มองสบาย สไตล์นักลงทุน โดยเอก ธำรง: #1 ความจำเป็นในการลงทุน

ธำรง อนันต์ทวีผล 08 February, 2016 at 13.19 pm

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


มองสบาย สไตล์นักลงทุน
โดยเอก ธำรง

 

มีใครในโลกนี้ไม่ต้องใช้เงิน?

แม้จะมีบางคนพูดกันว่าเงินไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่สร้างความสุขให้เราได้ แต่ถ้าไม่มีเงินเพียงพอกับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันก็เป็นทุกข์แน่นอน


อย่างน้อยพวกเราก็ต้องใช้เงินกับปัจจัย 4 ไม่มากก็น้อย แต่จะออกไปทางมากขึ้นมากกว่า

1.ที่อยู่อาศัย-เห็นราคาบ้านเดี่ยวและคอนโดสมัยนี้ไหมครับ คอนโดที่ราคาต่อตารางเมตรไม่กี่หมื่นบาทแทบจะหาไม่มีแล้ว ยิ่งคอนโดกลางเมืองทุกวันนี้เราได้เห็นราคาต่อตารางเมตรที่ 200,000 บาท

2.อาหาร-ยิ่งเดี๋ยวนี้มีร้านอาหารราคาแพงเกิดขึ้นมากมาย เราได้เห็นปลาดิบไม่กี่ชิ้นที่ขายในราคาหลายร้อยบาท

3.เครื่องนุ่งห่ม-รวมถึงสินค้าแบรนด์เนมยี่ห้อดังที่มีอยู่มากมาย รวมถึงราคาที่สูงตามความดังของชื่อเสียงแบรนด์

4.ยารักษาโรค-ยิ่งถ้าเป็นหวัดไปหาหมอและซื้อยาตามโรงพยาบาลสมัยนี้ค่าแรงขั้นต่ำต่อวันบางทีก็เอาไม่อยู่


มีอะไรบ้างที่ไม่ต้องใช้เงินซื้อ แม้จะมีคนให้เรามันก็ต้องซื้อมาก่อน สรุปคือยังไงก็ต้องใช้เงิน

แล้วเดี๋ยวนี้ยังมีมากกว่าปัจจัย 4 อย่างเช่นค่าเดินทาง(ค่าทางด่วน ค่ารถไฟฟ้าค่ารถไฟใต้ดิน ค่ารถเมล์ ค่าน้ำมัน) รายจ่ายด้านสังคม(มีใครนัดเจอเพื่อนตามร้านอาหาร 10 ครั้งแล้วไม่ออกค่าอาหารเลยสักครั้งไหมครับ)และอีกจิปาถะ

ทำไมถึงต้องลงทุน?

จำราคาข้าวแกงเมื่อ 20 ถึง 30 ปีที่แล้วได้ไหมว่าราคาเท่าไหร่ น้ำมันราคาเท่าไหร่ แล้วตอนนี้ราคาเท่าไหร่
ทุกวันนี้เราได้เห็นราคาข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยวเพิ่มขึ้นมาจาก 20 บาทเป็น 50 บาทน้ำมันตอนนี้ว่าถูกแล้วยังอยู่ที่ 20 กว่าบาทต่อลิตรสมัยก่อนต่ำกว่า 10 บาทต่อลิตร(ใช่ครับราคาหลักหน่วย) เมื่อก่อนซัก 40 ปีที่แล้วเป๊ปซี่ขวดแก้วขายขวดละ 1 บาท ตอนนี้ขวดละประมาณ 10 บาท
ที่เป็นอย่างนี้เพราะเงินเฟ้อครับ


แล้วเงินเฟ้อคืออะไร?

มันคือการรวมค่าเฉลี่ยของราคาที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงจากของอุปโภคและบริโภคที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่นค่าเงินเฟ้อปี 2557 = 100 บาทแล้วค่าเงินเฟ้อปี 2558 คือ 103 บาท ความหมายคือปี 2558 มีเงินเฟ้อ 3%


โดยเฉลี่ยประเทศไทยมีค่าเงินเฟ้อประมาณ 3% ต่อปีแต่ถ้าลองมาคำนวณดัชนีก๋วยเตี๋ยวจะอยู่ที่ประมาณ 5-6% ต่อปี(ถ้าลองคำนวณในเอ็กซ์เซลราคาก๋วยเตี๋ยว 20 ปีที่แล้วที่ 20 บาทเป็น 50 บาทในตอนนี้ก็ด้วยค่าเงินเฟ้อประมาณ 5% ต่อปี)


ทว่ามีปีที่แล้วที่พิเศษหน่อย สำหรับเพื่อนพ้องน้องพี่ที่อ่านหนังสือพิมพ์อาจจะมีคุ้นๆบ้างว่าเงินเฟ้อในปี 2558 มันติดลบเล็กน้อยไม่ใช่หรือ ใช่ครับ
ปีที่แล้วประเทศไทยได้ปรับการคำนวนค่าเงินเฟ้อจาก “เงินเฟ้อพื้นฐาน” เป็น “เงินเฟ้อทั่วไป” เงินเฟ้อพื้นฐานเป็นการคำนวณราคาที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงของสิ่งที่ใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไปแต่ตัดกลุ่มอาหารสดและพลังงานออก ในขณะที่เงินเฟ้อทั่วไปจะมีการรวมกลุ่มอาหารสดและพลังงานเข้าไปด้วย เดากันออกหรือยังครับว่าค่าเงินเฟ้อทั่วไปติดลบเพราะอะไร ใช่ครับ สาเหตุหลักคือราคาน้ำมันที่ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ถ้าเรามาดูเงินเฟ้อพื้นฐานที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.59% ในเดือนมกราคมปี 2559 เทียบกับเดือนมกราคมปี 2558 (เรียกว่าY-O-Yคือการเทียบปีต่อปีในเดือนเดียวกัน) แต่ตัวเลขเงินเฟ้อที่ควรดู เราควรจะดูสถิติหลายปีแล้วมาเฉลี่ยกันไม่ใช่ดูแค่ปีที่แล้วปีเดียวครับ


ทุกวันนี้ดอกเบี้ยเงินฝากแบงค์ยังไม่ครอบคลุมแค่เงินเฟ้อเลย ยิ่งถ้าฝากออมทรัพย์ดอกเบี้ยก็จะอยู่ที่ประมาณ 1%ต่อปีและดอกเบี้ยเงินฝากประจำอยู่ที่ประมาณ 2 ถึง 3% ต่อปี

ดังนั้นโจทย์ คือพวกเราต้องทำให้เงินเก็บพอกพูนขึ้นอย่างต่ำก็ 3% แต่ถ้าจะเอาให้ปลอดภัยหน่อยก็ต้องอยู่ที่ประมาณ 6%(ถ้าจะเอาให้ผลตอบแทนเหนือกว่าดัชนีก๋วยเตี๋ยว)


แล้วจะทำอย่างไรดี ฝากแบงค์ก็ไม่คุ้ม?

อีกทางเลือกหนึ่งคือซื้อหุ้นกู้ภาคเอกชนผลตอบแทนเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 4 ถึง 5% ซึ่งผลตอบแทนที่สูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลเพราะปกติองค์กรธุรกิจมีความมั่นคงน้อยกว่ารัฐบาล ดังนั้นผลตอบแทนที่สูงกว่าจึงเป็นการชดเชยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง ถ้าหวังเอาชนะแค่เงินเฟ้อ นี่ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี
แต่ถ้าอยากได้ผลตอบแทนระดับเอาชนะดัชนีก๋วยเตี๋ยวก็อาจจะต้องเป็นการลงทุนในหุ้นซึ่งมีอัตราผลตอบแทนต่อปีประมาณ 12% จากสถิติการเพิ่มขึ้นต่อปีของดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET)เฉลี่ย 40 ปีย้อนหลัง ซึ่งรวมเงินปันผลประมาณปีละ 2~3% ซึ่งรวมอยู่ใน12%นี้แล้ว


การลงทุนในหุ้นมีอยู่ 2 แบบหลักๆคือ

1.ซื้อกองทุนที่ลงทุนในหุ้นเป็นหลัก เช่นกองทุนแอลทีเอฟที่มีนโยบายถือหุ้นอย่างต่ำ 65% ของพอร์ตทั้งยังได้เงินภาษีคืนแต่จะต้องถือกองทุนไว้ 7 ปีปฏิทิน(ซื้อปีที่ 1 ขายปีที่ 7) และยังมีกองทุนหุ้นอีกมากมาย ด้วยการลงทุนวิธีนี้เราอาจจะไม่ต้องมีความเข้าใจในธุรกิจ(หุ้น)มากนัก เพียงแต่อาจจะต้องศึกษาผลตอบแทนย้อนหลังของแต่ละกองทุนและค่าใช้จ่ายในการบริหารกองทุนที่รวมอยู่ในราคากองทุนที่เราต้องจ่ายไป เพื่อเป็นการเปรียบเทียบแต่ละกองทุนและตัดสินใจซื้อกองทุนที่ผลตอบแทนคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายที่เราจ่ายไป

2.ซื้อหุ้นรายตัว การลงทุนวิธีนี้ต้องมีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจอย่างยิ่งยวดเหมือนกับการไปลงทุนทำธุรกิจกับเพื่อนฝูง


แน่นอนว่าการลงทุนในธุรกิจต่างๆหรือการลงทุนอื่นๆเช่นการลงทุนในคอนโดก็อาจได้รับผลตอบแทนชนะดัชนีก๋วยเตี๋ยวได้ไม่ยาก แต่เนื่องจากผู้เขียนมีความเข้าใจในเรื่องหุ้นมากที่สุดในบรรดาการลงทุนต่างๆจึงอยากธิบายถึงการลงทุนหุ้นในบทความนี้

การลงทุนในหุ้นรายตัวต้องหาความรู้จากไหน ต้องทำอย่างไร

ต้องติดตามตอนหน้าครับ


เอก ธำรง

Facebook:ake thamrong
Line ID:akethamrong

ธำรง อนันต์ทวีผล

ธำรง อนันต์ทวีผล

จากมนุษย์เงินเดือนสู่นักลงทุนเต็มตัว เอก ธำรงมีประสบการณ์ทำงานด้านการขายและการตลาดมา 10 กว่าปีจากบริษัทใหญ่สัญชาติไต้หวันและญี่ปุ่น มีความสนใจด้านการลงทุนมาตั้งแต่เรียนหนังสือและได้ไล่ล่าความฝันมาเป็นนักลงทุนเต็มเวลาโดยลาออกจากงานประจำในปี 2015 ปัจจุบันเป็นนักลงทุนโดยมีการสอนการลงทุนในหุ้นประมาณ 10 กว่าครั้งต่อปีและรับเชิญพูดให้ความรู้เรื่องการลงทุน

เว็บไซต์

ศุภาลัย พรีเมียร์ สามเสน-ราชวัตร

โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์

นิว เวิร์ส กรุงเทพกรีฑา

ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาต้องบอกว่าย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม...

28 February, 2024

นิว ซี-สแควร์ สวนหลวง สเตชั่น

ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านมาพบกับโครงการคอนโดพร้อมอ...

30 January, 2024

ริธึ่ม เจริญนคร ไอคอนิค

วันนี้จะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับคอนโดมิเนียมสุดฮอตชื่อโ...

29 January, 2024

วิสซ์ดอม คราฟท์ สามย่าน

Whizdom Craftz Samyan คือโครงการที่มอบ 5 องค์ประกอบพ...

4 December, 2023

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง