นวัตกรรมการสร้างบ้านในปัจจุบันมีแต่จะก้าวหน้าขึ้นทุกวัน ล่าสุดบริษัทที่มีชื่อว่า Haus ได้คิดค้น Smart home บ้านดักจับไวรัสขนาดกระทัดรัดที่ให้คนได้เข้าไปอยู่อาศัยโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งระบบสาธารณูปโภคจากส่วนกลางด้วยซ้ำ โดยบ้านหลังนี้สามารถถูกนำไปวางที่ไหนก็ได้ในโลก ขอเพียงมีพื้นที่ราบเรียบให้วางตัวบ้านเป็นพอ บ้านดักไวรัสมีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งให้ครบครัน มาพร้อมกับเทคโนโลยีการรีไซเคิลน้ำสำหรับใช้ภายในและแผงโซลาร์เซลสำหรับการผลิตไฟฟ้า

โครงสร้างภายนอกเป็นสีขาวแทรกด้วยกระจกบานใหญ่ดูคล้ายยานอวกาศ เสริมความล้ำสมัยเข้าไปอีกด้วยจุดสแกนลายนิ้วมือตรงทางเข้าบ้าน ทุกอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านสามารถควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน ทั้งอุณหภูมิ ความชื้น ระดับการใช้พลังงาน Haus ยังบอกอีกว่าระบบฟอกอากาศบ้านในบ้านสามารถปกป้องผู้อยู่อาศัยจากไวรัสและแบคทีเรียได้ถึง 99.9% ซึ่งเหมาะกับสถานการณ์ที่มีโคโรน่าไวรัสแพร่ระบาดไปทั่วโลกเช่นนี้เสียเหลือเกิน

แม้ว่าบ้านจะยังไม่สามารถนำส่งถึงมือเจ้าของได้ไปจนกว่าจะเข้าเดือนตุลาคมปีนี้ แต่ซีอีโอของ Haus นาย Max Gerbut กล่าวว่าทางบริษัทได้รับการติดต่อจากผู้ซื้อมากกว่า 19,000 ราย พร้อมกับยอดจองล่วงหน้าแล้ว 40 รายการก่อนที่ทางบริษัทจะเปิดตัวบ้านสู่สาธารณะชนเสียอีก Haus จะเปิดตัวบ้านดักไวรัสยูนิตแรกในเดือนกันยายนนี้พร้อมกับให้ผู้ที่สนใจซื้อสามารถเข้าไปทดลองสัมผัสประสบการณ์ภายในไปพร้อมๆ กัน

วัสดุที่ใช้ในการสร้างบ้านทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์ โพลีเมอร์ และบานกระจก ตัวกรอบโพลีเมอร์สามารถต้านทานพายุเฮอร์ริเคนและแผ่นดินไหวได้ รวมทั้งปลอดภัยจากซอมบี้ด้วย Haus กล่าว ตัวบ้านจะถูกประกอบสำเร็จและพร้อมนำส่งแก่ลูกค้าโดยไม่ต้องไปก่อสร้างหน้างานอีก บ้านมีแทงค์น้ำ แบตเตอร์รี่สำหรับเก็บพลังงานไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ที่ให้พลังงานได้เป็นสัปดาห์ มีระบบกำจัดของเสีย ทั้งหมดนี้ทำให้บ้านสามารถอยู่ได้ด้วยตัวของมันเองเป็นเวลา 365 วัน จนกว่าจะต้องการการซ่อมบำรุงและเปลี่ยนฟิลเตอร์ต่างๆ

mOne คือโมเดลบ้านขนาดเล็กที่สุดจาก Haus เป็นพื้นที่แบบสตูดิโอขนาด 400 ตารางฟุต (ประมาณ 37 ตารางเมตร) เหมาะสำหรับการอยู่อาศัย 2 คน ผู้ซื้อสามารถเลือกสี เครื่องใช้ไฟฟ้า และของตกแต่งได้ตามต้องการ โดยบ้านที่ได้รับออร์เดอร์ให้ปรับแต่งตามคำสั่งของลูกค้าจะใช้เวลาประมาณ 7 สัปดาห์ในการผลิดและอีก 2 สัปดาห์ในการจัดส่งในสหรัฐอเมริกา เฟอร์นิเจอร์แบบบิวท์อินทั้งหลายจะถูกออกแบบมาให้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่อย่างสูงสุด เช่น โซฟาที่ปรับให้กลายเป็นเตียงนอนได้ที่ล้อมรอบไปด้วยชั้นวางของ

ความฉลาดของบ้านหลังนี้ คือ หากเกิดสภาพอากาศที่เลวร้าย ตัวบ้านจะเปลี่ยนไปอยู่ในโหมดประหยัดพลังงานโดยอัตโนมัติเพื่อรักษาพลังงานไว้ใช้ภายหลัง ระบบรักษาความปลอดภัยอื่นๆ สามารถควบคุมได้จากแอปพลิเคชันที่อยู่บนโทรศัพท์มือถือ เช่น เปลี่ยนอุณหภูมิ ตรวจสอบแบตเตอร์รี่

ทางด้านระบบน้ำ หากไม่มีการเชื่อมต่อกับระบบน้ำจากส่วนกลางของตัวเมือง ก็ยังมีแทงค์น้ำของตัวบ้านที่สามารถเติมน้ำจากแหล่งอื่นๆ เข้าไปได้ น้ำที่ถูกกรองจะอยู่ในคุณภาพน้ำที่สามารถดื่มได้ ด้วยความปลอดภัยจากไวรัสถึง 99.9% ตัวบ้านถึงขนาดกลั่นน้ำจากอากาศได้ด้วยซ้ำหากจำเป็น จากนั้นน้ำจะถูกลำเลียงไปไว้สำหรับอาบ โดยมีระบบ Smart sensor คอยคัดแยกน้ำสกปรก ปรับอุณหภูมิและความดันให้เหมาะสม

ส่วนระบบฟอกอากาศภายในบ้านก็ได้รับการรับประกันจากบริษัทว่าสามารถป้องกันไวรัสและแบคทีเรียได้ถึง 99.9% ช่วยให้อากาศน่าหายใจมากขึ้น นอกจากนี้ตัวบ้านยังสามารถปรับระดับความชื้นในอากาศและคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยให้อากาศภายในบ้านมีคุณภาพสูงกว่าอากาศภายนอก

สนนราคาบ้านโมเดล mOne ที่ 199,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือหกล้านบาทไทยต้นๆ ไม่รวมค่าจัดส่ง

สำหรับโมเดลที่ขนาดใหญ่ขึ้นเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กในพื้นที่ 800 ตารางฟุต (ประมาณ 74 ตารางเมตร) เรียกว่า mTwo มีคุณสมบัติเหมือนโมเดล mOne แทบจะทุกอย่างในขนาดสองเท่า พร้อมพื้นที่ทำบาร์บีคิวนอกบ้าน เทคโนโลยีที่ทำให้มันกลายเป็นบ้านแสนฉลาด ได้แก่ Sonos speaker system, Nest camera และ Thermostat, Apple TV, จอโปรเจ็กเตอร์ และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต สนนราคาเริ่มต้นที่ 379,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 11.7 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับว่าจะสั่งให้ปรับอะไรตามใจชอบอีก

การออกแบบด้านในยังคงไว้ซึ่งความทันสมัยและเรียบง่าย ภาพจำลองแบบบ้านของบริษัทมักวางตัวบ้านอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ เช่น เกาะในเขตร้อน หรือภูเขา รวมทั้งสภาพโลกหลังวิกฤติเพื่อโชว์ว่าบ้านของ Haus ปลอดภัยจากซอมบี้หรือวันโลกแตกตามที่อ้างไว้จริงๆ (ฮา)

บ้านโมเดลใหม่ล่าสุด คือ mFour เป็นบ้านสองชั้นขนาด 1,600 ตารางฟุต (148 ตารางเมตร) และแผนที่จะสร้างบ้านกระจกราคาเริ่มต้น 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (30 ล้านบาท) ภายในเดือนธันวาคมปีนี้

รับชมวิดีโอของบ้านนี้ได้ที่นี่ https://youtu.be/1Fka7AvKB4U

แหล่งข้อมูลและภาพ

https://www.businessinsider.com/3d-printed-smart-home-haus-me-antiviral-antibacterial-2020-6

https://haus.me/