Renovate แล้วน่าอยู่แค่ไหน? พาชม The Old Siam Residence สกาย วิลล่า บนห้างแห่งแรกและแห่งเดียวของเขตพระนคร

เกริก บุณยโยธิน 12 May, 2023 at 22.53 pm

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


สำหรับผมแล้วห้างดิโอลด์สยามฯในความทรงจำวัยรุ่นเมื่อ 30 ปีที่แล้วของผมก็คือ ห้างที่ผมจะต้องแวะเวียนเข้าไปเกือบทุกเย็น ไม่ว่าจะเป็นก่อนกลับเข้าบ้านที่บ้านหม้อ เพราะต้องลงรถเมล์สาย 1 จากอสช.แถวนั้นทุกเย็น หรือไม่ก็เป็นห้างที่หลังทานข้าวกับที่บ้านแล้วก็ต้องแวะไปเดินเล่นย่อยอาหารทุกครั้ง…เท่าที่จำความได้ในช่วงม.ปลายห้างดิโอลด์ฯมีความหลากหลายในส่วน Tenant มากกว่าในปัจจุบันเยอะนะครับ มีร้านจิวเวลรีที่ขยายสาขาเพิ่มจากบ้านหม้อเยอะ ผมมีไปหาหมอสิวที่ราชเทวีคลีนิค ไปนั่งชิลเพลินๆที่แมคโดนัลด์ หาซื้อกระเป๋านักเรียนจาคอบ ไปซื้อลูกชิ้นและยำไวไวที่ลานเฟื่องนคร และที่ขาดไม่ได้ก็คือไปนั่งเล่นเกมที่ร้านเกมตู้พวก Street Fighter, KOF, Marvel ฯลฯ แข่งกับเด็กนร.สวนกุหลาบบ่อยมากๆจนร้านปิด 4 ทุ่มแทบสิงร้านกันเลยทีเดียว ยิ่งช่วงปิดเทอมก็ไปตั้งแต่เปิดร้าน 10 โมงเลยก็มี ช่วงนั้นยังมี Central และ Merry King วังบูรพาให้เดินซื้อของในซุปเปอร์อยู่ครับ และสถานีรถไฟฟ้าก็ยังไม่มี ฝั่งตรงข้ามก็มีคนมาจ่ายค่าปรับให้จราจรกลางบ่อยๆ ทำให้คนที่อยู่ในย่านบ้านหม้อ เจริญกรุงตอนต้น สำเพ็ง พาหุรัด วัดเลียบ ฯลฯ ยังไงก็ต้องเดินผ่านดิโอลด์ฯอยู่ตลอดเวลา เพื่อกลับเข้าบ้านหรือไม่ก็ต่อรถเมล์ที่แบงค์ไทยพาณิชย์ฝั่งตรงข้าม นับว่าเป็นยุครุ่งเรืองมากๆของห้างจริงๆ สิ่งก็ส่งผลโดยตรงให้โครงการที่อยู่อาศัยบนชั้น 4 ของห้างที่ตอนนั้นเรียกว่า The Old Siam Penthouse ขายดีมากๆ ในแบบที่หลายคนต้องซื้อแพคเกจพ่วงกับร้านค้าในห้างถึงจะได้ห้อง แถมคนย่านนี้ก็คุ้นชินกับการอยู่แบบ Leasehold อยู่แล้ว เพรราะตึกแถวตรงนี้ส่วนใหญ่เป็นของสนง.ทรัพย์สินฯ หรือไม่ก็วังบ้านหม้อ ก็เลยขายหมดได้ไม่ยากเย็น

เวลาผ่านไป 30 ปีเมื่อวันที่ 30 เมย.ที่ผ่านมา ก็ถึงเวลาที่ห้างต้อง Renovate ขนานใหญ่หลังจากที่เปิดบริการมาจนครบสัญญาเช่างวดแรก 30 ปีแล้ว ซึ่งตอนนี้ทางสยามสินธร ก็รับหน้าที่บริหารโครงการต่อไปอีก (เบื้องต้นคาดว่า 12 ปี) ซึ่งนอกจากจะมีการ Renovate ครั้งใหญ่ในส่วนของห้างแล้ว ยังมีการ Revonate ในส่วนของ The Old Siam Residence ด้วย (เดิมเรียกว่า The Old Siam Penthouse) ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่อาศัยในรูปแบบ Sky Villa บนห้างแบบ Leasehold โครงการแรกของไทย เพราะตั้งอยู่บนชั้น 4 ซึ่งเป็นดาดฟ้าของอาคารห้าง และมีทางเข้าออกเฉพาะที่ต้องเข้าจากทางอาคารจอดรถเท่านั้น (ที่นี่หากรวมที่จอดรถของห้างที่ใต้ดิน และที่จอดรถบนตึกที่มี Fix ของส่วน Residence จะมีจำนวนที่จอดรถมากถึง 1,100 คัน เลยนะครับ)

การกลับมาครั้งนี้จะเป็นสัญญาเช่า 12 + 1 ปี ซึ่งก็จะคงรูปแบบเลย์เอาท์ห้องแบบเดิมทุกอย่างคือ เป็นห้อง Duplex เต็ม Floor ขนาดประมาณ 95 – 115 ตรม. แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ (1 ห้องน้ำ และ 1 ห้อง Powder) จำนวน 128 ยูนิต พื้นที่รวมทั้งหมด 13,000 ตารางเมตร ถูกปรับโฉมในคอนเซปต์ที่ทันสมัยมีการอัพเกรด Facilities ใหม่ให้น่าใช้กว่าเดิม ทั้ง Lobby, Outdoor Living, Meeting Room, Fitness และ Sky Pavilion โดยมุ่งไปกลุ่มคนทำงานนักเรียน นักศึกษา ในพื้นที่ใกล้เคียง และกลุ่มครอบครัวที่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตและการเดินทาง โดยมีราคาขายแบบสัญญาเช่าระยะยาวจะเริ่มต้น 3.2 ล้านบาท* สำหรับห้อง Renovate แบบ Fully Fitted และเริ่มแค่ 2.4 ลบ.* สำหรับห้อง As Is ที่มีการ Renovate เฉพาะงานระบบให้ พร้อมที่จอดรถ 1 คัน หรืออีกแบบจะเป็นเช่าสั้น 3 ปี ค่าเช่าเริ่มต้นเพียงเดือนละ 28,000.- พร้อมที่จอดรถ 1 คัน ลองเอาราคาขายมาคิดเฉลี่ยรายเดือนก็จะอยู่ที่เดือนละ 22,222 เองครับ กับห้องใหญ่ขนาด 100 ตรม. ตามที่ผมเคยเล่าแบบคร่าวๆในโพสครั้งก่อนมาแล้ว…ซึ่งในวันนี้ผมได้มีโอกาสมาดูห้องตัวอย่าง และพื้นที่โครงการหลังจากที่มีการ Renovate ไปบางส่วนแล้วครับ ให้ภาพเล่าเรื่องไปเลยแล้วกันว่าจะถูกใจแต่ละคนมากน้อยแค่ไหน

แต่ในเนื้อหานี้ผมอยากจะพูดถึงประเด็นสำคัญที่ผม List ออกมาเป็นข้อๆในแบบ Q & A แล้วกันครับ เพราะว่าที่ผ่านมามีคนสนใจถามผมเข้ามาเยอะมากๆ และผมก็ได้รวมรวบทุกคำตอบมาไว้ตามนี้แล้วครับ

 

Q: พอจะบอกชื่อ Tenant หลักของห้างในรอบนี้ได้ไหม จากป้ายโฆษณาที่เห็นใหม่ๆจะมีพวกกลุ่มธนาคารอย่าง GSB และมีแผนจะนำ Super Market เข้ามาไหม เพราะแถวนี้ไม่มีเลย

A: ผู้เช่าหลักดั้งเดิมที่มีความสำคัญ และผู้เช่าใหม่ โดยทางศูนย์การค้า มีความตั้งใจให้เป็น One Stop Service

– กลุ่มธนาคาร: UOB, กรุงศรี, กสิกรไทย, LH Bank, Tisco, ธกส, ไทยเครดิต (กำลังเจรจาหาพื้นที่)

– กลุ่มผู้ประกอบกิจการ ร้านจำหน่ายเพชร และร้านจำหน่ายทองส่ง

– กลุ่มผู้ประกอบกิจการค้าส่งผ้าไหม และผ้าลูกไม้

– กลุ่มร้านอาหารและขนมไทย

– กลุ่มผู้ประกอบกิจการร้านปืน

– กลุ่มผู้ประกอบกิจการกลุ่มใหม่ โดยเชิญร้านค้าชั้นนำ และร้านอาหาร อาทิ M Gold, Luxoptic, Starbucks ขนาดใหญ่ 550 ตรม. พท. 2 ชั้น, กับภูเก็ต, Food Court (เป็นสยามสินธร บริหารเอง) และ Market บนพื้นที่ขนาดใหญ่ รวมทั้งมีแผนจะเชิญ Supermarket เข้ามา (แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการเจรจา)

Q: ราคาค่าเช่าของพื้นที่ Shop หรือ Plaza เป็นราคาเท่าไหร่ ระยะเวลาของสัญญาเป็นอย่างไร และมีแพคเกจพ่วงกับ Residence ด้านบนไหมครับ

A: Plaza – สัญญาเช่าระยะสั้น (ระยะเวลา 3 ปี) ค่าเช่าพื้นที่ในส่วนของ Plaza ราคาเริ่มต้นที่ 400 – 2,500 บาท/ตรม./เดือน (ราคานี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ตั้งของ Unit)

Plaza – สัญญาเช่าระยะยาว (ระยะเวลา 1 + 12 ปี) ได้รับส่วนลด (Discount Rate) ตามแต่ละพื้นที่ที่กำหนด: พื้นที่ชั้น 1-2 ประมาณ 40% และชั้น 3 ประมาณ 45% จากอัตราค่าเช่าสั้นตลอดอายุสัญญา

ส่วนลดในกรณีถ้าทำสัญญาเช่าระยะยาวทั้งพื้นที่ Plaza และ Residence ตั้งแต่หนึ่งยูนิตขึ้นไป จะได้ส่วนลดของ Residence 200,000 บาท

 

Q: ราคาของ Residence เป็นแบบ One Price มาก่อนเลือกก่อนหรือเปล่า หรือแตกต่างกันตามแต่ละตำแหน่ง

A:แบบ AS IS จะเป็นราคาเดียว First in First Serve เพราะจะมีประมาณไม่เกิน 20 ยูนิต ส่วนที่เหลือบริษัทจะเข้าปรับปรุงใหม่โดยผู้รับเหมาคือ Thai Obayashi ราคาของ Residence จะขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ และตำแหน่งของ Unit เริ่มประมาณ 2.4 – 2.6 ลบ.*

แบบ Renovate อัตราค่าเช่าแตกต่างตามขนาด และตำแหน่งของพื้นที่ (Location) ยกตัวอย่าง ห้องหัวมุมจะแพงกว่า ห้องในตำแหน่งเดียวกันประมาณ 500 บาทต่อตรม.

 

Q: เทียบกับราคาเมื่อ 30 ปีที่แล้วเป็นอย่างไร

A: สัญญาเดิมห้องละประมาณ 3.2 ล้าน* ต่อสัญญา 30 ปี ทั้งนี้ราคาไม่สามารถเทียบได้ เนื่องจากราคาที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในอดีต และปัจจุบันต่างกัน เช่นเดียวกับอัตราเงินเฟ้อ แต่ถ้าเทียบจากราคาค่าเช่าจากห้องพักอาศัยใน Location เดียวกัน ราคาค่าเช่าของโครงการนั้นถูกกว่ามาก เมื่อเทียบพื้นที่มีการปรับปรุงระบบและส่วนกลางใหม่ทั้งหมด อีกทั้ง Facility ของความเป็น Mixed Use ตอบสนองด้านความสะดวกสบาย

 

Q: มีกี่ห้องที่ต่อสัญญาจากงวดแรก และหากต่อจะมีส่วนลดไหม

A: Residence ผู้เช่าเดิมต่อสัญญาประมาณ 50 ยูนิต และหากต่อจะมีส่วนลดให้ผู้เช่าเดิมที่ต้องการต่อสิทธิให้แล้วเสร็จก่อนสัญญาใหม่เริ่ม ทั้งนี้จะได้รับส่วนลดตั้งแต่ 2% ขึ้นไป แล้วแต่สัดส่วนของจำนวนห้องที่ทำการต่อสัญญา อีกทั้งลูกค้าเก่าจะได้สิทธิในการเลือก Unit ก่อน

 

Q: มีการ Renovate ห้องทุกห้องใหม่หมดเลยไหม และ Renovate ในส่วนใดบ้าง หรือว่าต้องรอผู้ซื้อก่อนถึงจะ Renovate แต่งห้องให้ใหม่

A: พื้นที่ส่วนกลาง ของโครงการที่พักอาศัยจะเข้าปรับปรุงใหม่ทั้งหมด เพื่อการใช้ชีวิตที่อยู่อาศัยได้อย่างสะดวกสบายปลอดภัย อาทิ ปรับปรุงทางเดิน, หลังคาทางเดิน, Landscape, Lobby, Fitness room, Mailbox, Meeting Room, ระบบ Access Control (Key Card), ระบบสัญญาณแจ้งเตือนอัคคีภัย และระบบกล้องวงจรปิด เป็นต้น

ห้องพักทั้งแบบ As is และแบบ Renovate จะเข้าติดตั้งแผ่นฟอยด์กันความร้อน, ทากันซึมและปูกระเบื้องพื้นห้องน้ำและห้องครัวใหม่ทั้งหมด, เปลี่ยนหลังคาใหม่ทั้งหมด

ส่วนห้องแบบ Renovate จะทยอยเข้าปรับปรุงโดยไม่รอผู้เช่าใหม่เข้ามาซื้อก่อน เพราะต้องการปรับปรุงโครงการให้พร้อมและรองรับความต้องการของผู้เช่า โดยจะปรับปรุงงานระบบใหม่ทั้งหมด น้ำประปา, ไฟฟ้า, ตกแต่งผนัง ฝ้า ห้องน้ำเปลี่ยนสุขภัณฑ์ใหม่ทุกชิ้น, เครื่องปรับอากาศ 3 ตัว รวมถึงชุด Built-in ชุดครัว เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน

 

Q: ครั้งนี้ขายแบบ Fully Fitted เลยใช่ไหม และตอนที่ Move Out คือต้องส่งมอบห้องคืนแบบเดิมเลยใช่ไหม

A: การต่อสัญญารอบนี้ ห้อง Renovate จะปรับปรุงเป็นห้องแบบ Fully Fitted และการส่งมอบคืนห้องตามสภาพเดิมที่ได้ส่งมอบให้แก่ผู้เช่า

 

Q: เลย์เอาท์ห้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ตรงไหนบ้างไหม เช่น กั้นพื้นที่และทำครัวให้ใหม่ ฯลฯ

A: ห้องพักอาศัยจะยึดแบบแปลน และตำแหน่งห้องต่างๆตามเดิม ทั้งแบบ As Is และแบบปรับปรุงใหม่

 

Q: มีส่วนกลางใหม่เพิ่มเติมเป็นอะไรบ้าง และเสียค่าส่วนกลางเท่าไหร่

A: พื้นที่ส่วนกลาง ของโครงการที่พักอาศัยจะเข้าปรับปรุงใหม่ทั้งหมด เพื่อการใช้ชีวิตที่อยู่อาศัยได้อย่างสะดวกสบายปลอดภัย อาทิ ปรับปรุงทางเดิน, หลังคาทางเดิน, Landscape, Lobby, Fitness room, Mailbox, Meeting Room, ระบบ Access Control (Key Card), ระบบสัญญาณแจ้งเตือนอัคคีภัย และระบบกล้องวงจรปิด เป็นต้น โดยจะเก็บค่าส่วนกลางที่ 40 บาท/ตรม./เดือน

 

Q: สิทธิ์จอดรถ 1 คัน คือ Fix ตามห้องจอดบนอาคารเลยใช่ไหม

A: ที่จอดรถแบบ 100% กำหนดชั้นจอด แต่ไม่ระบุช่องจอด

 

Q: เห็นว่าที่ผ่านมามีเจ้าของห้อง ที่ไม่ได้ใช้รถปล่อยเช่าสิทธิที่จอดรถได้ราคาดีเลย ประมาณเดือนละเท่าไหร่ พอจะทราบไหม

A: ผู้ช่าระยะยาวสามารถปล่อยเช่าสิทธิที่จอดรถได้ในอัตราเช่าเดือนละประมาณ 4,500 บาท

 

Q: หลังจบสัญญารอบนี้ แนวโน้มจะเป็นอย่างไรต่อ มีโอกาสต่ออีกรอบไหม

A: จากการดูแล บำรุงรักษา รวมถึงการตรวจสอบสภาพอาคารนี้ยังมีความแข็งแรงทนทาน สามารถรองรับการใช้งานได้อีกเป็นระยะเวลานาน และด้วยศักยภาพของพื้นที่คาดว่าจะยังคงดำเนินการเป็นอาคารเพื่อการพาณิชยกรรม และที่พักอาศัยเดิมต่อไป (Mixed Use) และตามหลักการหากบริษัทฯ ยังคงเป็นผู้ได้รับสิทธิให้บริหารจัดการในการต่อสัญญาครั้งต่อไป บริษัทฯก็จะยังคงนโยบายให้สิทธิแก้ผู้เช่าเดิมได้แจ้งความจำนงในการขอต่อสิทธิการเช่ารอบใหม่ ก่อนเปิดโอกาสให้แก่ผู้เช่ารายใหม่

.

Q: สามารถกู้แบงค์ได้ไหม

A: สามารถใช้สัญญาเช่าระยะยาวยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารได้ โดยมีธนาคารชั้นนำอย่าง ธ.กรุงเทพ (สาขาพลับพลาไชย) เปิดโอกาสให้ผู้สนใจพื้นที่ธุรกิจพาณิชย์ และบ้านพักอาศัย สามารถติดต่อเพื่อขอให้ทางธนาคารพิจารณาในการปล่อยสินเชื่อ

 

Q: กลุ่มผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นใคร และขายได้กี่ห้องแล้ว

A: ผู้ประกอบกิจการ, ทำงาน และศึกษาอยู่ ที่อยู่ในพื้นที่ และโดยรอบ รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงที่ถัดไปเนื่องจากการเดินทางสะดวกติด MRT สามยอด

 

Q: ส่วน Residence มีคนซื้อไปปล่อยเช่าต่อไหม สามารถทำได้ไหม และราคาประมาณเท่าไหร่ครับ

A: กรณีปล่อยเช่าต่อ สามารถทำได้ โดยต้องทำการแจ้งโครงการฯ เพื่อขออนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร (มีข้อกำหนดห้ามนำห้องปล่อยเช่าแบบรายวัน)

กรณีโอนสิทธิ ทำได้โดยชำระค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนสิทธิ 100,000 บาท ต่อครั้ง สามารถโอนสิทธิได้ตั้งแต่ วันที่ 3 เมย. 2567 เป็นต้นไป (ในกรณีที่ผู้เช่ามีการจดทะเบียนการเช่า ผู้เช่าต้องชำระค่าธรรมเนียมในการจดสิทธิการเช่าให้กับกรมที่ดินใหม่ ในอัตรา 1.1% ของค่าเช่าที่เหลืออยู่)

หากเป็นก่อนหน้านี้ กลุ่มคนที่ต้องการอยู่ในย่านนี้ ล้วนแต่เป็นคนสูงวัยติดถิ่นไม่อยากย้ายออกจากเขตพระนครครับ เพราะแถวนี้หา Supply แบบนี้ไม่มีเลยครับ แม้จะเป็น Leasehold ก็มีแค่ที่นี่เหมือนกัน โครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่สุด ใกล้สุด ที่ไม่ใช่ตึกแถวในย่านนี้ก็จะเป็น แฟลตบำเพ็ญบุญ ครับ น่าจะมีอายุราวๆ 60 ปีได้แล้วมั้งผมไม่แน่ใจ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นห้องเช่ายอดนิยมของพวกช่างทองในย่านนี้ครับ ค่าเช่าก็เดือนละ 4 – 5 พันบาท และห้องก้ค่อนข้างเก่าตามสภาพ The Old Siam Residence จึงซื้อใจคนติดถิ่นที่มีอายุมีเงินพอซื้อ และผู้ปกครองของนักเรียนสวนกุหลาบที่ตอนนั้นใช้โควต้าใกล้โรงเรียนได้เยอะมากเลย เพราะหากคนแถวนี้ที่อยากได้โครงการ Freehold ส่วนใหญ่ก้ต้องไปซื้อบ้านในย่านที่ต้องข้ามสะพานไปฝั่งธนฯเลย เช่น สะพานพระปกเกล้าในย่านแยกบ้านแขก วงเวียนใหญ่ อิสรภาพ หรือสะพานปิ่นเกล้าในย่านปิ่นเกล้า และจรัญสนิทวงศ์ แต่ตอนนี้มี MRT สามยอด เข้ามาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางแล้ว ซึ่งความนิยมในการใช้งานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินก็มีเพิ่มเข้ามเรื่อยๆ ก็ต้องมาวัดใจกับกลุ่มกำลังซื้อรุ่นใหม่ครับว่าจะหลงเสน่ห์กับย่านกรุงเก่าแห่งนี้ เหมือนกับกลุ่มคนรุ่นพ่อแม่เราหรือเปล่า เพราะมีคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อนเลยที่มองว่าการซื้ออสังหาเป็นภาระในระยะยาว แต่ที่ก็เหมือนกับเป็นแค่การเช่าในระยะยาว ในราคาที่ยังรับได้เพราะห้องก็มีขนาดใหญ่มากจริงๆครับ หรือหากใครที่อยากจะซื้อเก็บไว้เพื่อให้ตัวคุณและพ่อแม่ได้ย้อนรำลึกถึงความทรงจำที่ดีที่เคยมีร่วมกันในอดีตก็คงจะดีไม่น้อยครับ…ตอนนี้โครงการคอนโด Freehold ที่ใกล้ย่านนี้มากที่สุดก็คือ ศุภาลัย ลอฟท์ ประชาธิปก – วงเวียนใหญ่ ซึ่งก้แน่นอนว่าขายหมดไปอย่างง่ายดายด้วยตรรกะในการซื้อแบบเดียวกันนี้ครับ ซึ่งสำหรับผมแล้ว การขยับตัวครั้งสำคัญของห้างและดึง Tenant ใหม่ๆเข้ามามากมาย และเส้นทางรถไฟฟ้า MRT ล้วนทำให้ที่นี่น่าอยู่มากกว่าเมื่อ 30 ปีที่แล้วอีกครับ

ก่อนจากกันไปขอเล่าทวนอีกครั้งสำหรับคนอยากรู้ความเป็นมาของห้างดิโอลด์สยาม พลาซ่า ครับ สำหรับที่ตั้งของดิโอลด์สยามพลาซ่า เป็นที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เดิมคือตลาดมิ่งเมือง ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ในร่มที่สร้างขึ้นพร้อมกับศาลาเฉลิมกรุง ออกแบบเป็นโถงใหญ่ลานโล่งมีทางเดินตรงกลาง รูปตัวยู มีห้องแถวแบ่งเป็นล็อกหันหน้าเข้าหากัน มีแผงขายสินค้า ตัดเย็บเสื้อผ้าเรียงรายเป็นแถว จำลองจากตลาดแบบตะวันออกกลาง ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี มาริโอ ตามานโญ (Mario Tamagno) สถาปนิกอิตาเลียนที่เข้ามารับราชการในเมืองไทยระหว่างรัชกาลที่ 5 ถึงต้นรัชกาลที่ 7 โดยหากใครที่ซื้อผ้าจากตลาดพาหุรัดก็จะแวะมาตัดเย็บกันที่นี่ ต่อมาบริษัท สยามพาณิชย์อุตสาหกรรม จำกัด (ชื่อเดิมของบริษัท สยามสินธร จำกัด) ซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนระหว่างธนาคารไทยพาณิชย์ กับบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) โดยธนาคารไทยพาณิชย์ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 51 และที่เหลือร้อยละ 49 ถือหุ้นโดยบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้านอาคารสูงในเมือง เริ่มจากการเข้าทำโครงการต่อเนื่องจากอาคารสินธร มาสู่การพัฒนาตลาดมิ่งเมืองให้เป็น ดิโอลด์สยามพลาซ่า แล้วเสร็จในปี 2536 โดยบริษัท สยามพาณิชย์อุตสาหกรรม จำกัด เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท สยามสินธร จำกัด เมื่อปลายปี 2537 ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นได้เปลี่ยนไป โดยสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วนร้อยละ 37.5 เท่าๆ กับบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ส่วนธนาคารไทยพาณิชย์ถือเพียงร้อยละ 25 และเมื่อเกิดวิกฤติการเงินในปี 2540 บริษัท สยามสินธร จำกัด ต้องชะลอแผนการลงทุนและมาปรับโครงสร้างหนี้รวมถึงการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นโดยสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้งหมด ซึ่งโครงการดิโอลด์สยามพลาซ่า นั้นถูกก่อสร้างโดบบริษัทรับเหมาก่อสร้างของคุณทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ อดีต CEO ของพฤกษาฯ ที่รับเหมาก่อสร้างโครงการนี้ก่อนหน้าที่จะก่อตั้งบ.พฤกษาฯในปี 2536 นับเป็นโครงการมิกซ์ยูสแห่งแรกบนเกาะรัตนโกสินทร์ และเป็นพลาซ่าใหญ่ที่สุดในทำเลนี้ บนที่ดิน 13.61 ไร่

 

ในปัจจุบันทาง บริษัท สยามสินธร จำกัด ได้เริ่มแผนพัฒนาปรับโฉม ดิโอลด์ สยาม พลาซ่า ให้เป็นศูนย์กลาง “ธุรกิจ-ไลฟ์สไตล์ช็อปปิ้ง-บ้านพักอาศัย” ให้เต็มไปด้วยสีสันและประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้คนในย่านนี้ และรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้น โดยยังคงเน้นจุดเด่นของห้างที่แหล่งธุรกิจที่มีเอกลักษณ์ และเจริญมั่นคงมายาวนาน เป็นศูนย์รวมร้านทองส่งแหล่งผลิตเครื่องประดับ เพชร ปืน ผ้าไทย ศูนย์รวมอาหาร ขนมไทยที่ขึ้นชื่อ และบ้านพักอาศัยที่อยู่สบายใจกลางเมืองติดรถไฟฟ้า โดยที่ร้านค้ามากกว่า 50% เป็นธุรกิจที่ขายให้กับธุรกิจ หรือ B2B โดยเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีกำลังซื้อสูง เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการจากรุ่นสู่รุ่น อาทิ ธุรกิจร้านเครื่องประดับร้านเพชร หากต้องการเพชรคุณภาพระดับพรีเมียม หรือ ร้านทองส่ง ให้นึกถึง ดิ โอลด์ สยาม พลาซ่า

 

สำหรับ แผนพัฒนาดิ โอลด์ สยามจะเดินหน้าปรับพื้นที่ภายในและภายนอกทั้งหมด ทั้งในส่วนพลาซ่า และบ้านพักอาศัย โดยคง เอกลักษณ์ของอาคารในสไตล์โคโลเนียลที่มีความคลาสสิก บนพื้นที่ให้บริการ 98,500 ตารางเมตร ในส่วนของพลาซ่า พื้นที่รวม 17,945 ตารางเมตร เตรียมออกแบบและตกแต่งให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น พร้อมปรับพื้นที่ร้านค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการทั้งลูกค้ากลุ่มธุรกิจ (B2B : Business to Business) และ ลูกค้ากลุ่มค้าปลีก (B2C : Business to Consumer)

พื้นที่พลาซ่า ชั้น 1 ยังคงเป็นแหล่งรวม ร้านเพชร ร้านทองส่งชั้นนำ ผ้าลูกไม้นำเข้า ร้านเครื่องประดับ และขนมไทยโบราณมีชื่อเสียงมายาวนาน

พื้นที่พลาซ่า ชั้น 2 เป็นศูนย์รวมผ้าไหมเครื่องประดับ ห้องเสื้อ ชุดราตรี ชุดแต่งงานที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ

พื้นที่พลาซ่า ชั้น 3 พบกับโฉมใหม่ ศูนย์รวมร้านอาหาร และ มาร์เก็ต ที่เตรียมยกระดับให้เป็น Food Experience แห่งใหม่ของย่านนี้ ที่จำหน่ายสินค้าและให้บริการที่จะอำนวยความสะดวก และตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น

 

สนใจสอบถามข้อมูลได้ที่
Tel: 099-194-5497
Line ID: @theoldsiam
เกริก บุณยโยธิน

เกริก บุณยโยธิน

ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ

เว็บไซต์

โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์

นิว เวิร์ส กรุงเทพกรีฑา

นิว ซี-สแควร์ สวนหลวง สเตชั่น

ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านมาพบกับโครงการคอนโดพร้อมอ...

30 January, 2024

ริธึ่ม เจริญนคร ไอคอนิค

วันนี้จะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับคอนโดมิเนียมสุดฮอตชื่อโ...

29 January, 2024

วิสซ์ดอม คราฟท์ สามย่าน

Whizdom Craftz Samyan คือโครงการที่มอบ 5 องค์ประกอบพ...

4 December, 2023

นาวว์ เมกา

หากจะพูดถึง NOWW MEGA (นาวว์ เมกา) ในพื้นที่ของ Maga...

14 November, 2023

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง