เติมเต็มชีวิตเมือง ด้วยพื้นที่สีเขียวที่ใหญ่ที่สุดในย่านตลาดพลู ที่ LIFE สาทร เซียร์รา เพียง 150 เมตรจาก BTS สถานีตลาดพลู

ถ้าพูดถึงแบรนด์คอนโดมิเนียมระดับพรีเมียมใกล้รถไฟฟ้าในเมืองที่มีประวัติและได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานมากที่สุด แน่นอนว่าจะเป็นแบรนด์ไหนไปไม่ได้นอกจาก LIFE จาก AP โดยในปัจจุบันแบรนด์ LIFE ยุคใหม่ๆ ได้ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด Platform of Success บันไดแห่งความสำเร็จ ที่จะผสานไลฟ์สไตล์การทำงานและการอยู่อาศัยเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งพื้นที่ทำงานถูกออกแบบเพื่อเสริมสร้างแรงบันดาลใจ รองรับการทำงานแบบส่วนตัวหรือการประชุมต่างๆ พร้อมระบบเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ และอุปกรณ์ที่มีความทันสมัย สะดวกต่อการใช้งาน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ทุกไลฟ์สไตล์การทำงาน อีกทั้งยังมีองค์ประกอบในเรื่องของงานดีไซน์ที่เป็นเอกลกัษณ์แตกต่างกันไปในแต่ละทำเลเพื่อสะท้อนความสำเร็จของผู้อยู่อาศัยในทุกมุมมอง/ มีพื้นที่สีเขียวส่วนกลางขนาดใหญ่เพื่อวันพักผ่อนอันสมบูรณ์แบบ รวมไปถึงการผสานไลฟ์สไตล์การทำงานและการอยู่อาศัยให้เป็นหนึ่งเดียวกันผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลและการออกแบบ Space ที่เข้าใจผู้ใช้งานอีกด้วย

โดยในช่วงปีนี้มีแบรนด์ LIFE ที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่และยังมีห้องเหลือขายเพียงแค่ 4 โครงการเท่านั้น ไม่รวมโครงการที่เพิ่งเปิดใหม่อย่าง LIFE Rama 4 – Asoke (ไลฟ์ พระราม 4 – อโศก) ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านไปพบกับโครงการ LIFE Sathorn Sierra (ไลฟ์ สาทร เซียร์รา) ซึ่งเป็นแบรนด์ LIFE ที่มอบมิติของพื้นที่สีเขียว และส่วนกลางเล่นระดับที่ใหญ่มากที่สุด โดยนับว่าเป็นครั้งแรกของแบรนด์  LIFE ที่ได้มีการนำ World’s Top Nature Destination มากถึง 6 สถานที่สำคัญ มาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการดีไซน์พื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดมากถึง 30 ฟังก์ชัน และยังเป็นแบรนด์ Life ที่มีราคาขายต่อยูนิตจับต้องได้มากที่สุด โดยมีราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 2.79 ล้านบาทเท่านั้น เรียกได้ว่าราคานี้ได้ส่วนกลางขนาดนี้นับว่ามีแต้มต่อในการปล่อยเช่าและปล่อยขายได้ดีในอนาคตแน่นอน

LIFE สาทร เซียร์รา โครงการพร้อมเข้าอยู่ ในราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 2.79 ล้านบาท

หลากหลายเหตุผลที่ทำให้ LIFE สาทร เซียร์รา เป็นโครงการที่น่าอยู่ที่สุดของย่านตลาดพลู

บอกได้เลยว่า  LIFE สาทร เซียร์รา ไม่เพียงแต่เป็นคอนโดใหม่ที่มีดีไซน์ของพื้นที่ส่วนกลางดี พื้นที่สีเขียวเยอะ หรือราคาห้องที่คนทั่วไปสามารถจับต้องได้เท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายเหตุผลที่จะช่วยผลักดันให้  LIFE สาทร เซียร์รา เป็นโครงการที่มีความโดดเด่นและน่าอยู่กว่าใครในย่านตลาดพลู ไม่ว่าจะเป็น

1. Greater Facilities เป็นโครงการคอนโดที่ให้พื้นที่ชีวิตเมืองเชื่อมต่อกับธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้รับประสบการณ์ที่ไม่เคยพบจากที่ไหนมาก่อน หนึ่งเดียวในย่านตลาดพลู โดย LIFE สาทร เซียร์รา เป็นโครงการที่ AP ร่วมมือกับบริษัทยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น อย่าง มิตซูบิชิ เอสเตท เรสซิเดนซ์ (บริษัทในเครือมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป) โดยมีการนำแนวคิด BIO DIVERSITY จากพันธมิตรญี่ปุ่น นำมาพัฒนาพร้อมกับคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่าง คน – อาคาร – พื้นที่สีเขียว มาประยุกต์ใช้ในการเชื่อมโยงทุกองค์ประกอบในโครงการ ให้มีความสมบูรณ์และดีที่สุดในกรุงเทพฯ ด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่มีขนาดใหญ่กว่า 5 ไร่ และพื้นที่สีเขียวกว่า 6,400 ตารางเมตร รวมไปถึงต้นไม้และดอกไม้หลากหลายชนิดที่ถูกนำเข้ามาไว้ในโครงการ เรียกได้ว่าเยอะที่สุดในฝั่งธนฯ เลยก็ว่าได้ ไม่เพียงเท่านั้น ทางโครงการได้นำ World’s Top Nature Destination 6 สถานที่สำคัญ มาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการดีไซน์พื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดมากถึง 30 ฟังก์ชัน โดยมีไฮไลต์ อาทิ “หุบเขาต้นไม้ไล่ระดับสูง 5 ชั้น” ที่เป็นแลนด์มาร์กหลักของโครงการ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก La Sierra ประเทศสเปน พร้อม “Hiking Trail” เป็นเส้นทางเดินธรรมชาติจำลอง ไม่รู้สึกเหนื่อยแม้เดินถึงชั้น 5

พื้นที่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ให้ความร่มรื่นเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีบันไดเดินขึ้นสู่ชั้น 5 ของตัวอาคาร โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก Paiva Walkway ประเทศโปรตุเกส

และความพิเศษของสระว่ายน้ำ “Serene Pool & Passive Pool” ความตั้งใจในการดีไซน์พื้นที่สระว่ายน้ำ Natural Shape ให้รู้สึกเหมือนได้ว่ายน้ำท่ามกลางลำธารใสใจกลางเทือกเขาธรรมชาติ ที่ได้ถอดรูปทรงจากลำธารสีเขียวมรกตใน  Valle Verzasca ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ผ่อนคลายจากบ่อน้ำธรรมชาติที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้หลากหลายชนิด ที่ให้ร่มเงาและความร่มรื่น กับ To Sua Ocean Trench ประเทศซามัวร์ ที่พร้อมให้คุณได้ออกกำลังกายและผ่อนคลายในสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ยาวกว่า 100 เมตร

“Panoramic Sunken Lounge” ส่งมอบการผ่อนคลายพร้อมวิวมุมสูง แรงบันดาลใจจาก Pamukkale ประเทศตุรกี เปิดรับวิวและมุมมองที่สูงสุดในย่าน มิติใหม่ของการพักผ่อน ให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสถึงความสงบ และวิวเมืองได้แบบ 360 องศา

Co-Working & Co-Living ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก The Café by Aman ร้านอาหารที่ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่สวนสีเขียวใจกลางย่านธุรกิจของกรุงโตเกียว

2. Greater Location ซึ่ง LIFE สาทร เซียร์รา ถือว่าเป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลดีมาก เพราะอยู่ติดถนนราชพฤกษ์ เพียง 150 เมตร เชื่อมต่อได้ทั้ง BTS ตลาดพลู และ BRT ราชพฤกษ์ ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็สะดวกสบายไม่แพ้กัน เนื่องจากโครงการอยู่ใกล้กับแยกท่าพระที่สามารถเชื่อมต่อได้หลายย่าน อาทิ ถนนราชพฤกษ์ ใกล้กับตลาดพลูที่มีของกินเยอะ มีร้านชื่อดังมากมาย, ถนนรัชาภิเษก ที่มีอุโมงค์ข้ามแยกช่วยลดปัญหารถติด, ถนนพระราม 3 สามารถเดินเท้าไปยังเดอะมอลล์ท่าพระได้ง่าย และถนนสาทร ที่เชื่อมต่อเข้าย่าน CBD อีกทั้งยังใกล้กับ ICONSIAM, Sena Fest, โรงพยาบาลพญาไท 3, โรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี และ Platform วงเวียนใหญ่ เป็นย่านที่มีความคึกคักเป็นอย่างมาก และยังเป็น Residential Area ที่มีคนเก่าแก่ในย่านอาศัยอยู่ พร้อมทั้งคนเข้ามาอยู่ใหม่ที่ทำงานในย่านสาทรหรือย่านรอบข้าง ที่ต้องการหาที่พักติดรถไฟฟ้าและเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวก เพราะใกล้กับเขต CBD ใจกลางเมือง ทำให้ปัจจุบันมีหลายโครงการเข้ามาเปิดเพื่อรองรับดีมานด์การอยู่อาศัยของคนที่เพิ่มขึ้น บวกกับแหล่งไลฟ์สไตล์ใหม่ที่กำลังเติบโตตามมาอย่างต่อเนื่องในอนาคต รองรับไลฟ์สไตล์ของคนในย่านได้อย่างทั่วถึง

โครงการห่างจาก BTS สถานีตลาดพลู เพียง 150 ม. และห่างจากสถานีวงเวียนใหญ่ เพียง 2 สถานีเท่านั้น

เดินทางเข้าสู่ย่าน CBD หลักของกรุงเทพฯ ได้ง่ายๆ ด้วยรถไฟฟ้าหรือรถยนต์ส่วนตัวอย่างสะดวกสบาย

ใกล้อีกหนึ่งแลนด์มาร์กในย่านฝั่งธนฯ อย่าง ICONSIAM ในระยะทางไม่ถึง 5 กม. หรือจะนั่งรถไฟฟ้าไปต่อสายสีทองยิ่งสะดวกมากขึ้น

เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ มีร้านให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะกิน ช้อป ชิล หรือเอนเตอร์เทนเมนท์ ก็ครบจบในที่เดียว

ภาพจาก : https://www.themall.co.th/en/pr-csr/73

ตลาดพลู มีร้านของกินขึ้นชื่อหลายอย่างทั้งคาว หวาน และร้านอาหารดั้งเดิมเก่าแก่ที่เปิดมานาน

ภาพจาก : https://shorturl.asia/yfits

Map การเดินทางจากโครงการ ที่ไม่ว่าคุณจะไปย่านไหนในกรุงเทพฯ หรือต้องนั่งรถไฟฟ้าสายอะไรก็สามารถเข้าใจได้ในทันที

3. Greater Investment ย่านตลาดพลู เรียกได้ว่าเป็นย่านที่เดินทางสะดวกเป็นอย่างมาก นอกจากจะมีสถานีรถไฟฟ้าแล้ว การเดินทางเข้าออกพื้นที่เมืองชั้นในสำหรับคนที่ต้องเดินทางเข้าไปทำงานใน CBD ก็สะดวกสบายเช่นกัน เพราะเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับถนนเส้นทางหลักหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น สะพานสาทร สะพานกรุงเทพ ที่สามารถไปยังสาทร พระราม 3 ได้ง่าย อีกทั้งใช้ถนนราชพฤกษ์เพื่อออกนอกกรุงเทพฯ ได้หลายทาง จึงทำให้ย่านนี้เป็นที่น่าสนใจสำหรับดีเวลลอปเปอร์ที่พัฒนาอสังหาฯ เข้าลงทุนเข้ามาเปิดโครงการต่างๆ เพิ่มขึ้น โดยราคาที่ดินในย่านตลาดพลูสูงขึ้นจากอดีต เพราะศักยภาพของพื้นที่นั้นสูงมาก มีทั้งศูนย์การค้า ตลาดสด และสถานีรถไฟฟ้า รวมไปถึงความเป็นชุมชนดั้งเดิม และชุมชนใหม่รวมกันอยู่ โดยอัตราการขายคอนโดมิเนียมทั้งหมดในย่านนี้อยู่ที่ประมาณ 84% ถือว่าสูงมาก เหลือเพียงไม่กี่โครงการที่เพิ่งเปิดขายในช่วง 3-4 ให้หลังที่กำลังก่อสร้างอยู่ ซึ่งหากจะเปรียบเทียบจากปี 2557 โครงการใกล้สถานีรถไฟฟ้ามีราคาขายเริ่มต้นที่ประมาณ 95,000 บาทต่อตารางเมตร หลังจากปี 2562 เป็นต้นมา คอนโดที่เปิดขายในพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้าตลาดพลูในระยะไม่เกิน 300 เมตร มีราคาขายประมาณ 100,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไปเกือบทุกโครงการ ถ้าเปรียบเทียบกับราคาขายของคอนโดที่เกาะ BTS วงเวียนใหญ่ยังถือว่ามีราคาดีกว่ามาก เพราะคอนโดในย่านนั้นมีราคาขายมากกว่าตารางเมตรละ 150,000 บาทไปหมดแล้ว โดยอยู่ห่างออกไปแค่ 2 สถานี BTS เท่านั้น

โดยหากพิจารณาจากอัตรา Capital Gain หากเปรียบเทียบกับโครงการที่สร้างเสร็จไล่เลี่ยกันอย่าง  Supalai Park Talat Phlu Station และ Altitude Unicorn Sathorn – Thaphra ก็จะพบว่าเติบโตถึงราวๆปีละ 3-5% ทีเดียว ยิ่งหากไปเปรียบเทียบกับโครงการที่สร้างเสร็จมาประมาณ 6 ปีอย่าง  ASPIRE สาทร – ท่าพระ ซึ่งเป็นคอนโดสุดฮอตของเอพีอีกโครงการก็จะพบว่ามีราคารีเซลที่พุ่งสูงขึ้นจากเดิมกว่า 21% โดยคอนโดที่ทำสถิติราคาขายแพงที่สุดในย่านนี้อย่าง Whizdom Station รัชดา – ท่าพระ ก็ยังมีราคารีเซลสูงกว่าเดิมถึง 16% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าคอนโดที่อยู่บริเวณสถานี BTS วงเวียนใหญ่อย่างเห็นได้ชัด

ในส่วนของการปล่อยเช่า อัตรา Rental Yield ของคอนโดในย่านตลาดพลู ถือว่ามาเป็นอันดับต้นๆ ของฝั่งธนฯ โดยมีราคาค่าเฉลี่ยเฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ราวๆ 400 – 500 บาท สำหรับคอนโดที่สร้างเสร็จมาแล้วไม่เกิน 7 ปี ซึ่งถือว่าทำอัตราค่าเช่าได้สูงมากๆ ลงทุนได้ง่ายสำหรับมนุษย์เงินเดือนทั่วไป เพราะได้เรต Rental Yield ที่พอๆ กับคอนโดในเมืองย่านสุขุมวิท แต่จ่ายในราคาต้นทุนที่ถูกกว่า ถ้าเปรียบเทียบตรงๆ กับ ASPIRE สาทร – ท่าพระ ก็จะพบว่าห้องส่วนใหญ่ทำราคาค่าเช่าได้ที่ตร.ม. ละ 450 บาท ซึ่งนั่นก็เป็นราคาต้นทุนเดิมของโครงการที่ขายราวๆ ต.รม. ละแสนบาท เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว คิดแล้วเป็น Yield ถึง 5.4% ทีเดียว ซึ่งจากสถิติเหล่านี้ก็ยิ่งทำให้  LIFE สาทร เซียร์ราน่าสนใจเข้าไปใหญ่กับราคาเริ่มต้นเพียงแค่ ตร.ม. ละไม่ถึงแสนเท่านั้น แต่ได้ของใหม่กว่า ส่วนกลางที่สมบูรณ์แบบมากกว่า ในราคาต้นทุนเดียวกับสารพัดโครงการเมื่อเกือบ 8 ปีที่แล้ว ซึ่งนั่นก็หมายความว่ามีโอกาสในการทำราคาค่าเช่าได้ดีกว่านั่นเอง!

4. Greater Community & Layout 

Life Sathorn Sierra เป็นโครงการที่มีการออกแบบให้ตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพสูง ได้แก่ กลุ่ม Natural Healthy ที่ชอบความสะดวกสบาย เดินทางง่าย และรักสุขภาพ ชอบดูแลตัวเอง กลุ่มนี้จะมีอายุ 25 ปีขึ้นไป, กลุ่ม Visionary Leadership ใส่ใจและวางแผนความเป็นอยู่ในอนาคตของครอบครัว คนกลุ่มนี้จะมีอายุ 35 ปีขึ้นไป และกลุ่ม The Future Ahead เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ยังเรียนอยู่ โดยผู้ปกครองจะเป็นคนหาที่พักอาศัยที่สะดวก ปลอดภัย และใกล้กับสถานศึกษาไว้ให้ลูก โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นลูกค้าที่อาศัยอยู่ในย่านฝั่งธนฯ และย่านรอบข้าง ซื้อไว้เป็นบ้านหลังที่สองให้ลูกหลานอยู่อาศัย นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนที่ทำงานในย่าน CBD ที่อยากอยู่ใกล้ที่ทำงาน เดินทางสบายด้วยรถไฟฟ้า อย่างย่าน สาทร ช่องนนทรี สีลม หรือสยาม นั่นเอง

โดยโครงการมีการออกแบบเลย์เอาท์ห้องมาให้ตอบโจทย์กลุ่มคนวัยทำงาน และครอบครัวเริ่มต้น ที่ต้องการห้องขนาดพอดีๆ ไม่ใหญ่ไม่เล็ก โดยที่ออกไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทั้งจากส่วนกลาง และแหล่งไลฟ์สไตล์โดยรอบ และหากเปรียบเทียบกับคอนโดใหม่ที่อยู่ใกล้เคียงกันก็จะพบว่าแปลนห้องขนาดเล็กสุดที่ Life ก็เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนหน้ากว้างกั้นพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วนที่ดีกว่า และหากเป็นห้อง 2 นอนขนาดใหญ่ที่สุดก็ให้มาถึง 2 นอน 2 น้ำ ครัวแยกติดอากาศบนพื้นที่แค่ 57.5 ตารางเมตรเท่านั้น

เจาะลึกรายละเอียดของโครงการ LIFE Sathorn Sierra

LIFE Sathorn Sierra (ไลฟ์ สาทร เซียร์รา) คือคอนโดมิเนียมระดับ Premium ที่สร้างความแตกต่างและเป็นตัวเลือกใหม่ตอบการใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติในเมืองที่สมบูรณ์และดีที่สุด ครบถ้วนในทุกมิติความต้องการที่ลูกค้ามองหา เป็นโครงการที่ร่วมทุนระหว่างบริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) และมิตซูบิชิ เอสเตท เรสซิเดนส์ (บริษัท ในเครือมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป) โครงการตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ตัดกับถนนรัชดาภิเษก พื้นที่ 8-1-5.7 ไร่ 1 อาคาร สูง 40 ชั้น จำนวน 1,971 ยูนิต และ 2 ร้านค้า ที่จอดรถทั้งหมด 768 คัน ประมาณ 40% มีห้องพักอาศัยให้เลือกหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 28 – 32 ตารางเมตร, ห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตารางเมตร และห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 57.50 ตารางเมตร พร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่รองรับทั้งไลฟ์สไตล์คนเมืองอีกมากมาย และพื้นที่สีเขียวเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันเขียวชอุ่มในโครงการ

ครั้งแรกกับสวนไล่ระดับ 5 ชั้น ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ พร้อมส่วนกลางมิติใหม่กว่า 30 ฟังก์ชัน

LIFE สาทร เซียร์รา ไม่ได้มุ่งมั่นตอบโจทย์เพียงแค่มิติความสวยงามในงานดีไซน์ หรือมิติฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบวิถีชีวิตใหม่เท่านั้น แต่ยังมีการผสมผสานพื้นที่ส่วนกลางที่มากกว่า 30 ฟังก์ชัน ให้กลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งกับตัวอาคารและงาน Landscape ในทุกพื้นที่ของโครงการ ที่พร้อมตอบอินไซด์คนเมืองรุ่นใหม่ที่ต้องการการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติที่สมดุลในเมือง เรียกได้ว่าเป็นคอนโดที่มีพื้นที่สีเขียวมากที่สุดในย่านฝั่งธนฯ อีกด้วย

ชั้น 1 มีพื้นที่สีเขียวข้างนอก และมีโถงลิฟต์ Welcome Foyer เพื่อจะขึ้นไปสู่ชั้น 5 โดยทางทีมออกแบบมองว่าควรใช้พื้นที่ให้เต็มประสิทธิภาพและลดจำนวน Facilities ที่เกินความจำเป็นออกไปเพื่อลดการใช้งานทรัพยากรที่มากเกินไป โดย Facilities ส่วนใหญ่จะไปรวมไว้ที่ชั้น 5 ซึ่งถือว่าเป็น New Concept ที่ออกแบบตามเทรนด์รักษาสิ่งแวดล้อมและก็ยังได้ที่จอดรถเพิ่มขึ้นอีกด้วย

The Forest Park พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ กลางโครงการ

ฟุตซอลครึ่งสนาม พื้นที่ออกกำลังกายร่วมกับเพื่อนบ้าน ให้การอยู่อาศัยมีสีสันเพิ่มขึ้น

Hiking Trail เส้นทางธรรมชาติจำลอง ไล่ระดับสูง 5 ชั้น ระยะทางประมาณ 300 เมตร

Welcome Foyer พื้นที่รับรองแขกชั้น 1 รับกับ Drop-off และให้ลูกบ้านเข้ามานั่งพักผ่อนได้

ชั้น 5 เรียกได้ว่าเป็นชั้นของศูนย์รวม Facilities หลากหลาย ให้คุณได้เลือกใช้อย่างไม่รู้เบื่อ ไม่ว่าจะเป็นโซนออกกำลังกาย ทำงาน ประชุม อ่านหนังสือ ชั้นนี้ครบจบในที่เดียว อาทิ สระว่ายน้ำ, Lobby Lounge, Co-living Space, Private & Group Virtual bike, Private & Group Training Room, Gym, Steam Room, Sauna Room, Multi- leisure Room, Co-working Space, Private Meeting Room

สระว่ายน้ำ ที่มี  Active & Passive Pool ไม่ว่าจะเลือกว่ายน้ำหรืออยากแช่น้ำชิลๆ ก็ทำได้

ทางเดินเชื่อมไปยังอาคารที่พักอาศัย

โซนนั่งพักผ่อน ทำงาน อ่านหนังสือ

Social Lounge

Co-Working Space

Multi Leisure Room

Private Meeting Room

โซนออกกำลังกาย

Private & Group Virtual Bike อุปกรณ์ระดับโลกจาก Technogym เป็นห้องปั่นจักรยานแบบ Individual ให้ลูกบ้านสนุกกับประสบการณ์เข้าคลาสปั่นจักรยานระดับโลกไปกับ Technogym Bike

ห้องปั่นจักรยานแบบกลุ่ม โดย Skill Bike ทั้ง 4 ตัวเป็นจักรยานเสือภูเขาแบบ Indoor ให้ฟีลลิ่งในการปั่นจักรยานเสมือนปั่นบนถนนจริงๆ มีระบบเกียร์ใส่ไว้ในตัวจักรยาน สามารถชวนเพื่อน หรือคนในครอบครัว มาเข้าคลาสด้วยกัน ทุกคนสามารถปั่นไปพร้อมๆ กัน โดยโชว์ Status ของแต่ละ User บนหน้าจอขนาดใหญ่แบบ Realtime

Private & Group Training Room

Gym

Sky Facilities ชั้น 40 ให้คุณได้มานั่งเล่น คุยกับเพื่อน หรือทำงาน ไปพร้อมกับชมพระอาทิตย์ตกสวยๆ ช่วงเย็นได้ แถมยังได้สูดอากาศบริสุทธิ์จากสวนสีเขียวบนชั้นนี้ด้วยนะ พื้นที่ด้านนอกมี Sky Courtyard, Sky Outdoor Garden, Panoramic Sunken Lounge และพื้นที่ในร่ม ไม่ว่าจะเป็น Sky Co-Living Space, Sky Lounge และ Sky Co-Working Space

Sky Outdoor Garden

Sky Courtyard

Panoramic Sunken Lounge

Sky Co-Living Space

Sky Lounge

Sky Co-working Space

ห้องตัวอย่างโครงการ Life Sathorn Sierra

ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 28 ตารางเมตร เป็นห้องแบบครัวแยกอยู่บริเวณหน้าห้องแล้วเชื่อมต่อเข้าสู่ Dining ก่อน ค่อยเป็นพื้นที่ของส่วนพักผ่อน โดย Living Area จะอยู่ติดกับผนังที่เป็น Bay Window ที่มีความเป็นส่วนตัว ให้แอร์ 1 ตัว

โครงการให้ Digital Door Lock แบรนด์ Kaadas จากประเทศเยอรมนี เป็นแบรนด์ที่มีความปลอดภัยและเชื่อถือได้

เปิดเข้ามาในห้องก็จะเจอส่วนครัวก่อน ผนังห้องแบบฉาบเรียบทาสีขาว ปูพื้นด้วยลามิเนต เพดานสูง 2.55 เมตร

โดยห้องนี้จะเป็นครัวที่แยกส่วนออกมาจากตัวห้อง แบบครัวปิด กั้นครัวและส่วนอื่นภายในห้องด้วยประตูกระจกบานสไลด์

โครงการให้เคาน์เตอร์ครัว ท็อปเป็นหินสังเคราะห์สีขาว พร้อมตู้เก็บของด้านบน

Hob & Hood ที่ได้ แบรนด์ Franke

เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว

ซิงค์ล้างจานแบบ 1 หลุม แบรนด์ Franke เช่นกัน

Built-in ตู้เก็บของ และชั้นวางเหนือตู้เย็นให้

กั้นห้องด้วยประตูกระจกบานสไลด์แบบ 3 ตอน

ตรงนี้จะเป็นพื้นที่โล่งๆ แต่โครงการจัดวางให้ดูเป็นส่วนตู้เสื้อผ้า พื้นที่ว่างข้างตู้เสื้อผ้าสามารถ Built-in โต๊ะเครื่องแป้งได้แบบห้องตัวอย่าง

ติดกันเป็นห้องน้ำ

ห้องน้ำแบบสำเร็จรูป ได้ผนังและพื้นแบบเดียวกับห้องตัวอย่าง

ใช้อ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์แบรนด์ Kohler

กั้นส่วนแห้งและเปียกด้วย Shower Screen ซึ่งโครงการจัดเตรียมไว้ให้แล้ว

มีสเตประหว่างพื้นห้องน้ำไม่สูงมาก

Hand Shower แบรนด์ Kohler แบบปรับระดับขึ้น-ลงได้

มีช่องเก็บอุปกรณ์อาบน้ำและที่แขวนผ้าเช็ดตัว

ห้องนอนมีพื้นที่ใช้วางเตียง 5 ฟุตได้สบาย

เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น

วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง และโต๊ะกาแฟได้ หรือจะปรับให้เป็นมุมทำงานก็ได้เช่นกัน

พื้นที่ Bay Window ได้รับแสงจากหน้าต่างตลอดทั้งวัน

หลังห้องมีประตูระเบียงและหน้าต่างอยู่ติดกัน หากเปิดม่านออก จะทำให้ห้องสว่างและโปร่งเป็นอย่างมาก

พื้นที่ปลายเตียงกว้าง ใช้วางโต๊ะทีวี หรือโต๊ะทำงาน อ่านหนังสือข้างๆ กันได้

ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 32 ตารางเมตร มีพื้นที่ห้องนั่งเล่นกว้าง ห้องแบบครัวปิดติดระเบียง ช่วยระบายอากาศเวลาทำอาหารได้ และห้องนอนมีกระจกแบบเข้ามุมสามารถมองวิวได้นอกได้กว้างกว่า ให้แอร์ 2 ตัว

เปิดประตูมาเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน

Digital Door Lock แบรนด์ Kaadas จากเยอรมนี

ห้องนั่งเล่นกว้างและโปร่ง ใช้วางโซฟาขนาด 3 – 4 ที่นั่งได้ พร้อมโต๊ะกาแฟ ก็ยังมีพื้นที่เหลือๆ

เพดานห้องสูง 2.55 ม. ผนังแบบฉาบเรียบทาสีขาว ปูพื้นด้วยลามิเนต

ฝั่งตรงข้ามใช้เป็นพื้นที่วางโต๊ะวางทีวีได้ ติดกับหน้าห้องน้ำ

ห้องกั้นแบบเป็นสัดส่วน นั่งที่มุมนี้ มองเห็นได้ทั่วห้องทั้งห้องครัว ห้องนอน และห้องน้ำ

ห้องน้ำแบบสำเร็จรูป

อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์แบรนด์ Kohler

ห้องอาบน้ำติดตั้ง Shower Screen ให้

มีช่องเก็บอุปกรณ์อาบน้ำ

สเตประหว่างพื้นไม่สูงมาก กันน้ำไหลออกด้านนอก

Hand Shower แบรนด์ Kohler แบบปรับระดับขึ้น-ลงได้

ติดกับห้องน้ำขวามือเป็นห้องนอน

ห้องนอนกว้าง โดยห้องตัวอย่าง Built-in พื้นที่ Walk-in Closet ไว้หน้าห้องให้ดูเป็น Reference

สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าแบบนี้ได้

ในห้องนอนวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตได้ และยังมีพื้นที่บริเวณปลายเตียงให้เดินได้สะดวก

กระจกห้องเป็นแบบเข้ามุม สามารถมองวิวได้กว้างไกลกว่า และหน้าต่างแบบบานกระทุ้ง

ข้างหัวเตียงมีพื้นที่วางโต๊ะเล็กๆ ที่มีลิ้นชักใช้เก็บของได้

พื้นที่ของกระจกเข้ามุมอยู่ข้างผนังทีวี

ครัวแบบปิดติดระเบียง กั้นห้องด้วยประตูกระจกบานสไลด์แบบ 3 ตอน

พื้นที่ด้านในกว้าง เชื่อมต่อไปถึงระเบียง

เคาน์เตอร์ครัวและตำแหน่งวางตู้เย็นจะตรงฝั่งนี้

ห้องจริงจะได้เคาน์เตอร์ครัวท็อปหินสังเคราะห์สีขาว และตู้เก็บของด้านบนเหมือนห้องตัวอย่าง

Hob & Hood แบรนด์ Franke เป็นเตาแบบ 2 หัว

ซิงค์ล้างจาน แบรนด์ Franke เช่นกัน

ด้านล่างเคาน์เตอร์ครัวมีช่องวางไมโครเวฟ และถังขยะใต้ซิงค์

ฝั่งนี้ใช้วางโต๊ะทานอาหารขนาด 2 – 4 ที่นั่งได้ เพราะมีพื้นที่พอสมควร

ประตูระเบียงเป็นกระจกบานสไลด์แบบ 3 ตอน เปิดได้กว้าง

Provide ปลั๊กไฟและก๊อกน้ำสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าให้ แขวน CDU แอร์ไว้ด้านบน ติดระแนงเหล็กช่วยบังสายตาให้

ห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตารางเมตร แบ่งห้องเป็นสัดส่วน มีครัวและห้องน้ำหน้าห้อง ช่วยเพิ่มพื้นที่ให้กับส่วนอื่นๆ ได้ ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อไปยังห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันห้องได้ตามใจชอบ ห้องนอนมีระเบียงในห้อง ให้แอร์ 2 ตัว

ครัวปิดอยู่หน้าห้อง

Digital Door Lock แบรนด์ Kaadas

เป็นห้องที่มีครัวแบบปิดและมีห้องน้ำแยกออกมาอยู่ด้านหน้าห้อง

เคาน์เตอร์ครัวขนาดพอดีกับห้องแบบ 1 Bedroom ให้ท็อปเคาน์เตอร์หินสังเคราะห์สีขาว และตู้ด้านบน

ให้ Hob & Hood แบรนด์ Franke

ซิงค์ล้างจาน Franke

ใต้เคาน์เตอร์ครัวมีช่องวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าและไมโครเวฟ

ตำแหน่งวางตู้เย็นติดกับประตูกระจก

ห้องน้ำอยู่ตรงข้ามครัว

ห้องน้ำสำเร็จรูป ได้แบบดียวแบบกันทั้งโครงการ

อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ Kohler

Shower Screen กั้นห้องอาบน้ำ

สเตปที่พื้นในห้องน้ำ

Hand Shower แบรนด์ Kohler

มีช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำและที่แขวนผ้าเช็ดตัว

ประตูกระจกบานสไลด์แบบ 3 ตอน กั้นครัวและพื้นที่ส่วนพักผ่อนภายในห้อง

พื้นที่ห้องนั่งเล่นเป็นแนวลึกเชื่อมต่อไปยังห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ด้านหลัง

ห้องนั่งเล่นมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถวางโซฟาขนาด 3 – 4 ที่นั่งได้

พร้อมยังวางโต๊ะกาแฟหน้าโซฟาได้อีกด้วย

ตรงข้ามกันจะเป็นตำแหน่งของโต๊ะวางทีวี หรือจะใช้เป็นทีวีติดผนังก็สะดวกและช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในห้องได้ด้วย

ห้องอเนกประสงค์ติดหน้าต่าง สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันให้เป็นห้องนอนหรือห้องทำงานต่างๆ ได้ตามใจชอบ

ทำเป็นมุมพักผ่อนตรงนี้ก็ได้

กั้นห้องด้วยประตูกระจกบายสไลด์แบบ 3 ตอน

ห้องนอน

พื้นที่ห้องนอนกว้าง สามารถวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตได้สบาย

ตำแหน่งวางตู้เสื้อผ้าจะอยู่บริเวณข้างหัวเตียง

ในห้องนอนใช้เป็นทีวีติดผนังจะสะดวกมากกว่า

ประตูระเบียงเป็นกระจกบานสไลด์ขนาดใหญ่ ให้แสงธรรมชาติส่องเข้าห้องได้ทั้งวัน

ระเบียงกว้างพร้อมราวกันตก

โดย CDU แอร์จะแขวนไว้ด้านบนพร้อมติดระแนงเหล็กบังสายตาไว้ให้

ห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 57.5 ตารางเมตร กั้นห้องเป็นสัดส่วน ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ และมีห้อง Storage ที่ใช้เก็บเครื่องซักผ้า เป็นห้องที่มีระเบียง 2 จุด คือ ระเบียงดูวิว และระเบียง Service อยู่หลังครัวที่ใช้เก็บ CDU แอร์ ห้องน้ำแบบ Double Access และ Master Bedroom มีกระจกเข้ามุมดูวิวได้กว้างไกลกว่าห้องอื่นๆ ให้แอร์ 3 ตัว

มองจากหน้าห้อง เป็นทางเดินลึกเข้าไป โดยห้องในสุดจะเป็น Master Bedroom ที่มีตวามเป็นส่วนตัวอยู่ด้านใน

Digital Door Lock ที่ทางโครงการให้มา

เข้ามาในห้อง ก็จะเจอกับห้องนั่งเล่นอยู่ฝั่งขวามือ ส่วนซ้ายมือเป็น Dining Area

ห้องนั่งเล่นมีพื้นที่กว้าง เพดานห้องสูง 2.55 ม.  ปูพื้นห้องด้วยลามิเนต และห้องเป็นผนังแบบฉาบเรียบทาสีขาว

มุมนี้วางโซฟาขนาด 3 – 4 ที่นั่งได้สบาย พร้อมทั้งยังวางโต๊ะกาแฟไว้ด้านหน้าได้

โต๊ะวางทีวีจะอยู่ตำแหน่งนี้ ใครที่อยากเพิ่มพื้นที่ภายในห้องก็สามารถใช้เป็นทีวีติดผนังได้

ระเบียงด้านนอกกว้าง

มีหน้าต่างมองเห็นห้องครัวได้จากระเบียงตรงนี้

ถัดจากห้องนั่งเล่นไปอีกฝั่งจะเป็น Dining Area

พื้นที่ส่วนนี้หากอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ สามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 – 6 ที่นั่งได้เลย

ห้อง Storage ที่ใช้เก็บเครื่องซักผ้า โดยจะแยกห้องซักผ้ามาไว้ส่วนนี้ ซึ่งสะดวกมาก เพราะส่วนใหญ่เครื่องจะซักผ้าจะไปรวมอยู่ในห้องครัว ก็จะเกะกะเวลาที่ต้องทำทำอาหารพร้อมกับซักผ้าไปด้วย เมื่อย้ายมาไว้ตรงนี้ก็สะดวกขึ้นเยอะ

ห้องครัวกั้นห้องด้วยประตูกระจกบานสไลด์แบบเต็มความสูงแบบนี้ให้เลย

เคาน์เตอร์ครัวแนวยาว ที่สามารถยืนทำอาหารพร้อมกันได้หลายคน ทั้งยังสามารถทำอาหารไปและดูทีวีจากห้องนั่งเล่นได้อีกด้วย

ท็อปเคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์สีขาว และให้ตู้เก็บของด้านบนด้วย

ใต้เคาน์เตอร์มีช่องวางไมโครเวฟ และถังขยะใต้ซิงค์ล้างจาน

ซิงค์ล้างจานแบรนด์ Franke

Hob & Hood แบรนด์ Franke เช่นกัน เป็นเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว

ตำแหน่งตู้เย็น สามารถวางตู้เย็นหลังใหญ่แบบบานเปิดสองฝั่งได้สบาย

ด้านหลังตู้เย็นตรงนี้มีระเบียง Service ที่ใช้แขวน CDU แอร์ ซึ่งคุณจะได้ระเบียงดูวิวที่อยู่ตรงฝั่งห้องนั่งเล่นให้ได้วิวกว้างแบบไม่มีอะไรมาบดบังการชมวิวของคุณเลย

ห้องน้ำที่อยู่ตรงข้ามกับครัว เป็นแบบ Double Access ที่เข้าได้ทั้งจากฝั่งห้องนั่งเล่นและฝั่งห้องนอน 2

ห้องน้ำแบบสำเร็จรูป ซึ่งห้องจริงจะได้ผนังและพื้นของห้องน้ำแบบเดียวกันเป๊ะๆ

อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์แบรนด์ Kohler

มีช่องเก็บอุปกรณ์อาบน้ำและผ้าเช็ดตัว

ห้องอาบน้ำกั้น Shower Screen ให้

สเตปในห้องอาบน้ำ ไม่สูงมาก

Hand Shower แบบปรับระดับขึ้น-ลง ได้ แบรนด์ Kohler

ห้องน้ำมีประตูเชื่อมที่ห้องนอนเล็กได้

ห้องนอน 2 มีพื้นที่กว้าง สามารถวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตได้สบาย

ให้กระจกบานใหญ่ พร้อมหน้าต่างแบบบานกระทุ้ง

พื้นที่ข้างหัวเตียงสามารถวางโต๊ะเล็กๆ ได้

ตู้เสื้อผ้าวางไว้ข้างเตียงได้

ตำแหน่งติดทีวีในห้องนอน

Master Bedroom

ตำแหน่งติดตั้งตู้เสื้อผ้าจะอยู่ด้านหน้าห้อง ห้องตัวอย่างทำหน้าบานเป็นกระจก แบบนี้ดีมากเพราะสามารถส่องกระจกตรวจเช็คความเรียบร้อยก่อนออกจากห้องได้สะดวก

ในห้องนอนมีหน้าต่างสองฝั่ง เป็นหน้าต่างแบบบานกระทุ้ง และมีกระจกเข้ามุมสามารถมองวิวได้กว้าง

กระจกด้านนอกเป็นแบบเข้ามุม มีพื้นที่เยอะสามารถวางโต๊ะทำงานตรงกระจกได้

มีห้องน้ำในห้อง

ห้องน้ำมีช่องแสงในห้อง สามารถเปิดระบายอากาศได้

อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์แบรนด์ Kohler

ติดตั้ง Shower Screen ให้

แสงด้านนอกสามารถลอดผ่านห้องน้ำได้ตลอดทั้งวัน

จากที่ทีมงานเราได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ก็ขออนุญาตมอบรางวัล The Best Affordable 2 Bedroom Layout of the year 2022 ไปเลย เพราะเอาจริงๆ คือปกติแล้วในคอนโดทั่วไป ห้องขนาดใหญ่แบบ 2 ห้องนอนขึ้นไปก็มักจะออกแบบมาได้กว้างขวาง ดูดีกว่าห้องเล็กอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่มันก็จะเหมือนกับการเอายูนิต 1 ห้องนอนมา Combined กัน หรือไม่ก็เอา 1 ห้องนอนมา Combined กับสตูดิโอ เน้นไปที่ส่วน Living ที่กว้างเอาไว้ก่อน ส่วนครัวแบบ Enclosed Kitchen หรือครัวปิดเต็มรูปแบบนั้น ส่วนใหญ่เราก็มักจะเห็นจากห้องแบบ 2 ห้องนอนที่มีขนาดเกินกว่า 70 ตรม.ขึ้นไป ซึ่งเอาจริงๆ คอนโดสมัยใหม่แม้จะเป็นขนาดเกิน 100 ตรม.ยังไม่ให้ครัวปิดเลย ถ้าจะหาครัวปิดก็ต้องไปหาจากห้อง Penthouse หลายร้อยตรม.ที่มักจะทำครัวไทยในห้องแม่บ้าน ซึ่งนั่นก็คือปิดจริงๆ แบบระบายอากาศไม่ได้!

แต่ห้องนี้มีขนาดแค่ 57.5 ตรม. ถือว่าเป็น 2 นอนที่ขนาดกำลังพอดี ยิ่งคิดราคาเฉลี่ยที่ราวๆ ตร.ม.ละแสนหรือต่ำกว่านี้ก็จะพบว่าใช้เงินน้อยมากๆ เลยในการซื้อห้องเลอค่าแบบนี้ โดยสิ่งที่ยากจะเห็นได้จาก 2 ห้องนอนในขนาดเดียวกันจากที่อื่นก็คือ ส่วนห้อง Living แบบหน้ากว้างที่แยกห้อง Laundry และห้องเก็บของไว้อีกฝั่งเลย เป็นระเบียบดีมากๆ มีระเบียงให้ถึง 2 ระเบียง คือส่วนติดห้องนั่งเล่น และระเบียงซ่อนหลังห้องครัว ที่ใช้เป็น Private Balcony ตากผ้าแบบไม่มีใครเห็นได้สบาย และระเบียงนี้ยังสามารถถ่ายเทอากาศจากห้องน้ำใน Master bedroom ออกมาได้ด้วย ได้ครัวปิดติดอากาศแบบเปิดระบายได้จากระเบียงทั้ง 2 ฝั่ง แถมไม่ได้กั้นด้วยกำแพงปูนแต่เป็นการกั้นด้วยกระจกใส ทำให้ดึงแสงธรรมชาติเข้ามาได้ทั่วห้องและคนที่ทำอาหารอยู่ก็ยังสามารถดูทีวีได้สบายๆ ห้องน้ำในห้องนอนเล็กเป็นแบบ Double Access คนที่นอนในห้องนอนเล็กไม่ต้องเดินออกมาจากห้องผ่านห้องรับแขกเพื่อเข้าห้องน้ำ และห้องนอนใหญ่มีช่องแสงและการระบายอากาศดีมาก ได้กระจกเข้ามุมที่หัวเตียงอีก แนะนำว่าใครมองหาห้อง 2 นอน 2 น้ำภายในงบประมาณ 6 ล้านที่นี่คือใช่ที่สุด!

นอกจากห้องแบบ 2 ห้องนอนที่เรามองว่าดีแล้ว ในส่วนของห้องขนาดเริ่มต้นที่ 28 ตรม. นี่น่าจะเป็นคำตอบสำหรับใครหลายๆคน เพราะต้องบอกว่าทีมงานเราได้รับคำถามมากมายจากแฟนเพจว่าให้ช่วยแนะนำคอนโดใหม่แบบ 1 ห้องนอน ส่วนกลางอิ่มๆ ติดรถไฟฟ้าที่มีราคาขายไม่เกิน 3 ล้านให้หน่อย ซึ่งถ้าเราเอาโจทย์นี้เป็นแกน ก็จะพบว่ามีแค่ 2 ทำเลเท่านั้นที่เข้า Criteria นี้ และก็เป็นทำเลฝั่งธนฯล้วนๆเลย ที่แรกคือ ช่วงตลาดพลู – วุฒากาศช่วงเส้นทาง BTS สายสีเขียว อีกที่นึงก็จะเป็นช่วงภาษีเจริญบนเส้นทางรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน โดยหากจะเน้นไปที่กลุ่มคนทำงานที่ต้องการประหยัดเวลาในการเดินทางเข้าไปสู่ย่านสาทร – สีลม – สุขุมวิท มากที่สุด ยังไงก็ต้องเป็นช่วงสถานีตลาดพลูกับ ห้องแบบ 1 ห้องนอนขนาด 28 ตรม. ที่โครงการ LIFE สาทร เซียร์รา ซึ่งเป็นขนาดห้องที่ค่อนข้างเป็นที่คุ้นเคยของคนทำงานโดยทั่วไป แต่ได้มีการปรับเปลี่ยนเลย์เอาท์ให้ตอบเทรนด์แบบปัจจุบันมากขึ้น ตรงที่มีการกั้นพื้นที่การใช้งาน อย่างเป็นสัดส่วน เน้นส่วน Open Space ที่ควบรวมกันทั้ง Living & Bedroom และจัดวางพื้นที่ทำงานที่ริมหน้าต่าง ซึ่งทำให้บรรยากาศของห้องดูกว้างกว่าห้องขนาดเดียวกันบนโครงการอื่นๆ อีกทั้งยังได้ครัวปิดแบบแยกส่วน ใช้งานได้จริงในแบบเต็มพื้นที่คุ้มค่าทุกตารางเมตร ตอบโจทย์กลุ่มคนอยู่เองในงบประมาณ 2 ล้านปลายๆ หรือคนหาห้องเช่าในราคาประมาณ 12,000 – 13,000 บาทต่อเดือนมากๆ

สรุปจุดเด่นโครงการ LIFE สาทร เซียร์รา

LIFE สาทร เซียร์รา เป็นโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ LIFE ที่มีราคาขายดีที่สุดในรอบหลายปี และดีที่สุดของทำเลตลาดพลู ติดถนนใหญ่และห่างจาก BTS สถานีตลาดพลู เพียง 150 ม. อยู่ในย่านตลาดพลูที่ขึ้นชื่อในเรื่องอาหาร เป็นไชน่าทาวน์แห่งแรกของฝั่งธนฯ และยังเป็นย่านที่มีปริมาณ Supply คอนใหม่เหลือค่อนข้างน้อย เป็นย่านที่มีคนเข้ามาอยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง เชื่อมต่อย่าน CBD อย่างสีมลม สาทร ได้สะดวกด้วยรถยนต์ส่วนตัว สามารถเดินไปห้างเดอะมอลล์ท่าพระได้สบาย เหมาะกับการปล่อยเช่ากลุ่มนักศึกษาและวัยทำงานที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้า โครงการเน้นรูปแบบห้องที่ตอบโจทย์ Real Demand กลุ่มคนทำงานในย่าน CBD ด้วยรูปแบบห้อง 1 Bedroom ขนาดเริ่มต้น 28 ตารางเมตร ใช้เงินไม่ถึง 3 ล้านก็เป็นเจ้าของได้ง่ายๆ หรือจะซื้อลงทุนปล่อยเช่า ก็ค่อนข้างได้เปรียบกว่าโครงการที่เก่ากว่า ด้วยเลย์เอาท์ห้องที่กว้างกว่า ดีกว่า ในราคาที่น่าซื้อมากกว่าพร้อมทั้งเป็นโครงการระดับไฮเอนด์ที่มี Super Facilities ใหญ่กว่า 5 ไร่ จัดเต็มมากกว่า 30 ฟังก์ชัน และพื้นที่สีเขียวกว่า 6,400 ตารางเมตร มากที่สุดในย่านตลาดพลู โดยพื้นที่ส่วนกลางได้รับแรงบันดาลใจจากสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันโดดเด่นจาก 6 ประเทศทั่วโลก ให้คุณได้ดื่มด่ำกับสุดยอดวิวที่ Sky Facilities บนชั้น 40 พื้นที่รวมกว่า 1,600 ตารางเมตร สูงที่สุดในย่านตลาดพลู

พร้อมเข้าอยู่แล้ววันนี้ 1 ห้องนอน เริ่ม 2.79 ล้านบาท และโปรโมชั่นฟรีเฟอร์นิเจอร์ & เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมกว่า 15 รายการ*

นัดหมายล่วงหน้าเพื่อชมโครงการได้แล้ววันนี้ เพียงลงทะเบียนและแอด LINE Official Account ผ่านเว็บไซต์รับส่วนลดเพิ่มอีก 30,000 บาท* https://apth.ly/ske