The Reserve Sukhumvit 61 Luxury Low Rise Condo เป็นส่วนตัว เฟอร์ฯครบ ท่ามกลางสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ ใจกลางทองหล่อ-เอกมัย

ย่านสุขุมวิทตอนกลางโดยเฉพาะบริเวณทองหล่อ-เอกมัย เป็นย่าน Lifestyle & Residential ที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร ที่รวมการพัฒนาโครงการอสังหาฯประเภทต่างๆที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของกลุ่มคนทุกระดับมาไว้ที่เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ผับ บาร์, Neighborhood Mall ขนาดกลางหลายแห่ง, ร้านค้าระดับ Flagship Store, เซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ รวมถึงเป็นทำเลยอดฮิตของดีเวลลอปเปอร์ในการพัฒนาโครงการคอนโดตั้งแต่ระดับ High End ขึ้นไปจนถึง Super Luxury เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้ากระเป๋าหนักทั้งไทยและต่างชาติที่ชื่นชอบในสีสันของมหานคร ทึ่เพียบพร้อมไปด้วยกิจกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกแทบทุกชนิด ให้คุณใช้ชีวิตในมุมมองที่แปลกใหม่ได้ทุกวัน

แต่ถ้าคุณเป็นสายที่ชอบความสงบ ตัดขาดความวุ่นวาย แต่ยังอยากมีที่พักอยู่ในทำเลที่ใกล้ย่านไลฟ์สไตล์ทองหล่อ-เอกมัย ไม่ไกลจากที่ทำงานบนย่าน CBD หลักของเมือง The Reserve Sukhumvit 61 (เดอะ รีเซิร์ฟ สุขุมวิท 61) น่าจะเป็นคำตอบให้กับคุณได้ในตอนนี้ เพราะพฤกษาฯเลือกทำเลแสนสงบ ใจกลางสุขุมวิทตอนกลางในซอยสุขุมวิท 61 ซอยที่ตัดขาดความวุ่นวายของเส้นสุขุมวิท ไว้ด้วยบรรยากาศซอยแห่งการพักอาศัย รายล้อมด้วยบ้านพักส่วนตัวขนาดใหญ่ คอนโด low rise และ Serviced Apartment แบรนด์ดังค่าเช่าแพงในซอยเพียงกี่แห่งที่เป็นเพื่อนบ้าน ทำให้ซอยสุขุมวิท 61 กลายเป็นซอยที่พักอาศัยที่สมบูรณ์แบบ

และที่สำคัญสุดเอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับลูกบ้าน The Reserve Sukhumvit 61 กับทางเลือกในการเข้าออกโครงการฯ ที่มีถึง 2 เส้นทาง คือ นอกจากซอยสุขุมวิท 61 แล้ว ยังสามารถเข้าออกซอยเอกมัยซอย 1 เชื่อมไปถึงซอยสุขุมวิท 63 หรือซอยเอกมัยได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งซอยสุขุมวิท 61 เป็นซอยที่มีความเป็นระเบียบร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่พร้อมมีทางเดินเท้าตลอด 2 ข้างทาง

พื้นที่ปลายสุดของซอยสุขุมวิท 61 เป็นพื้นที่ของพฤกษาทั้ง 7 ไร่ ออกแบบอย่างประณีต แบ่งเป็นพื้นที่ 2 แปลง แปลงติดซอยสุขุมวิท 61 เนื้อที่ 3-0-40 ไร่ พัฒนาเป็น The Reserve Sukhumvit 61 ส่วนที่ดินผืนติดกัน จะเป็นเฟส 2 ของโครงการ แต่ยังไม่มีแบบมาให้ชมกัน

บริเวณที่เห็นล้อมรั้ว และมีรูปปั้นหมีกริซลี่ตั้งอยู่จะเป็นตำแหน่งของเฟสแรก ส่วนบริเวณที่ตั้งของ Sale Gallery เป็นพื้นที่ของเฟสสอง

ทั้งสองเฟสสามารถเข้าออกได้จากทั้งทางซอยสุขุมวิท 61 และเอกมัยซอย 1

The Reserve Sukhumvit 61 ประกอบด้วยอาคารชุดพักอาศัยจำนวน 2 อาคารสูง 7 ชั้น และชั้นใต้ดิน 3 ชั้นเป็นที่จอดรถ 100% ของจำนวน units (ผสมกันระหว่าง Automatic Parking และแบบวนจอด) วางตัวเป็นรูปตัว L มีตึก A อยู่ติดทางเข้าโครงการ และตึก B อยู่ด้านในสุดของโครงการ ล้อมคอร์ทที่เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ที่ใช้งานร่วมกันทั้ง 2 อาคาร

โดยชั้น 1 เป็น Lobby สระว่ายน้ำและ พื้นที่ส่วนกลาง โดย Facility หลัก อย่าง fitness และ Onsen อยู่ที่ตึก A

ส่วนที่ชั้น 2 ถึงชั้น 7 เป็นส่วนที่พักอาศัยโดยแต่ละชั้นมีรูปแบบห้องที่แตกต่างกันไปตามขนาดของพื้นที่การใช้งาน ตั้งแต่ห้อง studio 30.75 Sq.m. จนไปถึงห้องไซส์ใหญ่กว่า 157.06 Sq.m. รวม units ทั้งหมดทั้ง 2 อาคาร เพียง 186 units

รูปแบบห้องมีทั้งหมด 8 Type คือ

Studio A1 30.75 Sq.m. และ A2 30.87 Sq.m.

ห้องsizeเล็กสุดของโครงการ ที่มีครัวและ walk-in closet มีชั้นละ 1 ห้องเท่านั้น

1Bedroom B1 35.91 Sq.m. ห้องทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสแบ่งพื้นที่ living area และห้องนอนอย่างละครึ่ง มีที่อาคาร B มีชั้นละ 4 ห้อง

Exclusive 1 Bedroom B2 48.54 Sq.m. ห้อง 1 bedroom หน้ากว้าง เน้นพื้นที่ living area กว้าง มีทั้งที่อาคาร A และ B

Exclusive 1 Bedroom Plus B3 47.61 Sq.m. และ B4 48.55 Sq.m. ห้อง 1 bedroom หน้ากว้าง แต่มีห้อง plus ที่สามารถปรับเป็นห้องนอนเล็กได้อีก1ห้อง หรือสามารถปรับเป็นห้องทำงาน หรือมีแผนขยายครอบครัวได้

Exclusive 2 Bedroom C2 62.61 Sq.m. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ size เล็กสุด ออกแบบให้มีพื้นที่ใช้งานส่วนต่างๆเท่าๆกัน มีพื้นที่ living area ติดระเบียง อยู่กลางห้อง มีเฉพาะอาคาร A

Sky Courtyard C6 69.15 Sq.m. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่มีเอกลักษณ์ที่ห้องนอนกระจกโค้งยื่นออกจากตัวตึก (ตอนนี้ขายหมดแล้ว)

Penthouse C16 125.44 Sq.m. 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ห้องหน้ากว้างที่ได้ทุกพื้นที่ติดอากาศ แลออกแบบให้มีพื้นที่ใช้งานห้องต่างๆอย่างเป็นสัดส่วน

ห้องสุดท้าย Villa D1 157.60 Sq.m. ห้อง size ใหญ่สุดของโครงการ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ มีเฉพาะที่อาคาร A ชั้น 2-7 ห้องมุมสุดทางเดินวิวสระน้ำ

โครงการออกแบบ Sale gallery เป็นบรรยากาศจำลองโครงการจริงมา โดยเฉพาะส่วนของงาน Landscape (ออกแบบโดย TROP) และล็อบบี้

มีห้องตัวอย่างที่ทำการตกแต่งให้ชมเพียงหนึ่งห้องเป็นห้อง 2 bedroom ขนาด 125.44 Sq.m. ที่รวมเอาวัสดุ Top-class มาให้คุณได้สัมผัส และมอบให้จริงกับทุกห้องของโครงการ

ห้องจริง ทางโครงการขายแบบ Fully Furnished by Chanintr Living ส่วนห้อง Type อื่นๆที่ไม่ใช่ห้องตัวอย่าง หน้าตาเฟอร์ฯจะเป็นรูปแบบใกล้เคียงกัน อาจต้องไปเทียบดูกับใบรายการเฟอร์นิเจอร์อีกทีหนึ่ง

เริ่มจากประตูทางเข้า ที่นอกจากให้ Digital Door Lock และ VDO door phone แล้ว ที่ประตูยังมีแผงแนวนอนเล็กๆคาดตลอดความกว้างของประตู ที่สามารถเปิดปิด เพื่อระบายอากาศ หรือให้ลมหมุนเวียน ทำให้ห้องไม่ร้อน และไม่อับ เป็น Ventilation Door ให้กับทุกห้อง

พื้นที่ส่วนแรก เปิดรับด้วยพื้นที่ living area หน้ากว้าง ที่เป็นพื้นที่กลางในการใช้งาน และยังเชื่อมพื้นที่ master bedroom และ bedroom1 ไว้ที่ปีกขวาและซ้ายของห้อง พื้นห้องปูด้วย engineered wood ปูลาย Herringbone Pattern

ด้านขวา ติดประตูทางเข้า เป็นห้อง เก็บรองเท้า และเก็บอุปกรณ์ต่างๆได้ โดยแบ่งเป็นชั้นสำหรับใช้งาน และพื้นที่โล่ง ไว้วางของหรือต่อเติมตามการใช้งานของแต่ละคน

ติดกันเป็นตู้รองเท้า built-in แบบลิ้นชัก เพื่อความสะดวกในการใช้งานสำหรับคู่โปรดที่ใช้ประจำ

ด้านซ้ายของประตูเป็นพื้นที่ครัว built-in จากประตูทางเข้าไปจรดห้อง Laundry room และครัวโครงการให้มาพร้อมกับ Island ยาวขนานเคาน์เตอร์ครัว

ที่เคาน์เตอร์ครัว โครงการให้ เตาไฟฟ้า 4 หัวของ gorenje ฝังเรียบไปกับพื้นเคาท์เตอร์

ด้านบนเป็นที่ดูดควัน gorenje ที่ design by Phillipe Starck สามารถปรับมุมองศาการใช้งานได้ และในเวลาปกติจะเปลี่ยนเป็นที่ฟอกอากาศอัตโนมัติ

ด้านล่างมี Combi Oven ของ gorenje by Phillipe Starck เช่นกัน

ด้านล่างและด้านบนเคาน์เตอร์ เป็นตู้และลิ้นชัก สำหรับเก็บอุปกรณ์การประกอบอาหาร แบบแยกประเภทการใช้งาน

ที่เคาน์เตอร์ Island เป็นส่วนพื้นที่เตรียมอาหาร

โครงการให้อ่างล้างจานแบบฝังในเคาท์เตอร์ ที่ก๊อกน้ำมาพร้อมระบบสัมผัส ที่ตัวก๊อก เพื่อเปิด-ปิดการใช้งาน โดยไม่ต้องหมุนเปิดวาล์วทุกครั้งที่ใช้งาน และยังให้ Food Waste Disposer เครื่องปั่นเศษอาหารที่ติดตั้งพร้อมใช้งาน ซึ่งไม่ต้องกังวลเรื่องเสษอาหารอุดตันในภายหลัง

ด้านล่าง island เป็นตู้สำหรับเก็บอุปกรณ์ทำครัวได้ ตลอดความยาว เรียกได้ว่าให้ของเกรดหรูแล้ว ยังมาพร้อมกับงานออกแบบที่ใช้งานได้คุ้มค่าในทุกพื้นที่อีกด้วย

ปลายสุดของพื้นที่ครัวเป็น Laundry room ที่ออกแบบให้มีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าฝาหน้า + เครื่องอบผ้า พร้อมชั้นเก็บผ้าแบบพับและแบบแขวน รวมทั้งยังมีเตารีดแบบพับเก็บเป็นลิ้นชักให้มาพร้อมใช้งาน

ถัดจากครัว เป็นพื้นที่ติดริมหน้าต่าง เป็นพื้นที่ living area

ที่สามารถตั้งชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลาง

สำหรับ 3-4 ที่นั่ง Take View สวนส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 1 ไร่ ไว้ติดริมหน้าต่าง

ที่ผนังฝั่งตรงข้าม สามารถวางทีวี และทำชั้นวางของไว้ที่ผนังด้านนี้ได้

ด้านหลังชุดโซฟา เป็นมุมสำหรับตั้งโต๊ะทานอาหาร ติดริมประตูออกระเบียง สำหรับ 4-6 ที่นั่ง

ที่ระเบียงกว้าง แยกพื้นที่ตั้งคอมฯแอร์ แบบมีฉากกั้นเป็นสัดส่วน ทำให้สามารถใช้งาน หรือเปิดเชื่อมพื้นที่ภายในและภายนอกได้

ตรงข้ามโต๊ะทานอาหารเป็น powder room สำหรับใช้งานที่ห้อง living เป็นห้องน้ำแนวลึก มีเฉพาะพื้นที่ส่วนแห้ง คือโถสุขภัณฑ์ ที่ด้านในสุดติดผนัง

และอ่างล้างหน้าแบบลอยตัว มีเคาท์เตอร์ลดระดับ เพื่อแยกพื้นที่ใช้งาน ยาวเต็มแนวผนัง

ถัดจากมุมทานอาหาร เป็นพื้นที่ปีกซ้ายของห้องเป็นห้องนอนเล็ก Bedroom 1 มีห้องน้ำในตัว

ภายในห้องนอนแบ่งพื้นที่ด้านซ้ายติดทางเข้าเป็น พื้นที่สำหรับแต่งตัว และห้องน้ำ

ด้านหน้าห้องน้ำเป็น walk-in closet ยาวเต็มผนัง สูงจรดเพดาน

ตู้เสื้อผ้าเป็น custom made ทำให้ขนาดพอดีกับความกว้างและความสูงของผนัง เพื่อการใช้งานให้คุ้มค่าทุกพื้นที่

และมาพร้อมกับโต๊ะเครื่องแป้งเข้ามุมติดประตูทางเข้าห้องน้ำ ที่ออกแบบให้มีพื้นที่เก็บของที่ด้านบน

ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่เป็นส่วนเปียกและส่วนแห้ง

โดยส่วนแห้งติดทางเข้าเป็น อ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าที่วางลอยตัว

ด้านหลังกระจกสามารถเปิดเป็นพื้นที่เก็บอุปกรณ์การใช้งานต่างๆได้อย่างเป็นระเบียบ

ติดกันเป็นมุมตั้งโถสุขภัณฑ์ ไว้ติด Shower Glass

ที่ด้านซ้ายของทางเข้าห้องน้ำ เป็นพื้นที่ส่วนเปียก โครงการให้ Hand shower ติดผนัง ของ Villeroy & Boch

ส่วนที่ด้านขวาของห้องนอน ติดพื้นที่ริมหน้าต่างกระจกบานใหญ่ เป็นพื้นที่มุมพักผ่อน ตั้งเตียง Queen Size พร้อมโต๊ะหัวเตียงทั้งสองด้านได้

ที่ปลายเตียงสามารถติดทีวีและชั้นแบบแขวนผนัง

ที่บานหน้าต่างเป็นหน้าต่างบานเปิดซ้ายขวา สามารถเปิดรับลม และแสงธรรมชาติเข้าสู่ในพื้นที่ห้องได้

ส่วนที่ปีกขวาของห้องเป็น Master bedroom

ที่เปิดมากับโถง walk in closet ขนาดใหญ่ เป็น Custom made

ที่ด้านซ้ายติดหน้าต่าง เป็นตู้ที่ออกแบบให้สามารถแยกเก็บของตามประเภทการใช้งาน เช่น กระเป๋า เครื่องประดับ นาฬิกา ฯลฯ

คั่นกลางพื้นที่ด้วยโต๊ะเครื่องแป้ง วางติดริมหน้าต่าง เปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาใช้ในการแต่งตัว และเปิดรับลมเพื่อการระบายอากาศให้กับห้อง พร้อมช่องที่เตรียมไว้ใส่ตู้เย็นขนาดเล็ก สำหรับเก็บครีมล้างหน้า น้ำหอม น้ำดื่ม

ด้านขวา เป็นตู้เสื้อผ้า แยก 2 ตู้ ซ้ายขวา ตรงกลางเป็นลิ้นชักเก็บเครื่องประดับและของส่วนตัว

แต่ความพิเศษของตู้เสื้อผ้าที่ห้องนี้ คือ สามารถเปิดได้จากภายในห้องน้ำ สำหรับคนที่ชอบแต่งตัวในห้องน้ำ เป็นอีกทางเลือกเพื่อความสะดวกของการใช้ชีวิต

ห้องน้ำอยู่ด้านหลังผนังตู้เสื้อผ้า สามารถเข้าได้จากด้านในห้องนอน

ห้องน้ำเป็นห้องน้ำแนวยาว วางสุขภัณฑ์ต่างๆเรียงจากผนัง จรดอีกแนวผนัง

โดยแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนแห้งติดทางเข้า มีโถสุขภัณฑ์แบบ Auto Washlet ของ Villeroy & Boch ตั้งไว้ที่ด้านซ้ายของทางเข้า พร้อมด้วย Emergency phone ไว้ติดต่อกับนิติบุคคล หรือเปิดประตูอัตโนมัติ เวลาที่ต้องการความช่วยเหลือ

และยังมีกระจกกั้นสูงจรดเพดาน ระหว่างโถสุขภัณฑ์ และอ่างล้างหน้าแบบลอยตัว

พร้อมชั้นวางอุปกรณ์ล้างหน้าติดผนัง

ถัดมาเป็น พื้นที่ตั้งอ่างอาบน้ำ แบบลอยตัวสีขาว เข้ากับชุดสุขภัณฑ์ทั้งหมด

ด้านขวาของทางเข้าห้องน้ำ ด้านในสุด กั้นด้วย shower glass

โครงการให้ Hand shower แบบติดผนัง

และ Rain shower ติดเพดาน ของ Villeroy & Boch เช่นกัน

ส่วนพื้นที่พักผ่อน เป็นพื้นที่เข้ามุม เป็นสัดส่วน

อยู่ติดริมหน้าต่างและประตูออกระเบียง

สามารถวางเตียงพร้อมโต๊ะหัวเตียงไว้ที่พื้นที่กลางห้อง

และยังมีพื้นที่เหลือพอให้วางเก้าอี้ ไว้เป็นมุมพักผ่อน เอนหลัง นั่งดูทีวีได้

และด้านในสุด ติดริมหน้าต่าง สามารถทำเป็นมุมอ่านหนังสือ ทำงาน แยกเป็นสัดส่วน

ที่ผนังปลายเตียง สามารถติดทีวีแบบแขวนผนังได้

ติดกันเป็นทางออกระเบียงห้องนอน ซึ่งได้เป็นระเบียงกว้าง

แยกพื้นที่ตั้งคอมฯแอร์ แบบมีฉากกั้นเป็นสัดส่วน ทำให้สามารถใช้งาน ตั้งเก้าอี้ไว้จิบชากาแฟยามเช้า ได้แบบสบายๆ

เปิดเชื่อมมุมมองภายนอกกับราวกันตกที่เป็นกระจก ทำให้ไม่มีสิ่งกีดขวางมาบดบังการมอง เมื่อคุณใช้งาน

นอกจากความสะดวกสบายภายในห้องแล้ว ถึงแม้จะเป็นคอนโด Low rise แต่ก็มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ครบครัน ให้คุณได้ใช้งาน กับพื้นที่คอร์ทสวนที่เป็นเสมือน Oasis ของพื้นที่ ที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่

และมีสายน้ำโอบล้อมพื้นที่การใช้งานเป็น Lush garden with sunken seat

ทำให้พื้นที่ Lobby หลัก สามารถ take view สวนของโครงการได้

สระว่ายน้ำยาวขนานตัวอาคาร B แถมยังมีห้องสุด exclusive เพียง 4 ห้องที่เป็น pool access

และห้อง fitness ที่มาพร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน

แถมยังมี Private Onsen ให้คุณได้พักผ่อน ผ่อนคลายในวันที่เหนื่อยล้าได้อีกด้วย

นับตั้งแต่ที่ทางพฤกษาฯประกาศตัวอย่างเป็นทางการว่าจะรุกตลาดคอนโดในส่วนของเซกเมนท์พรีเมียมขึ้นไปให้มากขึ้น ภายใต้การพัฒนาโครงการโดยกลุ่มธุรกิจพฤกษาพรีเมี่ยม โดยตั้งแต่ช่วงปี 2017 ที่ผ่านมาทางบริษัทฯได้จัดเรียง Brand Portfolio ของโครงการคอนโดขึ้นมาใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มแบรนด์คอนโดระดับไฮเอนด์ขึ้นไป ที่ตอนนี้ดูเหมือนว่าแบรนด์ The Reserve เจนเนอเรชั่นใหม่นี้จะเป็นแบรนด์ที่เป็น Top of Hierarchy ของพฤกษาฯไปเรียบร้อยแล้ว จากการเปิดตัวโครงการภายใต้แบรนด์ The Reserve ถึง 3 ทำเลในระยะเวลาเพียงแค่ 1 ปี ไม่ว่าจะเป็นที่ ทองหล่อ 2, พหล-ประดิพัทธ์ และล่าสุดที่สุขุมวิท 61

หลายๆคนคงจะคุ้นกันดีกับแนวทางการทำการสื่อสารของแบรนด์ ซึ่งมีการใช้ Code of Expression เป็นสัตว์ป่า Exotic ชนิดต่างๆ เพื่อสื่อเป็นนัยถึงลักษณะโดดเด่น หายากอันเป็นเอกลักษณ์สำคัญของโครงการ ที่แตกต่างกันไปในแต่ละทำเล The Reserve ทองหล่อ 2 ดูจะเป็นคอนโด High Rise เพียงแค่โครงการเดียวบนทองหล่อ 2 ที่มีจำนวนยูนิตน้อยมาก แถมยังขายในราคาต่ำกว่าตลาด ด้วยเหตุผลที่พฤกษาฯหมายมั่นปั้นมือที่จะสร้างทั้งภาพจำของแบรนด์ The Reserve และยอดขายในแบบถล่มทลายตั้งแต่วันเปิดขาย ชนิดที่สร้างความเสียดายให้หลายๆคนที่พลาดการจอง ให้ไปรอของดีล๊อตต่อไปกับโครงการถัดมาอย่าง The Reserve Phahol-Pradipat ที่มีจุดเด่นด้วยความสูงของห้อง และล่าสุดกับ The Reserve Sukhumvit 61 ที่แม้ว่าจะเป็นคอนโด Low Rise แต่ก็อัพเกรดความหรูหรา พรีเมียมมากขึ้นไปกว่าเดิม แถมทำเลก็ยังอยู่ใกล้กับ The Reserve ทองหล่อ 2 พอสมควร…ดังนั้นนี่คงจะเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจของผู้พัฒนาโครงการ ที่เลือกเก็บ The Reserve Sukhumvit 61 ไว้เพื่อปลอบประโลมจิตใจของผู้ที่อกหักซื้อไม่ทันโครงการแรก

นอกจากความสมบูรณ์แบบของโครงการที่อัดแน่นด้วยเฟอร์ฯทั้ง Built-in และลอยตัวแบรนด์เนมชั้นนำ พร้อมการออกแบบ Landscape โดย TROP ที่ช่วยให้บรรยากาศของโครงการดูน่าอยู่หรูหรามากกว่าโครงการคอนโด Low Rise ทั่วไปในย่านนี้แล้ว โครงการ The Reserve Sukhumvit 61 ยังถูกพัฒนาภายใต้คอนเซปท์ Pruksa 4.0 ที่เน้นนำเสนอนวัตกรรม 4 ด้าน ได้แก่ Smart Product พัฒนาสินค้าแบบ HVA-High Value Added, Smart Marketing โดยเน้นการใช้ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง, Smart Service โฮมเซอร์วิสแอปพลิเคชัน และ Smart Construction ทำงานผ่านอี-คอนสตรัคชันสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า

และหากนับเฉพาะทำเลที่สามารถเข้าออกได้สองทาง ก็คงจะพูดได้อย่างเต็มภาคภูมิว่านี่คือคอนโด Low Rise ระดับ Luxury ที่มีที่ตั้งที่ดีเยี่ยมที่สุดสำหรับกลุ่มผู้ซื้อกระเป๋าหนักที่ใช้รถยนต์เป็นพาหนะหลักในการเดินทาง (ที่จอดรถ 100%) แต่หากใครอยากเดินทางด้วยรถไฟฟ้า สภาพของซอยสุขุมวิท 61 ที่มีความร่มรื่นพร้อมฟุตบาทขนาดใหญ่ ก็ดูจะเอื้อให้การเดินเท้าไปยังสถานีรถไฟฟ้าเอกมัยสะดวกมากจริงๆ (สามารถเดินเข้าไปใช้ Skywalk ของ Major Cineplex ได้เช่นเดียวกัน)

และหากดูจากราคาก็ต้องบอกตามตรงว่านี่คือโครงการที่มีราคาสูงที่สุดในถนนสุขุมวิท 61 และช่วงเอกมัยตอนต้น ซึ่งส่วนตัวแล้วผมคิดว่าคนที่ซื้อคอนโดในระดับนี้ก็มักจะเลือกซื้อด้วยเหตุผลทางด้านอารมณ์ ควบคู่ไปกับบรรยากาศโดยรวมของโครงการมากกว่า ไม่ได้ต้องการที่จะเปรียบเทียบกับโครงการอื่นที่อยู่ใกล้เคียงมากเท่าไหร่ และอย่าลืมครับว่านี่คือแบรนด์ The Reserve ที่เป็นที่สุดของพฤกษาในขณะนี้ และหากมีเจ้าอื่นๆเลือกที่จะเอาแบรนด์ตัว Top มาลง ด้วยราคาที่ดินแบบปัจจุบันก็คงจะมีราคาที่ไม่หนีห่างกันสักเท่าไหร่นัก

เรียกได้ว่าเพียงแค่ปลีกตัวจากความวุ่นวายใจกลางย่านสุขุมวิทเพียงไม่กี่นาที ก็สามารถพักผ่อนกับทั้งบรรยากาศภายในโครงการ และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องได้อย่างครบครันกับชีวิต Bangkok’s premier lifestyle บนทำเลสงบใจกลางสุขุมวิท กับราคาเฉลี่ยที่ 230,000 บาท/ตร.ม. แต่ต้องบอกก่อนว่าห้องมีจำนวนจำกัด ใครสนใจต้องรีบหน่อย เพราะคอนโด Low rise ที่ได้วัสดุเกรดดี แถมยังมีทางเข้าออกถึง 2 ทาง ใครๆก็อยากเป็นเจ้าของกันทั้งนั้น อ่านจบแล้วก็อย่ารอช้า รีบไปเป็นเจ้าของกันได้ที่ Sale office ตั้งอยู่ที่พื้นที่โครงการจริงกับ The Reserve Sukhumvit 61

เตรียมพบงาน First Open House 3-4 กุมภาพันธ์ นี้ ที่สำนักงานขายโครงการ ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษที่ https://goo.gl/AncqiF โทร. 1739