The Embassy Wireless “ดิ เอ็มบาสซี ไวร์เลส” (AKA The Embassy at Wireless) คือคอนโดที่ทั้ง ฮ่องกงแลนด์ (Hongkong Land) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลก และโนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย หมายมั่นปั้นมือที่จะร่วมกันพัฒนาให้เป็น Iconic Freehold Residences มูลค่าโครงการกว่า 10,990 ล้านบาท ที่มอบความสมดุลและสุนทรียศาสตร์ในการใช้ชีวิต อันงดงามเปี่ยมรสนิยม ไม่แพ้ใคร บนทำเลติดถนนใหญ่วิทยุ ช่วงแยกวิทยุ – เพลินจิต ที่ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นย่าน Inner CBD ที่รายล้อมไปด้วยโครงการ Mixed Use ระดับโลกมากมาย เช่นเดียวกับโครงการที่อยู่อาศัยระดับ Ultra Luxury ทั้ง Leasehold และ Freehold ที่แข่งกันทำสถิติ New High ในเรื่องของราคาขาย แม้ว่าทางฝั่ง Hongkong Land จะผ่านประสบการณ์ในการพัฒนา Ultra – Luxury Project ร่วมกับดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำของไทยมาอย่างโชกโชน แต่ก็ต้องบอกว่าทำเลวิทยุ อันเป็นที่ตั้งของโครงการ The Embassy Wireless แห่งนี้ คือจุดยุทธศาสตร์หลักในการพัฒนาโครงการในไทย เนื่องจากเป็นย่าน Inner CBD ที่เป็นที่รับรู้กันว่าน่าอยู่ที่สุดในสายตาของชาวต่างชาติ จากองค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบในเรื่องของการเดินทาง จำนวนพื้นที่อาคารสำนักงานเกรด A รายล้อมด้วยสถานฑูตชั้นนำ ห้างสรรพสินค้าระดับ Worldwide Magnet และความใกล้สวนสาธารณะขนาดใหญ่อย่างสวนลุมพินี ส่งผลให้ที่ดินในย่านนี้รวมไปถึงย่านใกล้เคียงอย่าง ชิดลม เพลินจิต หลังสวน (เรียกรวมกันว่า Central Lumpini District) เป็นทำเลที่มักจะทำสถิติราคาซื้อขายที่ดินสูงที่สุดของไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดย Hongkong Land เองก็มีแผนในการพัฒนาอีกหนึ่งโครงการ Mega Mixed Use ร่วมกับกลุ่ม CPN บนที่ดินแปลงติดกับ Central Embassy ที่อยู่เยื้องกับโครงการ The Embassy Wireless เช่นกัน…ทั้งหมดนี้จึงไม่แปลกใจเลยที่ว่าทำไมทั้งทางฝั่ง Hongkong Land และ Noble ถึงได้ทุ่มเทเวลาในการพัฒนารูปแบบโครงการ ปรับไปปรับมาถึง 2 ปีกว่านับจากการก่อสร้าง Sale Gallery เพื่อให้เข้ากับเทรนด์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

“LIVE HARMONIOUSLY” ถูกใช้เป็น Tagline ที่บ่งบอกถึง Attribute ที่โดดเด่นของโครงการ ซึ่งถูกพัฒนาขึันจากความเชี่ยวชาญของฝั่ง Hongkong Land และ Noble ที่มีประสบการณ์ชัดเจนในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่เปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์ของอารยธรรมตะวันออก มาผสมผสานเพื่อให้เข้ากันกับบริบทของทำเลวิทยุ – เพลินจิต ที่ขึ้นชื่อว่าเปี่ยมไปด้วยสีสันของ International Lifestyle ระดับไฮเอนด์ รายล้อมไปด้วยสถานฑูต สถานกงสุลสำคัญกว่า 20 แห่ง โดยที่ยังเป็นบ้านที่คุ้นเคยของเหล่า Expat และท่านฑูตชาวตะวันตกที่เลือกมาใช้ชีวิตอันแสนสะดวกสบายในย่านนี้มาอย่างยาวนาน โดยตัวโครงการเป็นคอนโดสูง 41 ชั้นและชั้นใต้ดิน 2 ชั้น จำนวน 757 ยูนิต ที่จอดรถ 478 คัน แบ่งเป็น 464 Automatic Parking Lots และ 14 Conventional Parking Lots มีลิฟท์โดยสารให้มากถึง 8 ตัวและ 1 ลิฟท์บริการ ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 3-1-32 ไร่ ออกแบบโดย A49 ในสไตล์ Contemporary Architecture ผสานสมดุลธรรมชาติด้วยพื้นที่ Private Urban Oasis บริเวณด้านหน้าโครงการติดถนนวิทยุ เชื่อมต่อสายตาไปยังจุดเด่นของตึกกับลายเส้นเรขาคณิตที่ชั้น Ground และ Top Floor facility เป็นทรงซุ้มโค้ง ARCH ตัดกับความทันสมัยของกระจกบานใหญ่ทรงสี่เหลี่ยม และสีแนวเอิร์ธโทนที่สื่อถึงธรรมชาติใจกลางเมือง ซึ่งเอามาเป็น Gimmick การออกแบบ Sale Gallery ส่วนงาน Interior จะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง DWP และ 2nd Edition สำหรับงาน Landscape ก็จะเป็นหน้าที่ของ Shma ครับ

ในด้านของพื้นที่ส่วนกลาง The Embassy Wireless มีจุดเด่นที่เป็นไฮไลท์คือ Green Serenity มอบพื้นที่ธรรมชาติด้วยสวนและต้นไม้ใหญ่ที่ The Embassy Garden ขนาด 2,950 ตรม.โดดเด่นด้วยการดีไซน์แบบเล่นระดับการใช้งาน / Wellness Inside Out บนพื้นที่ส่วนกลางหลายระดับชั้น ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานของทุกเจนเนอเรชั่น อาทิ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ พร้อมห้อง Hydrotherapy ห้องโยคะและออกกำลังกายส่วนตัว ห้อง Private Jet Shower Treatment Room และ Salon ที่ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตแบบองค์รวมในทุกมิติ ไปจนถึง Rooftop Club ที่แบ่งออกเป็น The Embassy Club และ The Energy Club ซึ่งมอบพื้นที่และอรรถประโยชน์ในการใช้งานที่แตกต่างกันไปในแบบ Indoor และ Outdoor ให้ผู้พักอาศัยได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพของเส้นขอบฟ้าที่งดงามในกรุงเทพฯ

สำหรับห้องตัวอย่างจะมีทั้งหมด 3 ห้องครับ เป็นห้องหน้ากว้าง ขายแบบ Fully Fitted เพดานสูง 2.8 เมตร ให้แอร์แบบฝังฝ้า [ส่วน Drop ฝ้าจะสูง 2.4 เมตร] เค้าเลือกใช้วัสดุได้ค่อนข้างหรูหราดูดีมี Sense ของความเป็น Hongkong Land เลยครับ โดยเฉพาะในส่วนของครัว และตู้ Built-in ให้ผิวสัมผัสดีมากครับ ห้องน้ำ และลวดลายพื้นกระเบื้อง มีให้ดูทั้งแบบ 1 Bedroom 35 ตรม. พื้นที่ครัวเปิดหน้าห้อง มีตู้เก็บของ ตู้รองเท้าให้ครบ ได้ห้องน้ำแบบ Double Access ต่อเนื่องกับส่วน Walk in Closet ขนาดใหญ่ในห้องนอน ที่มีพื้นที่เพียงพอให้ทำเป็นโซนทำงานในแบบ Bay Window ได้ ที่ห้องตัวอย่างเค้าทำเป็นบานกระจกกั้นห้องนอนและห้องนั่งเล่นครับ ทำให้พื้นที่ดูโล่งกว้างสบายตามาก/ ห้องแบบ 1 Bedroom Exclusive ขนาด 43 ตรม. ก็จะเป็นแบบ 1 Bedroom ที่มีพื้นที่เยอะหน่อยครับ โดดเด่นด้วยส่วน Living ที่กว้างขวาง ลึกมาก เชื่อมต่อการใช้งานแบบ Open Plan กับส่วนครัวรูปตัว L และทานอาหาร โดยมีพื้นที่เอนกประสงค์เอาไว้นั่งทำงาน หรือจัดรายการ Online & Podcast เก๋ๆได้กลางห้อง และเป็น Buffer โซนการใช้งานระหว่างห้องน้ำ และห้องนอนได้ ส่วนห้องนอนก็จะได้กระจกเข้ามุมที่บริเวณหัวเตียง / และห้องแบบ 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 70 Sq.m. ซึ่งเป็นห้องไฮไลท์ที่เรียกว่า The Familly Suites ครับ ห้องนี้เค้าเอาลงโฆษณาขายด้วยในราคาเริ่มต้น 18 MB* ครับ จุดเด่นคือเป็นห้องหน้ากว้างสุดๆถึง 10.8 เมตร* ได้พื้นที่ส่วนรวมภายในห้องอย่าง Living, Dining, Kitchen และ Working Area ที่ใหญ่มากๆอยู่บริเวณกลางห้อง มีระเบียงแยกเป็น 2 ตอนในส่วน Living แยกซ้ายขวาด้วย Master Bedroom พร้อมห้องน้ำในตัว และห้องนอนรอง ที่ได้ห้องน้ำแบบ Double Access สะดวกต่อการใช้งานในแบบอยู่ด้วยกันได้ 2 เจนเลยครับ

ราคาเริ่มต้น 9.9 ลบ. สำหรับห้องขนาด 35 ตรม. ส่วนราคาเฉลี่ยคือ 300K ต่อตรม. ครับ ถือว่าเป็นราคาที่ Competitive กว่าโครงการ Leasehold เปิดใหม่ที่อยู่บนทำเลเดียวกันครับ และโครงการที่มีแผนจะเปิดใหม่ในอนาคตอันใกล้ครับ

โครงการ The Embassy Wireless พร้อมเผยโฉมครั้งแรกที่ Sales Gallery บนทำเลทรงคุณค่าที่สุดของกรุงเทพฯ แล้ววันนี้ ราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท* สำหรับห้อง Family Suite ผู้สนใจสามารถนัดหมายเยี่ยมชมห้องตัวอย่างได้ที่ 02-251-9955, www.embassy-wireless.com หรือ LINE @embassy-wireless

ข้อตกลงและเงื่อนไข:

– โปรโมชั่นเฉพาะยูนิตที่กำหนดเท่านั้น

– โปรโมชั่นนี้ใช้ได้เฉพาะลูกค้าที่จองทำสัญญาภายในระยะเวลาโปรโมชั่นที่กำหนดเท่านั้น

– โปรโมชั่นนี้สำหรับชาวไทยและชาวต่างชาติทุกคนที่ถือใบอนุญาตทำงานในประเทศไทยเท่านั้น

– เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด และบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

– ภาพข้างต้นใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น