เจาะลึกแนวคิด Corporate Branding Campaign “คิด..เพื่อชีวิตคนเมือง” จากอนันดาฯ ผู้นำคอนติดรถไฟฟ้าที่อาสามาพัฒนาคุณภาพชีวิตคนเมืองให้ดียิ่งขึ้น
[Advertorial]
ถ้าพูดถึงบริษัทพัฒนาอสังหาฯที่มุ่งมั่นในการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เริ่มพัฒนาโครงการใหม่ๆ ในยุคที่ผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจถึงเหตุผลในการที่ต้องซื้อคอนโดใกล้รถไฟฟ้า ก็คงจะหนีไม่พ้นบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่ใครหลายๆคนติดภาพจำมาจากการพัฒนาคอนติดรถไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ไอดีโอ (Ideo) ที่สร้างกระแสความฮือฮาให้กับตลาด City Condo ในทุกเซกเมนท์มานับตั้งแต่ช่วงปี 2550 จนถึงปัจจุบันซึ่งในปัจจุบันอนันดาฯได้สร้างแบรนด์ที่อยู่อาศัยออกมามากมายเพื่อให้ตอบสนองและครอบคลุมทุกความต้องการที่แตกต่างกันไปของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย แต่ก็ยังคงไว้ซึ่ง DNA ของความใกล้สถานีรถไฟฟ้า ในรูปแบบและอัตลักษณ์ที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์อย่าง Ashton, Q, Ideo Q, Ideo Mobi, Ideo, Elio และ Unio เช่นเดียวกับแบรนด์ที่เป็นหัวหอกหลักสำหรับตลาดแนวราบอย่าง Artale, Arden, Ari, Atoll และ Unio Town
จากผลลัพธ์ของการรักษา Brand Positioning ที่ชัดเจนมากในเรื่องของทำเลยุทธศาสตร์ใกล้รถไฟฟ้า จึงทำให้คอนโดของ อนันดาฯได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้ในปี 2561 ที่ผ่านมา อนันดาฯขึ้นแท่นเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในเรื่องของยอดขายคอนโดที่มีระยะห่างจากรถไฟฟ้าไม่เกิน 300 เมตร โดยพิจารณาจากจำนวนยูนิตที่ขายได้ในช่วงปี 2559 – 2561
ภายใต้การนำทัพของ CEO หนุ่มรูปหล่อ ฉายาเจ้าชายแห่งวงการอสังหาฯ คุณโก้ ชานนท์ เรืองกฤตยา ผู้ซึ่งเข้ามาพลิกองค์กรที่เคยประสบปัญหาในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 (อนันดาฯก่อตั้งในปี 2542) ให้กลับมาเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดอสังหาฯเมืองไทย โดยมีอาวุธหลักที่ใช้ในการทำการตลาดในช่วงแรกคือคอนโดติดรถไฟฟ้า และตามมาด้วยกลยุทธ์ทางธุรกิจหลายรูปแบบ ที่ถูกวางแผนอย่างชาญฉลาดให้สอดรับไปกับสภาพการณ์ของตลาดในแต่ละช่วง ทั้งการร่วมทุน ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลก การออกนวัตกรรมทางการเงิน พัฒนานวัตกรรมในการออกแบบก่อสร้าง เข้าลงทุนในนวัตกรรม Urban Tech รวมถึงการรุกขยายธุรกิจที่มีรายได้ต่อเนื่องในระยะยาวอย่างธุรกิจเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ ล้วนแล้วแต่เสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของอนันดาฯอย่างเป็นรูปธรรมจับต้องได้ โดยได้มีบทพิสูจน์ที่ชัดเจนเมื่อช่วงต้นเดือนสค.ที่ผ่านมา จากผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2562 ที่ทำรายได้รวม 2,037 ล้านบาท เติบโต 12% จากไตรมาสแรก นอกจากนี้ยอดขายยังเพิ่มขึ้น 27% จากไตรมาสแรก โดยสามารถกวาดยอดขายกว่า 6,100 ล้านบาท และมียอดขายสะสมครึ่งปีแรกกว่า 11,000 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่อีก 7 โครงการ ในครึ่งปีหลังมูลค่ารวมกว่า 22,000 ล้านบาท เพื่อให้เป็นไปตามเป้าประสงค์ของตัวคุณโก้เองที่ตั้งใจว่าจะขยายโครงการให้เกาะตามแนวสถานีรถไฟฟ้าให้ได้มากที่สุด
….เหนือสิ่งอื่นใด ความสำเร็จของอนันดาฯทั้งหมด คงเกิดขึ้นมาไม่ได้หากอนันดาฯไม่ได้ริเริ่มในการพัฒนา Brand Strategic Platform ที่มีความโดดเด่น มีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้บริโภคเป้าหมายในแบบยั่งยืน จนเกิดเป็นการยอมรับและเชื่อมั่นของกลุ่มเป้าหมายที่มีต่อแบรนด์ ซึ่งก็เริ่มมาตั้งแต่ที่อนันดาฯได้ก้าวออกจากกรอบของแบรนด์ไอดีโอ จนเป็นที่รู้จักกันในหมู่คนทั่วไปว่าเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำของเมืองไทย ที่ตระหนักและเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นในเมืองหลวง มีความท้าทายที่มุ่งมั่นในการพัฒนาต่อยอดแบรนด์ไอเดียอย่าง Urban Living Solutions ซึ่งแนวทางการสร้าง Corporate Branding ดังกล่าว ทำให้อนันดาฯได้ Shift จากการสร้างสิ่งปลูกสร้างมีดีไซน์ที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า กลายมาเป็นการพัฒนา Product หรือพื้นที่ส่วนกลางทุกอย่างที่เกี่ยวกับการสร้างคุณภาพชีวิต ตลอดจนความเป็นอยู่ที่ดีกลับสู่ชีวิตคนเมือง โครงการที่มีส่วนกลางแปลกใหม่เอาใจสายรักสุขภาพอย่าง Ideo S93 หรือ Ideo O2 จึงเกิดขึ้นมา เช่นเดียวกับความตื่นตาตื่นใจในโครงการสไตล์รีสอร์ทสวนน้ำ แต่มีราคาที่ถูกกว่าคอนโดในย่านเดียวกัน อย่าง Elio Del Nest ในขณะที่โครงการที่เป็น Iconic Landmark ที่ช่วยเพิ่ม Value และทัศนียภาพที่ดีให้กับทำเลนั้นๆอย่าง Ashton Silom, Ashton Asoke, Ideo Q Siam Ratchathewi หรือ Ideo Mobi Sukhumvit 66 ก็ได้รับความนิยมในหมู่กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง
ซึ่งในความคิดเห็นผม แบรนด์องค์กรอย่างอนันดาฯ และแบรนด์สินค้าอย่างไอดีโอ ค่อนข้างประสบความสำเร็จในเชิงของ Awareness (รับรู้ว่ามี), Association (ความเชื่อมโยงกับสิ่งที่มีคุณค่า ในที่นี้คือรถไฟฟ้า), Preference (ชื่นชอบในสิ่งที่แบรนด์นำเสนอ) จนนำมาซึ่งการตัดสินใจซื้อของใครหลายๆคน (Decision)…แต่ความท้าทายขั้นต่อไปในปีนี้และปีต่อๆไปของอนันดาฯคงไม่ใช่แค่ยอดขาย เพราะทุกวันนี้ตลาดคอนโดใกล้รถไฟฟ้ากำลังถูกรุมสกรัมโดยผู้เล่นหลายรายทั้งจากไทยและต่างชาติ จนผู้ซื้อหลายๆคนก็ยังมองไปทิศทางเดียวกันว่าลำพังแค่หาทำเลดีๆ และใส่งานดีไซน์สวยๆลงไป ใครๆก็สามารถทำตามได้ เพราะฉะนั้นซื้อโครงการไหนจากดีเวลลอปเปอร์อะไรก็คงจะเหมือนๆกันไปหมด ผู้บริโภคฉลาดขึ้น มีอำนาจในการต่อรองมากขึ้น วิถีชีวิตที่หลากหลายเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งทางออกในเรื่องนี้ก็ต้องวกกลับมาที่การสร้างแบรนด์อีกครั้ง แต่เป็นการสร้างแบรนด์ในแบบ 4.0 ที่จำเป็นจะต้องมองเรื่องของแบรนด์ให้มากกว่ายอดขายจากการทำธุรกิจ ในทางกลับกันแบรนด์ที่ดีย่อมต้องเป็นแบรนด์ที่เข้าใจในวิถีชีวิตของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้งในทุก Stage of Life
ในยุคที่ New Technology เข้ามา Disrupt ทุกวิถีชีวิตของ Gen C อันเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของอนันดาฯ บริษัทจำเป็นที่จะต้องพัฒนาโครงการที่ตอบคำถามผู้ซื้อให้ได้ว่าการซื้อโครงการของอนันดาฯจะทำให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้นอย่างไร ตลอดจนช่วยเติมเต็มตัวตนของลูกค้าในแต่ละกลุ่มได้อย่างไร ซึ่งหากอนันดาฯทำได้กลุ่มลูกค้าเหล่านั้นก็พร้อมที่จะบอกต่อ และแบ่งปันประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีให้กับคนรอบข้างเช่นกัน ซึ่งในปีนี้การที่อนันดาฯชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ๆออกไป แม้กระทั่งโครงการ Flagship อย่าง Ideo Q พหล – สะพานควาย ก็ยังต้องถอยกลับไปตั้งหลักใหม่ เพื่อปรับรูปแบบโครงการให้ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ผมกลับมองว่านี่คือจุดเริ่มต้นที่ดีในการฟังเสียงส่วนใหญ่ของลูกค้าของตัวเองว่าต้องการโครงการรูปแบบไหนในระดับราคาเท่าไหร่ นอกจากนี้ยังเป็นช่วงเวลาที่ดีที่อนันดาฯจะได้ใช้โอกาสที่ว่างเว้นจากการเปิดโครงการใหม่ ไปพัฒนาในเรื่องของบริการหลังการขาย รับฟังปัญหาของลูกค้าปัจจุบันเพื่อนำมาปรับปรุงพัฒนากับโครงการใหม่ๆต่อไปในอนาคต
และเพื่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทฯได้รับรู้ว่าในปีนี้อนันดาฯกำลังทำอะไร เพื่อสร้างชีวิตที่ดีกว่าให้กับพวกเขาเหล่านั้นบ้าง จึงนำมาซึ่ง Corporate Branding Campaign ใหม่ ที่มาตอกย้ำจุดยืนของบริษัทฯเพื่อคนเมือง อย่างแคมเปญ “คิด…เพื่อชีวิตคนเมือง” นี่เองครับ
จากหนังโฆษณาดังกล่าวจะเห็นถึงความมุ่งมั่นของอนันดาฯที่จะพัฒนาโครงการอสังหาฯที่สามารถแก้ปัญหาให้กับคนเมืองได้ ผ่านการสร้างนวัตกรรม Urban Tech เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ที่แตกต่างกันไปในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย โดยที่ยังสามารถเติมเต็มความสมบูรณ์แบบในการใช้ชีวิตที่เป็นความต้องการขั้นสุดของกลุ่มลูกค้าระดับบนด้วยเช่นกัน
“ด้วยอุปสรรคและปัญหาที่เกิดขึ้นกับคนเมืองล้วนท้าทายให้ อนันดาฯ มุ่งสร้างสรรค์ไอเดียและพัฒนาสิ่งใหม่ๆ มาแก้ไขปัญหาอย่างไม่หยุดนิ่ง ซึ่งเชื่อว่าทุกคนคือโซลูชั่นที่จะสามารถสร้างเมืองที่ดีกว่า แค่ปรับมุมมองการใช้ชีวิตและเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้เป็นมิตรกับเมืองยิ่งขึ้น จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ก็จะกลายเป็นผนึกกำลังที่สร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเราได้ “คิด…เพื่อชีวิตคนเมือง” นับเป็นแบรนด์ดิ้งแคมเปญที่ ตอกย้ำแนวคิด Urban Living Solutions ให้เกิดขึ้น ซึ่งเป็นแนวความคิดที่ไม่เพียงมุ่งเน้นการแก้ปัญหาให้คนเมืองเท่านั้นแต่ยัง มุ่งเน้นการในเรื่องของการพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อปลดล็อกทุกขีดจำกัด และผลักดันศักยภาพของคนให้ไปถึงขีดสุด รวมพลังช่วยผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีกับเมือง เพราะเราเชื่อว่าทุกคนมีศักยภาพและพลังงานที่สร้างสรรค์ เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตอย่างเต็มที่” คุณพงศ์อนันต์ สุขเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้ฉายภาพให้เห็นถึงที่มาที่ไปของแคมเปญนี้ในวันแถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สค.ที่ผ่านมา
ในอดีตที่ผ่านมาเราอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจว่าความเป็น Urban Living Solutions ที่ทางอนันดาฯยึดถือมาตลอดนั้น เกิดขึ้นมาได้อย่างไร มีองค์ประกอบอะไรที่เป็นสาเหตุให้ฝ่าย Research & Development ของบริษัทฯต้องนำมาคิดต่อว่าจะพัฒนาผลิตภัณฑ์อะไรขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาของคนเมืองที่ต้องเชิญทุกวัน แต่แคมเปญนี้ได้ฉายภาพให้เห็นถึงกระบวนการในการทำงานภายในองค์กรแบบใหม่ในปีนี้ ที่เริ่มคิดหาทาง Solutions ของปัญหาต่างๆจากความเข้าใจ