จะดีแค่ไหนถ้าเราเป็นเจ้าของโรงแรมด้วยเงินไม่กี่ล้าน พักฟรี แถมไม่ต้องเหนื่อยดูแลเอง รับผลตอบแทนไปตลอดอย่างยั่งยืน เลือกลงทุนแนว Lifestyle Investment ที่ RAMADA MIRA NORTH PATTAYA By Habitat Group

เหตุผลในการซื้อคอนโดมิเนียมมีมากมาย ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองในระยะยาว ใช้พักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศ เพื่อปล่อยเช่า เพื่อขายต่อระยะสั้น-ยาว ไม่ว่าจะเหตุผลใดแต่ทุกคนย่อมมีเหตุผลเดียวร่วมกันนั่นคือ อยากซื้อคอนโดมิเนียมแล้วได้กำไร ทั้งกำไรด้านการเงินและกำไรทางความรู้สึกที่ได้ครอบครอง และนี่คือมนต์เสน่ห์ของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ผู้ลงทุนสามารถจับต้องได้ทั้งตัวเลขและการสัมผัสกับประสบการณ์จริง ยากที่จะหาการลงทุนชนิดใดมาทดแทนได้

จริงๆ แล้วเราซื้อคอนโดตากอากาศไปเพื่ออะไร

ทุกวันนี้เราเห็นคนไทยในเมืองใหญ่กรุงเทพหรือแม้กระทั่งนักท่องเที่ยวต่างประเทศหลายคนสนใจซื้อคอนโดมิเนียมในเมืองพักตากอากาศในไทยมากขึ้น เช่น เขาใหญ่ หัวหิน เชียงใหม่ ภูเก็ต และ destination ที่ขาดไปไม่ได้ก็คือพัทยานั่นเอง

วัตถุประสงค์ในการซื้อคอนโดมิเนียมตากอากาศของคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่คิดว่ามีอะไรบ้างครับ  ส่วนใหญ่ก็มักจะซื้ออยากใช้เป็นที่พักเป็นบางครั้งคราว พาครอบครัว คนรัก มาพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศที่เดิมๆ และวุ่นวายของเมืองกรุงมาหาความรู้สึกพักผ่อนที่แตกต่างของเมืองสบายๆ ชิลๆ หาของกิน เที่ยวเล่น แล้วกลับมานอนในห้องคอนโดมิเนียมของตัวเองโดยไม่ต้องไปแย่งกับคนอื่นจองในช่วง High season

แต่เมื่อวันใดที่เราไม่อยู่ที่ห้อง ช่วงที่เราไม่ได้เข้าพักก็อยากจะสร้างรายได้จากการปล่อยเช่าได้ด้วย บางคนจึงตัดสินใจปล่อยเช่าระยะสั้นให้กับนักท่องเที่ยวเพื่อให้อย่างน้อยก็หมดห่วงในเรื่องของภาระค่าส่วนกลางที่ต้องจ่ายทิ้งไปทุกเดือน อย่างน้อยให้มีค่าเช่ามาครอบคลุมภาระตรงนี้ไปได้บ้าง

ฟังดูดีและทำง่าย แค่จ้างแม่บ้านทำความสะอาดและถือกุญแจมาคอยเปิดรับลูกค้าและเราเจ้าของห้องก็เปิด account กับเว็บไซต์ปล่อยเช่ารายวันคุยกับลูกค้าโดยตรง แค่นี้ก็เรียบร้อย แต่ความฝันกับความเป็นจริงมักสวนทางกันเสมอ เพราะคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ที่จดทะเบียนเป็นรูปแบบที่พักอาศัย ในทางกฎหมายแล้วจะไม่สามารถปล่อยเช่ารายวันระยะสั้นได้เพราะผิดพระราชบัญญัติโรงแรม ปัจจุบันจึงเกิดความขัดแย้ง เกิดปมปัญหาระหว่างเจ้าของร่วมที่พักอาศัยเองระยะยาวกับเจ้าของห้องที่ปล่อยเช่ารายวัน เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาหลายปี จนสุดท้ายเกิดการฟ้องร้องกันเป็นเรื่องเป็นราวและสุดท้ายศาลก็ตัดสินให้ผู้ปล่อยเช่ารายวันมีความผิด ลองอ่านตัวอย่างเคสที่ตัดสินไปแล้วที่นี่ https://www.prachachat.net/property/news-288380

จะเห็นได้ว่าคอนโดมิเนียมทำเลเมืองพักตากอากาศแบบดั้งเดิมไม่สามารถตอบโจทย์กับผู้ซื้อคอนโดมิเนียมที่คาดหวังมรรคผลจากการลงทุนได้เลยเพราะมีความเสี่ยงที่รู้แน่ๆ ว่าต้องเสียเงินค่าปรับชัวร์ๆ แถมต้องขึ้นโรงขั้นศาลให้เสียเวลาปวดหัวอีก ดังนั้นคอนโดมิเนียมเพื่อการพักอาศัยอย่างเดียวจึงไม่ตอบโจทย์ผู้ซื้อที่ต้องการซื้อเพื่อความคุ้มค่าในการใช้งานห้องคอนโดของตัวเอง

ครั้นจะให้ปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมแบบสัญญาระยะยาวหลายเดือน ก็อยากทำ แต่มักจะประสบปัญหาหาคนเช่าลำบาก เพราะกลุ่มลูกค้าเช่าหลายเดือนก็มีจำกัด เช่น มีเฉพาะชาวต่างชาติที่มี VISA บางแบบเพื่อมาพักผ่อนวัยเกษียณเท่านั้น ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวอื่นๆ ก็ยังคงเลือกพักแค่ไม่กี่วันเท่านั้น เมื่อห้องคอนโดของเราต้องว่าง แถมยังต้องมาคอยจ่ายค่าส่วนกลางไปฟรีๆ ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้อยู่ทุกวันแบบนี้อีก ก็ยิ่งทำให้คอนโดมิเนียมพักตากอากาศกลายเป็นทางเลือกของการลงทุนที่ใครหลายๆ คนหลีกเลี่ยง

แต่ถ้ามีใครสักคนที่สร้างคอนโดมิเนียมที่ลบจุดด้อย ขจัด pain point ข้างต้นที่กล่าวมาได้ทุกข้อก็คงจะน่าสนใจ…

Habitat Group กับการสร้างสรรค์คอนเซปต์ Lifestyle Investment ในพัทยาที่โดนใจนักลงทุนตัวจริง ตอบโจทย์ pain point ของคอนโดมิเนียมพักตากอากาศ

Habitat Group (ฮาบิแทท กรุ๊ป) เป็น Developer ขนาดกลางที่สร้างสรรค์โครงการทั้งแบบคอนโดมิเนียมเพื่อพักอาศัยแบบปกติทั่วไปในกรุงเทพ นอกจากนี้ Habitat Group ก็ยังเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อปล่อยเช่ารูปแบบโรงแรมอย่างเต็มตัวและถูกกฎหมายโดยเชิญ chain โรงเเรมดังๆ ระดับโลก มาบริหารโครงการ

Habitat Group ในขนาดลักษณะองค์กรแบบปัจจุบันนี้ยังคงเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเป็นเจ้าของห้องในโรงแรมและได้รับค่าเช่าไปตลอดพร้อมกับสิทธิพิเศษในการเข้าพักฟรีอีกด้วย แต่ผู้เขียนมีความเห็นส่วนตัวคิดว่าในอนาคตถ้า Habitat Group เริ่มขยับขยายขนาดองค์กรและมีเงินลงทุนใหญ่มากขึ้น รูปแบบการลงทุนแนวนี้ที่เปิดโอกาสให้รายย่อยเข้ามาร่วมอาจจะไม่มีอีกแล้ว ดังนั้นช่วงเวลาปีนี้เป็นจังหวะเหมาะที่สุดสำหรับนักลงทุนรายย่อยที่อยากร่วมลงทุนในโครงการที่มีลักษณะจุดเด่นหาได้ยากแบบนี้ครับ เพราะส่วนใหญ่เราจะเห็นว่ากลุ่มทุนใหญ่เลือกจะลงทุนสร้างโรงแรมเองด้วยตัวเองและไม่จำเป็นต้องมาพึ่งพาเงินจากรายเล็กรายย่อย ไม่ต้องมาแบ่งผลกำไรให้คนอื่นอย่างนี้

Habitat Group ถือว่าเป็น Developer ที่มีความสามารถพิเศษสูงกว่าบริษัทอื่นๆ ทั่วไป โดยสามารถสร้างได้ทั้งคอนโดมิเนียมเพื่ออยู่อาศัยและสร้างโรงแรมได้ด้วย จึงเป็น developer ที่น่าจับตามองอีกบริษัทหนึ่งเพื่อร่วมลงทุนหรือศึกษาแนวทางไว้เป็นความรู้ครับ

สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักว่า Habitat Group ทำอะไรมาบ้าง ก็ไม่ต้องกังวลครับ แนะนำให้หาข้อมูลจากเว็บไซต์นี้ https://www.habitatgroup.co.th/ แล้วจะพบกับโครงการต่างๆ มากมายที่ทำมาแล้ว ได้แก่ WALDEN SUKHUMVIT 39, WALDEN ASOKE, LEROY RUAMRUDEE, WYNDHAM ATLAS WONGAMAT PATTAYA, X2 Vibe Pattaya Seaphere, X2 PATTAYA OCEANPHERE, Bluphere Pattaya, Bayphere Pattaya

และโครงการใหม่ล่าสุดคือ RAMADA MIRA NORTH PATTAYA

ถ้าอยากสำรวจเพื่อความมั่นใจในการลงทุน ลองคลิกจองโรงแรมชื่อว่า X2 Vibe Pattaya Seaphere  https://x2vibe.com/residences/pattaya-seaphere/ แล้วลองไปเข้าพักดูครับว่าประสบการณ์ รูปแบบแนวคิด และลักษณะการดำเนินงานเป็นอย่างไร เพราะโครงการนี้เป็นหนึ่งในผลงานการสร้างสรรค์จาก Habitat Group ครับ อยากให้ลองไปสัมผัสเองแล้วตัดสินใจร่วมลงทุนกับ Habitat Group ด้วยตัวเองครับ

ภาพสระว่ายน้ำโครงการ X2 Vibe Pattaya Seaphere

Habitat Group ตอกย้ำสโลแกน “We know what investor wants” รู้ใจนักลงทุนดีที่สุด

Habitat Group มีผู้บริหารที่เป็นนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์อยู่แล้ว คุณชนินทร์ วาณิชย์วงศ์ CEO ผู้มีภูมิหลังการทำงานด้าน Information Technology แต่มีประสบการณ์ด้านการซื้อการเช่าซื้อและขายอสังหาริมทรัพย์มากว่า 10 ปี เขาสั่งสมความรู้และทักษะการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ได้แตกฉานมากยิ่งขึ้น และเข้าใจถึงความยุ่งยากของการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งการซ่อมบำรุงและการจัดการค่าเช่าที่นักลงทุนต้องคอยรับมืออยู่เสมอ เขาจึงมุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรทางการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ให้กับนักลงทุนและช่วยให้บรรลุถึงเป้าหมายของรายได้ตามที่หวังไว้

ศึกษาประวัติบริษัท Habitat Group ที่นี่ https://youtu.be/FbXp3tL1OF4

รางวัลต่างๆ ที่ Habitat Group เคยได้รับมา

เหตุผลที่ควรลงทุนกับโครงการในเครือ Habitat Group

การบริหารจัดการที่ดีของ Habitat Group และบริหารด้วยแนวคิดพัฒนาโครงการที่ยั่งยืนสามารถดำเนินธุรกิจในระยะยาวได้อย่างแท้จริง จึงสร้างสรรค์และนำเสนอโปรแกรมการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนรายย่อยผู้ที่อยากเป็นเจ้าของโรงแรมด้วยธุรกิจการเช่าคอนโดมิเนียมแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร มีเหตุผลที่น่าสนใจร่วมลงทุนหลายข้อ ได้แก่

1. Habitat Group พัฒนาโครงการเพื่อการลงทุนอย่างแท้จริง โดยดีไซน์ต่างๆ และผังโครงการหลักทั้งหมด สิ่งอำนวยความสะดวกและรูปแบบผังห้อง ได้รับการออกแบบเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการบริการเช่าในรูปแบบต่างๆ และมีการดำเนินงานที่เหมือนกับโรงแรมระดับ 5 ดาว

2. Habitat Group รับประกันค่าเช่า 6% ต่อปีเป็นระยะเวลา 3 ปี นักลงทุนจึงแน่ใจได้ว่าจะมีรายได้สม่ำเสมอในช่วงปีแรกๆ ของการให้เช่า

3. Habitat Group ให้โอกาสนักลงทุนได้รับผลประโยชน์แบบรายได้ในระยะยาว (Long-term Passive Income) ถึง 70% จากการแบ่งปันผลกำไรหลังปีที่ 3

4. Habitat Group มีการบริหารจัดการสินทรัพย์ โดยผู้ประกอบการโรงแรมที่มีชื่อเสียงระดับสากลในด้านการให้บริการคุณภาพสูงและการบริหารการเช่าอย่างมืออาชีพ โดยนักลงทุนไม่ต้องกังวลกับการดูแลบริหารด้วยตัวเอง ไม่ต้องจ้างแม่บ้านเอง ไม่ปวดหัว

5. Habitat Group เลือกทำเลแต่ละโครงการที่มีศักยภาพสูง ทำให้นักลงทุนมีโอกาสรับอัตราส่วนต่างกำไร (Capital Gain) จากการเพิ่มมูลค่าของที่ดินและการเติบโตของแบรนด์อสังหาริมทรัพย์นั้น สามารถคาดหวังได้เมื่อเจ้าของขายทรัพย์สินของตน

6. กรรมสิทธิ์ในสินทรัพย์เป็น “การถือครองแบบอิสระ” (Freehold) พร้อมโฉนดที่ดินซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นหลักทรัพย์ประกันเพื่อเป้าหมายทางการเงินและเพื่อสร้างรายได้ระยะยาวด้วยการลงทุนเพียงครั้งเดียว(Recurring Income) และที่สำคัญการซื้อคอนโดมิเนียมก็สามารถกู้ธนาคารด้วยอัตราดอกเบี้ยแบบที่อยู่อาศัยด้วย ถือว่าได้ประโยชน์หลายต่อ

แนะนำให้คลิกดูคลิปนี้ “ประโยชน์จากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์”

https://www.youtube.com/watch?v=LhBXBk89SBg

อิสระที่จะเป็นเจ้าของ รับทรัพย์ได้โดยไม่ต้องดูแลเอง เลือกลงทุนที่ RAMADA MIRA NORTH PATTAYA

โครงการคอนโดมิเนียมที่มี Investment Program แบบข้างต้นที่กล่าวมาโครงการล่าสุดจาก Habitat Group คือโครงการ RAMADA MIRA NORTH PATTAYA (รามาด้า มิรา นอร์ท พัทยา) ทำเลแถวพัทยาเหนือครับ

ชื่อโครงการ RAMADA MIRA NORTH PATTAYA คำว่า MIRA มาจาก Make Irresistible Relaxation Alive ตีความได้ว่า ชีวิตแสนผ่อนคลายที่ยากจะต้านทาน โอ้โหสบายสุดๆ

จุดเด่นของการลงทุน RAMADA MIRA NORTH PATTAYA ก็คือ การขายห้องแบบเดียวกับห้องตัวอย่างเป๊ะๆ เลย ตกแต่งครบให้หมด เหมือนตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้ที่ออกแบบมาตอบโจทย์ความเป็นโรงแรมห้าดาวและออกแบบตามมาตรฐานของ chain ผู้บริหารโรงแรมอย่าง Wyndham (วินแดม) และตามแบรนด์ RAMADA ครับ

การลงทุนร่วมกับโครงการ RAMADA MIRA NORTH PATTAYA นั้นผู้ลงทุนที่เป็นเจ้าของห้องนั้นไม่สามารถเอาเฟอร์นิเจอร์หรือสิ่งของส่วนตัวมาตั้งในยูนิตของเรานะครับเพราะห้องของเราจะมอบให้ Wyndham เป็นคนบริหารจัดการปล่อยเช่าในรูปแบบโรงแรมเต็มตัวโดยที่ผู้ลงทุนเข้าไปก้าวก่ายไม่ได้ การบริหารแบบนี้จะทำให้เกิดความยั่งยืนในการบริหารมากกว่าครับ ซึ่งถือว่าเป็นแนวคิดที่ดีและเป็นเรื่องที่เข้าใจได้

ส่วนนักลงทุนผู้เป็นเจ้าของห้องจะมีสิทธิพักฟรีได้ปีละ 14 วัน ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 วันสำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์และ 10 วันสำหรับวันธรรมดา บางคนอาจจะรู้สึกว่าทำไมให้พักฟรีน้อยจัง ก็ต้องขอตอบตามตรงว่า ถ้าให้เจ้าของห้องพักฟรีเยอะหลายๆ วัน ก็จะส่งผลให้รายได้โรงแรมลดลงอย่างแน่นอน และส่งผลให้ Rental Yield น้อยลง ดังนั้นตัวเลข 14 วันที่ตั้งเงื่อนไขนี้จึงเป็นสิ่งที่ยอมรับและเข้าใจได้ เพราะอย่าลืมว่าเราคือนักลงทุนที่มาร่วมทุนเพราะต้องการผลตอบแทนเป็นหลัก ส่วนประโยชน์ด้านความรู้สึกและสิทธิการเข้าพักนั้นขอให้จัดเป็นความสำคัญรองลงมาจากเรื่องเงินครับ เข้าทำนองว่า ถ้าอยากพัก เยอะๆ ไปซื้อคอนโดอยู่เองครับ แต่ถ้าอยากได้ตัวเลขที่ดี มาทางนี้ดีกว่า

Investment Program บอกไว้ว่า 3 ปีแรกให้ Yield แบบคงที่ปีละ 6% ส่วนปีที่ 4 – 30 จะเป็น Revenue Sharing โดยเอากำไรก่อนหักค่าใช้จ่าย แบ่งเป็น 60% ให้กับเชนโรงแรม Ramada เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหาร จัดการนิติบุคคล ค่าไฟ ค่าส่วนกลาง ส่วนกำไรสุทธิ 40% จะเอามาแบ่งกัน 70:30 โดยแบ่งกันระหว่างเจ้าของห้องรับไป 70% (ถ้าคิดประมาณการณ์ Yield จะอยู่ระหว่าง 6-9%) และ Habitat Group รับไป 30% ซึ่ง Habitat Group จะเอางบนี้ไปทำการตลาดในการหาคนมาเข้าพัก

ข้อดีของการลงทุนที่ RAMADA MIRA NORTH PATTAYA ก็คือเราได้เชนโรงแรมมาบริหารแทนเราทั้งหมดทุกฟังก์ชั่นและเจ้าของห้องไม่ต้องเสียค่าส่วนกลางรายเดือน ไม่ต้องเสียค่าเสื่อมราคา ไม่ต้องเสียค่าซ่อมแซมอุปกรณ์ในห้องอะไรเลย ไม่ต้องมารับภาระค่าใช้จ่ายยิบๆ ย่อยๆ แบบนี้ แค่จ่ายเงินซื้อคอนโดมิเนียมครั้งแรกรอบเดียวแล้วนั่งรอรับเงินปันผลอย่างเดียวไปตลอดจนกว่าจะครบสัญญา 30 ปี (สัญญาแบ่งเป็น 10+10+10 ปี)

และที่สำคัญผลกำไรจะมาจากการหารโดยเฉลี่ยกันทุกยูนิต นั่นหมายความว่าการซื้อโครงการนี้ผู้ซื้อไม่จำเป็นต้องพิถีพิถันเลือกเยอะ เพราะไม่ว่าจะห้องมุมไหน วิวไหน ขนาดใด ก็จะเอามาเฉลี่ยผลกำไรกันทั้งหมดอยู่ดี โดยใครจะได้สัดส่วนมากน้อยนั้นจะไม่คิดตามสัดส่วนพื้นที่ขนาดห้องนะครับ แต่คิดตามสัดส่วนราคาหน้าสัญญาที่ซื้อคอนโดมิเนียมจาก Habitat Group ไปตั้งแต่แรก

การลงทุนรูปแบบนี้จึงเหมาะมากสำหรับนักลงทุนสไตล์แสวงหาผลตอบแทนหรือกลุ่ม Search for Yield เอาแค่ผลตอบแทนอย่างเดียวจบ ไม่คิดเรื่องอื่น ไม่อยากมาปวดหัวรับลูกค้าเอง ไม่อยากดีลกับลูกค้าจอมงอแง ไม่ต้องมาวุ่นวายเรื่องแม่บ้านทำความสะอาด ไม่ต้องมารักษาจำนวนดาวรีวิวเหมือนนักลงทุนประเภท Airbnb Entrepreneur ที่ยังต้องรับภาระทุกอย่างไว้ด้วยตัวเขาเองทั้งหมด

นอกจากได้ Yield แล้วยังแถมด้วยการได้สิทธิเข้าพักฟรี 14 วันต่อปี และขอบอกไว้ก่อนว่าการเข้าพักนั้นเราไม่จำเป็นจะต้องได้เข้าพักในยูนิตที่เรามีกรรมสิทธิ์ตัวเองนะครับ โดยเราต้องจองล่วงหน้าก่อนเข้าพัก ซึ่งนอกจากนี้เราสามารถมอบสิทธิให้เพื่อนพี่น้องญาติคนอื่นเข้าพักแทนเราได้ด้วย ถือว่าดีมากๆ เปรียบเสมือนเรามีโรงแรมส่วนตัวให้ญาติพี่น้องพัก แต่เราไม่ต้องดูแลเอง

การันตีผลตอบแทน 6% ใน 3 ปีแรก

นักลงทุนที่ซื้อจำเป็นต้องเข้าร่วม Investment Program ทุกยูนิต

Habitat Group กับ Wyndham มีความร่วมมือกันแล้วที่โครงการ Wyndham Atlas Wongamat Pattaya

กระบวนการของ Investment Program และความสัมพันธ์ระหว่างผู้ลงทุน Habitat Group , Hibitat Hospitality และ Wyndham Hotel Group

ผู้ลงทุนเจ้าของห้องเซ็นสัญญาให้ Habitat Hospitality เช่าเป็นเวลา 30 ปี และให้ผลตอบแทนคงที่  6 % ใน 3 ปีแรก และแสดงรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่ครอบคลุม

ในปีที่ 4 เป็นต้นไป เปลี่ยนเป็นรูปแบบ Profit Sharing โดยนำ Gross Profit หักลบกับ Expense ต่างๆ ก่อนแล้วจึงนำ Net Profit มาแบ่งระหว่างผู้ลงทุนได้ 70% ส่วน Hobitat Hospitality ได้ 30%

มีแนวทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ไม่ต้องการความยุ่งยากและอยากได้ผลตอบแทนระหว่างก่อสร้าง ถ้าเทดาวน์ครึ่งนึงจะได้ผลตอบแทน 4% จนกว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จ

มีทางเลือกเหนือกว่านั้นคือถ้าเทเงินซื้อเงินสดตามราคาห้องเลยจะได้ผลตอบแทน 5% ไปเรื่อยๆ จนกว่าโครงการจะสร้างเสร็จ ถือว่าเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่มีเงินเย็นและแสวงหา yield ที่สูงกว่าเก็บเงินในธนาคาร แต่ทั้งนี้ถ้านักลงทุนที่ไม่อยากทุ่มเงินก้อนเยอะแบบนี้ก็มีรูปแบบปกติคือทยอยผ่อนดาวน์ตามงวดแต่ละเดือนได้ครับ แต่รูปแบบปกติจะไม่ได้ผลตอบแทนระหว่างก่อสร้างเท่านั้นเอง

ตัวอย่างการคำนวณผลตอบแทนการันตี 6% ในสามปีแรก

สิทธิพิเศษสำหรับผู้ลงทุน ได้แก่ การพักฟรี 14 วันต่อปี (10 วันในวันธรรมดาจันทร์-พฤหัสบดี) 4 วันในวันหยุด (ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) และถ้าหากต้องการพักเพิ่มจากโควต้าพักฟรีก็ได้ส่วนลดพิเศษตามเงื่อนไขการบริหารจัดการ สิทธิยังไม่หมดเพราะผู้ลงทุนยังได้ส่วนลดพิเศษการเข้าพักโครงการอื่นๆ ในเครือ Habitat Group ได้อีก เช่น  The Villa Jomtien Pool Villa, X2 Vibe Pattaya Seaphere, X2 Pattaya Oceanphere, Best Western Premier Bayphere Pattaya, Bluphere Pattaya และโครงการอื่นๆ ที่จะมีในอนาคตอีก ถือว่าลงทุนที่เดียวแต่ได้สิทธิพิเศษหลายที่เลย พักได้หลายที่ ไม่เบื่อ

หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมในเงื่อนไขต่างๆ กรุณาโทรศัพท์ติดต่อนัดพบเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายโครงการ RAMADA MIRA NORTH PATTAYA ทางโทรศัพท์ 061-840 0006 (กรุงเทพ), 084-450 0002 (พัทยา) เว็บไซต์ http://www.ramadapattaya.com

RAMADA MIRA NORTH PATTAYA ศักยภาพการลงทุนในทำเลพัทยา เมืองท่องเที่ยวตลอดกาล

พัทยาคือเมืองท่องเที่ยวระดับโลกและเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างเมืองอุตสาหกรรมในภาคตะวันออกกับกรุงเทพมหานคร การเดินทางที่สะดวกสบาย อาหารอร่อย และบริการต่างๆ ในเมืองที่ตอบโจทย์ประสบการณ์การท่องเที่ยวทุกสไตล์ทั้งหรูหรา ชิลล์ๆ สบายๆ ผจญภัย และท่องเที่ยววัฒนธรรมสำหรับคนทุกวัยทั้งครอบครัว คนวัยทำงานและวัยเกษียณ จึงไม่แปลกใจที่ทำให้เมืองพัทยาดึงดูดคนจากทั่วโลกมาเยือนได้ ทั้งคนไทย ฝรั่ง รัสเซีย และชาวเอเชียโดยเฉพาะชาวจีนก็เป็นอีกกลุ่มนักท่องเที่ยวสำคัญที่เข้ามาพักที่พัทยา ซึ่งโรงแรมแบรนด์ RAMADA เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในการรับรู้สำหรับกลุ่มลูกค้าชาวเอเชีย เช่น จีน เกาหลีใต้

ทำไมต้องลงทุนที่เมืองพัทยา เพราะเป็นเมืองที่เติบโตเร็วอันดับสองของประเทศไทย พัทยาถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทาง 20 แรกของโลก เป็นเมืองท่องเที่ยวทางทะเลที่ตั้งใกล้เขตอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และใกล้เมืองกรุงเทพ เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมเลือกมาพัก ทำให้มีลูกค้าเข้ามาพักอย่างต่อเนื่องด้วยจำนวนประชากรจีนที่มีจำนวนมาก พัทยามีสวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาพัก

ด้วยแผนการลงทุนด้านคมนาคมจากภาครัฐทำให้พัทยาเป็นเมืองที่น่าสนใจในการลงทุน

สถิตินักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นทุกปี

โครงการรถไฟความเร็วสูงและรถไฟเชื่อมต่อสามสนามบินอู่ตะเภา-สุวรรณภูมิ-ดอนเมืองซึ่งมีทางผ่านเป็นพัทยา

มีดีมานด์การเข้าพักโรงแรมจากนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากมีบริการเครื่องบินไฟลท์บินตรงจากบางเมืองของจีนตรงสู่อู่ตะเภาเพื่อส่งนักท่องเที่ยวเข้าสู่พัทยา ทำให้ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจท่องเที่ยวและค้าปลีกของพัทยามีการเติบโต

ข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างพัทยาและเมืองพักตากอากาศเมืองอื่นๆ

พัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวสำหรับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวเอเชีย นำโด่งโดยชาวจีน มาเลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ตามมาด้วยลาว อินเดีย รัสเซีย อังกฤษ สิงคโปร์ อเมริกา

ผลการจัดอันดับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน พัทยาอยู่ที่อันดับ 8

ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในพัทยาสูงขึ้น 3-5% ในปี 2017

โครงการ High speed Ferry ในอนาคต เชื่อมสามเมืองสำคัญ สมุทรปราการ พัทยา หัวหิน

มีเที่ยวบินตรงจากจีน สิงคโปร์ มาเก๊า มาเลเซีย อุดรธานี และเกาะสมุย มาสู่สนามบินอู่ตะเภา ทำให้นักท่องเที่ยวในพัทยามีจำนวนมากขึ้น

แผนพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ภายในปี 2563 จะพัฒนาเพื่อรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านคน

การพัฒนารถไฟรางคู่ในอนาคต

โครงการมอเตอร์เวย์เชื่อมท่าเรือแหลมฉบังกับท่าเรือทวายในพม่า

ข้อมูลทั้งหมดนี้สื่อให้เห็นว่าทำเลพัทยานั้นมีพื้นฐานในการเป็นเมืองท่องเที่ยว มีสถานที่ท่องเที่ยวจากเอกชนเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวเอเชียเขตอากาศอบอุ่นมาเที่ยวเมืองทะเล นอกจากนี้ยังคงมีความพยายามในการลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานจากฝั่งรัฐเพิ่มศักยภาพการเดินทางอีกด้วย

ทำเลที่ตั้งโครงการ

RAMADA MIRA NORTH PATTAYA ตั้งอยู่ใจกลางเมืองพัทยา เดินทางจากกรุงเทพใช้เวลาเดินทางด้วยรถ 90 นาที ไม่ไกลแหล่งสำคัญทางธุรกิจ มีทุกความสะดวกสบายอยู่ใกล้แค่ก้าว รายล้อมด้วยบรรยากาศของธรรมชาติแห่งการพักผ่อน ร่มไม้ กลิ่นอายทะเล และ World Class Luxury in Service และ Facility ครบครันแบบสูงสุด

ทำเลของ RAMADA MIRA NORTH PATTAYA ตั้งอยู่ที่ถนนพัทยาเหนือ 2/2 เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ใกล้ Tesco Lotus

คลิกดูแผนที่ Google Maps ที่นี่ https://goo.gl/maps/RWuUd1pZy3rv5f6U6 พิกัด GPS ที่ 12.953101, 100.894784

RAMADA MIRA NORTH PATTAYA ใกล้กับ Tesco Lotus พัทยาเหนือประมาณ 250 เมตร ใกล้กับ Terninal 21 Pattaya 500 เมตร ใกล้กับ Makro Food Service 1.3 กิโลเมตร และใกล้ Central Marina Pattaya เพียง 1.5 กิโลเมตร

เดินไปเพียง 1.5 กิโลเมตรก็เจอกับหาดพัทยา 1 กิโมตรถึงวงเวียนปลาโลมา 1 กิโลเมตรถึงทิฟฟานีโชว์พัทยา 1.8 กิโลเมตรถึง Alcazar Cabaret Pattaya และ 2 กิโลเมตรถึง Mini Siam Pattaya สำหรับนักท่องเที่ยวชื่นชอบการนวดทำสปาเดินไปเพียง 950 เมตรก็ถึง Health Land Spa Pattaya และ 1.7 กิโลเมตรถึง Bangkok Hospital Pattaya

ใกล้กับ Bus Terminal Pattaya-Bangkok 1.2 กิโลเมตร ใกล้กับถนนสุขุมวิท 1.5 กิโลเมตร ถือว่าเป็นทำเลที่อยู่ในเขตพัทยาที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเพียบพร้อม แต่ไม่วุ่นวายเพราะอยู่ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ

RAMADA MIRA NORTH PATTAYA คอนโดมิเนียมบริหารแบบโรงแรมที่น่าลงทุนที่สุดในพัทยาเหนือ

RAMADA MIRA NORTH PATTAYA จุดหมายของชีวิตแห่งการพักผ่อน

เป็นโครงการ คอนโดมิเนียมหรู นำเสนอขายพร้อมโอกาสลงทุนอสังหาฯ กับสิทธิพิเศษที่มากกว่าคอนโดมิเนียมปกติทั่วไป โครงการนี้เกิดมาจากแนวคิด New Luxury Condo & Lifestyle Investment ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมใหม่ที่มีการบริหารแบบโรงแรมห้าดาวจากเครือ Wyndham Group แบรนด์ Ramada เป็นโรงแรมสไตล์รีสอร์ท ทำเลใจกลางเมืองพัทยา นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนต่อเนื่องนานถึง 30 ปี พร้อม Guaranteed Return 6% นาน 3 ปี พร้อมสิทธิพักฟรี 14 คืนต่อปี ขายราคาเริ่มต้นเพียง 3.9 ล้านบาท สนใจลงทะเบียนเพื่อขอรับข้อมูลฟรีทาง https://register.ramadapattaya.com

RAMADA เป็นเชนโรงแรมข้ามชาติขนาดใหญ่ มีบริษัท Wyndham Worldwide เป็นเจ้าของ รับบริหารโรงแรมเกือบ 850 แห่งใน 65 ประเทศ

RAMADA เป็นตัวเลือกโรงแรมที่นักเดินทางทั่วโลกนิยมเลือกเพราะโรงแรมส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในโลเคชั่นที่ดี Ramada จับคู่ระหว่างการเดินทางที่สะดวกสบาย พร้อมบริการที่เอาใจใส่ ผสานการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจของแต่ละท้องถิ่น

การบริหารงานโรงแรมต่างๆ ทั่วโลกของ Wyndham

RAMADA MIRA NORTH PATTAYA สร้างบนที่ดินขนาด 2-3-99 ไร่ (1199 ตารางเมตร) เริ่มก่อสร้างไตรมาสที่ 4 ปี 2019 คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาสที่ 2 ปี 2022 มี 2 อาคาร สูง 8 ชั้น จำนวนยูนิตทั้งหมด 339 ยูนิต รูปแบบห้องได้แก่ Deluxe 29-40 ตารางเมตร , Junior 45 ตารางเมตร, Suite 55 ตารางเมตร ลิฟต์มี 4 ตัว ที่จอดรถ 70 คันรวมซ้อนคัน

VDO presentation

อยากให้รับชมวิดีโอนำเสนอกันก่อน คลิกที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=-9x4Baag0Is

เพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการ RAMADA MIRA NORTH PATTAYA

Facility ที่มีในโครงการ RAMADA MIRA NORTH PATTAYA

มีครบทุกความต้องการสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการประสบการณ์เข้าพักที่แตกต่าง เหมาะกับการพักผ่อนเป็นกลุ่มหรือเป็นคู่ การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางได้นำแรงบันดาลมาจากคาแรกเตอร์ของเมืองชลบุรีที่มีทั้งภูเขาและทะเล สะท้อนออกมาเป็นองค์ประกอบทั้งดิน พื้นที่สีเขียวและสายน้ำเข้ามาร้อยเรียงกลายเป็นโรงแรมสไตล์รีสอร์ทที่มีเอกลักษณ์

ลานกิจกรรมพื้นที่สีเขียวธรรมชาติที่ Great Lawn

ให้คุณได้ใช้เวลาพักผ่อน ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นและสงบเติมเต็มความสนุก บนพื้นที่ Kid’s Zone และ Tree house ให้ที่นี่เป็นพื้นที่ความสุขสำหรับทุกคนในครอบครัว

Great Lawn

Tree House

Mira Kid’s Miracle Club

มอบความผ่อนคลายไปกับสายน้ำรายล้อมรอบโครงการ สัมผัสความร่มรื่นจากทุกมุมมองกับ The Perspective Lagoon ที่เชื่อมต่อม่านน้ำตก The Cascade Pool ที่ลดหลั่นตามระดับชั้นจากสระน้ำด้านบน The Curtain Pool สู่โถงสระน้ำกลางขนาดใหญ่

Shallow Water Lounge Area ให้ที่นี่เป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อนที่คุณเข้าถึงได้ตลอดเวลา

Lagoon Pool

Poolside Bar at the Mangrove

Pavilion Corner Pool

The Perspective Lagoon

Sky Terrace ทางเดินทอดยาวจากอาคารไปสู่สระน้ำ

เติมเต็มวันพักผ่อนให้ครบกว่าด้วยห้องและอุปกรณ์ออกกำลังกาย Fitness Centre and Changing Room ที่จัดมาให้ครบในบรรยากาศที่สงบ และใกล้ชิดกับธรรมชาติมอบวิวม่านน้ำตกอันร่มรื่น ให้คุณได้ออกกำลังกายอย่างผ่อนคลาย

Double-Volume Lobby โถงต้อนรับที่กว้างขวาง และบริเวณที่นั่งพักคอยอันแสนสบาย

The Rock Wave Lobby

Grand Lobby Lounge

All Day Dining ห้องอาหารที่คอยให้บริการผู้เข้าพักทุกคน เป็นรายได้ของโรงแรม

Rhythmical Restaurant

MIRA Chamber ห้องจัดประชุมและจัดงานเลี้ยง ซึ่งเป็นหนึ่งในช่องทางรายได้ของโรงแรม

Luxury Hall

พื้นที่ส่วนกลางอันสวยงามเหล่านี้มาพร้อมกับการบริการระดับ 5-STAR HOTEL SERVICES มอบการบริการจัดการห้องพักอย่างครบครันในรูปแบบ Resort ผสานการบริการงานแม่บ้าน House Keeping โดยผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพ และมีพนักงานรปภ. ตลอด 24 ชั่วโมง ติดกล้อง CCTV บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง เข้าออกระบบKey card access control และมีรั้วรอบโครงการ (Security gate)

Floor Plan ของ RAMADA MIRA NORTH PATTAYA

Master Plan ของโครงการ สร้างบนที่ดินรูปตัว L ทางเข้าสำหรับคนเดินของโครงการหันไปทางทิศตะวันออก ส่วนทางเข้ารถยนต์อยู่ฝั่งทิศตะวันตก การวางตัวอาคารคล้ายรูปตัว C วางเหลื่อมกันไปตามรูปแปลงที่ดิน

ชั้น 1 ประกอบไปด้วยพื้นที่ส่วนกลางมากมาย เช่น Double Volume Lobby & Reception , Garden, The Curtain Pool Bar, Swimming Pool with Shallow Lounge Area, The Perspective Lagoon, All Day Dining และ Mira Chamber

ชั้น 2 มีห้องพักและมีพื้นที่ส่วนกลางมากมาย เช่น The Cascade Pool, Pavilion, Sun Deck, Urban Pool, Changing Room, Fitness, Kid’s Zone, Tree House, Great Lawn

ชั้น 3-8 เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบบลึก เป็นห้อง Deluxe ขนาดต่างๆตั้งแต่ 29 ตร.ม. ไปจนถึง 40 ตร.ม. ส่วนระเบียงจะมีรูปแบบที่แตกต่างกันไป บางห้องมีระเบียงตัดเฉียง บางห้องเป็นระเบียงโค้ง นอกจากนี้ยังมี Corner Unit ที่เป็นห้องรูปแบบ Junior และ Suite อยู่ด้วยชั้นละ 1 ยูนิต

ชั้น 4

ชั้น 5

ชั้น 6

ชั้น 7

ชั้น 8

Unit Plan ของ RAMADA MIRA NORTH PATTAYA

Deluxe เป็นรูปแบบห้องที่มีเยอะมากที่สุดในโครงการ เลย์เอาท์ห้องเป็นแบบเปิดประตูห้องเข้าไปเจอกับห้องน้ำแบบ sexy bathroom (ไม่มีอ่างอาบน้ำ) กับตู้เสื้อผ้า และส่วนที่เหลือเป็นพื้นที่วางเตียง ตู้วางทีวีและโซฟาริมหน้าต่าง ระเบียงมีทั้งแบบตัดเฉียงและระเบียงโค้ง

A1,A2,A3 มีระเบียงตัดเฉียง

A4, A5 เป็นห้องระเบียงโค้งที่เป็นทางเดินเชื่อมระหว่างสองยูนิตเข้าด้วยกัน เหมาะกับกลุ่มครอบครัว มาเที่ยวเป็นกลุ่ม ส่วนยูนิต A7, A8 จะมีขนาดที่กว้างมากขึ้นจึงสามารถวางโซฟาแบบ Daybed และโซฟาคู่รักได้ด้วย เหมาะกับกลุ่มคนที่ชอบเปลี่ยนบรรยากาศหลากหลาย ชมวิวตรงนั้นทีตรงนี้ที

แบบ A9 เป็นระเบียงแบบโค้งเฉียง ภายในห้องพักมีขนาดกว้างมากกว่า ให้ความสำคัญกับ Living Area

A10 คล้าย A9 แต่มีความพิเศษที่มีหน้าต่างสองด้านเพราะเป็นห้องมุมนั่นเอง ส่วน A11 และ A12 เป็นห้องตัว L ระเบียงโค้งที่มีความเป็นส่วนตัวเมื่อมองจากประตูทางเข้าเพราะมีพื้นที่วางเตียงนอนที่ซ่อนหลบตาเข้าไป

ห้องแบบ Junior Suite รูปแบบต่างๆ จุดเด่นของห้องนี้อยู่ตรงที่ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำครับ

ห้องแบบ Suite ซึ่งเป็นยูนิตที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ห้องน้ำมีอ่างล้างหน้าแบบ His&Her มีอ่างอาบน้ำที่ใหญ่กว่า Junior suite และแยกส่วนห้องนอนกับห้องนั่งเล่นออกจากกันเพื่อความเป็นส่วนตัว

ภาพการตกแต่งห้องภายในห้องพักในโครงการ

Deluxe 29-40 ตร.ม.

Junior Suite 45 ตร.ม.

Suite 55 ตร.ม.

รีวิวห้องตัวอย่าง RAMADA MIRA NORTH PATTAYA

RAMADA MIRA NORTH PATTAYA ขายห้องแบบตกแต่ง Fully-furnished เป็นคอนโดมิเนียมแบบ Freehold ถือครองได้ชั่วลูกชั่วหลาน ขายพร้อมการตกแต่งแบบเดียวกับที่เห็นในห้องตัวอย่างทุกประการ อยากให้เข้าไปดูห้องตัวอย่างที่สำนักงานขายในกรุงเทพ อยู่บนตึก Athenee Tower ชั้น 15 ใกล้สถานี BTS เพลินจิตครับ

สำนักงานขาย

ภาพรางวัลมากมาย

ภาพแสดงตำแหน่งโครงการต่างๆ ที่ Habitat Group สร้างมา

บรรยากาศภายในสำนักงานขาย ตกแต่งสไตล์อบอุ่น หรูหรา น่าอยู่เหมือนโรงแรม

มีโมเดลโครงการวางแสดงอยู่

โมเดล RAMADA MIRA NORTH PATTAYA

ด้านหน้าโครงการ ทางเข้าสำหรับคนเดินเข้า และจุด drop-off รับส่ง

ฝั่งทิศเหนือ

ฝั่งตะวันตก มีประตูทางเข้าสำหรับรถยนต์

ฝั่งทิศใต้ ไม่มีหน้าต่าง

ป้ายหน้าโครงการ

จุดจอดรถชั่วคราว

พื้นที่ส่วนกลาง

ทางเดินเชื่อมระหว่างอาคารพักอาศัยกับสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำ

Tree House

ใต้ Sundeck เป็นห้องอาหาร

ออกแบบโดยใช้องค์ประกอบของภูเขาและสายน้ำมารวมกัน

ทำให้บรรยากาศโดยรวมดูสบาย น่าอยู่ เป็นธรรมชาติ

มองจากข้างบน

สวน Great Lawn

จุดจอดรถชั่วคราว

ที่จอดรถอยู่ใต้ถุนและชั้นใต้ดิน

Lobby

ทางเข้ารถยนต์ฝั่งประตูตะวันตก

กระจกโค้ง

Facade ออกแบบสวยงาม ไม่ซ้ำกัน

ห้องตัวอย่างแบบ Deluxe

ภายในห้องตัวอย่างเลือกแบบ Deluxe ซึ่งเป็นรูปแบบที่มากที่สุดในโครงการมาจัดแสดงเพียงห้องเดียวครับ ทุกอย่างที่เห็นในภาพนั้นได้ทั้งหมดจริงๆ ครับ ฝ้า ผนัง พื้น เฟอร์นิเจอร์ ตู้โต๊ะ อุปกรณ์ในห้องน้ำ เครื่องใช้ไฟฟ้าก็ได้ตามภาพนี้ทั้งหมดเพราะโครงการ RAMADA MIRA NORTH PATTAYA มีจุดประสงค์เพื่อทำเป็นโรงแรม ดังนั้นรายละเอียดต่างๆ จะเป็นไปตามที่ระบุไว้ในห้องตัวอย่าง เจ้าของห้องจะไม่สามารถปรับเปลี่ยนตามใจตัวเองได้ครับด้วยเหตุผลความเป็นมาตรฐานตามการบริหารจัดการของเชนโรงแรม

Unit Plan ห้องแบบ Deluxe

เปิดประตูห้อง Digital Door Lock เข้ามาพบกับพื้นที่หน้าห้องน้ำและตู้เสื้อผ้าก่อน

เดินเข้าไปอีกนิดมีเตียงขนาด 6 ฟุต พร้อมการตกแต่งแบบนี้ทั้งหมด

ชั้นวางของและบริเวณแขวนทีวี

จะเห็นว่าห้องน้ำเป็น Sexy Bathroom มอบประสบการณ์พิเศษระหว่างเข้าพักผ่อน

เก้าอี้นั่งพักผ่อน รูปภาพแขวนประดับ wallpaper กาต้มน้ำไฟฟ้าก็ให้

การดรอปฝ้าให้แบบนี้

หน้าต่าง การซ่อนรางม่าน ม่านให้สีนี้ โซฟาเบดริมหน้าต่าง ให้ทุกอย่างตามภาพ

โต๊ะวางของ ตู้เย็นขนาดเล็กข้างในตู้ก็ให้

ลิ้นชักเก็บเอกสาร

ที่วางกระเป๋าเดินทาง

เปิดลิ้นชักออกมาได้

การตกแต่งผนังแบบนี้

ได้แบบนี้เป๊ะๆ

พื้นที่นั่งพักริมหน้าต่าง

ระเบียงมีเก้าอี้

ระยะจากเตียงมองไปที่ทีวี

สวย น่าอยู่ น่าจอง

หัวเตียงมีโต๊ะวางของ ปลั๊กไฟ

ลิ้นชักตู้ข้างเตียง

Prop เหล่านี้อาจจะไม่ได้นะครับ แต่ส่วนหลักๆ จะได้หมด

เฟอร์นิเจอร์รูปแบบนี้ สีแบบนี้ครับ

ถาดก็ได้ด้วย กาต้มน้ำก็ได้

ตกแต่งเหมือนโรงแรมจริงๆ ทุกอย่าง

หัวเตียงเป็นดีไซน์ที่ดูเป็นธรรมชาติ งานคราฟท์

ระเบียง ราวกันตกกระจกใส

มีไฟหนึ่งดวง ให้บรรยากาศอบอุ่น

Day bed เปลี่ยนบรรยากาศการนั่ง

ตู้เสื้อผ้าเปิดหน้าห้องน้ำ

มีตู้เซฟ

ภายในห้องน้ำ มีครบทุกอย่างตามนี้

โซนอาบน้ำแบบยืนอาบ

ฉากกั้นอาบน้ำกระจก ฝักบัวแบบ rain shower

Kohler

สุขภัณฑ์

อ่างล้างมือ ปลั๊กไฟ และชั้นวางของ

ดีไซน์ทันสมัย ใช้งานง่าย

กระจกใสมองออกไปที่ห้องนอนได้

ชั้นวางของในห้องน้ำ

ห้องน้ำสวย หรู

จากห้องนอนก็มองเข้าไปเห็นภายในห้องน้ำได้เช่นกัน

สวิตช์ไฟและปลั๊กไฟ

ที่เสียบคีย์การ์ด ปุ่มควบคุมแอร์

สรุปจุดเด่น RAMADA MIRA NORTH PATTAYA

RAMADA MIRA NORTH PATTAYA เป็นคอนโดเพื่อการลงทุนในแบบรับผลตอบแทนต่อเนื่องเพียงไม่กี่แห่งในย่านพัทยาเหนือ บริหารคอนโดมิเนียมให้เป็นโรงแรม เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนเสมือนได้เป็นเจ้าของโรงแรมเชนดัง ภายใต้แบรนด์ Ramada ในเครือ Wyndham ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนสามปีแรกที่ปีละ 6%* โดยปีที่ 4 -30 จะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบ Profit Sharing ผู้ลงทุนได้รับสิทธิ์ในการเข้าพัก 14 วันต่อปี และได้รับส่วนลดในการเข้าพักโครงการอื่นๆในเครือ Habitat Group

ลงทุนง่าย เพราะขายแบบ Fully Furnished ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่ม และรายได้จากการเข้าพักทุกห้องนำมาหารเฉลี่ยกันทั้งโครงการ ทำให้ทุกห้องมีรายได้ทั้งหมด ไม่มีห้อง Defect ที่ขาดรายได้ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งค่าส่วนกลาง ค่าเสื่อมราคา ค่าซ่อมแซม ค่าบริหารจัดการต่างๆ เนื่องจากค่าใช้จ่ายเหล่านี้รวมอยู่ในค่าใช้จ่ายของทางผู้บริหารโครงการแล้ว

รูปแบบห้องขนาดไม่ใหญ่ เหมาะสมและง่ายต่อการลงทุน สามารถขายต่อ เป็นหลักทรัพย์และซื้อด้วยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแบบที่อยู่อาศัยได้ด้วย

ทำเลอยู่ในเขตเมืองสะดวกสบาย ไม่ไกลจากหาดพัทยา รอบข้างโครงการมีห้าง Tesco Lotus และ Terminal 21 นอกจากนี้ยังใกล้กับท่าขึ้นรถบัสพัทยา-กรุงเทพอีกด้วย เป็นทำเลพักผ่อนตากอากาศที่เดินทางสะดวกสบาย แต่มีความเป็นส่วนตัวและเป็นธรรมชาติซึ่งถือว่ามีเอกลักษณ์ที่แตกต่าง

ทำเลพัทยายังคงมีศักยภาพในการเติบโตในการลงทุน เพราะอนาคตจะมีโครงข่ายคมนาคมหลากหลายจากโครงการรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ดึงดูดทั้งนักลงทุนต่างชาติ และนักท่องเที่ยวให้เข้ามายังพื้นที่พัทยาเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งหากเปรียบเทียบกับเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ยอดเข้าพักในโรงแรมของพัทยาสูงถึง 78.3% ในปี 2016 นับว่าเป็นอัตราที่น่าสนใจลงทุนกับการลงทุนโรงแรม

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่แห่งการพักผ่อนไปกับ RAMADA MIRA NORTH PATTAYA

โอกาสลงทุนคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองพัทยา