ถนนสาทร ถนนเส้นหลักของกรุงเทพฯที่เชื่อมฝั่งธนฯและย่าน CBD ใจกลางมหานคร ศูนย์รวมสิ่งอำนวยความสะดวกหลักของคนกรุงเทพฯ ทั้งแหล่งงาน สถานทูต โรงเรียน โรงพยาบาล และที่พักอาศัย เข้าไว้ด้วยกัน นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้สาทรครองแชมป์รถติดที่สุดในกรุงเทพฯ เพราะในช่วงเวลาเร่งด่วนโดยเฉพาะช่วงเย็น รถยนต์สามารถทำความเร็วเฉลี่ยได้เพียง 5 กม/ชม นั่นหมายถึง ถนนสาทรที่ยาวเพียง 4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางตั้ง 48 นาที และถ้าต้องข้ามฝั่งจากฝั่งธนฯผ่านสะพานตากสินที่ระยะทางรวม 5 กิโลเมตร ก็ใช้เวลาครบ 60 นาที หรือ 1 ชั่วโมงพอดี นี่มันเท่ากับความเร็วเฉลี่ยของการเดินของมนุษย์เลยนะเนี่ย (ความเร็วเฉลี่ยของคนที่เดินเป็นประจำคือ 5 กิโลเมตร/ชั่วโมง) ที่มา : ข้อมูลรถติด https://www.pptvthailand.com/news/ประเด็นร้อน/20550 , ข้อมูลการเดินของคน http://faforfun.com/2014/02/03/ความเร็วการเดินของมนุษ/

แต่…มันคงจะดีไม่น้อย ถ้าเราเอาเวลากว่า 1 ชั่วโมงไปพักผ่อน ทำกิจกรรม อยู่กับคนที่คุณรัก หรือใช้เวลาให้กับสิ่งที่เราอยากทำ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า แต่ยังได้อยู่บนทำเลใจกลางมหานครย่านสาทร ติดรถไฟฟ้า และเป็นทำเลแห่งมูลค่าทั้งในปัจจุบันและอนาคต กับโครงการ The Diplomat Sathorn (เดอะ ดิโพลแมท สาทร) โครงการคอนโดสุดหรู ที่ไม่ใช่เพียงแค่เป็นโครงการทั่วไปบนทำเลถนนสาทร แต่เลือกตำแหน่งบนถนนที่ดีที่สุด ติด BTS สุรศักดิ์ เป็นทำเล Prime of Prime ออกจากโครงการแค่เลี้ยวซ้ายก็ถึงโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ข้ามถนนก็ถึงโรงเรียนเซนต์หลุยส์ ใกล้ทั้งโรงเรียนอัสสัมชัญเซนต์หลุยส์ และบางรัก เรียกได้ว่า ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางฝ่ารถติดเป็นชั่วโมงเพื่อมาส่งลูกอีกต่อไป

The Diplomat Sathorn (เดอะ ดิโพลแมท สาทร) เป็นโครงการของ KPN Land บริษัทพัฒนาอสังหาฯ ภายใต้ชายคา KPN Group Corporation Limited ที่มีธุรกิจอยู่ถึง 5 สายงาน ทั้ง Property ,Energy ,Education ,Investment และ Entertainment อีกทั้งยังมีผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรง ครอบครัวณรงค์เดช มานั่งแท่นผู้บริหารหลัก ที่นำเสนอผลงานที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวสไตล์ KPN

ซึ่งภาพลักษณ์หนึ่งในนั้นที่สามารถสะท้อนเอกลักษณ์ได้ดีก็คือ สายงานด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่ตั้งแต่จับตลาดอสังหาริมทรัพย์ KPN Land ก็ได้นำเสนอ 2 แบรนด์หลัก อย่าง The Capital และ The Diplomat ที่ดึงเอาเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ ผสมผสานความ Classic และ modern เช่นเดียวกับ The Diplomat Sathorn ที่ได้สร้างบนผืนที่ดินเก่าแก่ที่เคยเป็นเรือนของราชนิกุล และใช้เป็นสถานทูตนานาประเทศ ที่มีแต่คนหมายตาอยากได้มาครอบครอง แต่ KPN Land ก็ได้มาครอบครองและพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม Hi rise ในเซกเมนท์ Luxury กับการออกแบบที่ผสมผสานระหว่าง Old world และ New world คือการออกแบบที่ไม่ล้ำสมัยมากเกินไป เน้นความClassic แต่ก็ยังผสมความทันสมัย เพื่อให้เป็นการออกแบบที่อยู่ได้นานไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย บ้านหลังนี้ก็ยังร่วมสมัยอยู่เสมอ ประกอบกับการผสานงานออกแบบระหว่างศิลปะหลากหลายแขนงที่เข้ากันอย่างลงตัว ซึ่งมาจากความหมายหลักของโครงการคือ คนคนหนึ่งที่เดินทางและใช้ชีวิตมาแล้วทั่วโลก เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์และความทรงจำ จึงถูกถ่ายทอดลงในงานออกแบบของคอนโด ผ่านงานฝีมือชั้นเยี่ยมที่ให้ความสำคัญในทุกรายละเอียด แม้กระทั่งรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ให้ความสำคัญทั้งวัสดุที่มีคุณภาพ การออกแบบ และฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า เป็น Craftsmanship & Quality ที่ผู้บริหารทุกคนใส่ใจเสมือนการออกแบบบ้านของตนเอง

ทั้งงานออกแบบและการใช้งานที่อยู่ภายใต้ปรัชญา “Value Beyond Expectations – คุณค่าเหนือความคาดหมาย”  ทุกองค์ประกอบที่อยู่ในโครงการ The Diplomat Sathorn คือความพิถีพิถัน ตั้งแต่การจัดวาง layout ทั้ง 192 ยูนิต ให้มีความโปร่งโล่ง สบาย ไม่อึดอัดแม้อยู่ในอาคารชุด ด้วยเพดานสูง 3 เมตร อำนวยความสะดวกที่จอดรถ 100% กลางย่านที่มีมูลค่าที่ดินสูง หรือแม้แต่การแบ่งพื้นที่ใช้งานส่วนกลางให้สำหรับเด็กและผู้ใหญ่เพื่อความสะดวกในการใช้งาน แต่ก็ยังอยู่ในสายตาที่สามารถมองเห็นเชื่อมถึงกันได้ และสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่เป็น Semi Indoor pool คือมีทั้งร่มบังแดดให้ และกลางแจ้งในสระเดียวกัน และฟิตเนสชั้นบนที่สามารถมองเห็นทั้งวิวถนนสาทรและวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาได้ ซึ่งยังใส่ใจแม้กระทั่งการบำรุงรักษาให้คอนโดมีคุณภาพอยู่เสมอ ด้วยการไม่นำอุปกรณ์การใช้งานอย่างสตรีมและซาวน่าเข้ามาไว้ในโครงการ เพราะพบว่าเป็นห้องที่ใช้งานน้อย ในอนาคตอาจเป็นพื้นที่มุมอับ ดูแลรักษายาก ทางโครงการจึงตัดห้องนี้ไป เพื่อให้ลูกค้าได้รับคอนโดที่มีคุณภาพทั้งดีไซด์ ฟังก์ชั่น การบำรุงรักษา และทำเลประวัติศาสตร์อันยาวนานของที่ดินและพื้นที่ในการเป็นพื้นที่ของนักการทูต จึงหยิบเรื่องราวมานำเสนอผ่านชื่อที่น่าจดจำอย่าง The Diplomat เพื่อให้ทุกคนรู้สึกถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานเสมือนสมบัติอันล้ำค่าที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น

ที่สุดแห่งทำเล ที่สุดแห่งชีวิตสาทร

The Diplomat Sathorn ตั้งอยู่บนถนนสาทร ติดรถไฟฟ้าสถานีสุรศักดิ์ และติดโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เพียง 190 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นทำเล Prime of Prime คือ นอกจากตั้งอยู่ในย่านธุรกิจ CBD ที่มีทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับ ทั้งการคมนาคม รถไฟฟ้า รถประจำทาง ร้านค้า โรงแรม5ดาว สถานพยาบาล โรงเรียนชั้นนำ แล้ว ยังตั้งอยู่ถูกตำแหน่งของฝั่งถนน ที่สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว เพียงตรงไปก็เข้าสู่ย่านอาคารสำนักงานของสาทร ช่องนนทรี พระราม4 หรือเลี้ยวซ้ายเข้าซอบก็สามารถไปย่านสีลม โรงเรียนเซนโยเซฟคอนเวนต์ ได้แบบไม่ต้องเสียเวลา เพราะถ้าตำแหน่งคอนโดอยู่อีกฝั่งของถนนสาทร ก็ต้องเสียเวลากลับรถให้วุ่นวาย เพราะถนนมีพื้นที่ให้กลับรถน้อย ซึ่งในเวลาเร่งด่วน อาจใช้เวลาเทียบเท่าการเดินทางจากคอนโดมิเนียมฝั่งธนฯที่สร้างเกาะตามแนวรถไฟฟ้าข้ามฝั่งโดยการใช้สะพานตากสินเลยทีเดียว เพราะต้องฝ่าการจราจรทั้งสองฝั่งเพื่อกลับรถมาส่งลูกหรือทำงานใจกลาง CBD   

The Diplomat Sathorn จึงเป็นทำเลแห่งหัวใจของการอยู่อาศัย การลงทุน และการเก็บไว้เป็นทรัพย์สิน เป็นมรดกส่งต่อให้กับลูกหลาน และมรดกที่จะยิ่งทวีมูลค่ามากขึ้น เพราะเป็นทำเลคอนโดไม่กี่แห่งในย่าน CBD ที่ติดรถไฟฟ้าแบบ 0 เมตร ทำให้ประหยัดเวลาในการเดินทางอย่างมากที่สุด บวกกับงานออกแบบที่ไม่มีวันตกยุค มีแต่จะทวีมูลค่าของที่ดินให้สูงขึ้น เป็น Timeless Treasure สมบัติล้ำค่าที่ให้ทั้งทำเล งานออกแบบ และการใช้ชีวิต ตลอดจนมอบความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของอย่างสูงสุด ที่ไม่สามารถหาได้จากคอนโดอื่นบนย่าน CBD สาทร

“Crafted With Passion” สร้างสรรค์งานด้วยความประณีต ใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อส่งต่อที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า 

The Diplomat Sathorn เป็นคอนโด High-Rise สูง 35 ชั้น จำนวน 192 ยูนิต บนพื้นที่ 1-2-15 ไร่ โดดเด่นกับ facilities ที่ให้มาอย่างครบครัน และที่สำคัญคือความใส่ใจในทุกๆรายละเอียดของพื้นที่ส่วนกลาง ที่คำนึงถึงผู้ใช้งานในทุกๆกลุ่มคน เช่น การมองว่า The Diplomat Sathorn จะเป็นคอนโดที่เน้นกลุ่มครอบครัว ที่มีเด็กวัยเรียนมาอยู่เยอะ การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 8 จึงแยกห้อง แยก Lay out ออกจากกัน แต่อยู่ในชั้นเดียวกัน คือฝั่งหนึ่งสำหรับเสียงดัง อีกฝั่งสำหรับผู้ใหญ่ บริเวณ Kid Room มีการออกแบบที่ดูสนุกสนาน ด้วยการมีน้ำไหลมาจากก้อนเมฆ หรือพื้นที่ Diplomat club ที่มีมุมสำหรับอ่านหนังสือของเด็กๆ หรือมุมสำหรับผู้ใหญ่ที่ต้องการความสงบ ก็มีพื้นที่พักผ่อนให้เลือกทั้ง indoor outdoor

และยกพื้นที่ใช้งานหลักอย่างฟิตเนสและสระว่ายน้ำขึ้นไปไว้ชั้น rooftop เพราะเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถเห็น Panoramic view ของแม่น้ำเจ้าพระยาได้ ด้วยการออกแบบ ฟิตเนส ที่ล้อมรอบด้วยกระจกบนใหญ่กว่า 5 เมตร สูงจากพื้นจรดเพดาน และยาวเชื่อมต่อกันจากมุมจรดมุม ทำให้ขณะที่เล่นฟิตเนสก็สามารถเห็นวิวเมืองโดยรอบได้แบบไร้สิ่งบดบัง และด้วยความสูงบนชั้น 35 กับระยะที่ไม่ไกลจากแม่น้ำเจ้าพระยามากนัก ทำให้สามารถมองเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาและวิวสะพานข้ามแม่น้ำได้จากห้องฟิตเนส

หรือแม้กระทั่งสระว่ายน้ำ ที่ถึงแม้จะนำไปอยู่บนชั้น Roof top แต่ก็คำนึงถึงการใช้งานจริงๆ ที่บางคนอาจไม่ชอบร้อน ไม่ชอบอาบแดด แต่ชาวต่างชาติบางคนอาจชอบอาบแดด การออกแบบพื้นที่สระว่ายน้ำ จึงออกแบบ เป็น Semi-indoor swimming Pool คือครึ่งหนึ่งบังแดด อีกครึ่งหนึ่งไม่บังแดด แต่สามารถใช้งานเชื่อมต่อกันได้อย่างลงตัว ท่ามกลางวิวเมืองและท้องฟ้าที่โอบล้อมคุณไว้โดยรอบ

ถึงแม้ตัวคอนโดจะอยู่ติดรถไฟฟ้า แต่ก็มีการออกแบบ Parking รองรับไว้ 100% (เท่ากับจำนวนห้อง) ลดจำนวนห้องพัก แต่มีที่จอดรถเพียงพอ ถึงแม้ในปัจจุบันอาจไม่จำเป็น แต่ในอนาคตผู้อยู่อาศัยอาจต้องมีรถก็ได้ ที่จอดรถจึงถูกออกแบบและสำรองให้ไว้กับทุกๆคน

การมีพื้นที่รับแขกที่กว้าง หรูหรา และโดดเด่นด้วยการนำแชนเดอเลียร์ “Venetian Chandelier” เหมาะสำหรับต้อนรับแขกคนสำคัญ ด้วยการตกแต่งที่ดู Modern กับการเลือกใช้สีและวัสดุ และคงความ classic กับเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่ง ที่โอบล้อมสร้างความอบอุ่น เชื้อเชิญให้กับผู้มาเยือน หรือจะเป็นพื้นที่กลางในการพบปะพูดคุยของผู้อยู่อาศัย เสมือนจัตุรัสกลางเมืองที่ถูกโอบล้อมด้วยผนังอาคารทุกทิศ แต่ก็มีพื้นที่กลางที่รองรับการใช้งาน

และที่สำคัญ ความประณีต ความใส่ใจ ในการเลือกวัสดุ ที่ดูอบอุ่นด้วยโทนสีไม้ โทนสีธรรมชาติ เหมาะกับการเป็นพื้นที่พักผ่อน และใช้งานในทุกๆวัน เช่นพื้นที่ Mail box ที่ใช้สีไม้มาเป็นองค์ประกอบหลักของบานกล่องจดหมาย

การดีไซน์และการตกแต่งที่ต้องการให้ตัวตึกโดดเด่นและสวยงาม ด้วย Façade ที่มีการใช้หินเฟรนช์ ไลม์ สโตน (French Lime Stone) มาตกแต่ง    ด้านหน้าตัวอาคาร เพิ่มความหรูหราและขับเน้นความคลาสสิคของสถาปัตยกรรมเก่าผสมผสานกับสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไรตึกยังคงความสวยงาม มีมูลค่า ไม่ดูเชยเกินไป และก็ไม่ทันสมัยมากเกินไป

รวมทั้งการตกแต่ง ที่คัดสรร ทั้งภาพ ประติมากรรม และงานตกแต่ง ที่เสมือนหยิบศิลปะชิ้นเอกจากทั่วทุกมุมโลกมาไว้ในที่เดียวกัน

ถึงแม้จะดูเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆ แต่ก็เป็นความละเอียดอ่อนที่สำคัญที่ทำให้พื้นที่ส่วนกลางมี Function การใช้งานที่ดี เหมาะกับทุกคน

ในส่วนของห้องพักมี 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน และ 3 ห้องนอน แบบ Fully Furnished

โดย 1 ห้องนอน  ขนาด  42-45  ตรม.  มีราคาขายเริ่มต้น 10 ลบ. เราไปดูแนวทางการแต่งห้อง 1 ห้องนอน และ  2 ห้องนอน ของทางโครงการกัน

ภายในแบ่งเป็นพื้นที่ส่วน living แนวลึก ตกแต่งด้วยโทนสีดำ น้ำตาล ขาว กับเฟอร์นิเจอร์ไม้ Built-in ลอยตัวติดผนังเป็นมุมดูทีวี และพักผ่อนริมหน้าต่าง พร้อมกับผนังบานใหญ่สำหรับติดศิลปะชิ้นเอกที่เพิ่มความสุนทรีและความคลาสสิคให้กับพื้นที่ Living

และพื้นที่ภายในห้องนอน ที่จัดสัดส่วนอย่างลงตัวและคุ้มค่าการใช้งานในทุกพื้นที่ ทั้งมุมทำงานภายในห้องนอนแต่เสมือนแยกส่วนไปจากพื้นที่พักผ่อนหลัก และมีผนังกั้นกึ่งแยกส่วนให้กับพื้นที่ต่างๆ แต่สามารถใช้งานเป็นชั้นเก็บของต่างๆได้

และมุมพักผ่อน ริมหน้าต่างที่ตกแต่งด้วยภาพศิลปะโรมันคลาสสิคบริเวณหัวนอน

ส่วน 2 ห้องนอน  ขนาด 59-70  ตรม.  ราคาเริ่มต้น 14 ลบ. ภายในถูกออกแบบไว้อย่างเป็นสัดส่วนชัดเจน เชื่อมถึงกันด้วยพื้นไม้สีน้ำตาลอ่อนทอดตัวยาวเป็นทางเดิน ตัดกับชุดเฟอร์นิเจอร์โมเดิร์นสีน้ำตาลเข้ม

และงานศิลปะตกแต่งที่คงความ classic และล้ำค่า เสมือนเป็นผลงานจากศิลปินชื่อดังที่ถูกตกแต่งไว้ในพิพิธภัณฑ์ส่วนตัว

ภายในแบ่งสัดส่วนพื้นที่ครัวเข้ามุม ทั้งเคาท์เตอร์ครัวและตำแหน่งวางโต๊ะอาหารสำหรับ4ที่นั่ง

แบ่งพื้นที่ด้วยทางเดินเชื่อมส่วนต่างๆของห้อง แต่ก็เปิดโล่งเชื่อมครัวกับพื้นที่ living area  เป็นพื้นที่กลางบ้านสำหรับทุกคนในครอบครัว

ภายในห้องน้ำปูและตกแต่งด้วยกระเบื้องหินโทนสีเทา ขาว น้ำตาล พร้อมเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าแบบ His & Her

ส่วนห้องนอน ก็มาพร้อมกับตู้เสื้อผ้า built-in เต็มผนัง พร้อมฝาผนังบานใหญ่ปลายเตียง เหมาะสำหรับติดผลงานศิลปะชิ้นเอกไว้นอนชม

เมื่อพิจารณาองค์ประกอบทั้งหมดที่กล่าวมา The Diplomat Sathorn ก็ดูจะเป็นคอนโดระดับ Luxury ที่คุ้มค่ากับการจ่ายเงินเพื่อเป็นเจ้าของสมบัติล้ำค่าชิ้นนี้ เพราะไม่ว่าจะเป็นตัวทำเล การออกแบบทางสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน พื้นที่ส่วนกลาง ตลอดจนองค์ประกอบของการใช้ชีวิตอื่นๆ ที่มอบพื้นที่ทุกตารางนิ้วให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า เหมาะสำหรับเป็นมรดกชิ้นงามกลางสาทรที่มีแต่จะเพิ่มมูลค่าและสร้างคุณค่าให้กับผู้รับจากรุ่นสู่รุ่น ในแง่ของการซื้อเพื่อลงทุนในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็น Capital Gain หรือ Rental Yield ก็ยิ่งไม่ต้องกังวล เพราะในปัจจุบันนี้จนถึงอนาคต ก็คงจะไม่สามารถหาคอนโด Luxury Fully Furnished ที่ติดรถไฟฟ้าใน Inner CBD ที่มีราคาเพียงแค่ตรม.ละ 2 แสนกว่าๆได้อีกแล้ว

อีกทั้งเท่าที่สอบถามดูจากทางโครงการก็พบว่ามีลูกบ้านจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ที่ปล่อยเช่าให้กับผู้ปกครองที่มีลูกหลานที่ศึกษาอยู่ที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เพื่อพักอาศัยอยู่ในช่วงวันจันทร์ – ศุกร์

ขณะนี้โครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ให้กับลูกบ้านแล้ว สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ สามารถเข้าชมโครงการจริง เพื่อสัมผัสบรรยากาศของ “ที่สุดแห่งทำเล ที่สุดแห่งชีวิตสาทร” ที่ The Diplomat Sathorn คอนโดพร้อมอยู่ Fully Furnished แห่งเดียวใจกลาง CBD สาทร

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 02-789-9000 หรือ http://www.kpnland.com