นางสาวโฉมชฎา กุลดิลก หัวหน้าสายงานกลยุทธ์แบรนด์ และสื่อสารองค์กร SC Asset ได้กล่าวถึงการเป็นผู้สนับสนุนหลักของโครงการนี้ว่า “ในฐานะที่ SC Asset เป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เวลาเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของย่าน เราก็อยากพัฒนาให้ย่านนั้นดีขึ้นและเติบโตไปด้วยกัน เราเชื่อว่าในการดูแลเรื่องความยั่งยืนควรเริ่มจากระบบนิเวศที่เราตั้งอยู่ก่อน เพื่อให้เกิดการช่วยเหลือเกื้อกูล และสนามกีฬาก็เป็นพื้นที่ที่ทำให้ผู้คนได้ออกมาใช้เวลาร่วมกัน แม้จะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เราตั้งใจอยากส่งมอบพื้นที่สาธารณะเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพ อยากให้คนรอบๆ ย่านลองออกมาใช้เวลากับสนามเหล่านี้ดู”

“ส่วนตัวรู้ว่ากัปตันซึบาสะเป็นหนึ่งในป๊อปคัลเจอร์ที่เด็กยุค 90 รู้จักกันหมด เป็นการ์ตูนที่พูดถึงความฝันและไม่ยอมแพ้ในการต่อสู้ ในฐานะคนทำแบรนด์เราชอบเรื่องราวเหล่านี้ และโครงการนี้เน้นพัฒนาให้เด็กๆ ออกไปใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในพื้นที่สาธารณะ โดยไม่ต้องจ่ายเงินอะไรเลย เป็นอีกบทบาทหนึ่งที่ภาคเอกชนควรช่วยกันทำให้เกิดขึ้นและควรมีส่วนร่วม”

โครงการนี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง SC Asset ผู้สนับสนุนหลักของโครงการ และThink Curve – คิดไซด์โค้ง ซึ่งมีความมุ่งมั่นตั้งใจอยากจะพัฒนาพื้นที่สาธารณะรอบโครงการอสังหาริมทรัพย์ของ SC Asset

ผ่านการปรับปรุงสนามฟุตบอล 4 แห่ง ได้แก่ สนามกีฬาปิ่นเจริญ เขตดอนเมือง, สนามกีฬาสวนสมเด็จสราญราษฎร์มณีรมย์ เขตห้วยขวาง, สนามกีฬาสามัคคี เขตหนองแขม และสนามกีฬาเคหะร่มเกล้า เขตลาดกระบัง

ซึ่งมีไฮไลท์การนำลายเส้นการ์ตูนดังระดับตำนาน ‘กัปตันซึบาสะ’ (Captain Tsubasa) มาตกแต่งบนพื้นสนาม เพื่อสร้างแรงบันดาลใจจากเรื่องราวของคาแรกเตอร์นักฟุตบอลที่มุ่งมั่นไล่ตามความฝันในการนำพาทีมฟุตบอลญี่ปุ่นไปไกลถึงระดับโลก โดยทุกภาพได้รับมาอย่างถูกลิขสิทธิ์จากต้นสังกัดที่ประเทศญี่ปุ่น

ทางด้าน นายกฤติกร ธนมหามงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท คิดไซด์โค้ง จำกัด ขยายความเพิ่มเติมว่า “กัปตันซึบาสะคือการ์ตูนที่สร้างความฝันอันยิ่งใหญ่ให้กับคนทั้งประเทศญี่ปุ่น จนทำให้วงการฟุตบอลญี่ปุ่นเติบโตจนกลายเป็นทีมระดับโลกได้ เนื้อเรื่องพยายามผูกให้กัปตันซึบาสะและคาแรกเตอร์หลายๆ ตัว ก้าวข้ามอุปสรรคมากมาย จนกลายเป็นนักฟุตบอลระดับโลกที่ได้ไปเล่นกับทีมในยุโรป ผมมองว่าแรงบันดาลใจเหล่านี้สามารถถ่ายทอดมาสู่เด็กไทยได้ คิดไซด์โค้งเป็นสื่อและเอเจนซี่สายฟุตบอล เราอยากเห็นวงการฟุตบอลไทยเติบโตขึ้น จึงทำโครงการนี้เพื่อให้เด็กๆ ตามชุมชนต่างๆ มีสนามที่ดีในการเล่นฟุตบอลมากขึ้น”