LPN พลิกโฉมที่อยู่อาศัยในย่านธุรกิจใหม่รองรับดีมานด์ “คูคต” ผุดแบรนด์ HAUS 24 KHUKHOT STATION บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดสองชั้นซีรีส์ใหม่ สไตล์โมเดิร์น ในราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาท* พร้อมชมบ้านตัวอย่างแล้ววันนี้
บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาที่พักอาศัยคุณภาพที่มาพร้อมกับความน่าอยู่ ในทุกมิติ เพื่อยกระดับรูปแบบการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดมามากกว่า 34 ปี ล่าสุด! เปิดโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดแบรนด์ใหม่ “เฮ้าส์ 24 คูคตสเตชั่น” (HAUS 24 KHUKHOT STATION) ไปเป็นที่เรียบร้อย ตอบรับดีมานด์ที่อยู่อาศัยในย่านธุรกิจใหม่ ‘คูคต’ ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ที่สนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจาก โครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีคูคตเพียง 3 กิโลเมตร มั่นใจกับคุณภาพงานก่อสร้างภายใต้แนวคิด ‘น่าอยู่’ ตามมาตรฐาน LPN ผ่านแกนหลัก 5 C (Comfort, Convenience, Care for well-being, Care the planet และ Community & Social) ลงตัวกับฟังก์ชันการใช้งานบนพื้นที่ใช้สอยที่เป็นสัดส่วนตอบรับทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยได้หลากหลายรูปแบบ และมอบความเป็นส่วนตัวให้ผู้อยู่อาศัยอย่างครบครัน ในราคาเริ่มต้น 5 ล้านเศษ* (บ้านเดี่ยว) เปิดให้ชมบ้านตัวอย่างแล้ววันนี้ พร้อมพบกับโปรโมชั่นบ้านเดี่ยวราคาพิเศษ พร้อมส่วนลดและของแถม มูลค่ากว่า 6 แสนบาท*
สำหรับช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2566 LPN ยังคงเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม อย่างต่อเนื่องเพื่อดันยอดขายให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยในปีนี้เปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 12 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ “168” ที่เจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการบ้านระดับพรีเมี่ยม และแบรนด์ “24” ที่เจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อบ้านหลังแรก ขยายครอบครัวในราคาที่คุ้มค่า (Affordable Price) ล่าสุด! เปิดตัวแบรนด์ใหม่ HAUS 24 ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่อยู่อาศัยในระดับ ราคา 4 – 7 ล้านบาท โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ หรือผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยคุณภาพเพื่อขยายครอบครัว โดยโครงการมีแบบบ้านให้เลือกทั้งบ้านเดี่ยว และบ้านแฝด ที่อัดแน่นด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและฟังก์ชันการใช้งานอย่างครบครัน
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) เล่าถึงที่มาของแบรนด์ใหม่ว่า “HAUS” ซึ่งมีความหมายว่า ‘บ้าน’ คำสั้นๆที่ทำให้ทุกคนรู้สึกอบอุ่น และมีความสุขได้ตลอด 24 ชม. เพราะ บ้าน เป็นที่ที่ทุกคนในครอบครัวมาอยู่ร่วมกันแชร์ทุกช่วงเวลาดีๆ ในทุกวัน มีความรัก ความผูกพัน ไม่จำเป็นต้องใหญ่โต หรูหรา แต่เป็นบ้านที่เข้าใจความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้อย่างแท้จริง นั่นจึงเป็นที่มาของแบรนด์ HAUS 24 ที่ถอดสมการจากความต้องการของผู้อยู่อาศัย จนพัฒนากลายมาเป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ซีรีส์ใหม่ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความสุขตลอด 24 ชม. บนพื้นที่ใช้สอย และฟังก์ชันการออกแบบที่ช่วยเติมเต็มคำว่าบ้านได้อย่างสมบูรณ์แบบ ให้กับสมาชิกทุกคนในครอบครัว”
“ปัจจุบันแบรนด์ HAUS 24 เปิดขายแล้วใน 5 ทำเลศักยภาพ ได้แก่ HAUS 24 KHUKHOT STATION / HAUS 24 RATCHAPHRUEK / HAUS 24 WESTGATE / HAUS 24 KAEW IN และ HAUS 24 BANGYAI โดย LPN มีแผนการพัฒนาโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ HAUS 24 และ VENUE 24 ในปี 2567 บนทำเลศักยภาพต่างๆ เพื่อตอกย้ำความสำเร็จของโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดคุณภาพที่ตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยในทุกเจเนอเรชัน” นายโอภาส กล่าวเพิ่มเติม
“จากข้อมูลการสำรวจโดย บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด (LWS) บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท แอล.พี. เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) ระบุว่า กำลังซื้อในทำเล “คูคต” เป็นทำเลที่มีกำลังซื้อโดยประชากรในพื้นที่ประมาณ 240,000 คน และมีประชากรแฝง 6% หรือประมาณ 14,400 คน เป็นกลุ่มประชากรที่มีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 40,000-200,000 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน ที่มีรายได้หลักจากการเป็นพนักงานบริษัท และ เจ้าของกิจการ ซึ่งมีกำลังซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคาตั้งแต่ 2-10 ล้านบาท โดยรูปแบบที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมเป็นบ้านพักอาศัยในกลุ่มบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ที่มีขนาด 3-4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอยระหว่าง 120-220 ตารางเมตร ในระดับราคาตั้งแต่ 3 ล้านบาทและไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อหน่วย บนที่ดินตั้งแต่ 42-55 ตารางวา โดยกลุ่มผู้ซื้อส่วนใหญ่จะเป็นผู้ซื้อที่อยู่เป็นครอบครัวที่มีสมาชิกหลายวัยทั้งเด็ก วัยทำงานและผู้สูงอายุ นอกจากนี้ จากการสำรวจยังพบว่า ปริมาณบ้านพักอาศัยที่เหลือขายในทำเลคูคต เทียบกับความต้องการซื้อในทำเลนี้เมื่อเทียบกับทำเลอื่นๆ ยังมีความต้องการที่สูงกว่าปริมาณบ้านพักอาศัยที่มีอยู่ในตลาด โดยเฉพาะความต้องการบ้านแฝดและบ้านพักอาศัย ในระดับราคาที่จับต้องได้ (Affordable Price) เนื่องจากราคาที่ดินยังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับทำเลอื่นๆ ผนวกกับระบบคมนาคมและสิ่งอำนวยความสะดวกในทำเล จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในการพัฒนาโครงการในทำเลนี้และผู้ซื้อที่อยู่อาศัยที่จะได้ที่อยู่อาศัยในระดับราคาที่จับต้องได้ ในทำเลศักยภาพ” นายโอภาส กล่าวเสริม