XT Phayathai

  

เอ็กซ์ที พญาไท


โครงการ XT Phayathai (เอ็กซ์ที พญาไท) ตั้งอยู่บนถนนศรีอยุธยา บนพื้นที่ดินประมาณ 3 ไร่ ที่เป็นที่ดินของอาคารโครงการ Victory Height คอนโดเดิม ที่มีหลายต่อหลายคนสนใจ แต่ก็ไม่ได้มีการก่ออสร้างมานานกว่า 10 ปี สุดท้าย แสนสิริ ก็ได้ที่ดินผืนนี้มาครอบครอง กับศักยภาพทำเลที่เป็นรอยต่อสำคัญระหว่างพญาไท อนุสาวรีย์ และซอยรางน้ำ ที่มีรถไฟฟ้าสายปัจจุบัน ทั้งรถไฟฟ้าสถานีพญาไท รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์สถานีราชปรารภ รวมทั้งรถไฟฟ้าสายสีส้ม สายอนาคต ที่สถานีราชปรารภ

เกริก บุณยโยธิน เมื่อ 17 October, 2018 เวลา 23.49 pm

Prop score™: 4.3

คะแนนรีวิว: 0.0

0 รีวิว


ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา



    ข้อมูลโครงการ

ชื่อโครงการ

XT Phayathai

บริษัทผู้สร้าง

แสนสิริ จำกัด (มหาชน)

สถานที่

พญาไท

สถานีรถไฟ BTS

BTS พญาไท Distance 750 m.

สถานีรถไฟใต้ดิน

-

Airport Rail Link

ARL พญาไท Distance 800 m.,

สถานี BRT

-

พื้นที่

ประมาณ 3 ไร่

ชั้น

อาคาร A 41 ชั้น, อาคาร B 37 ชั้น

ยูนิต

1,435 ยูนิต

ที่จอดรถ

57% (รวมจอดซ้อนคัน)

ลิฟท์

อาคาร A 5 ตัว / อาคาร B 3 ตัว

สิ่งอำนวยความสดวก

Lobby แยกอาคาร, Garden Library, Meeting Room, Co Sharing Space, TREE TRUNK SANCTUARY, DRAPED GARDEN, FOREST CANOPY, ENERGETIC LAP POOL, FITNESS, Co-Kitchen, Super Living Room


    ประเภทยูนิต

ประเภท

คอนโด High Rise/CONDO/Lifestyle Condo

studio

-

1 bedroom

(S) 25.25 – 33.75 ตร.ม., (M) 40.50 – 49.75 ตร.ม.

2 bedroom

(S) 61.00 – 74.75 ตร.ม., (M) 82.25 – 101.00 ตร.ม.

3 bedroom

-

Duplex

-

Penthouse

-

ประเภทอื่นๆ

-

ความสูงจากพื้นถึงเพดาน

2.70 เมตร

ราคาเริ่มต้น / ตรม.

175,000 บาท/ตร.ม.

ราคาเริ่มต้น / ยูนิต

4.9 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง

40 บาท/ตร.ม./เดือน

Sinking Fund fee

500 บาท/ตร.ม.

สร้างเสร็จ

2022

เว็บไซต์

https://www.sansiri.com/condominium/xt-phayathai/th/

1685


เพื่อนบ้าน Street View


พบประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบใหม่ที่ถูกใจคนมิลเลนเนียล บนพื้นที่ส่วนกลางมากกว่า  6,000 ตร.ม ที่ XT Phayathai

 

“มีความคิดเป็นตัวเอง ชอบเป็นผู้นำมากกว่าผู้ตาม เป็นนักสำรวจ มีความรู้ในเรื่องไอที ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ ในโซเชียลมีเดีย ต้องการเป็นอิสระจากทุกข้อจำกัดเดิม ๆ ของชีวิตและมีความมั่นใจในการที่จะประกอบ อาชีพใหม่ๆอย่างที่ตัวเองชื่นชอบ เช่น เป็น สตาร์ทอัพ, บาริสตาร์, ดีไซน์เนอร์, เชฟ ,บล็อกเกอร์, หรือ Tech Geek” (ที่มา : https://www.sansiri.com/xt/th/story-2.html ) นี่คือข้อมูล การใช้ชีวิตของกลุ่มคนรุ่นใหม่ Generation Y คือ กลุ่มประชากรที่เกิดในช่วงระหว่างปี 1980 – 2000 หรือ “คน Millennials กลุ่มกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์หน้าใหม่และเป็นกลุ่ม ที่กำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศมากที่สุด

 

 

ส่งผลให้บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการที่มี Key Success ในการสร้างแบรนด์มากว่า 34 ปี ด้วยการให้ความสำคัญกับลูกค้า (Human Centric) โดยศึกษาอย่างเข้าใจว่ากลุ่มลูกค้าแต่ละ segment ต้องการ หรือไม่ต้องการอะไร จึงมุ่งเจาะตลาดคนกลุ่มนี้ และนำข้อมูลมาเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบ พัฒนาแบรนด์ใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่ม Millennials ที่มีการใช้ชีวิตแตกต่าง จึงเกิดการพัฒนาแบรนด์ XT คอนโดมิเนียม บนแนวคิด Extend Your Style คอนเซ็ปท์ใหม่ของการอยู่อาศัย ที่ลงลึกไปถึงอินไซด์ของ กลุ่มลูกค้าในอีก 2 เรื่องคือ Explore your space คือการมีห้องให้เลือกถึง 6 แบบตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน กับจุดเด่นอย่าง Personalised Room Layouts (เลือกรูปแบบห้องได้ตามสไตล์คุณ) คือ การสร้างอิสระในการเลือกรูปแบบห้องได้ ตามบุคลิก และไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ทั้งการปรับแต่งแผนผังของห้อง ตามความชอบ หรือการใช้ชีวิต บนขนาดห้องประเภทเดียวกัน เช่น เพิ่มพื้นที่ห้องนอนให้ใหญ่ขึ้น เพื่อวันพักผ่อน หรือ walk-in closet ขนาดใหญ่ เพราะชื่นชอบการแต่งตัว หรือเพิ่มพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ สำหรับคนชอบนั่งกินลมชมวิว ดูธรรมชาติ ปลูกต้นไม้ เป็นต้น และ Expand your lifestyle กับพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ทั้ง Virtual Exercise ออกกำลังกายผ่านเทคโนโลยี การถ่ายทอดสดคลาสออกกำลัง จากฟิตเนสชื่อดัง โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปยังฟิตเนส แถมยังสามารถเลือกได้หลากหลายช่วงเวลาความสะดวก และยังมี Smart Solution ทั้ง Home Automation, Smart Wash, ล็อกเกอร์อัจฉริยะ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกสบาย และให้คุณได้ Enjoy Life ได้มากขึ้น รวมทั้งยังสามารถขยายความชื่นชอบเรื่อง ไลฟ์สไตล์ต่างๆ ไปยังผู้คนที่มีความชอบเหมือนกัน ผ่านการเข้าใช้ Co–Sharing Spaces ที่มีการออกแบบ ให้แตกต่างกัน ในแต่ละทำเลของแบรนด์ XT แต่ลูกบ้าน XT สามารถเข้าใช้งานได้ทุกทำเล บนพื้นที่ XT Co-Sharing Facilities ที่ตอนนี้มี 3 โครงการ คือ XT เอกมัย กับ Co Work และ Play Space XT ห้วยขวาง กับ พื้นที่ Arts & Craft Studio, Photo Studio, Cooking Studio และพื้นที่สร้างสรรค์งานอาร์ต รวมทั้ง Creative Playground ณ XT PHAYATHAI (เอ็กซ์ที พญาไท) ที่วันนี้จะพาคุณไปชมโครงการฯกัน

โครงการ XT Phayathai (เอ็กซ์ที พญาไท) ตั้งอยู่บนถนนศรีอยุธยา บนพื้นที่ดินประมาณ 3 ไร่ ที่เป็นที่ดินของอาคารโครงการ Victory Height คอนโดเดิม  ที่มีหลายต่อหลายคนสนใจ แต่ก็ไม่ได้มีการก่ออสร้างมานานกว่า 10 ปี สุดท้าย แสนสิริ ก็ได้ที่ดินผืนนี้มาครอบครอง กับศักยภาพทำเลที่เป็นรอยต่อสำคัญระหว่างพญาไท อนุสาวรีย์ และซอยรางน้ำ ที่มีรถไฟฟ้าสายปัจจุบัน ทั้งรถไฟฟ้าสถานีพญาไท รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์สถานีราชปรารภ  รวมทั้งรถไฟฟ้าสายสีส้ม สายอนาคต ที่สถานีราชปรารภ

ซึ่งฝั่งที่คอนโด XT Phayathai ตั้งอยู่คือฝั่งเดียวกับ โรงแรมสุโกศล ทางเข้า King power ด้านถนนศรีอยุธยา และติดกับโรงเรียนศรีอยุธยา เป็นฝั่งที่ถือว่าอยู่ในทำเลที่ดีกว่า ถ้าเทียบกับถนนศรีอยุธยาฝั่ง โรงเรียนสันติราษฎร์ โรงเรียนอำนวยศิลป์ หรือทางที่ไปถนนพระรามที่ 6 – ดุสิต

เพราะโดยรอบ XT Phayathai ใกล้กับ Magnet สำคัญหลายแห่ง เช่น King Power Duty Free โรงพยาบาลพญาไท และอาคารวรรณสรณ์ รวมถึงอาคารสำนักงานชั้นนำหลายแห่งที่ตั้งเรียงรายอยู่ตลอดสองฝั่งถนน

รวมทั้งสะดวกสำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ เพราะ ใกล้แยกมักกะสันที่สามารถเลี้ยวสู่ประตูน้ำ เซนทรัลเวิล หรือเลี้ยวไปยังโซนอนุสาวรีย์ ถนนวิภาวดีได้โดยสะดวก หรือใช้ยูเทิร์นใต้สะพานข้ามแยก ไปยังดุสิต สยามสแควร์ จุฬาฯ ก็ถือว่าค่อนข้างสะดวกสำหรับคนใช้รถยนต์

นอกจากความสะดวกของทำเลและการเดินทางแล้ว  XT Phayathai ยังมากับจุดเด่นของพื้นที่ส่วนกลางที่มีขนาดใหญ่ กระจายอยู่ทั่วทั้งคอนโด กว่า 6,000 ตรม. ตั้งแต่สวนด้านหน้าทางเข้าโครงการ

ที่ล้อมรอบห้องสมุดและห้องประชุมบริเวณล้อบบี้ทั้ง 2 Tower เพื่อเพิ่มพลังในการทำงาน กับการออกแบบด้วยเส้นสายแนวตั้ง เชื่อมกับสวนภายนอกมอบทัศนียภาพอันงดงามให้กับผู้ใช้งาน

Garden Library ที่บริเวณด้านข้าง Lobby Tower  A

ห้องประชุมที่ล้อบบี้ Tower B

รวมถึง Co Sharing Facilities อย่าง XT Club ที่สามารถใช้ได้ในทุกโครงการ XT ซึ่งที่ XT Phayathai เป็น Co Sharing Facilities ที่ใหญ่ที่สุด และมีอุปกรณ์ให้เล่นและใช้งานมากกว่า XT Club โครงการอื่นๆที่เปิดตัวพร้อมกัน

โดยโครงการ XT Phayathai ประกอบด้วยอาคาร 2 อาคาร Tower A อยู่ติดถนนศรีอยุธยา สูง 41 ชั้น ส่วน Tower B สูง 37 ชั้น อยู่ด้านหลังของโครงการ รวมทั้งสอง Tower มีห้องพักอาศัยจำนวน 1,435 Units

 

ที่ชั้น 1 ระหว่างทั้งสอง Tower เป็นโถง lobby ที่ออกแบบให้เหมือนสวนเทอร์ราเรียม คือการเชื่อมภูมิทัศน์สวนภายนอกเข้ามาอยู่ภายในส่วนล็อบบี้

นอกจากนั้นยังมีประติมากรรมสีชมพูที่ดึงคอนเซปท์ Man-made Bird’s Nest Pavilion

ที่ชั้น 8 มีพื้นที่สวนผืนใหญ่ ที่เชื่อมถึงกันทั้ง 2 Tower ทำให้ห้องที่อยู่ติดพื้นที่สวน ได้มีวิวคอร์ทสวนในร่ม ที่สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา

เชื่อมมุมมองสู่โถงคอร์ทที่ทะลุเชื่อมใจกลางอาคาสู่ชั้น 10 – 15 ที่มีสะพานข้าม ที่ออกแบบด้วยเส้นสายและฟอร์มของกิ่งไม้ และมีพื้นที่สวนพักผ่อนแทรกในแต่ละชั้น ที่ประกอบไปด้วยลานเปิด เหมาะสำหรับให้ครอบครัวได้ออกมาพบปะพูดคุยกัน

จนถึงชั้น 16 ที่มีพื้นที่สวนกลางคอร์ทของสองอาคาร แต่เป็น out door garden ที่เชื่อมมุมมองกับพื้นที่พักอาศัย

ที่ชั้น 28 กับ lookout point ที่เปิดมุมมองใจกลางเมืองด้วยจุดชมวิว 180 องศา ที่มีแรงบันดาลใจจากหน้าผาอันสูงสง่า

ก่อนที่ตัว tower อาคารทั้งสองจะแยก tower ออกจากกัน

บนชั้น 37 ของอาคาร B มีพื้นที่ส่วนกลางเป็นสระว่ายน้ำความยาว 25 เมตร (Half Olympic) ที่มีหลังคาด้านบนที่ช่วยให้ร่มเงา กับพื้นที่กิจกรรม Water Exercise, Pool Lounge และ Deck อาบแดด เชื่อมต่อกับ ห้องฟิตเนสที่มีอุปกรณ์ครบครัน และทันสมัย ทั้งเครื่อง Weight Training ,Cardio, Reax Lights™ และการออกกำลังกายแบบ Realtime ไปกับคลาส Livestreaming Cycling

ฟิตเนสบนชั้น 37 ของ Tower B

ส่วนที่ Tower A มีสระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้น 41 สระที่อยู่ชั้นสูงสุดของโครงการ เหมาะสำหรับการพักผ่อนด้วย Water Massage, Skin Water สระเด็ก ที่สามารถเล่นน้ำได้ทั้งวันทั้งคืน และสร้างสีสันกับพื้นสระน้ำที่ประดับไปด้วยไฟ Fibre Optic

พร้อมพื้นที่ Co-kitchen ที่สามารถรังสรรอาหารแสดงฝีมือได้บนอุปกรณ์ครบครันสำหรับทำอาหาร ทั้งที่อบ เตา ตู้เย็นขนาดใหญ่ และ Long Table สำหรับจัดปาร์ตี้ รวมทั้งมีบริเวณ Outdoor Dining Lawn ที่ทุคนสามารถมานั่งรับประทานอาหารท่ามกลางธรรมชาตได้อีกด้วย

รวมทั้ง Super Living Room ที่ให้คุณได้ใช้เวลาไปกับกิจกรรมอันหลากหลายในห้องรับแขกส่วนกลางขนาดใหญ่ ที่มีทั้ง Pool Table Soccer Table

หรือห้องดูหนัง Secret Theatre ที่ซ่อนอยู่ด้านหลังของบาร์

พร้อม Sunken Seats ที่สามารถนั่งชิลในวันสบายๆได้

ซึ่งแต่ละโซน แต่ละฝั่งของห้องพักอาศัย ก็มีความแตกต่างกัน ถ้าคุณชื่นชอบวิวเมือง เห็นมุมที่สวยที่สุดของตึกใบหยก แนะนำให้ซื้อที่ Tower A ทิศใต้ วิวด้านหน้าโครงการ และ ด้านข้างโครงการด้านทิศตะวันออกบางส่วน

แต่ถ้าได้วิวฝั่งถนนพญาไท และถนนศรีอยุธยาด้านดุสิต และเป็นโล่งด้านสนามโรงเรียนศรีอยุธยา ต้อง Tower A และ B ด้านข้างทิศตะวันตก ที่ทิศนี้โครงการให้กระจกLOW-Eสะท้อนแสงและความร้อน แต่ถ้าใครชอบวิวคอร์ทสวนกลางโครงการ ที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ก็ต้องเลือก โซนทิศเหนือของ Tower A ทิศใต้ของ Tower B หรือเรียกง่ายๆว่าด้านที่ติดกับคอร์ทเชื่อม 2Tower ก็จะได้มุมมองของสวนที่แตกต่างกันในแต่ละชั้น โดยโซนล่างสุดจะได้พื้นที่สวนระหว่างอาคาร เหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่เปิดโล่งเยอะๆ และชอบวิวสวน ใช้ส่วนกลางบ่อยๆ

เหนือขึ้นไปหน่อยโซนกลางๆของอาคาร (ชั้นบนสวน) โถงห้องพักอาศัยจะได้ Single Loaded Corridor กับช่องเปิดกลางอาคารที่เชื่อมจากสวนขึ้นมาสู่ด้านหน้าห้องพักอาศัย

ส่วนชั้นบนๆ ที่ทั้งสองอาคารแยกจากกัน เหมาะกับคนที่ชอบความ Privacy เพราะค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว มีพื้นที่สวนขนาดเล็ก ได้วิว มุมมองเมืองโดยรอบ

ซึ่งนอกจากแต่ละโซน แต่ละชั้นมีความแตกต่างให้เลือกตามความต้องการแล้ว ยังมีขนาดห้องให้เลือกหลากหลาย โดยเฉพาะห้องที่มีขนาดใหญ่ 2 ห้องนอน ที่หาได้ยากสำหรับคอนโดสมัยใหม่ ในย่านใจกลางเมือง แถมราคาต่อตารางเมตรไม่สูงมากอีกด้วย

 

ชั้น 8 จะได้พื้นที่เป็นสวนส่วนกลาง Tree Trunk Sanctuary พร้อมสนามเด็กเล่น

ชั้น 11 จะมีส่วนของ Draped Garden คล้ายรังนกในป่าใหญ่ที่สามารถมานั่งเล่นได้

ชั้น 14 จะได้โถงทางเดินที่เป็น Single Loaded Corridor

ห้อง Type แรกเป็นห้อง 1 Bedroom ที่มีให้เลือกถึง 10 ขนาด คือ

ห้อง 1A และ 1A-M 25.25 Sq.m. ห้องไซส์เล็กสุดของโครงการ แบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วนเท่าๆกันคือ ครัว ห้องน้ำ ติดทางเข้า กลางห้องเป็นห้องนั่งเล่น ส่วนปลายสุดเป็นห้องนอน พร้อมประตูบานเลื่อน แต่ข้อดีคือเป็นห้องไซส์เล็ก ที่ได้อยู่ติดกับสวน ทำให้ทุกห้องเชื่อมมุมมองสู่สวนภายนอกเสมือนอยู่บ้านที่เห็นทิวไม้ภายนอก มีเฉพาะที่ชั้น 8 และ 16 ชั้นละ 2 ห้อง ที่ Tower A และ B

1B, 1B-M 33.75 Sq.m. ห้อง L Shape  มีพื้นที่ Foyer เล็กๆจากทางเข้าสู่ครัวที่ด้านหน้าติดประตูทางเข้า ตรงกลางห้องเป็นห้องนั่งเล่น เชื่อมต่อกับครัว ส่วนด้านในสุดเป็นห้องนอน มีชั้นละ 2 ห้อง ที่ชั้น 9,17-27และ 28-36 ที่ Tower A และ B

1C, 1C-M 31.75-32.50 Sq.m. ห้องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่เน้นพื้นที่ส่วนกลางอย่างครัว ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ได้ห้องนอนติดริมหน้าต่างบานใหญ่ เต็มความกว้างของห้องนอน มีที่ชั้น 9-10 และ 16-36 ชั้นละ 1 ห้อง เฉพาะที่ Tower B

1D, 1D-M 40.50 Sq.m. ห้องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ได้พื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ แยกส่วนจากระเบียงวางงานระบบ มีพื้นที่ living แยกครัวปิด และพื้นที่ห้องนอนขนาดเท่าๆกัน และเพิ่มพื้นที่ให้กว้างขึ้นด้วยประตูบานเลื่อนกั้นระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอน มีที่ชั้น 8-36 ชั้นละ 1 ห้อง ที่ Tower B

ซึ่ง 1 ห้องนอนยังมีลูกเล่นตามคอนเซปท์ Personalized Layout สำหรับห้อง Type 1E 1F และ 1J ที่แต่ละห้องสามารถเลือกแปลนห้องได้ตามความต้องการของแต่ละคน รวมทั้งสามารถเลือกชุดเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ตามตัวเลือกของแต่ละ Type ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้อีกด้วย

 

โดยห้อง 1E, 1E-M 43 Sq.m. ห้องทรงลึก ออกแบบให้พื้นที่ห้องน้ำห้องแต่งตัวและห้องนอนอยู่ติดประตูทางเข้า และนำห้องนั่งเล่น ครัว ไปไว้ที่ด้านในสุด ติดหน้าต่างเข้ามุม มีที่ชั้น 8-27 ชั้นละ 1 ห้อง ที่ Tower A

1F, 1F-M 41.50-42.25 Sq.m. ห้องทรงลึก Type ที่มีจำนวนเยอะที่สุด  มีกระจายอยู่ทุกชั้นทั้ง 2 Tower แบ่งพื้นที่โซน living ครัว ไว้ด้านหน้าติดประตูทางเข้า และห้องนอนไว้ที่ด้านใน โดยสามารถเลือกแปลนได้ทั้งระเบียงสำหรับใช้งาน แบบ Type 1F-1, 1F-1M หรือ เพิ่มพื้นที่ใช้งานในห้องนอน เป็นมุมนั่งทำงาน หรือวางเตียง day bed แบบ 1F-2 – 1F-4 ได้

1G,1G-M 46.25 Sq.m. ห้องทรงหน้ากว้าง เน้นห้อง living ขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับคนใช้งานพื้นที่นั่งเล่น นั่งทำงานจริงจัง และมีพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ติดห้องนอนที่ปลายสุดของห้อง มีที่ชั้น 8-27 ชั้นละ 1 ห้อง

1H, 1H-M 45.75-46 Sq.m. ห้องหน้ากว้าง เน้นห้อง living ขนาดใหญ่ ได้ครัวปิด และ มีพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ติดห้องนอนที่ปลายสุดของห้อง มีที่ชั้น 8-10, 16-40 ชั้นละ 1 ห้องที่ Tower A

1I, 1I-M 46.50 Sq.m. แปลนห้องคล้าย 1H, 1H-M เน้นห้อง living ขนาดใหญ่ ได้ครัวปิด และ มีพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ติดห้องนอนที่ปลายสุดของห้อง 28-40 ชั้นละ 1 ห้อง แต่ได้พื้นที่ครัวและห้องเพิ่มขึ้นจาก Type 1H, 1H-M เล็กน้อย มีเฉพาะที่ชั้น

1J, 1J-M 48.50-49.75 Sq.m. 1 ห้องนอน ไซส์ใหญ่สุดของโครงการ เป็นแปลน L Shape ได้พื้นที่ครัวปิด เน้นห้องนั่งเล่นติดระเบียงขนาดใหญ่ แยกห้องนอนเป็นสัดส่วน และได้ walk-in closet พร้อมประตูเปิดปิด ติดทางเข้าห้องน้ำ เป็นห้องหัวมุม มีชั้นละ 2 ห้องที่ชั้น 8-10,16-36 ที่ Tower A และ B

 

อีก Type คือ 2 Bedroom ที่มีถึง 6 ขนาด แต่บางขนาดเป็น limited unit ของโครงการ คือมีเพียงห้องเดียวเท่านั้นในโครงการ

 

2A-1, 2A-2 61.00 Sq.m. 2ห้องนอน 2ห้องน้ำ ไซส์เล็กสุดของโครงการ ได้ครัวปิดติดทางเข้าห้อง เชื่อมกับห้อง living ติดระเบียงขนาดใหญ่ ก่อนแจกสู่โถงทางเดินเข้าสู่ห้องนอนติดกระจกเข้ามุมทั้งสองห้อง ที่ห้องนอนใหญ่อยู่สุดโถงทางเดิน มีห้องน้ำในตัว พร้อมอ่างอาบน้ำ มีที่ชั้น 8-27 ชั้นละ 1 ห้อง ที่ Tower A

2B,2B-M 74.75 Sq.m. 2ห้องนอน 2ห้องน้ำ ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ได้พื้นที่ครัวและ living area ขนาดใหญ่ ติดระเบียง ด้านในสุดของห้องเป็นห้องนอนใหญ่กระจกเข้ามุม พร้อมห้อง walk-in closet ขนาดใหญ่ เชื่อมทางเข้าห้องน้ำ ที่ด้านในให้อ่างอาบน้ำ

2C,2C-M 82.50 Sq.m. 2ห้องนอน2ห้องน้ำ+1ห้อง multi purpose  ทรงลึก แบ่งพื้นที่เป็น2ส่วน ซ้ายขวา คือห้องครัว ห้องนั่งเล่น เชื่อมยาวสู่ระเบียง ส่วนอีกด้านเป็นตำแหน่งของห้องนอนทั้ง 2 ห้อง และ ห้อง multi purpose

2D-1,2D-1M 85.25 Sq.m. ห้องนี้เน้นห้อง พื้นที่ครัว living area ขนาดใหญ่ ติดระเบียง ส่วนห้องนอนทั้งสองอยู่ด้านใน ได้ห้องนอนใหญ่กระจกเข้ามุม พร้อม walk-in closet ขนาดใหญ่

2D-2,2D-2M 85.50 Sq.m. ห้องนี้เน้นห้องนอนและห้องนั่งเล่นที่แบ่งสัดส่วนเกือบเท่ากัน คือจัดวางห้องนั่งเล่น ครัว และระเบียง ไว้ติดทางเข้าห้อง ส่วนอีกด้านเป็นห้องนอนเล็ก และห้องนอนใหญ่ที่ใหญ่มาก มาพร้อมกระจกเข้ามุมและมุม walk-in closet พร้อมห้องน้ำในตัว มีที่ชั้น 37-40 ชั้นละ 1 ห้องที่ Tower A

2E, 2E-M 100.75-101 Sq.m. ห้อง 2 ห้องนอนขนาดใหญ่ที่โดดเด่นด้วย ระเบียง multi purpose ขนาดใหญ่มาก เชื่อมกับห้องนั่งเล่นที่ได้ครัวปิด และห้องเล็กกระจกเข้ามุม ส่วนห้องนอนใหญ่มี walk-in closet และ ห้องน้ำในตัว มีชั้นละ 1 ห้องที่ชั้น8-9,12-13,16-17,20-21,24-25

ห้องสุดท้าย 2F, 2F-M 100.75-101 Sq.m. แปลนห้องเหมือน 2E, 2E-M แต่ขยับระเบียงไปเป็นห้อง multi purpose เชื่อมกับห้อง living area ติดระเบียงยาว และมาพร้อมครัวปิด และพื้นที่ห้องนอนทั้งสองห้องเหมือน 2E, 2E-M มีที่ชั้น 10-11,14-15,18-19,22-23,26-27

เรียกว่ามีห้องเยอะมากจริงๆ และอยากแนะนำให้ลองไปชมแปลนที่ Sale Gallery เพราะมี option ของรูปแบบห้อง และเฟอร์นิเจอร์ให้เลือกชม และสลับดูไปมาได้หลากหลาย และหากใครที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองมีไลฟ์สไตล์ที่เหมาะกับห้องแบบไหนก็สามารถมาทำ Personality Test เบื้องต้นได้ที่เครื่องนี้

ที่ Sale Gallery ของ XT Phayathai มีร้าน Casa Lapin มาบริการเครื่องดื่ม ให้ลูกค้า

รวมทั้งยังมีห้อง VR room ให้ได้ชมตัวอย่างห้องแบบสมจริง ผ่านแว่น VR  เสมือนเราได้เดินชมห้องจริงๆในทุกๆพื้นที่ของห้องไม่ว่าจะเดินหรือมองไปทางไหน

ห้อง walk through room กับบรรยากาศจำลองภายในและภายนอกคอนโด

รวมทั้งมีห้องตัวอย่างที่โครงการตกแต่ง เป็น Type 1F-M 41.50-42.25 Sq.m. ซึ่งห้องตัวอย่างมีขนาด 41.50 Sq.m. XT Phayathai ขายแบบ fully furnished รวม เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวตามแบบที่คอนโดให้เลือก

ห้องตัวอย่างเปิดมาด้วยประตูบานสูงพร้อม digital door lock แบรนด์ igloohome ภายในห้องสูงกว่า 2.7 m. พื้นห้องปูด้วยลามิเนตลายไม้สีน้ำตาลอ่อน

พื้นที่โซนแรกติดประตู เป็นครัวปิด กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนระหว่างครัวและห้อง living area

ที่ครัว โครงการ built-in ไว้ที่ผนังด้านขวาของทางเข้า  โดยเว้นพื้นที่ติดทางเข้าเป็นที่วางตู้เย็น

ที่ชุดครัว built-in โครงการให้อ่างล้างจานฝังเคาท์เตอร์ของ MEX

และเตาไฟฟ้า 2 หัวของ MEX

ด้านบนเป็นที่ดูดควันพร้อมชั้นวางของ เก็บอุปกรณ์ทำครัว

ส่วนด้านล่างเคาท์เตอร์เจาะช่องสำหรับวางไมโครเวฟ

และตู้ลิ้นชัก สำหรับวางจานชามและเครื่องครัว

ตรงข้ามเคาท์เตอร์ครัว ติดประตูทางเข้าเป็น built-in ชั้นวางรองเท้า

ถัดมาเป็นทางเข้าห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำ โครงการฯแบ่งส่วนแห้งไว้ติดประตูทางเข้า

โครงการให้อ่างหน้าล้างแบบลอยตัว พร้อมช่องเก็บของที่ด้านล่าง

ถัดไปที่มุมด้านในเป็นที่วางโถสุขภัณฑ์ ของ KOHLER

พร้อมกระจกบานยาว เต็มความกว้างผนัง ที่สามารถเปิดเก็บอุปกรณ์อาบน้ำได้

พื้นที่ส่วนเปียกวางไว้ที่ด้านซ้าย กั้นด้วย shower glass

โครงการให้ Hand shower ของ Englefield

ถัดจากครัว ที่กั้นด้วยกระจกบานเลื่อน เป็นพื้นที่ living area ที่เปิดมุมมองเชื่อมสู่ห้องนอนด้านในติดระเบียง

ที่ห้องนั่งเล่น  มีพื้นที่มุมผนัง ที่สามารถจัดเป็นสัดส่วน

กว้างพอให้วางโต๊ะทำงานติดมุมผนัง หรือเป็นมุมสำหรับทานอาหาร

และมีพื้นที่มากพอให้วางชุดโซฟา สำหรับ 2-3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง

ที่สามารถปรับเปลี่ยนมุมการใช้งานตามความต้องการได้

ส่วนผนังฝั่งตรงข้ามเหมาะสำหรับตั้งชั้นวางทีวีทั้งแบบตั้งพื้นและแบบติดผนัง ได้เต็มความกว้างผนัง

ถัดจากห้อง living area เป็นส่วนของห้องนอนที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน แบบเต็มเฟรม สามารถเปิดเชื่อมเพิ่มพื้นที่การใช้งานให้กว้างขึ้นได้

รวมทั้งยังเปิดรับแสงจากภายนอก ผ่านห้องนอน ห้องนั่งเล่น จนถึงพื้นที่ครัวได้อีกด้วย

ที่ห้องนอนสามารถวางเตียง King size พร้อมโต๊ะหัวเตียงทั้งสองด้าน

ส่วนที่ผนังด้านปลายเตียง เป็นที่ตั้งตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง ที่ built-in และจัดวางได้เต็มแนวผนัง (เฟอร์นิเจอร์ที่โครงการให้ต้องตรวจสอบรูปแบบตามข้อเสนอของโครงการ ณ Sale Gallery)

ติดเตียงนอน เป็นประตูเลื่อนออกสู่ระเบียงด้านนอก

ที่สามารถใช้งานได้ค่อนข้างเต็มศักยภาพ

ไม่ว่าจะจัดเป็นมุมวางต้นไม้ หรือไว้นั่งพักผ่อนริมระเบียง

เพราะโครงการกั้นส่วนพื้นที่วาง air compressor และเครื่องซักผ้า ไว้เป็นสัดส่วน

ห้องนี้น่าจะเหมาะกับนักเรียน นิสิต นักศึกษา รวมทั้งคนทำงานที่ต้องการพื้นที่ไม่ใหญ่มาก แต่มีพื้นที่ครบทุกการใช้งาน รวมทั้งสามารถปรับเปลี่ยน ใช้งานได้ตามความต้องการ

ในช่วงปี 2018 นี้ถ้าถามว่ามีคอนโดแบรนด์อะไรที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับตลาดด้วยการขยับไปรุกตลาดเซกเมนท์ใหม่ “Lifestyle Condominium” ที่จับกลุ่ม Millennials กลุ่มคนที่พร้อมจะเป็นกำลังซื้อหน้าใหม่ที่มีอิทธิพลอย่างสูงในตลาดคอนโดต่อจากนี้ ก็คงจะต้องบอกว่าเป็นแบรนด์ XT จากแสนสิริ คอนโดที่คิดคอนเซปท์ และออกแบบทุกฟังก์ชั่นมาเพื่อเอาใจกลุ่มคนที่เติบโตท่ามกลางกระแสของ Digital & Sharing Economy ที่ถาโถมจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวันที่ขาดไม่ได้ ด้วยความที่คนกลุ่ม Millennials มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ Based on Sharing Economy เบื่อง่าย หน่ายเร็ว ไม่ยึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเวลานาน แต่จะให้ความสนใจเป็นพิเศษกับอะไรก็ตามที่มอบ Total Enriched Lifestyle Experience ในแบบฉบับที่ตัวเองต้องการได้มากที่สุด แตกต่างกับกลุ่มคนที่เป็น Gen X ขึ้นไปที่มักจะใช้ความคิดวิเคราะห์ในเชิง Logic ว่าการที่คอนโดจะแพงหรือไม่แพงนั้นต้องขึ้นอยู่กับทำเลที่ติดรถไฟฟ้า มีวัสดุแบรนด์เนมราคาแพง และความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัย

 

ต้องขอชื่นชมในทีมพัฒนาของแสนสิริที่มีความกล้าที่จะฉีกกรอบความคิดเดิมๆของตลาด การเบนเข็มไปมองหากลุ่ม Potential Target ใหม่ๆโดยที่ไม่ยึดติดกับภาพจำแบบเดิมๆก็ว่ายากแล้ว แต่ XT ยังได้นำเสนอ Meaningful Experiences ใหม่ๆที่มี Valued กับคนกลุ่ม Millennials มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นคอนเซปท์ Co-Sharing Facilities ที่ผู้ซื้อคอนโดแบรนด์ XT ทุกๆโครงการสามารถข้ามไปใช้พื้นที่ส่วนกลาง (บางส่วน) ข้ามโครงการกันได้ เอาใจคนขี้เบื่อ อยากหาประสบการณ์ใหม่ เพื่อนใหม่ๆได้เรื่อยๆ เป็นการสร้าง Customer Lifetime Value ได้อย่างต่อเนื่อง คู่ขนานไปกับแบรนด์ XT ใหม่ๆที่จะออกมา หรือจะเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกาย ที่มีความแตกต่างจากฟิตเนสแห่งอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะ Virtual Gym  เสริมด้วยเครื่องออกกำลังกายแนวใหม่ เช่น Reax Lights™ และที่ขาดไม่ได้ก็คือการให้ option กับผู้ซื้อในการที่จะเลือกเลย์เอ้าท์ของเฟอร์ฯภายในห้องให้ตอบโจทย์ตามวิถีชีวิตในแต่ละวันของตัวเอง โดยที่ XT Phayathai จะมี Option ให้เลือกทั้งหมด 3 แบบสำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอน คือ THE SNOOZY HEAD, THE PARTY GOER และ THE FASHIONISTA

 

การนำเสนอจุดขายที่คิดมาแล้วว่าตรงใจกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ขายพร้อมกันบนสามทำเลที่แตกต่างกัน จึงทำให้ตลอดช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา คอนโดแบรนด์ XT ทั้งสามแห่ง กลายเป็นที่หมายปองของกลุ่มผู้ซื้อทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ในชนิดที่คนซื้อไม่ได้มีการเปรีบเทียบกับโครงการภายใต้แบรนด์อื่นๆที่ขายในช่วงเวลาเดียวกันเลย แต่กลับเปรียบเทียบสอบถามกันนักต่อนักว่าถ้าจะซื้อ XT ควรจะซื้อโครงการ XT ไหนดีกว่า พญาไท เอกมัย หรือห้วยขวาง เพราะในเมื่อคอนเซปท์ตอบโจทย์แบบเดียวกัน และยังสามารถ Cross ไปใช้พื้นที่ส่วนกลางที่อื่นๆได้ด้วย และราคาก็ไม่ได้แตกต่างกันมาจนมีนัยสำคัญ แบบนี้ก็เข้าทำนองว่าซื้อที่ไหนก็คงถูกใจเหมือนกันหมด…แต่สำหรับผมแล้วโครงการ XT Phayathai กลับเป็นโครงการที่มีความแตกต่างมากกว่าอีกสองโครงการอย่างเห็นได้ชัดครับ

 

ในขณะที่ห้วยขวาง และเอกมัย นั้นขายความเป็นย่านไลฟ์สไตล์ในช่วงกลางคืน ที่มีสีสันอันไม่หยุดนิ่ง เนื่องจากภายในรัศมี 1 กิโลเมตรโดยรอบโครงการทั้งสอง ล้วนอัดแน่นไปด้วย Entertainment, Shopping และ Dinning Attractions จนเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คนไทยและคนต่างชาติ แต่สำหรับ XT Phayathai แล้ว ไลฟ์สไตล์ของย่านนี้ดูจะมีความเป็นทางการ และเป็นลูกผสมระหว่าง Business, Education และ Travel มากกว่า ด้วยจุดเด่นของทำเลที่มีพื้นฐานในด้านการคมนาคมดีเยี่ยม ใกล้ทางด่วน ใกล้ BTS ใกล้ ARL ใกล้เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีส้มในอนาคต

นอกจากนี้พื้นที่ฐานทำเลพญาไทก็สั่งสมความเป็น Education & Business Area ด้วยอาคารสำนักงาน โรงพยาบาล และสถาบันกวดวิชาหลายแห่งที่เรียงรายอยู่บริเวณสี่แยกพญาไท ไปจนถึงช่วงถนนศรีอยุธยา และยังมีสารพัดโครงการ Mixed Use ในอนาคตที่พร้อมผุดขึ้นมาเพื่อช่วยตอกย้ำว่าย่านนี้มีศักยภาพในการเป็นย่านธุรกิจชั้นนำที่ไม่แพ้ย่าน CBD แห่งใด แต่เหนือสิ่งอื่นใดปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระพือให้ย่านพญาไทกลายเป็นที่รู้จักกันในสายตาของกลุ่มคนทั่วโลก โดยเฉพาะชาวจีน ก็น่าจะเป็น King Power Duty Free Rangnam Complex ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก XT Phayathai นี่เอง

นับตั้งแต่การปรับเปลี่ยน Positioning ของห้างจากแค่ Duty Free Shop กลางเมืองธรรมดา ไม่มีอะไรให้น่าเดิน นอกจากสินค้าปลอดภาษี จึงทำให้ในอดีตที่ผ่านมา Traffic ของห้างส่วนใหญ่นั้นมีไม่มาก โดยคนไทยที่มาก็จะแวะมาเพื่อซื้อของก่อนบิน ส่วนคนต่างชาติที่แวะมาก็มักจะเป็นกรุ๊ปทัวร์ หรือคนที่พักในโรงแรม Pullman ซะเป็นส่วนใหญ่ แต่เมือช่วงต้นปี 2018 ที่ผ่านมา ด้วยงบการลงทุนกว่า 2,500 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 22,000 ตารางเมตร ห้าง Duty Free แห่งนี้ก็ได้กลายเป็น Landmark Complex แห่งใหม่ ที่มีกิจกรรมและร้านอาหารชั้นนำมากมาย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวรายย่อยทั้งไทยและต่างประเทศให้มุ่งตรงสู่ห้าง จนทำให้สองฝั่งทางของถนนรางน้ำ เต็มไปด้วยผับบาร์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และโฮสเทล เก๋ๆมากมาย เพื่อรองรับความต้องการในการพักอาศัยของชาวต่างชาติในย่านนี้ จนทำให้คอนโดใดๆก็ตามที่อยู่ในรัศมีของซอยรางน้ำ ทั้งบนถนนพญาไท และถนนศรีอยุธยา ล้วนแล้วแต่เป็นน่าสนใจของชาวต่างชาติในยุคปัจจุบันในการเข้าพักอาศัย

และหากลงลึกในเชิงรายละเอียดโครงการก็จะพบว่า XT Phayathai กุมความได้เปรียบในส่วนของ ขนาดพื้นที่ส่วนกลางที่มีความใหญ่โตจุใจกว่า 6,000 ตารางเมตร ใหญ่ที่สุดในบรรดา XT ทั้ง 3 โครงการ มีสระถึง 2 สระ, ล้อบบี้ 2 ล้อบบี้, สวนลอยฟ้า Interactive Fitness, Draped Garden, Co-Kitchen, Super Living Room โดยเฉพาะ Co- Sharing Facilities ที่มาเป็น XT Club ขนาดใหญ่ ภายใต้คอนเซปท์ CREATIVE PLAYGROUND ชั้นล่างแบ่งพื้นที่เป็น CO-WORKING SPACE โซนกิจกรรมทั้ง VR GAME, Wii GAME และ BOARDGAME รวมไปถึงการปรับพื้นที่เพื่อจัดอีเว้นท์เล็กๆ ส่วนชั้นบนออกแบบไว้สำหรับนั่งทำงานคนเดียว เป็นคู่ และมีห้องประชุมสำหรับงานกลุ่ม พร้อมโซนเก้าอี้นวด ในขณะที่ XT Ekkamai จะเป็น CO-WORK / PLAY SPACE และ XT Huaikwang จะเน้นกิจกรรมกลุ่มย่อยอย่าง ARTS & CRAFTS STUDIO, PHOTO STUDIO และ COOKING STUDIO

และสำหรับคนที่มองหาห้องที่มีขนาดพื้นที่ที่ค่อนข้างใหญ่กว่าโครงการคอนโดเปิดใหม่อื่นๆ ที่ XT Phayathai ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เนื่องจาก 1 ห้องนอนโหมดหลัก ก็มีขนาด 40 – 49.75 ตรม. เทียบเท่ากับพื้นที่ขนาด 2 ห้องนอนของโครงการอื่น และใครที่อยากได้ 2 ห้องนอนแบบที่อยู่กันได้จริงเป็นครอบครัวใหญ่ ที่ XT Phayathai ก็มีห้องที่มีขนาดใหญ่สุดถึง 101 ตรม.มาให้เลือก ซึ่งถึงแม้จะเป็นขนาดห้องที่ใหญ่แต่เป็นการขายแบบ Fully Furnished และก็ไม่ได้มีราคารวมที่แพงมากแต่อย่างใด ก็น่าจะทำให้คนที่อยากได้คอนโดแบรนด์เนมกลางเมืองที่มอบความสะดวกให้กับทุกคนในครอบครัวได้อย่างทั่วหน้า สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ง่าย เพราะอีกหลายปีกว่าจะสร้างเสร็จ พอสร้างเสร็จแล้วก็ร่วมด้วยช่วยกันผ่อนก็ยังไหว

สำหรับช่วงราคาขายเฉลี่ยที่มีตั้งแต่ตารางเมตรละแสนต้นๆไปจนถึงเกือบสองแสนสำหรับชั้นบนสุด พูดตามตรงว่าไม่แพงเลย ออกจะเป็นราคาที่ต่ำกว่าตลาดของคอนโดเปิดใหม่ในย่านราชเทวี – พญาไท – รางน้ำด้วยซ้ำ ยิ่งใครที่สามารถทันซื้อห้อง 1 นอนขนาด 25.25 ตรม. ที่มีอยู่เพียงแค่ไม่กี่ห้องได้ ก็นับว่าน่าอิจฉามากในสายตาของใครหลายๆคน โดยหากมองไปที่ Supply ในอนาคตที่จะมีคอนโดสร้างใหม่ในบริเวณแยกพญาไท และซอยรางน้ำ แม้กระทั่งบนถนนศรีอยุธยาด้วยกันเอง ก็จะพบว่าราคาขายแต่ละแห่งนั้นล้วนแต่แตะระดับราคาตารางเมตรละสองแสนบาททั้งสิ้น นี่คือเหตุผลที่ทำให้ XT Phayathai นั้นมีความแตกต่าง น่าลงทุนมากกว่าโครงการ XT ทำเลอื่นๆในสายตาผม…ลองแวะเข้ามาชมโครงการ และซึมซับ XT Experiences ภายใน Sale Gallery ดู แล้วให้คำตอบกับตัวคุณเองครับ ว่า XT Phayathai แห่งนี้ ใช่ตัวคุณหรือไม่

ผมขอปิดท้ายบทความรีวิวนี้ด้วย เหตุผลจริงในการตัดสินใจซื้อโครงการ XT Phayathai ของคุณฮัทคอนโดแมนครับ ว่าทำไมคน Generation X อย่างเค้าก็ยังชอบที่จะใช้ชีวิตในแบบ XT

 

“ผมอยากได้ XT ตั้งแต่แสนสิริเปิด concept การแชร์ facility ระหว่างกันในหลายๆคอนโด  XT ได้ โดยตัดสินใจเลือกซื้อ XT Phayathai เพราะชอบในทำเลมากที่สุดใน 3 ตัว อยู่ใกล้สถานี Interchange ระหว่าง BTS กับ ARL สำหรับคนเดินทางบ่อยแบบผมมันสะดวกมากๆ ชอบมากกว่าเพชรบุรีมักกะสัน Interchange ซะอีก หน้าตาตึกโดดเด่น กระจกเยอะ ห้องที่ซื้อราคาดีมากๆ  ที่นี่อยู่กึ่งกลางระหว่างประตูน้ำกับพญาไทแถมเชื่อมต่อกับรางน้ำ ด้วย King power โฉมใหม่ ร้านอาหารอร่อยเพียบ และการที่แสนสิริจัดเฟอร์ฯมาให้มันคุ้มสุดๆ นี่เฝ้านับวันรอตึก XT เอกมัยที่จะสร้างเสร็จก่อนหลายปี แล้วไปใช้ facility เค้าเลยครับ



เกริก บุณยโยธิน

เกริก บุณยโยธิน

ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ

เว็บไซต์


PropScore™ 4.3

SCORE:
0.0
From : 0 รีวิว


ยังไม่มีการให้คะแนนและ Comment โครงการนี้


TAIT Sathorn 12 เปิดห้องตัวอย่างใหม่ 1 Bed Iconic Suite แต่งครบ สไตล์ Classical American โดย ‘CHANINTR’ แค่ยูนิตเดียวเท่านั้น!

โครงการ TAIT Sathorn 12 ตอนนี้เค้ามีห้องเหลือขายแค่ 14 ห้องเท่านั้นครับ โดยเป็นห้อง 1 Bed Iconic ขนาดประมาณ 68 ตรม. 4 ห้อง 2 นอนอีกประมาณ 6 ห้อง นอกนั้นจะเป็น 1 นอนขนาดเล็กครับ ซึ่งตอนนี้โครงการก็ไ... อ่านต่อ

25 April, 2024



ข้อเท็จจริง และความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ระหว่างอสังหาฯรูปแบบ Freehold และ Leasehold

ในปีนี้เราจะมีโอกาสได้เห็นโครงการ Leasehold ที่กำลังจะสร้างเสร็จพร้อมอยู่หลายที่ครับ แล... อ่านต่อ
17 April, 2024

คัดสรรให้! งบ 7 ลบ. ก็หาซื้อคอนโดหรูพร้อมอยู่ในย่านพร้อมพงษ์ – ทองหล่อ – เอกมัย ได้

หลังจาก ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมท... อ่านต่อ
12 April, 2024

เคาะแล้ว! แพคเกจกระตุ้นตลาดอสังหาฯ โดยกระทรวงการคลัง

สืบเนื่องมาจากข้อมูลของกระทรวงการคลังที่รายงานครม.ไปว่าในช่วงไตรมาสสี่ของปีที่ผ่านมา ภา... อ่านต่อ
10 April, 2024

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง