SC ก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ประกาศวิสัยทัศน์ธุรกิจ SC the Evolution “สร้างคุณค่าสู่คนและโลก เติบโตบนความหลากหลาย” มั่นใจกวาดรายได้รวม รวม 5 ปี 150,000 ลบ. ปี 2567 ตั้งเป้ายอดขายนิวไฮ 28,000 ลบ. และ ทุ่มงบลงทุนกว่า 25,000 ลบ. พร้อมลุยธุรกิจหลากหลาย ที่อยู่อาศัย โรงแรม คลังสินค้า ออฟฟิศ
เกริก บุณยโยธิน
08 February, 2024 at 10.49 am
“ทุกชีวิตเริ่มต้นขึ้นมาจากเช้าที่ดี – For Good Mornings” ประโยคดังกล่าวคือ Brand Belief ที่แข็งแกร่ง ชัดเจนมากที่สุดของ SC Asset นับตั้งแต่ที่ทางคุณพงศ์ ก้าวขึ้นมาเป็นหัวเรือใหญ่ของบริษัทฯ อีกทั้งยังเป็นกลจักรสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้ทะยานไปข้างหน้าได้จนก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 3 เข้าไปแล้ว โดยปี 2566 ที่ผ่านมาเป็นอีกปีที่ SC Asset ทำผลงานได้นิวไฮต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 จากเครื่องยนต์ 1 ซึ่งเป็นกลจักรสำคัญหลักอย่างธุรกิจอสังหาฯเพื่อขายครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากโครงการแนวราบในกลุ่ม High End ขึ้นไปนี่คือ SC Asset ปูพรมกวาดเรียบใน Strategic Location หลักทั่วกรุงเทพฯเลย ในขณะที่คอนโดแม้ว่าจะเปิดน้อยเพียงแค่ COBE 2 ตัว แต่ก็นับว่าสร้างเสร็จโอนเยอะใช้ได้ และมีมูลค่าโครงการสูงพอสมควรจากทั้ง The Crest และ SCOPE แน่นอนว่าในปีนี้เราได้เห็นยอดโอนที่เพิ่มมากขึ้นจาก SCOPE ที่ทองหล่อแน่ๆ โดยที่ตัวคอนโดก็ยังมี Plan ว่าจะเปิดแบรนด์ Reference ซึ่งเป็น Stylish Brand ที่ได้ใจคนเจนใหม่มากๆอีก 2 ที่คือเอกมัย และอีกที่นึง เช่นเดียวกับแนวราบที่แบรนด์สุดหรูอีกตัวอย่าง “Connoisseur” (คอนนาเซอร์) ราคาเริ่มต้น 80 ลบ. บนทำเลพัฒนาการรวมถึงการพัฒนาบ้านที่จัดกลุ่ม Lifestyle เฉพาะบนคอนเซปท์การออกแบบ #OneSizeDoesNotFitAll ทั้งในแบบ Introvert และ Extrovert อีก ทางบริษัทฯจึงค่อนข้างมั่นในว่าปีนี้หากดูในเชิงรายได้รวมก็น่าจะไปดีกว่าปีที่ผ่านมาแล้ว แต่ในปีนี้ต้องบอกว่าอาวุธลับของ SC Asset คือ Engine ที่ 2 ซึ่งเป็นธุรกิจสร้างรายได้ประจำในแบบ Recurring Income นี้ล่ะครับ เพราะเค้าได้ลงทุนพัฒนาเสร็จเรียบร้อยในหลายที่แล้ว พร้อม Book Revenue อย่างเต็มที่เลย ทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด ไปจนถึง Boston เราไปดูรายละเอียดจากโพสนี้เลยครับ
“…27,945 ลบ. เป็นตัวเลขของยอดขายปีที่ผ่านมาของ SC Asset จากยอดขายเริ่มต้นเพียงแค่ประมาณ 700 ลบ. เมื่อตอนเพิ่งเข้าตลาดฯ กาลเวลาผ่านมา 20 ปีเราผ่านสารพัดวิกฤตมาเยอะด้วยความแข็งแกร่งมากขึ้น มาสู่ทศวรรษที่ 3 ซึ่งเป็นอีก 10 ปีที่ผมอยากจะเรียกว่าเป็น The Evolution Era ซึ่งเป็นยุคที่มีเทคโนโลยีเป็นตัวเร่งให้เกิดเป็น Ripple Effect ทั้งในแง่บวกและลบไปทั่วโลก ดังนั้นการจะทำให้บ.โตอย่างยั่งยืนได้ จำเป็นต้องสร้างคุณค่าต่อคนรอบด้าน และสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นวิวัฒนาการที่วำคัญของเราในยุคที่ 3 ซึ่งเปรียบเสมือนการเติบโตแบบต้นไม้ใหญ่ที่มีรากฐานแข็งแกร่ง แต่มีกิ่งก้านสาขามากมาย โดยที่กิ่งก้านนั้นๆไม่ทำอันตรายและไปรบกสนกับสิ่งแวดล้อม…”นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
สำหรับวิสัยทัศน์ SC the Evolution จะเน้นไปในเรื่องของการสร้างคุณค่าสู่คนและโลก เพื่อการเติบโตบนความหลากหลาย ผ่านแนวคิดวิวัฒนาการองค์กร ปรับตัวเข้ากับบริบท เติบโตพร้อมกันทั้งสามด้าน คือ People ลูกค้ามีคุณภาพชีวิตดีด้วยสินค้า-บริการคุณภาพสูง และมีนวัตกรรม พนักงานเติบโต มั่นคง ภูมิใจ แสดงศักยภาพได้เต็มที่ Planet สิ่งแวดล้อมน่าอยู่ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และ Profit กำไรเติบโต จากธุรกิจที่หลากหลาย โดยมีการกำหนดเป้ายอดขายในปี 2567 นี้ที่นิวไฮ 28,000 ลบ. แบ่งเป็นแนวราบ 65% แนวสูง 35% และ รายได้รวม 26,500 ลบ. จากธุรกิจหลากหลาย ทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย แนวราบ-แนวสูง (engine 1) และธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ (engine 2) บนมูลค่าการลงทุนทั้งหมด 25,000 ลบ. ในหลากหลายธุรกิจ ที่อยู่อาศัย คลังสินค้า โรงแรม อาคารสำนักงาน โดยมีจำนวนโครงการรวมทุกธุรกิจมากถึง 103 โครงการ
นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูง และมีนวัตกรรม เผยความสำเร็จปี 2566 SC ทำยอดขายนิวไฮ 4 ปีต่อเนื่อง พร้อมประกาศทิศทางขับเคลื่อนธุรกิจและองค์กร ดังนี้
1. ก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ด้วยวิสัยทัศน์ SC the Evolution
สร้างคุณค่าสู่คนและโลก เติบโตบนความหลากหลาย ผ่านแนวคิดวิวัฒนาการองค์กร ปรับตัวเข้ากับบริบท เติบโตพร้อมกันทั้งสามด้าน คือ People ลูกค้ามีคุณภาพชีวิตดีด้วยสินค้า-บริการคุณภาพสูง และมีนวัตกรรม พนักงานเติบโต มั่นคง ภูมิใจ แสดงศักยภาพได้เต็มที่ Planet สิ่งแวดล้อมน่าอยู่ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และ Profit กำไรเติบโต จากธุรกิจที่หลากหลาย
2. ทิศทางธุรกิจ 5 ปี (2567-2571) บนความหลากหลาย
มหาศาล : สร้างรายได้รวม (portfolio revenue) รวม 5 ปี (2567-2571) จากหลากหลายธุรกิจมากกว่า 150,000 ลบ.
มั่นคง : ลงทุนอย่างเหมาะสม เพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยรักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนทุน D/E น้อยกว่า 1.5
สมดุล : ส่วนผสมกำไร จากธุรกิจที่หลากหลาย โดยมีกำไรจากธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ (engine 2) มากกว่า 25%
3. เป้าหมาย และ แผนธุรกิจ ปี 2567
– ตั้งเป้ายอดขายนิวไฮ 28,000 ลบ. แบ่งเป็น แนวราบ 65% แนวสูง 35% และ รายได้รวม 26,500 ลบ. จากธุรกิจหลากหลาย ทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย แนวราบ-แนวสูง (engine 1) และธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ (engine 2)
– มูลค่าการลงทุนทั้งหมด 25,000 ลบ. ในหลากหลายธุรกิจ ที่อยู่อาศัย คลังสินค้า โรงแรม อาคารสำนักงาน
– มีจำนวนโครงการรวมทุกธุรกิจมากถึง 103 โครงการ
Engine 1 – ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย
ปี 2567 SC จะมีโครงการเพื่อขายทั้งสิ้น 86 โครงการ มูลค่ารวม 91,000 ลบ. เปิดโครงการใหม่รวม 17 โครงการ มูลค่ารวม 30,000 ลบ. แบ่งเป็น
โครงการใหม่ แนวราบ 15 โครงการ มูลค่า 25,000 ลบ. โดยมีไฮไลท์แบรนด์ใหม่ชื่อ “Connoisseur” (คอนนาเซอร์) ราคาเริ่มต้น 80 ลบ. และ บ้านไลฟ์สไตล์เฉพาะ #SCบ้านIntrovert และ #SCบ้านExtrovert
โครงการใหม่ แนวสูง 2 โครงการ มูลค่า 5,000 ลบ. ภายใต้ แบรนด์ Reference
นอกจากนี้ SC พร้อมส่งมอบนวัตกรรม เช่น เทคโนโลยีติดตามดูแลความปลอดภัยด้วยระบบ Command Centre และ เทคโนโลยีอัจฉริยะ ผ่าน RueJai Intelligence และยกระดับประสบการณ์ด้วยกิจกรรมที่คัดสรรและออกแบบมาพิเศษผ่าน utility token Morning Coin
