หากจะมองหาโครงการคอนโดในย่านกลางเมืองที่สร้างเสร็จพร้อมโอนในปี 2560 นี้ก็ดูจะมีด้วยกันอยู่หลายโครงการ หลายทำเลไม่ว่าจะเป็นย่าน อโศก พร้อมพงษ์ เพลินจิต พระราม 9 จนถึงลาดพร้าว แต่ในยุคที่มองไปทางไหนก็มีแต่คอนโดเกลื่อนเมืองไปหมด บางทีการเลือกซื้อคอนโดโดยพิจารณาจากความโดดเด่นที่เป็นคุณลักษณะเฉพาะตัวของโครงการ ซึ่งไม่ค่อยจะมีให้เห็นในตลาด ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับเหล่านักลงทุนที่มองหาคอนโดที่สร้างมาเพื่อตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยที่ต้องการเน้นการใช้งานพื้นที่แนวสูง ตกแต่งครบด้วยเฟอร์ฯ Built-in เกรดพรีเมียม และมอบประโยชน์ใช้สอยที่มากกว่าคอนโดโดยปกติทั่วไป

Chewathai Residence Asoke (ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ อโศก) คอนโดสูง 29 ชั้น จำนวน 315 ยูนิต ในย่านอโศก-รัชดา เป็นคอนโดมิเนียมที่เรียกเสียงฮือฮาให้กับตลาดด้วยกับการออกแบบห้องสไตล์ Loft Duplex เพดานสูง 360 ซม.

คอนโดสุดเท่ห์แห่งนี้เน้นการใช้งานพื้นที่แนวสูง และมีรูปแบบห้องเพียงแค่ 1 ห้องนอน ทั้งโครงการ ตามคอนเซปท์การใช้งานแบบเน้น Volume of Space นับว่าเป็นโครงการเดียวในย่านอโศก-รัชดา ที่ออกแบบในสไตล์นี้ ด้วยการที่แทบจะไม่มีโครงการไหนเลยในกรุงเทพฯที่ออกแบบห้องสไตล์แบบนี้ ในราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรที่ค่อนข้างถูกกว่า คอนโดในย่านเดียวกัน แถมยังได้ห้องที่ได้ประโยชน์ใช้สอยมากกว่า 1 ห้องนอนโดยทั่วไปด้วยซ้ำ

เมื่อลงลึกในจุดเด่นเกี่ยวกับตัวโครงการ Chewathai Residence Asoke แล้วก็จะพบว่าเป็นห้องสไตล์ Loft Duplex ทั้งหมด 315 ยูนิต ซึ่งในอนาคตมีแนวโน้มว่าห้องสไตล์นี้กำลังจะเป็นเทรนด์ในการพัฒนาโครงการคอนโดในเมือง สำหรับห้องที่มีขนาดเล็ก แต่เพิ่มพื้นที่การใช้งานได้จริงในแนวสูงเข้าไป สังเกตเห็นได้ว่าหลายต่อหลายเจ้าเริ่มมาพัฒนาห้อง type นี้ การขายห้อง style loft และห้องธรรมดา พบว่าห้องแบบ loft นั้นมีคนสนใจ ซื้อมากกว่าเสียอีก ฉะนั้นจึงไม่แปลกใจที่ชีวาทัยเข้าซื้อตัว AQ ARIA ASOKE และนำมาบริหารต่อ เพื่อสร้างแบรนด์ชีวาทัยให้ดูสดใสมากยิ่งขึ้น อีกทั้งจะทำให้แบรนด์ชีวาทัยเป็นที่รู้จักในตลาดมากขึ้นด้วย อีกทั้งยังดูจะคุ้มค่ามากกว่าการซื้อโครงการอื่นๆที่มีขนาดห้องใกล้เคียงกัน

ปัจจุบันชีวาทัยมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่พัฒนาแล้วและอยู่ระหว่างการพัฒนาทั้งหมด 11 โครงการ ได้แก่ โครงการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อที่อยู่อาศัย 10 โครงการ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 8,860 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ปิดการขายแล้วได้แก่ โครงการ ชีวาทัย ราชปรารภ ส่วนโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและอยู่ระหว่างจำหน่ายจำนวน 5 โครงการ ได้แก่ เดอะสุรวงศ์ ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น จำนวน 52 ยูนิต โครงการ ชีวาทัย รามคำแหง ความสูง 33 ชั้น จำนวน 535 ยูนิต โครงการ ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ ความสูง 26 ชั้น รวม 279 ยูนิต โครงการฮอลล์มาร์ค แจ้งวัฒนะ ความสูง 8 ชั้น 2 อาคาร รวม 427 ยูนิต และโครงการฮอลล์มาร์ค งามวงศ์วาน เป็นอาคารสูง 8 ชั้น จำนวน 4 อาคาร รวม 792 ยูนิต

ส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาจำนวน 2 โครงการ มูลค่า 2,750 ล้านบาท ได้แก่ โครงการชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ เป็นอาคารสูง 24 ชั้น รวม 172 ยูนิต และโครงการชีวาทัย เรสซิเดนซ์ อโศก เป็นแผนการที่เพิ่มเข้ามา เป็นตัวสูงสุดของชีวาทัยเทียบเคียงกับโครงการชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ

จุดเด่นที่แตกต่าง

การให้ความสำคัญการออกแบบของโครงการนี้คงหนีไม่พ้นความสูงเพดานของห้องอยู่ที่ 360 ซม. ความสูงที่เหนือกว่าคอนโด high rise มาตรฐานประมาณ 1 เมตรนั้น นอกจากจะช่วยในด้านความรู้สึกโปร่งโล่ง และมีพื้นที่เก็บของปรับเปลี่ยนตามฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น ยังส่งผลต่อระบบไหลเวียนของอากาศ (Fluid dynamic) ภายในห้อง มิติความสูงที่เพิ่มขึ้นไม่ได้เพื่อเพียงสำหรับความรู้สึก โปร่งเท่านั้น แต่ยังออกแบบมาเพื่อเพิ่มพื้นที่อยู่ให้อาศัยได้จริงเพิ่มอีกถึง 38% เพราะพื้นที่การอยู่อาศัยไม่ได้จำกัดเพียงแค่ กว้าง x ยาว ความสูงถือว่ามีบทบาทสำคัญต่อการอยู่อาศัยในยุคปัจจุบัน

อีกสิ่งหนึ่งที่โครงการไม่เหมือน Developer ไหนกล้าทำคือ ทำห้อง style loft duplex ทั้งโครงการ เพราะโครงการนี้ efficiency แค่ 42% เท่านั้น คือ Developer มีความใจดีมากก่อสร้างคอนโดได้ efficiency น้อย ในขณะที่เจ้าอื่นต้องมี 60% เป็นอย่างน้อย ผู้ที่ได้ประโยชน์คือลูกบ้าน

เพราะพื้นที่ขายลดลง แน่นอนว่าความเป็นส่วนตัวก็มากขึ้น มีเพียง 315 ยูนิตและอีกหนึ่งร้านค้าถือเป็นจำนวนที่น้อยมากถ้าเทียบกับโครงการบริเวณใกล้เคียง และที่มากไปกว่านั้นคือทุกยูนิตเป็นห้องขนาดหนึ่งห้องนอนทั้งหมด กล่าวคือความหนาแน่นของผู้อยู่อาศัยนั้นนอกจากจำนวนห้องที่น้อยแล้ว จำนวนผู้อยู่อาศัยในแต่ละห้องก็ยังน้อยอีกด้วย นำมาซึ่งพื้นที่จอดรถเกินกว่ามาตรฐานในสัดส่วน 44% สูงกว่าโครงการในระดับเดียวกันที่มีที่จอดรถเฉลี่ยอยู่ที่ 30-40%

มากไปกว่านั้นเห็นจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ให้มากเกินพอสำหรับ 315 ยูนิต แบ่งออกเป็น 4 ชั้น 4 โซนหลัก  โดยจะเจาะประเด็นสำคัญในแต่ละชั้น คือ ชั้น 1, 7, 22 และ 29 ตามลำดับ

ส่วนพื้นที่ชั้น 1 เป็นส่วนของร้านค้า 1 ยูนิตและโถงต้อนรับ ทางเข้า–ออกถือว่าอยู่ใกล้กับทางลงทางด่วนและถนนจตุรทิศอยู่พอสมควร ฉะนั้นอาจจะเป็นผลดีต่อการเข้าสู่โครงการ แต่ก็ต้องแลกกับความวุ่นวายจอแจของรถในชั่วโมงเร่งด่วน เพราะย่านนี้นับว่าสาหัสพอสมควร

Welcome Hall

ชั้น 2-6 เป็นชั้นจอดรถ

ชั้น 7 เหมาทั้งชั้นเป็นชั้น facility หลัก โดยไม่มีส่วนพักอาศัยแม้แต่ยูนิตเดียว เหตุผลคือถ้าลูกบ้านที่อยู่ชั้นนี้อาจจะทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของชั้นนี้ มาใช้ประโยชน์เกินความจำเป็นนอกห้องพัก แบบนี้จะทำให้โครงการดู look cheap มากเมื่อมีคนเข้ามาอยู่ ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่จัดให้ชั้น 7 เป็น whole floor facility ไปเลย ถือว่าเป็นความคิดที่ดีครับ ยกตัวอย่างเช่น Co-working lounge พร้อมอุปกรณ์สำนักงานคอยบริการ Chilling area แบบจัดเต็ม Boxing room ที่อยู่ถัดจากฟิตเนส และการให้ความสำคัญกับเด็กอย่าง Kids stadiumให้น้องหนูได้มีพื้นที่เป็นของตัวเอง เป็นโครงการเดียวในย่านนี้ที่มีห้องสำหรับเด็ก สระว่ายน้ำอยู่ฝั่งทิศตะวันออก เปิดรับวิวด้านหน้าโครงการ ชั้นนี้ความสูงพ้นทางด่วนมาพอสมควร ตอนใช้จริงไม่รู้จะมีเสียงรถกับมลพิษมารบกวนหรือเปล่า และด้านนี้ยังได้รับวิวฝั่งตรงข้ามคือ RHYTHM Asoke ll ด้วยครับ

Boxing room & Fitness

Kids stadium

Co-working lounge

Chilling area

ชั้น 8-21 เป็น Typical floor plan ชั้นละ 17 ยูนิต

ชั้น 22 เป็นชั้นพิเศษ ปีกด้านหน้าจะหายไปกลายเป็นพื้นที่ส่วนกลาง คือสวนสวยๆ ทุกคนสามารถขึ้นมาได้ หายห่วงเรื่อง privacy สำหรับผู้อยู่อาศัยในชั้นนี้ เพราะมีประตู keycard อีกชั้นหนึ่ง

ชั้น 23 – 28 เป็นชั้นพักอาศัยที่ไม่มีปีกตึกด้านหน้าโครงการ ยูนิตจะน้อยกว่า typical floor plan จาก 17 ยูนิตเหลือเพียง 11 ยูนิตเท่านั้น และยังมีโถงลิฟต์เปิดรับวิวโปร่งโล่ง รับแสงธรรมชาติเต็มๆ

ชั้น 29 top floor facility มีสวนและ Lounge

Sunset lounge ถูกยกระดับขึ้นมาจากสวนด้านนอก เพื่อตอบรับวิวสวนและวิวสวนมักกะสันพร้อมตึกสูงในย่านเขตเมือง

ยูนิตไหนดี จะอยู่ชั้นไหน ก่อนอื่นเราต้องมาดูเรื่องความสูงของโครงการเพื่อนบ้านว่าเราจะสูงประมาณไหน 3 ตึกในทำเลนี้ความสูง 3.6 ม. ของชีวาทัย ทำให้ในชั้นเดียวกันระดับจะสูงกว่าใคร สูงพอๆกับ RHYTHM Asoke l ส่วน RHYTHM Asoke ll จะเตี้ยที่สุดในสามตึก ชั้นสูงๆ ของชีวาทัยในทิศตะวันออกจึงได้วิวโล่ง สูงพ้นแล้ว

เปรียบเทียบแปลนชีวาทัยกับอีก 2 ตึกในชั้นสระว่ายน้ำครับ

ยูนิตที่น่าสนใจคือ ห้องวิวสระตามแนวยาวทิศใต้ ได้วิวเมืองพร้อมสระว่ายน้ำของโครงการสวยๆ โดยความสูงที่วิวสระจะสวยน่าจะอยู่ประมาณชั้น 10

ยูนิตต่อมาคือยูนิตฝั่งทิศเหนือที่ปีกตึกหน้า จะได้วิวของ Super tower ในชั้นสูงพอจะเห็นสระของ RHYTHM Asoke l ด้วย ถ้าชั้นที่ไม่เห็นสระ ก็จะได้รับวิว Landscape และฟิตเนสแทน

ยูนิตทิศตะวันออกก็จะได้วิวสระแนวสั้น แต่สวยสู้แนวยาวไม่ได้ จะได้วิวสระของ RHYTHM Asoke II ด้วยเป็นของแถม

ยูนิตทิศตะวันตกด้านนี้ในอนาคตก็น่าจะมีโครงการคอนโด Aspire ตัวใหม่ของเอพีขึ้นมา ซึ่งยังไม่แน่ว่าจะสูงขนาดไหนครับ…ภาพวิวทั้งหมดเป็นระดับชั้น 23 ครับ

อีกยูนิตที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ ยูนิตชั้น 22 เป็นชั้นพิเศษที่มีสวนของโครงการอยู่หน้าโถงลิฟต์ เพิ่มความส่วนตัวด้วยจากประตู keycard อีกชั้น เหมาะกับคนชอบสวนครับ

สำหรับรูปแบบของห้องจากที่กล่าวไปข้างต้น มีเพียง type เดียว คือ 1 ห้องนอน จะแตกต่างกันก็เพียงขนาดและรูปร่าง ห้องที่น่าสนใจและ แตกต่าง คือ Type 2A ห้อง 09 ห้องหน้ากว้างได้กระจกที่มากกว่า

Type 4A ห้อง 15 และ 4B ห้อง 14 ตั้งแต่ชั้น 8-21 มี sexy bathroom กระจกบานใหญ่

Type 3A ห้อง 16 และ 3B ห้อง 13 ตั้งแต่ชั้น 8-21 ที่มีห้องน้ำไม่เหมือนยูนิตอื่น คือจะเป็นทรงด้านเท่า ไม่ใช่แนวยาว type แบบนี้ตู้เย็นจะวางข้างๆ ครัวครับ

การออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว ส่วนครัวอยู่หน้าห้อง มีตู้เก็บตู้เย็นยกระดับขึ้นมามีพื้นที่วางรองเท้าใต้ตู้เย็นได้ แต่วัสดุของตู้เก็บตู้เย็นอาจจะธรรมดาไปหน่อย ชุดครัวให้แบบ hi gloss พ่นซึ่งดีกว่าแบบแปะผิว ชั้นล่างเป็นส่วนนั่งดูทีวีเพดานสูง ส่วนห้องทำงานเพดานเตี้ยใต้ชั้นลอยของส่วนที่นอน ชั้นลอยเป็นส่วนที่นอน ไม่นับมาคิดในพื้นที่รวมและไม่มีโฉนดนะครับ

ทุกยูนิตที่นี้จะขายแบบ Fully furnished แบบจริงแท้แน่นอนครบทุกสิ่งอย่าง อาทิเช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ผ้าม่าน ชุดเครื่องนอน กระจกบานใหญ่สูงจรดฝ้าเพดานเข้ามุม พื้นไม้แบบ Engineering wood หน้ากว้าง 8 นิ้ว เป็นพื้นไม้ที่ spec สูงมาก หน้ากว้างกว่าปกติ สัมผัสสบายเท้า

Furniture package มูลค่ารวมทั้งสิ้น 400,000 บาท ประกอบด้วยรายละเอียดตามด้านล่างนี้ครับ

การออกแบบในรายละเอียดอื่นๆ เช่น เต้ารับพร้อมช่องเสียบ USB ถือว่าให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานเป็นอย่างมากทั้งในพื้นที่ Living หรือแม้กระทั่งในห้องน้ำเองก็มีเต้ารับลักษณะนี้เช่นกัน ไฟทั้งห้องเป็นแบบ LED เครื่องปรับอากาศให้ 1 เครื่องแขวนผนังแบบ invertor บีทียูใหญ่ ค่าไฟก็จะมากกว่าแบบแยก 2 เครื่อง แต่เนื่องจาก invertor จะประหยัดไฟกว่าแบบธรรมดา ก็คงไม่ใช่ประเด็นอะไร บานประตูออกระเบียงเป็นกระจกใส ราวกันตกที่ระเบียงเป็นกระจกใสนะครับ คือที่นี่มันดูแพง hi class มาก ที่ระเบียงยังวางเครื่องซักผ้าแยกชิ้นกับเครื่องอบผ้า ใช้งานมีประสิทธิภาพกว่าแบบชิ้นเดียว ส่วน Compressor แบบแขวนฝ้าเพดานก็ปิดมิดชิดครับ

หากพิจารณาแล้วสิ่งที่โครงการให้มาถือว่าคุ้มค่า เมื่อเทียบกับราคาต่อตารางเมตร เพราะโครงการมีจุดเด่นที่แตกต่างแตกห้องสไตล์นี้ออกมาสู่ท้องตลาดเพียงไม่กี่โครงการ มีพื้นที่แนวสูงที่สามารถอยู่ได้จริง และพื้นที่ทำงานกั้นเป็นสัดส่วนมากกว่าห้องขนาด 1 นอนปกติในท้องตลาด

แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก็คือ ทำเลย่านอโศก-รัชดา ตรงจุดที่โครงการนั้นตั้งอยู่มันเดินทางลำบาก ไม่ว่าจะเป็นการขับรถที่ถ้ามาจาก Central Rama 9 แบบไม่ทำผิดกฎจราจรก็ต้องไปกลับรถแยกอโศกเพชร (เพิ่งอนุญาตให้กลับรถได้ไม่นานมานี้) ฟังดูเหมือนง่ายนะครับ แต่สำหรับคนที่อยู่แถวนี้กันดีว่าในช่วงเวลาเร่งด่วน มันรถติดเกินชั่วโมงแน่ๆ ครับ ส่วนการเดินจาก MRT นั้น เชื่อว่าเมื่อโครงการคอนโดใหม่ๆ (ซึ่งมีอยู่เยอะมากในย่านนี้) สร้างเสร็จจะช่วยสร้างความรู้สึกปลอดภัยน่าเดินมากกว่านี้อีกหลายเท่าตัวครับ

ประการสุดท้ายคือความเชื่อมั่นในแบรนด์ชีวาทัย ต้องยอมรับว่าโครงการนี้แต่เดิมคือ AQ ARIA ASOKE ของ AQ Estate ที่มีปัญหาด้านการเงินที่กล่าวมา ทางชีวาทัยเองซื้อโครงการนี้ เป็นโครงการแรกของชีวาทัยที่อยู่ในตัวเมืองมากที่สุด เพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์ชีวาทัย ในมิติใหม่ให้คนทั่วไปได้รับรู้และองค์ประกอบอื่นๆ ที่ชีวาทัยพยายามปลุกปั้นตัวเองให้ทัดเทียมกับ Developer แนวหน้าของเมืองไทยให้ได้

ปัจจุบันยอดขายของ Chewathai Residence Asoke อยู่ที่ 50% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเดิมตั้งแต่โครงการเก่า ที่ยังคงมีความเชื่อมั่นในสถานะทางการเงินอันแข็งแกร่ง และอนาคตที่น่าจะดีกว่าของชีวาทัยและโครงการ จึงเลือกที่จะไปต่อกับชีวาทัย เพียงเท่านี้ก็อาจจะเพียงพอที่จะเป็นหลักประกันว่าบริษัทฯมีความตั้งใจจริงและพร้อมที่จะพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ชีวาทัยให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น

ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ อโศก พร้อมเปิด  Exclusive Launch วันที่ 17-19 มีนาคม นี้  จองในงานรับข้อเสนอพิเศษ สูงสุด  700,000 บาท 1 ห้องนอน Loft Duplex 34 ตร.ม. เริ่มต้น 4.99 ล้านบาท ลงทะเบียนร่วมงานรับส่วนลดเพิ่ม  20,000 บาท และจองในงานลุ้นรับ Lucky draw iphone7

ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://chewathai.com/en/residence-detail/10/-Chewathai-Residence-Asoke หรือโทร 087 666 6682