โดดเด่นเหนือใครในย่านทองหล่อ กับคอนโดกลิ่นอาย New York Art Deco ที่ Hyde Heritage Thonglor

“ทองหล่อ” ชื่อนี้เป็นที่รู้จักกันดีทั้งในหมู่ชาวไทยและชาวต่างชาติ ในฐานะที่ย่านทองหล่อเป็นศูนย์รวมการใช้ชีวิตเหนือระดับทุกรูปแบบ ทั้งแหล่ง Hangout แหล่ง Shopping แหล่งงาน รวมทั้งเป็นศูนย์รวมของ Lifestyle Facilities ต่างๆ ทั้งสถานพยาบาลชั้นนำ ธนาคาร ร้านแฟลคชิพสโตร์ ร้านอาหาร retail shop คอมมูนิติ้มอลล์หลายแห่ง รวมถึงสถานศึกษา และสถานีตำรวจ ที่ครบครัน รวมทั้งในอนาคตข้างหน้า ทางกทม.ก็มีแนวคิดที่จะพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเทา เส้นทางวัชรพล-ท่าพระ ซึ่งจะพาดผ่านบนถนนทองหล่อตลอดเส้นทาง ซึ่งหากนับเฉพาะจำนวนสถานีในบริเวณย่านทองหล่อ ก็จะมีถึง 4 สถานีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสถานีเพชรบุรี-ทองหล่อ สถานีแจ่มจันทร์ สถานีทองหล่อ 10 และสถานีทองหล่อ

เรียกว่าเป็นแหล่งรวม lifestyle และ Facilities ที่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัย แบบครบวงจร จึงไม่แปลกที่แนวทางในการพัฒนาโครงการในย่านนี้ ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยคอนโด โรงแรม หรือไม่ก็ Service Apartment ที่เป็นที่ต้องการทั้งในกลุ่มชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งที่ผ่านมา ความเป็น Residential Area ของย่านทองหล่อ ได้แผ่ขยายไปเรื่อยทั้งฝั่งสุขุมวิทเลขคี่ซอย 36-38 หรือจะเป็นในช่วงทองหล่อฝั่งเพชรบุรี ฝั่งซอย 10 และ 20 ที่ทะลุออกซอยเอกมัยได้ รวมถึงซอยใกล้เคียงอย่างซอย 57 – 59 ซึ่งจุดขายบนทำเลดังกล่าวมักชูทำเลใจกลางทองหล่อ หรือไม่ก็ติดถนนใหญ่ หรือใกล้ BTS และแน่นอนว่าพื้นที่ที่มีศักยภาพดังที่กล่าวมาข้างต้นมีค่อนข้างน้อย และส่วนใหญ่ก็ถูกพัฒนาไปเกือบหมดแล้ว หรือถ้ามีก็แน่นอนว่าราคาขายคงจะแพงมหาศาลเกินกว่าตรมละสามแสนกลางๆ ดังเช่นหลายๆ Super Luxury Condo เปิดใหม่ที่มีทำเลอยู่ติดถนนใหญ่ ใกล้ BTS ใจกลางทองหล่อ ก็ขายเริ่มต้นในราคาตารางเมตรละสองแสนกลางๆแล้ว

ซึ่งนอกจากต้นทุนด้านทำเลแล้ว การเลือกฝั่งพื้นที่ติดถนนใหญ่ของเส้นถนนสุขุมวิท ก็มีความสำคัญไม่น้อยในการเดินทางด้วยรถยนต์ โดยเฉพาะในช่วงเวลารถติด ไม่ว่าจะไปทำงานหรือไปซื้อของ ชอปปิ้ง ก็ต้องสะดวก และเดินทางได้โดยง่าย

นอกจากศักยภาพด้านการเดินทางที่เป็นสิ่งจูงใจในการเลือกซื้อคอนโด ในอนาคตอันใกล้ศักยภาพย่านทองหล่ออาจต้องจับตาดูกับโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ อย่าง T – One ซึ่งเป็น Grade A Office ขนาดใหญ่ ที่กำลังจะสร้างเสร็จ และจะเป็นโครงการ Grade A ออฟฟิตขนาดใหญ่เพียงแค่โครงการเดียว ในย่านทองหล่อ ที่นอกจากจะนำมาซึ่งผู้คนที่เข้ามาใช้งานแล้ว ยังมาพร้อมกับ Sky walk เชื่อมจาก BTS ทองหล่อตรงเข้าสู่อาคาร T – One และทำให้พื้นที่โดยรอบทั้งสองฝั่งถนนสุขุมวิท ได้รับศักยภาพดังกล่าวไปพร้อมกันด้วย ทั้งนี้พื้นที่ใกล้เคียงกับอาคาร T – One ยังมีสารพัดโครงการ Service Apartment และโรงแรมดังจากค่ายอนันดา อย่าง Ascott Thonglor และ Origin (One 59) รวมถึงแผนการพัฒนาโครงการคอนโดระดับ Super Luxury อีกหลายโครงการจากดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำ รวมทั้งคอนโดติดริมถนนใหญ่อย่าง Hyde Heritage Thonglor (ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ) ที่ตั้งอยู่ติดริมถนนใหญ่ช่วงซอย 59 เยื้องกับอาคาร T-One

Hyde Heritage Thonglor (ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ) เป็นโครงการของ Grande Asset  Hotel and Property (แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้) กับพันธมิตรยักษ์ใหญ่อย่าง ซูมิโตโม ฟอเรสทรี บริษัทชั้นนำในธุรกิจป่าไม้และรับสร้างบ้านของญี่ปุ่น กับมูลค่าลงทุนกว่า 6,000 ล้านบาท

Hyde Heritage Thonglor เป็นแบรนด์โครงการ Hyde แห่งที่สามหลังจากประสบความสำเร็จกับ Hyde Sukhumvit 11 และ 13 ซึ่ง Grande Asset เองมีจุดเด่นในเรื่องของการบริหารจัดการ และ งาน Service ในแบบของ Hospitality เนื่องจากมีประสบการณ์โดยตรงกับการดำเนินธุรกิจโรงแรมระดับ 4-5 ดาว อาทิ โรงแรมเชอราตัน หัวหิน ปราณบุรี วิลล่า, โรงแรมเชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา, โรงแรมเดอะ เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท, โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพ สุขุมวิท ที่ล้วนแต่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมอยู่พอสมควร จึงน่าจะมั่นใจในการออกแบบสร้างบรรยากาศที่เหมาะแก่การพักผ่อน รวมทั้งการบริการที่มาพร้อมประสบการณ์อันยาวนาน อีกทั้งยังได้ประสบการณ์จาก ซูมิโตโม ฟอเรสทรี บริษัทรับสร้างบ้านที่ยาวนานกว่า 300 ปี ที่นำเทคโนโลยีการก่อสร้างจากญี่ปุ่นมาใช้ในการออกแบบโครงการนี้ให้แตกต่างจากโครงการคอนโดมิเนียมหรูอื่นๆ

Hyde Heritage Thonglor ตั้งอยู่ติดปากซอยสุขุมวิท 59 มีเนื้อที่ประมาณ 2.2 ไร่ ที่ออกแบบคลาสสิคผสมผสานความโมเดิร์น ออกมาเป็นสถาปัตยกรรมแบบ Timeless สอดคล้องกับพื้นที่ตั้งที่ตั้งอยู่ตรงข้าม สำนักงานองค์การยูเนสโก ซึ่งเป็นผู้ขึ้นทะเบียนมรดกโลก (World Heritage) ผสานการใช้วัสดุอย่าง หิน โลหะ และกระจก เป็นองค์ประกอบหลักที่ลงตัว กับความสูง 45  ชั้น จำนวน  311 ยูนิต

มีชั้นจอดรถใต้ดิน 2 ชั้น แบบช่องจอดธรรมดา จำนวน 20%

ส่วนที่ชั้น 1 เป็น lounge ที่มีมุมพื้นที่พักผ่อนหลากหลายให้เลือกใช้ ประหนึ่ง ใช้บริการอยู่ใน lobby โรงแรมหรู ที่มีทั้งมุมสวน และพื้นที่นั่งพักติดริมน้ำ

รวมทั้งที่ชั้น 2 เป็นพื้นที่เชื่อมสู่ห้อง private ต่างๆ

ที่ชั้น 2-6 เป็นที่จอดรถแบบ Auto parking 80% ที่มากับลิฟท์จอดรถแบบ first come first serve 3 ตัว ที่แยกเป็นที่จอดรถด้านทิศเหนือ 1 ตัวแบบจานหมุน และทิศใต้ของอาคารจอดรถ อีก 2 ตัว เป็นลิฟท์จอดธรรมดา ที่คิดรองรับการใช้งาน คือ เมื่อเข้ามาจากทางเข้าโครงการ จะเจอลิฟท์ขึ้นที่จอดรถ 2 ตัว เลยไปคือทางลงชั้นใต้ดิน ถ้าลงไปจอดที่ใต้ดินแล้วไม่มีที่จอด ก็ไม่ต้องวนกลับมาที่ลิฟท์จอดรถ สามารถเลยไปใช้ลิฟท์จอดรถอีกตัวได้เลย เรียกว่าคิดถึงรายละเอียดการใช้งานจริงๆ

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ Storage เก็บของสำหรับทุกยูนิต ที่มาไว้บริการที่ชั้นใต้ดินบริเวณติดลานจอดรถ และที่ชั้น 1 กับพื้นที่ช่องเก็บของขนาด กxยxส คือ 0.5x1x0.9 m

ที่ชั้น 7 เป็น facility เชิง passive zone สุด private ที่มาพร้อม glass house ที่โดดเด่น ด้านหน้าโครงการ รวมทั้งยังมี Hyde garden พื้นที่สวนลอยฟ้า ที่โอบล้อมด้วยน้ำ และกั้นพื้นที่ glass house ให้มีความโดดเด่นและ private ในพร้อมๆกัน

นอกจากนี้ยังมี library, Co-working space, Grand lounge, tea lounge, kids room, Manicure & Pedicure room, salon, spa และ theater room ที่สามารถใช้บริการได้อย่างส่วนตัว กับผู้ดูแลส่วนตัวที่คุณสามารถเรียกมาให้บริการได้ตลอดเวลา

นอกจากนี้ยังมี facility เชิง active zone

อย่างสระว่ายน้ำและฟิตเนสที่ยกขึ้นไปไว้ที่ชั้น 40-41

โดยสระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้น 40 เป็นสระว่ายน้ำ 360 องศา ที่แบ่งโซนใช้งานย่อยๆ ทั้งสระเด็ก จากุซซี่ และพื้นที่ใช้งานอื่นๆ ไว้เป็นจุดย่อยๆ

ซึ่งสระว่ายน้ำเป็นสระรักษาอุณหภูมิ ที่ใช้ระบบ heat exchange จากความร้อนของ CDU แอร์ในพื้นที่ส่วนกลาง

ส่วนที่ชั้น 41 เป็นฟิตเนส ที่มีบันไดเวียนเชื่อมจากชั้น 40 ขึ้นมา นอกจากฟิตเนส ยังมีห้องโยคะ และ golf simulator แยกไว้สำหรับใช้งานอีกด้วย

ในส่วนของที่พักอาศัยเริ่มที่ชั้น 8 กับทางเดินโอบล้อมแบบ single corridor กับvoidเปิดโล่งกลางโถงขนาดใหญ่ เชื่อมตั้งแต่ชั้น 8-28

ตัวโครงการหันสู่ถนนสุขุมวิทที่ทิศใต้ เป็นวิวหน้าโครงการถนนสุขุมวิท รถไฟฟ้า และวิวชุดอาคารของยูเนสโก รวมทั้งเห็นอาคาร T-one อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก

วิวทิศตะวันตก ตอนนี้อาจดูโล่งๆ แต่ในอนาคตฝั่งนี้จะมีโรงแรมสร้างขึ้นที่ฝั่งนี้

วิวทิศตะวันออก วิวด้านเอกมัย มีคอนโด Fullerton ขึ้นมาบังวิวเล็กน้อย แต่ด้วย set back และความเอียงของถนนสุขุมวิท อาจเห็นอาคารอยู่ในมุมๆ ของวิวด้านนี้

ส่วนทิศเหนือ เป็นวิวหลังโครงการด้านพื้นที่อพาร์ทเม้นท์ และคอนโดช่วงรอยต่อทองหล่อ เอกมัย

วิวในภาพด้านบนเป็นวิวที่ชั้น 28 ที่น่าจะเป็นพื้นที่พักอาศัยหลัก แต่ถ้าได้ขึ้นไปยังชั้น facility ที่ชั้น 41 แล้วล่ะก็ ในวันฟ้าเปิด

ส่วนตัวยูนิตมี 4 แบบหลักๆ คือ

1 bedroom 187ยูนิต Type A มีขนาด 40.00-43.20 Sq.m. มีที่ชั้น 8-20 ชั้นละ 5 ห้อง ชั้น 21-28 ชั้นละ 3 ห้อง ที่ทิศเหนือ ด้านหลังโครงการ และทิศตะวันตก ด้านข้างโครงการ และชั้น 30-36 ชั้นละ 1 ห้อง

Type B มีขนาด 50.70-58.70 Sq.m. มีที่ชั้น 8-28 ชั้นละ 4 ห้อง วิวทิศใต้ด้านหน้าโครงการ1 ห้อง ทิศตะวันออกด้านข้างโครงการ และ ทิศเหนือ ด้านหลังโครงการ และชั้น 30-36 ชั้นละ 1 ห้อง

ตั้งแต่ชั้น 29 ขึ้นไป ห้องจะเป็นไซส์ใหญ่ ตั้งแต่ 2 bedroom Type C ขึ้นไป และที่ชั้น 29 เองก็มีพื้นที่สวนสีเขียวที่เป็นพื้นที่ส่วนกลาง สามารถเดินออกไปใช้งาน ชมวิวด้านหน้าโครงการ และเป็นพื้นที่กั้นความprivateให้กับห้อง Type D อีกด้วย

2 bedroom 103 ยูนิต Type C 68.20-86.60 Sq.m. มีที่ชั้น 8-20 ชั้นละ 3 ห้อง ห้องมุมสุดทางเดิน และที่ชั้น 21-36 มีเพิ่มที่ทิศเหนือวิวด้านหลังโครงการ

3 bed 17 ยูนิต Type D 111.3-186.00 Sq.m. มีที่ชั้น 29 2 ห้อง ชั้น 30-38 Type ละ 1 ห้องต่อชั้น

และ ห้อง penthouse 4 ยูนิต 234.00-357.00 Sq.m. ที่ชั้น 42-43 เป็น Duplex 3 ห้อง และชั้น 44 เป็น penthouse 1 ห้องทั้งชั้น โดย penthouse มีลิฟท์แยกเฉพาะส่วนตัว จากชั้น 1 จนชั้น 42-44

ส่วนที่ Sale gallery โครงการ มีห้องตัวอย่างให้ชมถึง 3 ห้อง คือ ห้อง 1 bedroom Type A 43.20 Sq.m. Type B 50.70 Sq.m. และห้อง 2 bedroom Type C 5 77.80 Sq.m.

โดยโครงการขายแบบ Fully fitted คือให้เฟอร์ Built-in เหมือนห้องตัวอย่าง และมีเพดานสูง 3 เมตร พื้นห้องเป็น engineered wood ครัวของ Kuppersbusch และห้องน้ำ ให้แอร์คอนซิล และระบบ digital door lock ของ Yale

ห้องแรกที่พาทุกท่านไปชม คือ ห้อง 1 bedroom Type A 43.20 Sq.m. ห้อง 1 bedroom หน้ากว้าง ที่แบ่งการใช้งานเป็นห้องนอนและห้อง living อย่างละครึ่งเท่าๆกัน

เมื่อเปิดประตูเข้าไป จะพบกับส่วนห้อง living room ที่มีครัว built-in อยู่ด้านหน้าติดทางเข้าประตูด้านขวามือ

ชุดครัว เป็น Built-in สูงจากพื้นจรดเพดาน

โครงการให้ตู้เย็น built-in ที่ฝาหน้าเข้ากับ ชุดครัวคอมโพสิตเชื่อมกับเคาท์เตอร์ยาว ที่แบ่งพื้นที่เตรียมอาหาร เตาไฟฟ้าฝังเคาท์เตอร์ และอ่างล้างจาน

ส่วนด้านบนเป็นที่ดูดควันฝังไปกับตู้เก็บของใช้ในครัว และที่ด้านล่างเป็นลิ้นชักเก็บอุปกรณ์ทำครัว พร้อมเจาะช่องสำหรับไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้าฝาหน้า

ตรงข้ามครัว เป็นตู้เก็บของและตู้รองเท้า built-in ที่ออกแบบมาพร้อมชั้นเก็บรองเท้าแบบเลื่อนเข้าออกได้

ปลายสุดของห้อง เป็นพื้นที่ติดหน้าต่างบานใหญ่ เปิดโล่งรับพื้นที่นั่งเล่น

เป็นมุมดูทีวีเข้ามุม ที่กว้างพอให้วางชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลางสำหรับ 2-3 ที่นั่ง

และมุมโต๊ะทานอาหาร ทำงานที่ด้านหลังโซฟา สำหรับ 2 ที่นั่ง

ที่มุมห้องเป็นประตูเปิดสู่ระเบียง ที่สามารถเข้าออกได้ทั้งจากห้อง living และห้องนอน

ด้านซ้ายของยูนิตเป็นห้องนอน ห้องน้ำในตัว

โดยด้านซ้ายของห้องนอนเป็นห้องน้ำ ที่ภายในแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนแห้งติดประตูทางเข้า

โครงการให้อ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์ พร้อมที่เก็บของด้านล่าง built-in ยาวเชื่อมเป็นที่วางของด้านหลังโถสุขภัณฑ์ ที่เป็น auto washlet

ส่วนพื้นที่ส่วนเปียกกั้นด้วย Glass shower บานเปิด ที่โครงการให้ทั้ง rain shower และ hand shower พร้อมอ่างอาบน้ำที่มุมสุดด้านในห้องน้ำ

โดยที่ห้องน้ำ โครงการให้ผนังหินแท้ โทนสีดำเต็ม1ผนัง ทางฝั่งที่ติดตั้ง Rain Shower

ที่หน้าทางเข้าห้องน้ำเป็นมุมแต่งตัวที่ built-in ตู้เสื้อผ้าได้ 2 ด้าน แต่ห้องนี้ไม่มีโต๊ะเครื่องแป้งให้ แต่สามารถตั้งได้ที่บริเวณมุมห้วเตียงที่ด้านขวา ส่วนของห้องนอน

ติดริมระเบียงและทางออกระเบียง เป็นที่ตั้งเตียง ที่สามารถตั้งเตียง King size ได้ และยังมีพื้นที่รอบเตียงเหลือให้ใช้งาน

แต่หากจะตั้งทีวีในห้องนอนแล้วล่ะก็ ห้องนี้ต้องใช้วิธีการติดผนังเอา เพราะพื้นที่ปลายเตียงไม่มีพื้นที่มากพอ

ส่วนที่ระเบียงเป็นราวกันตกกระจก ที่เปิดเชื่อมมุมมองแบบไร้สิ่งกีดขวาง และพื้นที่ตั้งคอมฯแอร์ ก็มีบานเกล็ดเป็นประตูกั้น แยกพื้นที่ใช้งานอย่างชัดเจน

ห้องนี้เหมาะสำหรับอยู่ 1-2 คน แต่ได้พื้นที่ที่มีสัดส่วน แยกการใช้งานที่ชัดเจน

ห้องถัดไปคือ 1 bedroom Type B 50.70 Sq.m. ห้องหน้ากว้างและลึก โดยมีพื้นที่ living area เพิ่มขึ้นจาก Type A

หน้านี้ประตูห้องอยู่สุดมุมห้อง เปิดเข้าไปจะพบกับพื้นที่ living area ที่มีพื้นที่ครัว built-in อยู่ด้านหน้าติดทางเข้าประตูด้านขวามือ

ชุดครัว เป็น Built-in สูงจากพื้นจรดเพดาน L shape

โครงการให้ตู้เย็น built-in ที่ฝาหน้าเข้ากับชุดครัว เชื่อมกับเคาท์เตอร์ยาว ที่แบ่งพื้นที่อ่างล้างจาน เตรียมอาหาร และเตาไฟฟ้าฝังเคาท์เตอร์

ส่วนด้านบนเป็นที่ดูดควันฝังไปกับตู้เก็บของใช้ในครัว

และที่ด้านล่างเป็นลิ้นชักเก็บอุปกรณ์ทำครัว พร้อมเจาะช่องสำหรับไมโครเวฟ

ปลายสุดเคาท์เตอร์ครัว ยื่นกลับออกมาเป็นโต๊ะทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่ง โอบล้อม เป็นพื้นที่ครัวตัว U

ตรงข้ามครัว เป็นตู้เก็บของและตู้รองเท้า built-in ที่ออกแบบมาพร้อมชั้นเก็บรองเท้าแบบเลื่อนเข้าออกได้

ปลายสุดของห้อง เป็นพื้นที่ติดหน้าต่างบานใหญ่ เปิดโล่งรับพื้นที่นั่งเล่น มุมใช้งาน ดูทีวีเข้ามุม ที่กว้างพอให้วางชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลางสำหรับ 2-3 ที่นั่ง

ด้านหลังโซฟา มีพื้นที่ติดริมหน้าต่างออกระเบียง ที่กว้างพอให้จัดเป็นมุมทำงาน ริมหน้าต่างได้

ที่มุมห้องเป็นประตูเปิดสู่ระเบียง ที่สามารถเข้าออกได้ทั้งจากห้อง living ทั้ง 2  ด้าน

ตรงข้ามกับมุมวางโต๊ะทำงาน เป็นห้องสำหรับตั้งเครื่องซักผ้า และเก็บผ้า พร้อมอุปกรณ์ซักล้าง

สุดทางเดินห้อง living เป็นทางเข้าห้องนอน

ภายในห้องนอนแบ่งพื้นที่เป็น 2 โซน ซ้ายขวา ด้านขวาของทางเข้าเป็น walk-in closet และห้องน้ำ

ด้านหน้าทางเข้าห้องน้ำเป็นมุมแต่งตัวที่ built-in ตู้เสื้อผ้าให้ 2 ตู้ และมีโต๊ะเครื่องแป้งที่ปลายสุดของห้อง

ตรงข้ามเป็นห้องน้ำ ภายในแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนแห้งติดประตูทางเข้า 

โครงการให้อ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์ พร้อมที่เก็บของด้านล่าง built-in ยาวเชื่อมเป็นที่วางของด้านหลังโถสุขภัณฑ์ ที่เป็น auto washlet ที่ด้านซ้ายของทางเข้า

ส่วนด้านขวาเป็นอ่างอาบน้ำที่มาพร้อมกระจกเข้ามุม แบบ Smart Glass ที่สามารถกดสวิตซ์เพื่อปรับระดับความทึบเมื่อใช้งาน

ด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียกกั้นด้วย Glass shower บานเปิด ที่โครงการให้ทั้ง rain shower และ hand shower ผนังหินแท้ โทนสีดำเต็ม1ผนัง

ด้านซ้ายของทางเข้าห้องนอนเป็นที่ตั้งเตียง

สามารถตั้งเตียง King size ได้ และยังมีพื้นที่รอบเตียงเหลือให้ใช้งาน

ปลายเตียงยังมีพื้นที่มากพอให้ตั้งชั้นวางทีวีเข้ามุม

ส่วนที่ระเบียงเป็นราวกันตกกระจก ที่เปิดเชื่อมมุมมองแบบไร้สิ่งกีดขวาง และพื้นที่ตั้งคอมฯแอร์ ก็มีบานเกล็ดเป็นประตูกั้น แยกพื้นที่ใช้งานอย่างชัดเจน

ห้องนี้เหมาะสำหรับ 1-2 คน ที่ชอบพื้นที่ living ขนาดใหญ่ ครัวใหญ่ และมีพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วน

ห้องสุดท้าย 2 bedroom Type C 5 77.80 Sq.m. ห้องหน้ากว้าง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ

แบ่งพื้นที่เป็นพื้นที่ living area ที่กลางห้อง และมีห้องนอนเล็กที่ด้านซ้าย ห้องนอนใหญ่ที่ด้านขวาของห้อง

เปิดเข้าไปจะเจอพื้นที่ living area ที่มีตู้เก็บของ และพื้นที่ครัว built-in อยู่ด้านหน้าติดทางเข้าประตูด้านขวามือ

Built-in ชุดแรกเป็นตู้เก็บของและตู้รองเท้า ที่ออกแบบมาพร้อมชั้นเก็บรองเท้าแบบเลื่อนเข้าออกได้

และที่ตั้งเครื่องซักผ้าฝาหน้า พร้อมที่เก็บผ้า

ถัดไปเป็นชุดครัว Built-in สูงจากพื้นจรดเพดานยาวเต็มผนัง โครงการให้ตู้เย็น built-in ฝาคู่ ที่ฝาหน้าเข้ากับชุดครัว เชื่อมกับเคาท์เตอร์ยาว ที่แบ่งพื้นที่ เตรียมอาหาร และเตาไฟฟ้าฝังเคาท์เตอร์

ส่วนด้านบนเป็นที่ดูดควันฝังไปกับตู้เก็บของใช้ในครัว และที่ด้านล่างเป็นลิ้นชักเก็บอุปกรณ์ทำครัว พร้อมเจาะช่องสำหรับไมโครเวฟ

ตรงข้ามเคาท์เตอร์ครัวเป็น island หินอ่อนสีขาวตัวยาวทอดตัวขนานกับชุดครัว

แบ่งพื้นที่เป็นส่วนเตรียมอาหาร และอ่างล้างจาน

ด้านล่างเป็นตู้เก็บอุปกรณ์ทำครัว พร้อมลิ้นชักเก็บอุปกรณ์แบบแยกการใช้งาน

ถัดจากครัวที่สุดผนังกระจกบานใหญ่ เป็นพื้นที่ติดริมหน้าต่าง ที่สามารถแบ่งการใช้งานได้เป็น มุมโต๊ะอาหาร สำหรับ 4 ที่นั่ง

และใกล้กัน เป็นพื้นที่ตั้งชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลาง สำหรับ 3 ที่นั่ง

พร้อมมุมวางทีวีชิดริมผนังทางเข้าห้องนอนใหญ่

ด้านซ้ายของยูนิต เป็นห้องนอนเล็ก ภายในห้องนอนแบ่งพื้นที่เป็น 2 โซน ซ้ายขวา ด้านซ้ายเป็นห้องน้ำ ที่เป็น double access เข้าได้ทั้งจากห้องนอนเล็ก และห้อง living

ภายในห้องน้ำแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนแห้งติดประตูทางเข้า

โครงการให้อ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์ พร้อมที่เก็บของด้านล่าง built-in ยาวเชื่อมเป็นที่วางของด้านหลังโถสุขภัณฑ์ ที่เป็น auto washlet ที่ด้านหน้าติดทางเข้า

ด้านในสุดเป็นพื้นที่ส่วนเปียกกั้นด้วย Glass shower บานเปิด ที่โครงการให้ทั้ง rain shower และ hand shower

ด้านขวาของทางเข้าห้องนอนเล็กเป็นที่ตั้งตู้เสื้อผ้าติดทางเข้าห้องน้ำ ยาวเต็มผนัง พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งที่หัวเตียง

ริมหน้าต่างบานใหญ่ สามารถตั้งเตียง queen size ได้ และยังมีพื้นที่รอบเตียงเหลือให้ใช้งานและตั้งโต๊ะหัวเตียง

ที่ผนังปลายเตียง สามารถติดทีวีติดผนัง ไว้นอนดูทีวี และชมวิวด้านนอกได้

สุดทางเดินด้านขวาของยูนิตเป็นห้องนอนใหญ่

ภายในห้องนอนแบ่งพื้นที่เป็น 2 โซน ซ้ายขวา ด้านขวาของทางเข้าเป็น walk-in closet และห้องน้ำ

ด้านหน้าทางเข้าห้องน้ำเป็นมุมแต่งตัวที่ built-in ตู้เสื้อผ้าให้เข้ามุมเต็มแนวผนัง

ตรงข้ามเป็นห้องน้ำ ภายในแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนแห้งติดประตูทางเข้า

โครงการให้อ่างล้างหน้าฝังเคาท์เตอร์ พร้อมที่เก็บของด้านล่าง built-in ยาวเชื่อมเป็นที่วางของด้านหลังโถสุขภัณฑ์ ที่เป็น auto washlet ที่ด้านขวาของทางเข้า

ด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียกกั้นด้วย Glass shower บานเปิด ที่โครงการให้ทั้ง rain shower และ hand shower ผนังหินแท้ โทนสีดำเต็ม1ผนัง

ส่วนด้านซ้ายเป็นอ่างอาบน้ำที่มาพร้อมกระจกเข้ามุม ที่เป็นแบบ Smart Glass ระดับความทึบเมื่อใช้งาน

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ ติดกระจกบานใหญ่ พร้อมบานเปิดระบายอากาศ และเชื่อมวิวด้านนอก

ด้านซ้ายของทางเข้าห้องนอนเป็นที่ตั้งเตียง

สามารถตั้งเตียง King size ได้ และยังมีพื้นที่รอบเตียงเหลือให้ใช้งาน

ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ตั้งโต๊ะหัวเตียงทั้งสองด้าน

หรือที่ปลายเตียงยังมีพื้นที่มากพอให้ตั้งชั้นวางทีวี หรือโต๊ะทำงาน ตัวยาวติดริมหน้าต่างได้อีกด้วย

ห้องนี้เหมาะสำหรับครอบครัว 3-4 คน หรือคนที่กำลังสร้างครอบครัว เพราะมีห้องให้แยกใช้งาน และพื้นที่ส่วนกลางอย่าง living area ที่กว้างพอสำหรับทุกคนในครอบครัว

Hyde Heritage Thonglor: Super Luxury Condo ที่มีแต้มต่อในเรื่องราคา และทำเลติดถนนใหญ่

ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ย่านทองหล่อนับว่าเป็นย่านที่มีการพัฒนาโครงการอสังหาฯใหม่ๆค่อนข้างมาก และมากพอที่จะทำให้อาณาบริเวณ รวมถึงแหล่งไลฟ์สไตล์เกิดใหม่ของทองหล่อได้ถูกขยายต่อเติมไปยังบริเวณใกล้เคียง จากเดิมที่มีพื้นที่อยู่เพียงแค่ซอยสุขุมวิท 55 ก็แผ่ขยายไปทุกทิศทาง ทั้งบริเวณฝั่งตรงข้ามอย่างซอย 36-38-34 หรือฝั่งเดียวกันอย่างซอย 57-59-61 ต่อเนื่องไปยังเอกมัย ด้วยเหตุผลที่ทองหล่อเป็นย่านไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับไฮเอนด์ที่เป็นที่รู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยวทั่วโลก เป็นย่านที่เชื่อมต่อไปยังแหล่งงานและแหล่งแฮงค์เอ้าท์อื่นๆอย่างพระรามสี่ เพชรบุรีตัดใหม่ และเอกมัยได้ง่าย อีกทั้งยังเป็นย่านยอดนิยมในการพักอาศัยของชาว Expat ที่มีกำลังซื้อสูงของกรุงเทพฯ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น จึงทำให้ดีเวลลอปเปอร์ทุกรายล้วนแต่เบนเข็มเข้ามาพัฒนาสารพัดโครงการที่ย่านทองหล่อ ชนิดที่ว่าหากดีเวลลอปเปอร์รายไหนอยากสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างได้ง่ายๆ ก็ต้องมาเลือกเปิดโครงการที่ทองหล่อ โครงการอสังหาใหม่ๆอย่าง Shopping Mall, Community Mall, ร้านอาหาร ผับ บาร์, โรงแรม, อพาร์ทเมนท์ และคอนโดล้วนแต่ถูกพัฒนาขึ้นมาไม่เว้นแต่ละเดือนเพื่อให้สอดรับกับดีมานท์ของคนที่อยากเข้าเป็นส่วนหนึ่งของทองหล่อให้มากยิ่งขึ้น ชนิดที่คนไทยหลายๆคนบอกว่าย่านทองหล่อนั้นได้กลายเป็น Residential Area ของกลุ่มชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อมหาศาลไปแล้ว เนื่องจากคอนโดที่สร้างใหม่ก็จะวาง Positioning ให้สอดรับกับราคาที่ดินที่แพง จนต้องทำราคาขายที่มากกว่าตารางเมตรละ 3 แสนบาท…แต่ไม่ว่าอาณาเขตของทองหล่อจะขยับขยายไปทางไหน แต่ละย่านของทองหล่อก็ล้วนแต่มีเอกลักษณ์ในเชิงบริบทของทำเลที่แตกต่างกันไป

สำหรับย่านทองหล่อช่วงปากซอย 55-59 นั้น ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยมีการพัฒนาคอนโดใหม่ๆเกิดขึ้น ถ้าเทียบกับช่วงซอย 36-38  หรือภายในซอย 55 เพราะดีเวลอปเปอร์ส่วนใหญ่มองว่า Heart of Thonglor ก็ต้องอยู่กลางซอยทองหล่อ ไม่ใช่อยู่ริมถนน และหากเลยช่วงซอย 57 ไปแล้ว ก็ดูจะเป็นในช่วงเอกมัยมากกว่าทองหล่อ แต่ในความเป็นจริงแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ Heart of Thonglor ในตอนนี้กลับกลายเป็นศูนย์รวมของคอนโดเกิดใหม่มากกว่า 10 โครงการ ซึ่งก็แน่นอนว่าโครงการเหล่านั้น ได้เปลี่ยนบริบทของไลฟ์สไตล์ทองหล่อแบบเดิมๆให้กลายเป็นโครงการที่พักอาศัย ในทางกลับกันต้องบอกว่าปัจจัยสำคัญที่ช่วงเสริมพื้นฐานทำเลทองหล่อให้แน่นปึ๊กยิ่งกว่าเดิมก็คือ การพัฒนาโครงการอาคารสำนักงานระดับ Grade A ขนาดใหญ่แห่งแรกในย่านทองหล่อ อย่างอาคาร T-One ที่มาพร้อมกับทางยกระดับ Skywalk เชื่อมตรงจาก BTS ทองหล่อ สู่ตัวอาคาร สำหรับผมแล้วอาคาร T-One มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการเพิ่มความสมดุลของย่านทองหล่อ ให้มีความเป็น Work-Live-Play มากขึ้น จนโลกของการทำงานและพักผ่อนเชื่อมกันได้อย่างไร้รอยต่อ ความเป็น Business Cluster จะทยอยเกิดขึ้นมาในบริเวณนี้ เช่นเดียวกับ Demand ในการพักอาศัยจากกลุ่มคนที่ต้องเดินทางเข้ามาทำงานในย่านนี้ ซึ่งก็เชื่อว่าดีเวลลอปเปอร์หลายๆรายก็คงจะเล็งเห็นถึงศักยภาพ เราจึงได้มีโอกาสเห็นการพัฒนาโครงการ Service Apartment ชั้นนำอย่าง Ascott, โรงแรมหรูพร้อมพื้นที่ Mixed Use อย่าง One59 ที่มาปักหมุดเตรียมรับลูกค้ากันแล้วในช่วงตั้งแต่ซอย 57-61…เมื่อเป็นแบบนี้เห็นทีว่า The New Heart of Thonglor ก็คงจะเป็นในย่านนี้มากกว่าช่วงทองหล่อตอนกลาง ที่เชื่อมออกทางเอกมัยได้ล่ะครับ

Hyde Heritage Thonglor นอกจากจะอยู่ในบริเวณที่มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงมากที่สุดของทองหล่อแล้ว ยังเป็นคอนโดสูงแห่งใหม่เพียงโครงการเดียวในช่วงนี้ จึงนับได้ว่าพกพาความได้เปรียบของ Exposure และ Accessibility ที่มากกว่าอีกหลายโครงการที่กำลังจะเปิดตัวอยู่พอสมควร และหากนับเฉพาะโครงการคอนโดที่ติดถนนใหญ่สุขุมวิททั้ง 2 ฝั่งในรัศมีของ BTS ทองหล่อ ก็จะพบว่า Hyde Heritage คือ 1 ใน 3 โครงการคอนโดที่อยู่ติดถนนใหญ่ในตอนนี้ ไล่เรียงมาจาก BEATNIQ, The Esse Sukhumvit 36 ทั้งนี้ยังไม่ได้รวมโครงการในอนาคตอย่าง Scope Thonglor ซึ่งหากจะรวมไปด้วยก็ต้องบอกว่านี่คือคอนโดเปิดใหม่ที่ให้แต้มต่อในเรื่องของราคาได้มากที่สุด กล่าวคือคอนโดอื่นๆมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ตรม.ละสามแสนกว่าบาท แต่ Hyde Heritage Thonglor ที่เพิ่งเริ่มเปิดตัว กลับมีราคาเริ่มต้นที่ถูกมากเพียงตรม.ละ 250,000 บาท และราคาเฉลี่ยประมาณตรม.ละไม่ถึงสามแสนบาท แค่เปิดตัวก็มีราคาต่ำกว่าตลาดคอนโดในเซกเมนท์เดียวกันแล้ว และหากเมื่อโครงการสร้างเสร็จในอีกสองปีข้างหน้า เมื่อ Supply ในส่วนของอาคารสำนักงาน และเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ พร้อมเต็มที่ ราคาจะดีดตัวไปอีกเท่าไหร่ก็ไม่มีใครรู้ ข้อสังเกตอีกอย่างนึงก็คือถึงแม้ว่าจะเป็นโครงการร่วมทุนกับทาง Sumitomo Forestry แต่โครงการก็ไม่ได้มีการอัพราคาให้สูงกว่ามาตรฐานปกติเหมือนอย่างที่โครงการร่วมทุนอื่นๆนิยมทำกันเลย

Hyde Heritage Thonglor ยังมีความแตกต่างทั้งในเชิงดีไซน์ ขนาดเลย์เอ้าท์ห้อง และพื้นที่ส่วนกลาง ที่ไม่เหมือนคอนโดอื่นใดในย่านนี้ (อาจรวมถึงย่านเอกมัยด้วยก็ได้) ไม่ว่าจะเป็นการนำสถาปัตยกรรมสไตล์ Art Deco มาผสมผสานกับความทันสมัยของ Façade อาคารส่วนพักอาศัยที่เป็นกระจก Full Height จนทำให้ตัวอาคารมีจุดสนใจไม่แพ้อาคารใกล้เคียงอย่าง T-One หรือการออกแบบยูนิตเลย์เอาท์ที่มีขนาดเริ่มต้นที่ไม่ใหญ่เลยคือ 40 ตรม. แต่ยังได้องค์ประกอบของความเป็น Super Luxury Condo ครบทั้ง โถงทางเดินแบบ Single Loaded Corridor พร้อมช่อง Atrium ขนาดใหญ่ จำนวนที่จอดรถที่เต็ม 100% พร้อมพื้นที่เก็บของส่วนตัวในบริเวณส่วนกลางสำหรับทุกห้อง เพดานสูง 3 เมตร วัสดุอุปกรณ์ Fully Fitted แบรนด์ดังมากันครบทั้งครัว และห้องน้ำ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ส่วนกลาง 3 ระดับไล่จากชั้น 1 ชั้น 7 จนไปที่ชั้น 40-41 ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำแบบเต็ม Floor ว่ายรอบได้ 360 องศา พร้อมฟิตเนสที่ลอยอยู่เหนือสระ ที่ควบคุมอุณหภูมิไม่ให้เย็นเกินไปด้วยระบบ Heat Exchange จากคอยล์ร้อนของเครื่องปรับอากาศ นับว่าเป็นสระว่ายน้ำที่หรูที่สุด ใหญ่ที่สุด และสูงที่สุดในย่านทองหล่อ!

ซึ่งบริษัท Grande Asset เอง ก็มีสิ่งหนึ่งที่ได้เปรียบกว่าดีเวลลอปเปอร์รายอื่นๆครับ นั่นก็คือการบริการในแบบโรงแรม เนื่องจากเป็นดีเวลอปเปอร์ที่มีพื้นฐานมาจากธุรกิจ Hospitality ดังนั้นการสร้าง Ambience Atmosphere รวมถึงรูปแบบการให้บริการของแม่บ้าน และจนท.บริหารจัดการ ก็ล้วนแต่มีการควบคุมให้อยู่ภายใต้มาตรฐานเกรดเดียวกับการเข้าพักที่โรงแรมด้วยเช่นเดียวกัน ที่นี่จึงน่าจะเนรมิตทุกวันของคุณให้เป็นวันพักผ่อน ใจกลางเมืองได้อย่างลงตัวทุกตารางนิ้ว

นี่คือสิ่งที่ผมได้มีโอกาสเห็นได้ด้วยตัวเองที่โครงการอย่าง Hyde Sukhumvit 11 และ Hyde Sukhumvit 13 ครับ ซึ่งบริการหลังการขายที่เข้าใจผู้อยู่อาศัยแบบนี้ก็มีส่วนสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มที่ดีในระยะยาวให้กับตัวอาคาร ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยเช่า หรือการดูแลรักษาอาคาร เพื่อให้อาคารมีมูลค่าที่สูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านพ้นไปครับ

Hyde Heritage Thonglor เปิดให้จับจองเป็นเจ้าของแล้ว ในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดของ Super Luxury Condo ทำเลทองหล่อติดถนนใหญ่ โดยห้องที่ถูกที่สุดจะขายราคาประมาณตารางเมตรละ 258,000 บาท

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/2Xy6oAB