Gig Economy มีผลยังไงต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา

ต่อทอง ทองหล่อ 19 August, 2019 at 12.39 pm

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


Gig Economy คืออะไร

เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคสมัยที่เจนเนเรชั่น Y และ Gen ใหม่ๆ ที่กลายมาเป็นกำลังหลักในตลาดแรงงาน ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน Gig Economy ซึี่งหมายถึงการทำงานรูปแบบใหม่ที่ไม่ใช่การจ้างงานประจำ แต่เป็นการจ้างงานในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ทั้งในลักษณะ Part-time, Freelance, Self-employed และ Outsource เพิ่มมากขึ้น โดยส่วนใหญ่ใช้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อกันระหว่างนายจ้างและลูกจ้างผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ทำให้คนหนึ่งคนสามารถรับงานได้หลายประเภทในเวลาเดียวกัน อันเป็นลักษณะการทำงานที่ยืดหยุ่น มีอิสระ และมีโอกาสสร้างรายได้ไม่จำกัด ถูกใจคนรุ่นใหม่หลายๆ คน

การเติบโตของ Gig Economy ในสหรัฐอเมริกา

จำนวนผู้คนที่เข้ามาอยู่ใน Gig Economy ของสหรัฐอเมริกามีเพิ่มขึ้นถึง 27% ซึ่งมากกว่าการเพิ่มขึ้นของพนักงานจ้างแบบรายเดือนในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาเสียอีก หากมองเจาะลึกลงไปในบางอุตสาหกรรมอย่างการขนส่งและคมนาคมก็จะยิ่งเห็นได้ชัด เพราะมีการเติบโตขึ้นถึง 44% มากกว่าอัตราการเติบโตของพนักงานจ้างรายเดือนแบบทั่วไป อีกทั้งสัดส่วนการเติบโตนี้ไม่ได้มาจากเฉพาะการจ้างงานทางด้านการพัฒนาซอฟแวร์ งานออกแบบ หรืองานเขียนที่ใช้การส่งงานผ่านระบบออนไลน์เพียงเท่านั้น แต่รวมถึงจำนวนงานแบบสัญญาจ้างในบางอุตสาหกรรม เช่น การศึกษา การบริการสุขภาพที่บ้าน ที่เติบโตขึ้นถึง 400% ระหว่างปี 2548 – 2558

Photo by Robert Anasch on Unsplash

อย่างไรก็ตามหากการเพิ่มขึ้นของ Gig Economy ได้รับการบริหารจัดการจากทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างเป็นระบบระเบียบแล้ว โมเดลการหารายได้ใหม่นี้ก็จะไม่ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจมากนัก แต่หากการมาซึ่ง Gig Economy นำการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจไปอย่างผิดที่ผิดทาง เพราะถ้าผู้กุมระบบแพลตฟอร์มทางเทคโนโลยีเกิดบีบคั้นและปฏิเสธการร่วมเจรจาต่อรองระหว่างนายจ้างกับสหภาพแรงงานหรือมีการละเมิดสิทธิแรงงานอื่นๆ Gig Economy แบบนี้ก็จะนำมาซึ่งหายนะที่สามารถทำลายระบบการหารายได้อย่างเป็นธรรม แต่โชคดีที่เมื่อเร็วๆ นี้กระทรวงแรงงานของสหรัฐอเมริกาได้มีการยกระดับมาตราฐานความคุ้มครองของลูกจ้างสัญญาจ้างชั่วคราวให้มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น

Gig Economy กับวงการอสังหาริมทรัพย์

ปรากฏการณ์การเติบโตของ Gig Economy ในข้างต้นยังส่งผลไปถึงวงการอสังหาริมทรัพย์ โดยเหล่าแรงงานที่มีศักยภาพใน Gig Economy เริ่มเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนกลยุทธ์การเลือกทำเลที่ตั้งของบริษัท ภาคธุรกิจมีการตระหนักถึงความต้องการของกลุ่มคนเหล่านี้มากขึ้นเพื่อหวังจะสร้างจุดดึงดูดและประสบการณ์การทำงานอันดีเยี่ยม นาย Mark Gorman ประธานบริหาร Corporate Real Estate & Facilities แห่ง Ciena ได้ให้ความเห็นไว้ว่า ความรู้ความสามารถจากแรงงานถือเป็นทรัพยาการทางธรรมชาติรูปแบบใหม่ องค์กรในสมัยก่อนเลือกที่จะตั้งรกรากบริษัทของตนให้อยู่ใกล้ป่า แม่น้ำ หรือเหมืองแร่เพื่อให้เข้าถึงทรัพยากรเหล่านั้นง่ายที่สุดฉันใด การเลือกที่ตั้งบริษัทในยุคสมัยนี้ก็ควรไปอยู่ใกล้ทรัพยากรมนุษย์ที่ต้องการให้ได้มากที่สุดฉันนั้น

 

ผลกระทบประการต่อมาที่เห็นได้ชัดในวงการอสังหาฯ คือ ธุรกิจ Co-working space ที่ขยายตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในปี 2560 มีรายงานข้อมูลการเติบโตของ Co-working space ถึง 22% ด้วยจำนวนพื้นที่ใช้สอยสำหรับการทำงานร่วมกันที่เพิ่มขึ้นเป็น 13,800 แห่งทั่วโลก ในขณะที่ประชากรอเมริกันราว 17 ล้านคน จากทั้งหมด 329 ล้านคน ได้เข้ามาอยู่ใน Gig Economy แล้ว และประชากรจากที่อื่นๆ อีกราว 500,000 คนก็อยู่ในระบบผู้ใช้งาน Co-working space ของสหรัฐอเมริกา

Photo by Alex Kotliarskyi on Unsplash

 

นอกจากนี้เทคโนโลยียังเข้ามามีบทบาทในการพลิกโฉมวงการอสังหาฯ ในแง่ของการสร้างโมเดลการให้บริการทางธุรกิจ เช่น การเกิดขึ้นของบริษัท Fintech ที่เข้ามาแทนที่การให้บริการนายหน้าแบบดั้งเดิม เมื่อผู้ใช้งานมองหาบริการที่ครบวงจร ตั้งแต่ขั้นตอนการประเมิน ออกสำรวจที่ดิน ไปจนถึงติดต่อกับผู้ประกาศขาย ซึ่งในปัจจุบันกระบวนการทั้งนี้หมดสามารถทำให้เสร็จได้ง่ายๆ ผ่านออนไลน์แพลตฟอร์ม

 

หรืออย่างในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ที่บริษัทให้กู้จำนอง ได้มีการพัฒนาโมเดลการประเมินความเสี่ยงในการปล่อยกู้รูปแบบใหม่ เพื่อหวังจับกลุ่มชาว Gig Worker ที่มีเพิ่มขึ้นอยู่ทุกปี โดยใช้เกณฑ์การประเมินความเสี่ยงเป็นยอดเงินในธนาคาร รูปแบบการใช้จ่ายและชื่อเสียงในโซเชียลมีเดียแทนที่การประเมินจากคะแนนเครดิตและจำนวนเงินที่ได้คืนจากการยื่นภาษีเงินได้ส่วนบุคคล

 

สุดท้ายนี้อยากให้พึงระลึกไว้ว่า Gig Economy ไม่ได้จำกัดอยู่ที่คน Gen ใด Gen หนึ่ง เพียงอย่างเดียว แต่คนรุ่นก่อนอย่าง Baby boomer ที่กำลังจะเกษียณอายุตัวเองหรือเกษียณไปแล้วก็สามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้เนื่องจากทักษะและประสบการณ์ที่สำคัญบางประการของคนเหล่านี้ก็ยังเป็นที่ต้องการของตลาดไม่แพ้กัน ข้อดีที่เห็นได้ชัดของ Gig Economy คือ จะไม่มีใครสนใจเพศ อายุ หรือเชื้อชาติของกันและกันอีกต่อไป สิ่งเดียวที่นายจ้างจะสนใจ คือ วันนี้คุณทำงานให้เสร็จตามคำสั่งแล้วหรือยัง?

 

#DigitalNomad #GigEconomy

 

แหล่งข้อมูลและภาพ

https://www.nasdaq.com/article/the-rise-of-the-gig-economy-and-the-impact-on-the-us-real-estate-market-cm760677

https://www.forbes.com/sites/abdullahimuhammed/2019/06/24/how-the-gig-economy-is-shaping-the-commercial-real-estate-sector/#3399483b3749

ต่อทอง ทองหล่อ

ต่อทอง ทองหล่อ

บรรณาธิการสื่อเกี่ยวกับการศึกษา และ Blogger ผู้มีผลงานการวิเคราะห์ด้านอสังหาฯ มามากกว่าร้อยบทความ ยังเป็นผู้สนใจลงทุนคอนโดมิเนียม ชอบใช้ชีวิตแบบ Digital Nomad รักการเดินเท้าและเลือกใช้ขนส่งมวลชนสำรวจความเปลี่ยนแปลงของทำเลสถานที่ผ่านมุมมองการเข้าใจมนุษย์ นอกจากนี้ยังเป็น Active Citizen ช่วยขับเคลื่อนพัฒนาเมืองผ่านงานเขียนและเครื่องมือสื่อสารที่เชื่อมรัฐกับประชาชน เป้าหมายระยะยาวต้องการเห็นคุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยที่ดีขึ้นของทุกคนในสังคม ติดตามผลงานได้ที่ https://matttortong.weebly.com

เว็บไซต์

ศุภาลัย พรีเมียร์ สามเสน-ราชวัตร

โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์

นิว เวิร์ส กรุงเทพกรีฑา

ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาต้องบอกว่าย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม...

28 February, 2024

นิว ซี-สแควร์ สวนหลวง สเตชั่น

ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านมาพบกับโครงการคอนโดพร้อมอ...

30 January, 2024

ริธึ่ม เจริญนคร ไอคอนิค

วันนี้จะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับคอนโดมิเนียมสุดฮอตชื่อโ...

29 January, 2024

วิสซ์ดอม คราฟท์ สามย่าน

Whizdom Craftz Samyan คือโครงการที่มอบ 5 องค์ประกอบพ...

4 December, 2023

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง