MUNIQ LANGSUAN

  

มิวนีค หลังสวน


ถ้าพูดถึงทำเลที่มีราคาเฉลี่ยในการซื้อขายคอนโดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกๆปี ย่านหนึ่งที่มักติดอันดับ Top อยู่เสมอๆ ก็คือ ย่าน “Central Lumpini” เพราะนอกจากจะเป็นทำเลใจกลางเมืองแบบของแท้แล้ว ยังเป็นทำเลที่รายล้อมไปด้วยถนนสายสำคัญที่เชื่อมย่านเศรษฐกิจที่อยู่ติดกัน อย่าง ถนนหลังสวน ถนนชิดลม ถนนวิทยุ เพลินจิต หรือบางทีก็อาจรวมไปถึงพื้นที่ริมถนนพระราม4 ช่วงตัดถนนสาทรด้วย รวมทั้งยังเป็นพื้นที่ที่ติดสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพมหานครอย่าง สวนลุมพินี ที่มีทั้งรถไฟฟ้า BTS และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT พาดผ่านและตัดกันที่ถนนพระราม 4 – สีลม บริเวณแยกศาลาแดง และถนนราชดำริ

เกริก บุณยโยธิน เมื่อ 26 November, 2018 เวลา 12.01 pm

Prop score™: 4.5

คะแนนรีวิว: 0.0

0 รีวิว


ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา



    ข้อมูลโครงการ

ชื่อโครงการ

MUNIQ LANGSUAN

บริษัทผู้สร้าง

MJD Residences Co., Ltd.

สถานที่

ถนนต้นสน เขตปทุมวัน

สถานีรถไฟ BTS

BTS ราชดำริ Distance 1,400 m./BTS ชิดลม Distance 1,600 m.

สถานีรถไฟใต้ดิน

-

Airport Rail Link

-

สถานี BRT

-

พื้นที่

1-1-66.5 ไร่

ชั้น

28 ชั้น

ยูนิต

166 ยูนิต

ที่จอดรถ

AUTOMATIC PARKING 185 คัน คิดเป็น 111%

ลิฟท์

ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว

สิ่งอำนวยความสดวก

ACTIVE ATRIUM, GYM, YOGA ROOM, LOCKER ROOM, CHANGING ROOM, SPA ROOM SAUNA ROOM, STEAM ROOM, TOILETS, HEATED POOL, KIDS POOL, JACUZZI, AMPHITHEATER, SKY GALLERY GARDEN, GAME LOUNGE, KIDS QUARTER, DECANTER, SKY LOUNGE, PRIVATE KITCHEN AND GASTRONOMY, PRIVATE DINING ROOM


    ประเภทยูนิต

ประเภท

Luxury Condo/คอนโด High Rise/CONDO

studio

-

1 bedroom

50.5 Sq.m., 1 Bedroom Plus 64 - 76 Sq.m.

2 bedroom

78 - 113 Sq.m., 2 Bedroom Plus 96.5 - 101 Sq.m.

3 bedroom

121 - 133 Sq.m., 3 Bedroom Plus 176 - 179.5 Sq.m.

Duplex

-

Penthouse

-

ประเภทอื่นๆ

THE COLLECTION 80.5 - 280 Sq.m.

ความสูงจากพื้นถึงเพดาน

3 เมตร

ราคาเริ่มต้น / ตรม.

295,000 บาท/ตร.ม.

ราคาเริ่มต้น / ยูนิต

25.1 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง

120 บาท/ตร.ม./เดือน

Sinking Fund fee

1,200 บาท/ตร.ม.

สร้างเสร็จ

2021

เว็บไซต์

https://www.mjd.co.th/muniq/langsuan

1266


เพื่อนบ้าน Street View


พาชมห้องตัวอย่างสุดหรูของ MUNIQ LANGSUAN คอนโด Luxury แบบ Freehold ใหม่ แห่งเดียวใจกลางย่านหลังสวน

 

ถ้าพูดถึงทำเลที่มีราคาเฉลี่ยในการซื้อขายคอนโดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกๆปี ย่านหนึ่งที่มักติดอันดับ Top อยู่เสมอๆ ก็คือ ย่าน “Central Lumpini” เพราะนอกจากจะเป็นทำเลใจกลางเมืองแบบของแท้แล้ว ยังเป็นทำเลที่รายล้อมไปด้วยถนนสายสำคัญที่เชื่อมย่านเศรษฐกิจที่อยู่ติดกัน อย่าง ถนนหลังสวน ถนนชิดลม ถนนวิทยุ เพลินจิต หรือบางทีก็อาจรวมไปถึงพื้นที่ริมถนนพระราม4 ช่วงตัดถนนสาทรด้วย รวมทั้งยังเป็นพื้นที่ที่ติดสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพมหานครอย่าง สวนลุมพินี ที่มีทั้งรถไฟฟ้า BTS และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT พาดผ่านและตัดกันที่ถนนพระราม 4 – สีลม บริเวณแยกศาลาแดง และถนนราชดำริ

หากยึดสวนลุมฯเป็นจุดศูนย์กลาง พื้นที่ทั้ง 4 ด้านของสวนลุมฯ ส่วนใหญ่ ก็ถูกพัฒนาเป็นโครงการขนาดใหญ่ถาวร ทั้งโรงพยาบาลจุฬาฯ และคอนโดใจกลางเมือง บนถนนราชดำริ, อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ อาทิ อื้อจื่อเหลียง อับดุลราฮิม โครงการ Mixed use ของดุสิตธานี และ โครงการ Mixed Use ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อย่าง One Bangkok (วัน แบงค็อก) ที่พัฒนาที่ดินขนาด 104 ไร่ บนถนนพระรามที่ 4, สถานทูตญี่ปุ่น และโครงการพัฒนาคอนโดฯ บนถนนวิทยุ ส่วนด้านถนนสารสิน หรือย่านหลังสวน ส่วนใหญ่เป็นที่ดินของทรัพย์สิน และเอกชนรายใหญ่ ที่เน้นการพัฒนาเป็นย่านที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ เพราะทำเลของพื้นที่ที่ใกล้สวนลุม ทำให้เห็นวิวพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังย่าน CBD สำคัญได้หลายเส้นทาง และใกล้แหล่งช้อปปิ้งระดับโลกขนาดใหญ่

หลายแห่ง ทำให้พื้นที่โดยรอบสวนลุมอย่าง ย่านหลังสวน-วิทยุ-ชิดลม ถูกปักหมุดและพัฒนาเป็นคอนโดแบรนด์ดัง ที่มีชื่อเสียงในระดับโลก เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ และมีราคาแพง เจาะกลุ่มลูกค้าระดับ High-End ขึ้นไป

แต่หากดูการพัฒนาในอนาคตอันใกล้ ที่น่าจะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับพื้นที่ย่าน Central Lumpini ก็น่าจะเป็นย่านหลังสวนที่จะมีโครงการขนาดใหญ่อย่าง โครงการสินธร วิลเลจ (Sindhorn Village) โดย บริษัท สยามสินธร จำกัด บริษัทในเครือสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นทั้งผู้พัฒนาและเจ้าของที่ดิน ที่กำลัง Re-Development พื้นที่กว่า 56 ไร่ ให้มีความหลากหลาย และน่าอยู่มากยิ่งขึ้น บนแนวคิดของการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืน แห่งการพักอาศัย โดยภายในโครงการมีทั้งการพัฒนาคอนโด อย่าง Sindhorn Residence, Sindhorn Tonson, Sindhorn Lumpini และ Sindhorn Langsuan รวมไปถึงโรงแรม 5 ดาวขนาดใหญ่, พิพิธภัณฑ์, Walking Street และ Commercial & Retail Space ตลอด 2 ฝั่งของถนนหลังสวน และมีพื้นที่สวนขนาด 14 ไร่ (Super Green) อยู่กลางพื้นที่โครงการ โดยทั้งหมดเป็นโครงการแบบ Leasehold 30 ปี ที่กำลังก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2562 นี้ แต่หนึ่งในคอนเซต์การพัฒนาของโครงการ คือ การไม่สร้างปัญหาการจราจรให้กับเมือง ทำให้การเข้าออกของทุกโครงการ ใช้ถนนภายในโครงการเป็นพื้นที่เชื่อมต่อถึงกัน รวมทั้งโครงการฯได้ประโยชน์จากการที่กทม.เวนคืนที่ดิน ตรงท้ายถนนต้นสนติดกับฝั่งถนนสารสิน เพื่อมุ่งหวังที่จะเพิ่มความหลากหลาย ในการเดินทางในย่านนี้ให้ สะดวกยิ่งขึ้นกว่าเดิม ทำให้หลังจากการปรับปรุงถนน และทัศนียภาพซอยต้นสน จะสามารถ เข้าออกได้ทั้งจากทางฝั่งถนนเพลินจิต และถนนสารสิน จากเดิมที่สามารถเข้าออกได้เพียงแค่ถนน เพลินจิตเพียงเส้นทางเดียว และยังมีความกว้างของถนนที่มากกว่าเดิมอีกเท่าตัว

 

นอกจากนี้ยังมีโครงการของเอกชนที่อยู่ติดกัน ที่ถูกพัฒนาบนที่ดินกรรมสิทธิ์ของอาคารเคี่ยนหงวน ด้านติดถนนสารสินและถนนวิทยุ ที่ถูกพัฒนาเป็น อาคาร 140 Wireless Road อาคาร Mixed Use มีไฮไลท์เป็นคอนเสิร์ต Hall

เรียกได้ว่าทั้งพื้นที่บนย่านหลังสวน และทำเลโดยรอบ เป็นการรวมเอาโครงการพัฒนาที่เป็นไฮไลท์ของกรุงเทพฯมารวมและตั้งอยู่ ทำให้พื้นที่ที่มีศักยภาพ ยิ่งเพิ่มศักยภาพให้มากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว ทำให้ย่านนี้แทบจะไม่สามารถหาที่ดินแบบ Freehold เพื่อพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ High Rise ได้อีกแล้ว โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม

 

ซึ่งในความเป็นจริง ย่านหลังสวนก็มีที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม และอพาร์ทเมนท์อยู่ไม่น้อย เพียงแต่ว่าส่วนใหญ่เป็นการขายแบบสัญญาเช่าระยะยาว 30 ปี ซึ่งเหลือสัญญาเช่าอยู่อีกไม่มาก (เพราะส่วนใหญ่ขายมาเกือบจะ 30 ปีแล้ว) รวมทั้งที่กล่าวไปแล้วว่า ที่ดินเกือบครึ่งเป็นที่ดิน กรรมสิทธิ์ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ดังนั้นจึงไม่สามารถขายออกไปได้

 

แต่หลังจากการปรับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของย่านหลังสวน อย่างถนนต้นสน-สารสิน ที่เปิดทางเข้าออกด้านถนนสารสิน รวมทั้งขยายพื้นที่ถนน เป็นถนน 2 ways ที่จากเดิมเป็น one way และทางแคบ ทำให้การเดินทางเชื่อมสารสินและชิดลม เพลินจิต สามารถทะลุซอยดังกล่าว โดยไม่ต้องอ้อมไปใช้ถนนใหญ่อย่างราชดำริแบบในอดีต

ผลพวงของการมีถนนที่กว้างขึ้น ทำให้มีผลต่อการพัฒนาโครงการอสังหาฯบนถนนทั้งสองฝั่ง ที่ดินเอกชนรายย่อยสามารถพัฒนาขึ้นตึกสูงได้ ทำให้ Major Development เลือกทำเลบนถนนต้นสน ติดทางออกสารสิน ช่วงรอยต่อที่เปิดทางเข้าออกใหม่ มาพัฒนาโครงการ MUNIQ LANGSUAN (มิวนีค หลังสวน) ซึ่งเป็นคอนโดแบบ Freehold หนึ่งเดียวบนถนนเส้นนี้

 

MUNIQ LANGSUAN (มิวนีค หลังสวน) โครงการคอนโด Freehold สูง 28 ชั้น จำนวนแค่ 166 ยูนิต บนพื้นที่ 1-1-66.5 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนต้นสน โดยมีสะพานเชื่อมจากถนนต้นสนข้ามคลอง เข้าสู่โครงการ

ภายใต้คอนเซปต์ Timeless Aesthetics ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบ้านเมืองที่ New York ที่มีความ Classic และ Romantic ผสมกัน (Romantic in New York Inspiration) ที่สะท้อนผ่านงานศิลปะชิ้นเอกที่ทรงคุณค่า หายาก มีมูลค่าสูง และมีหนึ่งเดียว ดังที่โครงการได้ถ่ายทอดผ่านหนังสั้น สะท้อนงานศิลปะชิ้นเอก กับห้อง The Collection ที่ถูกออกแบบให้อยู่บนชั้นสูง และหาได้ยากดังเช่นผลงานศิลปะชิ้นสำคัญ

 

เพื่อให้จุดเด่นในเชิงการใช้ชีวิตอันเหนือระดับกับคนที่คุณรัก ถูกถ่ายทอดออกมาได้สมบูรณ์แบบมากที่สุด MUNIQ LAUNGSUAN ยังได้มีการสื่อสารผ่านงานโฆษณาที่มีชื่อว่า It’s You


สะท้อนถึง lifestyle ระดับ Hi-end ที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว ดั่งเช่นการใช้ชีวิตใจกลางมหานครนิวยอร์ก พื้นที่แห่งการรังสรรค์ผลงานศิลปะผ่านตัวอาคารที่หลากหลาย ใจกลางศูนย์กลางย่านเศรษฐกิจ แต่ยังมีพื้นที่สวนสาธารณะขนาดใหญ่อย่าง Central Park และพื้นที่พักอาศัยสุดหรูอยู่รายล้อม

และยังมีสารพัดหล่ง hang out ที่สามารถเดินถึงกันได้ ให้คุณได้ใช้ชีวิตอย่างหลากหลาย มีคุณภาพ ดังเช่นที่ MUNIQ LANGSUAN

ที่นอกจากการออกแบบตัวอาคารที่โดดเด่น สามาถ take view สวนลุมพินี รวมทั้งสามารถเดินไปพักผ่อนที่สวนลุมได้ เพียงข้ามถนนไปไม่เกิน 100 เมตร

และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก ของพื้นที่ส่วนกลางตั้งแต่ทางเข้าโครงการ จนถึงภายในโครงการ ที่ครบครันและออกแบบอย่างหรูหรา เพื่อคุณภาพของการใช้ชีวิตหนึ่งเดียวใจกลางเมือง

เมื่อกลับเข้าสู่โครงการ จะผ่านสะพานที่ออกแบบมาเป็นหนึ่งเดียวกับตัวโครงการ กับความกว้างกว่า 12 เมตร(ทางรถสวน 8 เมตร และทางคนเดินข้างละ 2 เมตร)

ผ่านสวน เชื่อมกับโถงทางเข้าอาคารที่ชั้น 1 จะได้พบกับพื้นที่ Drop off และเชื่อมสู่พื้นที่จอดรถ ที่มีทั้ง Super Bike Parking และ Parking แบบ Auto ที่ชั้น 1-4 และรองรับ EV Chargers

โครงการออกแบบพื้นที่สวนสีเขียว The Garden Collection และ Silver Courtyard ตั้งแต่ทางเข้าโครงการ

มี Reception Area, Mail Room ที่ออกแบบสไตล์โมเดินคลาสสิค กับพื้นที่โถงต้อนรับขนาดใหญ่ ที่ดูหรูหรา เหมาะสำหรับเป็นพื้นที่รับรองแขก และการต้อนรับกลับบ้าน

เชื่อมกับ Waiting Lounge พื้นที่พักคอย และพักผ่อน ที่มีมุมมองเชื่อมภายในและภายนอก

พื้นที่ส่วนพักอาศัย เริ่มที่ชั้น 5 แต่พื้นที่ครึ่งหนึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางอย่าง Active Atrium ที่ออกแบบเป็นพื้นที่โถงโล่ง โดดเด่นด้วยบันไดเวียนสีขาว ที่ใช้เส้นโค้งตัดกับห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ เป็นเสมือนปะติมากรรมภายในโครงการ เชื่อมสู่พื้นที่ชั้น 6

ที่เป็น Gym และ Yoga room ที่ยังออกแบบและตกแต่งเป็นตีมสีขาวเช่นเดียวกับพื้นที่ส่วนกลางหลักของอาคาร

รวมทั้งยังมีพื้นที่ spa ในห้องน้ำ แบบแยกหญิงชาย

และที่ชั้น 7 ก็ยังเป็นพื้นที่ส่วนกลางต่อเนื่อง เป็นห้อง Kids Quarter และ Game Lounge ที่แยกเป็นห้องส่วนตัวออกมา เพื่อการใช้งานอย่างตามใจชอบและเป็นส่วนตัว

และโครงการยกพื้นที่โซนสระว่ายน้ำ Heated Pool (28c) ที่มีโซน Kids Pool

และ Jacuzzi รวมทั้งพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆที่ ชั้น 27 และชั้น 28 อย่าง Amphitheater ที่มีพื้นที่มุมส่วนตัว กับวิวส่วนตัวจากผนังกระจกผืนใหญ่

พร้อม Decanter Sky Lounge ที่โอบล้อมด้วยวิวเมือง ให้คุณได้ดื่มด่ำกับทุกค่ำคืนที่แสนพิเศษ โดยไม่ต้องออกไปไหนไกล

และยังมี Private Culinary Kitchen ,Private Dining Room ให้คุณได้เลือกใช้ เป็นพื้นที่ทำอาหาร ทานอาหารในวันพิเศษ กับกลุ่มเพื่อน พร้อมวิวเมืองยามค่ำคืน

ที่ roof top เป็นพื้นที่สวนที่มี Sky Garden ,Sky Deck และ Sky Terrarium ให้ได้เลือกใช้งาน

ส่วน roomtype ที่โครงการ มี 4 type หลัก อย่าง 1 bedroom 50.5 sq.m, 1 bedroom plus 64- 76 sq.m, 2 bedroom 78- 113 sq.m, 2 bedroom plus 96.5- 101 sq.m, 3 bedroom 121- 133 sq.m, 3 bedroom plus 176- 179.5 sq.m ที่กระจายอยู่ที่ชั้น 5 -23

โดยที่ชั้น 19 และ 22 จะมีความพิเศษที่ ระเบียงสวนขนาดใหญ่ ที่สามารถออกไปใช้งาน พักผ่อน ชมวิว เชื่อมกับวิวสวนด้านหน้าโครงการ

ส่วน Type สุดท้าย คือ The Collection 80.5 – 280 sq.m ที่มีที่ชั้น  24-26 โดยชั้น 24 มี 4 ห้อง

ส่วนชั้น 25-26 มีเพียงชั้นละ 2 ห้อง ที่มาพร้อมกับพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่เต็มความกว้างห้อง

MUNIQ LANGSUAN เปิดขายไปกว่า 90% แล้ว ทำให้ห้องที่เหลือมีไม่มาก ส่วนใหญ่เหลือห้อง 2 Bedroom  ขนาด 83.5-85.5 Sq.m. ห้องมุมด้านหลังโครงการ Type C1 และ C2

 

C1 2 Bedroom 83.5 Sq.m. ห้องมุมสุดทางเดิน มีพื้นที่โถงติดทางเข้า ส่วนภายในเป็นพื้นที่ ครัว living area เชื่อมสู่พื้นที่ระเบียง และด้านซ้ายเป็นห้องนอนทั้งสองห้อง มีห้องน้ำในตัวทั้งสองห้อง

C2 2 Bedroom 85.5 Sq.m. สองห้องนอนทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า แบ่งพื้นที่การใช้งานคล้ายห้อง C1 แต่มีพื้นที่ living area ที่กว้างกว่า

ทางโครงการได้ตกแต่งห้องตัวอย่างให้ชม เป็นห้อง 2 Bedroom C2 85.5 Sq.m.

ข้อดีในเรื่องตำแหน่งห้องของ Type นี้ คือ ห้องมุมสุดทางเดิน ทำให้ค่อนข้าง private และมีพื้นที่ติดอากาศทุกห้อง (พื้นที่ที่ติดประตู-หน้าต่าง ทำให้อากาศถ่ายเทสู่ภายนอกได้สะดวก แสงส่องเข้าถึงได้ง่าย)

 

ทุกห้องโครงการให้ประตูสูง 2.4 เมตร และ แอร์ Conceal แบบ Split Type

ภายในห้องดูกว้าง เพราะความสูงที่ให้ถึง 3 เมตร (บริเวณครัว drop ฝ้าแล้วสูง 2.7 เมตร) และการแบ่งสัดส่วนห้อง ที่เป็นครัวหน้ากว้าง เชื่อมกับห้องนั่งเล่น และระเบียงที่มีกระจกบานเต็มรับอยู่ปลายห้อง

และเพิ่มความกว้าง กับโทนสีห้องที่ดูสว่าง เพราะโครงการ ติด wallpaper สีขาว

และปูพื้น Engineered wood สี white oak เรียงหน้าไม้เป็นแนวยาวทอดตัว นำสายตาสู่ภายในห้อง

พื้นที่ส่วนแรก เป็นชุดครัวและตู้รองเท้า built-in

สำหรับ Type C2 ทางโครงการ built-in ตู้รองเท้าให้ที่ด้านซ้ายของทางเข้า

ส่วนด้านขวาเป็นชุดครัว built-in พร้อม Island วางตรงกลางระหว่างทางเดิน และพื้นที่ทำครัว

ชุดครัว built-in เป็น L shape สำหรับ Type C2 นี้

ที่เคาท์เตอร์ครัวใช้ worktop และผนังกันเปื้อนทำจากหินควอทซ์สีขาวทั้งเคาท์เตอร์

ให้เตาไฟฟ้า 4 หัว พร้อมที่ดูดควันด้านบน

ติดกันเป็นอ่างล้างจานของ FRANKE แบบ ฝังเคาท์เตอร์ ที่มาพร้อมกับชุดแขวนเครื่องมือทำครัว

ส่วนด้านล่างเคาท์เตอร์ โครงการเจาะช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า

เตาอบไมโครเวฟ

ลิ้นชักใส่อุปกรณ์ทำครัว แบบแยกการใช้งาน

และอีกด้านเป็นตู้เย็นแบบ Built – in หน้าบานลายไม้

เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวทั้งหมดเป็นของ gorenje

ส่วนด้านบนเป็นตู้เก็บอุปกรณ์ต่างๆ บานเปิดเป็นกระจกสีดำ

ที่ island หน้า top เหมือนที่เคาท์เตอร์ครัว

ส่วนด้านล่างสามารถเปิดเป็นตู้วางของสำหรับใช้งานได้

ถัดจากครัวเป็นส่วนของพื้นที่ living area ที่ค่อนข้างเป็นสัดส่วน

ที่พื้นที่พักผ่อน สามารถ วางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 4 ที่นั่ง ที่มุมผนังทึบ เชื่อมต่อกับพื้นที่ครัว

ส่วนอีกมุม เป็นพื้นที่ติดประตูออกระเบียง

สามารถวางชุดโซฟา สำหรับ 3-4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง

และที่ผนังทึบ สามารถติดตั้งทีวีและชั้นวางได้ที่ผนังด้านนี้

ติดกันเป็นทางออกระเบียง ที่มาพร้อมกับประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ สูงจรดเพดาน

ที่ระเบียงแบ่งสัดส่วนพื้นที่สำหรับใช้งาน

แยกจากพื้นที่วางงานระบบและคอมแอร์ฯ

โดยระเบียงและเฟรมกั้น โครงการให้อลูมิเนียมสีเทาเข้ม เหมาะสำหรับใช้งานด้านนอก

ที่ห้อง living มีห้องน้ำ แยกอยู่ที่ด้านซ้าย ถัดจากที่วางรองเท้า

ภายในห้องน้ำ

โครงการให้เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า แบบลอยตัว ยาวเต็มความกว้างห้อง ที่ด้านซ้ายของทางเข้า พร้อมกระจกบานยาว ที่สามารถเปิดเก็บอุปกรณ์ด้านในได้

ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ ของ KOHLER

ปีกด้านขวาของยูนิต ระหว่างพื้นที่ครัวและliving area เป็นห้องนอนทั้ง 2 ห้อง มีห้องน้ำในตัว

ห้องแรกขวามือ เป็นห้องนอนเล็ก

ติดทางเข้าขวามือ เป็นห้องน้ำภายในห้องนอน

ภายในห้องน้ำ แบ่งพื้นที่ส่วนแห้งติดทางเข้า

โครงการให้เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า แบบลอยตัว ที่ออกแบบตัวก๊อกน้ำให้มีความคลาสสิค พร้อมกระจกบานยาว ที่สามารถเปิดเก็บอุปกรณ์ด้านในได้

ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ ของ KOHLER

ส่วนพื้นที่ส่วนเปียกอยู่ด้านในสุด กั้นด้วย shower glass บานสูง

ภายในโครงการให้ Rain shower และ hand shower แบบติดผนัง แต่มีดีไซน์โค้ง คลาสสิค

พร้อมช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำ แบบฝังในผนัง

ที่ผนังด้านหน้าห้องน้ำ โครงการ built-in ตู้เสื้อผ้า หน้าบานกระจก พร้อมไฟราวเปิดปิดตามการเปิดใช้งาน แบบ 3 บานเปิด พร้อมชั้นวางกระเป๋า และวางของ built-in เต็มความกว้างผนัง สูงจากพื้นจรดเพดาน

ในส่วนของห้องนอน ค่อนข้างกว้างพอสมควร เพราะภายในห้องสามารถวางเตียง queen size พร้อมโต๊ะหัวเตียง และมีพื้นที่โดยรอบเตียงเหลือ เดินได้สะดวก

ส่วนที่ผนังปลายเตียง เป็นตำแหน่งติดทีวีแบบแขวนผนัง

ปลายสุดของห้องนอน เป็นหน้าต่างกระจกบานใหญ่ เต็มเฟรม พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้ง สำหรับเปิดระบายอากาศ

ส่วนห้องนอนใหญ่ เข้ามาด้านขวาจะพบกับ walk-in closet ขนาดใหญ่

ที่ ให้มาพร้อมกับ sliding door สำหรับปิดเป็นห้องแต่งตัวได้ ส่วน Wallpaper ที่ทางโครงการฯ ให้ สามาดูได้จากห้องนี้ จะดูมี Shimmer หน่อย

และด้านในมีหน้าต่างระบายอากาศ ทำให้ห้องไม่อับ รับแสงจากธรรมชาติ

ตรงข้าม walk-in closet เป็นห้องน้ำสำหรับห้องนอนใหญ่

ภายในห้องน้ำ แบ่งพื้นที่ส่วนแห้งติดทางเข้า

โครงการให้เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า แบบลอยตัว  พร้อมพื้นที่วางของปลายเคาท์เตอร์ และก๊อกน้ำแบบคลาสสิค ทางโครงการเตรียมเครื่องทำน้ำร้อน ทั้งบริเวณอ่างอาบน้ำ อ่างล่างหน้า และ Rain Shower

พร้อมกระจกบานยาว ที่สามารถเปิดเก็บอุปกรณ์ด้านในได้

ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ ของ KOHLER

ส่วนพื้นที่ส่วนเปียกอยู่ด้านในสุด กั้นด้วย shower glass บานสูง

ภายในโครงการให้ Rain shower และ hand shower แบบติดผนัง พร้อมช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำ ในผนัง

และอ่างอาบน้ำเข้ามุม ติดหน้าต่างระบายอากาศ

ด้านในสุดเป็นห้องนอนที่มาพร้อมกับหน้าต่างเข้ามุม แบบ Full Height

ให้ได้นอนชมวิวโดยรอบได้

คั่นด้วยผนังทึบ ที่สามารถตกแต่งผนังในแบบที่คุณชอบได้ตามสไตล์

ติดกันเป็นหน้าต่างบานผลักด้านข้างเตียงนอน เปิดรับลม ระบายอากาศ

พื้นที่ผนังทึบของห้องแต่งตัว กว้างพอให้วางหัวเตียง king size  ได้พอดีขนาดของเตียง

ปลายเตียงสามารถวางชั้นเตี้ยๆ สำหรับวางทีวี และวางของ เชื่อมกับวิวด้านนอก

เรียกว่าเป็นห้อง2ห้องนอนที่แบ่งสัดส่วนได้ลงตัว แถมยังมีห้องน้ำสำหรับทุกๆห้องอีกด้วย น่าจะเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก หรือคนที่กำลังสร้างครอบครัว และชอบการใช้ชีวิตใจกลางเมือง แบบ exclusive

 

ส่วนห้อง The collection เหมือนห้องตัวอย่าง แต่ upgrade พื้นที่ครัวและห้องน้ำ ให้สเปคสูงกว่า และที่สำคัญที่นี่ทุกห้องสามารถเลี้ยงสัตว์เล็กได้ แต่ข้อกำหนดขึ้นอยู่กับระเบียบของนิติบุคคล

 

MUNIQ LAUGSUAN คอนโดระดับ Luxury ที่ขายดีที่สุดในปี 2018?

 

ถ้าถามผมถึงข้อเท็จจริงว่า ในช่วงปี 2018 นี้มีโครงการคอนโดระดับ Luxury โครงการไหน ที่มียอด Take Up Rate ที่สูงที่สุด ขายดิบขายดีจนคนแย่งกันซื้อ และไม่คิดมากที่จะซื้อต่อห้องรีเซลโดยยอมโดนบวกเพิ่มในราคาหลักหลายแสนทั้งๆที่ยังไม่มีแม้แต่ห้องตัวอย่างมาจัดแสดงให้คนเห็น คำตอบนั้นคงจะเป็นที่ Surprise ของใครหลายๆคนที่อยู่นอกวงการ เพราะชื่อคอนโดนั้นก็คือ MUNIQ LANGSUAN (มิวนีค หลังสวน) คอนโดสุดหรู Freehold จากค่าย MJD ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางดงคอนโด Lease Hold ระดับ Super Luxury มากมายบนทำเลหลังสวน

 

ความสำเร็จในด้านยอดขายของ MUNIQ LANGSUAN เป็นเรื่องที่ต้องนำมาเป็นกรณีศึกษา สำหรับดีเวลลอปเปอร์หลายๆรายที่มุ่งพัฒนาคอนโดในกลุ่มตลาด Luxury ขึ้นไป เพราะนี่คือการสร้างมาตรฐานใหม่ในด้านยอดขายคอนโดในกลุ่มนี้ ที่มักจะมียอดขายที่ไม่หวือหวา ออกจะอืดซะด้วยซ้ำไป ยิ่งหากเป็นด้านการขายห้องรีเซลก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แทบจะไม่มี Liquidity ในการขายต่อ ราคาขายของหลายๆโครงการก็ไม่ถูกดันขึ้นให้สุด สมดังตั้งใจแม้ว่าโครงการนั้นจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ไปบ้างแล้วก็ตาม สำหรับผมแล้ว MUNIQ LANGSUAN ขายได้ดีขนาดนี้ก็เพราะการบอกกันแบบปากต่อปาก (Word of Mouth) ของกลุ่ม Key Opinion Leaders ทั้ง Real Estate expert influencer และ Real Demand ในกลุ่มตลาดสินค้า Luxury  ในแบบที่ไม่ต้องใช้เงินหว่านซื้อสื่อ PR พร่ำเพรื่อ เหมือนคอนโดแบรนด์ดัง ราคาแพงอื่นๆ ที่มักจะยัดเยียด Key Message ไปให้กับบรรดาสื่อต่างๆให้ลงโฆษณาตามทิศทางที่ตัวเองอยากจะให้ลง โดยลืมมองไปว่ากลุ่ม Key Opinion Leaders ที่เป็นตัวจริงนั้น มักชอบที่จะบอกเล่าประสบการณ์ร่วมดีๆที่เค้ามีกับโครงการนั้นๆในแบบ Freedom to express หาใช่การจ้างให้มาลงแต่อย่างใด

 

ทั้งๆ ที่แบรนด์ MUNIQ เพิ่งจะเริ่มเป็นที่รู้จักได้ไม่นาน โดยมีเพียงแค่ 2 โครงการเท่านั้น ที่สุขุมวิท 23 และหลังสวน แล้วอะไรที่ทำให้ใครหลายๆคนหลงรัก จนต้องมาแย่งมาจับจองเป็นเจ้าของ MUNIQ LANGSUAN แห่งนี้?

 

คำตอบนั้นอาจจะดูไม่ซับซ้อนเลย นั่นคือการพัฒนาคอนโดโดยมุ่งจับตลาดใหม่ Blue Ocean Location

 

ถ้าเราพิจารณาดูจากบรรดาคอนโดในกลุ่มตลาด Luxury – Super Luxury เปิดใหม่ในรอบหลายปีที่ผ่านมา ก็จะพบว่าทิศทางในการพัฒนาโครงการมักจะมุ่งไปเจาะทำเลยอดฮิตอย่าง พร้อมพงษ์-ทองหล่อ, สีลม-สาทร, เพลินจิต – อโศก รวมถึงพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งเจริญนคร จากเดิมที่ตลาดคอนโดหรูถูกจำกัดอยู่เพียงแค่ยอดบนของพีรามิดที่มีทั้ง Supply และ Demand ที่จำกัด แต่เมื่อนานวันเข้าก็กลับปรากฎมี Supply ใหม่เข้ามาสู่ตลาดอยู่เรื่อยๆ ในย่านเดิมๆ แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ส่วนส่งผลต่อ Purchasing Decision ของกลุ่มดีมานท์คอนโดหรูเหล่านี้แน่นอน ก็แหงล่ะใครมันจะไปซื้อคอนโดตารางเมตรละสามแสนติดๆกัน 3-4 ที่บนทำเลเดียวกัน จริงไหมล่ะครับ…แต่แล้ววันหนึ่ง MUNIQ LANGSUAN ก็มาทำเรื่องเซอร์ไพร์สให้กับตลาดคอนโดหรูถึง 3 ต่อด้วยกัน ต่อแรกคือ ฉีกตลาดไปคว้าที่ดินที่อยู่บนทำเลหลังสวนแท้ Central Lumpini แท้ๆ ชนิดที่เดินไม่ถึง 100 เมตรก็เข้าไปวิ่งเล่นในสวนลุมพินีได้แล้ว ต่อที่สองคือมองศักยภาพทำเลขาดจากเดิมถนนต้นสนที่เป็นซอยตัน กลับกลายเป็นถนนสายหลัก 2 ways ที่เชื่อมต่อระหว่างชิดลมสู่สารสินได้หน้าตาเฉย และต่อที่สามที่เป็นจุดสลบก็คือการตั้งราคาขายที่ค่อนข้าง Competitive มากๆในย่านหลังสวน-ชิดลม เนื่องจากมีราคาขายเริ่มต้นที่ถูกกว่าคอนโด Lease Hold ที่อยู่ติดกันด้วยซ้ำไป ซึ่งลำพังการเป็นคอนโด Freehold ใหม่เพียงแห่งเดียวในดงคอนโด Leasehold ก็ว่ายากแล้ว แต่นี่กลับขายในราคาที่เร้าใจกว่ามาก แล้วแบบนี้คนที่มีเงินพร้อมซื้อคนไหนจะอดใจไหว

ความไฮเอนด์ของทำเลหลังสวน ที่ใกล้ทั้งสวนลุมพินี รถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดิน ห้างสรรพสินค้าชั้นนำระดับโลก ล้วนส่งผลให้ย่านนี้เป็นย่านที่มีชาวต่างชาติพักอาศัยอยู่มากที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานครมาตั้งแต่สมัยหลายสิบปีก่อนในยุคที่กทม.ยังไม่ค่อยมีอาคารสูงเกิดขึ้นเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะชาวตะวันตก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีสถานฑูตสำคัญๆ หลายประเทศตั้งอยู่ทั้งสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ฟินแลนด์ และฮอลแลนด์ โดยในยุคปัจจุบันพื้นที่ส่วนใหญ่ของย่านหลังสวนกำลังถูก Re-Development ให้มีความหลากหลาย และน่าอยู่มากยิ่งขึ้น นำโดย บริษัท สยามสินธร จำกัด ที่ได้พัฒนาโครงการอสังหาฯภายใต้ชื่อ “สินธร วิลเลจ” โครงการ Mixed Use ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในย่านหลังสวน-ชิดลม-ต้นสน

ทั้งนี้สิ่งหนึ่งที่จะช่วยเปลี่ยนพื้นฐานของย่านหลังสวนให้ไปไกลมากกว่าเดิมไม่ได้หยุดเพียงแค่การพัฒนาโครงการสินธร วิลเลจ แต่ยังรวมไปถึงการเวนคืนที่ดินตรงท้ายถนนต้นสนติดกับฝั่งถนนสารสินโดยกทม. เพื่อมุ่งหวังที่จะเพิ่มความหลากหลายในการเดินทางในย่านนี้ให้สะดวกยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยหลังจากการปรับปรุงถนนและทัศนียภาพซอยต้นสนจะสามารถเข้าออกได้ทั้งจากทางฝั่งถนนเพลินจิต และถนนสารสิน จากเดิมที่สามารถเข้าออกได้เพียงแค่ถนนเพลินจิตเพียงเส้นทางเดียว และยังมีความกว้างของถนนที่มากกว่าเดิมอีกเท่าตัว จากการร่วมพัฒนาโดยโครงการสินธร วิลเลจ พูดง่ายๆก็คือการอัพเกรดของถนนต้นสนนี้จะทำให้ทุกโครงการในย่านหลังสวน สามารถเดินทางเชื่อมต่อกันได้ง่ายมากๆทั้งทางถนนหลังสวน ถนนสารสิน ถนนชิดลม และถนนต้นสน

ทั้งหมดนี้ล้วนแต่ส่งผลกระทบในทางบวกมากมายมหาศาลต่อโครงการ MUNIQ LANGSUAN ควบคู่ไปกับรูปแบบการพัฒนาโครงการที่ดูจะตรงจริตกลุ่มเป้าหมายที่ทางโครงการวางไว้อยู่มากที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นจำนวนยูนิตที่มีเพียงแค่ 166 ยูนิต น้อยที่สุดในบรรดาคอนโด Freehold ที่อยู่บนถนนหลังสวน – ชิดลม พร้อมจำนวนที่จอดรถถึง 111% แบบ Automatic ขนาดห้องเริ่มต้นตั้งแต่ 50 – 280 ตรม. (1 ห้องนอน 50-78 ตรม.ซึ่งเป็นขนาดที่หาได้ยากสำหรับคอนโด Freehold ในย่านนี้) แต่ได้พื้นที่ส่วนกลางที่หลากหลาย อัดแน่นด้วยฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ทุก Generation รวมถึงสัตว์เลี้ยงแสนรัก กระจายตัวอยู่บนชั้น 1, 5-6, 7, 27 และ 28 มากซะจนแทบจะไม่ต้องก้าวออกไปเดินเล่นออกกำลังกายที่สวนลุมฯด้วยซ้ำ! และในส่วนของตัวอาคารได้ถูกออกแบบโดยสถาปนิกจาก Palmer & Turner (Thailand) และ Landscape ออกแบบโดย P Landscape แถมห้องบางส่วนยังได้รับวิวพื้นที่สีเขียวและทะเลสาปสวยๆ ของสวนลุมพินีเช่นกัน นับว่าเป็นคอนโดระดับ Luxury เพียงไม่กี่คอนโดที่สามารถ take view แบบนี้ได้…เห็นแบบนี้แล้วจะไม่ให้ขายดีได้อย่างไรล่ะครับ

กับราคาเริ่มต้นที่ 295,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งถือว่าไม่แพง เมื่อเทียบกับทำเลหลังสวน ติดสวนลุมเพียง 100 เมตร ใจกลางเมือง ที่สามารถเดินทางได้สะดวก กับพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ กระจายอยู่ทั่วทั้งโครงการ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตหรูหราอย่างเหนือระดับ แถมยังเป็น freehold ระดับ luxury หนึ่งเดียวท่ามกลางย่านคอนโด Leasehold ที่มีให้คุณได้เลือกจับจองเพียง 166 ยูนิต(ซึ่งตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่ห้องเท่านั้น) และที่สำคัญยังตั้งอยู่ในย่านที่มีการซื้อขายที่ดินทำราคา new high อย่างต่อเนื่อง เกือบทุกปีอีกด้วย เรียกว่า MUNIQ LANGSUAN เป็นคอนโด Luxury ชิ้นเอกที่ควรมีไว้ในครอบครองเลยทีเดียว

 

MUNIQ LANGSUAN พร้อมเปิดให้เข้าชม Sale Gallery ที่อาคารเคี่ยนหงวน 3 ชั้น G ติดถนนสารสิน ใกล้พื้นที่โครงการจริงแล้ว โดยนอกจากจะมีห้องตัวอย่างของโครงการ MUNIQ LANGSUAN แล้วก็ยังมีห้องตัวอย่างของโครงการ MUNIQ Sukhumvit 23 ให้เลือกชมด้วยเช่นกัน

มี Model ของทั้ง 2 โครงการ

ซึ่งมีความแตกต่างกันบางอย่าง เช่น ระยะความสูงของเพดาน

ชุดครัว

ห้องน้ำ

โดยราคาของ Sukhumvit 23 จะถูกกว่าหน่อย เพราะสเปคของหลังสวนถือว่าอัพเกรดตามความพรีเมี่ยมของพื้นที่โครงการ และยังมีห้องว่างขายประมาณ 20% ราคาเริ่มต้นที่ 14.4 ล้านบาท

เรียกว่ามาถึงที่ ได้เลือกชมและเป็นเจ้าของได้ทั้ง 2 โครงการเลย

และในวันที่ 1-2 ธันวาคมศกนี้ ทางโครงการฯ จะมี Event MUNIQ Langsuan & Sukhumvit 23 “SPARKLING WINTER CELEBRATION” ที่สำนักงานขายอาคาร เคี่ยนหงวน 3 ถนนวิทยุ ชั้น G ภายในงานมีโปรโมชั่น คือ ใช้จ่ายผ่านบัตรซิตี้แบงค์ รับคะแนนเพิ่ม 30 เท่า และลุ้นรับบัตรกำนัล มาราเกซ หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา มูลค่าสูงสุด 120,000 บาท*

 

*เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทกำหนด

 

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ http://bit.ly/2BrGLtm

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม MJD Call Center 1266



เกริก บุณยโยธิน

เกริก บุณยโยธิน

ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ

เว็บไซต์


PropScore™ 4.5

SCORE:
0.0
From : 0 รีวิว


ยังไม่มีการให้คะแนนและ Comment โครงการนี้


เปิดตึกแล้ว Ideo Sukhumvit – Rama 4 คอนโดคอนเซปต์ป่าในเมือง ครั้งแรก! กับ Urban Courtyard และน้ำตกสูง 18 เมตร ที่ซ่อนตัวอยู่ใจกลางอาคาร

Ideo Sukhumvit – Rama 4 คือคอนโดสูง 32 ชั้นจำนวน 643 ยูนิต และพื้นที่ร้านค้าอีก 3 ยูนิตพร้อมที่จอดรถอีก 56% ที่นี่เป็นหนึ่งในคอนโดแบรนด์เนมหลายโครงการที่ลงมาช่วงชิงชัยตลาดคอนโดเปิดใหม่ในย่านพระราม ... อ่านต่อ

25 July, 2024



[1st Impression] The EXTRO Phayathai-Rangnam คอนโดระดับ Iconic Landmark ใหม่ใจกลางถนนรางน้ำ

ถ้าหากมีการประกาศรางวัลในสาขาคอนโดที่มียอดอาคารที่สวยที่สุดแห่งปี 2024 ผมเชื่อว่า The E... อ่านต่อ
23 July, 2024

ซื้อบ้านตำแหน่งไหนดี? ข้อควรรู้ก่อนพิจารณาเลือกซื้อบ้านจัดสรร

เมื่อเราทุกคนเติบโตขึ้น มีครอบครัว ก็ต้องมีความคิดอยากจะขยับขยายการใช้ชีวิตอย่างการแยกอ... อ่านต่อ
23 July, 2024

เปิดแผงแล้ว! อยากได้บ้านและคอนโดดีๆ 19 – 24 ก.ค. 67 นี้ต้องมาที่พารากอน

SC ASSET MART ช้อปสนั่น 6 วันเต็ม มีบ้านให้เลือกครบ พร้อมจบทุกราคา ของแถม กิจกรรม และเม... อ่านต่อ
22 July, 2024

[1st Impression] LIFE พระราม 4 – อโศก อลังการคอนโดวิวโดดเด่นเหนือใคร กับดีไซน์ยืนหนึ่งพื้นที่ส่วนกลาง 5 ชั้น

LIFE พระราม 4 - อโศก คือคอนโดที่เรียกเสียงฮือฮามาข้ามปีตั้งแต่ยังไม่เริ่มเปิดตัวในช่วงป... อ่านต่อ
16 July, 2024

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง