Chapter Thonglor 25 ให้คุณได้พักผ่อนชิลล์วิวริมน้ำ ไม่พลาดทุกไลฟ์สไตล์ของทองหล่อ ในราคาที่คาดไม่ถึง!

ทองหล่อ เรียกได้ว่าเป็นย่าน Central Lifestyle District ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์สุดชิคมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านเฟอร์นิเจอร์ ร้านนั่งชิล ผับ อาคารสำนักงาน Grade A และคอมมูนิตี้มอลล์ ส่งผลให้ทำเลนี้เป็น Residential Area ระดับไฮเอนด์ยอดนิยม ทั้งจากคนไทย และชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ที่เลือกที่จะมาพักอาศัยในย่านนี้มากที่สุด และยังเป็นย่านที่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ เดินทางได้อย่างสะดวกแม้ไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัว ด้วยการที่ราคาที่ดินในย่านนี้สูงมาก คอนโดมิเนียมส่วนใหญ่จึงมีราคาเกินตารางเมตรละสองแสนขึ้นไปหมดแล้ว เพราะเป็นทำเลที่มีการพัฒนามาต่อเนื่องมากกว่า 20 ปี จนแทบจะหาที่ดินว่างเปล่าไม่ได้ แต่ก็ยังได้รับความนิยมในการพัฒนาจากดีเวลลอปเปอร์เสมอมา โดยโครงการที่เราจะพามาแนะนำวันนี้ หลายคนคงจะเคยได้ยินชื่อมาบ้างแล้ว นั่นก็คือ Chapter Thonglor 25 (แชปเตอร์ ทองหล่อ 25) เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise ในย่านทองหล่อ ที่แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย แต่มีความพิเศษที่แตกต่างจากคอนโด Low Rise แห่งอื่นๆ ในย่านทองหล่อด้วยกันตรงที่บริบทของทำเลรอบด้าน ที่ไม่ได้มีอาคารสูงมาบดบังทัศนียภาพในการพักอาศัย แต่กลับเพิ่มสุนทรียภาพในการอยู่อาศัยให้มากขึ้นด้วยพื้นที่และวิวของโครงการที่ตั้งอยู่ริมน้ำข้างฝั่งคลอง มอบบรรยากาศการพักอาศัยที่ชิลล์กว่าใครในราคาเริ่มต้นแค่ 3.99 ลบ* เท่านั้น สนใจลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษได้เลยที่นี่ https://bit.ly/2XhQDmP

หากจะหาคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise ในย่านทองหล่อ แน่นอนว่าจะต้องเป็นคอนโดที่อยู่ในซอย แต่หากใครที่คุ้นเคยกับย่านนี้ก็จะพบได้ว่าแต่ละซอยก็จะมีจุดเด่นต่างกัน ซึ่งโครงการที่อยู่ใกล้กับถนนเส้นหลัก และ BTS ทองหล่ออย่างปากซอยสุขุมวิท 55 ก็จะเป็นโครงการที่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ตารางเมตรละสองแสนบาทขึ้นไป เนื่องด้วยการเดินทางที่สะดวก ใกล้รถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า ส่วนโครงการที่อยู่บริเวณกลางซอยเป็นต้นไปในช่วงซอยทองหล่อ 10, 13, 25 หรือ 20 ราคาเฉลี่ยต่อตารางก็อยู่ที่แสนปลายๆ เพราะยังสามารถเดินเท้าเข้า-ออก โครงการและถนนเส้นหลักได้สะดวก และมักจะได้เปรียบตรงที่อยู่ใกล้กับแหล่งไลฟ์สไตล์ทองหล่อมากกว่า โดย Chapter Thonglor 25 มีจุดเด่นที่แตกต่างจากคอนโด Low Rise แห่งอื่นๆ คือ ตั้งอยู่ในซอยที่สามารถลัดเลาะออกไปยังซอยต่างๆ ในทองหล่อได้เกือบทั้งหมด และยังทะลุออกไปย่านพร้อมพงษ์ อโศก ได้ง่าย โดยเป็นทำเลที่ติดคลองริมน้ำ แต่ขายในราคาที่ดีที่สุดของทองหล่อ และมีขนาดห้องที่ไม่ได้ใหญ่มาก ตอบโจทย์สำหรับกลุ่มผู้ที่มี Budget ไม่มากนัก แต่ต้องการพักอาศัยอยู่ในย่านไลฟ์สไตล์ที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ อย่างทองหล่อ เนื่องจากมีทั้ง Community Mall ร้านอาหาร คาเฟ่ และผับชั้นนำรายล้อมมากมาย แต่ยังคงความเป็นส่วนตัวสำหรับการอยู่อาศัย เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครันที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชม.

โดยโครงการตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 25 เดินทางสะดวกสบายด้วย BTS เพียง 1 สถานี ถึงเอ็มโพเรียม และเอ็มควอเทียร์ เพียง 5 นาที ถึง BTS ทองหล่อ สามารถเข้า-ออกได้หลากหลายเส้นทางไม่ว่าเชื่อมต่อไปยังทองหล่อเส้นหลักหรือสุขุมวิท 49 และสุขุมวิท 39 แวดล้อมไปด้วยคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง 72 Courtyard, The Commons, Seen Space, J Avenue ร้านอาหารชื่อดัง สถานศึกษานานาชาติ และโรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลคามิลเลียน และไลฟ์สไตล์ระดับไฮเอนด์ในทำเลใจกลางทองหล่อ

72 Courtyard

ภาพจาก : https://art4d.com/2016/06/the-darkest-facade-on-thonglor

The Commons

ภาพจาก : http://www.designerhub.in.th/Content/Articles/community-mall-the-commons

Seen Space

ภาพจาก : https://www.bkkmenu.com/go/news/seenspace-thonglor.html

J Avenue

ภาพจาก : https://www.siamfuture.com/th/projects?pro_id=j_avenue

รายละเอียดโครงการ Chapter Thonglor 25

Chapter Thonglor 25 โดดเด่นมีสไตล์ไม่เหมือนใคร โครงการถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “Curated Living Experience” เป็นการสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง ทั้งด้าน Lifestyle และงานดีไซน์ ที่มีเอกลักษณ์ มีการเลือกใช้สี Copper และสี Pastel เป็น Modern Luxury Comfort เป็นสีที่ดูมีความหรูหรา ทันสมัย เข้าได้กับทุก Generation

ซุ้มโค้งทางเดิน ระหว่าง Chapter Hall ไปยังตึก A เป็นหินอ่อนที่มีการตกแต่งสี Copper ไว้ด้านใน ให้ความรู้สึกเรียบหรู ทันสมัยอย่างมาก

ตัวอักษรชื่อโครงการ หรือแม้แต่ประตูเข้า – ออก ก็ใช้สี Copper ในการตกแต่ง ดูเป็นเอกลักษณ์ของ Chapter Thonglor 25 จริงๆ

โครงการ Chapter Thonglor 25 (แชปเตอร์ ทองหล่อ 25) โดย บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 25 เป็นคอนโดมิเนียม Low – Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 288 ยูนิต ในโครงการมีห้องให้เลือก 4 แบบ คือ ห้องแบบ Studio ขนาด 28.91 – 29.3 ตารางเมตร, ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 34.62 – 34.97 ตารางเมตร, 1 Bed plus 42.08 – 61.85 ตารางเมตร และห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 57.63 – 61.17 ตารางเมตร ที่จอดรถ 49% โดยแบ่งเป็น Automated parking 37% และ Conventional 12% บนที่ดินประมาณ 2-3-33.8 ไร่

Master Plan

โครงการมีประตูที่ใช้เข้า – ออก ประตูเดียว อยู่ทางทิศตะวันออก ลานจอดรถจะอยู่ชั้นใต้ดินของแต่ละอาคาร และสระว่ายน้ำจะตั้งอยู่กลางโครงการทำให้ห้องฝั่งในอาคารมองเห็นวิวสระว่ายน้ำทั้งหมด ส่วนห้องฝั่งนอกอาคารก็จะได้วิวที่แตกต่างกันไป ซึ่งของอาคาร A ส่วนใหญ่จะได้วิวคลอง และอาคาร B จะเป็นวิวจากซอยทองหล่อ 25 โดย Facilities ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณชั้นล่างของอาคาร A ทำให้พื้นที่ Chapter Hall (Lobby) และส่วนกลางเป็น Double Volume มีเพดานสูงกว่าอาคาร B โดยที่ห้องพักอาศัยของอาคาร A จะเริ่มที่ชั้น 2 (เทียบเท่ากับชั้น 3 ของอาคาร B) นอกจากนี้ยังมี Co-Living Garden ที่แยกออกจากอาคารพักอาศัยอยู่บริเวณคอร์ตกลางที่เป็นพื้นที่ Outdoor มีโต๊ะเก้าอี้ให้คุณได้ทำกิจกรรมที่ชอบ และคาเฟ่เล็กๆ น่ารักๆ ให้ได้จิบกาแฟเย็นๆ ดับร้อนได้

ห้องพักอาศัยของอาคาร B จะเริ่มที่ชั้น 2 ห้องฝั่งในอาคารจะหันไปทางทิศเหนือและทิศตะวันตก และห้องฝั่งนอกอาคารจะหันไปทางทิศตะวันออกและทิศใต้

ห้องพักอาศัยอาคาร A เริ่มที่ชั้น 2 (ความสูงเท่าชั้น 3 ของอาคาร B) และมีพื้นที่ของ The Garden ที่ชั้นนี้ ให้ลูกบ้านมานั่งพักผ่อนได้ โดยห้องฝั่งในอาคารจะหันไปทางทิศตะวันออกและทิศใต้ และห้องฝั่งนอกอาคารจะหันไปทางทิศเหนือและทิศตะวันตก

ชั้น 3 อาคาร A และชั้น 4 อาคาร B

ชั้น 4 อาคาร A และชั้น 5 อาคาร B

ชั้น 5 อาคาร A และชั้น 6 อาคาร B

ชั้น 6 อาคาร A และชั้น 7 อาคาร B

ชั้น 7 อาคาร A และชั้น 8 อาคาร B

ไม่เพียงเท่านั้น ทางโครงการยังได้จัดเต็มด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครันให้กับลูกบ้าน พร้อมบริการตลอด 24 ชม. (เฉพาะบางจุด) ไม่ว่าคุณจะเลิกงานดึกแค่ไหนก็ยังสามารถมาใช้พื้นที่ส่วนกลางได้อย่างเต็มที่ ถึง 3 ชั้น ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นที่ชั้น 1 มี The Chapter Hall, Fine & Dine Club, Co-Function Space, The Capsule, Fitness, Steam & Sauna, Co-Living Garden, The Social Club, The White Marble Pool, Co-Creating Deck และ Chapter Café ชั้น 3 มี The Garden และชั้น Rooftop จะเป็นในส่วนของ The Sunset Deck

The Chapter Hall เป็นพื้นที่ Lobby แยกอาคาร A และ B ที่ดูมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง

อาคาร A เพดานสูงกว่าอาคาร B ดูโปร่ง และใช้สีที่สบายตา มานั่งพักผ่อน อ่านหนังสือ หรือทำงานที่มุมนี้ได้ แถมได้วิวสระว่ายน้ำอีกด้วย

เครื่องวัดอุณหภูมิอัตโนมัติก่อนเดินเข้าไปในอาคารด้านใน

อาคาร B ได้วิวสวนข้างสระว่ายน้ำด้านนอก ให้ลูกบ้านมานั่งทำกิจกรรมตรงส่วนนี้ได้

Fine & Dine Club พื้นที่ให้บริการลูกบ้าน ที่สามารถปาร์ตี้หรือทำอาหารยังส่วนนี้ได้

Co-Function Space ห้องทำงานที่มีความเป็นส่วนตัว สามารถดึงปิดประตูตรงกลาง เพื่อกั้นให้เป็น 2 ห้อง

The Capsule ห้องนั่งทำงานอีกหนึ่งห้อง บอกเลยว่าอยู่โครงการนี้ช่วง WFH คุณจะเปลี่ยนมุมทำงานได้ไม่ซ้ำวันเลย แถมชั้นลอยน่าปีนขึ้นไปงีบหลับมาก

Fitness อุปกรณ์ครบ เปิดให้ใช้ได้ 24 ชม.

Steam & Sauna อยู่ด้านหลังห้อง Fitness ฝั่งห้องน้ำผู้ชายจะเป็น Sauna ส่วนของผู้หญิงจะเป็นห้อง Steam และมีล็อกเกอร์สำหรับเก็บสัมภาระ

Co-Living Garden มุมพักผ่อน พร้อมวิวสระว่ายน้ำ ไว้ถ่ายรูปอวดโซเชียลก็เก๋ๆ

The Social Club พื้นที่ Private Zone ที่ต้องทำการจองก่อนเข้าใช้บริการ ใช้ปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ได้ และมีห้องน้ำในตัว

The White Marble Pool สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ใจกลางโครงการ ที่จะให้คุณว่ายน้ำได้สุดแรงจนเหนื่อย พร้อมผ่อนคลายด้วยระบบจากุชชี่

สระยาวมาจนถึงหน้าอาคาร Facilities

สระเด็กอยู่บริเวณหน้าห้อง Fitness

Co-Creating Deck พื้นที่นั่งทำงาน พักผ่อน ข้างสระว่ายน้ำ

มานั่งเล่น นั่งทำงาน รอเพื่อนว่ายน้ำ ก็ดีไปอีกแบบ

Chapter Café x Real ดื่มด่ำกับเครื่องดื่มเมนูโปรดได้ที่นี่

คอชา กาแฟ ห้ามพลาด!! อร่อยทุกเมนูจริงๆ

Paint by Gongkan ได้รับเกียรติจากศิลปิน Illustrator ชื่อดังของเมืองไทย อย่าง “คุณก้องกาน” มาร่วมสร้างประสบการณ์ใหม่ Paint ภาพบนผนังของโครงการจนกลายเป็นแหล่ง Check – in ของคนรุ่นใหม่

The Garden พื้นที่พักผ่อน อยู่ชั้น 2 ของอาคาร A

The Sunset Deck ชั้นบนสุดของอาคาร B ขึ้นไปนั่งเล่น ชมพระอาทิตย์ตกตอนเย็นก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ

นำต้น Cactus ที่เป็น Symbolic ของโครงการมาตกแต่งตรงส่วนนี้ด้วย

Mail Room พร้อมตู้รับฝากของอัตโนมัติ

มีจุด EV Charging ให้บริการ

ทางเดินข้างอาคาร A ได้วิวริมน้ำด้านนอก

ประตูทางออกไปยังริมน้ำ ลูกบ้านใช้สแกนฝ่ามือเพื่อปลดล็อกประตูออกไปด้านนอก ถ้าต้องการเข้ามาในโครงการต้องแตะคีย์การ์ดของโครงการเท่านั้น

มีเลนจักรยานด้านนอกโครงการ

ทางโครงการมีบริการ Shuttle Bus to BTS ทองหล่อ ให้ลูกบ้าน ตั้งแต่เวลา 6.00-18.00 น. รถออกทุกชั่วโมง

Unit Plan และรายละเอียดของห้องตัวอย่าง

ห้องแบบ Studio ขนาด 28.91 ตารางเมตร เป็นห้องไทป์เล็กสุดในโครงการ แบบครัวปิด มีห้องนอนกว้าง พร้อมพื้นที่วางโซฟา โต๊ะทำงานได้สบาย อยู่ 2 คน แบบไม่อึดอัด และยังมี Walk-in Closet อีกด้วย

ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 34.88 ตารางเมตร แบบครัวปิดกั้นด้วยประตูบานสไลด์ พื้นที่ห้องนั่งเล่นกว้าง กั้นทุกห้องเป็นสัดส่วน มี Walk-in Closet แบบรูปตัวแอล พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งอยู่ในห้องนอน

ห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 46.62 ตารางเมตร ห้องแบบครัวเปิด ห้องเอนกประสงค์มีระเบียงส่วนตัว สามารถปรับเป็นห้องนอนเล็กหรือห้องทำงานก็ได้ ห้องน้ำเข้าได้ 2 ฝั่ง จากห้องนั่งเล่นและห้องนอน ห้องนอนกว้างมาก มีผนังเข้ามุมติดหน้าต่างใช้วางโซฟาหรือโต๊ะอ่านหนังสือเล็กๆ ได้

ห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 58.13 ตารางเมตร ห้องแบบครัวปิดกั้นด้วยประตูบานสไลด์ แบบ 2 นอน 2 ห้องน้ำ มีอ่างอาบน้ำในห้อง Master ส่วนห้องนั่งเล่นได้หน้าต่างจัดเต็มถึง 3 ด้าน ทำให้ห้องรับแสงธรรมชาติได้ทั้งวันโดยไม่ต้องเปิดไฟ ห้องกว้าง อยู่ 3 – 4 คนได้สบาย ไม่อึดอัด

ห้องตัวอย่าง

เราจะพาไปดูห้องตัวอย่างในโครงการ Chapter Thonglor 25 ที่มีทั้ง 4 ห้อง 4 สไตล์ มีตั้งแต่ห้อง Studio, 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom พร้อมเจาะดีเทลในแต่ละห้องว่ามีการเลือกใช้วัสดุอะไรในการตกแต่ง และทางโครงการให้เฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรบ้าง ในราคาเท่าไหร่ เพื่อให้คุณผู้อ่านได้เลือกซื้อตามความเหมาะสมของการใช้งาน

ห้อง A1 แบบ Studio ขนาด 28.91 ตารางเมตร

ห้องทั้งหมดของโครงการเป็นการขายแบบ Fully Furnished ให้ผู้ซื้อลากแค่กระเป๋าเสื้อผ้าก็สามารถเข้ามาอยู่ได้เลย อีกทั้งยังอยู่ในช่วงโปรโมชั่นที่คุณจะได้ราคาคุ้มสุดคุ้ม กับห้องสตูดิโอ ขนาด 28.91 ในราคา 3.99 ล้านบาท* แถมด้วยเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบจัดเต็มถึง 11 อย่าง ไม่ว่าจะเป็น เตียงและที่นอน, โต๊ะข้างเตียง, ตู้เสื้อผ้า, โซฟา, โต๊ะทีวี, โต๊ะเครื่องแป้งและเก้าอี้, โต๊ะทำงานและเก้าอี้, ตู้รองเท้า, และตู้เก็บของในครัว

ในห้องกว้างมาก มีพื้นที่เหลือให้ได้เดินเยอะจริงๆ เพดานสูง 2.55 เมตร

ตู้เสื้อผ้าจะอยู่บริเวณข้างเตียงฝั่งประตูห้อง สูงชิดเพดาน รูปตัวแอล มีไฟภายในตู้ และมีปลั๊กไฟซ่อนอยู่ใต้โต๊ะบนพื้น ที่แม้จะเป็นไวนิลแต่ก็ปูด้วยลายก้างปลา

ใช้เก็บเสื้อผ้าได้เยอะ หากอยู่ 2 คน ก็แบ่งตู้กันได้

ติดกับประตูห้องอีกหนึ่งฝั่ง เป็นตู้เก็บรองเท้าและตู้เก็บของด้านบน

วางเตียง 6 ฟุตได้สบาย เพราะมีพื้นที่กว้างมาก ปลายเตียงเหลือพื้นที่เยอะ

เป็นห้อง 28 ตารางเมตร ที่กว้างมากจริงๆ ปูพื้นห้องด้วยไวนิลลายก้างปลา ดูหรูหราจริงๆ

มุมนั่งเล่นตรงนี้ ใช้วางโซฟาแบบ 2 ที่นั่งได้อีกด้วย และโต๊ะทำงานที่อยู่ติดกัน

ด้วยหน้าต่างที่มีความสูง ทำให้โซฟาไม่บังแสงที่จะเข้ามาในห้องแน่นอน แดดเข้าได้สองฝั่งทั้งจากหน้าต่างและประตูที่เชื่อมออกไปยังระเบียง

ทีวีอยู่ฝั่งนี้ หากใช้เป็นทีวีติดผนังจะทำให้โต๊ะสามารถวางของได้เพิ่มขึ้น โดยชั้นวางทีวีมีประตูเลื่อนใช้เก็บของด้านในได้

ประตูเชื่อมไปยังส่วนครัว

ถึงจะเป็นห้องแบบสตูดิโอ แต่ที่นี่ก็ให้ครัวแบบปิด ตอบโจทย์สำหรับคนชอบทำอาหารแล้วกลัวกลิ่นเข้าไปรบกวนในห้องนอน ใช้เป็นประตูบานสไลด์ พื้นที่ไม่แคบมาก ยืนทำอาหารพร้อมกันได้ 2 คน

ได้เคาน์เตอร์ครัวและตู้เก็บของด้านบนเหมือนของตัวอย่าง มีช่องวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า และช่องวางไมโครเวฟ ให้เตาไฟฟ้า Induction Hop และ Hood ของ HAFELE ส่วนก๊อกน้ำของ Teka มีพื้นที่วางตู้เย็นติดกับประตูห้องน้ำ

หน้าต่างเปิดระบายอากาศได้ ด้านนอกเป็นระเบียงที่ใช้แขวน CDU แอร์ฯ ไว้

ห้องน้ำแยกส่วนแห้งและเปียก ไม่แคบเกินไป

พื้นต่างระดับกันน้ำล้นออกมาด้านนอก

อ่างล้างมืออยู่มุมนี้ มีชั้นวางของหลังบานกระจก

ห้อง B5 แบบ 1 Bedroom ขนาด 34.88 ตารางเมตร

ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 34.88 ราคา 4.9 ล้านบาท แถมด้วยเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า 12 อย่าง เพิ่มจากห้องแรกมา 1 อย่าง ไม่ว่าจะเป็น เตียงและที่นอน, โต๊ะข้างเตียง, ตู้เสื้อผ้า, โซฟา, โต๊ะกาแฟ, โต๊ะทีวี, โต๊ะเครื่องแป้งและเก้าอี้, โต๊ะทานอาหารและเก้าอี้, ตู้รองเท้า และตู้เก็บของในครัว

เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอครัวเป็นอันดับแรก

ตู้เก็บรองเท้าอยู่ด้านล่าง ตู้ชั้นบนใช้วางของได้

ฝั่งนี้ใช้ทำอาหาร เพดานส่วนครัวสูง 2.4 เมตร

มีช่องวางไมโครเวฟและเครื่องซักผ้า

ให้เตาไฟฟ้า Induction Hop และ Hood ของ HAFELE

ก๊อกน้ำของ Teka สามารถปรับระดับได้

ประตูบานเลื่อนกระจกปิดแบบนี้ ทำให้กลิ่นอาหารไม่เข้ามารบกวนภายในห้อง

โต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่ง ที่ทางโครงการให้มาด้วย พื้นห้องปูไวนิลลายก้างปลา ดรอปฝ้าให้

ห้องนั่งเล่นกว้าง วางโซฟาแบบ 2 – 3 ที่นั่งได้ มีพื้นที่วางโต๊ะกาแฟด้านหน้า ติดแอร์ฯ ไว้ด้านบนประตูระเบียง ห้องนี้ได้แอร์ฯ 2 ตัว เพดานสูง 2.55 เมตร

ประตูเชื่อมไปยังระเบียง พร้อมราวกันตก

แขวน CDU แอร์ฯ ไว้มุมนี้ ปิดด้วยกริลอะลูมิเนียมบังสายตา

เข้ามาในส่วนของห้องนอน เดินเข้ามาก็จะเจอกับส่วนของ Walk-in Closet ที่กั้นด้วยบานกระจกแบบชิดเพดาน

ด้านในมีตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมเก้าอี้ ตู้สูงมาก มีชั้นเก็บของด้านบน

โต๊ะเครื่องแป้งอยู่มุมนี้

ห้องนี้ได้ฐานเตียงพร้อมฟูก มีพื้นที่ว่างข้างหัวเตียง วางโต๊ะข้างเตียง 2 ฝั่งได้ โครงการให้ตามแบบห้องตัวอย่างเช่นกัน

ใช้เป็นหน้าต่างบานเปิด 90 องศา พร้อมราวกันตก สไตล์ Juliet Balcony ให้ความรู้สึกว่าห้องมีความสูงโปร่งโล่งมากกว่า ห้องเพดานสูง 2.55 เมตรทั่วไป

ทางเดินไปยังห้องน้ำ

ห้องน้ำแบบเดียวกับห้องสตูดิโอ แต่เป็นประตูบานเปิดแทนบานเลื่อนแบบห้องแรก

ชั้นเก็บของหลังบานกระจก

พื้นที่ข้างชักโครกไม่แคบจนเกินไป

กั้นส่วนแห้งและเปียกด้วย Shower Screen

พื้นต่างระดับกันน้ำไหลออกมาด้านนอก

ห้อง B15 แบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 46.62 ตารางเมตร

ห้องขนาด 46.62 แบบ 1 ห้องนอน Plus ในราคา 7 – 9 ล้านบาท โดย 10 ห้องแรกที่มีคนซื้อ จะแถมเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วน 5 ห้องแรกแถมไอแพดให้ด้วย ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการให้มามี 15 อย่าง ดังนี้ เตียงและที่นอน, โต๊ะข้างเตียง, ตู้เสื้อผ้า, โซฟา โต๊ะกาแฟ โต๊ะทีวี โต๊ะเครื่องแป้งและเก้าอี้ โต๊ะทานอาหารและเก้าอี้ ตู้รองเท้า เตียงนอนเล่น, เก้าอี้ Ottoman, เก้าอี้มีพนักพิง และตู้เก็บของในครัว

ครัวอยู่หน้าห้อง เพดานห้องสูง 2.55 เมตร ผนังห้องจริงแบบฉาบเรียบทาสีขาว

เคาน์เตอร์ครัวรูปตัวแอล พร้อมชั้นวางของด้านบน

ให้เตาไฟฟ้า Induction Hop และ Hood ของ HAFELE ส่วนก๊อกน้ำของ Teka

โต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่ง ติดกับเคาน์เตอร์ครัว

ฝั่งตรงข้ามครัว เป็นตู้เก็บรองเท้าและชั้นเก็บของอยู่ด้านบน ห้องน้ำเข้าได้จากฝั่งนี้ด้วย หากมีแขกมาที่ห้องจะได้ไม่ต้องเดินผ่านไปยังห้องนอน

ห้องนั่งเล่นติดกับครัว

พื้นที่ระหว่างโต๊ะวางทีวีและโซฟากว้าง ห้องนี้ได้แอร์ฯ 3 ตัว ในห้องนั่งเล่น ห้องนอน และห้องเอนกประสงค์

ห้องเอนกประสงค์ กั้นด้วยประตูบานสไลด์แบบ 3 ตอน

ตกแต่งเป็นห้องนอนเล็ก ที่สามารถวางเตียง 3 ฟุต หรือห้องทำงานก็ได้

หน้าต่างกระจกแบบบานเปิด 90 องศา พร้อมราวกันตก

ห้องนอนกว้าง

แอร์ฯ ติดไว้ที่ประตูระเบียง โครงการไม่ได้ให้ม่านมาด้วย

มุมนี้จะเปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้

ประตูเชื่อมออกไประเบียง

แขวน CDU แอร์ฯ ทั้ง 3 เครื่องไว้ด้านนอก พร้อมราวกันตก

ผนังเข้ามุมใช้วางโซฟานั่งเล่นได้ และหน้าต่างแบบบานเปิดกระจกพร้อมราวกันตก

พื้นที่ว่างข้างหัวเตียง วางโต๊ะเล็กๆ แบบนี้ได้ทั้งสองฝั่ง

ตู้เสื้อผ้าใหญ่จุใจ 2 ฝั่ง ติดกับประตูห้องน้ำ

ห้องน้ำแยกส่วนแห้งและเปียกด้วย Shower Screen

ห้อง C3 แบบ 2 Bedroom ขนาด 58.13 ตารางเมตร

ห้อง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 58.13 ตารางเมตร ขายในราคา 9.3 ล้านบาท แถมด้วยเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบจัดเต็มถึง 12 อย่าง ไม่ว่าจะเป็น เตียงและที่นอน, โต๊ะข้างเตียง, ตู้เสื้อผ้า, โซฟา โต๊ะกาแฟ โต๊ะทีวี โต๊ะเครื่องแป้งและเก้าอี้ โต๊ะทานอาหารและเก้าอี้ ตู้รองเท้า และตู้เก็บของในครัว

บริเวณหน้าห้อง

ทางโครงการให้เป็น Digital Door Lock ของ Hafele แบบนี้ทุกห้อง

เข้ามาในห้องก็จะเจอกับครัวก่อน เป็นครัวแบบปิดเหมือนห้อง 1 Bedroom

ครัวแยกเป็นสองฝั่ง ด้านนี้มีตู้เย็นและตู้เก็บรองเท้า พร้อมตู้ด้านบนที่เปิดออกเก็บของได้

เก็บช่องชาร์ปไว้ในตู้ด้านบน

ฝั่งนี้ใช้ประกอบอาหาร มีช่องวางไมโครเวฟและเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า

โครงการให้เตาไฟฟ้า Induction ของ HAFELE

Hood ของ HAFELE เช่นกัน

กั้นส่วนครัวและห้องนั่งเล่นด้วยประตูบานสไลด์ ในห้องปูพื้นด้วยไวนิลลายก้างปลา เพดานสูง 2.55 เมตร

จัดวางโต๊ะทานอาหารได้แบบ 4 ที่นั่ง

บริเวณห้องนั่งเล่นได้รับแสงแบบเต็มๆ เนื่องจากมีหน้าต่างรับแสงถึง 3 ด้าน ทำให้รู้สึกว่าห้องโปร่งอย่างมาก

หน้าต่างฝั่งโต๊ะทานอาหาร 1 จุด หลังทีวี 1 จุด แบบบานเปิด 90 องศา มีราวกันตก

และหน้าต่างที่เชื่อมไประเบียงอีก 1 จุด เป็นแบบบานสไลด์

ห้องนี้ได้วิวสระว่ายน้ำ หาเก้าอี้เล็กๆ มานั่งดูวิวด้านนอกก็ดีไม่น้อย

ทางเดินไปยังห้องนอนและห้องน้ำ

ห้องน้ำด้านนอกที่อยู่ตรงข้ามกับห้องนอนเล็ก

ดีไซน์เหมือนกับห้องน้ำในห้องตัวอย่างที่ผ่านมา

อ่างล้างหน้าของ Kohler

ชักโครกใช้ Cotto

ฝักบัวสี Rose Gold ปรับระดับได้

ห้องนอนเล็ก มีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ติดแอร์ฯ ไว้ที่ผนังปลายเตียง พร้อมหน้าต่างส่วนตัว

วางเตียงขนาด 3 ฟุตได้ มีพื้นที่ว่างข้างหัวเตียงให้วางโต๊ะเล็ก

Master Bedroom

ปูพื้นด้วยไวนิลลายก้างปลา

เพดานสูง 2.55 เมตร พร้อมดรอปฝ้าให้

ตู้เสื้อผ้าแบบบานกระจกขนาดใหญ่

สเต็ปพื้นกันน้ำไหลออกมาจากห้องน้ำ

ห้องน้ำใน Master Bedroom มีทั้ง Shower Screen และอ่างอาบน้ำให้

ตำแหน่งการวางชักโครกและอ่างล้างหน้าอยู่ติดผนังห้องคนละฝั่ง ชักโครกติดกับอ่างอาบน้ำ

อ่างล้างหน้าติดกับ Shower Screen

Master Bedroom วางเตียง 6 ฟุตได้ ใช้เป็นทีวีติดผนังเนื่องจากพื้นที่ปลายเตียงมีจำกัด

วางโต๊ะเล็กไว้ข้างหัวเตียงได้ทั้งสองฝั่ง

หน้าต่างบานเปิดแบบ 90 องศา พร้อมราวกันตก แต่ไม่ได้ม่าน

สรุปจุดเด่นโครงการ Chapter Thonglor 25

เชื่อแน่ว่าผู้คนส่วนใหญ่ที่ได้เข้ามาชมโครงการ Chapter Thonglor 25 ก็ล้วนแต่ต้องเคยได้เข้าไปชมโครงการคอนโดแห่งอื่นๆ ในย่านทองหล่อ และอาจรวมถึงเอกมัยมาเกือบทั้งหมดแล้ว ซึ่งหากคุณเป็นหนึ่งในผู้ชมเหล่านั้นก็ต้องบอกว่าคุณตัดสินใจไม่ผิดจริงๆที่เลือกเข้ามาชมโครงการนี้ก่อนที่จะตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะเลือกซื้อที่ไหนดี เพราะโครงการ Chapter Thonglor 25 ได้นำเสนอทั้ง Product Attribute และ Benefits ที่แตกต่างจากโครงการอื่นอยู่หลายข้อจริงๆ เอาที่เด่นจริงๆก็มีอยู่ 3 เรื่องคือ 1. ทำเลที่หากใครโดนปิดตาแล้วเอามาปล่อยทิ้งข้างในโครงการก็คงไม่เชื่อว่านี่คือใจกลางทองหล่อ เพราะมองออกไปก็จะเป็นฝั่งคลอง หรือมองเข้ามาก็จะพบกับสระว่ายน้ำและพื้นที่คอร์ทกลางขนาดใหญ่ที่ดูเงียบสงบ สดชื่นมาก ต่างกับคอนโด Low Rise แห่งอื่นๆ ในย่านทองหล่อหรือเอกมัยที่มองออกไปก็จะถูกตึกอื่นบัง พื้นที่ส่วนกลางก็มักจะอยู่ที่ชั้นดาดฟ้า และอยู่ริมถนนซอยที่พลุกพล่านไปด้วยรถยนต์และฝุ่นมลพิษ นี่คือเสน่ห์ของคอนโดแห่งนี้ที่ไม่อาจหาได้ในย่านทองหล่อ และข้อดีของการตั้งบนทำเลสุดซอยก็คือเสียงรถยนต์ไม่ค่อยมี แต่ก็ยังมีทางเลือกเพิ่มเติมด้วยการใช้รถ Shuttle Bus ของโครงการไปที่ BTS ทองหล่อ หรือเลือกสัญจรทางเรือ ประหยัดเวลาได้อีกเยอะ ถ้าใครต้องทำงานในย่านอาคาร Ital Thai หรือคลองตันนี่คือเดินเลียบทางเดินริมคลองไปก็ถือว่าเป็นการเดินออกกำลังกายไปทำงานได้ Work มากๆ  2. ราคาขายที่การันตีว่าดีที่สุดในย่านทองหล่อคือเริ่มต้นแค่ตารางเมตรละ 140,000 บาท โดยเป็นการขายแบบ Fully Furnished ที่ให้เฟอร์ฯ คุณภาพดีมากๆ ชนิดที่ว่าถ้าคุณมาดูโครงการนี้หลังจากที่เข้าไปดูโครงการอื่นมาก่อนหน้านี้แล้วก็จะต้องเผลอมอบใจให้กับที่นี่แน่ๆ ยิ่งหากเป็นคนที่เคยได้ดูโครงการรุ่นพี่อย่าง The Reserve Sukhumvit 61 ก็ยิ่งต้องหลงรักโครงการนี้เพราะดูๆ ไปแล้วบรรยากาศมีความคล้ายคลึงกันมากๆ เลยทีเดียว Chapter Thonglor 25 จึงนับว่าเป็นโครงการทดแทนที่ช่วยปลอบประโลมจิตใจได้เป็นอย่างดี และข้อสุดท้ายคือ เลย์เอ้าท์และขนาดพื้นที่ใช้สอยของห้องที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่โตมากเหมือนกับคอนโดแห่งอื่นๆ ในทองหล่อ ซึ่งตรงนี้กลุ่มผู้ซื้อหน้าใหม่หลายๆ คนก็มักจะงงว่าทำไม หาคอนโดที่มีขนาดเริ่มต้นไม่ถึง 30 ตารางเมตร ในย่านนี้ยากเหลือเกิน จะซื้อคอนโดในย่านนี้ส่วนใหญ่ต้องมีเงินเกิน 5 ล้านบาทขึ้นไปถึงจะซื้อได้ ซึ่งมันก็ค่อนข้างจะขัดกับเทรนด์การจับจ่ายของผู้คนส่วนใหญ่ในยุคปัจจุบันที่มักจะมองหาของที่มีราคาคุ้มค่า ประหยัดเงินได้มากกว่า…เชื่อแน่ว่าโครงการนี้จะเป็นใบเบิกทางสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของโครงการภายในแบรนด์ Chapter บนทำเลถัดไปที่กำลังสร้างอยู่ตามๆ กันมาอย่าง Chapter Chula – Samyan และ Chapter Charoennakhon แน่นอน

เปิดชมโครงการ CHAPTER THONGLOR 25 คอนโดใหม่ ใจกลางทองหล่อ

คอนโดระดับ Hi-End เพื่อกลุ่มคนเมืองที่รักการเข้าสังคม แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และไลฟ์สไตล์ระดับไฮเอนด์ในใจกลางทองหล่อทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านนั่งดื่ม ผับ คอมมูนิตี้มอลล์ อีกทั้งรถไฟฟ้าที่จะให้คุณเดินทางสู่ย่านต่างๆ ในกรุงเทพฯ ได้โดยใช้เวลาน้อยที่สุด หรือใครที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางก็สามารถเข้า – ออก ได้หลายเส้นทาง ทั้งทองหล่อเส้นหลัก ซอยสุขุมวิท 39 และซอยสุขุมวิท 49 ทั้งยังเป็นโครงการที่ขายในราคาพร้อมตกแต่งที่ Competitive ที่สุดบนทองหล่อ เริ่มต้นเพียง 3.99 ลบ* และลูกบ้านยังเข้าใช้ Facilities ได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมมีคาเฟ่สุดชิคให้ลูกบ้านได้มาดื่มด่ำกับเครื่องดื่มที่ชอบโดยที่ไม่ต้องออกไปหาคาเฟ่ข้างนอกเลย

– จองเริ่ม 20,000 บ. พร้อมเข้าอยู่

– อยู่ฟรี 3 ปี*

– FREE ALL​​

– ฟรี! LIVING SET สูงสุด 18 รายการ

– รับเพิ่ม iPad Pro*

ลงทะเบียนเลย ! : https://bit.ly/2XhQDmP

หรือแอดไลน์ >>: https://lin.ee/uJJlV5

@chaptercondominium

#ChapterCondo #ChapterThonglor25 #CuratedThonglorLiving #CuratedLivingExperiece