THE ESSE at SINGHA COMPLEX

  

ดิ เอส แอท สิงห์ คอมเพล็กซ์


ถ้าใครที่มองว่าที่นี่สะท้อนกับความต้องการของตัวคุณมากที่สุด โดยที่งบประมาณไม่ได้เป็นอุปสรรคในการซื้อ เชื่อมั่นในศักยภาพของทำเลอโศก-เพชรบุรีในอนาคต และชอบความสะดวกสบายและความเป็นที่สุดของการอยู่อาศัยใน CBD in CBD อย่าง SINGHA COMPLEX แนะนำว่าให้ลองเข้าไปชมห้องตัวอย่างที่โครงการก่อน เพื่อเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นด้วยตาตัวเองก่อนที่จะตัดสินใจซื้อโครงการอื่นๆในย่านนี้ ไม่แน่คุณอาจจะพบว่า THE ESSE at SINGHA COMPLEX เป็นโครงการที่ใช่สำหรับคุณก็ได้

เกริก บุณยโยธิน เมื่อ 28 February, 2017 เวลา 17.51 pm

Prop score™: 3.8

คะแนนรีวิว: 0.0

0 รีวิว


ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา



    ข้อมูลโครงการ

ชื่อโครงการ

THE ESSE at SINGHA COMPLEX

บริษัทผู้สร้าง

Singha Estate Plc.

สถานที่

แยกอโศก-เพชรบุรี ถนเพชรบุรีตัดใหม่

สถานีรถไฟ BTS

BTS อโศก Distance 1,400 m.

สถานีรถไฟใต้ดิน

MRT เพชรบุรี Distance 0 m.

Airport Rail Link

ARL มักกะสัน Distance 450 m.,

สถานี BRT

-

พื้นที่

2-0-98.2 Rai

ชั้น

39

ยูนิต

319

ที่จอดรถ

87% (รวมจอดซ้อนคัน)

ลิฟท์

4 Passenger Lifts + 1 Service Lift

สิ่งอำนวยความสดวก

Green Amphitheatre, Hidden Pavillion, Super Car Parking, The Grand Lobby, Mailbox & Personal Storage, Sanctuary Terrain Garden, Sky Four Plex Facilities on 36 - 39 Floor inclusive of The Library and co-working area, Meeting Room, The Sky Social Lounge, The Residence Lounge, space for private parties complete with reception room and dining area, Private Theatre, On the Cloud Fitness, Fully-equipped gym room with rock climbing wall and Muay Thai boxing ring, Private exercise room, Sky Edge Swimming Pool, Adult sized pool with separate kid’s pool and a pool terrace, Onsen, Japanese hot spring and bathing facility, Steam Room, Private spa and salon, Sky Terrace


    ประเภทยูนิต

ประเภท

CONDO

studio

-

1 bedroom

34.75 - 47.75 Sq.m.

2 bedroom

70 - 77 Sq.m.

3 bedroom

-

Duplex

-

Penthouse

215.50 Sq.m. (Penthouse Duplex)

ประเภทอื่นๆ

-

ความสูงจากพื้นถึงเพดาน

3 เมตร

ราคาเริ่มต้น / ตรม.

245,000

ราคาเริ่มต้น / ยูนิต

8.6 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง

N/A

Sinking Fund fee

N/A

สร้างเสร็จ

2020

เว็บไซต์

http://www.singhaestate.co.th/singhacomplex/condo/

1221


เพื่อนบ้าน Street View


อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจซื้อที่อื่น ถ้ายังไม่ได้เข้ามาดูที่นี่ THE ESSE at SINGHA COMPLEX

 

ในยุคที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่คอนโดเปิดใหม่ที่เคลมตัวเองว่าเป็นคอนโดในเซกเมนท์ Luxury – Super Luxury เต็มไปหมด จนผู้ซื้อหลายๆคนก็ชักจะเริ่มสับสนแล้วว่าคอนโดที่ตัวเองเชื่อนัก เชื่อหนาว่าเป็นของเกรดหรู ดูดี มีคุณภาพ น่าเก็บสะสมในระยะยาว จนต้องควักเงินซื้อไปนั้น สุดท้ายเมื่อสร้างเสร็จแล้วมันจะออกมาเป็นดังคำกล่าวจริงหรือไม่ หรือว่าจะแพงเพียงแค่ราคา…นั่นคือสิ่งที่เป็นความท้าทายอันใหญ่หลวง ของทุกดีเวลลอปเปอร์ที่ตัดสินใจก้าวเข้ามาเป็นผู้เล่นในตลาดคอนโดหรูของเมืองไทย

 

การจะหาคอนโดที่คู่ควรกับนิยามของคำว่า Luxury ได้นั้น สาระสำคัญไม่ได้มีเพียงแค่ การพยายามใส่ Value added ในเชิง Design & Functional ลงไปในตัวโครงการให้ได้มากที่สุด แต่จำเป็นที่จะต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างทั้งในเชิง Tangible และ Intangible แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือทุกอย่างรวมกันแล้วจะต้องมอบประสบการณ์ที่สะท้อนถึงสถานะของผู้ที่ได้ครอบครอง เป็นทรัพย์สมบัติที่สร้างคุณค่าทางจิตใจ จนนำมาซึ่งความภาคภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของ

 

แล้วจะมีคอนโดในกรุงเทพฯสักกี่ที่กันเชียว ที่มีคุณสมบัติดังที่ได้พูดไป?…วันนี้จะพาคุณผู้อ่านไปพบกับโครงการที่ทาง Singha Estate เจ้าของโครงการเคลมว่าจะพัฒนาแต่โครงการที่เป็น Best In Class – คอนโดที่ดีที่สุดถ้าเทียบกับในเซกเมนท์เดียวกัน… นั่นคือ THE ESSE at SINGHA COMPLEX ไปดูกันครับว่า ด้วยสไตล์ และคุณลักษณะอันโดดเด่นของที่นี่ จะตรงใจกลุ่มผู้ซื้อคอนโดในตลาด Luxury – Super Luxury มากน้อยแค่ไหน

 

Sneak Preview !!! THE ESSE at SINGHA COMPLEX…The Most Luxury Condominium in Asoke

 

คอนโด THE ESSE at SINGHA COMPLEX นับว่าเป็นโครงการภายใต้แบรนด์ THE ESSE โครงการที่ 2 ต่อจาก THE ESSE ASOKE ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่บนทำเลใกล้เคียงกัน แต่แตกต่างกันตรงที่ THE ESSE at SINGHA COMPLEX มีองค์ประกอบของความเป็นพรีเมียมไลฟ์สไตล์ ที่มากกว่าด้วยการผสานกำลังกับโครงการ SINGHA COMPLEX โครงการ Mixed Use ระดับ World Class Design อันประกอบด้วย Grade A Office บนพื้นที่กว่า 115,900 ตรม. และพื้นที่ Retail อีก 10,000 ตรม. จนกลายเป็นเมืองทันสมัยแห่งใหม่ ใจกลาง CBD อโศก

 

หากพิจารณาเพียงแค่องค์ประกอบเหล่านี้ ก็คงจะวางใจในระดับหนึ่งว่า THE ESSE at SINGHA COMPLEX นั้นมีดีอยู่พอตัวเลยทีเดียวถ้าเทียบกับโครงการคอนโดอื่นๆที่อยู่ในย่านอโศก

ถึงแม้ Singha Estate จะถือว่าเป็นน้องใหม่ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็เป็นน้องใหม่ไฟแรง ที่ตั้งแต่เข้ามารุกตลาดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกเซกเมนท์ ทั้งการลงทุนและร่วมทุน รวมทั้งยังเจาะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในทุกรูปแบบ ทั้งธุรกิจโรงแรมที่ล่าสุดได้บริหาร โรงแรม มารีน่า บีชคลับ ในพื้นที่ที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในมัลดีฟส์ และโรงแรมอื่นๆในสหราชอาณาจักร

 

ธุรกิจบ้านเดี่ยวที่ได้พันธมิตรเป็นแบรนด์ชั้นนำของที่พักอาศัยแนวราบอย่าง Nirvana มาร่วมพัฒนาโครงการ ธุรกิจ Commercial ที่นอกจากจะเดินหน้าพัฒนาอาคารสำนักงานซันทาวเวอร์ส ที่เพิ่งซื้อมาอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังได้

 

เริ่มการก่อสร้าง SINGHA COMPLEX โครงการ Flagship ที่ให้ความเป็น “Live-Play-Work-Shop” ได้ในที่เดียว แห่งใหม่ใจกลางอโศก และในธุรกิจคอนโดมิเนียมก็ได้มีการพัฒนาโครงการ The ESSE Asoke ที่ประสบความสำเร็จในการเปิดตัว และขายไปได้กว่า 80% และกำลังเปิดตัว The ESSE at SINGHA COMPLEX เป็นโครงการที่สองภายใต้แบรนด์ THE ESSE อีกทั้งยังเตรียมที่จะเปิดอีกโครงการในระดับ Super Luxury ที่ สุขุมวิท 36 ติดสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ โดยเป็นการร่วมทุนกับ ดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำของฮ่องกงอย่าง ฮ่องกง แลนด์ ซึ่งมีมูลค่าโครงการประมาณ 6,000 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2017 นี้เช่นกัน

 

ก่อนที่เราจะไปดู THE ESSE at SINGHA COMPLEX เรามาทำความรู้จัก SINGHA COMPLEX กันก่อนดีกว่า ว่าจะเป็น Facilities ที่ใกล้และดีที่สุดมากแค่ไหน SINGHA COMPLEX ตั้งอยู่บนพื้นที่ 11 ไร่ ของที่ดินหัวมุมถนนอโศก-เพชรบุรี ที่ ดินแปลงสวยอดีตสถานฑูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย โดยแบ่งพื้นที่ออกมา 2-0-98.2 ไร่ เพื่อสร้างเป็น THE ESSE at SINGHA COMPLEX

SINGHA COMPLEX ตั้งอยู่ใจกลางการเดินทาง สามารถเชื่อมต่อ MRT, APL ระบบเรือคลองแสนแสบ และการขับรถก็สะดวกเพราะสามารถใช้ได้ทั้งถนนเพชรบุรี อโศก และขึ้นทางด่วนพิเศษได้อย่างหลากหลาย (แม้บางช่วงบางเวลารถจะติดพอสมควร) แวดล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญในอนาคต หลักๆ เช่น 2 โรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่กำลังจะก่อสร้างอย่าง RSU international และ บำรุงราษฎร์ เพชรบุรี campus รวมทั้งมักกะสันคอมเพล็กซ์ โครงการขนาดใหญ่หลายร้อยไร่ที่สำคัญซึ่งกำลังรอความชัดเจนจากรัฐบาล ที่อยู่ห่างออกไปเพียง 400 เมตร

โดย SINGHA COMPLEX เป็นโครงการ mixed-use ที่รวมทุกรายละเอียดการใช้ชีวิต อาทิ สำนักงานเกรดเอ ไลฟ์สไตล์มอลล์ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบมีรสนิยม ที่มีบริษัทสถาปนิก World class Architecture อย่าง Kohn Pedersen Fox หรือ KPF มาเป็นที่ปรึกษาการออกแบบหลัก เพื่อให้ Singha Complex เป็น Iconic Design ของถนนอโศก-เพชรบุรี กับ Business District ใหม่ใน CBD ย่านอโศกที่จะเป็น magnet สำคัญของย่าน MRT เพชรบุรีนี้อีกด้วย 

ภายในแบ่งเป็น 2 ส่วนคือพื้นที่ retail shop ร้านอาหารในชั้นล่างๆ และออฟฟิศอาคารสำนักงานระดับพรีเมี่ยมในส่วน tower  ซึ่งเชื่อว่าโดยศักดิ์ศรีแล้ว จะสามารถคัดกรองผู้เช่าได้ในระดับนึง ว่าจะมีแต่บริษัทระดับนานาชาติที่มีฐานเงินเดือนสูงๆมาเช่า และกลุ่มพนักงานในองค์กรเหล่านี้ก็เป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่ทาง THE ESSE at SINGHA COMPLEX หวังว่าจะมาจ่ายค่าเช่าในอนาคต อีกทั้งยังการันตีไปแล้วว่าชั้นบนๆจะเป็นออฟฟิศหลักของกลุ่มบุญรอดบริษัทแม่ของ SINGHA ESTATE

ที่สำคัญ SINGHA COMPLEX ยังขอเชื่อมทางเดินใต้ดินกับสถานี MRT เพชรบุรี ทำให้เมื่อออกจากรถไฟใต้ดินไม่ต้องเดินข้ามถนนเพื่อมาฝั่งมศว. เหมือนเช่นในอดีตที่ผ่านมา โดยแค่ขึ้นบันไดเลื่อนใต้ดินมาจาก MRT เพชรบุรี ก็จะเข้าสู่พื้นที่โครงการได้เลย สร้างความสะดวกสบายถึงขีดสุดในการเดินทาง ให้กับทั้งผู้ที่อยู่ในบริเวณข้างเคียง และผู้ที่อยู่อาศัยในโครงการ

การมี SINGHA COMPLEX มาเป็นจุดดึงดูดแห่งใหม่ ทำให้ THE ESSE at SINGHA COMPLEX เป็นคอนโดที่ดีที่สุดบนทำเลอโศก-เพชรบุรี เพราะจะกลายเป็นคอนโดโครงการเดียวที่อยู่ในพื้นที่ Mixed Use ในขณะที่โครงการอื่น เป็น stand alone ทั้งหมด จึงถือว่า THE ESSE at SINGHA COMPLEX มีศักดิ์ศรีไม่แพ้โครงการที่ติด MRT ฝั่งอโศก สุขุมวิท เลยทีเดียว

 

เรากลับมาดูที่ตัวคอนโดกันบ้าง THE ESSE at SINGHA COMPLEX เป็นโครงการระดับ Luxury -Super Luxury โครงการแรกของ Singha Estate ที่ได้บริษัท Kohn Pedersen Fox หรือ KPF มาเป็นที่ปรึกษาการออกแบบหลักเช่นเดียวกับ SINGHA COMPLEX ร่วมกับบริษัท Plan Associates สถาปนิกหลักของโครงการ ที่เน้นความพิถีพิถันในการออกแบบ ที่ก่อให้เกิดความเป็นเอกลักษณ์ในทุกจุด โดยมีแนวคิดการออกแบบ Shape & form โทนสี และบรรยากาศของ THE ESSE at SINGHA COMPLEX มาจากข้าวบาร์เล่ย์ ที่เป็นสัญลักษณ์และภาพจำของแบรนด์ SINGHA มาอย่างยาวนาน โดยตัวอาคารเป็นเสมือนรวงข้าวบาเล่ย์สีเหลืองทอง ที่ถ่ายทอดผ่านโทนสีของอาคาร ที่คุมโทนสีทั้งหมดด้วยกระจกและ facade ภายนอกอาคาร

ตัวอาคารของ THE ESSE at SINGHA COMPLEX จัดวางอยู่บน MASTERPLAN ที่เชื่อมโยงต่อเนื่องเข้ากับตัวอาคาร SINGHA COMPLEX ผ่านพื้นที่ Landscape ขนาดใหญ่ โดยใช้ทางเข้าออกหลักเดียวกัน บนถนนเพชรบุรี แต่ตัวโครงการ THE ESSE at SINGHA COMPLEX มีทางเข้าออกรอง เฉพาะการเดิน ซึ่งเข้าออกได้จากฝั่งถนนอโศก

THE ESSE at SINGHA COMPLEX มีทั้งหมด 39 ชั้น 319 ยูนิต วางตัวตามแนวตะวันออก ตะวันตก โดยทิศเหนือติดลานหน้าโครงการที่เชื่อมกับ SINGHA COMPLEX และถนนเพชรบุรี ทิศใต้ เป็นด้านหลังโครงการ ติดคลองแสนแสบ และวิวด้านถนนอโศก (ที่มีระยะห่างของอาคารและคลองสองฝั่ง) ทิศตะวันตก ติดสวนภายในโครงการ และถนนอโศก จะเห็นว่าวิวโอเคไม่ค่อยมีห้องบล็อกวิวซักเท่าไหร่ ยกเว้นทิศตะวันออกที่หันไปหา ตัวอาคารหลักของ SINGHA COMPLEX เอง ซึ่งมีระยะห่างออกไปราว 30 ม. ห่างอยู่พอควร

 

พื้นที่ Lobby และ Facilities บางส่วนอย่าง Business Lounge, Mail Box & Private storage อยู่ที่ชั้น 1 เชื่อมกับสวนหน้าโครงการ และมีที่จอดรถ Super Car

ชั้น 2-7 เป็นที่จอดรถโดยรวม ทั้งที่จอดรถชั้น G และที่จอดบนอาคารรวมเป็น 87% รวมซ้อนคัน

ส่วนยูนิตที่พักอาศัยเริ่มต้นที่ชั้น 8 ซึ่งเป็นชั้นสวนด้านบนอาคารที่ไล่ระดับกับพื้นที่สวนที่ชั้น 1

 

รูปแบบห้อง เป็น single corridor บางส่วน โดยวาง lift โดยสาร 4 ตัว ลิฟท์บริการ 1 ตัว และห้องงานระบบไว้ตรงกลางอาคาร และมีห้องล้อมรอบตามทางเดิน ทำให้ห้องส่วนใหญ่ไม่มีห้องตรงข้ามค่อนข้าง Private และมีหน้าต่างช่องแสงระบายอากาศ 3 จุดที่สุดปลายทางเดิน ทำให้ไม่อับและถ่ายเทอากาศได้ดี

ส่วนรูปแบบห้องมี 3 แบบหลักๆคือ 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน และ duplex penthouse 4 ยูนิต ที่ 2 ชั้นบนสุดของโครงการ ขนาด 215.50 ตารางเมตร

 

 

แบบแรกคือ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 34.75-47.75 ตร.ม. มีทั้งหมด 5 Type

 

โดยแบ่งเป็น Type 1A-1 : 34.75 ตร.ม. เป็นห้องทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสแบ่งพื้นที่ส่วนต่างๆออกเท่าๆกัน มีบานเลื่อนกระจกใสบานเต็มพื้นจรดเพดาน มาใช้กั้นแบ่งบริเวณ living area กับห้องนอน ทำให้ห้องดูกว้าง พร้อมชุด walk in closet หน้าห้องน้ำที่ออกแบบมาได้ลงตัว พร้อมพื้นที่ครัวขนาดใหญ่ที่ไม่ค่อยเห็นในห้อง 1 Bedroom สักเท่าไหร่ Type นี้จะมีที่ชั้น 8-35 ชั้นละ 2 ห้อง หันไปทางที่ทิศตะวันออก

 

ห้องแบบนี้มีทั้งหมด 128 ห้องคิดเป็นประมาณ 40% ของห้องทั้งหมด

Type 1A-2 : 34.75 ตร.ม. รูปแบบห้องเหมือนกับ Type 1A-1 : 34.75 ตร.ม. เพียงแต่ต่างกันที่ทิศของการวางแปลนห้องที่กลับด้านซ้ายขวา และหมุนตามทิศของห้อง มีที่ชั้น 8-25 ชั้นละ 4 ห้อง หันทางทิศเหนือและทิศใต้ ด้านละ 2 ห้อง

(วิเคราะห์ยูนิตแปลนจากคอนโดแมน)

 

ห้อง 05 , 06 ทิศตะวันออกหันไปหาอาคาร SINGHA COMPLEX Office บังวิวหน้าตรงแต่ด้วยระยะห่างที่ไม่ได้ประชิดนัก ห่างออกไป 30 ม. และการวางห้องที่ไม่ได้อยู่ติดกัน ยังพอมองเฉียงหาวิวได้ ข้อดีของห้องแบบนี้คือการที่เป็นห้องมุมมีผนังติดห้องอื่นเพียงด้านเดียว

 

หรือห้อง 02,03 สำหรับชั้นล่างๆ ที่มีวิวเมือง Rama 9 new CBD อยู่ไกลๆ ได้เห็นรถไฟฟ้า APL วิ่งไปมาด้วยเพิ่มมิติความเคลื่อนไหวให้มุมมอง แถมความเขียวขจีของสวนมักกะสัน

 

ห้อง 08,09 ตำแหน่งนี้จะได้วิวเมืองสวยๆของถนนอโศก ที่น่าจะโล่งตลอดเพราะแปลงข้ามฝั่งคลองอยู่เชิงสะพานไม่สามารถขึ้นอาคารสูงได้ ถ้าไม่ได้ซื้อที่แปลงอื่นเปิดทางมา โดยชั้น 25 จะเป็นชั้นที่สูงที่สุดของห้องแบบนี้ในตำแหน่งนี้ เพราะจากชั้น 26 ไปที่ตำแหน่งเดียวกันจะกลายเป็นห้อง 2 bed ซะแล้ว ก็เป็นจุดขายที่ดีสำหรับห้องชั้นนี้นะครับ

Type 1B-1 : 47.75 ตร.ม. รูปแบบห้องเป็นห้องหน้ากว้าง ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีบานกระจกเชื่อมต่อเนื่องจากห้องนั่งเล่นสู่ห้องนอน โดยเน้นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ มี sexy bathroom กระจกเข้ามุมเปิดให้บริเวณห้องอาบน้ำสามารถมองเห็นได้จากในห้องนอน มีอยู่ที่ชั้น 8-35 ชั้นละ 2 ห้อง เป็นห้องหัวมุม ทิศตะวันออก แต่บานกระจกที่เป็นจุดขายเปิดหันไปทางทิศเหนือและทิศใต้ตามแต่ละตำแหน่งของห้อง

 

ห้องแบบนี้มี 17% ของโครงการ

Type 1B-2 : 47.75 ตร.ม. รูปแบบห้องทรง L shape มีพื้นที่ครัวเชื่อมห้องนั่งเล่นที่ยาว มีอ่างอาบน้ำให้เพื่อเพิ่มความพรีเมียม พร้อม Walk-in closet ติดทางเข้าห้องน้ำ ได้วิวสวนและถนนอโศก มีชั้นละ 1 ห้อง ที่ชั้น 8-35 (โดยชั้น 8 ได้ห้องติดสวน)

Type 1B-3 : 47.75 ตร.ม. รูปแบบห้อง L Shape แปลนเดียวกับ Type 1B-2 : 47.75 ตร.ม. แต่กลับด้านบนล่าง เปลี่ยนตำแหน่งตู้เสื้อผ้ามาอยู่ที่ห้องนอน และมีพื้นที่บริเวณหลังประตูทางเข้าเป็นพื้นที่เก็บรองเท้า มีชั้นละ 1 ห้อง ที่ชั้น 9-35 ทิศตะวันตก

แบบที่สองคือ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 70 – 77 ตร.ม. มี 2 Type คือ

 

Type 2C-1 : 70 ตร.ม. ห้องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า เน้นพื้นที่ living กว้าง มี sexy bathroom กระจกเข้ามุมที่ห้องนอน Master Bedroom และมี 2 ระเบียงที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอนใหญ่ มีชั้นละ 2 ห้อง ที่ชั้น 26-35 ที่ทิศเหนือและใต้

 

ห้องแบบนี้มีแค่ 6% จากทั้งหมด มีเฉพาะชั้นสูง เริ่มต้นที่ชั้น 26 เป็นต้นไป นักลงทุนอาจจะสนใจซื้อเก็งกำไร เพราะนอกจากห้องจะมีไม่มากให้แย่งกันแล้ว ราคายังถูกกว่าห้อง 2 bed อีกแบบประมาณ 2 ล้านบาทกันเลยทีเดียว (ความเห็นจากคุณคอนโดแมน)

Type 2C-2 : 77 ตร.ม. ห้องมุมทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส  เน้นพื้นที่ห้อง Master Bedroom ขนาดใหญ่ มี sexy bathroom เข้ามุมภายในห้องนอน และ sky bath กระจกใสบานใหญ่ไว้ชมวิวที่บริเวณ shower  พร้อมอ่างล้างหน้าและ walk in closet แบบ his & her แต่ Typeนี้ living area แคบ แต่มาพร้อมกับ Kitchen island ตรงกลางพื้นที่ครัว มีที่ชั้น 8-35 ชั้นละ 2 ห้อง หันทางทิศตะวันตก

และแบบสุดท้ายคือห้อง duplex penthouse 4 ยูนิต ที่ 2 ชั้นบนสุดของโครงการ คือชั้น 38-39 ขนาด 215.50 ตารางเมตร พร้อม lift ที่เพิ่มขึ้นมาอีก 1 ตัวโดยสามารถกดขึ้นตรงมาจากชั้นส่วนกลางได้

ส่วนห้องตัวอย่างที่ทาง THE ESSE at SINGHA COMPLEX ตกแต่งให้เข้าเยี่ยมชม มีด้วยกัน 3 ห้อง โดยห้องจริงให้จริงตามห้องตัวอย่าง คือ Fully Furnished ทั้ง Furniture built-in และเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวเกรดพรีเมียม (ยกเว้นผนังห้องบางส่วนที่ไม่ได้ให้ คือ ผนังตกแต่งหัวเตียง) พร้อมระบบ Home automation เปิดปิด ไฟ แอร์ และผ้าม่าน ผ่านระบบสั่งการบน application ทุกห้อง

 

มาเริ่มดูที่ห้องตัวอย่างแรก One Bedroom 34.75 Sq.m. Type 1A-2 ห้องทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส แบ่งพื้นที่ส่วน Living และ Bedroom อย่างละเท่าๆกัน

ภายในห้องพื้นที่ส่วนแรกติดประตูทางเข้าเป็นครัวเข้ามุมรูปตัว U ยาวเต็มผนัง ซึ่งหาได้ยากกับห้อง 1Bedroom ไซต์นี้ที่ให้ครัวขนาดนี้ ไล่มาตั้งแต่ตู้ Built-in สำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า ติดกันเป็น ตู้เย็น Kuppersbusch แยกช่องเปิดบนล่าง หน้าบานตู้ครัวเป็น Glass Coated เข้าชุดกับตู้เก็บของด้านบนและล่าง

ถัดมาเป็นอ่างล้างจาน FRANKE เคาท์เตอร์เข้ามุมยาว รวมทั้ง Back Splash ปูด้วย composite quartz ลายหินอ่อนสีขาวฝังเตาไฟฟ้า Kuppersbusch 2 หัว ที่เหนือเตาไฟฟ้าเป็นที่ดูดควัน และไมโครเวฟ Kuppersbuschแบบฝัง และที่ปลายเคาท์เตอร์อีกด้าน ออกแบบให้เป็นโต๊ะทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่ง Top เดียวกับเคาท์เตอร์ครัว

ถัดจากครัวเป็นพื้นที่ Living area พื้นปูด้วย engineering wood สีน้ำตาลเข้มเชื่อมไปถึงพื้นที่ห้องนอน พื้นที่ Living area สามารถวางโซฟาสำหรับ 2-3 ที่นั่งได้พร้อมโต๊ะกลาง

ที่ผนังติดประตูเป็นตู้ Built-in สูงเต็มพื้นที่สำหรับวางรองเท้าและเก็บของได้

ติดกันเป็น FEATURE WALL WHITE VOLAKAS MARBLE เป็นผนังสำหรับติดตั้งทีวีและชั้นกระจกสีขาวลอยตัว

ระเบียงไม่ใหญ่มาก แต่แบ่งพื้นที่สำหรับใช้งานมีราวระเบียงกระจกกั้น แยกส่วนกับพื้นที่วางงานระบบที่ถูกกั้นและปิดไว้เป็นสัดส่วน

ที่ห้อง living area มีบานเลื่อนกระจกใสบานเต็มสูงจากพื้นจรดเพดานแบบ 3 ตอน รางเลื่อนด้านบน มาใช้กั้นแบ่งบริเวณ living area กับห้องนอน ทำให้ห้องดูกว้าง สามารถเปิดเชื่อมการใช้งานร่วมกันได้ และสามารถปิดเมื่อต้องการแบ่งพื้นที่ใช้งานที่เป็นส่วนตัว

ภายในห้องนอน แบ่งเป็นพื้นที่ walk-in closet หน้าห้องน้ำที่ด้านขวาของห้อง ที่ออกแบบมาได้ลงตัวที่ผนังด้านขวา เป็นเคาท์เตอร์แต่งหน้าและตู้เสื้อผ้า

ตรงกันข้ามเป็นทางเข้าห้องน้ำ ประตูห้องน้ำเป็นประตูบานเลื่อนสูงจรดเพดาน

ด้านในปูด้วย กระเบื้อง porcelain โทนสีเทาและน้ำตาลเข้ม แบ่งเป็นพื้นที่ส่วนเปียกแห้งด้วย shower box ผนังด้านในส่วนเปียก มีผนังหิน PIETA GREY 1 ผนัง

 

ส่วนแห้งเป็นเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า พร้อมตู้เก็บอุปกรณ์ลอยตัว เข้าชุดกับกระจกบานยาวเต็มผนัง ที่ Built-in เป็นชั้นเก็บอุปกรณ์ด้านในได้

 

ติดกันเป็นสุขภัณฑ์แบบติดผนังลอยตัว WALL HUNG แบบ Washlet ของ TOTO ส่วนอุปกรณ์ Faucet & Shower ทั้งหมดภายในห้องน้ำเป็นของ GROHE

 

ที่ด้านในสุดเป็นพื้นที่ส่วนเปียก โครงการให้ Rain Shower และ hand shower ของ GROHE

พื้นที่ด้านซ้ายของห้องนอนเป็นส่วนของเตียงนอนที่โครงการให้เตียงขนาดใหญ่ King size วางติดหน้าต่างบานเปิด ให้สามารถนอนชมวิวยามค่ำคืนได้ในทุกๆค่ำคืน

สำหรับห้องนี้เป็นห้อง Compact สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้งานได้หลากหลายตามความต้องการ พื้นที่ทุกส่วนของห้องมีด้านติดอากาศ ทำให้แสงส่องถึงทั่วทั้งห้อง และที่สำคัญเป็นห้อง Type เล็กสุด แต่ให้ครัวที่แตกต่างจาก Type เดียวกันในคอนโดอื่นๆ และที่สำคัญการออกแบบการใช้งานในทุกพื้นที่อย่างคุ้มค่า

 

ห้องตัวอย่างที่สอง คือ One Bedroom 47.75 Sq.m. Type 1B-1 ห้องหน้ากว้าง ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า เน้นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ มีอยู่ที่ชั้น8-35ชั้นละ 2 ห้อง เป็นห้องหัวมุม ทิศตะวันออก แต่บานกระจกที่เป็นจุดขายเปิดหันไปทางทิศเหนือและทิศใต้ตามแต่ละตำแหน่งของห้อง

ภายในห้องเป็นเคาท์เตอร์ครัวอยู่ติดทางเข้า วางตัวเป็นครัวรูปตัว L โทนสีขาว เทา

โดยที่ผนัง Built-in ชุดครัว โดยโครงการให้ตู้เย็น Kuppersbusch แบบแยกบานเปิดบนล่าง Top เป็น glass coated เข้าชุดกับตู้เก็บของด้านบน CombiOven Kuppersbusch แบบฝัง เหนือไมโครเวฟเป็นเตาไฟฟ้า Kuppersbusch 2 หัว เชื่อมเคาท์เตอร์เข้ามุม Top composite quartz รวมทั้ง Back Splash พร้อมอ่างล้างจาน FRANKE ที่ปลายเคาท์เตอร์อีกด้านหนึ่ง

ที่ผนังติดประตูทางเข้าเป็น Built-in ที่วางเครื่องซักผ้า แบบ Top เรียบติดผนังห้อง

ติดกับเคาท์เตอร์ครัว คั่นด้วยทางเดิน เป็นพื้นที่ Living area ที่แบ่งเป็นพื้นที่ทานอาหาร สามารถวางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 4 ที่นั่งแบบเข้ามุมได้ เป็นพื้นที่ส่วนตัวมีประตูกระจกบานเลื่อนออกระเบียงสูงจากพื้นจรดเพดาน เฉพาะเป็นส่วนตัว

ที่ระเบียงแบ่งเป็นพื้นที่ใช้งานและพื้นที่วาง Compressor air แบบมีที่กั้นปิด เพื่อความเป็นระเบียบ

และราวระเบียงเป็นกระจก ทำให้สามารถชมวิวภาพะนอกได้แบบเต็มมุมมอง

ติดกับครัวและมุมทานอาหารเป็นพื้นที่พักผ่อน ดูทีวี บริเวณใจกลางของห้องติดริมกระจกบานใหญ่เต็มเฟรม สามารถวางโซฟาเซ็ตเล็ก พร้อมโต๊ะกลาง ชิดริมหน้าต่าง ไว้นั่งชมวิวชิลๆ

พร้อมมุมดูหนัง ดูทีวี ผนัง FEATURE WALL หินอ่อน BROWN ST. LAURENT

พร้อมตำแหน่งติดตั้งทีวี และชั้นกระจก

ถัดมาเป็นทางเข้าห้องนอนเข้ามุม ต้อนรับการพักผ่อนด้วยกระจกเข้ามุมที่เหนือหัวนอน เสียดายแค่ตรงที่หัวเตียงขนาด 6 ฟุตที่โครงการให้มาส่วนหัวเตียงใหญ่ไปสักหน่อย ทำให้กระจกเข้ามุมห้องใช้งานได้เพียงการมองเท่านั้น

ห้องน้ำภายในห้องนอนโครงการให้ sexy bathroom แบบเป็นกระจกเข้ามุม ทำให้บริเวณห้องอาบน้ำสามารถมองเห็นได้จากในห้องนอน

หรือสามารถนอนแช่น้ำพักผ่อนพร้อมชมวิวจากภายในห้องน้ำในบางเวลาก็เปลี่ยนบรรยากาศไปอีกแบบ

ติดทางเข้าห้องน้ำเป็น Walk-in Closet มีตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน ให้ที่ผนังติดประตูทางเข้า และปลายสุดทางเดินเป็นเคาท์เตอร์แต่งตัว

ด้านในห้องน้ำปูด้วย กระเบื้อง porcelain โทนสีเทาและน้ำตาลเข้ม และมีผนังหิน PIETA GREY 1 ผนัง แบ่งเป็นพื้นที่ส่วนเปียกพร้อมกระจกกั้นที่ด้านในสุดล้อมด้วยผนังทึบ เป็นพื้นที่ส่วนตัวในการใช้งาน โดยโครงการให้ Rain Shower และ hand shower ของ GROHE

พร้อมมุมวางอุปกรณ์อาบน้ำที่ผนังฝั่งตรงข้าม

ส่วนแห้งเป็นเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า พร้อมตู้เก็บอุปกรณ์ลอยตัว เข้าชุดกับกระจกบานยาวเต็มผนัง ที่ Built-in เป็นชั้นเก็บอุปกรณ์อาบน้ำได้

 

ติดกันเป็นสุขภัณฑ์ wash let แบบติดผนังลอยตัว ของ TOTO ชุดสุขภัณฑ์ทั้งหมดภายในห้องน้ำเป็นของ GROHE

ด้านขวาของห้องน้ำส่วนแห้ง เป็นอ่างอาบน้ำ เข้ามุมด้วยกระจก ติดฟิล์ม Innovative glass ที่สามารถเปลี่ยนเป็นฝ้าเพียงแค่กดปุ่มเพียงปุ่มเดียว ก็ทำให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอกแล้ว https://i.imgflip.com/1juclt.gif

 

ห้องนี้น่าจะเหมาะสำหรับ คนรุ่นใหม่ที่ชอบความเป็นระเบียบ ชอบพื้นที่ที่แบ่งสัดส่วนชัดเจน และชอบห้องหน้ากว้างที่ได้พื้นที่ติดอากาศแบบเต็มๆทั่วทุกพื้นที่ในห้อง

ห้องตัวอย่างสุดท้ายเป็น Two Bedroom 77 Sq.m. Type 2C-2 ห้องมุมทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส  เน้นพื้นที่ห้อง Master Bedroom ขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมห้องน้ำและ walk in closet แบบ his & her

พื้นที่ส่วนแรกเป็นห้องครัวชุดครัว Built-in เข้ามุมเป็นรูปตัว L พร้อม Kitchen island ตรงกลางพื้นที่ครัว

ชุดครัว Built-in ประกอบด้วย ตู้วางรองเท้าและเก็บของ เชื่อมไปกับแนวผนังและตู้วางเครื่องซักผ้า แบบ Top เรียบติดผนังเดียวกับตู้เย็น Kuppersbusch แบบแยกช่องเก็บบนล่าง ฝาตู้เป็น Glass Coated

เชื่อมกับเคาท์เตอร์ครัว Top composite quartz ลายหินอ่อนสีขาว วางยาวเป็นรูปตัว L รวมทั้ง Back Splash โดยโครงการให้ อ่างล้างจาน FRANKE

 

เตาไฟฟ้า Kuppersbusch 4 หัว พร้อมเครื่องดูดควัน และ Combi-Oven Kuppersbusch แบบฝังที่ด้านล่าง

ตรงกลางพื้นที่ครัวเป็น Kitchen island มีชั้นเก็บอุปกรณ์ 1 ด้าน สำหรับเป็นพื้นที่ทำครัว เคาท์เตอร์ทานอาหาร หรือพื้นที่เตรียมอาหารรอเสริฟก็ได้

ด้านขวาของทางเข้าเป็นพื้นที่ Living area ขนาดกะทัดรัด สามารถวางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 4 ที่นั่งได้ที่ใกล้กับประตูทางเข้า

ส่วนด้านในติดประตูเลื่อนออกระเบียง สามารถวางชุดโซฟาสำหรับ 3-4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางไว้นั่งดูทีวี รับแขก หรือพักผ่อนสำหรับทุกคนในครอบครัวได้

ที่ระเบียงแบ่งเป็นพื้นที่ใช้งาน ราวระเบียงเป็นกระจก และกั้นพื้นที่วาง Compressor air แบบมีที่กั้นปิด เพื่อความเป็นระเบียบ

ระหว่างห้องครัวและห้องนั่งเล่น เป็นทางเดิน เชื่อมไปยังห้องนอนทั้งสองห้องและห้องน้ำอีก1ห้อง

ด้านซ้ายของทางเดินเป็นห้องน้ำ ปูด้วย กระเบื้อง porcelain โทนสีเทาและน้ำตาลเข้ม แบ่งเป็นพื้นที่ส่วนเปียกแห้งด้วย shower box

ที่ด้านในสุดเป็นพื้นที่ส่วนเปียก โครงการให้ Rain Shower และ hand shower ของ GROHE

ส่วนแห้งเป็นเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า พร้อมตู้เก็บอุปกรณ์ลอยตัว เข้าชุดกับกระจกบานยาวเต็มผนัง ที่ Built-in เป็นชั้นเก็บอุปกรณ์ด้านในได้

 

ติดกันเป็นสุขภัณฑ์ washlet แบบติดผนังลอยตัว TOTO ส่วน Faucet & Shower เป็นของ GROHE

สุดทางเดินเป็นห้องนอนเล็ก ที่มาพร้อมกับกระจกบานเต็มผนัง มีส่วนพื้นสูงขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ทำให้บดบังมุมมอง ที่ยังอยู่ในระยะมองเมื่อนอนชมวิวจากเตียง

ผนังห้องติดทางเข้าเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in สูงจรดเพดาน

ห้องนอนเล็กอาจเล็กไปสักหน่อย แต่ก็กว้างพอที่จะปรับเป็นห้องทำงาน ห้องหนังสือ หรือห้องต่างๆตามความต้องการ กรณีที่เป็นครอบครัวขนาดเล็ก

 

มาถึงห้องนอนใหญ่ ที่เป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของห้อง Type นี้ ด้านขวาของทางเข้า เป็น walk in closet แบบ his & her

ติดกับทางเข้าห้องน้ำที่เป็น sexy bathroom เข้ามุม เชื่อมมุมมองกับภายในห้องนอน

ห้องน้ำปูด้วย กระเบื้อง porcelain โทนสีเทาและน้ำตาลเข้ม และมีผนังหิน PIETA GREY 1 ผนัง แบ่งเป็นพื้นที่ส่วนเปียกพร้อมกระจกกั้นที่ด้านในสุด โดยโครงการให้ Rain Shower และ hand shower ของ GROHE มี sky bath กระจกใสบานใหญ่ไว้ชมวิวที่บริเวณ shower เชื่อมมายังพื้นที่ส่วนแห้ง

ที่เป็นสุขภัณฑ์ wash let TOTO แบบติดผนังลอยตัว เชื่อมกับเป็นเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าแบบ his & her พร้อมตู้เก็บอุปกรณ์ลอยตัว เข้าชุดกับกระจกบานยาวเต็มผนัง ที่ Built-in เป็นชั้นเก็บอุปกรณ์อาบน้ำได้ ห้องน้ำห้องนี้ติดอากาศ ไม่ต้องกังวลเรื่องความอับชื้น

ด้านซ้ายของห้องน้ำส่วนแห้ง เป็นอ่างอาบน้ำ เข้ามุมด้วยกระจก ติดฟิล์ม Innovative glass ที่สามารถเปลี่ยนเป็นฝ้าที่ไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอกเพียงแค่กดปุ่ม >> https://i.imgflip.com/1juclt.gif

ส่วนพื้นที่วางเตียงนอน อยู่ติดริมหน้าต่างกระจกบานใหญ่เข้ามุมบริเวณหัวเตียง ให้ได้สัมผัสมุมมองและวิวเมืองที่โอบล้อม ให้ได้ชมบรรยากาศที่ไม่ซ้ำในแต่ละค่ำคืน

ห้อง Type นี้เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-ใหญ่ ที่ชอบใช้ชีวิตในพื้นที่ห้องนอนเพื่อการพักผ่อนมากกว่าการใช้งานพื้นที่ส่วนอื่นๆ เพราะถ้าใครชอบพื้นที่ living area ใหญ่ๆ อาจไม่ถูกใจกับห้อง Type นี้ก็เป็นได้

 

ส่วนพื้นที่ส่วนกลางมีทั้งที่บริเวณหน้าอาคาร ที่ออกแบบให้พื้นที่ The Grand Lobby เหมือนกับบรรยากาศ Sale office และดึงเอาบรรยากาศของทุ่งข้าวบาร์เล่ย์ที่อยู่ท่ามกลางท้องฟ้าสีขาว มีแสงจากดวงอาทิตย์ส่องลอดรวงข้าว สะท้อนมาเป็นแสงที่นำมาใช้ในพื้นที่ Lobby หลัก

และเชื่อมกับพื้นที่สระน้ำ และพื้นที่สวน ที่ออกแบบโดย TROP บริษัทออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมแนวหน้าของประเทศ ที่ออกแบบให้พื้นที่สวนเป็น Step แยกการใช้งาน ทั้ง Green amphitheater และ Hidden Pavilion ที่เชื่อมกันเป็นพื้นที่สีเขียวผืนเดียวกัน แต่สามารถเลือกการใช้งานได้หลากหลายและเป็นส่วนตัวจากบริบทโดยรอบทั้งภายในและภายนอกโครงการอย่างถนนอโศกที่แสนวุ่นวาย ทำให้เป็นเกิดพื้นที่เฉพาะและพื้นที่ส่วนตัวของคนในคอนโด อีกทั้งยัง กลมกลืนต่อเนื่องกับ landscape ขนาดใหญ่ของตึก SINGHA COMPLEX ที่อยู่ข้างกันด้วย ทำให้แนวริมถนนอโศกทั้งหมดเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ จะเขียวร่มรื่นไปทั้งแนว ไปจนถึงส่วน Lobby โถงต้อนรับขนาดใหญ่แบบ double volume ของโครงการ เพราะโครงการได้ทำการเก็บต้นก้ามปูเก่าแก่ทั้ง 3 ต้นที่อยู่ริมถนนเอาไว้ด้วย

อีกทั้งยังมีพื้นที่ห้องเก็บของขนาดใหญ่อย่างเช่นถุงกอล์ฟ ที่เชื่อมกับที่จอดรถ super car

 

พื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 8 เป็นพื้นที่สวน Sanctuary Terrain Garden ที่ ออกแบบมาให้ทางเข้าเป็นช่องลอดผ่านเนิน landscape รูปทรงขั้นบันไดยกสูง ให้ความรู้สึกเหมือนเดินผ่านธรรมชาติแม้อยู่ที่ชั้น 8

และพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 36-37 แต่เป็นชั้น 36,36M,37,37M คือ sky facilities 4 ชั้นต่อเนื่อง

 

โดยที่ชั้น 36 มี Meeting Room, The Library and co-working area, The Sky Social Lounge แบบ double volume เพดานสูง, Private Theatre และพิเศษที่สุดกับ The Residence Lounge พื้นที่สำหรับจัดเลี้ยง ประกอบด้วยห้องรับแขกและห้องรับประทานอาหาร

ชั้น 36M เป็น private spa and salon ที่มีไว้รองรับสำหรับ private service

ชั้น 37 มีทั้งสระว่ายน้ำ Sky Edge Swimming Pool ที่ออกแบบให้สระว่ายน้ำแห่งนี้มีการออกแบบให้ยื่นออกจากตัวอาคาร เหมือนลอยอยู่กลางอากาศ

On the Cloud fitness ขนาดใหญ่ แบบ double volume พร้อมหน้าผาจำลองและ boxing ring , ห้องสตรีมและบ่อน้ำร้อน ONSEN แยกชายหญิง

ชั้น 37M  – ห้อง private exercise room ที่ให้คุณพา trainer รู้ใจมาฝึกฝนร่างกายกันท่ามกลางความสูงที่สุดในย่านอโศก-เพชรบุรี

 

และสุดท้าย Sky Terrace ที่ชั้น Rooftop เป็น oasis ส่วนตัวที่ซ่อนเร้นอยู่ส่วนลึกและสูงที่สุดของตึก โดยแยกลิฟท์ที่ต้องมาเปลี่ยนลิฟท์ที่ชั้น Facilities 36-37 แต่สำหรับเพนท์เฮ้าส์สามารถขึ้นลิฟท์ตรงขึ้นมาได้เลย

THE ESSE at SINGHA COMPLEX เป็นคอนโดในเซกเมนท์ Luxury – Super Luxury ที่ผมมองว่ามีหลายๆคนยังคงกังขาถึงความคุ้มค่าในการซื้อ บ้างก็บอกว่าซื้อไปทำไมนี่มันถนนเพชรบุรีไม่ใช่สุขุมวิท บ้างก็บอกว่าตรมละเกือบสามแสนไปซื้อทองหล่อดีกว่า บ้างก็บอกว่าราคาขนาดนี้ทำไมไม่ให้กระจกแบบ Full Height ในห้องนอน และบ้างก็ตั้งคำถามว่าต้นทุนที่ดินมันถูกกว่าโครงการใหม่ๆหลายโครงการ แต่ทำไมยังขายแพง…โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าโครงการนี้ก็ไม่ได้เป็นโครงการที่ Perfect ที่สุดในบรรดาโครงการระดับเดียวกันที่มีอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ผมก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่านี่คือโครงการที่มี Attribute ดีที่สุดในย่านอโศก แบบที่ผมไม่มีข้อกังขาใดๆ

 

คำกล่าวที่ว่า “ในโลกนี้ล้วนไม่มีของถูกหรือแพง ของจะถูกหรือแพงเป็นเรื่องที่คนเราคิดไปเองทั้งสิ้น” อันนี้เป็นประเด็นที่ผมอยากให้ผู้ที่กำลังสนใจในการซื้อ หรือขายอะไรก็ตามที่ตั้งราคาสูงควรทำมาคิดพิจารณา ในขณะที่คนหลายๆคนพูดว่าที่นี่แพงเกินไป ก็ยังมีคนอีกหลายๆคนที่คิดว่าที่นี่ราคาไม่แพงเลย… ใช่ครับ หลักสำคัญที่จะทำให้สินค้านั้นขายได้ ย่อมมาจากการที่สินค้าแต่ละอย่างนั้นมี สายสัมพันธ์อย่างแนบแน่น “Relevance” ทั้งในเชิงจิตวิทยา และเชิงประโยชน์ใช้สอย กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากที่สุด หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ สินค้าและเจ้าของสินค้าจะดึงดูดซึ่งกันและกันเอง ผู้ใช้สินค้าเลือกซื้อก็เพราะว่ามันเหมาะสมที่สุดกับตัวเอง โดยปัจจัยที่เห็นชัดที่สุดในการที่จะ Filter ว่าเหมาะสมหรือไม่ก็คือราคานี่เองครับ พูดง่ายๆก็คือ ราคาเป็นตัวกรองลำดับแรก และ Relevance เป็นตัวกรองขั้นสุดท้าย และหากคุณเป็นคนที่พิจารณาความคุ้มค่า จากคำว่าสุขุมวิทเป็นหลัก ที่นี่ไม่เหมาะกับคุณแน่นอนครับ!!

 

ว่ากันในเรื่องของทำเล ในฐานะที่ตัวผมเองก็เป็นคนที่มีสำเนาทะเบียนบ้านอยู่ในย่านนี้ ก็ต้องบอกว่าผู้คนเกินครึ่งหนึ่งของตึกที่ผมอยู่ค่อนข้างตื่นเต้น และดีใจกับการมาของโครงการระดับ World Class อย่าง SINGHA COMPLEX ครับ นี่ไม่รวมถึงการพัฒนาโครงการอื่นๆที่เป็นน้ำจิ้มให้กับย่านอโศก-เพชรอย่างโรงพยาบาล RSU International และ บำรุงราษฏร์ การพัฒนาโครงการในอนาคตของกลุ่ม Cape และ Kantary รวมไปถึงโครงการ Mixed Use แห่งใหม่ที่โบสถ์ข้างๆ The Address Asoke…เนื่องจากทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นการยกระดับทำเล ที่ส่งผลโดยตรงต่อราคาของอสังหาฯโดยรอบให้มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบหลายปี

“การวิวัฒน์ของย่าน CBD เก่า” เป็นสิ่งกำลังจะเกิดขึ้นในย่าน CBD อโศก อย่างแน่นอน พร้อมกับการมาของ SINGHA COMPLEX อย่าลืมนะครับ ว่าในอดีตที่ผ่านมาแยกอโศก-เพชร ช่วงไปทางฝั่งมศว. ถือว่าเป็นฝั่งที่เป็นลูกเมียน้อยมาก ทั้งๆที่มีแหล่งดึงดูดคนอย่าง มศว. และโครงการคอนโดอยู่ไม่ใช่น้อย เนื่องมาจากการที่ฝั่งนี้ไม่ได้มีบันไดทางเชื่อมจาก MRT เหมือนกับฝั่งอื่นๆ ส่งผลให้ผู้ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่มนฝั่งนี้ต้องเดินข้ามถนนด้วยความยากลำบาก และเด็กมศว.ที่เดินทางด้วยรถใต้ดินก็ต้องเดินอ้อมขึ้นไปข้ามถนนบริเวณกลางอโศกเพื่อเข้ามหาวิทยาลัย โครงการคอนโด ณ ปัจจุบันที่ได้เปรียบในเรื่องของความใกล้สถานี MRT เพชรบุรีมากที่สุดก็คงจะเป็น Q Asoke ที่วันนี้ราคารีเซลพุ่งทะลุฟ้าไปเรียบร้อยโรงเรียนชัชชาติแล้ว

ทางเชื่อมรถใต้ดิน เข้ามาสู่ภายในโครงการ SINGHA COMPLEX และการ GO LIVE ของโครงการแห่งนี้ในช่วงกลางปี 2018 คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญของแยกอโศก-เพชร ในรอบ 10 ปีอย่างแน่นอน และที่สำคัญคือถึงจุดเปลี่ยนก่อนที่โครงการ THE ESSE at SINGHA COMPLEX จะสร้างเสร็จด้วยซ้ำ เนื่องจากโครงการ SINGHA COMPLEX จะพร้อม Handover ให้กับผู้ที่เข้ามาเช่าพื้นที่รายแรกคือกลุ่มบุญรอด ภายในกลางปี 2018

บางทีการตีราคาขายของโครงการด้วยการเอาราคาที่ดินที่ซื้อมาตั้งแต่ครั้งอดีตกาล มาเป็นดัชนีชี้วัด ก็อาจจะไม่แฟร์นัก สำหรับ SINGHA ESTATE ผู้ซึ่งไม่ได้วางแผนไว้ก่อนล่วงหน้าว่าจะพัฒนาที่ดินตรงนี้เป็นโครงการคอนโด ซึ่งก็เท่ากับว่าเป็นการเฉือน Recurring Income ส่วนหนึ่งที่ควรจะได้จากการพัฒนาโครงการ SINGHA COMPLEX มาใช้ในการพัฒนาโครงการนี้

หากดูในแง่ของการลงทุน ในช่วงที่สภาพตลาดเป็นแบบนี้ ผู้ที่สามารถทำกำไรในระยะสั้นได้ เห็นจะมีแต่คนที่ดวงดี หรือไม่ก็มี Connection ค่อนข้างเยอะ โครงการ THE ESSE at SINGHA COMPLEX ดูแล้วคงจะไม่เหมาะกับการลงทุนในระยะสั้น ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของตลาด Luxury – Super Luxury ที่คนซื้อเพื่อลงทุนสามารถ “ทนรวย” และคนซื้อเพื่ออยู่เองก็สามารถรอจนตึกเสร็จได้โดยที่ไม่กังวลกับราคาที่อาจะปรับตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกันการลงทุนปล่อยเช่า จากประสบการณ์ของผม คอนโดที่อยู่ในย่านนี้มีแรงดึงดูดเพิ่มเติมจากสถานี Airport Link มักกะสัน ซึ่งพบว่ามีกลุ่มบริษัท สายการบินหลายๆแห่ง ได้มีการเช่าห้องในรูปแบบ Corporate Leasing ที่คอนโดแถวๆนี้ โดยเป็นการเช่าระยะยาว แต่ว่าจะมีบุคคลากรของสายการบินนั้นๆ หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันมาเข้าพักอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหากเปรียบเทียบกับคอนโดเก่า แน่นอนว่า THE ESSE at SINGHA COMPLEX คงทำ Rental Yield สู้ไม่ได้ โดยคอนโดที่อยู่ในย่านนี้มีการปล่อยเช่ากันที่ระดับราคาสูงสุดประมาณ 800 บาทต่อตรม. ถ้าเทียบกับราคาซื้อขายมือหนึ่งเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ถือว่าเป็น Yield เกิน 8% แต่หากเป็นราคาซื้อขายในปัจจุบันได้เกิน 5.5% ก็ถือว่าเป็นที่ยอมรับได้แล้ว ซึ่งราคาค่าเช่าของ THE ESSE at SINGHA COMPLEX จะทำสถิติ new high สูงตามอัตราค่าเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานของ SINGHA COMPLEX ได้ไหม ก็เป็นเรื่องที่ต้องคอยลุ้นกันต่อไป

สำหรับในเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นงานดีไซน์ Functional หรือการจัดวางเลย์เอ้าท์ THE ESSE at SINGHA COMPLEX ก็ทำออกมาได้ค่อนข้างโอเคที่จะแทรกตัวมาเป็นผู้ท้าชิงในตลาด Luxury – Super Luxury ได้ สิ่งที่ค่อนข้างทำมาเหนือกว่ามาตรฐานตลาดคอนโดในเซกเมนท์นี้คือการขายแบบ Fully Furnished ที่ให้ทั้งเฟอร์ฯลอยตัว และ Built-in โดยเฉพาะผนังตกแต่งชั้นวางทีวี ที่เป็นหินอ่อนจัดเต็มสูง 3 เมตร จากพื้นสู่ฝ้านั้น เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยเห็นที่ไหนเค้าให้กันมาก่อน นอกจากนี้ยังมี Gimmick เล็กๆภายในห้องน้ำ ซึ่งเป็นการนำนวัตกรรมมาใช้เป็นที่แรกๆในวงการคอนโดมิเนียมเมืองไทย (อย่าง sexy bathroom ที่เชื่อมต่อระหว่างห้องน้ำกับห้องนอน กระจกพิเศษที่สามารถปรับเปลี่ยนจากขุ่นมัวเป็นใสได้ตามความต้องการของผู้ใช้ ไม่ต้องติดม่านเพิ่มให้เกะกะสายตาอีกต่อไป) ที่จอดรถที่มีถึง 87% (รวมซ้อนคัน) ลิฟท์ที่ให้มากถึง 4+1 ตัว บริการ concierge ระดับโรงแรม 5 ดาว ที่จอดรถ supercar หรือห้องเก็บของขนาดใหญ่ ที่ส่วนกลางชั้นล่าง รวมถึง facility หลากหลายถึง 4 ชั้นติดกัน ล้วนแล้วต่อส่งผลดีต่อ Value ของโครงการที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต จนน่าจะมีหลายๆโครงการนำมา Benchmark

 

ถึงแม้ขนาดที่ดินจะมีเพียงแค่ 2 ไร่เศษ เมื่อเอามาเทียบกับจำนวนยูนิต 319 ยูนิต อาจดูแน่นไปนิดถ้าเทียบกับราคาขายต่อตารางเมตร และสเปคบางอย่างอาจจะดูแล้วด้อยกว่า The ESSE ASOKE เช่นไม่ได้แยก Compressor Air มาไว้ที่โถงระเบียงด้านส่วนกลาง หรือบานกระจกห้องนอนที่ไม่ได้ให้เป็น Full Height ด้วยเหตุผลที่ว่าทางผู้บริหาร ต้องการที่ให้ตัวอาคารมีความสวยงามเมื่อมองจากภายนอก ไม่อยากให้เห็นสิ่งของเกะกะวางที่พื้น และยังไง Façade อาคารก็มีการติดตั้งกระจกอยู่แล้วไม่ได้เป็นแค่ปูนทาสี ดังนั้นเรื่องพวกนี้อาจจะไม่ใช่ประเด็นหลักสักเท่าไหร่ กับคอนโด Luxury-Super Luxury ที่ทำราคาแพงที่สุดบนแยกอโศก เพชรบุรี ด้วยราคาเริ่มต้น 247,000 บาท ต่อตารางเมตร (เฉลี่ย 275,000 บาท/ตรม.) แต่มาแบบ Fully Furnished ที่พร้อมเข้าอยู่เมื่อสร้างเสร็จ ในขณะที่คอนโดอื่นในละแวกนี้อยู่ที่แสนปลายๆถึงสองแสนต้นๆ ยกเว้นโครงการ Ashton Asoke ที่กำลังจะสร้างเสร็จพร้อมโอนในเดือนตค.ปี 2017 นี้ ซึ่งมีราคาขายต่อตรม.ที่ค่อนข้างใกล้เคียงกัน

ถ้าใครที่มองว่าที่นี่สะท้อนกับความต้องการของตัวคุณมากที่สุด โดยที่งบประมาณไม่ได้เป็นอุปสรรคในการซื้อ เชื่อมั่นในศักยภาพของทำเลอโศก-เพชรบุรีในอนาคต และชอบความสะดวกสบายและความเป็นที่สุดของการอยู่อาศัยใน CBD in CBD อย่าง SINGHA COMPLEX แนะนำว่าให้ลองเข้าไปชมห้องตัวอย่างที่โครงการก่อน เพื่อเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นด้วยตาตัวเองก่อนที่จะตัดสินใจซื้อโครงการอื่นๆในย่านนี้ ไม่แน่คุณอาจจะพบว่า THE ESSE at SINGHA COMPLEX เป็นโครงการที่ใช่สำหรับคุณก็ได้

พร้อมเปิด PRE SALES วันที่ 4-5 มีนาคม http://www.singhaestate.co.th/singhacomplex/condo



เกริก บุณยโยธิน

เกริก บุณยโยธิน

ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ

เว็บไซต์


PropScore™ 3.8

SCORE:
0.0
From : 0 รีวิว


ยังไม่มีการให้คะแนนและ Comment โครงการนี้


TAIT Sathorn 12 เปิดห้องตัวอย่างใหม่ 1 Bed Iconic Suite แต่งครบ สไตล์ Classical American โดย ‘CHANINTR’ แค่ยูนิตเดียวเท่านั้น!

โครงการ TAIT Sathorn 12 ตอนนี้เค้ามีห้องเหลือขายแค่ 14 ห้องเท่านั้นครับ โดยเป็นห้อง 1 Bed Iconic ขนาดประมาณ 68 ตรม. 4 ห้อง 2 นอนอีกประมาณ 6 ห้อง นอกนั้นจะเป็น 1 นอนขนาดเล็กครับ ซึ่งตอนนี้โครงการก็ไ... อ่านต่อ

25 April, 2024



ข้อเท็จจริง และความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ระหว่างอสังหาฯรูปแบบ Freehold และ Leasehold

ในปีนี้เราจะมีโอกาสได้เห็นโครงการ Leasehold ที่กำลังจะสร้างเสร็จพร้อมอยู่หลายที่ครับ แล... อ่านต่อ
17 April, 2024

คัดสรรให้! งบ 7 ลบ. ก็หาซื้อคอนโดหรูพร้อมอยู่ในย่านพร้อมพงษ์ – ทองหล่อ – เอกมัย ได้

หลังจาก ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมท... อ่านต่อ
12 April, 2024

เคาะแล้ว! แพคเกจกระตุ้นตลาดอสังหาฯ โดยกระทรวงการคลัง

สืบเนื่องมาจากข้อมูลของกระทรวงการคลังที่รายงานครม.ไปว่าในช่วงไตรมาสสี่ของปีที่ผ่านมา ภา... อ่านต่อ
10 April, 2024

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง