยู่ในรีสอร์ทหรู ท่ามกลางธรรมชาติในทุกๆวัน

และรูปแบบห้องก็เหมือนยกโรงแรม 5 ดาวมาอยู่ใจกลางเมือง เพราะการออกแบบห้องที่มีให้เลือกหลากหลายอารมณ์ โดยเน้นห้องหน้ากว้าง ให้ได้เปิดรับธรรมชาติ ผ่อนคลายกับพื้นที่สีเขียวภายนอกได้เต็มที่ กว่า 164 unit บนพื้นที่กว้างถึง 3-2-60 ไร่ 2 อาคารสูง 7 ชั้น โดยมีทั้งห้องวิวสระ ห้องวิวสวน ห้อง garden access ห้อง private garden และห้องกระจกโค้งยื่นจากตัวอาคาร ให้ได้เลือกตามความชอบแต่ละคน ตั้งแต่ห้อง size เล็ก 1 BEDROOM 48.42 – 63 Sq.m. 2 BEDROOMS 66 – 126 sq.m. 3 BEDROOMS ที่มีเพียง 3 ห้องเท่านั้น ขนาด 158 sq.m. และห้อง Penthouse แบบ Duplex Pool Access ขนาด 138.03 ตรม. และ Penthouse TRIPLEX ขนาด 206 – 228 sq.m. ที่มี 3 ชั้น คือมีที่จอดรถส่วนตัว ห้องMaid ที่ชั้นใต้ดิน ห้อง duplex pool access , duplex garden access แถมพื้นที่ห้องน้ำสำหรับ ห้องที่มีขนาดมากกว่า 100 ตรม.จะได้อ่างล้างหน้า และห้องน้ำ walk-in แบบโรงแรมห้าดาว ในห้อง master bathroom อีกด้วย

เหมือนกับที่ตกแต่งในห้องตัวอย่าง 2 bedroom 2 bathroom ขนาด 121.36 Sq.m. Type C18

ประตูห้องเป็นบานไม้สูง 2.4 m กว้าง 1.4 m แบ่งเปิด 2 ด้าน โครงการให้ Digital door lock ของ Yale

ด้านข้างประตูมีช่องใส่จดหมาย เพราะโครงการมี Concierge by The Reserve บริการส่งจดหมายให้ถึงห้อง จึงไม่จำเป็นต้องมี Mailroom

แต่ถ้าหากผู้อยู่อาศัยอยากจะสั่งสินค้าหรือ Shopping Online ทางโครงการก็มีบริการ Smart locker รวมทั้งภายในห้องรองรับระบบ Home automation และ vdo door phone

ภายในห้องสูงถึง 2.7 m เกินมาตรฐานคอนโด low rise ที่สามารถออกแบบได้ รวมทั้งให้แอร์ concealed type ภายในเป็นห้องหน้ากว้าง

พื้นห้องปูด้วย Engineered wood ซึ่งผิวหน้าเป็นพื้นไม้จริง โดยมีปรับคุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ของ Texture เพื่อ รักษาสภาพผิวไม้ ไว้ไม่ให้ไม้บวมเหมือนไม้ธรรมดาปกติ และยังทำให้ลดเสียงไม้ลงเวลาคนเดินอีกด้วย

โดยพื้นไม้จะปูเป็นลายก้างปลาเป็นลายพื้นที่มีมาตั้งแต่ยุคคลาสสิคซึ่งเป็นลายที่นิยมใช้ในวังเช่นพระราชวังแวร์ซายเนื่องจากต้องใช้ความพิถีพิถันในการปูเป็นอย่างมาก

ตัวห้องแบ่งเป็นพื้นที่ 3 ส่วนหลักๆ คือ พื้นที่ living area และครัว ที่ด้านหน้าติดทางเข้า และเป็นพื้นที่กลางเชื่อมห้องนอนที่ปีกซ้ายและขวาของห้อง

เริ่มที่พื้นที่ living area เมื่อเปิดประตูเข้ามา จะพบกับพื้นที่ครัวเปิดอยู่ขวามือ และห้อง laundry ที่ด้านซ้าย

ภายในห้อง โครงการใช้ชั้น built-in สำหรับวางเครื่องซักผ้า ในห้อง Utility

และอุปกรณ์ซักรีดได้อย่างเป็นสัดส่วน

ที่ผนังด้านหน้า โครงการ built-in ชั้นวางรองเท้า ที่เก็บเรียบไปกับผนังห้องได้อย่างเป็นระเบียบ

ส่วนพื้นที่ครัวอยู่ที่ด้านขวา

โครงการให้ครัว built-in เป็นชุดครัวของ Gorenje by philippe Starck

ในส่วนของ Island Kitchen ด้านบนจะเป็นหิน Quartz ลาย Turbine Grey และด้านข้างจะใช้เป็นหิน Black Forest ซึ่งเป็นหินธรรมชาติทั้งหมด

เป็นชุดครัว built-in เต็มผนัง โดยเว้นที่วางตู้เย็นไว้ที่ด้านขวา

โครงการให้ชั้นวางอุปกรณ์ทำครัวทั้งด้านบนและด้านล่างเคาท์เตอร์

ด้านบนเป็นที่ดูดควัน gorenje ที่ design by Phillipe Starck สามารถปรับมุมองศาการใช้งานได้ และในเวลาปกติจะเปลี่ยนเป็นที่ฟอกอากาศอัตโนมัติ

ด้านล่างมี Combi Oven ของ gorenje by Phillipe Starck เช่นกัน

ที่เคาท์เตอร์ โครงการให้เตาไฟฟ้า 4 หัวของ ฝังเรียบไปกับพื้นเคาท์เตอร์

พร้อมชั้นและลิ้นชักเก็บอุปกรณ์ทำครัว

ตรงข้ามเคาท์เตอร์เป็น island ให้อ่างล้างจานฝังเคาท์เตอร์

พร้อม ก๊อกแบบ Touch Series คือ เป็นก๊อกที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานจริง เนื่องจากเวลาล้างจานมือจะเลอะฟองหรือเศษอาหารตอนทำอาหาร ซึ่งเราสามารถใช้หลังมือหรือส่วนอื่นๆที่ไม่เลอะสัมผัสก๊อกเพื่อเปิด ปิดน้ำได้ เพียงแค่สัมผัส

พร้อมที่คว่ำจานที่มีระบบรองรับการไหลของน้ำหลังล้างเสร็จ

และออกแบบให้มีพื้นที่จัดวางอุปกรณ์ใช้งานที่ด้านล่าง

ด้านล่างอ่างล้างจาน มี Food waste disposal

เครื่องบดเศษอาหารซึ่งจะช่วยให้การกำจัดเศษอาหารง่ายขึ้นแล้วยังลดการอุดตันของท่อน้ำทิ้งได้อีกด้วย

ปลายสุดเคาท์เตอร์ครัวเป็นห้องน้ำเล็ก

ภายในห้องน้ำ โครงการให้อ่างล้างหน้าแบบลอยตัวที่ด้านซ้ายเต็มแนวผนัง พร้อมกระจกบานใหญ่

ส่วนที่ด้านขวา เป็นเป็นที่ตั้งโถสุขภัณฑ์

ถัดจากครัว ด้านใน ติดหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ เป็นตำแหน่งวางชุดโซฟาริมหน้าต่างบานโค้ง เข้ามุม

สามารถวางชุดโซฟาสำหรับ 5-6 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางตัวใหญ่ได้

ติดกันเป็นระเบียง indoor ขนาดใหญ่ Hideaway terrace ที่โดดเด่นด้วยกระจกเข้ามุมบานโค้ง สามารถเปิดรับลม รับแสงได้ แต่ก็สามารถปิด เปิดแอร์ ใช้งานได้เช่นกัน เป็นเสมือนระเบียงขนาดใหญ่และ multi function room ด้วยเช่นกัน

ถ้าเป็น unit type ที่เป็น garden access บริเวณนี้จะเป็นประตูเปิดเชื่อมออกสู่สวนภายนอก

ที่พื้นที่นี้ สามารถตั้งโต๊ะนั่งชมวิว คิดงาน หรือปรับเป็นพื้นที่สวนภายในห้องได้ด้วย

ด้านหน้าทางเข้าระเบียง เป็นที่วางโต๊ะทานอาหาร กว้างพอสำหรับโต๊ะ 6 ที่นั่ง

ส่วนห้องนอนแยกไว้ที่ปีกซ้ายและขวา เราไปเริ่มที่ห้องนอนเล็ก

ห้องนอนเล็กอยู่ที่ปีกขวาของ unit

ภายในห้องนอนเล็ก แบ่งพื้นที่ด้านขวาหลังประตูทางเข้าเป็นพื้นที่ walk-in closet

โครงการให้ตู้เสื้อผ้าแบบเปิดปิดไฟเพื่อเปลี่ยนการใช้งานที่หน้าบานกระจก คือ เป็นกระจกใสเมื่อเปิดไฟ และเมื่อปิดไฟจะเป็นกระจกส่องเพื่อใช้งาน หรือที่เรียกว่า “Reflective Glass”

พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งที่สุดทางเดินด้านใน

ภายในห้องน้ำให้พื้นที่ส่วนแห้งไว้ที่ด้านขวาติดทางเข้า

โครงการให้อ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์แบบลอยตัว พร้อมกระจกบานใหญ่

ด้านหน้าเคาท์เตอร์ล้างหน้าเป็นชุดสุขภัณฑ์ของ Villeroy & Boch

ส่วนพื้นที่ส่วนเปียกอยู่ด้านซ้าย กั้นด้วย glass shower โครงการให้ hand shower พร้อมที่วางอุปกรณ์อาบน้ำติดผนัง

ส่วนพื้นที่พักผ่อน สามารถวางเตียง ไว้ติดทางออกระเบียง

ที่โครงการให้กระจกบานใหญ่ เต็มมุมมอง

ที่ระเบียง กว้างพอให้ใช้งาน กับราวระเบียงกันตกกระจก

และกั้นพื้นที่วางคอมฯแอร์ไว้เป็นสัดส่วนจากพื้นที่ระเบียง

ส่วนพื้นที่ห้องนอนใหญ่อยู่ที่ปีกซ้ายของห้อง

ภายในห้องนอนใหญ่ สามารถวางเตียง king site พร้อมโต๊ะหัวเตียง ติดหน้าต่างบานใหญ่ ที่ด้านขวาของทางเข้า

และยังมีพื้นที่กว้างพอให้วางโต๊ะทำงานที่มุมห้อง

ส่วนด้านซ้ายเป็นไฮไลท์ของโครงการ คือห้องน้ำ อ่างล้างหน้าแบบโรงแรมห้าดาว

ที่เป็น walk-in closet เชื่อมกับพื้นที่ห้องนอน

ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยหิน black forest พร้อมติดตั้งระบบน้ำ thermostat

ด้านในมีตู้เสื้อผ้าตั้งอยู่สองด้านซ้ายขวา ให้บานกระจกที่ตู้เสื้อผ้าเช่นเดียวกับห้องนอนเล็ก

ด้านในสุดซ้ายมือเป็นที่ตั้งโถสุขภัณฑ์ แบบ auto washlet มีบานกระจกกั้นเป็นสัดส่วน

ส่วนด้านขวาเป็นห้องอาบน้ำ มีกระจกกั้นแยกห้องเช่นกัน โครงการให้ Rain shower และ hand shower

ระหว่างทั้งสองห้องเป็นที่ตั้งอ่างอาบน้ำแบบลอยตัว

ส่วนตรงกลางห้องเป็นที่ตั้งอ่างล้างหน้า ไฮไลท์ของโครงการ ที่ให้เฉพาะ ห้อง 100 ตารางเมตรขึ้นไป กับอ่างล้างหน้าแยก his & her แบบลอยตัว

ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งปลั๊กไฟ ไฟส่อง และตู้เก็บของ ที่ทั้งสวยงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

สรุปภาพรวมโครงการ The Reserve 61 Hideaway

เมื่อช่วงต้นปี 2018 ที่ผ่านมา ผมและคนที่ชื่นชอบการซื้อคอนโดในย่าน Mid Sukhumvit อย่างทองหล่อ – เอกมัย ก็ต่างตื่นตะลึงไปกับการเปิดตัวโครงการที่ทำสถิติความเป็นที่สุดของย่านเอกมัย ทั้งในเรื่องของดีไซน์ ราคา สเปควัสดุ ส่วนกลาง ขนาดห้อง และความได้เปรียบในเชิงที่ตั้งโครงการที่เป็นโครงการเดียวที่สามารถใช้รถเดินทางเข้าออกได้ถึง 2 เส้นทางจากสุขุมวิท 61 และเอกมัยซอย 1 อย่างโครงการ The Reserve Sukhumvit 61

อ่านรีวิวโครงการ The Reserve Sukhumvit 61 ได้ที่นี่ The Reserve Sukhumvit 61 Luxury Low Rise Condo เป็นส่วนตัว เฟอร์ฯครบ ท่ามกลางสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ ใจกลางทองหล่อ-เอกมัย

ในวันนั้นตัวผมเองและใครหลายๆคนก็ยังไม่ค่อยจะเชื่อว่าโครงการนี้จะทำสถิติ Sold Out ได้อย่างรวดเร็ว พอๆกันกับโครงการแรกอย่าง The Reserve Thonglor 2 เนื่องจากมีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าพอสมควร และเป็นคอนโดแบบ Luxury Low Rise ที่ใครๆก็ล้วนรู้ดีกว่าหากจะขายให้หมดได้ก็ต้องอาจรอให้โครงการสร้างเสร็จก่อน ถึงแม้ว่าโครงการนี้น่ามีทำเลและมีการอัพเกรดขึ้นมาอย่างมากจนสามารถเป็นของทดแทนอย่างดีสำหรับคนที่พลาดซื้อโครงการที่ทองหล่อไม่ทัน แต่พฤกษาฯก็สร้างเซอร์ไพร์สให้ผมด้วยผลตอบรับอย่างดีเยี่ยมเกินความคาดหมาย และยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีกด้วยการเดินหน้าเปิดขายโครงการที่สอง บนที่ดินติดกัน ในช่วงเวลาที่ไม่ทันข้ามปี ภายใต้แบรนด์ที่ดูมีเสน่ห์น่าค้นหามากกว่าเดิมอย่าง The Reserve 61 Hideaway…บางทีการส่งแบรนด์ที่ดียิ่งกว่า แพงกว่า ลงตลาดติดๆกันแบบนี้ ย่อมส่งสัญญาณแห่งความมั่นใจให้ใครหลายๆคน รวมถึงดีเวลลอปเปอร์รายอื่นครั่นคร้ามกันบ้างว่า เห็นทีตลาด Luxury – Super Luxury ในย่านทองหล่อ-เอกมัย จะเป็นของกลุ่มพฤกษาพรีเมียมซะแล้ว เพราะในขณะที่โครงการ Luxury หลายๆโครงการเฮโลกันมาเปิดที่ย่านนี้ (ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นแบรนด์ดังทั้งนั้น) ล้วนแต่ประสบปัญหายอดขายอืด จนต้องเร่งทำโปรโมชั่นในแบบที่อาจจะทำให้แบรนด์ดู devaluated ไป แต่พฤกษาพรีเมียม กลับกวาดยอดขาย 100% เต็มทุกครั้งที่เปิด และราคาของโครงการใหม่ที่เปิดก็ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆตามสเปคที่อัพเกรดให้สูงตาม แถมยังเอาใจกลุ่มคนกระเป๋าหนักด้วยการวางห้องขนาดใหญ่เกิน 100 – 200 กว่าตารางเมตร กระจายอยู่ทั่วโครงการ ราคาเฉียด 60 ล้านบาท แต่ก็ยังมีคนแย่งกันซื้อหมายตาเป็น First Priority ซะอีก แบบนี้เห็นทีจะเป็นบทพิสูจน์ว่าแบรนด์ The Reserve แห่งนี้ต้องมีมนต์เสน่ห์อะไรที่สามารถครองใจกลุ่มลูกค้าระดับ HNWI (High Net Worth Individual) ได้อย่างอยู่หมัด

การพัฒนาโครงการให้ตรงใจกลุ่มลูกค้าระดับ Top of Pyramid นั้น ไม่ได้หมายความว่าจะต้องอัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์ในแง่ Attribute และ Function เพียงอย่างเดียว ในหลายๆครั้งที่โครงการที่ตั้งราคาขายที่สูงๆมักจะอัดแน่นไปด้วยของแบรนด์เนม วัสดุหินอ่อนหาได้ยากจากทั่วโลก ลิฟท์ส่วนตัว สระว่ายน้ำส่วนตัว งานประติมากรรมจากศิลปินชื่อก้อง ด้วยเหตุผลว่าสิ่งที่อัดแน่นเข้าไปเหล่านี้คือสิ่งที่มองเห็นด้วยตาเปล่าว่าดูมีราคาเหมาะสมกับจำนวนเงินที่ลูกค้าจะต้องควักกระเป๋า…แต่ผลตอบรับอาจจะไม่ได้ตรงตามที่คาดหวังเอาไว้ ในทางกลับกันบางโครงการที่ไม่ได้มีของแบรนด์เนมมาประดับประดามากเท่า ก็เกิดไปถูกจริตกลุ่มผู้ซื้อกระเป๋าหนัก ขายดีจนแทบจะไม่ต้องทำการตลาดอะไรให้มากความ โครงการที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้ล้วนแต่มองลึกไปถึง Insight ของผู้ซื้อเฉพาะบุคคลว่าอะไรในโครงการที่สามารถสร้างคุณค่าให้เกิดขึ้นในตัวของคนซื้อได้ ในหลายๆครั้งคุณค่าก็อาจจะเป็นสิ่งเล็กๆที่เราไม่ทันได้คาดคิด แต่กลับมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้ออย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น The Reserve 61 Hideaway แห่งนี้ หากเราไม่นับการสร้างสรรค์พื้นที่ส่วนกลางที่ให้สุนทรียะมากกว่าโครงการ Luxury Low Rise ทั่วไป สิ่งหนึ่งที่เป็นตัวสร้างความแตกต่างชั้นดีก็คือรูปแบบยูนิตเลย์เอ้าท์ที่มีความแตกต่างกันออกไปหลายสิบแบบ ไม่ว่าจะเป็นห้อง Triplex ขนาดสองร้อยกว่าตรม.แบบมีที่จอดรถส่วนตัว พร้อม Pool Access ซึ่งไม่มีโครงการไหนในย่าน Mid Sukhumvit มี แต่ก็กลับขายได้อย่างไม่ยากเย็นด้วยความต้องการซื้อของกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเพียงแค่ห้องเพิ่มให้คนขับรถ และ Maid อยู่ หรือจะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนหน้ากว้างเกิน 100 ตรม. ที่มาพร้อมจุดเด่นเพื่อเอาใจกลุ่มเศรษฐีที่ชอบล้อมวงจิบชายามบ่ายด้วยพื้นที่ Terrace แบบ Semi Outdoor กระจกโค้งขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับการออกแบบให้พื้นที่ห้องน้ำเปิดโล่งรับแสงธรรมชาติจากกระจก Full Height ที่รวบพื้นที่กับโซนแต่งหน้า แต่งตัวเพื่อให้มีขนาดใหญ่ขึ้น จนแยกเป็น His & Her ได้พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ ให้บรรยากาศเหมือนห้องน้ำในโรงแรมระดับ 5 ดาว คืนละหลายหมื่นบาท…เมื่อรวมกับพื้นที่ส่วนกลางสไตล์ Wellness Essential กว่า 2 ไร่ในแบบ Triple Facilities จึงทำให้จำนวนยูนิตทั้ง 164 ยูนิตของที่นี่มีเอกลักษณ์ที่ดึงดูดคนที่พร้อมจ่ายได้โดยที่ไม่ต้องคิดเยอะ…ซึ่งแม้จะยังไม่ทันเริ่มขายอย่างเป็นทางการ The Reserve 61 Hideaway ก็ไปคว้าอีกหนึ่งรางวัลที่การันตีคุณภาพโครงการพรีเมียม โดนใจกลุ่มเศรษฐีกระเป๋าหนักเครือข่ายสังคมชั้นสูง ในสาขา Best Residential Award ในงาน Tatler Ball 2018 โดยมีเกณฑ์การพิจารณาตัดสินจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จากการออกแบบดีไซน์โครงการที่โดดเด่น เป็นแบรนด์ลักซ์ชัวรี่ที่มีเอกลักษณ์ ตอบรับไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าไฮเอนด์

แม้กระทั่งห้องฝั่งทิศใต้ที่ชิดกับ The Reserve Sukhumvit 61 ถ้าเป็นโครงการอื่นคงจะเป็นฝั่งที่มี Defect เรื่องวิว และเป็นฝั่งที่มีราคาถูก ก็กลับกลายเป็นห้องที่มี Value เพิ่มมากกว่าด้วย Buffer Zone อย่าง Hideaway Garden และ Infinite Pool รูปตัว O ที่สร้างทัศนียภาพอันดีให้แก่ทั้งผู้ที่อยู่ The Reserve 61 Hideaway เอง และผู้ที่อยู่ฝั่ง The Reserve Sukhumvit 61 ที่เหมือนถูกหวยไปเต็มๆ เพราะได้วิวที่สบายตาไปตลอดชาติ

ความ Prime ในทำเลทองหล่อ – เอกมัย ผมก็คงไม่ต้องพูดอธิบายเยอะให้มากความอีกแล้ว เพราะว่าจะสถิติที่ผ่านมาของปีนี้ ย่านทองหล่อ-เอกมัย คือ 2 ย่านที่ผมแวะเวียนเข้ามารีวิวโครงการชนิดเดือนชนเดือน สองย่านนี้เป็นทำเลคู่ขนานกันที่ทิศทางของการพัฒนาโครงการ Residential ในอนาคตดูจะเทเข้ามายังฝั่งเอกมัยมากขึ้นเรื่อยๆ จนน่าจะสรุปได้เลยว่าในอีกไม่กี่นานเราคงจะได้เห็นราคาของคอนโดใหม่บางโครงการในย่านเอกมัยที่ทำสถิติราคาเทียบเท่ากับคอนโดในย่านทองหล่ออย่างแน่นอน

The Reserve  61 Hideaway นอกจากจะอยู่ในทำเลที่ดี เงียบสงบ เป็นส่วนตัวแล้ว ก็ยังทำออกมาได้อย่างหรูหราและสะดวกสบาย รวมทั้งยังเป็นคอนโดแห่งเดียวในย่านนี้ที่มีที่จอดรถ แบบ Conventional ถึง 100% และการได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าที่มีอยู่ จนทำให้ห้องขนาดใหญ่ราคา 40-60 ล้านขายไปหมดแล้ว กับราคาเริ่มต้นเพียง 12 ล้านบาท เรียกว่าเป็นโครงการที่เป็นที่สุดแห่งการพักผ่อนอีกโครงการหนึ่ง แค่ซื้อมาใช้ส่วนกลางเป็นครั้งคราว ไว้ให้ได้ถ่ายรูปลง Instagram เล่น กับชวนเพื่อนก๊วนเดียวกันมาปาร์ตี้ในห้อง Pool Access ริมสระว่ายน้ำรูปทรงสะดุดตาเพื่อให้คนอื่นอิจฉาเล่น เท่านี้ก็ดูจะเป็น Value ที่ตรงใจกลุ่มคนที่ทาง The Reserve 61 Hideaway วาดภาพไว้แล้วล่ะครับ

พบกับงาน Open House ในวันที่ 10-11 พย.นี้ โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อสอบถามข้อมูล หรือรับสิทธิพิเศษได้ที่ http://bit.ly/2zL6z2C

#ของที่คนรวยต้องมี #TheReserve61Hideaway