“อยู่ไกลจัง” เป็นคำที่คุ้นหูของคนย่านธนบุรีเมื่อ 20 ปีก่อนที่ได้ยินทุกครั้งเมื่อใครๆ ถามว่า บ้านอยู่ไหน อาจเป็นเพราะย่านฝั่งธนฯ อดีตเมืองหลวงในสมัยพระเจ้าตากถูกกั้นจากกรุงเทพมหานครด้วยแม่น้ำเจ้าพระยา เวลาจะข้ามไปฝั่งพระนครหรือฝั่งกรุงเทพฯ ทีใช้เวลาไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชั่วโมงเร่งด่วน สะพานข้ามแม่น้ำ ที่มีอยู่มากมายไม่เคยเพียงพอต่อปริมาณรถที่ต่างเร่งเบียดเสียดข้ามไปฝั่งกรุงเทพฯ ย่านธุรกิจสำคัญ อาณาจักรช้อปปิ้งแหล่งใหญ่ และเป็นที่ตั้งของโรงเรียนชื่อดังอีกมากมาย

พลิกบทบาทจากเมืองเก่าสู่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจแห่งใหม่

ฝั่งธนฯ ในสายตาของใครหลายคนในยุคนั้นจึงดูห่างไกลจากใจกลางเมือง จนกระทั่งปลายปี 2542 เมื่อ รถไฟฟ้า BTS เริ่มวิ่งครั้งแรก ซึ่งมาสิ้นสุดที่สถานีสะพานตากสินบริเวณถนนเจริญกรุง การเดินทางเข้าสู่ย่านใจกลางธุรกิจไม่ว่าจะเป็นสีลมหรือสยามของผู้คนในฝั่งธนฯ เริ่มสะดวกสบายมากขึ้น แม้จะต้องต่อเรือข้ามฝากที่ท่าน้ำเป๊ปซี่ บริเวณถนนเจริญนครในฝั่งคลองสานไปยังท่าเรือสาทรในฝั่งสาทรเพื่อต่อรถไฟฟ้า BTS ที่สถานีสะพานตากสินก็ตาม

รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสีลม

อีก 10 ปีต่อมา BTS ส่วนต่อขยายสายสีลมก็วิ่งข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามาให้บริการคนฝั่งธนฯถึง 2 สถานี คือ สถานีกรุงธนบุรีและสถานีวงเวียนใหญ่ ความสะดวกสบายในการเดินทางจึงเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ด้วยระยะเวลาเดิน ทางแค่ 11 นาทีถึงศาลาแดงและ 14 นาทีถึงสยาม ลบคำว่า “บ้านไกล” ไปได้เลยทีเดียว

นอกจากการเดินทางที่สะดวกสบาย ซึ่งร่นระยะเวลาการข้ามสะพานตากสินที่ต้องใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงใน ช่วงเร่งรีบของวันทำงาน บนเส้นทางเพียงไม่ถึง 3 กิโลเมตร เหลือแค่ 7 นาทีจากสถานีวงเวียนใหญ่ถึงสถานีสุรศักดิ์ BTS ยังได้สร้างจุดเปลี่ยนสำคัญให้กับไลฟ์สไตล์ของคน ทั้งคนย่านฝั่งธนฯเองที่เริ่มมองหาที่พักใกล้สถานีกรุงธนบุรี และสถานีวงเวียนใหญ่ เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางมากขึ้น และคนย่านอื่นๆ ที่เริ่มมองหาคอนโดใกล้เมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งใกล้ย่านสีลม สาทร ที่เป็นแหล่งทำงานสำคัญ ในราคาที่ไม่สูงนัก คอนโดบริเวณสถานีกรุงธนบุรี และสถานีวงเวียนใหญ่จึงเข้ามาตอบโจทย์ดีมานด์กลุ่มนี้

คอนโดโครงการแรกๆ ที่เปิดตัวบริเวณสถานีกรุงธนบุรีและสถานีวงเวียนใหญ่ เปิดสตาร์ทที่ราคาเพียง 50,000 บาทต่อตารางเมตรหรือ 1.9 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งเปิดขายในปี 2550 ระหว่างที่ทั้งสองสถานีนี้กำลังก่อสร้าง เมื่อเทียบกับราคาคอนโดเปิดใหม่ในปีเดียวกันที่ฝั่งสาทร ซึ่งมีราคาถึง 84,000 บาทต่อตารางเมตรหรือ 3.2 ล้านบาทต่อยูนิต คอนโดย่านฝั่งธนฯ ที่มีราคาต่ำกว่าเกือบครึ่งจึงน่าสนใจกว่า เพราะห่างจากสาทรไม่ถึง 10 นาทีด้วยการเดินทางด้วย BTS

เมื่อรถไฟฟ้ามาราคาก็พุ่ง
หลังจากสองสถานีแรกของฝั่งธนฯ เริ่มเปิดใช้บริการในปี 2552 ราคาคอนโดเปิดตัวใหม่ได้พุ่งไปถึงกว่า 70,000 – 80,000 บาทต่อตารางเมตร เนื่องจากราคาที่ดินในปีนั้นหลังจากรถไฟฟ้าเริ่มวิ่งได้ปรับตัวขึ้นไปกว่า 15% เป็น 300,000 บาทต่อตารางวา เมื่อเทียบกับปี 2551 และขยับไปถึงกว่า 400,000 บาทต่อตารางวาในปี 2556 ซึ่งเป็นข้อมูลจากการสำรวจของฝ่ายวิจัยตลาดอสังหาริมทรัพย์ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ โดยล่าสุดในปี 2558 ราคาเสนอขายอยู่ที่ 500,000 บาทต่อตารางวาแล้ว ซึ่งที่ดินริมถนนใหญ่บริเวณใกล้สองสถานีนี้ที่เหมาะสำหรับพัฒนาโครงการคอนโดเริ่มหายากขึ้น และเหลืออยู่ไม่กี่แปลง แต่ละแปลงก็เสนอขายในราคาที่ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างร้องจ๊าก ขณะที่ ราคาคอนโดเปิดตัวใหม่บริเวณสถานีกรุงธนบุรีและสถานีวงเวียนใหญ่ดีดตัวแรงขึ้นไปถึงแตะ 100,000 บาทต่อตารางเมตร กระทั่งโครงการล่าสุดแตะ 120,000 บาทต่อตารางเมตรแล้ว ทำให้ดีมานด์จึงเริ่มมองไปที่สถานีถัดไป

จับตาราคาคอนโดส่วนต่อขยายล่าสุด

เมื่อส่วนต่อขยาย BTS ได้เปิดใช้บริการเพิ่มอีก 2 สถานี คือ สถานีโพธิ์นิมิตรและสถานีตลาดพลูในช่วงต้น ปี 2556 โครงการคอนโดบริเวณ 2 สถานีใหม่นี้จึงได้รับความสนใจมากกว่า เพราะราคาขายต่ำกว่าเมื่อเทียบกับ สถานีกรุงธนบุรีและสถานีวงเวียนใหญ่ เนื่องจากมีต้นทุนที่ดินที่ต่ำกว่าหรือประมาณ 200,000 บาทต่อตารางวา ขณะที่ สถานีกรุงธนบุรีและสถานีวงเวียนใหญ่ในสองปีหลังตั้งแต่ปี 2556 ถึงปัจจุบัน มีโครงการคอนโดเปิดใหม่เพียง 2 – 3 โครงการเท่านั้น และสตาร์ทในราคาแตะ 100,000 บาทต่อตารางเมตร

คอนโดโครงการแรกบริเวณสถานีโพธิ์นิมิตรเปิดขายในราคา 65,000 บาทต่อตารางเมตรหรือเริ่มต้น ประมาณ 1.9 ล้านบาทต่อยูนิตเมื่อปี 2552 ราคาเดียวกับโครงการแรกๆ ในทำเลบริเวณสถานีกรุงธนบุรีและสถานี วงเวียนใหญ่ที่เปิดขายในปี 2550 ก่อนเปิดใช้สถานี

ล่าสุดราคาที่ดินบริเวณสถานีโพธิ์นิมิตรและสถานีตลาดพลูได้ขยับไปถึง 300,000 – 400,000 บาทต่อตารางวาแล้ว ทำให้ราคาคอนโดเปิดตัวใหม่ในทำเลนี้แตะ 85,000 – 95,000 บาทต่อตารางเมตรเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ตามระยะทางไกล-ใกล้กับทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้า เนื่องจากบริษัทผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เห็นศักยภาพของทำเลนี้ที่ใกล้ความสะดวกสบายอย่างเดอะมอลล์ ท่าพระ ย่านของอร่อยชื่อดังแถวตลาดพลู บวกกับโอกาสในการพัฒนาคอนโดอาคารสูง เพื่อเทควิวแม่น้ำเจ้าพระยาก็มีไม่น้อย

แม้จะมีซัพพลายคอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่ในบริเวณนี้ค่อนข้างมาก แต่ก็ยังดึงดูดบริษัทผู้พัฒนาที่เข้ามาซื้อที่ดินเปิดตัวโครงการใหม่อีกไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นบมจ.ศุภาลัย ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อประมาณกลางปีริมถนนรัชดาภิเษกบริเวณใกล้กับเดอะมอลล์ ท่าพระ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ คอร์ปอเรชั่น ในเครือตระกูลเจียรวนนท์ ที่ซื้อที่ดินที่เป็นที่ตั้งเดิมของศูนย์บีควิกตรงข้ามเดอะมอลล์ ท่าพระ และบมจ.แสนสิริที่เริ่มเคลียร์ปรับพื้นที่ที่ดินแปลงใหญ่บริเวณเชิงสะพานข้ามตลาดพลูที่มุ่งหน้าไปทางสี่แยกท่าพระ เพราะบริเวณนี้นอกจากการเดินทางแสนสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS แล้ว การขับรถที่สามารถวิ่งตรงข้ามสะพานตากสินไปยังฝั่งสาทรในวันหยุดที่การจราจรเบาบาง หรือการใช้เส้นทางรัชดาภิเษกข้ามสะพานพระราม 3 เลี่ยงรถติดบริเวณสาทรที่ยังมีทางขึ้น-ลงทางด่วน หรือเส้นทางเชื่อมสะพานภูมิพลหรือสะพานวงแหวนอุตสาหกรรมให้เลือกใช้เพื่อตัดไปออกเส้นกาญจนาภิเษก ซึ่งเป็นวงแหวนรอบนอกเส้นใหญ่ของกรุงเทพฯ ที่มีเส้นทางลงมากมายไม่ว่าจะเป็นฝั่งสำโรง บางนา สุวรรณภูมิ มอเตอร์เวย์ รามคำแหง รามอินทรา ปทุมธานี และอยุธยา ถนนราชพฤกษ์ที่ขนานเส้นทางรถไฟฟ้าสถานีโพธิ์นิมิตรและสถานีตลาดพลู ยังเชื่อมต่อไปเส้นเพชรเกษมหรือออกต่างจังหวัดในภาคตะวันตกและภาคใต้ด้วยเส้นกาญจนาภิเษกในอีกฝั่งของเมืองได้อย่างแสนสะดวก และในอีก 2-3 ปีข้างหน้า รถไฟฟ้า BTS ยังเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-บางแคเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการเดินทางสู่ย่านบางแค เส้นจรัญสนิทวงศ์ และเพิ่มทางเลือกให้กับการต่อรถไฟฟ้าใต้ดินอีกเส้นทาง

ปรากฎการณ์ ICON SIAM

นอกจากนี้ ในปลายปี 2560 คนฝั่งธนฯ ไม่ต้องเบียดเสียดขึ้นรถไฟฟ้า BTS ในช่วงวันหยุดหรือเทศกาล เพื่อข้ามไปช้อปปิ้งย่านสยาม เซ็นทรัลเวิลด์-ชิดลม-เอ็มบาสซี่ หรือดิ เอ็มโพเรี่ยม-เอ็มควอเทียร์-เอ็มใดๆ หรือแม้แต่การร่วมเซเลเบรทนับถอยหลังในวันสิ้นปีเข้าสู่ศักราชใหม่ที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์หรือที่เอเชียทีคบริเวณถนนเจริญกรุงอีกแล้ว เพราะคนฝั่งธนฯ กำลังจะมีอาณาจักรช้อปปิ้งระดับไฮเอนด์เป็นของตัวเอง นั่นคือ ICONSIAM ปรากฏการณ์ 5 หมื่นล้านบาทจากความร่วมมือระหว่างกลุ่มสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาสยาม พารากอน และกลุ่มธุรกิจในเครือตระกูลเจียรวนนท์ ได้แก่ ซีพี และแมกโนเลียฯ บนทำเล 50 ไร่ริมถนนเจริญนครย่านคลองสาน ที่กำลังจะมีสุดยอดแฟชั่นแบรนด์ดังระดับหรูและร้านค้าต่างๆ กว่า 500 ช้อป ร้านอาหารระดับ Michelin Chef 100 แห่งจาก 30 ประเทศทั่วโลก แถมยังจัดพื้นที่แสดง Exhibition น้องๆ อิมแพคเมืองทองธานีรองรับทั้งการแสดงสินค้า และโชว์สุดยอดอลังการจาก Broadway และ London ที่สำคัญมีพื้นที่ให้ Selfie อวดเพื่อนบนพื้นที่ริมแม่น้ำกว่า 1 หมื่นตารางเมตร ได้แก่ 7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งไอคอนสยาม การแสดงสายน้ำผสมมัลติมีเดีย แสง สี เสียง ยาวกว่า 400 เมตรที่ว่ากันว่าจะเป็นโชว์สายน้ำที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เมื่อ ICONSIAM เปิดตัวจะดันศักยภาพของทำเลย่านฝั่งธนฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณใกล้รถไฟฟ้า BTS ตลอดเส้นที่ข้ามมายังฝั่งธนฯ ตั้งแต่สถานีกรุงธนบุรีถึงสถานีวุฒากาศ การเปิดตัวของอาณาจักรศูนย์การค้าระดับโลกแห่งนี้ ยังเพิ่มโอกาสให้การลงทุนปล่อยเช่า เพราะ ICONSIAM ศูนย์การค้าขนาดพื้นที่กว่า 5 แสนตารางเมตร พร้อมคอนโดมิเนียมระดับ Luxury กว่า 500 ยูนิตใน 2 อาคาร ถือเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะต้องใช้ทรัพยากรบุคคลถึงหลายพันคน ดังนั้น โอกาสการลงทุนมาถึงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเพื่อรอขายต่อในอีก 2 ปีข้างหน้า หรือการลงทุนปล่อยเช่าที่ได้เรทดีไม่น้อย

สำหรับราคาซื้อขายต่อของคอนโดมิเนียมในย่านนี้ เฉลี่ยปรับตัวขึ้นปีละ 5-20% แล้วแต่ความใกล้ไกลและช่วงปีที่เปิดของโครงการ ถือเป็น Capital Gain ที่ไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่เตี้ยต่ำหรือการลงทุนแบบเสียววูบวาบรายวันในตลาดหุ้น ขณะที่ ราคาปล่อยเช่าคิดเป็นอัตราต่อตารางเมตรต่อเดือนก็ไม่น้อยหน้าย่านอื่น โดยในโครงการแบรนด์ดังของบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ มีการปล่อยเช่าในอัตราระหว่างประมาณ 450-650 บาทต่อตารางเมตรเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่า อัตราที่ได้เรทสูงสุดจะเป็นโครงการที่ใกล้สะพานตากสินและสถานีรถไฟฟ้าสถานีแรกของย่านฝั่งธนฯ ส่วนอัตราที่ได้เรทน้อยสุดอยู่ที่สถานีสุดท้ายของ BTS

สถานีโพธิ์นิมิตร The New Residential Area

ด้วยราคาคอนโดบริเวณสถานีกรุงธนบุรี – วงเวียนใหญ่ที่สูงขึ้นมามาก และ Supply ส่วนใหญ่เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่เกินกว่า 30 ตารางเมตร ทำให้ Demand จำนวนไม่น้อย เริ่มที่จะมองหาทำเลทดแทนสองสถานีดังกล่าว สถานีโพธ์นิมิตร ดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะบริเวณสถานีนี้ได้รับการพิสูจน์จากตลาดแล้วว่ามีความเป็น Residential area เหมาะกับการอยู่อาศัย เนื่องจาก ณ ปัจจุบัน มีคอนโดหลายแห่งที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ไปแล้วไม่ว่าจะเป็น The Room Sathorn Taksin, The Parkland และ The Parkland Grand รวมไปถึงน้องใหม่เพิ่งสร้างเสร็จไปหมาดๆอย่าง ไอดีโอ สาทร ท่าพระ (คลิกอ่านรีวิวได้ที่นี่ Ideo Sathorn – Tha Phra ไอดีโอ สาทร ท่าพระ: Exclusive Floor)…นี่ยังไม่รวมถึงโครงการใหม่อีกหลายรายบริเวณสถานีตลาดพลูถัดออกไปประมาณ 400 เมตร ที่กำลังทยอยขายและก่อสร้าง

คอนโดในบริเวณสถานีโพธิ์นิมิตรนี้ นอกจากจะได้เปรียบในเรื่องของราคาต่อยูนิต ที่ค่อนข้างต่ำกว่าสถานีวงเวียนใหญ่แล้ว ก็ยังมีจุดเด่นในเรื่องของวิว โดยเฉพาะทิศเหนือและทิศใต้ เนื่องจากในละแวกนี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นย่านที่พักอาศัยเก่า รายล้อมไปด้วยบ้านชั้นเดียว และตึกแถวซะเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงทิศตะวันออกที่ถ้าได้ขึ้นไปดูจากชั้นสูงที่โครงการ ไอดีโอ สาทร ท่าพระแล้วก็จะได้เห็นทั้งวิวแม่น้ำเจ้าพระยา และวิวของตึกสูงในย่านสาทร จะมีก็แต่ทิศตะวันตกเท่านั้นที่ดูจะติดบล๊อกของโครงการเก่าอย่าง The Parkland และสารพัดโครงการใหม่ในอนาคตอย่าง Aspire สาทร ท่าพระ และโครงการใหม่ของ Whizdom

ไอดีโอ สาทร ท่าพระ ตอบโจทย์ทุกองศาของการใช้ชีวิต

ด้วยระยะห่างจากสถานีรถไฟฟ้าโพธิ์นิมิตรเพียงแค่ 320 เมตร พร้อมบริการรถรับส่งจากสถานี – โครงการ – เดอะมอลล์ท่าพระ คอนโดสูง 31 ชั้น 1,339 ยูนิตแห่งนี้ ดูจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการอิสรภาพในการใช้ชีวิต ด้วยการจัดวางเลย์เอ้าท์อันชาญฉลาด ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ให้ครบ และพื้นที่ส่วนกลางที่ให้ความสำคัญกับการทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์…แล้วคุณจะพบว่าด้วยงบประมาณเพียงแค่ราวๆ 2 ล้านบาทต้นๆ ก็จะทำให้รูปแบบการใช้ชีวิตของคุณนั้นสมบูรณ์ขึ้นเยอะเลยครับ