Baan Nawat Ramkhamhaeng 118

  

บ้านนวัต รามคำแหง 118


PREMIER ASSETS (พรีเมียร์ แอสเสท) ผู้นำแนวคิดนวัตกรรมการพักอาศัยอย่างยั่งยืน ที่เปิดตัวบ้านนวัตกรรมไปที่พระราม 9 กับ บ้านนวัต พระราม 9 และบ้านนวัตรามคำแหง 21 และมีพื้นที่ผืนไม่เล็กไม่ใหญ่ บนทำเลรามคำแหง 118 จึงต่อยอดและพัฒนาโครงการ บ้านนวัต รามคำแหง 118 ขึ้น บนแนวคิดบ้านนวัตกรรม ที่มุ่งหวังในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า แต่ยังคงให้ความสะดวกสบายกับทุกคนในครอบครัวได้อย่างลงตัว รวมทั้งการออกแบบสถาปัตยกรรม ที่เหมาะกับสภาพภูมิอากาศ

เกริก บุณยโยธิน เมื่อ 24 August, 2018 เวลา 00.00 am

Prop score™: 4.0

คะแนนรีวิว: 0.0

0 รีวิว


ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา



    ข้อมูลโครงการ

ชื่อโครงการ

บ้านนวัต รามคำแหง 118

บริษัทผู้สร้าง

บริษัท พรีเมียร์ แอสเซ็ทส์ จำกัด

สถานที่

รามคำแหง 118

สถานีรถไฟ BTS

-

สถานีรถไฟใต้ดิน

สัมมากร Distance 2,200 m.

Airport Rail Link

-

สถานี BRT

-

พื้นที่

8-0-40.7 ไร่

ชั้น

3 ชั้น

ยูนิต

Type A : 5 ยูนิต, Type B : 5 ยูนิต, Type C : 13 ยูนิต รวมเป็น 23 ยูนิต บนขนาดที่ดินตั้งแต่ 72.8 - 166.4 ตารางวาต่อหลัง)

ที่จอดรถ

Type A : 4 คัน, Type B : 3 คัน, Type C : 3 คัน

ลิฟท์

1 ตัว เฉพาะ Type A และ B

สิ่งอำนวยความสดวก

•ระบบ CCTV ภายในโครงการ • รั้วรอบโครงการสูง 3 ม. • Infrared Remote Access Control • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง • ถนนหลักกว้าง 6 ม.


    ประเภทยูนิต

ประเภท

บ้านเดี่ยว/บ้านเดี่ยว LUXURY CLASS

studio

-

1 bedroom

-

2 bedroom

-

3 bedroom

-

Duplex

-

Penthouse

-

ประเภทอื่นๆ

Type A 120.8-166.4 ตารางวา (พท.ใช้สอย 557 ตรม.), Type B 97.5-119.8 ตารางวา (พท.ใช้สอย 576 ตรม.) , Type C 72.8-110.9 ตารางวา (พท.ใช้สอย 363 ตรม.)

ความสูงจากพื้นถึงเพดาน

3 เมตร

ราคาเริ่มต้น / ตรม.

79,889

ราคาเริ่มต้น / ยูนิต

29 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง

เดือนละ 10,000 บาทต่อหลัง

Sinking Fund fee

n/a

สร้างเสร็จ

2021

เว็บไซต์

http://www.premierassets.co.th/th/baannawat/ramkhamhaeng-118

02-301-2888


เพื่อนบ้าน Street View


พบซีรีย์ใหม่ของบ้านนวัต รามคำแหง118 บ้านเดี่ยวประหยัดพลังงานหลังใหญ่ พร้อมสระว่ายน้ำลอยฟ้าส่วนตัว เพื่อการอยู่อาศัยที่ยั่งยืนสำหรับทุก Generations

 

ย่านรามคำแหงคือ ย่านส่วนต่อขยายของเมือง และจุดเชื่อมต่อการเดินทางที่สำคัญของกรุงเทพฯ ที่มีผู้อยู่อาศัยหนาแน่น จนมี developer ให้ความสนใจในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมาเป็นเวลานับสิบปี ซึ่งหากพูดถึงย่านรามคำแหง มีจุดตัดที่สำคัญอยู่ 3 จุด อันมีลักษณะทางกายภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกที่แตกต่างกันไป อย่าง บริเวณตั้งสี่แยกคลองตัน จนถึงบริเวณแยกลำสาลี ที่อาจเรียกว่ารามคำแหงตอนต้น พื้นที่ที่รวมเอาแหล่งงาน แหล่งการศึกษา Hub ของการคมนาคมทั้งทางบกและทางเรือ เชื่อมสู่ย่านใจกลางเมือง จึงนับว่าเป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์และเพียบพร้อม ไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์มากมาย ต่อเนื่องจากรามคำแหงตอนต้น คือรามคำแหงตอนกลาง ช่วงรอบต่อพื้นที่แยกลำสาลี ไปจนถึงจุดตัดกับถนนเลียบกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันออก เป็นย่านที่มีความหลากหลายในด้านการเดินทางด้วยรถ มากที่สุด บนถนนรามคำแหง เพราะสามารถเชื่อมสู่ถนนสายหลักอื่นๆของเมือง อย่างถนนลาดพร้าว ถนนนวมินทร์ ถนนกรุงเทพกรีฑาฯ ถนนกาญจนาภิเษกด้านตะวันออก ทางด่วนพระราม 9-ศรีนครินทร์ และมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ชลบุรี ทำให้เป็นทำเลที่สะดวกในการเดินทางโดยรถยนต์ไปยังพื้นที่ต่างๆโดยรอบได้โดยง่าย และย่านสุดท้ายคือ บริเวณถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันออก ไปจนถึงถนนสุวินทวงศ์ หรือ ย่านรามคำแหง ตอนปลาย ทำเลของย่านที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และค่อนข้างได้รับการตอบรับอย่างดี เพราะทำเลที่ตั้งสามารถเชื่อมต่อกับเส้นทางอื่นๆ ได้สะดวกทั้ง ถนนรามคำแหง ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันออก ถนนศรีนครินทร์ ถนนพระราม 9 มอเตอร์เวย์และเส้นทางรถไฟ ARL

 

นอกจากนี้ในอนาคตอันใกล้ยังมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี) มาเปิดให้บริการ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางให้กับคนในย่านนี้

 

คลิกเพื่ออ่าน >> เปิด…ผังตำแหน่งสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้ม

 

รวมทั้งพื้นที่ย่านรามคำแหงที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยดั้งเดิม ทำให้โดยรอบมีโครงการ ห้าง ร้าน ที่พัฒนาเพื่อตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยในย่านอย่างหลากหลาย อาทิ Community Mall ชั้นนำอย่าง The Paseo Mall ลาดกระบัง และ The Paseo Town รามคำแหง ศูนย์การค้าสัมมากร รวมทั้งร้านค้าร้านอาหารที่กระจายอยู่ทั่วทั้งพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีทั้งโรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล หลายสังกัดให้ได้เลือกใช้บริการ ย่านรามคำแหงจึงเรียกว่าเป็นย่านชุมชนที่พักอาศัยที่มี facilities ครบสมบูรณ์ มีทางเลือกในการเดินทาง รวมทั้งยังมีศักยภาพในการขยายตัว และเพิ่มมูลค่าให้กับพื้นที่ได้อีกในอนาคตอันใกล้

 

และหากพิจารณาแนวโน้มของตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบทั้งของรัฐและเอกชนในช่วง 10 ปีในทำเลนี้ ก็ดูน่าสนใจมาก เพราะมีโครงการบ้านจัดสรรเปิดขายและปิดการขายไปได้หลายสิบโครงการ รวมทั้งยังคงมีโครงการบ้านจัดสรรเปิดขายใหม่อยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการที่มีขนาดเกิน 100 ไร่ ก็มักเลือกทำเลละแวกนี้ในการเปิดโครงการเป็นเมืองขนาดย่อมๆ นั่นแสดงว่ายังคงมีความต้องการในด้านที่อยู่อาศัยอยู่สม่ำเสมอนั่นเอง หมู่บ้านที่หากเอ่ยนามแล้วหลายคนน่าจะนึกภาพออกในย่านนี้ อาทิเช่น หมู่บ้านสัมมากร ที่นอกจากเป็นที่พักอาศัยแล้ว ยังมีตลาด ร้านค้า ร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน โรงเรียน ฯลฯ ที่รองรับคนในหมู่บ้านและคนในย่านนี้ หรือหมู่บ้านพฤกษชาติ ของ LH ที่มีพื้นที่อาณาบริเวณกว้างกินพื้นที่ทั้งสองฝั่งของซอยรามคำแหง 118 ทำให้หลายคนเรียกซอบรามคำแหง 118 เป็นซอยหมู่บ้านพฤกษชาติ หรือซอยสำนักงานเขตสะพานสูงไปแล้ว

เมื่อพูดถึงซอยรามคำแหง 118 ตัวลำเลที่ตั้งของซอย ก็จะมีความเป็น Middle of 2 World คือเป็นได้ทั้งย่านรามคำแหงและเป็นได้ทั้งย่านกรุงเทพกรีฑา รวมทั้งอาจเคลมได้ว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่ซอยบนรามคำแหงตอนปลาย ที่เดินทางได้สะดวก ทั้งจาก รถไฟฟ้าสายสีส้ม (อนาคต) ที่พาดผ่านตลอดถนนรามคำแหง มีสถานีสัมมากรบริเวณปากซอยรามคำแหง 114 ที่ใกล้ที่สุด รวมทั้งการเดินทางโดยรถยนต์ที่สามารถใช้ซอยรามคำแหง 118 ที่สามารถเข้าออกได้ 2 เส้นทาง คือ ออกสู่ถนนรามคำแหง และอีกทางคือไปกาญจนาภิเษกวงแหวนรอบนอก รวมทั้งถนนตัดใหม่ศรีนครินทร์ร่มเกล้า ซึ่งต่างจากซอยรามคำแหงอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นทางเข้าออกหมู่บ้าน ที่มีทางเข้าออกเดียวบนถนนรามคำแหง ไม่สามารถทะลุสู่กาญจนาภิเษกวงแหวนรอบนอก หรือถนนตัดใหม่ศรีนครินทร์ร่มเกล้าได้ ทำให้ซอยรามคำแหง 118 เป็นอีก 1 ทำเลที่มีความได้เปรียบกว่าซอยอื่นๆในย่านรามคำแหงตอนปลาย

ซึ่งภายในซอยรามคำแหง 118 เป็นซอยที่มีขนาดใหญ่ สองฝั่งถนนเป็นหมู่บ้านเก่าที่มีความร่มรื่น รวมทั้งยังมีร้านค้ากระจายอยู่ตลอดสองข้างทาง

และมี magnet ที่สำคัญอย่าง สำนักงานเขตสะพานสูง ที่มีอาณาบริเวณค่อนข้างใหญ่ ตั้งแต่ตัวพื้นที่ทำการ ที่นอกจากมีส่วนอาคารสำนักงาน ยังมีพื้นที่อาคารศูนย์ฝึกอาชีพ โรงเรียน สาธารณะสุข และโรงยิมในพื้นที่ให้บริการอีกด้วย สอดคล้องกับประชากรของเขตที่มีกว่า 95,537 คน และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ (จากสถิติประชากรทะเบียนราษฎร์ ที่มีมากขึ้นทุกปี ที่มา : http://www.bangkok.go.th/saphan นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนนานาชาติ Ascot ตั้งอยู่ในบริเวณกลางซอย และมีหมู่บ้าน บ้านเดี่ยว ที่มีการพัฒนาสองฝั่งถนน ทำให้ในซอยรามคำแหง 118 ไม่มีพื้นที่ขนาดใหญ่พอที่จะพัฒนาเป็นโครงการบ้านจัดสรรได้ รวมทั้งที่ดินมีราคาค่อนข้างแพง ถ้าเทียบกับที่ดินบนถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ที่มีที่ดินโล่ง ทำให้ developer เลือกพัฒนาบนพื้นที่ถนนเส้นใหม่มากกว่า แต่ข้อเสียก็คือต้องคาดเดาความเจริญ หรือการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่รอบข้าง หากเทียบกับย่านรามคำแหง 118 ที่เจริญและมีการพัฒนาอยู่แล้ว ไม่ต้องคาดเดาความเจริญ หรือการพัฒนาในอนาคต

 

PREMIER ASSETS (พรีเมียร์ แอสเสท) ผู้นำแนวคิดนวัตกรรมการพักอาศัยอย่างยั่งยืน ที่เปิดตัวบ้านนวัตกรรมไปที่พระราม 9 กับ บ้านนวัต พระราม 9 และบ้านนวัตรามคำแหง 21 และมีพื้นที่ผืนไม่เล็กไม่ใหญ่ บนทำเลรามคำแหง 118 จึงต่อยอดและพัฒนาโครงการ บ้านนวัต รามคำแหง 118 ขึ้น บนแนวคิดบ้านนวัตกรรม ที่มุ่งหวังในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า แต่ยังคงให้ความสะดวกสบายกับทุกคนในครอบครัวได้อย่างลงตัว รวมทั้งการออกแบบสถาปัตยกรรม ที่เหมาะกับสภาพภูมิอากาศ ตัวบ้านทุกหลังวางในแนวที่ถูกต้องกับทิศแดดและลม เพื่อรับลมจากแนวทิศใต้ และ รับแสงธรรมชาติ ให้มากที่สุดกับแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาทุกหลัง ที่นำไปแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าไว้ใช้ในบ้าน เพื่อให้บ้านเย็น มีระบบ recycle พลังงานจากแอร์มาผลิตน้ำร้อนโดยไม่พึ่งพาพลังงานไฟฟ้า ซึ่งระบบแอร์ทั้งหมดของตัวบ้านเป็นแอร์ VRV พร้อมบำบัดน้ำทิ้ง มาเป็นน้ำดีสำหรับใช้รดน้ำต้นไม้ได้โดยรอบบ้าน เป็นแนวคิด ภูมิปัญญาที่นำมาผสานการออกแบบ และนวัตกรรมเพื่อรองรับการพักอาศัย

โดยครั้งนี้ที่รามคำแหง 118 เป็นซีรีย์ใหม่ของบ้านนวัต ที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากบ้านนวัตพระราม 9 หลายอย่าง เช่น ขนาดโครงการที่ใหญ่ขึ้น ขนาดบ้านที่ใหญ่กว้างขึ้น รวมทั้งการยกสระว่ายน้ำขึ้นมาบนชั้นสอง ที่ได้วิวสวย และ service ง่าย รวมทั้งทำให้ที่ชั้นล่างมีพื้นที่สวนมากขึ้น แต่ก็ยังคงคอนเซปท์บ้านอยู่สบายเอาไว้ทุกอย่าง

อย่างที่บอกว่า บ้านนวัต รามคำแหง 118 มากับโครงการที่ใหญ่ขึ้นจากบ้านนวัตพระราม9 ที่มีเพียง 8 หลัง ส่วนที่ บ้านนวัต รามคำแหง 118 มากับบ้าน 23 หลัง บนพื้นที่กว่า 8-0-40.7 ไร่ ติดถนนรามคำแหง 118

ล้อมรอบด้วยกำแพงทึบสูง 3 เมตร พร้อมรั้วไฟฟ้าสูง 0.5 เมตร เพื่อความปลอดภัยของทั้งโครงการฯ

ถนนภายในโครงการเชื่อมด้วยถนนหลักกว้าง 9 เมตร เชื่อมถนนย่อย 6 เมตร ระบบไฟฟ้าลงใต้ดิน

แบ่งออกเป็น 4 ซอย แต่ละซอยมีรูปแบบบ้านและขนาดพื้นที่ดินและขนาดพื้นที่อาคารที่แตกต่างกัน

โดย บ้านนวัต รามคำแหง 118 มีบ้านให้เลือกถึง 3 Type คือ

Type A มีพื้นที่ใช้สอย 557 ตรม. ขนาดที่ดินอยู่ที่ 120.8-166.4 ตารางวา

บ้าน 3 ชั้น หน้ากว้าง พร้อมลิฟท์ พื้นที่ใช้สอยภายในอาคารน้อยกว่า Type B แต่มีพื้นที่ด้านนอกอาคารมากกว่าทำให้สามารถจอดรถได้มากสุด 4 คัน และได้สระว่ายน้ำวางขนานกับหน้าบ้าน มีจำนวน 5 หลัง

 

Type B มีพื้นที่ใช้สอย 576 ตรม. ขนาดที่ดินอยู่ที่ 97.5-119.8 ตารางวา

บ้าน 3 ชั้น มีพื้นที่พักผ่อนกึ่ง outdoor พร้อมลิฟท์ จอดรถได้มากสุด 3 คัน มีจำนวน 5 หลัง

 

และ Type C มีพื้นที่ใช้สอย 363 ตรม. ขนาดที่ดินอยู่ที่ 72.8-110.9 ตารางวา

บ้าน 3 ชั้น ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ไม่มีลิฟท์ แต่สามารถติดเพิ่มได้เองในภายหลัง มีจำนวน 13 หลัง

 

อีกหนึ่งจุดเด่นที่แตกต่างจากโครงการบ้านจัดสรรทั่วไปก็คือ บ้านนวัตเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ปรับเปลี่ยนวัสดุตกแต่งพื้น ผนัง และงานตกแต่งภายในห้องน้ำตามความพอใจ รวมถึงอาจปรับเปลี่ยนการกั้นพื้นที่บางส่วนภายในบ้านเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานตามความต้องการของเจ้าของบ้าน ไม่ต้องมายุ่งยากทุบ ต่อเติมดัดแปลงหลังการส่งมอบ และยังไม่ทำให้บ้านบอบช้ำจากการต่อเติมอีกด้วย

 

ทุกหลังโครงการให้แอร์ VRV ที่สามารถควบคุมและสั่งการได้จากมือถือและแอพพลิเคชั่น

บ้านตัวอย่าง โครงการตกแต่ง Type B และ Type C มาให้ชมรูปแบบการใช้งานในแต่ละหลัง ดังนี้

Type B เป็นตำแหน่งบ้าน 11B อยู่ติดพื้นที่นิติบุคคล ซอยด้านในสุดของโครงการ

Type B เป็นบ้านหน้ากว้าง

โครงการให้ประตูอลูมิเนียมบานเลื่อน 3 ตอน เปิดปิดอัตโนมัติ ทั้งจากรีโมทคอลโทล และจากปุ่มควบคุมภายในบ้าน

มีระบบเซนเซอร์ทั้งภายในและภายนอกบ้าน เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน

ด้านซ้ายของประตูรั้วเป็นตู้ไฟฟ้า และมิเตอร์ไฟ ที่ติดตั้งไว้ภายในตู้ เป็นระเบียบ สวยงาม รวมทั้งมีช่องวางขยะ ที่เปิดปิดจากภายนอก เพื่อการจัดการโดยง่าย

ติดพื้นที่รั้วเป็นที่จอดรถที่โครงการฯลงเสาเข็มไว้ให้ตั้งแต่ขอบรั้วบ้าน โดยที่พื้นที่จอดรถ สามารถจอดได้ถึง 3 คัน

โดยที่ด้านในติดผนังบ้าน มีตู้สำหรับเก็บของ และด้านในมี ระบบ EV Charger รองรับ

ด้านซ้ายของบ้านมีบันไดเชื่อมสู่ชั้น 2 บริเวณสระว่ายน้ำ โดยมีประตูกั้น เพื่อความปลอดภัย แต่ก็สะดวกเมื่อมีแขกมาบ้าน จัดปาร์ตี้ ที่ริมสระน้ำ ก็สามารถขึ้นลงโดยไม่รบกวนภายในบ้าน

ส่วนด้านขวาของบ้าน มีพื้นที่สวนหย่อมขนาดย่อม ที่สามารถออกมาใช้งาน จัดสวน หรือทำเป็นพื้นที่ out door ไว้ทำกิจกรรมของครอบครัวได้

เมื่อเข้าสู่ตัวบ้าน พื้นที่ส่วนแรกเป็น living area กึ่ง out door ที่เป็นจุดเด่นของบ้าน Type นี้

ล้อมรอบด้วยกำแพงทึบ สร้างความส่วนตัว แต่ยังมีมุมผนังเปิดโล่ง เชื่อมกับสวนด้านหน้าบ้าน และอีกด้านเชื่อมสู่พื้นที่ living area ภายในบ้าน

ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้ สามารถเปิดเป็นกึ่ง out door สำหรับคนชอบมีพื้นที่เชื่อมต่อกับธรรมชาติ หรือสามารถกั้นเป็นห้อง indoor เพื่อเพิ่มห้องหรือขยายพื้นที่ living area ให้กว้างมากขึ้นกว่าเดิม

ภายในบ้าน แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ปีก ซ้ายขวา กับความสูงกว่า 3 เมตร ทุกชั้น ทุกห้องทั่วทั้งบ้าน

 

ปีกขวาสุด เป็นพื้นที่ living area ที่ออกแบบให้ยื่นเข้าไปบนพื้นที่สวน

ทำให้เมื่อใช้งาน เสมือนมีสวนและพื้นที่สีเขียวโอบล้อมอยู่ตลอดเวลา

เหมาะสำหรับเป็นพื้นที่พักผ่อน นั่งเล่น นอนดูหนัง และเป็นพื้นที่กลางสำหรับทุกคนในครอบครัว

รวมทั้งยังสามารถเป็นพื้นที่รับแขก หรือใช้เป็นพื้นที่คุยงานแบบส่วนตัวได้ เพราะ zoning ที่ถูกจัดวางเสมือนเป็นพื้นที่ส่วนตัวแยกจากพื้นที่ส่วนอื่นๆ

ติดห้องนั่งเล่น โซนด้านหลังบ้าน เป็นห้องนอนเล็ก สำหรับผู้สูงอายุ หรือรองรับแขก

ห้องนอนแรกเป็นห้องนอนโปร่ง เพราะขนาบข้างด้วยหน้าต่างกระจกบานสูงจรดเพดาน

พื้นที่ส่วนห้องนอนมีพื้นที่กว้างพอให้วางเตียงไซต์ใหญ่ พร้อมโต๊ะหัวเตียง และอาจมีมุมทำงาน หรือเก้าอี้นั่งพักได้แบบเหลือเฟือ

ปลายเตียง ติดประตูทางเข้า เป็นทางเข้าห้องน้ำ และสามารถทำเป็นมุมแต่งตัว ตั้งตู้เสื้อผ้าเข้ามุม

ที่ผนังติดกัน เป็นทางเข้าห้องน้ำ ที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อน พื้นระดับเดียวกับภายในห้อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุ

ห้องน้ำ โครงการแบ่งส่วนแห้งไว้ติดประตูทางเข้าที่ด้านขวา

เป็นตำแหน่งวางโถสุขภัณฑ์เข้ามุม

และมุมอ่างล้างหน้า พร้อมพื้นที่เหลือพอสำหรับกรณีที่ต้องใช้รถเข็น เข็นเข้าออก

ส่วนด้านซ้ายเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ที่โครงการให้ Hand shower

พร้อมประตูกระจกบานเลื่อน เชื่อมสู่ระเบียงสำหรับตากผ้า ระบายอากาศที่สุดผนังห้อง

ด้านหน้าห้องนอนเล็กที่ชั้น 1 เป็นลิฟท์

และบันไดขึ้นสู่ชั้น 2 และ 3 ที่โครงการให้บันไดไม้จริง ลูกนอนกว้าง พร้อมราวจับโปร่ง

ภายในลิฟท์เป็นลิฟท์บ้านสามารถจุคนได้ประมาณ 3-4 คน

พื้นที่ใต้บันได โครงการออกแบบเป็นห้องเก็บของใต้บันได

และห้องน้ำสำหรับชั้น 1 หรือสำหรับแขก

ภายในห้องน้ำเป็นเคาท์เตอร์ยาว สำหรับตั้งอ่างล้างหน้า ที่ด้านซ้ายของทางเข้า ด้านหน้าเคาท์เตอร์เป็นโถสุขภัณฑ์

ภายในห้องน้ำมีหน้าต่างระบายอากาศสู่ด้านหลังบ้าน

และห้องน้ำทุกห้องมีปุ่มฉุกเฉิน ไว้สำรองกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้น

จากห้องนั่งเล่นและห้องนอนเล็กที่ปีกขวาของบ้าน เชื่อมสู่ปีกซ้ายด้วยโถงทางเดินยาว ขนานพื้นที่นั่งเล่นกึ่ง outdoor ที่ด้านหน้าบ้าน

ส่วนปีกซ้ายของบ้าน เป็นพื้นที่ครัว

ติดทางเข้าและพื้นที่นั่งเล่นกึ่งoutdoorเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหาร ที่กว้างพอสำหรับ 6 ที่นั่ง

ที่ผนังด้านหลังโต๊ะทานอาหาร เป็นตู้ควบคุมที่รวบรวมงานระบบทั้งหมดของบ้านไว้ที่นี่ ถือว่าเป็นหัวใจของบ้านนวัตกรรมเลยทีเดียว

ซึ่งโครงการได้ติดตั้งทั้งระบบอินเทอร์เน็ตแบบ FIBER OPTIC ที่มาสามารถใช้งานได้ทุกเครือข่าย มีที่เก็บไฟฟ้าที่ได้มาจากแผงโซล่าร์เซลล์ 14 แผงบนหลังคา ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 3,500 W เพียงพอสำหรับการใช้งานตู้เย็น 1 เครื่อง เครื่องกรองน้ำสระว่ายน้ำ และแอร์1ตัว ซึ่งระบบไฟฟ้าจะเลือกใช้พลังงานไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์ก่อน ถ้าไม่พอระบบจึงจะตัดไปใช้ไฟฟ้าปกติ รวมทั้งติดตั้งอุปกรณ์รับสัญญาฯจานดาวเทียมทุกสัญญาณไว้หมดแล้ว แค่นำกล่องรับสัญญาณมาเชื่อมต่อหลังทีวีก็ใช้งานได้เลย

พื้นที่ทำครัวที่นี่ก็ออกแบบมาพร้อมทั้งพื้นที่ครัวฝรั่งและครัวไทย

ครัวฝรั่งโครงการตกแต่งชุดครัว built-in ทรง U shape

มีส่วนเคาท์เตอร์ทำครัว เตรียมอาหาร ชงกาแฟ ติดผนัง เชื่อมด้วยเคาท์เตอร์อ่างล้างจาน และเคาท์เตอร์สำหรับนั่งทานอาหาร

ที่ด้านบนและด้านล่างเตรียมตู้และลิ้นชักสำหรับเก็บอุปกรณ์ทำครัว

พร้อมเจาะช่องสำหรับวางตู้เย็น

ติดกันเป็นครัวไทย ที่กั้นเป็นห้องครัวปิด

ภายใน built-in ชุดครัวได้โดยรอบ มีช่องหน้าต่างระบายกาศ

มีทั้งเคาท์เตอร์วางเตาแก๊ส ที่โครงการคำนึงถึงความปลอดภัย โดยการนำถังแก๊สไปไว้ที่นอกบ้าน และเดินสายเข้าสู่ตัวบ้านเพื่อใช้งาน พร้อมระบบดูดควันภายในห้อง

และมาพร้อมกับตู้เก็บอุปกรณ์ทำครัวอย่างหลากหลาย จุใจ เรียกว่าใช้ประโยชน์ทุกมุมทุกส่วนอย่างคุ้มค่า และเป็นระเบียบ

มาถึงพื้นที่ชั้น 2  มีพื้นที่ 4 ส่วน คือ ห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ห้องนั่งเล่น และสระว่ายน้ำ

ห้องนอนทั้งสองห้องจัดวางอยู่ที่ปีกด้านขวา

ห้องแรกสุดทางเดินติดทางออกลิฟท์

ภายในห้องกว้างพอให้วางเตียงqueen size หรือจะเพิ่มขนาดเป็น king size พร้อมโต๊ะหัวเตียง ก็ยังมีพื้นที่รอบเตียงมากพอให้ใช้งาน

ที่หัวเตียงมีหน้าต่างบานสูงจากพื้นจรดเพดาน เปิดรับแสงและลมเข้าสุ่ภายในห้อง

ส่วนที่ด้านซ้ายของห้องเป็นมุมแต่งตัว ด้านหน้าห้องน้ำ และทางเข้าห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่ส่วนแห้งติดทางเข้า สามารถจัดวางเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าไว้ที่ผนังด้านขวา และโถสุขภัณฑ์ไว้ที่มุมห้องด้านซ้าย

ส่วนพื้นที่ส่วนเปียกกั้นด้วย shower box ภายในให้ hand shower เข้ามุม

ติดเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า เป็นประตูบานเปิดสำหรับเปิดระบายอากาศและเปิดสู่ระเบียงตากผ้า แบบมีระแนงกั้นมุมมองจากภายนอก

ส่วนห้องนอนอีกห้อง

ซ้ายมือติดทางเข้า เป็นห้องน้ำ ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่ส่วนแห้งติดทางเข้า มีเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าที่ผนังด้านขวา ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์

ส่วนพื้นที่ส่วนเปียกกั้นด้วย shower box ภายในให้ hand shower ที่ผนังทึบด้านใน

มีประตูบานเปิดสำหรับเปิดสู่ระเบียง สำหรับตากผ้า ระบายอากาศได้อีกด้วย

ด้านในสุดของห้อง เป็นส่วนพื้นที่พักผ่อน ที่มาพร้อมหน้าต่างบานสูง ทั้งซ้ายและขวาเหนือหัวเตียง

พื้นที่ตั้งเตียง สามารถตั้งเตียง Queen size ได้พอดีผนังทึบหัวเตียง

ห้องนี้มาพร้อมกระจกเข้ามุม ที่สามารถตกแต่งเป็น day bed เข้ามุม

หันสู่วิวสระน้ำด้านนอก

ที่ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือพอให้ตั้งโต๊ะทำงาน เป็นมุมคิดงาน เช็คเมล์ อ่านหนังสือก่อนนอนได้

พื้นที่อีกส่วนของชั้น 2 คือพื้นที่นั่งเล่น ที่เชื่อมกับสระว่ายน้ำ

พื้นที่นั่งเล่น กว้างพอ ให้วางชุดโซฟา สำหรับ 4 ที่นั่ง

พร้อมชั้นวางทีวีและวางของที่ผนังฝั่งตรงข้าม

มีห้องน้ำสำหรับห้องนั่งเล่น

ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่ส่วนแห้งติดทางเข้า มีเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าที่ผนังด้านซ้าย ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์

ถัดไปเป็นพื้นที่ส่วนเปียกกั้นด้วย shower box ภายในให้ hand shower ที่ผนังทึบด้านใน พร้อมหน้าต่างระบายอากาศ

ที่ห้องนั่งเล่น เปิดโล่งรับแสงและลมจากหน้าต่างบานใหญ่ยาวเต็มแนวผนัง

และเปิดรับลมจากประตูบานเลื่อนออกสู่สระว่ายน้ำ

ที่สระว่ายน้ำยาวประมาณ 12 เมตร ลึกประมาณ 1.2 เมตร

มีทั้งพื้นที่ในร่มและกลางแจ้ง

ล้อมรอบด้วยระเบียงทางเดิน ที่กว้างพอให้ตั้งโต๊ะสำหรับปาร์ตี้ริมสระ ในวันสำคัญของคนในครอบครัว

เชื่อมกับวิวสวนด้านล่าง และพื้นที่ถนนด้านหน้าโครงการ

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า ที่ชั้น 1 มีบันไดทางขึ้นเชื่อมสู่สระน้ำ กั้นด้วยประตูบานเปิด เพื่อความปลอดภัยเมื่อไม่ได้ใช้งาน

เรียกว่าไม่ว่าจะใช้งานในครอบครัว หรือรองรับแขกภายนอก ก็ได้ออกแบบรองรับความสะดวกสบายและปลอดภัยไปในตัว

ติดกับประตูขึ้นลง มีประตูบานเปิดเชื่อมสู่ระเบียงตากผ้า ที่ออกแบบให้มีระแนงกันสายตา เพื่อความสวยงามและเป็นระเบียบ ไม่ว่าคุณจะมองบ้านจากมุมใด

ส่วนพื้นที่ชั้น 3 เป็นห้องนอนใหญ่ทั้งชั้น

โดยแบ่งพื้นที่เป็นส่วนห้องน้ำ และห้องแต่งตัวแบบ walk-in closet ที่ด้านซ้าย

ห้องแต่งตัว โครงการไม่ได้ให้แบบบ้านตัวอย่าง แต่ภายในห้องก็กว้างพอให้ built-in ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางกระเป๋า ตู้เก็บเครื่องประดับ พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง เชื่อมกับห้องน้ำด้านใน

ที่ห้องน้ำแบ่งพื้นที่ส่วนแห้งติดทางเข้า มีเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าทอดยาวที่ผนังด้านซ้าย แยก his & her

ด้านขวาเป็นมุมสำหรับตั้งโถสุขภัณฑ์ ติดประตูออกระเบียงตากผ้า

ด้านในสุดเป็นพื้นที่ส่วนเปียกกั้นด้วย shower box ภายในให้ hand shower และอ่างอาบน้ำลอยตัว

และส่วนของห้องนอนใหญ่ที่ด้านขวา ที่กว้างขวาง

กว้างพอให้วางเตียงขนาดใหญ่พร้อมโต๊ะหัวเตียง

และมุมนั่งดูทีวี วางโซฟา มุมพักผ่อนเข้ามุมที่ด้านในสุดของห้อง

รวมทั้งด้านนอกเป็นระเบียงรูปตัว L เชื่อมต่อถึงกัน กว้างพอให้วางเก้าอี้ สำหรับนั่งเอนกายจิบกาแฟยามเช้า หรือนั่งพักผ่อนรับลมยามเย็น

หรือวางต้นไม้ เชื่อมมุมมองสู่สระว่ายน้ำ และสวนที่ด้านหน้าบ้าน

หลังนี้เรียกว่ามีพื้นที่ส่วนกลาง สำหรับทุกคนในครอบครัว ที่ค่อนข้างเยอะ เหมาะสำหรับคนที่ชอบพื้นที่กึ่ง out door และครอบครัวขนาดใหญ่ ที่กำลังมองหาบ้าน ที่มีพื้นที่ส่วนตัวให้กับทุกคนในครอบครัว

 

อีกหลังเป็น Type C ตำแหน่งบ้าน 12C ติดกับ หลัง Type B แต่มีพื้นที่น้อยกว่า และเป็น Type ที่มีราคาถูกที่สุด

สัดส่วนหน้าบ้านเล็กลงจาก Type B แต่ก็ยังสามารถจอดรถได้ถึง 3 คัน

โครงการให้ประตูอลูมิเนียมบานเลื่อน 3 ตอน เปิดปิดอัตโนมัติ ทั้งจากรีโมทคอลโทล และจากปุ่มควบคุมภายในบ้าน

มีระบบเซนเซอร์ทั้งภายในและภายนอกบ้าน เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน

ด้านขวาของประตูรั้วเป็นตู้ไฟฟ้า และมิเตอร์ไฟ ที่ติดตั้งไว้ภายในตู้ เป็นระเบียบ สวยงาม รวมทั้งมีช่องวางขยะ ที่เปิดปิดจากภายนอก เพื่อการจัดการโดยง่าย

ที่จอดรถ แตกต่างกับบ้าน Type B คือย้ายตู้เก็บของไปไว้ที่ด้านขวาติดเสาทางเข้าบ้าน

และติดตั้ง ระบบ EV Charger รองรับไว้ที่ผนังโรงรถ

ด้านซ้ายของบ้านมีบันไดเชื่อมสู่ชั้น 2 บริเวณสระว่ายน้ำ

ด้านขวาของบ้าน มีพื้นที่สวนหย่อมขนาดย่อม เชื่อมทางเข้าบ้านที่ออกแบบให้มี slope เพื่อรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุ

ของจริงจะมีกันสาดติดตั้งให้ที่ทางเข้าหน้าบ้าน ตอนวันที่ไปโครงการยังไม่ได้เอามาติดตั้ง

ด้านซ้ายของทางเข้ามี built-in ตู้รองเท้าสูงจรดเพดาน เต็มแนวผนังด้านนี้

พื้นที่ส่วนแรก เปิดต้อนรับด้วยห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก ที่เชื่อมกับสวนหน้าบ้านและสวนข้างบ้าน

พื้นที่ living แยกออกมาเป็นสัดส่วน สามารถวางชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลางได้มากถึง 6-7 ที่นั่ง

และที่ผนังทึบยังสามารถวางชั้นวางทีวีได้ยาวเต็มผนัง

ส่วนด้านซ้ายของทางเข้า เป็นพื้นที่ครัว

พื้นที่ทำครัว ออกแบบมาให้ทั้งพื้นที่ครัวฝรั่งและครัวไทย

พื้นที่ครัวฝรั่งโครงการตกแต่งชุดครัว built-in ทรง L shape เข้ามุม

มีส่วนเคาท์เตอร์ทำครัว เตรียมอาหาร ชงกาแฟ เคาท์เตอร์อ่างล้างจาน ที่ด้านบนและด้านล่างเตรียมตู้และลิ้นชักสำหรับเก็บอุปกรณ์ทำครัว

ส่วนผนังด้านซ้ายเป็นมุมตั้งโต๊ะทานอาหารสำหรับ 4 ที่นั่ง

ด้านในสุดเป็นครัวไทย ที่กั้นเป็นห้องครัวปิด

ภายใน built-in ชุดครัวไว้ 2 ฝั่ง ซ้ายขวา

ด้านขวาเป็นเคาท์เตอร์ล้างจาน แบบ 2 อ่าง พร้อมตู้เก็บของบนล่าง

 

ส่วนด้านขวาเป็นชุดครัว built-in เข้ามุม มีทั้งเคาท์เตอร์วางเตาแก๊ส ที่โครงการคำนึงถึงความปลอดภัย โดยการนำถังแก๊สไปไว้ที่นอกบ้าน และเดินสายเข้าสู่ตัวบ้านเพื่อใช้งาน พร้อมระบบดูดควันภายในห้อง

มาพร้อมกับตู้เก็บอุปกรณ์ทำครัว พร้อมเว้นช่องวางตู้เย็น

ที่ผนังติดทางเข้าครัว เป็นห้องนอนห้องแรก สำหรับผู้สูงอายุ

ที่โปร่งโล่ง สบาย เพราะขนาบข้างด้วยหน้าต่างกระจกบานสูงจรดเพดาน 2 ด้านซ้ายขวา

พื้นที่ส่วนห้องนอนมีพื้นที่กว้างพอให้วางเตียงไซต์ใหญ่ พร้อมโต๊ะหัวเตียง และชั้นวางทีวีที่ปลายเตียง

ปลายเตียงมีมุมด้านหลังผนังทึบ เป็นทางเข้าห้องน้ำ พร้อมมุมแต่งตัว ตั้งตู้เสื้อผ้าที่ด้านหน้าทางเข้าห้องน้ำ

ทางเข้าห้องน้ำ กั้นด้วยประตูบานเลื่อน พื้นระดับเดียวกับภายในห้อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุ

ภายในห้องน้ำ แบ่งส่วนแห้งไว้ติดประตูทางเข้าที่ด้านขวา

เป็นตำแหน่งวางอ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์เข้ามุม

ส่วนด้านซ้ายเป็นพื้นที่ส่วนเปียก เข้ามุม โครงการให้ Hand showerและมีหน้าต่างระบายอากาศด้านบน

ที่บันไดขึ้นสู่ชั้น 2 และ 3 ที่โครงการให้บันไดไม้จริง ลูกนอนกว้าง พร้อมราวจับโปร่ง

พื้นที่ใต้บันได สามารถใช้เป็นพื้นที่เก็บของได้

ติดกันเป็นห้องน้ำสำหรับใช้ที่ชั้น 1 หรือสำหรับแขก

ภายในห้องน้ำให้เคาท์เตอร์สำหรับตั้งอ่างล้างหน้า ที่ด้านขวาของทางเข้า เชื่อมกับโถสุขภัณฑ์ ติดหน้าต่างระบายอากาศด้านใน

ที่ชานพักบันไดแต่ละชั้นมีหน้าต่างบานยาว เปิดรับแสงเข้าสู่โถงบันได และสามารถเปิดระบายอากาศได้

ที่ชั้นสอง เมื่อเดินขึ้นมาถึงจะพบพื้นที่นั่งเล่นที่เป็นเสมือนโถงกลางของชั้นนี้ เชื่อมห้องนอนทั้งสองห้อง และเปิดสู่สระว่ายน้ำที่ด้านนอกระเบียง

พื้นที่นั่งเล่นเข้ามุม ติดหน้าต่างและประตูกระจกบานใหญ่ เชื่อมกับวิวสระว่ายน้ำด้านนอก

สามารถวางชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลางสำหรับ 4 ที่นั่งได้

 

ที่ผนังทึบฝั่งตรงข้าม สามารถตั้งชั้นวางทีวีไว้ตรงข้ามชุดโซฟา และชั้นวางของ เก็บของ ที่ผนังทึบเข้ามุมติดทางขึ้นลงบันได

ห้องนอนแรกปีกขวาของบ้าน

เป็นห้องนอนติดทางออกระเบียง ที่เชื่อมสู่สระว่ายน้ำ

ภายในห้องกว้างพอให้วางเตียง queen size หรือจะเพิ่มขนาดเป็น king size พร้อมโต๊ะหัวเตียง ก็ยังมีพื้นที่รอบเตียงมากพอให้ใช้งานได้

ข้างเตียงมีประตูกระจกบานเลื่อนสูงจากพื้นจรดเพดาน เปิดรับแสงและลมเข้าสู่ภายในห้อง

ที่ปลายเตียงเป็นผนังทึบ สามารถตั้งโต๊ะทำงาน หรือตั้งทีวีได้ที่ผนังด้านนี้

ส่วนที่ด้านซ้ายของห้องเป็นมุมแต่งตัว ด้านหน้าห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่ส่วนแห้งติดทางเข้า สามารถจัดวางเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าไว้ที่ผนังด้านซ้ายและโถสุขภัณฑ์ไว้ที่มุมห้องด้านใน

ส่วนพื้นที่ส่วนเปียกกั้นด้วย shower box ภายในให้ hand shower

และปลายสุดด้านในเป็นประตูบานเลื่อนสำหรับเปิดสู่ระเบียงตากผ้า แบบมีระแนงกั้นมุมมองจากภายนอก

ส่วนห้องนอนอีกห้อง อยู่ที่ปีกซ้ายของบ้าน

เป็นห้องนอนวิวสวย เพราะประตูบานเลื่อนเต็มเฟรมที่ปลายเตียง เปิดสู่วิวสระว่ายน้ำ

พื้นที่ตั้งเตียง สามารถตั้งเตียง Queen size ได้พอดีผนังทึบหัวเตียง

ที่มุมผนังหัวเตียงทั้งสองด้านเป็นหน้าต่างบานยาวเปิดรับแสงและระบายอากาศ

ด้านในสุดเป็นห้องน้ำ ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกไว้ด้านในและส่วนแห้งวางไว้ติดทางเข้า เช่นเดียวกับห้องน้ำที่ห้องนอนแรก

ที่ปลายเตียง และที่ห้องนั่งเล่น มีประตูบานเปิดออกสู่ระเบียงสระว่ายน้ำ

ที่สระว่ายน้ำยาวประมาณ 12 เมตร ลึกประมาณ 1.2 เมตร

มีทั้งพื้นที่ในร่มและกลางแจ้ง

ล้อมรอบด้วยระเบียงทางเดิน ที่กว้างพอให้ตั้งโต๊ะสำหรับปาร์ตี้ริมสระ หรือตกแต่งด้วยกระถางต้นไม้

จากชั้น 1 มีบันไดทางขึ้นเชื่อมสู่สระน้ำ กั้นด้วยประตูบานเปิด เพื่อความปลอดภัยเมื่อไม่ได้ใช้งาน

ที่ชั้น 3 เป็นห้องนอนใหญ่ทั้งชั้น โดยแบ่งพื้นที่เป็นส่วนห้องน้ำ และห้องแต่งตัวแบบ walk-in closet ที่ด้านขวา

ห้องแต่งตัว โครงการไม่ได้ให้แบบบ้านตัวอย่าง แต่ภายในห้องสามารถ built-in ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางกระเป๋า

โต๊ะเครื่องแป้ง ต่อกันเป็น U shape เชื่อมกับห้องน้ำด้านใน

ที่ห้องน้ำแบ่งพื้นที่ส่วนแห้งติดทางเข้า

มีเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าทอดยาวที่ผนังด้านขวา แยก his & her

ปลายสุดเป็นที่วางอ่างอาบน้ำลอยตัวพร้อมหน้าต่างระบายอากาศ

ส่วนด้านซ้ายเป็นพื้นที่ตั้งโถสุขภัณฑ์ และห้องอาบน้ำที่กั้นด้วย shower box ภายในให้ hand shower และประตูออกระเบียงตากผ้า

ในส่วนของห้องนอนใหญ่ ถือว่ากว้างขวางให้พอจัดวางมุมต่างๆ

ทั้งพื้นที่วางเตียงขนาดใหญ่พร้อมโต๊ะหัวเตียง

มุมทำงานแบบเป็นส่วนตัว

และมุมนั่งดูทีวี วางโซฟา ที่ปลายเตียง

รวมทั้งยังมีประตูบานใหญ่ที่เปิดเชื่อมกับระเบียงด้านนอกที่ยาวเชื่อมต่อถึงกัน

กว้างพอให้วางเก้าอี้ สำหรับนั่งจิบกาแฟยามเช้า หรือนั่งพักผ่อนรับลมยามเย็น

หรือวางต้นไม้ เชื่อมมุมมองกับพื้นที่สวนโดยรอบบ้านได้

บ้านนี้น่าจะเหมาะสำหรับครอบครัวที่ชอบแชร์พื้นที่ส่วนกลางบ้านร่วมกัน หรือเป็นพื้นที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งานของแต่ละครอบครัว รวมทั้งขนาดบ้านไม่ใหญ่มาก แต่ได้พื้นที่ใช้งานครบทุกฟังก์ชั่น

 

นอกจากนี้บ้านทุกหลังยังมาพร้อมนวัตกรรมผนังระบายอากาศ กับการออกแบบ ผนัง 2 ชั้น เพื่อการระบายอากาศ ส่งผลทำให้บ้านไม่ร้อน เพราะตัวผนังด้านใน ไม่ได้รับแสงโดยตรง และช่องว่างระหว่างผนัง ยังสามารถระบายอากาศทำให้ลดความร้อนได้ด้วย

รวมทั้งจัดทำห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ ไว้ที่ด้านหลัง แยกทางเข้าออกจากภายในอาคาร สำหรับบ้านทุก Type ทุกหลัง

และระบบรักษาความปลอดภัย กล้อง CCTV ที่สามารถควบคุมและสั่งการได้จากมือถือ เพื่ออำนวยความสะดวกไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

แม้ว่าจะเพิ่งเปิดตัวแบรนด์ บ้านนวัตมาเพียงแค่ปีเศษๆ แต่โครงการบ้านเดี่ยวแนว Sustainable Living โครงการเดียวในกลุ่มเซกเมนท์ Luxury จากพรีเมียร์ แอสเสท แบรนด์นี้ก็กลับย่างก้าวต่อไปในตลาดอย่างมั่นคง และยังคงรักษา Positioning ในการเป็นบ้านที่มอบความอยู่สบายให้กับผู้พักอาศัย ผ่านการออกแบบในสไตล์ร่วมสมัยที่นำประโยชน์จากธรรมชาติมาใช้ให้มากที่สุดเพื่อลดการสิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น ได้อย่างสมบูรณ์ในทุกองค์ประกอบของบ้าน ไล่ตั้งแต่ปากทางเข้าโครงการ การวางงานระบบต่างๆ ไปจนถึงแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้าน ซึ่งก็ต้องบอกว่าเป็นแนวคิดพัฒนาที่อยู่คนละขั้วกันกับโครงการอื่นๆในกลุ่มตลาดบ้านประเภท Luxury ที่เทรนด์ของตลาดมักจะเป็นการออกแบบบ้านที่มีสไตล์โฉบเฉี่ยว ทันสมัย มี Gimmick ในการออกแบบที่ดูแล้วหรูหรา ฟุ่มเฟือย เอาใจกลุ่มคน Generation ใหม่ที่มีฐานะ ไม่ว่าจะเป็น การลดทอนเอารูปทรงหลังคาหน้าจั่วและกันสาดออก การใส่พื้นที่เพดานสูงแบบ Double Volume ให้ดู Luxury in Space หรือเพิ่มพื้นที่ใช้สอยที่ไม่จำเป็นภายในบ้านและตัดเอาพื้นที่สวนออก ใส่เครื่องปรับอากาศเข้าไปเยอะๆ ซึ่งก็เป็นแนวทางที่ตรงกันข้ามกันกับการอยู่อาศัยแบบยั่งยืนในระยะยาว นี่ยังไม่รวมโครงการประเภทที่เน้นพื้นที่ส่วนกลางขนาดมหึมา อยู่กันเป็นร้อยคน แต่พอเวลาลูกบ้านเข้าอยู่จริงก็ต่างคนต่างอยู่ กลายเป็นภาระของลูกบ้านในการที่ต้องเสียเงินจำนวนมากในแต่ละปีเพื่อทำการบำรุงรักษา

สำหรับผมแล้วบ้านนวัต รามคำแหง 118 คือการอัพเกรดไปอีกขั้นของความอยู่สบาย เพราะหากใครที่เคยดูผมรีวิวโครงการเก่าทั้งสองแห่ง ที่บ้านนวัตพระรามเก้า – กรุงเทพกรีฑา และบ้านนวัต รามคำแหง 21 ไปแล้วก็จะพบว่าที่นี่เป็นการพัฒนาโดยอ้างอิงจากประสบการณ์เก่าที่ได้เรียนรู้มาหลายอย่าง และนำมาปรับปรุงต่อเนื่องให้ดีขึ้นที่นี่ ด้วยจำนวนขนาดพื้นที่โครงการที่มากกว่า คือราวๆ 8-0-40.7 ไร่ ทำให้โครงการบ้านนวัต รามคำแหง 118 สามารถฉายแสงได้อย่างเต็มที่ โดยมีจำนวนบ้านถึง 23 หลัง และมีแบบบ้านให้เลือกถึง 3 แบบ มากกว่า 2 โครงการเก่าถึง 3 เท่า! การอัพเกรดหลักๆของที่นี่มีอยู่ 3 อย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ การออกแบบบ้านให้มีหน้ากว้างกว่าเดิมใช้ประโยชน์ในพื้นที่ได้มากขึ้น และการยกสระว่ายน้ำความยาว 12 เมตรไปไว้บนชั้นสอง เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว เปิดมุมมองที่มากขึ้นให้กับทุกชั้น รวมถึงผู้ที่ใช้งานสระว่ายน้ำอยู่ ซึ่งผลพลอยได้ที่ตามมาก็คือบริเวณชั้น 1 มีที่กว้างพอที่จะมีสวนขนาดย่อมได้ และการบำรุงรักษา ตรวจเช็ค การรั่วซึมก็ง่ายกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด  และการปรับปรุงรูปแบบห้องครัวให้ดูพรีเมียม ใช้วัสดุทันสมัยมากขึ้น โดยให้ครบทั้งส่วน Pantry และครัวไทย

ห้องส่วนใหญ่สามารถ Take View สระว่ายน้ำได้จากในห้อง และห้องที่ชั้น 1 ก็ยังได้รับวิวสวน

ในแง่ของทำเล หากใครที่ไม่คุ้นชินกับย่านรามคำแหง 118 ก็อาจจะนึกภาพไม่ออกว่าอยู่ตรงไหน ดูเหมือนจะไกล และยังไม่มีอะไรมาเปิดเหมือนอย่างเส้นศรีนครินทร์ ร่มเกล้า ตัดใหม่หรือเปล่า? แต่ไม่ใช่เลย ผมกลับมองว่ารามคำแหง 118 นี่น่าอยู่กว่าโครงการบ้านนวัตทั้ง 2 โครงการแรกซะอีก เนื่องจากเหตุผล 3 อย่างคือ

 

1. ที่นี่มีความเป็น Residential Area แนวราบมานานมากหลายสิบปีแล้ว โดยในอดีตหากเราจะหาบ้านหลังใหญ่ๆก็ต้องมาซื้อแถวนี้ โดย Generic Name ของรามคำแหง 118 ที่คนรุ่นก่อนๆรู้จักก็คือซอยหมู่บ้านพฤกษชาติ ทำให้ตลอดสองข้างทางบนซอย 118 มีแต่ความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่ และยังมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อเรียงรายอยู่มากมายโดยเฉพาะช่วงที่ตั้งของสำนักงานเขตสะพานสูง ที่มีความคึกคักมากในช่วงเวลาราชการ โดยในย่านรามคำแหง 118 นี้ ไม่ได้มีการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรใหม่มานานมากแล้ว เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยวหลายๆแปลงติดกัน มีโครงการเก่าๆพัฒนาอยู่เต็มพื้นที่ ดังนั้นที่นี่จึงนับว่าเป็นโครงการบ้านจัดสรรใหม่แห่งเดียวที่เปิดตัวในรอบหลายสิบปี

 

2. สำหรับการอยู่บ้านเดี่ยวที่ต้องใช้พาหนะหลักในการเดินทางด้วยรถยนต์ ที่นี่นับว่าสะดวกสบายมาก เพราะเราสามารถเลือกใช้เส้นทางเข้าออกได้ถึง 2 เส้นทาง ทั้งจากฝั่งรามคำแหง 118 และจากถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งจะมีระยะทางใกล้กว่า เข้าเมืองได้ง่ายเร็วกว่า สามารถเลี่ยงรถติดจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มบนถนนรามคำแหงได้เป็นอย่างดี เพราะเพียงแค่ออกไปยังถนนกาญจนาภิเษก ตรงไปเลี้ยวขวาก็จะเจอกับถนนตัดใหม่สุดฮอตของบรรดาดีเวลอปเปอร์ชั้นนำในเมืองไทย ชนิดที่ต้องมาแย่งกันซื้อที่ดินเพื่อเปิดขายบ้านเดี่ยวราคาแพงอย่าง ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ที่จะแล่นข้ามไปยังกรุงเทพกรีฑา ลัดสู่ศรีนครินทร์ เพื่อไปขึ้นทางด่วน หรือข้ามไปถนนพระรามเก้าได้ภายในไม่กี่นาที

 

3. ย่านนี้มีความอุดมสมบูรณ์มาก และจะพัฒนาไปถึงขีดสุดอีกขั้นด้วยการมาของรถไฟฟ้าสายสีส้ม…คือต้องบอกว่ารามคำแหง 118 คือทำเลที่อยู่กึ่งกลางระหว่างรามคำแหงตอนปลาย และกรุงเทพกรีฑาครับ ข้อดีก็คือความเจริญของทั้งสองย่านมาประจบกันที่ตรงนี้หมด ไม่ว่าจะเป็นห้างขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ไปจนถึงแหล่งชุมชนตลาดนัด โรงพยาบาล บนด้านรามคำแหง เราจะได้เห็นห้างชั้นนำอย่าง The Paseo (จริงๆฝั่งกาญจนาภิเษกก็มี The Paseo อีกสาขา) Golden Place, Sammakorn Place, Home Pro, Big C ไปจนถึงศูนย์รวมร้านค้า ร้านอาหาร ตลาดชุมชน อย่างบริเวณหมู่บ้านสัมมากรที่ซอยรามคำแหง 112 และยิ่งรถไฟฟ้าสายสีส้มสถานีสัมมากรก็เตรียมจะมาจ่อเปิดสถานีที่หน้าปากซอยแล้ว ก็ยิ่งเป็นหลักประกันได้ว่าย่านนี้จะมี Traffic คนที่คึกคักมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน…เอาจริงๆผมว่าตรงนี้ดีกว่าเส้นศรีนครินทร์-ร่มเกล้า เยอะเลย เพราะตรงนั้นยังไม่มีโครงการอะไรขึ้นเป็นรูปธรรมเลย มีแต่ทุ่ง จะหา 7 Eleven ยังยากเลย ซึ่งผมว่าคงต้องรอบรรดาสารพัดดีเวลลอปเปอร์ที่ไปกว้านซื้อที่ดินตรงนั้นมา ช่วยกันเร่งพัฒนาให้เต็มพื้นที่ก่อนอีกสักพักใหญ่ครับ

สิ่งที่ผมชอบมากๆในบ้านหลังนี้ก็เช่นเคยครับ สารพัดงานระบบในแบบที่รวมศูนย์กลางไว้ที่ห้อง Service ขนาดใหญ่จุดเดียว ในบ้านชนิดที่ว่าหากระบบไฟ ทีวี โซล่าร์เซลล์ Home Automation หรืออินเทอร์เน็ต เสียก็มาเปิดไล่ดูได้จากที่นี่ทีเดียว สะดวกสบายมากๆครับ

เช่นเดียวกับงานระบบประเภทปั้มน้ำ Heat Exchange สระว่ายน้ำ แอร์ VRV ที่โครงการจัดวางเอาไว้หลังบ้าน เป็นการเดินท่อลอย หากมีอะไรรั่วซึม ก็ไม่ต้องเสียเวลามานั่งกรีดปูนเจาะผนัง จนบ้านช้ำไปหมดเหมือนกับหลายๆแห่ง ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่การันตีได้ว่าบ้านนวัตนี่ง่ายต่อการบำรุงรักษาระบบทุกส่วนของบ้านจริงๆ… ผมนึกถึงบ้านที่ประเทศญี่ปุ่น หรือบ้านแบบ SCG HEIM ที่มักจะเดินงานระบบแบบเป็นท่อลอยเอาไว้นอกบ้าน ถึงแม้อาจจะดูขัดตากับหลายๆคนที่มองว่าท่อต้องซ่อนไปในผนังเท่านั้นไม่งั้นมันดูน่าเกลียด ไม่แพง ขายไม่ได้ แต่เชื่อผมเถอะครับ คนขายเค้าไม่ได้อยู่เอง เค้าไม่รู้ว่าถึงเวลาที่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นการเดินท่อลอยแบบรวมศูนย์แบบนี้มันง่ายต่อการซ่อมแซมมากครับ

แม้กระทั่งครัวไทยที่ต้องใช้แก๊สในการทำอาหาร ทางโครงการก็ยังห่วงใย ไม่อยากให้ตั้งถังแก๊สเอาไว้ในบ้าน โดยทำท่อลอยเอาไว้เชื่อมชุดวางถังแก๊สนอกบ้านเข้าไปยังเตาแก๊ศครัวไทยได้เลย (เตาแก๊สเค้าก็ให้นะครับ)

ผมอยากเชียร์ให้คนที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวในระดับราคาประมาณ 30 – 50 ล้านบาทมาดูที่นี่ก่อนครับ เพื่อเปรียบเทียบกับอีกหลายๆโครงการที่คุณคิดว่ามีดีไซน์อันสวยงาม แต่เวลาอยู่จริงๆอาจจะไม่ได้รู้สึกสุขใจเท่าที่นี่ ตัวผมเองเคยอยู่คอนโดมานานครับ และก็ย้ายมาอยู่บ้าน สิ่งที่เห็นว่าแตกต่างกันมากจะมีอยู่ 2 ข้อใหญ่ๆ ที่ผมไม่ชอบเลยเวลาอยู่บ้านครับ ข้อแรกคือค่าใช้จ่ายทุกอย่างมันสูงขึ้นตามจำนวนของห้อง เช่นอยู่คอนโดเรามีแค่ 2 ห้องนอน แต่อยู่บ้านเรามี 3 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น 1 ครัว แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายมันเพิ่มขึ้นมา 3-4 เท่าตัวครับ ไม่ว่าจะเป็นค่าส่วนกลาง ค่าไฟ และค่าบำรุงรักษา ยิ่งเป็นกรณีที่มีบ้านขนาดใหญ่เกิน 100 ตารางวาขึ้นไป ค่าส่วนกลาง รวมทั้งค่าไฟก็เดือนละหลายหมื่นอยู่ แต่การอยู่แบบ Sustainable & Energy Saving ที่นี่ มันช่วย Save Cost ได้มากเลย เพราะเราไม่ต้องเอาเงินมา Pool ค่าส่วนกลาง ค่าส่วนกลางก็มีแค่ค่ารปภ. แถมการออกแบบบ้าน และการเอาพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ได้ในตอนกลางวัน เช่นเดียวกับการไม่ต้องติดเครื่องทำความร้อน นี่มันช่วยเราประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าหลายเท่าตัว ผมเชื่อว่าคุณอยู่ไป 5-10 ปีแล้วลองคำนวณค่าใช้จ่ายพวกนี้ดูก็จะรู้ว่า ที่บ้านนวัตนั้นมีราคาที่ไม่แพงเลย ส่วนอีกข้อนึงก็คือเรื่องของการซ่อมแซมงานระบบต่างๆ ที่หากมีการเปลี่ยนนิติทีนึงก็ต้องมาไล่ตามหาช่างที่เคยมาซ่อมงานระบบ เพราะช่างใหม่ๆก็จะไม่รู้ว่าท่อไหนอยู่ตรงไหน ปั้มสระว่ายน้ำต้องกรีดตรงไหนถึงจะเป็นช่องเซอร์วิส สาย Lan หรือระบบ Home Automation ต่างๆมันไปไล่มาจาก Gateway ตรงไหน จะเปลี่ยนยี่ห้ออินเทอร์เน็ตทีก็ต้องไปรื้อสายเดิมและก็ไปเจาะสาย Fiber Optic ใหม่…ซึ่งมันดูยุ่งยากมากเลยครับ กว่าจะนัดช่างได้ กว่าจะควานหาต้นตอของปัญหาเจอ เสียทั้งเวลาและบ้านก็ช้ำไปหมด

ลองเปิดใจ และค่อยๆคิดทบทวนดูครับแล้วจะพบว่า Form Follow Function ที่มัน Work ที่สุดแล้วสำหรับบ้านเดี่ยวครับ ผมเชื่อว่าบ้านที่สวยที่สุดคือบ้านที่เราอยู่แล้วอิ่มเอมใจ อยู่สบาย คลายกังวลครับ…ใครสนใจก็แวะไปชมกันได้ ผมยังแอบคิดเลยว่านี่ถ้าทางพรีเมียร์ แอสเสท เค้ารับสร้างบ้านเป็นหลังๆ ผมเองก็คงจะเรียกใช้บริการเค้าครับ (ถ้ามีเงินถึงนะ ฮา)



เกริก บุณยโยธิน

เกริก บุณยโยธิน

ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ

เว็บไซต์


PropScore™ 4.0

SCORE:
0.0
From : 0 รีวิว


ยังไม่มีการให้คะแนนและ Comment โครงการนี้


TAIT Sathorn 12 เปิดห้องตัวอย่างใหม่ 1 Bed Iconic Suite แต่งครบ สไตล์ Classical American โดย ‘CHANINTR’ แค่ยูนิตเดียวเท่านั้น!

โครงการ TAIT Sathorn 12 ตอนนี้เค้ามีห้องเหลือขายแค่ 14 ห้องเท่านั้นครับ โดยเป็นห้อง 1 Bed Iconic ขนาดประมาณ 68 ตรม. 4 ห้อง 2 นอนอีกประมาณ 6 ห้อง นอกนั้นจะเป็น 1 นอนขนาดเล็กครับ ซึ่งตอนนี้โครงการก็ไ... อ่านต่อ

25 April, 2024



ข้อเท็จจริง และความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ระหว่างอสังหาฯรูปแบบ Freehold และ Leasehold

ในปีนี้เราจะมีโอกาสได้เห็นโครงการ Leasehold ที่กำลังจะสร้างเสร็จพร้อมอยู่หลายที่ครับ แล... อ่านต่อ
17 April, 2024

คัดสรรให้! งบ 7 ลบ. ก็หาซื้อคอนโดหรูพร้อมอยู่ในย่านพร้อมพงษ์ – ทองหล่อ – เอกมัย ได้

หลังจาก ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมท... อ่านต่อ
12 April, 2024

เคาะแล้ว! แพคเกจกระตุ้นตลาดอสังหาฯ โดยกระทรวงการคลัง

สืบเนื่องมาจากข้อมูลของกระทรวงการคลังที่รายงานครม.ไปว่าในช่วงไตรมาสสี่ของปีที่ผ่านมา ภา... อ่านต่อ
10 April, 2024

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง