เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ โชว์ตัวเลขผลงานไตรมาส 1/ 2563 เติบโตสวนกระแส 41%
เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2563 โดยมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 1,825 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 41% ในขณะที่รายได้รวมและกำไรสุทธิเติบโต 37% และ 31% ตามลำดับ จากยอดโอนโครงการเมทริส พระราม 9 – รามคำแหง พร้อมขานรับพฤติกรรม New Normal สู้ศึก COVID-19
นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้นำตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี่ ด้วยวิสัยทัศน์มุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ และมีการออกแบบที่คำนึงถึงการใช้งานและตอบโจทย์ผู้บริโภค เปิดเผยความสำเร็จผลประกอบการไตรมาสที่ 1/2563 โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,993.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 537.83 ล้านบาท จากไตรมาส 1/2562 หรือเพิ่มขึ้น 37% โดยรายได้ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 1,824.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 534.91 ล้านบาท จากไตรมาส 1/2562 หรือเพิ่มขึ้น 41% ในขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 198.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.29 ล้านบาท จากไตรมาส 1/2562 หรือ เพิ่มขึ้น 31% สวนกระแสภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีรายได้จากการขายเฉลี่ยลดลงเกือบ 30% และกำไรสุทธิเฉลี่ยลดลงกว่า 40% โดยรายได้จากการขายส่วนใหญ่ของบริษัทฯ มาจากการโอนกรรมสิทธิ์ ในโครงการเมทริส พระราม 9-รามคำแหง ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 1/2563 ซึ่งปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 80% นอกจากนี้ยังมีการโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่องจากโครงการพร้อมอยู่หลายโครงการ
ในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2563 บริษัทฯ เน้นกลยุทธ์เพื่อเร่งการขายโครงการพร้อมอยู่และโอนกรรมสิทธิ์ในโครงการที่กำลังจะแล้วเสร็จภายในปี ซึ่งปัจจุบันมียอด Backlog รอโอนกรรมสิทธิ์ อยู่กว่า 3,300 ล้านบาท โดยมีโครงการที่เป็นไฮไลท์ คือ โครงการเมทริส ลาดพร้าว สร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 2 ณ ปัจจุบันโครงการเมทริส ลาดพร้าว สามารถปิดการขายไปได้แล้วกว่า 80% ขณะที่การประเมินสถานการณ์อสังหาฯ หลังช่วงโควิด 19 เรียกได้ว่าเป็นแนวโน้มอสังหาฯ สู่การปรับฐานใหม่ ที่เรียกว่า New Normal อสังหาฯ ในอนาคต เช่น การออกแบบฟังก์ชั่นที่ต้องเปลี่ยนไปตามพฤติกรรมและลักษณะการทำงานลูกค้าที่เปลี่ยนไป หรือการออกแบบฟังก์ชั่นที่เอื้อต่อการนำเทคโนโลยีมาใช้ในบ้านให้มากขึ้น รวมไปถึงทำเลที่จะมาตอบโจทย์คนที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจริง และกลยุทธ์ที่สำคัญหลังจากนี้คือ การให้ความสำคัญและดูแลเอาใจใส่ในการใช้ชีวิตของลูกค้าทุกขั้นตอน เพื่อส่งมอบบริการให้กับลูกค้าแบบครบวงจรและต่อเนื่องให้มากยิ่งขึ้น