ตระการตากับพรมเปอร์เซียร์ เปียโนโบราณอายุกว่า 100 ปี และเครื่องเสียงมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท

นฤชิต นันทจันทร์ 08 November, 2019 at 13.29 pm

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


วันนี้ผมจะพาเดินชมนิทรรศการ Bangkok Persian Carpet Exhibition 2019  – งานจัดแสดงและจำหน่ายพรมเปอร์เซียร์โบราณ โดยกลุ่มนักสะสมชื่อ “Art On Da Floor” และพันธมิตรคู่ค้าต่าง ๆ อย่างเฟอร์นิเจอร์ตบแต่งบ้าน ผ้าไหมยกทองโบราณ และแบรนด์เครื่องเสียงระดับโลก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Persian Carpet And Your Lifestyle” โดยได้จัดแสดงพรมเปอร์เซียหายากกว่า 30 ผืน ร่วมกับการผนวกกับไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตประจำวันภายในบ้าน ให้ผู้มาเยือนสามารถสัมผัสพรมและเห็นศิลปะการจัดวางพรมกับสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านได้อย่างลงตัว โดยจำลองห้องต่าง ๆ ออกเป็น 9 ห้อง ที่บรรยากาศแตกต่างกันในแต่ละมุมบ้าน ได้แก่

 

1. ห้อง Curator Room

2. ห้อง HI – End Audio Room

3. ห้อง Models Room

4. ห้อง Bangkok Persian Carpet Exhibition 2019

5. ห้อง Antique Grand Piano

6. ห้อง Ancient Textile Room

7. ห้อง Furniture Room

8. ห้อง Celebrity Carpets Room

9. ห้อง Motorbike Room

เรามาเริ่มกันที่ห้องไฮไลท์ของนิทรรศการ Bangkok Persian Carpet Exhibition 2019 ทั้ง 3 ห้องกันก่อนเลยครับ

 

1. ห้อง Bangkok Persian Carpet Exhibition 2019 – ห้องนี้เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดของนิทรรศการ ครับ ภายในห้องปูด้วยพรมขนแกะล้ำค่า ผืนมหึมาผืนเดียววางสง่าอยู่กลางห้อง พรมผืนนี้ถือเป็นงานศิลปะ Master Piece ล้ำค่ามาก เพราะว่า ถูกทอจากตระกูล Amoghli (อะมอกรู) ซึ่งเป็นตระกูลดีไซน์เนอร์ที่ผลิตพรมส่งให้กับพระราชวังอิหร่าน โดยผืนที่ปูวางอยู่ในห้องนี้นำออกมาจากพระราชวังและมีอายุเกือบ 100 ปี พรมนี้ถูกทักทอด้วยขนสัตว์ชั้นดี ย้อมสีธรรมชาติ ออกแบบลวดลายตามเอกลักษณ์ของชาวอิหร่านในโทนสีเคร่งขรึม และหากสังเกตบนพรมจะเห็นลายเซ็นของตระกูล Amoghli ปักอยู่บนส่วนท้ายของพรมด้วยครับ นอกจากนั้นพรมผืนนี้นับว่าไม่สามารถหาที่ไหนได้อีกแล้ว เพราะตระกูล Amoghli ในปัจจุบันไม่มีผู้สืบทอด ส่งผลให้มันกลายเป็นผลงานศิลปะระดับ Master Piece ที่มีราคาถึง 10 ล้านบาทเลยทีเดียว

 

…ผมยังไม่แน่ใจว่าถ้าซื้อมาจะกล้าเหยียบมันไหม…

 

ในขณะที่ผมโดนมนต์สะกดของพรม Amoghli ให้ต้องเดินเข้ามาชมรายละเอียดของลายเส้นอย่างใกล้ ๆ ก็ได้ยินเพลงบรรเลงเสียงเปียโนเพราะ ๆ ภายในห้อง สร้างบรรยากาศผ่อนคลายแบบมีระดับและเพิ่มความน่าค้นหาระหว่างชมรายละเอียดของพรม แต่เสียงที่ว่ากลับไม่ได้มาจากเปียโนอย่างที่ผมคิดไว้ตอนแรก แต่เป็นเสียงของชุดเครื่องเสียง Steinway and Sons ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ผลิตเปียโนโด่งดังติดอันดับท็อป 3 ของโลก คุณบอล ประธานบริหาร บริษัท ลิฟวิ่ง ซาวด์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำชุดเครื่องเสียงมาจัดแสดงในนิทรรศการนี้บอกส่วนตัวว่า

 

“นอกจากการให้เสียงที่ใสเหมือนกำลังฟังเสียงของเปียโนแล้ว ด้วยรูปลักษณ์ของเครื่องเสียงที่มีทันสมัยและตัวเครื่องสีดำเงาเหมือนสีดำของเปียโน ผู้ใดได้ครอบครองจะสามารถนำชุดเครื่องเสียงนี้ไปตั้งในห้องรับแขกอวดโฉมได้อย่างภาคภูมิ ซึ่งแตกต่างกับชุดเครื่องเสียงอื่น ๆ ที่เมื่อซื้อมาตั้งในบ้าน ผู้อยู่อาศัยต้องหามุมห้องหลบชุดลำโพงหรือต้องพยายามไปสรรหาเฟอร์นิเจอร์ Built In มาปิดบังชุดเครื่องเสียงเพื่อให้ห้องเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่สำหรับชุดเครื่องเสียง Steinway and Sons สามารถวางไว้ที่โถงกลางบ้านได้อย่างสง่าผ่าเผย”

 

เช่นเดียวกับที่ผมเห็นบรรยากาศภายในห้องชัดเจนว่า แค่เสียงเพราะ ๆ ถูกจับคู่กับพรมเปอร์เซีย มันทำให้ห้องเช่าธรรมดา ๆ ที่ทาผนังสีดำสนิทในศูนย์การค้า River City ดูมีคลาสขึ้นอย่างไม่ต้องพยายามปรับแต่ง ลองคิดว่าหากได้ยกพรมกับเครื่องเสียงเอาไปวางที่โถงกลางบ้านหรือบริเวณทางขึ้นบรรไดวนที่มีโคมไฟระย้าคริสตัลสวย ๆ คงจะสามารถโอ้อวดความมั่งคั่งและรสนิยมเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี โดยที่ไม่ต้องพูดเยอะเลยทีเดียว

พรมขนแกะผืนจากตระกูล Amoghli (อะมอกรู)

ภายในห้อง Bangkok Persian Carpet Exhibition 2019

 

2. ห้อง Antique Grand Piano – ถัดจากห้องแรก หรือเมื่อมองตรงจากทางเข้างาน เราจะได้เห็นเปียโนไม้หลังใหญ่ วางในห้องกระจกบานใหญ่ เปียโนหลังนั้นถูกสาดแสงไฟสปอตไลท์อย่างเฉิดฉาย เมื่อเข้าไปในห้องอ่านประวัติทำให้รู้ว่า เปียโนหลังดังกล่าวถูก Charles Blasius สั่งผลิตแบบ Custom Made จากแบรนด์ Steinway and Sons ตั้งแต่ปี 1872 อายุกว่า 147 ปี สิ่งที่เพิ่มความเก๋ไก๋ให้เปียโนหลังนี้นอกจากอายุอันยาวนานของมันคือ มันเป็นเปียโนในยุค Victorian ทำด้วยมือจากไม้วอลนัทสีดำและฝังทองแดง ตัวตู้เป็น East Victorian แต่ขาของเปียโนได้รับอิทธิพลทั้งความเป็นยุโรปและมีความเป็นเอเชียตะวันออก ส่วน Lyre (ที่เหยียบ) เป็นรูปมังกรในยุค Medieval และด้านข้างตัวเปียโนทั้งสองมีใบหน้าผู้ชายในสไตล์ Neo Classic ที่แกะสลักอย่างสวยงามขนาบทั้งสองข้าง โดยนำมาจากเรื่องเล่าในตำนานของจีนที่กล่าวถึงกริฟฟินลึกลับที่มีปีกเหมือนนกอินทรีย์ แต่ลำตัวเหมือนสิงโต เป็นการผสมผสานของพหุวัฒนธรรมในเปียโนหลังเดียว แน่นอนว่าเปียโนแบบนี้มีหลังเดียวในประเทศไทย เปียโนไม้ยังถูกวางบนพรมเปอร์เซียสี Pink Silk มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท โดยนักสะสมอธิบายว่า

 

“สีชมพูของพรมได้จากการสกัดด้วยหัวหอม ส่วนสีน้ำตาลสกัดจากเปลือกไม้วอทนัท” มากไปกว่านั้น เส้นใยไหมของพรมเมื่อถูกสาดเสียงด้วยสปอตไลท์สี Warm Light เราจะเห็นเส้นไหมเล่นกับแสงในห้อง สร้างบรรยากาศหรูหรา สว่างรุ่งโรจน์ ราวกับอยู่ในห้วงเวลายุครุ่งเรืองของศิลปะ

 

นักสะสมพรมเล่าเพิ่มเติมว่า

 

“อายุขัยการใช้งานของพรมที่ใช้วัสดุจากไหม จะมีอายุใช้งานสูงสุดได้ถึง 400 ปี” นั่นหมายถึงว่า พรมสามารถเป็นมรดกส่งต่อการใช้งานจากรุ่นสู่รุ่น และยังเป็นเครื่องสะท้อนถึงความยืนยงและความมั่งคั่งของต้นตระกูลจวบจนปัจจุบันได้

เปียโนโบราณ สั่งผลิตแบบ Custom Made จากแบรนด์ Steinway and Sons ภายในห้อง Antique Grand Piano

เปียโนโบราณ สั่งผลิตแบบ Custom Made จากแบรนด์ Steinway and Sons ภายในห้อง Antique Grand Piano

 

4. Ancient Textile Room – ห้องนี้ถือเป็นห้องที่มีความพิเศษและมีเอกลักษณ์แตกต่างจากห้องอื่น ๆ ที่มักจะตบแต่งสไตล์ยุโรป แต่ห้องนี้มีความเป็นไทยโบราณ แต่ยังผสานกับความเป็นพรมเปอร์เซียได้อย่างลงตัว เมื่อเดินเข้ามาภายห้อง ผมรู้สึกได้ว่า ห้องแห่งนี้เป็นสถานที่แห่งความศักดิ์สิทธิ์และความศรัทธา เพราะกลุ่มนักสะสม Art On Da Floor ร่วมจัดกิจกรรมกับคุณเปี๊ยก เจ้าของร้านไฟน์อาร์ต ซึ่งเป็นนักสะสมโบราณวัตถุโดยเฉพาะของไทยโบราณ ทำให้เมื่อก้าวเข้ามาภายในห้อง Ancient Textile Room จะรับรู้ถึงกลิ่นอายไทยโบราณไปพร้อมกับกลิ่นอายของเปอร์เซียโบราณ ฟังดูเหมือนจะย้อนแย้งและดูไม่เข้ากันสักเท่าไร แต่ต้องยอมรับจริง ๆ ว่า มันไม่ได้ดูขัดหูขัดตาเลย มิหนำซ้ำยังดูลึกลึบ น่าค้นหาแบบเชิงวัฒนธรรมโบราณด้วยซ้ำ นอกจากพรมแล้ว ภายในห้องได้จัดแสดงและจำหน่ายผ้าไหมยกทองโบราณ ที่มีศิลปะการถักทอเส้นไหมสลับซ้อนดิ้นทองผสมผสานลายราชสำนักโบราณ ถักทอด้วยมือและสีย้อมจากธรรมชาติ คุณเปี๊ยกยังเล่าอีกว่า

 

“จากการคาดการณ์ประวัติศาสตร์น่าจะถูกใช้งานเป็นครั้งแรกในพระราชพิธีสำคัญในสมัยรัชกาลที่ 4 จากลักษณะสีแดงชาดที่เป็นสีของบุคคลชั้นสูงในสมัยนั้น และหากสังเกต จะเห็นได้ว่า บนผืนผ้าไหมพบร่องรอยการถูกใช้งานจริงอย่างการซ่อมแซมผ้าไหม ด้วยรอยการเย็บ รอยการปะชุนผ้าให้เห็นชัดเจน แม้มีรอยตำหนิ แต่รอยตำหนิดังกล่าวคือเอกลักษณ์และทำให้ผ้าไหมโบราณผืนนี้ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และจิตวิญญาณของนักสะสมอย่างแท้จริง”

 

เช่นเดียวกับพรมโบราณที่จัดแสดงคู่กัน นักสะสมพรมอีกท่านอธิบายว่า

“พรมถูกผลิตขึ้นเมื่อไร ไม่อาจทราบแน่ชัดได้้ เนื่องจากมีลวดลายและฝีไม้ลายมือการถักทอที่บ่งบอกถึงความเก่าแก่ ยาวนาน ทราบเพียงมีอายุมากกว่า 100 ปีอย่างแน่นอน”

 

ถึงขนาดที่นักสะสมพรมแนะนำว่า

“ใครได้พรมผืนนี้ไป ไม่ควรนำมาใช้งานบนพื้น ควรใช้ประดับห้องในลักษณะใส่กรอบกระจก แขวนไว้ชมความงามทางประวัติศาสตร์”

 

และด้วยลักษณะสีย้อมจากธรรมชาติในโทนสี EarthTones ตัดกับสีแดงชาดสลับกับสีน้ำเงินไพลิน ทำให้พรมผืนนี้ดูมีความศักดิ์สิทธิ์ น่าเคารพและศรัทธา เมื่อลองจินตนาการว่า หากพรมผืนนี้ถูกวางอยู่ในห้องที่เหมาะสมอย่าง ห้องพระ คงจะเสริมให้บรรยากาศห้องรู้สึกถึงความสงบนิ่งและเป็นห้องที่เคารพและเลื่อมใสอยู่ไม่น้อย

ห้อง Ancient Textile Room

พรมเปอร์เซียร์โบราณภายในห้อง Ancient Textile Room

 

นอกจาก 3 ไฮไลต์ที่สำคัญที่ได้กล่าวไป ห้องอื่น ๆ ยังถูกเนรมิตให้กลายเป็นมุมโปรดภายในบ้าน ราวกับเดินอยู่ในอาร์ตแกลอรี่และศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์ ที่สร้างไอเดียตกแต่งบ้านให้ดูมีรสนิยมขึ้นด้วยพรมเปอร์เซีย อย่างห้อง HI – End Audio Room เป็นการจับคู่ระหว่างพรมกับชุดโฮมเธียร์เตอร์แบรนด์ระดับโลกฝั่งทองคำ มูลค่ารวม 5 ล้านบาท ห้องนี้ได้เนรมิตพื้นที่ชมภาพยนตร์ส่วนตัวภายในบ้านได้อย่างลงตัว ด้วยบรรยากาศภายในห้องที่กำลังเปิด Live Concert: Hitman: David Foster And Friends บรรเลงเพลงสดเพราะ ๆ ให้เราสามารถเข้ามานั่งทดลองฟังเสียงคุณภาพได้อย่างสบายอารมณ์ จริง ๆ แล้ว คำว่าสบายอารมณ์ในที่นี้ ผมกำลังจะบอกว่า สบายอารมณ์ทั้งการได้ยิน การมองเห็น และการสัมผัส เพราะถ้าหากเปิดซีดีฟังเพลง ดูวิดิโอ ในห้องสี่เหลี่ยมมืด ๆ คงจะรู้สึกทื่อ ๆ แข็งกระด้างอยู่ไม่น้อย แต่เป็นเพราะศิลปะการจัดวางของพรมเปอร์เซียภายในห้อง ที่ทำให้รู้สึกเป็นได้มากกว่าการฟังเพลงภายในบ้าน คือการจมดิ่งกับพื้นที่แห่งความสบายอย่างแท้จริง

 

มิหน้ำซ้ำ ผมไม่แน่ใจว่าถ้าพูดสิ่งต่อไปนี้จะดูโอเวอร์ไปหรือเปล่า…ผมยังรู้สึกว่า พรมเปอร์เซียช่วยขับเสียงเพลงให้เพราะได้มากขึ้น ความพริ้วไหวของลายเส้นบนพรมกับความพริ้วไหวของเสียงบวกกับความนุ่มของเนื้อผ้าของพรม ทั้งหมดคือ ความสบายอารมณ์ทั้งการมองเห็น การได้ยินและการสัมผัสที่ผมกำลังนิยามห้องนี้

 

อย่างที่เขาว่ากันว่า ช่วงเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ เพราะเผลอนั่งแปปเดียว Live Concert  ได้จบ เมื่อนั้นผู้ดูแลนิทรรศการได้เสนอให้ผมทดลองนั่งฟังเสียงคุณภาพของเครื่องเสียงในรูปแบบอื่น ๆ โดยการเปิดภาพยนตร์จีนที่มีเสียงกระหึ่ม ซึ่งโทนเสียงย่อมแตกต่างที่ฟังเพลงก่อนหน้า ภาพยนตร์จีนทำให้ชุดเครื่องเสียงได้แสดงถึงศักยภาพในตัวเองออกมา เรารับรู้ได้ดีว่า นี่คือชุดโฮมเธียร์เตอร์มีคุณภาพ แม้ไม่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องเสียง มากไปกว่านั้นคือ แม้ Live Concert เปลี่ยนเป็นภาพยนตร์ แม้เสียงเพลงเปลี่ยนเป็นเสียงเอฟเฟคหมัดในฉากต่อสู้ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยน คือพรมเปอร์เซียในห้อง แต่เชื่อหรือไม่ว่า ความรู้สึกที่เรามีต่อพรมเมื่อตอนฟัง Live Concert กับตอนชมภาพยนตร์จีนให้ความรู้สึกแตกต่างกัน ราวกับมีใครสักคนมาเปลี่ยนพรมผืนก่อนหน้าออกไปและใส่ผืนใหม่เข้ามาแทน คือ เปลี่ยนจากความรู้สึกอ่อนไหวและนุ่มนวลเป็นความรู้สึกเท่ส์และรู้สึกถูกสวมบทบาทเป็นเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ตามลักษณะภาพยนตร์ พูดอย่างไม่อ้อมค้อมคือ ผมรู้สึกว่าพรมให้ความรู้สึกที่แตกต่างอย่างหลากหลาย นี่อาจเป็นสิ่งที่ผู้จัดนิทรรศการได้คิดวางแผนมาแล้วว่าจะนำพรมนี้มาวางไว้ในห้อง HI – End Audio Room เพื่อให้พรมทำหน้าที่ของมันอย่างดีที่สุด

 

ณ จุดนี้ผมอินหนักมาก…

 

ในการใช้งานเชิงกายภาพจะเห็นได้ว่าพรมที่วางบนด้านหน้าจอโทรทัศน์และพรมติดผนังซ้าย – ขวา สามารถเป็นเฟอร์นิเจอร์ตบแต่งห้องโฮมเธียร์ที่ใช้ปิดบังแผ่นซับเสียงได้อย่างสวยงามและเสริมให้ห้องมีความรู้สึกอบอุ่นและดูมีระดับมากยิ่งขึ้น อดคิดไม่ได้ว่าหากสามารถยกห้อง HI – End Audio Room ไปวางที่บ้าน นอนเล่นบนพรม ชมภาพยนตร์กับครอบครัวในวันหยุดสุดสัปดาห์คงจะเป็นวันที่พิเศษที่สามารถหาได้ง่าย ๆ จากภายในบ้าน

ห้อง HI – End Audio Room

ห้อง Motorbike Room

 

ข้ามฝั่งมาที่ ห้อง Motorbike Room ที่จำลองโรงรถติดแอร์ให้กับคันหรูคู่ใจภายในบ้าน โดยนำพรมเปอร์เซียลายวิจิตร มูลค่า 3.5 ล้าน ซึ่งมีเรื่องราวคือเป็นพรมที่ครัวเรือนชุมชนรายได้น้อยในอิหร่าน ถักทอด้วยมืออย่างละเอียดในระดับมิลลิเมตร สีย้อมจากธรรมชาติ อย่างสีเขียวได้มาจากการสกัดด้วยผัก และสีขาว/ ครีม ได้มาจากการสกัดด้วยกระดูกสัตว์ เป็นต้น โดยนำมาตกแต่งคู่กับมอเตอร์ไซค์คันหรูแบรนด์ Royal Enfield ช่วยเสริมความเท่ เฉี่ยวให้กับทั้งรถและทั้งโรงรถ

 

ห้อง Furniture Room การจับคู่ระหว่างโต๊ะกลางโซฟา/ โต๊ะกาแฟ กว่า 5 ผลงาน ที่ทำจากทั้งไม้ เหล็ก กระจก ที่นำเล่าใหม่ผ่านการออกแบบโต๊ะกลางโซฟาโมเดิร์นขึ้นกว่าที่เคยเป็น รับกับพรมเปอร์เซียผืนงาม 3 ผืน ราคาราว 3.5 แสนต่อผืน แม้พรมผืนในห้องนี้จะมีราคาไม่สูงเท่าห้องอื่น ๆ ก่อนหน้า แต่นักสะสมอธิบายว่า

 

“หากมีสิ่งให้เลือกของระหว่างพรมเปอร์เซียร์ในห้องนี้กับรถ Porsche เขาจะเลือกพรมอย่างไม่ลังเล เนื่องจากพรมเปอร์เซียร์โบราณที่ด้วยมือสวยงามขนาดนี้ รายละเอียดวิิจิตรศิลป์คงความเป็นเอกลักษณ์ชาวเปอร์เซียร์ครบถ้วน และไม่มีรอยตำหนิอย่างผืนเหล่านี้ จนตายก็คงหาไม่ได้อีกแล้วบนโลก!”

ห้อง Models Room และห้อง Celebrity Carpets Room ที่เปิดโอกาสให้ผู้มาร่วมงานได้เข้ามาถ่ายรูปกับพรมเปอร์เซียผืนสวยที่ถูกรวบรวมไว้กว่าอีก 10 ผืน ในสไตล์ห้องแขกภายในบ้านที่มีการตบแต่งสถาปัตยกรรมภายในให้บรรยากาศอยู่ในยุครุ่งเรืองของศิลปะในยุโรปอย่างโซฟาหลุยส์ สไตล์วินเทจ แชมเปญที่วางเรียงบนโต๊ะไม้คอนโซล และเครื่องเสียง High – End แบรนด์ Fyne audio และ Chrod มูลค่ารวม 3 ล้านบาท ที่เปิดบรรเลงเพลงออเครสต้าสร้างความรู้สึกอันมีรสนิยมในขณะที่กำลังเดินชมลายของพรม

 

สุดท้ายสำหรับ ห้อง Curator Room เป็นห้องที่รวบรวมพรมเปอร์เซียร์อีกหลากแบบหลากสีของเหล่านักสะสมที่ไม่ได้ถูกจัดแสดงในแต่ละห้องที่กล่าวมา และใช้เป็นห้องสำหรับเจรจาระหว่างผู้มาร่วมงานที่ต้องการพูดคุยรายละเอียดจับจองเป็นเจ้าของพรมเปอร์เซียร์หายากกับเหล่านักสะสม

ห้อง Models Room

ห้อง Celebrity Carpets Room

ห้อง Curator Room

 

โดยนิทรรศการ Bangkok Persian Carpet Exhibition 2019 จะจัดระหว่างวันที่ 17 ตุลาคม – 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ณ ศูนย์การค้าริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ชั้น 3 ตั้งแต่เวลา 11.00 – 20.00 น. สามารถเดินเข้ามาชมได้ทุกวัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถสอบถามเพิ่มเติมรายละเอียด ได้ที่:

 

คุณฮาเล่ – เบญจมินทร์ ปันสน – ผู้ดูแลนิทรรศการ Bangkok Persian Carpet Exhibition 2019

คุณเอิง – กานต์กนิษฐ์ อิ่มมณี – ผู้ดูแลนิทรรศการ Bangkok Persian Carpet Exhibition 2019

(063-787-0867)

คุณล่า – ผู้ดูแลประจำห้อง Ancient Textile Room

(086-347-4941)

คุณเอ – จิตรกร มงคลธรรม – นักสะสมพรมเปอร์เซียร์และเปียโนโบราณ
(064-564-6695)

คุณบอล – โสฬส ธรรมเภตรารักษ์ ประธานบริหาร บริษัท ลิฟวิ่ง ซาวด์ (ประเทศไทย) จำกัด (081-852-1771)

 

อ้างอิง

https://multimillionairethailand.com

www.artondafloor.com

นฤชิต นันทจันทร์

นฤชิต นันทจันทร์

นักการตลาดหน้าใหม่ ผู้ก่อตั้ง GALES MEDIA (galesmedia.com) ผู้ชื่นชอบการแชร์ประสบการณ์ในมุมมองที่แตกต่าง จากการติดตามเทรนด์ใหม่ ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม (F&B Industry) รวมถึงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อนำมาแชร์ต่อกับสังคมไทย

เว็บไซต์

ศุภาลัย พรีเมียร์ สามเสน-ราชวัตร

โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์

นิว เวิร์ส กรุงเทพกรีฑา

ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาต้องบอกว่าย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม...

28 February, 2024

นิว ซี-สแควร์ สวนหลวง สเตชั่น

ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านมาพบกับโครงการคอนโดพร้อมอ...

30 January, 2024

ริธึ่ม เจริญนคร ไอคอนิค

วันนี้จะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับคอนโดมิเนียมสุดฮอตชื่อโ...

29 January, 2024

วิสซ์ดอม คราฟท์ สามย่าน

Whizdom Craftz Samyan คือโครงการที่มอบ 5 องค์ประกอบพ...

4 December, 2023

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง