สัมผัสความสมบูรณ์แบบของความงามในสไตล์ Modern French Renaissance ที่ NARASIRI PHAHOL – WATCHARAPOL

NARASIRI PHAHOL – WATCHARAPOL (นาราสิริ พหล – วัชรพล) คือโครงการที่ 2 ภายใต้การกลับมาทำการตลาดใหม่อีกครั้งของแบรนด์ นาราสิริ ที่เป็น แบรนด์สร้างชื่อบ้านเดี่ยวในระดับราคา 50 – 100 ล้านบาท ซึ่งทางแสนสิริได้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามด้วยการ สร้างประวัติศาสตร์ปิดการขายโครงการ “นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา” ในเวลาเพียง 1 เดือน ทุบสถิติปิดการขายบ้านระดับลักซ์ชัวรีของแสนสิริที่รวดเร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์และสร้างประวัติศาสตร์โครงการลักซ์ชัวรีที่ขายดีที่สุดและเร็วที่สุดในเมืองไทย สร้างยอดขายรวม 6,000 ล้านบาท และสามารถสร้างกำไรจากการขายเปลี่ยนมือ (capital gain) ได้สูงถึง 30% ภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน โดยสำหรับการเปิดตัวโครงการนาราสิริ พหลฯ-วัชรพล ในครั้งนี้แม้ว่าจะอยู่กันคนละทำเล และมีสไตล์ของการออกแบบงานสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกัน แต่ก็ยังคงยึดมั่นในแนวทางของการพัฒนาโครงการที่มองนิยามของคำว่า Luxury ว่าไม่ใช่เพียงแค่การเลือกใช้ของที่มีราคาสูงเท่านั้น แต่เป็นวิธีในการคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุด จากความเข้าใจลึกซึ้งในทุกรายละเอียด เพื่อเข้าถึงความงดงามที่สะท้อนผ่านงานดีไซน์ในแบบร่วมสมัยในทุกๆ จุดที่จะคงความโดดเด่นในทุกช่วงเวลา

นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา

และนั่นจึงเป็นที่มาของโครงการ นาราสิริ พหล – วัชรพล บ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ในสไตล์ Modern French Renaissance ที่ถ่ายทอดแรงบันดาลใจการออกแบบจากความงดงามยุครุ่งเรืองฝรั่งเศสในทุกๆ รายละเอียด ที่ผสานระหว่างความคลาสสิกและโมเดิร์นในยุคสมัยใหม่ ตั้งแต่ดีไซน์การออกแบบงานสถาปัตยกรรมระดับเวิลด์คลาสของฝรั่งเศส ตลอดจนการตั้งชื่อแลนด์มาร์คสำคัญในโครงการ ซึ่งก็แน่นอนว่าแนวทางการออกแบบในสไตล์นี้ก็ยังคงได้รับผลตอบรับที่ดีเช่นเคย โดยมียอดขายล่วงหน้าจากรอบลูกค้า VIP แล้วกว่า 1,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์ จากกระแสความต้องการบ้านเดี่ยวระดับบนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องของกลุ่มลูกค้า HNWI จนทำให้ต้องมีการขยายเปิดเฟสใหม่เพิ่ม

โดยโครงการนาราสิริ พหล – วัชรพล ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพ อย่าง พหลโยธิน – รามอินทรา เรียกได้ว่าเป็นทำเลที่มีผู้คนอยู่อาศัยอย่างหนาแน่นมาอย่างยาวนาน เมื่อมีการพัฒนาในด้านของการเดินทางที่มีความสะดวกแล้ว ยังทำให้ราคาและความต้องการที่ดินในทำเลพหลโยธิน – รามอินทรา พุ่งขึ้นสูงตามไปด้วย ปัจจุบันในทำเลนี้ก็ถูกเติมเต็มด้วยโครงการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว และสายสีชมพู ทำให้ผู้คนย่านนี้จะเดินทางคล่องแคล่วขึ้นเป็นอย่างมากและยังเดินทางเชื่อมต่อย่านอื่นได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ส่วนใครที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็สามารถใช้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และทางด่วนจตุโชติ ไปถึงย่าน CBD ในกรุงเทพฯ ได้โดยง่าย รวมถึงทำเลนี้ยังมีแหล่งไลฟ์สไตล์และแฮงค์เอ้าท์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Central Eastville , CDC, The Crystal, The Promenade ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณในทุกรูปแบบ ทำเลตรงนี้จึงเหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการมีไลฟ์สไตล์อยู่ในย่านนี้ รวมไปถึงคนที่ต้องทำงานในแหล่งงานอย่างแจ้งวัฒนะ หลักสี่ ดอนเมือง เกษตร และลาดพร้าว นั่นเอง

ปัจจุบัน โซนวัชรพล มีราคาที่ดินพุ่งถึง 40% ในรอบ 5 ปี และยังคงมีดีมานด์บ้านลักซ์ชัวรี่ต่อเนื่อง นาราสิริ พหล – วัชรพล จึงเป็นโครงการที่พร้อมรังสรรค์ที่อยู่อาศัยให้เชื่อมโยงทั้งรสนิยมและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเข้าด้วยกันอย่างเหนือระดับ ด้วยความพิถีพิถันในทุกรายละเอียด เป็นโครงการแรกในย่านนี้ ไม่เพียงเท่านั้นบริเวณโดยรอบโครงการยังมีดีเวลลอปเปอร์จับจองที่ดินในทำเลนี้กันไปเยอะแล้ว ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมก็มีให้เห็นหลายโครงการ และบ้านเดี่ยวราคาแพงก็น่าจะทยอยพัฒนาตามกันมาในอนาคต เนื่องจากที่ดินแปลงใหญ่ๆ เหลือน้อยลงและมีราคาแพง จากการมาของรถไฟฟ้าใกล้เคียงทั้ง 2 สาย คือสายสีเขียวและสายสีชมพู จึงทำให้ทำเลนี้มีความคึกคักเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว ซึ่งหากเปรียบเทียบในโซนเดียวกัน จะพบว่าที่นี่เป็นโครงการเพียงแห่งเดียวที่วางเซกเมนท์ราคาให้อยู่ในระดับ 35 – 90 ล้านบาท มีรายละเอียดและการออกแบบ Space ที่พิเศษกว่า จึงไม่แปลกที่ระดับราคาของบ้านในโครงการนาราสิริ พหล – วัชรพล เรียกได้ว่าสูงกว่าตลาดในโซน ดังนั้นจึงมีคู่แข่งทางตรงไม่เยอะ และกระจายตัวอยู่บริเวณช่วงวงแหวนกาญจนาภิเษก – รามอินทรา รวมถึงย่านเลียบด่วนมากกว่า โดยที่โครงการอื่นๆส่วนมากจะมีขนาดและราคาที่ชนกับบ้าน Manoir No. 3 – Manoir No. 4  มากกว่า

ในด้านการเข้า-ออกโครงการ สามารถใช้เส้นทางถนนเทพรักษ์เพื่อเข้าสู่บริเวณด้านหน้าโครงการได้เลย โดยถนนเทพรักษ์เป็นทำเลแห่งความเจริญใหม่ เชื่อมต่อหลายเส้นทาง ใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย ทางด่วนวงแหวนรอบนอกและมีส่วนต่อขยายถนนในอนาคต อีกทั้งเส้นทางนี้ยังสามารถเชื่อมต่อไปยังสนามบินดอนเมืองได้ และยังมีเส้นทางอื่นที่สามารถเดินทางมายังโครงการได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นจากถนนวัชรพล และถนนสุขาภิบาล 5 พร้อมทั้งยังแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบ ไม่ว่าจะเป็น ทางด่วน ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา และโรงพยาบาลชั้นนำมากมาย อาทิ ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ 3.9 กม., โรงเรียนนานาชาติกีรพัฒน์ 6.1 กม., โรงพยาบาลสินแพทย์ 7.2 กม., Central Eastville 10.4 กม. และ สนามบินดอนเมือง 17.5 กม. และในอนาคตจะมีเส้นทางใหม่เข้าถึงโครงการได้อีก คือ ถนนเชื่อมถนนสุขาภิบาล 5 (ถนนรัตนโกสินทร์สมโภช) กับถนนนิมิตใหม่ ระยะทาง 9 กิโลเมตร แบ่งการก่อสร้างเป็น 2 ช่วง ประกอบด้วย ช่วงที่1 จากถนนเทพรักษ์(ถนนข้างบิ๊กซีสะพานใหม่) ถึงถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก เป็นถนนขนาด 6 ช่องจราจร ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร และช่วงที่2 จากถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก-นิมิตใหม่ เป็นถนนขนาด 8 ช่องจราจร ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร

3 ปรัชญาหลัก ภายใต้ Sansiri Luxury Collection ที่เชื่อมโยงทั้งรสนิยมและ ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเข้าด้วยกันอย่างเหนือระดับ ด้วยความพิถีพิถันในทุกรายละเอียด

สำหรับโครงการนาราสิริ พหลฯ – วัชรพล นับว่าเป็นหนึ่งใน Sansiri Luxury Collection Portfolio ในกลุ่มบ้านเดี่ยว เคียงคู่กับ บ้านแสนสิริ พัฒนาการ และบูก้าน ซึ่งสะท้อนความสง่างามและทรงคุณค่าของแบรนด์ผ่าน 3 ปรัชญาหลัก ได้แก่ 1.การออกแบบที่ประณีตที่สุด ผสานความร่วมสมัยที่จะคงความโดดเด่นในทุกช่วงเวลา (Sophisticated Design) 2.ความพิถีพิถันในการคัดสรร วัสดุคุณภาพชั้นยอด (State of the art Materials) 3.ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวที่รองรับการใช้ชีวิตละเมียดละไม พร้อมประสบการณ์การพักอาศัยที่เหนือระดับ (Unparalleled Living Experience)

โดยโครงการนี้ได้ถ่ายทอดปรัชญาดังกล่าวออกมาเป็นรูปธรรมด้วยการออกแบบในสไตล์ Modern French Renaissance รวมงานสถาปัตยกรรมเปี่ยมเสน่ห์ ท่ามกลางแรงบันดาลใจจากความงดงามจากยุครุ่งเรืองฝรั่งเศส มีเอกลักษณ์ของงานดีไซน์ที่แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของความร่วมสมัย ที่จะคงความโดดเด่นในทุกช่วงเวลา ซึ่งมีภาพจำคือสังคมชั้นสูง ชั้นเชิงงานศิลปะและสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น และงาน Craftmanship ของชิ้นงานสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าหลายแห่งในปารีส

สำหรับยุค French Renaissance นั้นอาจหมายรวมถึงช่วงสมัยศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นช่วงคาบเกี่ยวกับสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance) ที่เริ่มต้นจากเมือง Florence ในอิตาลี ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 และสิ้นสุดลงในศตวรรษที่ 17 โดยฝรั่งเศสเองก็ได้นำศิลปะวัฒนธรรมจากอิตาลี มาผสมผสานจนเกิดเป็นแบบฉบับของตัวเอง จนเกิดเป็นองค์ประกอบของงานสถาปัตยกรรมที่มีอัตลักษณ์อย่าง Arch Domers หน้าต่างหลังคาทรงโค้ง, Pilaster Gate ซุ้มประตูเสาหิน, ลายหน้าจั่วเเกะสลัก และหลังคาทรงสูงพร้อมช่องหน้าต่างโค้ง ยุคนี้ยังนับว่าเป็นยุคที่ Château หรือปราสาทอันหรูหรา ถูกสร้างขึ้นอย่างดาษดื่นโดยเหล่าคหบดี ชนชั้นสูงเพื่อใช้เป็นที่พักอาศัย แทนที่จะเป็นป้อมปราการสำหรับเจ้าเมืองหรือพระราชาเหมือนในอดีต ซึ่งสะท้อนถึงเรื่องราวของการเข้าสู่จุดสูงสุดทางวัฒนธรรมของฝรั่งเศส เช่นเดียวกับเป็นการแสดงออกถึงความเรืองอำนาจและความรุ่มรวยรสนิยมของเหล่าชนชั้นสูงในปารีส

ซึ่งนาราสิริ พหล – วัชรพล ได้จำลององค์ประกอบของสถาปัตยกรรมเหล่านี้ มาไว้ในทุกอณูของโครงการ ด้วยการถ่ายทอดแรงบันดาลใจการออกแบบจากความงดงามยุครุ่งเรืองฝรั่งเศส ในทุกๆ รายละเอียดที่ผสานระหว่างความคลาสสิกและโมเดิร์นในยุคสมัยใหม่ ตั้งแต่ดีไซน์การออกแบบงานสถาปัตยกรรมระดับเวิลด์คลาสของฝรั่งเศส ตลอดจนการตั้งชื่อแลนด์มาร์คสำคัญในโครงการ ได้แก่ ผังโครงการ ออกแบบให้สอดคล้องกับผังเมืองกรุงปารีส สถาปัตยกรรมและงานประติมากรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ตั้งแต่บริเวณทางเข้าโครงการออกแบบให้มีความสง่างาม Main Gate ที่ดูคล้าย Château อันมีชื่อเสียงของเหล่าคหบดีในปารีส, ประติมากรรมสิงโตมีปีก (Le lion De Victoire) ที่สื่อถึงความก้าวหน้าในด้านธุรกิจและความเจริญรุ่งเรือง, Mini Maison (มินิ เมซอง) หรือล็อบบี้ เลาจน์ พื้นที่นัดพบทางธุรกิจสำคัญโดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปในโครงการ เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน ตลอดจนประติมากรรมงานฝีมือชั้นยอดซึ่งนำเข้าจากยุโรป อาทิ รูปปั้นน้ำพุ กระถางต้นไม้ และเฟอร์นิเจอร์ในสวนส่วนกลาง

Le lion De Victoire

พื้นที่ทางเข้าโครงการดู หรูหรา อ่อนช้อย เปรียบเสมือนดั่งพระราชวังในยุคสมัยนั้น พร้อมประตูแบบ Double Gates

Place Des Deux Lions

Mini Maison เป็นพื้นที่ที่กั้นระหว่างความ Private ของลูกบ้าน กับ Visitor ภายนอกที่มาติดต่อ แรงบันดาลใจมาจากแนวคิด Conservatory (Glass House) เป็นเสมือนบ้านพักเรือนกระจกที่อยู่ในฝรั่งเศส

โดยด้านนอกของตัวอาคารจะมีลักษณะที่เป็น Domers ซึ่งเป็นดีไซน์ที่ปรับมาจากรูปทรงของ Conservatory เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติ

ส่วนของเพดานประกอบด้วยแผ่นเงิน Silver Leave ขนาด 10-15 ซม. ประกอบต่อกัน ทำให้เวลากระทบกับแสงไฟจะเกิดความรู้สึกนุ่ม ละมุน และมีมิติ โดยฝ้าด้านบนจะดูนิ่งและสะอาด ตัดกับ แชนเดอเรีย  ขนาดใหญ่จากอิตาลี ที่เป็นแก้วสี Amber

Private Room ด้านหน้าของขอบประตูห้องเป็นทองเหลืองแท้ และ Wallpaper ของห้องถูกนำเข้ามาจากประเทศอังกฤษ เปรียบเหมือน Garden ที่ช่วยดึงบรรยากาศให้ผู้ใช้งานเหมือนอยู่ใน Glass House

ขณะที่การออกแบบตัวบ้าน ทางโครงการเลือกใช้วัสดุคุณภาพชั้นยอดและการออกแบบที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรสนิยม ผ่านเรื่องราวความสมบูรณ์แบบของความงามในสไตล์ของ Modern French Renaissance ที่นำจุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของอาคารบ้านเรือนในกรุงปารีสในช่วงยุครุ่งเรือง สถาปัตยกรรมภายนอกบ้านโดดเด่นด้วย Façade ที่เป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยประตูไม้บานใหญ่ ภายในบ้านเพิ่มการตกแต่งภายใน โดยใช้องค์ประกอบที่มีความ Over Scale เช่น Grand Stair กลางบ้านขนาดใหญ่ โถงภายในบ้านสูงถึง 7.2 เมตร ถูกออกแบบขึ้นมาเฉพาะสำหรับโครงการนี้ ทำให้มีความโดดเด่นและหรูหรา ตามดีไซน์ของศิลปะในยุคนั้น ตลอดจนการตั้งชื่อบ้านตามแบบฉบับของประเทศฝรั่งเศส

ประตูอลูมิเนียมอัลลอยด์บานใหญ่

Grand Stair

โถง Double Volume สูง 7.20 เมตร

ด้านดีไซน์ภายนอกโดยรวม ทุกหลังจะมี Signature Design ภายนอกที่คล้ายกัน คือ มีงานดีไซน์หลังคาทรงสูง พร้อมช่องหน้าต่างแบบโค้ง การออกแบบ Exterior ของบ้านก็ดีไซน์ในรูปแบบของ Modern Architecture ถอดแบบมาจากยุค French Renaissance ให้มีความทันสมัย และดูหรูหราไปพร้อมๆ กัน ซึ่งความโดดเด่นจะอยู่ที่บริเวณหลังคาที่เป็นแบบทรงสูง ไม่ว่าจะเป็น Unique Arch & Porch, High Roof High Ceiling และ Domer ให้คุณรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปอยู่ในยุค French Renaissance จริงๆ

รายละเอียดโครงการ NARASIRI Phahol – Watcharapol

NARASIRI Phahol – Watcharapol (นาราสิริ พหล – วัชรพล) โครงการบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ 2 ชั้น ประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เปี่ยมด้วยรสนิยมอันสมบูรณ์แบบ เพียงสำหรับ 125 ครอบครัว บนพื้นที่โครงการ 75 ไร่ ใน บนทำเลไพร์มที่ดีที่สุดของย่านพหลโยธิน – วัชรพล กับ 4 รูปแบบบ้าน ที่มาพร้อมกับที่จอดรถในรูปแบบ Double Parking รองรับจำนวนรถได้มากถึง 2 เท่า มีแบบบ้านให้เลือกดังนี้ Manoir No.6  ขนาด 658 ตารางเมตร แบบ 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 4 คัน, Manoir No.5 ขนาด 524 ตารางเมตร แบบ 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 4 คัน,  Manoir No.4 ขนาด 412 ตารางเมตร แบบ 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 3 คัน และ Manoir No.3 ขนาด 347 ตารางเมตร แบบ 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 3 คัน

โดยชื่อเรียกของบ้านแต่ละหลังคือ Manoir (มานัวร์) ที่มีตั้งแต่ No.3 ไปจนถึง No.6 นั้นซึ่งตัวเลขที่อยู่ด้านหลังจะอิงมาจากพื้นที่ใช้สอยของบ้าน อย่างเช่นบ้าน No.6 จะมีพื้นที่ใช้สอย 658 ตารางเมตร

โครงการมาพร้อมพื้นที่ส่วนกลางขนาดกว่า 6 ไร่ แรงบันดาลใจการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์จากพระราชวังแวร์ซาย อาทิ การจัดสวนแบบปาร์แต (Parterre) ที่เน้นการใช้ไม้ตัดแต่งเป็นลวดลายอ่อนช้อยและสมมาตร และสวนสาธารณะตุยเลอรี (Jardin des Tuileries) ในกรุงปารีส แนวต้นไม้ที่ปลูกขนานกันสองฝั่งที่จำลองมาจากถนนฌ็องเซลิเซ่ (Champs-Élysées) โดดเด่นด้วย Pavilion ทรงกลาสเฮาส์ ทำจากเหล็กดัดงานคราฟท์ แรงบันดาลใจจากหอไอเฟล Le Club คลับเฮาส์ขนาดใหญ่ ในตำแหน่งที่สวยที่สุดของโครงการ ท่ามกลางทะเลสาบ สวนส่วนกลางแรงบันดาลใจจากพระราชวังแวร์ซาย อาทิ หลังคาทรงกลาสเฮ้าส์ ภายในตกแต่งตามแบบฉบับของฝรั่งเศส อาทิ ห้องอเนกประสงค์ที่สามารถรองรับการประชุมหรือติดต่อทางธุรกิจ และสระว่ายน้ำขนาด 10×25 เมตร พร้อมสระเด็ก และ GYM สำหรับผู้ที่รักการออกกำลังกาย อีกทั้งยังมีสนามเด็กเล่น มินิกอล์ฟ หมากรุก และสนามบาสเก็ตบอล รองรับทุกกิจกรรมสำหรับทุกวัยของครอบครัวได้สามารถเพลินเพลินกับกิจกรรมที่ชื่นชอบได้อย่างเต็มที่

Le Club ใช้เป็นพื้นที่พักผ่อน พบปะ และออกกำลังกาย สำหรับลูกบ้าน ตั้งอยู่ใจกลางของโครงการ ตัวอาคารถูกออกแบบโดยแนวคิดที่ไม่มีด้านหน้าและด้านหลังเพราะฝั่งหนึ่งลูกบ้านจะสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศของสระว่ายน้ำ เชื่อมต่อ Lake ขนาดใหญ่ พร้อมฟังเสียงน้ำพุผ่อนคลาย ส่วนอีกฝั่งหนึ่งเป็นภาพสวนสไตล์ยุโรปทอดยาวสุดสายตา

ฝั่งติดสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำ พร้อมสระเด็ก

ฝั่งติดสวน

บริเวณด้านใน Le Club

ชั้น 1 ใช้เป็นพื้นที่สำหรับการเข้ามานั่งพักผ่อน ประชุม หรือทำงานได้

ห้องที่ 1 Lobby & Lounge

ห้องที่ 2 Atelier รองรับการประชุม และ workshop

ส่วน Le Club ชั้น 2 มีพื้นที่ของ GYM และห้อง Salon de Thé ห้องพักผ่อนส่วนตัว ที่สามารถนั่งดื่ม Afternoon Tea กับเพื่อนๆ ได้

GYM

ห้อง Salon de Thé พื้นที่พักผ่อนบริเวณชั้น 2 ตกแต่งสวยงามเข้ากับคอนเซปต์ของโครงการ

PARC E’LYSE’ES ต้นไม้ทุกต้นถูกคัดสรรมาอย่างประณีต เป็นต้นไม้ใหญ่ที่มีฟอร์ม Pattern ให้ร่มเงา สวย และสง่างาม

Le Pavillion

Playground

Mini Golf

สนามบาสเก็ตบอล

Master Plan โครงการ NARASIRI Phahol – Watcharapol

ทางเข้าโครงการเป็นประตูแบบ Double Gate ให้ความปลอดภัยสูงสุดกับลูกบ้าน ซึ่งแขกสามารถเข้าถึงได้เพียงประตูโครงการชั้น 2 ถนนในซอยบ้านกว้าง 12 เมตร มี Mini Mason อยู่บริเวณด้านหน้าเชื่อมต่อมาถึง Le Club ด้านหลังได้ พร้อมพื้นที่ส่วนกลางกว่า 6 ไร่ ให้ลูกบ้านได้เต็มอิ่มกับการพักผ่อน พร้อมจุดแลนด์มาร์คในโครงการ ไม่ว่าจะเป็นประติมากรรมต่างๆ ที่โครงการนำเข้าจากต่างประเทศ ให้ทุกคนรู้สึกถึงความเป็น French Renaissance อย่างแท้จริง

บ้านตัวอย่างโครงการ NARASIRI Phahol – Watcharapol

Manoir No.6 ขนาด 658 ตารางเมตร 2 ชั้น แบบ 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 4 คัน

ซึ่งบ้านจริงจะได้รั้วและพื้นที่สวนข้างบ้านแบบบ้านหลังตรงข้าม

โรงจอดรถถูกแยกออกมาจากบริเวณตัวบ้าน เป็นโรงจอดในร่ม จอดรถ 4 คัน และที่พิเศษคือมีพื้นที่พอสำหรับจอดรถแบบซ้อนคันได้แบบ Double Parking ทำให้หลังนี้จอดรถได้สูงสุดถึง 8 คัน พร้อมติดตั้ง EV Charger ให้ รองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้า และห้องเก็บของในโรงจอด

มองจากมุมนี้สามารถจอดรถซ้อนคันได้เยอะ ตอบโจทย์บ้านที่อยู่กันแบบครอบครัวใหญ่และมีรถหลายคัน

เดินเลียบมาข้างบ้าน มีห้องนอนแม่บ้านพร้อมห้องน้ำอยู่ฝั่งนี้ สามารถเดินมาได้โดยไม่ต้องเดินผ่านภายในบ้าน

บริเวณหน้าบ้านอีกฝั่ง เนื่องจากบ้านมีพื้นที่ขนาดใหญ่ จึงทำให้สามารถจัดเป็นสวนสวย เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ให้ความรู้สึกร่มรื่นเป็นอย่างมาก

โครงการตกแต่งมุมพักผ่อนไว้รอบบ้าน เพื่อเป็น Reference ในการตกแต่งให้กับลูกบ้านคนอื่นๆ ได้

ด้วยข้างบ้านมีพื้นที่เยอะ จึงสามารถนำสระว่ายน้ำมาลงแบบบ้านตัวอย่างได้ ไว้ใช้พักผ่อนกันในครอบครัว วันไหนร้อนๆ ก็ลงมาแช่น้ำเย็นๆ ได้เลย

ข้างบ้านฝั่งนี้เป็นห้องนอนที่ใช้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้ โดยห้องน้ำในห้องเป็นแบบ Universal Design

กลับมาทางประตูเข้าบ้านที่มีขนาดใหญ่อลังการ เหมาะสมกับบ้านระดับ Luxury และด้วยประตูที่มีขนาด Overscale จึงได้มีการดีไซน์ใส่ลวดลายทองเหลืองที่ขอบประตู เพิ่มความหรูหราและสง่างาม

พ้นประตูเข้ามาในตัวบ้านก็จะเจอกับส่วน Foyer ใช้เป็นพื้นที่นั่งตอนใส่รองเท้า หรือ Built – in ตู้เก็บรองเท้าไว้บริเวณนี้ก็ได้ (บ้านจริงที่ได้จะเป็นบ้านเปล่า ผนังฉาบเรียบ ทาสีขาว ไม่ได้ดรอปฝ้า และไม่ได้ตกแต่งงานคิ้ว บัว เอาไว้ให้ ไม่มีเฟอร์ฯ และมีแอร์ให้เฉพาะในส่วนของห้องนอน ส่วนห้องอื่นๆเตรียมงานระบบเอาไว้ให้ ได้ครัวไทย และชุด Pantry ตามมาตรฐานโครงการ)

เข้าด้านในตัวบ้าน ที่มีพื้นที่กว้างพร้อมเพดานแบบ Double Volume สูงถึง 7.2 เมตร บริเวณส่วนกลางของบ้าน เป็นพื้นที่ Multi-Function เป็นพื้นที่ที่ทุกคน สามารถมารวมตัว หรือชวนเพื่อนมาจัด Party ได้ เป็นโถงต้อนรับที่ Welcome ทุกคนที่เข้ามาในบ้านหลังนี้ โดยมีทั้ง Wine Cellar Area และ Coffee Zone และยังสามารถจ้าง Catering จากด้านนอกมาบริการได้ ให้ทุกคนสามารถใช้พื้นที่ส่วนนี้ได้อย่างเต็มที่และรู้สึกสนุกเมื่อได้ใช้เวลากับครอบครัวอย่างเต็มที่

บ้านตัวอย่างตกแต่งพิเศษด้วยการปูพื้นด้วยหินจริงลายตารางหมากรุก ซึ่งเป็นลายที่คงไว้ซึ่งความงามเหนือกาลเวลา ในบ้านตัวอย่างใช้เฟอร์นิเจอร์ Import ทั้งหมด หลากหลายแบรนด์ เป็นการผสมผสานระหว่างอิตาเลียนกับอเมริกัน เช่น Minotti Sofa สุดยอดแบรนด์เฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นของโลก

ฝั่งด้านซ้ายของบ้าน เป็น Tea Room หรือ Living Room ที่มีการเปิดรับแสงรอบด้าน และเห็นวิวสวน เพื่อการพักผ่อนที่ลงตัว ห้องถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีขาว เหมาะกับการพักผ่อนเป็นอย่างมาก เพดานส่วนนี้สูง 3.2 เมตร บ้านจริงจะไม่ได้กั้นห้องให้แบบนี้และไม่ได้บัวฝ้าให้ บริเวณชั้น 1 จะเป็นพื้นที่โล่งๆ สามารถตกแต่งได้ตามความต้องการของเจ้าของบ้าน ชั้น 1 โครงการไม่ได้ติดตั้งแอร์ให้ แต่จะเป็นการเดินท่อแอร์ให้แทน ซึ่งรองรับการติดตั้งได้ทั้งแบบ Wall Type และ Cassette Type

เดินออกมาที่โถงกลางบ้านอีกรอบ โดยฝั่งซ้ายมือด้านหลัง Wine Cellar Area มีห้องนอน และ Powder Room สำหรับแขก เนื่องจากห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำในตัว แขกจึงสามารถใช้ห้องนี้ได้

Powder Room ตกแต่งด้วยโทนสีขาวสะอาดตา และผนังหินอ่อนสวยงาม มีช่องแสงด้านใน พร้อมติดตั้งโถปัสสาวะให้ด้วย (บ้านจริงได้แบบนี้ทุกหลัง)

ห้องนอน 5 ใช้เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุหรือห้องนอนแขกได้ เนื่องจากในห้องน้ำให้เป็นแบบ Universal Design สำหรับผู้สูงอายุสามารถเข้าห้องน้ำเองได้แบบปลอดภัยมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นห้องที่อยู่ได้ทุกเพศทุกวัย มีประตูหลังห้องติดกับสวนข้างบ้าน ให้ความร่มรื่นและสบายตา ในห้องมีการตกแต่งเรียบง่าย ใช้โทนสีน้ำเงินกับสีน้ำตาล ให้ความหรูหราและพิเศษ

ในห้องน้ำมีราวจับกันลื่น พร้อมที่นั่งบริเวณที่อาบน้ำ เพิ่มความสะดวกในการอาบน้ำของผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก

ห้องนอนกว้าง เพดานห้องสูง 3.2 เมตร

เปิดประตูรับแสงธรรมชาติและความร่มรื่นได้อย่างเต็มที่

ฝั่งขวาของบ้าน เป็นพื้นที่สำหรับห้องทานอาหาร โดยบ้านจริงไม่มีการกั้นห้องให้แบบนี้ จะเปิดเป็นพื้นที่เปิดโล่ง เดินเข้ามาด้านในมีช่องแสง 2 ด้าน ทำให้พื้นที่ส่วนนี้ได้รับแสงธรรมชาติตลอดเวลา และยังสามารถวางโต๊ะทานอาหารได้หลายที่นั่ง ใช้นั่งทานอาหารกับแบบพร้อมหน้าในครอบครัวและยังสามารถรับแขกได้อีกด้วย

บ้านตัวอย่างมีการตกแต่งโดยใช้ซุ้มโค้งเดียวกับหน้าบ้าน เหมือนซุ้มของงานสถาปัตยกรรมที่เห็นทั่วไปในยุค French Renaissance รวมถึงการตกแต่งฝ้าให้คล้ายกับวิหารหรือโบสถ์ในฝรั่งเศส ทำให้ห้องนี้มีความคลาสสิคมากขึ้น

บริเวณด้านหลังซุ้มโค้ง เป็นส่วนของครัวนอก ซึ่งโครงการนี้ให้ทั้งครัวนอกและครัวไทย เหมาะสำหรับคนชอบทำอาหาร และชวนเพื่อนๆ มาปาร์ตี้ที่บ้านก็สามารถใช้ครัวนอกจัดเตรียมอาหารได้ โดยครัวฝั่งนี้โครงการให้ Island ในตำแหน่งเดียวกับบ้านตัวอย่าง แต่ใช้วัสดุคนละชนิดกัน

ส่วนนี้ได้เป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างจานตรงกลางพร้อมช่องแสงบานใหญ่ ซึ่งโครงการ เตรียมให้เป็น Pantry ขนาดใหญ่ มาพร้อมตู้เก็บของขนาดใหญ่

พื้นที่วางเครื่องซักผ้าเชื่อมต่อไปถึงครัวไทยที่อยู่ด้านหลัง

ครัวไทยขนาดใหญ่ที่โครงการ Built – in ให้แบบเดียวกับบ้านตัวอย่าง มาพร้อม Hob & Hood จาก Küppersbusch ชั้นวางของทั้งด้านบนและด้านล่าง

เตาแบบ 5 หัว ใช้งานได้สะดวกทั้งเจ้าของบ้านและแม่บ้าน

ห้องเก็บของที่สามารถ Built – in ชั้นวางรองเท้าได้ ใช้เก็บของได้เยอะ

ประตูที่เชื่อมต่อออกไปยังโรงจอดรถได้

อีกหนึ่งจุดเด่นของบ้าน คือ GRAND STAIR ที่ให้ความรู้สึกใหญ่โต หรูหรา และสง่างาม พร้อมห้องเก็บของใต้บันได

ขึ้นมาที่ชั้นสอง มีห้องนอนทั้งหมด 4 ห้อง เป็นห้อง Grand Master Bedroom, Master Bedroom, ห้องนอน 3 และห้องนอน 4

ทางเดินบริเวณชั้น 2 เป็นพื้นที่ Double Volume โถงสูงที่สามารถมองเห็นบริเวณชั้น 1 ได้

มาดูที่ห้อง Grand Master Bedroom ฝั่งขวามือของชั้น 2 ก่อน

เข้ามาภายในห้องก็เป็นพื้นที่ Walk – in Closet ขนาดใหญ่ ที่สามารถ Built – in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้ พร้อม Island ที่ใช้เก็บ Accessory เครื่องประดับต่างๆ พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันได้

ถัดมาเป็นห้องน้ำที่เชื่อมต่อกันได้ ห้องนอนมีขนาดใหญ่ มีช่องแสงในห้องหลายด้าน ทำให้ห้องสว่างตลอดทั้งวัน ให้อ่างล่างหน้าแบบ His & Her และอ่างอาบน้ำแบบลอยตัว พร้อมกั้นห้องอาบน้ำแบบเป็นสัดส่วน

อ่างอาบน้ำอยู่ด้านหลังอ่างล่างหน้า สามารถแช่น้ำไปพร้อมๆ กับดูวิวด้านนอกได้ ถึงจะมีประตูเปิดออกไปข้างนอกได้ แต่ก็ยังมีความเป็นส่วนตัวอยู่นะ

ระเบียงด้านหลังกว้างมาก สามารถใช้เป็นพื้นที่จัดสวนขนาดเล็กเพิ่มความร่มรื่นได้

กั้นห้องเป็นสัดส่วนด้วย Shower Screen ในห้องอาบน้ำมีม้านั่ง และติดตั้ง Rain Shower ให้

ห้องน้ำ อยู่อีกฝั่ง เป็นแบบ Auto Washlet

เดินเข้ามาในห้องนอน เพดานสูง 3.2 เมตร เป็นห้องที่มีพื้นที่เยอะ และช่องแสงเยอะเช่นกัน Grand Master Bedroom ทุกอย่างเป็นองค์ประกอบ Over Scale ที่ล้อโทนสีกับดีไซน์ มีทั้งมุมพักผ่อนและมุมทำงานภายในห้อง โครงการติดตั้งแอร์ให้ในห้องนอนทุกห้อง

ออกจาก Grand Master Bedroom เดินมาอีกฝั่ง

ก่อนจะเดินถึงห้องนอน ก็จะเจอกับส่วน Working Room ก่อน เป็นห้องแบบเปิด สามารถมองจากด้านล่างขึ้นมาได้ ทำให้ห้องนี้ดูพิเศษ มีการตกแต่งผนังเป็นลาย Pattern ที่จำลองมาจากงานฝ้าตกแต่งของวิหารสมัยโรมัน

ซ้ายมือเป็นห้องนอน 3

ห้องนอนกว้าง วางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตได้สบาย มีช่องแสงและห้องน้ำในตัว เพดานสูง 3.2 เมตร ตกแต่งห้องด้วยผนังไม้ Paneling เน้นความเรียบง่าย ห้องไม่ได้ดูเล็กอย่างที่เห็น แต่ให้ความรู้สึกที่น่าอยู่

Walk – in Closet เชื่อมต่อกับห้องน้ำ

ห้องน้ำมีช่องแสงด้านใน พร้อมติดตั้ง Shower Screen ให้

พื้นที่ Multi-Function ที่สามารถตกแต่งให้เป็นห้องต่างๆ ได้ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย

ห้องนอน 4 เพดานสูง 3.2 เมตร มีพื้นที่ Walk – in Closet และห้องน้ำในตัว ภายในห้องสามารถวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตได้

ห้องน้ำติดตั้ง Shower Screen ให้ พร้อมช่องแสงที่ให้ความสว่างตลอดทั้งวัน ในห้องอาบน้ำให้เป็น Hand Shower

Master Bedroom

เนื่องจากเป็นบ้านที่อยู่อาศัยกับแบบครอบครัวใหญ่ จึงทำให้มีห้องนอนใหญ่ 2 ห้อง สามารถอยู่ได้หลาย Gen ทั้งรุ่นตายาย พ่อแม่ และรุ่นลูก พร้อมห้องนอนที่ตอบโจทย์การพักผ่อนของทุกเพศทุกวัย เป็นห้องที่ถูกตกแต่งด้วยสไตล์นีโอคลาสสิคให้ห้องดูมีดีเทลและหรูหรามากขึ้น

ติดกันเป็น Walk – in Closet ขนาดใหญ่ ที่ใช้แต่งหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้า ด้วยพื้นที่เยอะทำให้สามารถจัดเก็บเสื้อผ้าและของต่างๆ ได้เยอะเช่นกัน

ต่อมาเป็นห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำในตัว เป็นอ่างอาบน้ำแบบฝัง มีช่องแสง และให้อ่างล้างหน้าแบบ His & Her ห้องน้ำตกแต่งด้วยสีขาว ทำให้ห้องดูสว่างมากขึ้น

กั้นส่วนอาบน้ำด้วย Shower Screen แบบเป็นสัดส่วน สามารถเข้าห้องน้ำ 2 คน พร้อมกันได้

Manoir No.3 ขนาด 347 ตารางเมตร แบบ 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 3 คัน

ประตูรั้วของบ้านจริงจะได้แบบนี้

บริเวณหน้าบ้านของบ้านตัวอย่าง

ระเบียงที่ยื่นออกมาหน้าบ้าน เป็นระเบียงของ Master Bedroom สามารถเปิดรับลม รับแสงได้

ระเบียงจุดนี้จะอยู่ติดกับส่วน Living Room ชั้น 2

พื้นที่โรงจอดรถ จอดได้ 3 คัน ไม่รวมซ้อนคัน

ติดตั้ง EV Charger พร้อมห้องเก็บของ

พื้นกระเบื้องของบ้านจริงจะเป็นสีขาวล้วน ไม่ได้ปูพื้นแบบเดียวกับบ้านตัวอย่าง

พื้นที่ข้างบ้านค่อนข้างเยอะจัดเป็นสวนหย่อมได้

ประตูเข้าตัวบ้าน ยังคงรูปแบบเดียวกับแบบบ้าน No.6 แต่จะไม่ได้สูงเท่ากับบ้าน No.6

เดินเข้ามาในบ้านก็จะเจอกับส่วน Living Room เพดานสูง 3.2 เมตร แบบผนังฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมกระจกบานใหญ่ให้ส่วนนี้รับแสงได้ทั้งวัน การตกแต่งของบ้านหลังนี้ เลือกใช้โทนสีสดใส เหมาะเป็นบ้านสำหรับครอบครัวเริ่มต้น

ถัดมาเป็นส่วนของพื้นที่วางโต๊ะอาหารและครัวนอก

ระบบ Home Automation ที่จะช่วยให้คุณรู้สึกสะดวกสบายและปลอดภัยเมื่ออยู่ในบ้าน

ครัวฝั่งนี้ให้เป็นเคาน์เตอร์ครัว Starmark ถูกออกแบบขึ้นมาเฉพาะเพื่อให้เข้ากับตัวบ้าน การใช้รูปทรงและการเลือกใช้โทนสีพิเศษที่ช่วยเพิ่มความหรูหรา

เดินเข้ามาด้านในก็จะเจอกับครัวไทย ได้เคาน์เตอร์ครัวแบบบ้านตัวอย่าง แต่หน้าท็อปคนละวัสดุ พร้อม Hob & Hood แบรนด์ Küppersbusch

ห้องเก็บของใต้บันได ที่มีขนาดใหญ่ สามารถทำเป็นห้อง storage ได้

อีกฝั่งเป็นห้อง Multi Function

ติดกับสวนข้างบ้าน สามารถปรับฟังก์ชั่นเป็นห้องต่างๆ ได้ตามความต้องการ

ข้างกันเป็นห้องน้ำที่ใช้อาบน้ำได้ ใช้เป็นห้องน้ำแขกเมื่อมีแขกมานอนที่บ้าน

บันไดขึ้นไปยังชั้น 2 ของบ้าน

บริเวณชานพักบันไดเป็นโถงสูงพร้อมกระจกบานใหญ่ ทำให้ส่วนนี้ไม่มืดเกินไป ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุระหว่างใช้บันไดได้

Living Room แบบ Private สำหรับคนในครอบครัว ที่เป็นไฮไลท์สำหรับบ้าน Type นี้

พื้นที่กว้าง พร้อมกระจกรอบด้าน ทำให้ส่วนนี้สว่างมาก ให้คนในครอบครัวมาใช้เวลาร่วมกันตรงส่วนนี้ได้

เชื่อมต่อไปยังระเบียงด้านนอก

พื้นที่ระเบียงกว้างและยาว สามารถจัดเป็นพื้นที่พักผ่อน นั่งรับลม จิบชา กาแฟ ช่วงเช้าได้

Master Bedroom ห้องกว้าง มีช่องแสงหลายด้าน และมีระเบียงส่วนตัว

ระเบียงตรงนี้มีหน้าต่างเปิดรับช่องแสงและเปิดหน้าต่างออกไปด้านนอกได้ ซึ่งระเบียงแบบนี้ส่วนใหญ่จะใช้วางกระถางต้นไม้เพื่อความร่มรื่นที่สามารถออกไปมองเวลาเบื่อๆ ได้

ห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำในตัว

ห้องน้ำใน Master Bedroom กว้าง ติดตั้ง Shower Screen และอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวให้

ในห้องอาบน้ำให้ Rain Shower

ห้อง 2 และ 3 อยู่ฝั่งนี้

ห้องนอน 2 ฝั่งขวามือ มีห้องน้ำในตัว ห้องนอนวางเตียง 5 – 6 ฟุต ได้

ติดตั้ง Shower Screen ในห้องน้ำให้

ห้องนอน 3 ตกแต่งด้วยสีสันสดใส โครงการติดตั้งแอร์ให้ในห้องนอนทุกห้อง แบบ Wall Type

ห้องน้ำมีช่องแสงด้านใน และติดตั้ง Shower Screen ให้

สรุปจุดเด่น NARASIRI Phahol – Watcharapol

NARASIRI Phahol – Watcharapol เป็นโครงการบ้านเดี่ยวในกลุ่ม Sansiri Luxury Collection ที่มีประวัติความนิยมอย่างยาวนานมากที่สุด และเป็นบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury เพียงแห่งเดียวที่มอบพื้นที่ดิน และพื้นที่ใช้สอยเยอะที่สุดย่านวัชรพล ตั้งอยู่บนถนนเทพรักษ์สามารถเลี่ยงรถติดได้ดีกว่าทางเส้นวัชรพล โดยโซนวัชรพล มีราคาที่ดินพุ่งถึง 40% ในรอบ 5 ปี และยังคงมีดีมานด์บ้านลักซ์ชัวรี่ต่อเนื่องจากกลุ่มลูกค้าติดถิ่นที่ต้องการซื้อบ้านใหม่ ออกแบบภายใต้สถาปัตยกรรม Modern French Renaissance สะท้อนความงดงามของยุครุ่งเรืองทางศิลปะวิทยาของฝรั่งเศส พื้นที่ส่วนกลางขนาดกว่า 6 ไร่ พร้อม Clubhouse 2 แห่ง ถ่ายทอดแรงบันดาลใจการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์จากพระราชวังแวร์ซาย LE CLUB อาคาร Club House หลัก มอบวิวที่โดดเด่นด้วยการออกแบบโดยให้ความสำคัญกับทางเข้าทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งฝั่งสวนและสระว่ายน้ำ โดยสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ น่าใช้งานกว่าทุกโครงการด้วยขนาด 10 x 25 เมตร พร้อมสระเด็ก ที่เชื่อมต่อวิวกับทะเลสาปจำลอง มีแบบบ้านถึง 4 แบบ พร้อมที่จอดรถแบบ Double Parking จอดรถได้มากถึง 2 เท่า โดดเด่นด้วยดีไซน์บ้านที่เป็นเอกลักษณ์ อาทิ ประตูไม้บานใหญ่ ความ Over Scale ของ Grand Stair กลางบ้านขนาดใหญ่ และโถงภายในบ้าน

นาราสิริ พหล – วัชรพล

Modern French Renaissance

ท่ามกลางกลิ่นอายในแบบฝรั่งเศส

งดงามในรายละเอียด

สัมผัสแรงบันดาลใจ ที่มาจากความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

พร้อมให้คุณต่อยอดสู่เรื่องราวในบทใหม่ ที่งดงามในทุกรายละเอียด

บ้านเดี่ยวบนทำเลศักยภาพ ใกล้ทางด่วน และ MRT สถานีวัชรพล

ราคา 35 – 90 ล้าน*

นัดหมายล่วงหน้าเพื่อสัมผัสดีเทลขององค์ประกอบที่งดงามด้วยตัวคุณเองได้ที่ : http://siri.ly/dI1goC7

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1685

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด