SUPALAI VERANDA RAMKHAMHAENG

  

ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง


ถ้าพูดถึงย่านที่อยู่อาศัยยอดนิยมแบบดั้งเดิมของกรุงเทพฯที่เกิดมาจากการขยายตัวของเมือง จนมี neighborhood facility ขนาดใหญ่ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนทุกระดับในแบบครบครัน หากเป็นกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตกก็คงต้องยกให้กับพื้นที่ฝั่งธนบุรี

เกริก บุณยโยธิน เมื่อ 30 May, 2022 เวลา 16.42 pm

Prop score™: 4.3

คะแนนรีวิว: 0.0

0 รีวิว


ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา



    ข้อมูลโครงการ

ชื่อโครงการ

SUPALAI VERANDA RAMKHAMHAENG

บริษัทผู้สร้าง

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)

สถานที่

ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก

สถานีรถไฟ BTS

-

สถานีรถไฟใต้ดิน

MRT ราชมังคลา Distance 0 m.

Airport Rail Link

-

สถานี BRT

-

พื้นที่

15-1-95.9 ไร่

ชั้น

1 อาคาร 3 ทาวเวอร์ TOWER A สูง 33 ชั้น Tower B สูง 35 ชั้น TOWER C สูง 27 ชั้น

ยูนิต

2098 ยูนิต

ที่จอดรถ

1,150 คัน คิดเป็น 55% (ไม่รวมซ้อนคัน)

ลิฟท์

Tower A : ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว ลิฟต์ขนของ 1 ตัว, Tower B : ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว ลิฟต์ขนของ 1 ตัว, Tower C : ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว ลิฟต์ขนของ 1 ตัว

สิ่งอำนวยความสดวก

Lobby, Mail Room, Game Room, Social Club, Swimming Pool & Jacuzzi, Water Park, Fitness, Yoga & Aerobic, Saun,a Jogging track, Street Basketball, Play Ground, Panoramic Sky Bar, Sky Lounge, Co-Living Space, Roof Garden


    ประเภทยูนิต

ประเภท

CONDO/คอนโด High Rise

studio

28-30 ตร.ม.

1 bedroom

35-42 ตร.ม., Plus 42-44 ตร.ม.

2 bedroom

59-67 ตร.ม.

3 bedroom

-

Duplex

-

Penthouse

-

ประเภทอื่นๆ

-

ความสูงจากพื้นถึงเพดาน

2.55 เมตร

ราคาเริ่มต้น / ตรม.

79,000 บาท/ตร.ม.

ราคาเริ่มต้น / ยูนิต

2.23 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง

35 บาท/ตร.ม./เดือน

Sinking Fund fee

350 บาท/ตร.ม.

สร้างเสร็จ

2022

เว็บไซต์

https://bit.ly/3a69I1o

1720


เพื่อนบ้าน Street View


รีวิวตึกจริง ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง คอนโดขวัญใจมหาชนชาวราม ติดสถานี MRT ส่วนกลางแน่น เข้าออกได้ 2 ทาง มาพร้อม Community Mall 

 

ถ้าพูดถึงย่านที่อยู่อาศัยยอดนิยมแบบดั้งเดิมของกรุงเทพฯที่เกิดมาจากการขยายตัวของเมือง จนมี neighborhood facility ขนาดใหญ่ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนทุกระดับในแบบครบครัน หากเป็นกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตกก็คงต้องยกให้กับพื้นที่ฝั่งธนบุรี แต่ถ้าเป็นพื้นที่ฝั่งกรุงเทพฯตะวันออกก็คงต้องเป็นย่านรามคำแหง ที่เป็นพื้นที่เมืองส่วนต่อขยายจากย่านพระรามเก้า ซึ่งในปัจจุบันได้ถูกยกศักยภาพให้เป็นย่าน New CBD ไปแล้ว โดยในอดีตหากเอ่ยถึงย่านรามคำแหง หลายคนอาจนึกถึงภาพของการจราจรที่คับคั่ง หรือการเดินทางที่ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากต้องใช้รถยนต์ส่วนตัว หรือรถโดยสารสาธารณะ หรือไม่ก็ทางเรือเท่านั้น รวมทั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์ในอดีตก็ล้วนแต่เป็นโครงการแนวราบอย่างหมู่บ้าน อาคารพาณิชย์ แต่ในไม่กี่ปีที่ผ่านมาตั้งแต่โครงการสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี) เริ่มการก่อสร้าง ก็ทำให้พื้นที่ย่านรามคำแหงเริ่มมีความสำคัญและเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในการลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาฯของนักลงทุนหลายราย

 

ปัจจัยหนึ่งคือหากพิจารณาทำเลที่รถไฟฟ้าสายสีส้มพาดผ่านบนพื้นที่ใจกลางเมืองอย่าง ศูนย์วัฒนธรรม รัชดา ประตูน้ำ ราชเทวี หากพัฒนาเป็นโครงการคอนโดก็น่าจะเป็นโครงการที่มีมูลค่ามหาศาล ผู้คนส่วนใหญ่ซื้อได้ยาก เพราะราคาที่ดินในย่านต่าง ๆ ที่กล่าวมา ล้วนแพงมาก ทำให้ทำเลรามคำแหงกลายเป็นหนึ่งในไม่กี่ทำเลบนเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่มีราคาที่ดินไม่สูงมาก สามารถพัฒนาโครงการคอนโดให้เหมาะสมกับระดับรายได้ของชนชั้นกลาง สอดคล้องกับดีมานด์ทั้งการซื้อและการเช่าในย่านรามคำแหงและย่านใกล้เคียงได้

 

หากกล่าวถึงย่านรามคำแหง ต้องขอแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ตามช่วงถนนคือ รามคำแหงช่วงปลายที่เริ่มตั้งแต่แยกลำสาลีไปจนถึงมีนบุรี-สุวินทวงศ์ อีกช่วงคือ รามคำแหงช่วงต้นที่อยู่ระหว่างต้นสี่แยกรามคำแหงที่เป็นจุดตัดระหว่างถนนรามคำแหงและถนนพระรามเก้าไล่ไปเรื่อย ๆ จนถึงแยกลำสาลี

ซึ่งบนรามคำแหงช่วงต้นจะมีข้อได้เปรียบด้านทำเลคือ เป็นพื้นที่เชื่อมต่อจาก CBD พระรามเก้า ซึ่งจะเรียกว่าเป็น New CBD Extension ก็ได้ เพราะรายล้อมไปด้วย Magnet ที่สำคัญที่เป็นจุดศูนย์รวมคน ใกล้สถานที่สำคัญต่างๆ มากมาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และทุกช่วงวัยของชีวิต คู่แต่งงาน มีลูกเกิด เด็กนักเรียน เติบโตเข้ามหาวิทยาลัย ทำงาน ออกกำลังกาย พักผ่อนเดินเล่น ช้อปปิ้ง เจ็บไข้ได้ป่วยหาหมอ เดินทางเข้าออกเมือง ครบทุกอย่าง ทั้งออฟฟิศ อาคารสำนักงานโดยรอบ รวมทั้งการกีฬาแห่งประเทศไทย และสนามราชมังคลากีฬาสถาน ห้างสรรพสินค้าและ Shopping Center เช่น The Mall รามคำแหง, The Mall บางกะปิ, Tesco Lotus บางกะปิ, Big C รามคำแหง Lifestyle Mall ได้แก่ The Nine Center พระราม 9, รามคำแหง ไนท์ มาร์เก็ต, ตะวันนา ไนท์ บาร์ซาร์, Homepro รามคำแหง, The Paseo Town รามคำแหง

 

ใกล้มหาวิทยาลัย และสถานศึกษาชื่อดังของฝั่งกรุงเทพฯ ตะวันออก เช่น โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง, โรงเรียนเทพลีลา, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ, มหาวิทยาลัยรามคำแหง, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ, มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต, สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า), สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น, มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต

 

โรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลรามคำแหง, โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์, โรงพยาบาลเวชธานี, โรงพยาบาลลาดพร้าว เจอเนอรัล, โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลปิยะเวท, โรงพยาบาลพระราม 9

และยังมีทางลัดเลาะไปออกเส้นทางใกล้เคียงได้อย่างเช่น รามคำแหง 21 ไปออกเลียบด่วน และรามคำแหง 24 ไปออกหัวหมาก พระรามเก้า หรือศรีนครินทร์ได้อีกด้วย อีกทั้งในอนาคตย่านนี้ยังมีการปรับตัวครั้งใหญ่จากห้างดังอย่าง The Mall รามคำแหงที่กำลังสร้างใหม่ด้วย

จากความน่าสนใจของทำเลย่านรามคำแหงตอนต้น ทำให้มีหลายบริษัทมาปักหลักพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแล้วหลายโครงการ เช่น THE TREE หัวหมาก อินเตอร์เชนจ์, Niche Mono รามคำแหง, Ideo New Rama 9, Metris Rama9-Ramkumhaeng,  Knightbridge Collage Ramkamhaeng, และล่าสุดทางบริษัทศุภาลัยก็พัฒนาโครงการ SUPALAI VERANDA RAMKHAMHAENG (ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง) จนเสร็จสมบูรณ์พร้อมเข้าอยู่แล้วในวันนี้

 

จุดน่าซื้อของ SUPALAI VERANDA RAMKHAMHAENG (ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง) ที่เป็นข้อได้เปรียบเด่นชัดจากโครงการอื่นมีดังต่อไปนี้

1. เข้าออกได้ 2 ทาง คือจากถนนรามคำแหง และถนนหัวหมาก

SUPALAI VERANDA RAMKHAMHAENG เป็นคอนโดเพียงแห่งเดียวบนย่านรามคำแหง และเป็นคอนโดเพียงไม่กี่แห่งในกรุงเทพฯ ที่อยู่ติดถนนใหญ่ถึง 2 ด้าน คือจากถนนรามคำแหง และถนนหัวหมาก ทำให้เดินทางสะดวกเลี่ยงรถติดได้ดี ไม่ว่าใช้ถนนรามคำแหงไปลาดพร้าว เสรีไทย หรือสถานที่สำคัญ ๆ อย่างการกีฬาแห่งประเทศไทย สนามราชมังคลากีฬาสถาน รวมทั้งห้างสรรพสินค้าและ Lifestyle Mall บนถนนรามคำแหง หรือใช้ทางด่วนเข้าเมืองที่ด่านเก็บเงินทางด่วนรามคำแหง ที่อยู่ห่างไปประมาณ 3.9 กม. และสามารถใช้ทางออกถนนหัวหมาก เพื่อเชื่อมไปยังกรุงเทพกรีฑา ถนนพระรามเก้า พัฒนาการ หรือออกมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี ที่ห่างออกไปประมาณ 3.7 กม. ก็สามารถเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิได้โดยง่าย ให้ลูกบ้านสามารถเลือกทางเข้าออกได้ตามจุดหมายปลายทางที่แตกต่างกันในแต่ละวัน

 

ทางเข้าฝั่งถนนรามคำแหง

ทางเข้าฝั่งถนนหัวหมาก

2. มีร้านค้า Community Mall แนบชิดทั้ง 2 ฝั่ง

โครงการ SUPALAI VERANDA RAMKHAMHAENG ออกแบบให้บริเวณปากทางเข้าออกทั้งสองฝั่งเป็นพื้นที่ Retail โดยมีร้านค้ามาเปิดให้บริการที่พื้นที่ Retail ฝั่งติดถนนรามคำแหง และ Tops Super Market ที่พื้นที่ Retail ทั้งหมดที่ฝั่งทางเข้าออกถนนหัวหมาก ซึ่งถึงแม้จะมีร้านค้า และ Community Mall ขนาบทั้ง 2 ฝั่ง แต่ทางโครงการฯ ก็ออกแบบให้พื้นที่โซนที่พักอาศัยมีความ Private และความปลอดภัย เนื่องจากประตูเข้าออกพื้นที่พักอาศัยได้ขยับเข้ามาในแปลงที่ดิน ถัดจากพื้นที่ร้านค้า และมี space สวนและที่จอดรถที่คั่นระหว่างอาคารพักอาศัย

 

Retail shop ฝั่งถนนรามคำแหง

พื้นที่ buffer zone ที่เป็นที่จอดรถของ retail shop และแนวรั้วกั้นพื้นที่โซนที่พักอาศัย

Retail shop ฝั่งถนนหัวหมาก ที่จะเป็น Tops Supermarket ทั้งหมด

3. ติดรถไฟฟ้า MRT สถานีราชมังคลาฯ

SUPALAI VERANDA RAMKHAMHAENG ตั้งอยู่ติดรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีราชมังคลาฯ ชนิดที่ฝ่ายการตลาดและในโบรชัวร์เขียนไว้ว่า 0 เมตร! แต่ถ้าเดินจริงๆก็ไม่ได้ติดกันขนาดนั้น เพราะยังไม่รวมระยะทางที่ต้องเดินผ่าน community mall ของโครงการฯ ข้ามสะพานข้ามคลอง ซึ่งจริง ๆ จากถนนทางเข้าโครงการด้านถนนรามคำแหง ก็น่าจะประมาณ 100 เมตร ซึ่งก็ถือว่าใกล้รถไฟฟ้ามากอยู่ดี แต่ระยะนี้ต้องบอกว่าไม่นับรวมระยะทางภายในโครงการฯ ที่อาจแตกต่างกันตามตำแหน่งอาคารที่พักอาศัยในแต่ละ Tower และนอกจากนี้ยังอยู่ห่างรถไฟฟ้าสายอื่น ๆ อาทิ Airport Real Link สถานีรามคำแหง ประมาณ 3.7 กม. , Airport Real Link สถานีหัวหมาก 4.9 กม

สถานีราชมังคลาฯ กำลังก่อสร้างอยู่ครับ

4. ส่วนกลางใหญ่มากสไตล์ Active Condominium

สิ่งอำนวยความสะดวกที่ SUPALAI VERANDA RAMKHAMHAENG มีมากมายภายใต้คอนเซปต์ Active Condominium ไม่ว่าจะเป็น Infinity Edge Infinity Edge เป็นสระน้ำเกลือ และ สระเด็ก, Fitness  &Aerobic ที่มีครบโหมดการออกกำลังกายทุกรูปแบบ ว่าย วิ่ง โยคะ ฟิตเนส, Suana, Roof Garden, คนชอบชิลล์ ๆ นั่งทำงาน หรือ WFH ก็มี Meeting Room, Sky Lounge, Co-Working & Co-Living Space, Jogging track, Basketball Court รวมทั้งมีพื้นที่สีเขียวรวมประมาณ 4 ไร่กว่า เรียกได้ว่าอยู่ที่นี่ครอบคลุมครบทุกไลฟ์สไตล์

5. ราคาขายที่ Competitive กว่าทุกโครงการใหม่ในย่านนี้

SUPALAI VERANDA RAMKHAMHAENG มีราคาขายเฉลี่ยที่ 79,000 บาทต่อ ตร.ม. ซึ่งราคาขายตอนเริ่มโครงการอยู่ที่ 67,5000 บาทต่อ ตร.ม. ขึ้นมา 17% ซึ่งราคาขายตั้งแต่เริ่มโครงการ แต่ราคาขายปัจจุบันก็ยังถือว่าทำราคาได้ถูกกว่าโครงการใหม่อื่น ๆ ในย่าน ที่ปัจจุบันขายกันอยู่ที่ 82,000-110,000 บาทต่อ ตร.ม.

SUPALAI VERANDA RAMKHAMHAENG เป็นโครงการคอนโดมิเนียมพักอาศัย 1 อาคาร ที่มี Podium ยาวเชื่อมต่อกัน และแบ่งออกเป็น 3 ทาวเวอร์ Tower A ฝั่งถนนรามคำแหง สูง 33 ชั้น Tower B อยู่ตรงกลาง สูงที่สุด 35 ชั้น และ Tower C อยู่ฝั่งถนนหัวหมาก สูง 27 ชั้น อาณาเขตของโครงการมีเนื้อที่ประมาณ 15 ไร่ 1 งาน 95.9 ตารางวา หรือประมาณ 24,783.60 ตารางเมตร (6.124 acres) มีจำนวนยูนิตพักอาศัยทั้งหมด 2,073 ยูนิต มียูนิตร้านค้า 25 ยูนิต (มีคนซื้อและเช่าไปหมดแล้ว)

ตัวโครงการวางเรียงตัวไปตามแปลงที่ดินที่เป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวจากถนนรามคำแหงถึงถนนหัวหมาก ภาพ Master Plan ข้างล่างเห็นได้ว่ามีพื้นที่ด้านหน้าโครงการฝั่งถนนรามคำแหงนั้นมี Community Mall (ซ้ายสุดของรูป) และด้านหลังโครงการที่ติดกับถนนหัวหมาก (ขวาสุดของรูป) คือพื้นที่ Community Mall

โดยทิศเหนือติดกับ Community Mall ฝั่งถนนรามคำแหง

ทิศตะวันออกปัจจุบันมีเพียงตึกแถวสูง 2-3 ชั้น แต่อนาคตคาดว่าจะมีโครงการอาคารสูง High-rise ผุดขึ้นมาอีกเพราะห่างไปประมาณ 60 เมตรก็มีแปลงที่ดินเปล่าขนาดใหญ่ยาวเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวตั้งแต่ถนนรามคำแหงไปจนถึงถนนหัวหมากลักษณะคล้ายกับแปลงของ Supalai

ฝั่งทิศใต้จะติดกับ Community mall ฝั่งถนนหัวหมาก ไม่มีอาคารสูงบัง

 

และทิศสุดท้ายถือว่าเป็น Hilight คือทิศตะวันตกซึ่งแม้จะเป็นทิศแดดร้อน แต่ว่าวิวสวยมากกว่าเพราะชั้นสูง ๆ สามารถมองเห็นสนามราชมังคลากีฬาสถานได้เลย

สิ่งอำนวยความสะดวกมีมากมายภายใต้คอนเซปต์ Active Condominium โดยแบ่งพื้นที่ส่วนกลางออกเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่มีเหมือนกันทุกตึก อย่าง

 

ด้านหน้า Lobby มี Drop-off แยกแต่ละ Tower

Lobby แยกของแต่ละ Tower ที่มีโทนของการตกแต่งแตกต่างกันทั้ง 3 Lobby

โดยพื้นที่ชั้นบนสุดของแต่ละ Tower จะมีดังนี้

Tower A เป็น Panoramic Sky Bar (ตามรูปด้านล่าง)

Tower B เป็น Sky Lounge

Tower C เป็น Co – Living Space

และ พื้นที่สวนดาดฟ้าให้ใช้งานในทุกตึก

ให้คุณได้ชมวิวย่านรามคำแหงแบบ panorama

ส่วนพื้นที่ส่วนกลางอื่น ๆ ที่มีเพิ่มเติมในแต่ละอาคาร คือ

Game room ที่ชั้น G ของ Tower A มีอุปกรณ์เครื่องเล่นรองรับการใช้งาน

ทุกพื้นที่ส่วนกลางต้องใช้การสแกนเพื่อเข้าใช้งาน

Office ของนิติฯ โครงการ ที่ชั้น G ของ Tower A

และ Social Club ที่ชั้น G ของ Tower C

ส่วนพื้นที่ส่วนกลางหลัก อยู่ที่ชั้น 6 ของ Tower B ซึ่งที่ชั้น 6 ของทุก Tower มีทางเข้าออกเชื่อมมายังพื้นที่ส่วนกลางหลัก

พื้นที่ส่วนกลางโครงการออกแบบเต็มพื้นที่ของชั้น 6 โดยไล่จากโซนติด Tower A ไปถึง Tower C คือ

พื้นที่สระว่ายน้ำ ลึก 1.10 m. พร้อม Lap pool ที่เปิดเชื่อมวิวด้านสวนสุขภาพของการกีฬาแห่งประเทศไทย และเชื่อมไปถึงวิวอาคารสนามราชมังคลาฯ

พื้นที่สระว่ายน้ำ โอบล้อมด้วยพื้นที่สวน และทางเดินพื้นที่ส่วนกลาง

ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่ walkway และ Jogging track ที่เชื่อมไปถึงสระเด็กที่อีกฝั่งของอาคาร

ขนานพื้นที่ walkway และ Jogging track เป็น Fitness ที่มีอุปกรณ์การออกกำลังกายของ Reebok ให้ใช้งานครบครันทุกการออกกำลังกาย

มีบันไดเวียน เชื่อมพื้นที่ชั้นลอย ที่เป็นห้อง Aerobic & Yoga

ถัดไปเป็นสนาม Street Basketball แบบครึ่งสนาม ที่ออกแบบให้มีสีสัน เหมาะกับเด็ก ๆ หรือสายกีฬาที่ชอบเล่นเป็นกลุ่ม

ติดกันเป็นห้องน้ำแยกชายหญิง ภายในห้องน้ำแบ่งเป็นพื้นที่ Locker

ห้องน้ำ

ห้องอาบน้ำ

และห้องซาวน่า

ในโซนในร่ม ยังมีพื้นที่มุม play ground สำหรับสมาชิกตัวน้อย ที่มีเครื่องเล่น บนพื้นยางที่รองรับการเล่นสำหรับเด็ก ๆ

และปลายสุดของพื้นที่ส่วนกลาง ติด Tower C เป็นพื้นที่ Water Park ที่ออกแบบ ดีไซน์เหนือจินตนาการ

จำลองสวนน้ำแนวโจรสลัด ที่มีทั้งหัวเรือที่เป็นสไลเดอร์ ลงมาที่สระน้ำสำหรับเด็กที่ลึก 60 cm

และยังมีน้ำตกสร้างบรรยากาศ สีสันให้กับพื้นที่ พร้อมสะพาน และ ramp ทางเดินที่ให้เด็ก ๆ ได้วิ่งเล่นกัน

ในส่วนของความปลอดภัยนอกจาก มีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง กล้อง CCTV ระบบป้องกันอัคคีภัย Smoke & Heat Detector และ Fire Alarm แล้ว การเข้าสู่พื้นที่พักอาศัย ต้องใช้ระบบสแกนเฉพาะ Tower นั้น ๆ โดยรองรับ Key card, สแกนนิ้ว และสแกนหน้า ที่ทางเข้า Lift Lobby ที่มี Mail Box แยกเฉพาะแต่ละ Tower

ที่ชั้น 6 บริเวณทางเข้าออกพื้นที่ส่วนกลางที่อาคาร B (ผู้อาศัยใน Tower อื่น เข้ามาพื้นที่ส่วนกลางได้ แต่ไม่สามารถเข้าออกไปยังส่วนพักอาศัยที่ชั้น 6 ที่ไม่ใช่อาคารของตนเองได้)

ในส่วนของที่จอดรถ ห้องละ 1 คัน เป็นที่จอดรถแบบไม่ Fix ที่จอด ที่ชั้น 2-5 ที่เป็นโพเดียมของอาคารเชื่อมถึงกัน สามารถขึ้นได้จากทางขึ้นเฉพาะบริเวณทางเข้า ที่ Tower A และ Tower C แต่ทางลงที่จอดรถสามารถลงได้ทางเดียวที่บริเวณ Tower B ที่ลงมา สามารถเลือกเลี้ยว ซ้าย ขวา เพื่อออกไปถนนรามคำแหง หรือถนนหัวหมากได้โดยไม่ต้องเสียเวลาวนรอบอาคาร

ส่วนที่พักอาศัยเริ่มที่ชั้น 6 ของ Tower A และ C และเริ่มที่ชั้น 7 ของ Tower B ทุก Tower มี Lift Tower ละ 4 ตัว และ Service Lift 1 ตัว แปลนทุกชั้นในแต่ละTower มีตำแหน่งยูนิตเหมือนกันทุกชั้น

Floor plan Tower A ชั้น 7-32

Floor plan Tower B ชั้น 7-34

Floor plan Tower C ชั้น 7-26

ในส่วนของยูนิตพักอาศัย SUPALAI VERANDA RAMKHAMHAENG มีให้เลือกหลายแบบตั้งแต่ Studio, 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom ขนาดเริ่มตั้งแต่ 28 ตร.ม. เป็นอย่างต่ำ ซึ่งถือว่าเป็นขนาดห้องที่เล็กที่สุดของศุภาลัย และขนาดห้องที่ใหญ่ที่สุดของโครงการนี้คือ 67 ตร.ม. โดย Tower A และ B มียูนิตเหมือนกันคือ

 

Studio 28 ตร.ม. Veranda Suite A

Studio 30 ตร.ม. Veranda Suite B

 

Studio 30 ตร.ม. Veranda Suite C

1 Bedroom 35 ตร.ม. Superior Suite A

1 Bedroom 41 ตร.ม. Executive Suite A

1 Bedroom 42 ตร.ม. Executive Suite B

 

1 Bedroom Plus 43 ตร.ม. Deluxe Suite A

1 Bedroom Plus 44 ตร.ม. Deluxe Suite B

2 Bedroom 59 ตร.ม. Family Suite A

 

 

2 Bedroom 67 ตร.ม. Family Suite B

 

ส่วน Tower C จะมียูนิต ดังนี้

Studio 28 ตร.ม. Veranda Suite D

Studio 28 ตร.ม. Veranda Suite E

 

Studio 28 ตร.ม. Veranda Suite F

1 Bedroom 35 ตร.ม. Superior Suite B

1 Bedroom 41 ตร.ม. Executive Suite C

1 Bedroom 42 ตร.ม. Executive Suite D

1 Bedroom Plus 42 ตร.ม. Deluxe Suite D

1 Bedroom Plus 43 ตร.ม. Deluxe Suite D

2 Bedroom 59 ตร.ม. Family Suite C

2 Bedroom 66 ตร.ม. Family Suite D

โดย SUPALAI VERANDA RAMKHAMHAENG ใช้หลักการออกแบบภายในห้องพักอาศัยที่ให้ความสำคัญในการประหยัดพลังงาน โดยทุก Tower เป็น double corridor ที่ปลายสุดทางเดินทั้งสองฝั่งมีกระจกช่องแสงและหน้าต่างระบายอากาศ ระบายอากาศโถงทางเดินหน้าห้องพัก

 

โครงการก่อสร้างเสร็จแล้ว และมีห้องตัวอย่างในพื้นที่โครงการจริงที่ Tower A ชั้น 10 กับ 2 ห้องตัวอย่าง คือ Studio 30 ตร.ม. Veranda Suite C และ 1 Bedroom 35 ตร.ม. Superior Suite A

 

ห้องแรก Studio 30 ตร.ม. Veranda Suite C SS14 ห้องทิศตะวันตกซึ่งเป็นวิวด้านที่ทำการการกีฬาแห่งประเทศไทย และเห็นไปถึงสนามราชมังคลาฯ

เข้ามาจะพบกับพื้นที่ห้องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า

ที่ด้านขวาเป็นครัว โครงการปูกระเบื้องให้ในพื้นที่ส่วนของคร้ว

ชุดครัวเป็น Built-in ให้ชุดเคาท์เตอร์ครัว อ่างล้างจาน และผนังกระเบื้องกันกระเด็น ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าและฮูทดูดควันให้

แต่พื้นที่ใช้งานบนเคาท์เตอร์ สามารถวางเตาไฟฟ้า 2 หัวพร้อมฮูทดูดควันที่ด้านบน (โครงการไม่ได้ติดตั้งมาให้ แต่วางงานระบบไว้ให้)

และสามารถวางไมโครเวฟได้ที่ช่องชั้นด้านบน

ส่วนตู้เย็นสามารถวางตู้เย็นบานเปิดข้างเดียวได้ที่ปลายสุดเคาท์เตอร์

ส่วนพื้นที่ด้านซ้ายด้านหลังประตู มีพื้นที่เหลือพอให้วางตู้รองเท้า หรือ built-in เป็นชั้นเก็บของแบบเต็มผนังก็ได้

ติดกันเป็นห้องน้ำ ที่แบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งด้วย shower box บานเลื่อน และมีขอบกั้นกันน้ำไหล

พื้นที่ส่วนแห้ง โครงการฯ ให้อ่างล้างหน้าแบบลอยตัว พร้อมกระจกติดผนัง ไม่มีตู้เก็บของใต้อ่างล้างหน้า

ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ของ Cotto

ด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียก โครงการฯ ให้เครื่องทำน้ำอุ่นและ hand shower เข้าชุดของ Electrolux

และที่วางอุปกรณ์อาบน้ำของ Mogen

ถัดเข้าไปด้านในยูนิตเป็นพื้นที่พักผ่อน ที่ยูนิตจริงจะเป็นห้องโล่ง ติด wallpaper สีขาว พร้อมแอร์ Trane (Inverter) 1 ตัว

ด้านในมีพื้นที่มากพอให้วางชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลางสำหรับ 2 ที่นั่ง

ที่ผนังฝั่งตรงข้ามสามารถวางชั้นวางทีวีหรือชั้นวางของได้

ถัดจากที่วางโซฟา สามารถวางเตียง Queen Size พร้อมโต๊ะหัวเตียงทั้งสองด้าน หรือสามารถวางเตียง King size สำหรับคนที่ชอบนอนเตียงใหญ่ ๆ ได้ แต่พื้นที่รอบเตียงจะลดลง

และวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ที่บริเวณปลายเตียง

ติดหน้าต่างข้างเตียง มีพื้นที่เข้ามุมที่สามารถวาง day bed ริมหน้าต่าง หรือปรับเป็นมุมทำงาน ริมหน้าต่างก็ได้

ติดกันเป็นประตูบานเลื่อน ทางออกระเบียง โดยใช้กระจกเขียวตัดแสง เพื่อลดความร้อนจากภายนอกเข้าสู่อาคารส่งผลให้การทำงานของเครื่องปรับอากาศลดลง ประตูและหน้าต่างของห้องพักอาศัย มีการใช้วัสดุ UPVC เพื่อลดเสียงจากภายนอก เข้าสู่บริเวณห้องพักอาศัย และป้องกันอากาศภายในรั่วไหลออกสู่ภายนอก

ที่ระเบียงโครงการติดตั้งคอมแอร์แบบแขวนเพดาน ทำให้มีพื้นที่ด้านล่างเหลือพอให้วางเครื่องซักผ้าที่ด้านล่าง

มีการยื่นระเบียงออกนอกตัวตึกเล็กน้อย เพื่อลดความร้อนจากภายนอก และเป็นการถ่ายเทอากาศจากภายในสู่ภายนอก

และมีการใช้ครีบตกแต่ง เป็นตัวบังเงาให้กับผนังอาคาร ทำให้อาคารเย็นขึ้น

ห้องนี้น่าจะเหมาะกับคนทำงาน นักเรียน นักศึกษา หรือคนที่มีบ้านในละแวกนี้ แต่อยากมีห้องไว้รองรับสมาชิกในครอบครัว  1-2 คน ที่เน้นพื้นที่พักผ่อน และการใช้งานที่ครบทุกฟังก์ชั่นในการอยู่อาศัย

 

อีกห้องตัวอย่าง คือ 1 Bedroom 35 ตร.ม. Superior Suite A วิวฝั่งทิศตะวันออก ด้านอาคารอพาร์ทเมนท์ข้างโครงการฯฃ

เข้ามาในยูนิตจะพบกับ living area เชื่อมยาวต่อกับห้องนอน

และมีห้องน้ำ และครัวปิด ที่ด้านขวาเชื่อมต่อกับทางออกระเบียง

ที่ living area มีพื้นที่พอ ๆ กับห้องนอน โดยกว้างพอให้วางชุดโซฟา สำหรับ 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางที่ด้านซ้ายของทางเข้า

ที่ผนังฝั่งตรงข้าม ด้านหลังประตูสามารถวางชั้นวางรองเท้า เชื่อมต่อกับชั้นวางทีวีได้เต็มแนวความกว้างผนัง

ติดที่วางโซฟา สามารถวางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่งแบบเข้ามุมได้ หรือใครจะปรับเป็นโต๊ะที่สามารถใช้ได้ทั้งทำงาน ทานอาหารก็ยังได้

ถัดเข้าไปเป็นประตูบานสไลด์แบบ 3 ตอน กั้นระหว่าง living area และห้องนอน ที่สามารถเปิดโล่งเชื่อมการใช้งาน หรือปิดเป็นส่วนตัวก็ได้

ที่ห้องนอน สามารถวางเตียง Queen size พร้อมโต๊ะหัวเตียงทั้งสองข้าง

ที่ปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวี หรือติดทีวีติดผนังได้

ถัดไปสามารถตั้งตู้เสื้อผ้าได้ที่มุมห้อง

ด้านขวาของยูนิต เป็นทางเข้าครัวและห้องน้ำ ที่มีประตูบานเลื่อนปิดเพื่อเป็นสัดส่วนแยกการใช้งาน

ด้านขวา เป็นห้องน้ำ ที่ภายในแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งด้วย shower box บานเลื่อน และมีขอบกั้นกันน้ำไหล

พื้นที่ส่วนแห้ง โครงการฯ ให้อ่างล้างหน้าแบบลอยตัว พร้อมกระจกติดผนัง ไม่มีตู้เก็บของใต้อ่างล้างหน้า

ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ของ Cotto

ด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียก โครงการฯ ให้เครื่องทำน้ำอุ่นและ hand shower เข้าชุดของ Electrolux และที่วางอุปกรณ์อาบน้ำของ Mogen

ด้านหน้าห้องน้ำ มีพื้นที่ให้วางเครื่องซักผ้าได้

ถัดไปเป็นที่วางตู้เย็น และเชื่อมต่อด้วยชุดครัวเป็น Built-in ให้ชุดเคาท์เตอร์ครัว อ่างล้างจาน และผนังกระเบื้องกันกระเด็น ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าและฮูทดูดควันให้

แต่พื้นที่ใช้งานบนเคาท์เตอร์ สามารถวางเตาไฟฟ้า 2 หัวพร้อมฮูทดูดควันที่ด้านบน (โครงการวางงานระบบไว้ให้) โครงการปูกระเบื้องให้ในพื้นที่ส่วนของคร้ว

และสามารถวางไมโครเวฟได้ที่ช่องชั้นด้านบน

ติดกันเป็นประตูบานเลื่อน ทางออกระเบียง โดยใช้กระจกเขียวตัดแสง เพื่อลดความร้อนจากภายนอกเข้าสู่อาคารส่งผลให้การทำงานของเครื่องปรับอากาศลดลง ประตูและหน้าต่างของห้องพักอาศัย มีการใช้วัสดุ UPVC เพื่อลดเสียงจากภายนอก เข้าสู่บริเวณห้องพักอาศัย และป้องกันอากาศภายในรั่วไหลออกสู่ภายนอก

ที่ระเบียงโครงการติดตั้งคอมแอร์แบบแขวนเพดาน ทำให้มีพื้นที่ด้านล่างเหลือพอให้วางเครื่องซักผ้าที่ด้านล่าง

มีการยื่นระเบียงออกนอกตัวตึกเล็กน้อย เพื่อลดความร้อนจากภายนอก และเป็นการถ่ายเทอากาศจากภายในสู่ภายนอก

และมีการใช้ครีบตกแต่ง เป็นตัวบังเงาให้กับผนังอาคาร ทำให้อาคารเย็นขึ้น

เป็นห้อง 1 bedroom 35 Sq.m. ที่ออกแบบพื้นที่รองรับการใช้งานเป็นสัดส่วน ห้องนี้น่าจะเหมาะกับคนที่อยากซื้อห้องส่วนตัวไว้ให้ครอบครัวขยาย ที่มีบ้านอยู่ใกล้ ๆ หรือสำหรับอยู่กัน 1-2 คน แยกพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วนชัดเจน

 

หรือใครชอบห้องใหญ่ โครงการก็ยังมีห้อง 2 Bedroom เหลืออยู่บ้าง ซึ่งเป็นห้องสุดทางเดิน โครงการให้ wall paper สีขาว เครื่องปรับอากาศ 3 ตัว(ห้องนอน 2 และ living 1) ครัว built-in เครื่องทำน้ำอุ่น และฉากกั้นห้องน้ำ เช่นเดียวกับห้องตัวอย่าง ห้องจริงก็จะได้เป็นห้องเปล่าเช่นเดียวกับรูปด้านล่างนี้

SUPALAI VERANDA RAMKHAMHAENG เรียกว่าเป็นโครงการที่พร้อมรองรับทุกไลฟ์สไตล์ในการอยู่อาศัย ทั้งทำเลที่ตั้งที่ติดสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้ม เพียงแค่เดินออกไปหน้าโครงการฯ หรือใครใช้รถยนต์ ก็มีทางเลือกในการเดินทางเข้าออกทั้งถนนรามคำแหงและถนนหัวหมาก ที่สะดวกในการเดินทางทั้งเข้าและออกเมือง หรือใครที่ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลาง โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็ก ๆ น่าจะชื่นชอบกับพื้นที่สวนน้ำ และส่วนกลางที่มีกิจกรรมรองรับทุกวัยในครอบครัว อีกทั้งยังมี community mall ร้านค้า Tops Super Market ที่สามารถเดินถึงโดยไม่ต้องขับรถออกไปเจอรถติด รวมทั้งการคำนึงถึงการอยู่อาศัยที่ลดการใช้พลังงานภายในอาคารกับวัสดุที่เลือกใช้เพื่อผู้พักอาศัยอย่างแท้จริง

 

โครงการมีราคาขายเฉลี่ยประมาณ 79,000 บาทต่อตารางเมตร (Studio ราคา 2.25-2.87 ลบ,  1 Bed Room ราคา 2.86-3.45 ลบ, 1 Bed Room Plus ราคา 3.29-4.07 ลบ, และ 2 Bed Room ราคา 4.44-5.97 ลบ หมายเหตุ : ราคาแตกต่างกันตามแต่ละชั้น และแต่ละ Tower) สำหรับโปรโมชั่นในช่วงนี้ (พฤษภาคม 2565) คือ Your Free Choice ให้คุณมีสิทธิเลือกไม่บังคับส่วนลด + เฟอร์นิเจอร์ครบชุด (เฉพาะยูนิตที่บริษัทกำหนด) หรือ รับส่วนลดพิเศษ 130,000-330,000 บาท

 

ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ หรือนัดหมายเยี่ยมชมโครงการได้ที่นี่

https://bit.ly/3a69I1o



เกริก บุณยโยธิน

เกริก บุณยโยธิน

ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ

เว็บไซต์


PropScore™ 4.3

SCORE:
0.0
From : 0 รีวิว


ยังไม่มีการให้คะแนนและ Comment โครงการนี้


TAIT Sathorn 12 เปิดห้องตัวอย่างใหม่ 1 Bed Iconic Suite แต่งครบ สไตล์ Classical American โดย ‘CHANINTR’ แค่ยูนิตเดียวเท่านั้น!

โครงการ TAIT Sathorn 12 ตอนนี้เค้ามีห้องเหลือขายแค่ 14 ห้องเท่านั้นครับ โดยเป็นห้อง 1 Bed Iconic ขนาดประมาณ 68 ตรม. 4 ห้อง 2 นอนอีกประมาณ 6 ห้อง นอกนั้นจะเป็น 1 นอนขนาดเล็กครับ ซึ่งตอนนี้โครงการก็ไ... อ่านต่อ

25 April, 2024



ข้อเท็จจริง และความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ระหว่างอสังหาฯรูปแบบ Freehold และ Leasehold

ในปีนี้เราจะมีโอกาสได้เห็นโครงการ Leasehold ที่กำลังจะสร้างเสร็จพร้อมอยู่หลายที่ครับ แล... อ่านต่อ
17 April, 2024

คัดสรรให้! งบ 7 ลบ. ก็หาซื้อคอนโดหรูพร้อมอยู่ในย่านพร้อมพงษ์ – ทองหล่อ – เอกมัย ได้

หลังจาก ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมท... อ่านต่อ
12 April, 2024

เคาะแล้ว! แพคเกจกระตุ้นตลาดอสังหาฯ โดยกระทรวงการคลัง

สืบเนื่องมาจากข้อมูลของกระทรวงการคลังที่รายงานครม.ไปว่าในช่วงไตรมาสสี่ของปีที่ผ่านมา ภา... อ่านต่อ
10 April, 2024

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง