ก่อนหน้าที่จะมีสารพัดโครงการคอนโดไปปักหมุดพัฒนากันบริเวณสามย่าน ต้องบอกว่าย่านราชเทวีคือจุดเริ่มต้นของการพัฒนาโครงการที่มีจุดประสงค์เพื่อดึงดูดดีมานด์ของกลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นนักศึกษาและบุคคลากรจุฬาฯ รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะชาวเอเชีย ที่คุ้นชินกับการช้อปปิ้งในย่านประตูน้ำ ราชเทวีนับว่าเป็นย่านที่มีคอนโดดีไซน์สวยมากมาย เป็นย่านที่มีการแข่งกันระหว่าง developer ด้วยกันว่าใครจะล้ำกว่ากัน เหตุผลก็มาจากลูกค้าที่ซื้อคอนโดมิเนียมในย่านนี้มีการศึกษาสูง มีกำลังทรัพย์ และมี Literacy หรือมีความรู้เกี่ยวกับคอนโดมิเนียมที่สูงมาก Developer จะมาทำโครงการง่ายๆ ธรรมดาๆ ไม่ได้อีกต่อไป เป็นแรงกดดันทำให้แต่ละโครงการจะต้องมีจุดขายและจุดร้องว้าวที่น่าตื่นเต้นและต้องจำเป็นต้องมีรายละเอียดการออกแบบที่พัฒนาให้ดีขึ้นจากโครงการเก่าๆ ซึ่งก็เป็นประโยชน์โดยตรงต่อการพัฒนาเมืองและผู้อยู่อาศัย ย่านราชเทวี (Ratchathewi District) นั้นมีสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีราชเทวี เป็นหนึ่งในสถานีชั้นในของสายสีเขียวซึ่งเป็นสาย Backbone Line หลักของกรุงเทพและปริมณฑลมากถึง 3 จังหวัด และใกล้สถานีสยามซึ่งเป็น Center Station แค่สถานีเดียวเท่านั้น อนาคตราชเทวีจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มมาเพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น และจะเปลี่ยนให้ราชเทวีกลายเป็นจุดตัดที่สำคัญ เป็น Super Interchange เพราะเป็นทำเลที่รถไฟฟ้าสายเหนือ-ใต้และสายตะวันตก-ตะวันออกมาบรรจบกัน มีผลทำให้เพิ่ม traffic ของผู้คนและความเจริญที่จะเพิ่มมากกว่าเดิมอีก

CONNER RATCHATHEWI (คอนเนอร์ ราชเทวี) เป็นคอนโดมิเนียมสูง 38 ชั้น ที่ตั้งอยู่ทำเลที่ค่อนข้างดี เพราะชิดสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีส้มสถานี ราชเทวีในอนาคต และใกล้กับสถานีราชเทวีสายสีเขียวในปัจจุบันแค่ 300 เมตร เป็นทำเลเพื่อนบ้านของสยาม จุฬาฯ และพญาไทซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของความ เจริญทั้งด้านไลฟ์สไตล์ การทำงาน การเรียนและการเดินทางทุกรูปแบบ พัฒนาโดยบริษัท The Creators HQ ที่ใส่ใจรายละเอียดงานดีไซน์ตั้งแต่ภายนอกไปจนถึงพื้นที่ส่วนกลางจากดีไซเนอร์ระดับแนวหน้า มีขนาดพื้นที่โครงการ 1 ไร่ 3 งาน 21 ตารางวา ยูนิตพักอาศัยทั้งหมด 294 ยูนิต เป็นห้องแบบหน้ากว้าง มีห้องมุมมากถึง 60% แบ่งออกเป็น 1 Bedroom 34.9 – 35.4 ตร.ม. 1 Bedroom Loft 30 – 42 ตร.ม. 1 Bedroom Plus 50 ตร.ม. 2 Bedroom 69 – 73 ตร.ม. มีการออกแบบภายในล้ำอนาคตโดยเลือกใช้สเปควัสดุต่างๆ ที่แตกต่างจากโครงการรอบข้างทั้งปวงและโดดเด่นด้วยห้อง Loft สูง 4.5 เมตร และ Simplex สูงมากถึง 3 เมตร อยู่อาศัยแบบใกล้ชิดธรรมชาติด้วย Vertical Forest สูง 80 เมตร ด้วยจำนวนต้นไม้ 145,987 ต้น พร้อมกับระบบเทคโนโลยี Hydrosmart ที่ช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรและถนอมผิวพรรณของเรา ช่วยลดการเกิดตะกอน และคราบแคบเซียมในสระว่ายน้ำ มอบบริการ Concierge ช่วยเหลืออำนวยความสะดวกได้ แม้กระทั่งช่วยเก็บพัสดุหรือเก็บรักษาอุณหภูมิของอาหารที่สั่งซื้อมาทั้งๆ ที่เรายังเดินทางไม่ถึง เรียกได้ว่าสบาย ไปหลายอย่างถ้าเลือกที่ CONNER RATCHATHEWI

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ CONNER RATCHATHEWI นั้นออกแบบให้มีความล้ำอนาคต และดูแปลกตาแตกต่าง และขอเน้นย้ำว่าถ้าเป็น Developer รายอื่นๆ ค่าก่อสร้าง Facility รูปแบบนี้ก็คงจะต้องแลกมากับราคาที่แสนแพงจนทำให้ราคาขายแพงกว่าที่ CONNER RATCHATHEWI นี้เสียอีก แต่เพราะโครงสร้างต้นทุนของ CONNER RATCHATHEWI นั้นเป็นการร่วมทุนกับบริษัทแสงฟ้าก่อสร้างซึ่งเป็นผู้ก่อสร้าง CONNER RATCHATHEWI แสงฟ้ามีผลงานก่อสร้างหลายโครงการและโครงการที่แสงฟ้าก่อสร้างอยู่ใกล้ๆ กับ CONNER RATCHATHEWI คือโครงการ Spring Tower ซึ่งตั้งอยู่เยื้องๆ กัน การที่ The Creators HQ ร่วมทุนกับบริษัทแสงฟ้าก่อสร้างทำให้บริหารจัดการต้นทุนและการ Cost Saving ได้มากกว่าและทำให้ขายได้ราคาถูกเมื่อเทียบกับคุณภาพและความอลังการที่ได้รับ โครงการมี Facility ที่น่าสนใจหลายอย่าง อาทิ Observation Deck, Outdoor Terrace ที่จัดเก้าอี้นั่งพักผ่อนเพื่อชมสวน Vertical Garden สูง 80 เมตรได้อย่างสบาย , Swimming Pool, Yoga Box, Private Sky Fitness, Storage Room, Delivery Box, Hideaway Courtyard ที่ออกแบบให้เป็น Sunken Garden หลบลงไปใต้ดินประมาณ 2.1 เมตร หลบจากความวุ่นวายและเสียงรถยนต์ภายนอก, Study Area, และ The Club ห้องนั่งพักนั่งคุยที่มีน้ำล้อมรอบและถ้าเงยหน้ามองไปข้างนอกจะเห็น Vertical Garden สูง 80 เมตร โดยในพื้นที่ส่วนกลางนั้นเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบรนด์ต่างประเทศอย่าง Fritz Hansen (ฟริทซ์ แฮนซัน) ซึ่งก่อตั้งที่เดนมาร์กมาตั้งแต่ปี 1872 มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 146 ปีมาใช้ในโครงการ

ชั้นพักอาศัยเริ่มต้นที่ชั้น 4 เป็นต้นไปจนถึงชั้น 18 จะเป็นยูนิตพักอาศัยแบบ Loft เพดานสูง 4.5 เมตร ส่วนชั้นที่ 22-38 เป็นโซนพักอาศัยรูปแบบห้อง Simplex ความสูงของเพดานที่ 3 เมตร ใช้ระบบผนังอาคารแบบ Glass Curtain Wall ออกแบบเพื่อป้องการกันซึมผ่านของอากาศและน้ำ ช่วยดูดซับแรงกระแทกจากแรงดันลมบนที่สูง มีความทนทานและทนต่อแรงลม และที่สำคัญมีความสวยงาม ทันสมัย มองจากข้างนอกออกไปได้วิวชัดเจนและกว้าง โดยเลือกใช้วัสดุเป็นกระจก Low-E จุดเด่นคือป้องกันความร้อนจากดวงอาทิตย์เปรียบเสมือนฉนวนกันความร้อนได้อย่างดี การออกแบบรายละเอียดภายในห้องมีความพิถีพิถัน เช่น คัดสรรวัสดุที่ใช้ในชุดครัวต่างๆ ที่สวยงามและแถมเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวที่ทันสมัยและดีไซน์สวยงามของแบรนด์จากประเทศสโลวีเนียอย่าง Gorenje (กอเรนเญ) รุ่น Oraito ให้แอร์แบบ concealed type พร้อมตู้เสื้อผ้า ตู้เก็บของดีไซน์หรูหรา มี mailbox ส่วนตัวและช่องเปิดปิดระบายอากาศที่หน้าห้องตัวเอง เพิ่มความสะดวกสบายและทำให้อยู่สบายอากาศถ่ายเท ใช้ Auto Washlet ของ Cotto ติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อน และได้กระจกฉากกั้นอาบน้ำเป็นสีชาดำ แปลกตาและดูหรูหรา ชั้นลอยของห้องแบบ Loft ก็มีกระจกกั้นด้วย

ราคาขายจะแตกต่างกันไปตาม Type ของห้องครับ แต่ราคาเฉลี่ยโดยรวมจะอยู่ที่ประมาณตรม.ละสองแสนเจ็ด โดยที่ห้องแบบ Loft ถ้าหารเฉลี่ยพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด (รวมพื้นที่ชั้นลอย แต่ไม่มีระบุในโฉนด) ก็จะมีราคาเฉลี่ยที่ถูกกว่าห้องแบบ Simplex คือราวๆตรม.ละ 19x,xxx บาท สำหรับราคาเริ่มต้นห้อง Loft พท.ชั้นล่าง 34.9 ตรม. (พื้นที่ชั้นลอยประมาณ 15 ตรม.) ราคา 9.5 ลบ. ส่วนห้อง simplex 35 ตรม. ประมาณ 9.5 ลบ. เฉลี่ย 320,000 บาทต่อตรม ขายไปแล้ว 75% โอน 45%

ห้องตัวอย่างมี 4 ห้อง ตกแต่งโดยเฟอร์ฯแบรนด์ชั้นนำอย่าง Fritz Hansen ห้องแรกเป็น Loft ชั้น 6 ขนาด 34.5 + 16 ตรม. และที่ชั้น 24 มี 3 ห้องเป็น 1 Bed 34.9 ตรม. เริ่ม 11 ลบ. และมีโปรฯ Furniture Package จาก Norse Republics โดยมีตกแต่งให้ดู 2 ห้อง แบบ 1 Bed Plus ขนาด 50 ตรม. ที่หยิบยกคาแรคเตอร์ของ BoomTharis มาแต่งให้เป็นไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ห้องเปล่าเริ่ม 15 ลบ.และ 2 Bed ขนาด 73 ตรม. ห้องเปล่าเริ่ม 22 ลบ. ที่หยิบคาแรกเตอร์ของคุณปุ๊ก Fashion Director ของ Vogue Thailand ที่แสดงถึงครอบครัวขยาย มีพื้นที่ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์