รีวิว Noble AROUND Ari คอนโดพร้อมอยู่ระดับ Iconic ติดถนนใหญ่และรถไฟฟ้า ที่ให้คุณสัมผัสไลฟ์สไตล์อารีย์ได้เหนือกว่าใคร

นับตั้งแต่การเปิดตัวในช่วงกลางปี 2018 ในที่สุดโครงการ Noble AROUND Ari (โนเบิล อราวน์ อารีย์) ซึ่งเป็นโครงการคอนโด High Rise ที่มีทำเลดีที่สุดในย่านพหลโยธินตอนต้น และตอบโจทย์ผู้คนที่ปรารถนาจะเข้ามาใช้ชีวิตในย่านอารีย์ ก็สร้างเสร็จสมบูรณ์พร้อมเข้าอยู่แล้ว ซึ่งแม้เวลาจะผ่านมาถึง 5 ปี แต่ความน่าอยู่ของย่านอารีย์ก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย แถมยังน่าอยู่เพิ่มขึ้น จากการทยอยกันเข้ามาปักหมุดพัฒนาโครงการอาคารสำนักงาน และ Mixed Use เกรดA บริเวณริมถนนพหลโยธินทั้ง 2 ฝั่ง เพิ่มเติมหลายแห่ง ซึ่งมีส่วนสำคัญในการยกระดับย่านพหลโยธินตอนต้นให้กลายเป็น Business District ที่ใหญ่ที่สุดของถนนพหลโยธิน อันจะนำมาซึ่งดีมานท์การอยู่อาศัยของผู้คนที่หลากหลายมากขึ้นในย่านนี้ ซึ่งการที่โครงการ Noble AROUND Ari เป็นโครงการคอนโดใหม่ติดถนนใหญ่พหลโยธิน และใกล้สถานีรถไฟฟ้าอารีย์มากที่สุดเพียงแห่งเดียวในชั่วโมงนี้และในรอบหลายปี โดยมีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ค่อนข้าง Contrast แต่โดดเด่นจากอาคารรอบข้างใกล้เคียงที่มักจะเป็นสไตล์ Modern จึงทำให้โครงการขึ้นแท่นเป็น Iconic Residential Building พร้อมวิวจากส่วนกลางที่สวยที่สุด เปิดมุมมองของอารีย์ทั้ง 2 ฝั่งได้อย่างไม่เป็นสองรองใคร

รวมเหตุผลของความเป็น ICONIC Residences พร้อมอยู่ บนทำเล LIMITED EDITION ที่ตอบทุกโจทย์การอยู่อาศัยในย่านอารีย์

1. พัฒนาโดยโนเบิลดีเวลลอปเม้นท์ ที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาคอนโดในย่านอารีย์มากที่สุด

แม้อารีย์จะมีคอนโดพร้อมอยู่หลายโครงการ แต่บริษัท โนเบิลดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) นับว่าเป็น Developer ที่ดูจะมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของทำเล เข้าใจความเป็นย่านอารีย์ที่ดีที่สุด เพราะมีการพัฒนาโครงการ High Rise มาแล้วถึง 6 โครงการ (รวม Noble AROUND Ari) ทั้ง Noble Lite คอนโด 24 ชั้น ใกล้รถไฟฟ้าอารีย์เพียง 300 เมตร , Noble Reflex คอนโด 20 ชั้น ในซอยอารีย์ ห่าง BTS เพียง 250 เมตร, Noble Reform คอนโด high rise 22 ชั้น ติดแยกอารีย์  และ Noble RE:D คอนโด high rise 23 ชั้น ติดรถไฟฟ้าเพียง 80 เมตร และโครงการล่าสุด NUE Evo Ari ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2022 ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งการันตีได้ว่าคนในย่านนี้คุ้นเคย และไว้ใจให้กับแบรนด์ “Noble” มากที่สุด

2. ย่านอารีย์คือ Business District ที่สำคัญที่สุดของถนนพหลโยธินตอนต้น

เนื่องจากเป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงานมากมายรวมพื้นที่กว่า 195,500 ตร.ม ทั้ง อาคารสำนักงานของธนาคาร อาทิ  สำนักงานใหญ่ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ SME BANK ธนาคารกสิกรไทย อาคารพหลโยธิน EXIM Bank รวมทั้งยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ AIS ที่อาคารอินทัช (ชินวัตร 1) อาคาร IBM , SM Tower, SC TOWER, ARI HILLS อาคาร Mixed-use ที่แบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นอาคารสำนักงานให้เช่า ร้านค้าและโรงแรม 4 ดาว สูง 34 ชั้น

และ Pearl Tower อาคารสำนักงานใหญ่ของพฤกษาและพื้นที่ให้เช่าของสำนักงานต่าง ๆ ที่สูงกว่า 25 ชั้น อยู่ฝั่งตรงข้ามกันเลย

รวมทั้ง Community Mall ที่รวมร้านช็อป และร้านอร่อย อย่าง La Villa Community Mall และ Villa Market

และล่าสุดที่สร้างเสร็จหมาดๆและอยู่ข้างๆกับโครงการเลยก็คือ วานิชเพลซ อารีย์ & วานิช วิลเลจ โครงการมิกซ์ยูสแห่งอนาคตอันเหนือระดับที่ผสมผสานไลฟ์สไตล์ออฟฟิศและรีเทล สูง 31 ชั้น โดยส่วน วานิช วิลเลจ เป็นอาคารรีเทล 4 ชั้น ที่รวมเอาร้านอาหาร พื้นที่บริการ และฟิตเนสมารวมอยู่ไว้รองรับการพักผ่อน ทำกิจกรรมส่วนตัว ใช้เวลาร่วมกับเพื่อนและครอบครัว อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงอีกด้วย

นอกจากอาคารสำนักงานเอกชน ยังเป็นที่ตั้งของอาคารราชการ อย่างสำนักงบประมาณที่กำลังก่อสร้างอยู่ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ที่ทำการไปรษณีย์ สำนักงานเขตพญาไท สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ททบ 5 และในซอยอารีย์ ก็เป็นที่ตั้งของกรมประชาสัมพันธ์ และกรมสรรพากรอีกด้วย นี่ยังไม่นับรวมสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เช่น โรงพยาบาลเปาโล โรงพยาบาลพญาไท 2 โรงพยาบาลวิชัยยุทธ และ โรงพยาบาลวิมุตติ โรงพยาบาลแรกในเครือพฤกษาฯ ที่ ล้วนแต่ส่งผลให้ราคาประเมินที่ดินในย่านนี้เพิ่มสูงขึ้น

และอีกความสำคัญของการพัฒนาของย่านนี้ก็คือ การพัฒนาพื้นที่รอบ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) ที่จะเป็น HUB แห่งการเปลี่ยนถ่ายการเดินทางด้วยระบบรางที่สำคัญที่สุดของประเทศ และเป็น HUB ของการพัฒนา Mix-used ที่หลากหลายครบวงจร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากย่านอารีย์เลย ถ้าใช้รถไฟฟ้าก็เดินทางเพียง 3 สถานีเท่านั้น

3. อารีย์เป็นย่าน Liveable Neighbourhood ที่เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ของการใช้ชีวิตแบบผสมผสาน จนได้รับการยกย่องจากสื่อ Timeout ในปี 2021

(ที่มา : 49 Coolest Neighbourhoods in the World Right Now (timeout.com) ) ที่ชี้ว่า อารีย์เป็นย่าน The world’s coolest neighborhoods in 2021 อันดับที่ 47 เพราะมีการอยู่อาศัยหลาย generation มีบรรยากาศของตรอกซอยที่มีต้นไม้เรียงรายตลอดเส้นถนน และยังมีไฮเอนด์ facilities รองรับการอยู่อาศัยมากมาย อาทิ  ร้านอาหาร ร้านกาแฟ การเดินทางที่เข้าถึงง่าย ใกล้ตลาด ใกล้พื้นที่สีเขียวสาธารณะของเมืองหลายแห่งทั้งสวนจตุจักร สวนสันติภาพ และสวนรถไฟ

4. หาคอนโดสูงติดถนนใหญ่พหลโยธิน ใกล้รถไฟฟ้าขนาดนี้ไม่ได้แล้ว

ในหลายปีที่ผ่านมาพื้นที่ติดถนนพหลโยธิน ในย่านอารีย์ ถึงแม้จะมีการพัฒนาอาคารสำนักงานหลากหลายแห่ง แต่แทบจะไม่มีการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยติดถนนใหญ่เลย และโครงการที่พักอาศัยก็ล้วนกระจายตัวอยู่ในซอยย่อย ๆ หรือติดถนนใหญ่ก็อยู่ที่ฝั่งซอยอารีย์ หรือซอยเชื่อมพหลโยธิน 5 และ 7 แต่อาจจะเสียเปรียบในเรื่องของ Exposure การเดินทางโดยรถยนต์กรณีที่ต้องการใช้ทางด่วน หรือเข้าเมือง วิวเปิดโล่งที่อาจหาได้ยาก และราคาประเมินที่แตกต่างกับถนนพหลโยธินฝั่งเลขคู่ เมื่อรวมกับการที่เป็นย่าน Residential Area ที่มีโครงการพักอาศัยอยู่รายรอบมานานแล้ว จึงทำให้เกิดเป็นเสน่ห์ของการอยู่อาศัยที่สะดวกสบายไม่แพ้ย่าน Mid Sukhumvit เลย

5. Facility ขนาดใหญ่วิวสวยกว่าทุกโครงการในย่านอารีย์ – พหลโยธินตอนต้น มีให้เลือกใช้ทั้ง 2 อาคารทั้งพื้นที่สวนดาดฟ้าที่อาคาร Y และ Triple Facilities ที่อาคาร X ที่มาพร้อมกับวิวแบบ Panorama พร้อมพื้นที่พักผ่อน ออกกำลังกายที่ครบครันและหลากหลาย

6. ห้องขนาด Compact ที่ดึงดูดคนทำงานสมัยใหม่ ในย่านอารีย์ ขายหรือเช่าง่าย ภายใต้งบประมาณรวมที่จำกัด โดยเป็นห้อง 1 Bedroom – 1 Bedroom Plus เท่านั้น

7. ขายแบบ Fully Furnished พร้อมเฟอร์ฯลอยตัว และ Built – in ที่ Customized ให้เก็บของได้เยอะ พิเศษเฉพาะโครงการนี้

เจาะลึกรายละเอียดของโครงการ

Noble AROUND Ari ตั้งอยู่บนถนนใหญ่พหลโยธิน ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าอารีย์ เพียง 90 เมตร ถือว่าเป็นทำเลที่ไม่ว่าจะใช้รถยนต์ หรือรถไฟฟ้า ก็สะดวกในการเดินทางทั้งสิ้น ต่างกับคอนโดอื่น ๆ ในย่านอารีย์ที่ไม่ได้ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่

ตัวอาคารได้รับแรงบันดาลใจจาก “THE SKIN & BONES ARCHITECTURE” ของลุดวิก มิส ฟาน เดอร์ โรห์ สถาปนิกผู้บุกเบิกวงการแห่งสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ โดยเน้นการออกแบบที่โปร่งเบา และเรียบง่าย “Timeless Modernism Design” ใช้วัสดุสมัยใหม่ผสานกับงานสถาปัตยกรรมเรียบง่ายรูปทรงเรขาคณิต สอดคล้องกับการใช้งาน เพื่อเปิดพื้นที่โล่งให้อิสระผู้อยู่อาศัยได้เชื่อมต่อชีวิตกับธรรมชาติโดยรอบ เป็นความสัมพันธ์ระหว่างศาสตร์ของการอยู่อาศัย และศิลป์ของการใช้ชีวิต ท่ามกลางไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ให้คุณได้ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ ค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ รอบตัว เผยตัวตนในย่านสุดฮิป ที่แฝงไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งวัฒนธรรมอันน่าหลงใหลใจกลางอารีย์

โครงการตั้งอยู่บนถนนพหลโยธินระหว่างซอย 4 และ ซอย 6 โดยทางเข้าเป็นถนนต้นไม้สีเขียว Botanical Path ช่วยตัดขาดความวุ่นวายจากถนนใหญ่ได้เป็นอย่างดี

ด้านในเป็นที่ผืนใหญ่จัดวางอาคารที่พักอาศัย แบ่งเป็น Building X วางตัวอยู่ด้านขวาของพื้นที่โครงการ และ Building Y วางตัวอยู่ด้านซ้ายของพื้นที่โครงการ บนพื้นที่ 3-0-23 ไร่

Building X สูง 39 ชั้น มีชั้นลอย 1 ชั้น และที่จอดรถชั้นใต้ดิน 4 ชั้น

ส่วน Building Y สูง 7 ชั้น และมีที่จอดรถใต้ดิน 5 ชั้น เป็นระบบจอดรถอัตโนมัติ รวมที่จอดรถทั้ง 2 อาคารคิดเป็น 47% (ไม่รวมซ้อนคัน) จากจำนวนยูนิตทั้งหมด 611 ยูนิต

ส่วนห้องพักที่นี่ มีทั้ง 2 อาคาร

ที่ Building X มี 1 Bedroom 26.40 – 34.95 Sq.m. วางตัวอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่ชั้น 3-38, 1 Bedroom Plus 41.56 – 44.89 Sq.m. ส่วนใหญ่วางตัวอยู่ทิศตะวันออก ที่ชั้น 3-38

ส่วน Building Y มีห้องขนาดเดียวคือ 1 Bedroom 26.40 – 27.30 Sq.m. ชั้นละ 13 ห้อง ที่ชั้น 2-7

พื้นที่ส่วนกลางมีให้เลือกใช้ทั้งสองอาคาร โดยที่ Building Y ที่ชั้น G และชั้นดาดฟ้า

ที่ชั้น G เป็น Around Garden สวนส่วนกลาง

Lobby ที่มาพร้อมพื้นที่นั่งรอ Auto Parking

ส่วนดาดฟ้าเป็น Sky Pier Garden

ส่วน Building X มีพื้นที่ส่วนกลางแยก ที่ชั้น G , ชั้น 2 , ชั้น 23 , ชั้น 39, 39M และดาดฟ้า

ชั้น G : Lobby-X พื้นที่ Lobby ที่พักคอยสำหรับลูกบ้านและผู้มาติดต่อ ที่มีที่นั่งพักให้เลือกหลากหลายโซน

มาพร้อม Reception ติดทางเข้าอาคาร

และสำนักงานนิติ เพื่อรองรับการติดต่อของลูกบ้านได้อย่างสะดวก

จาก Lobby มีบันไดวนเชื่อมสู่ชั้น 2 The Mezzanine Library

ที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางเฉพาะของลูกบ้าน ที่ต้องใช้ Key card ในการเข้าออกเท่านั้น ซึ่งภายในเป็นพื้นที่ Co-working space ที่มาพร้อมพื้นที่ทำงาน พื้นที่นั่งประชุมกลุ่มเล็ก ๆ

ที่เชื่อมมุมมองกับพื้นที่ Lobby ด้านล่างด้วยกระจกบานใหญ่

แยกโถงลิฟท์ 4 ตัวผ่านระบบ keycard แบบ lock ชั้น

ที่ชั้น 23 Uptown Sky Lounge พื้นที่ประมาณ 350 ตร.ม.

ที่แบ่งเป็นโซนต่าง ๆ เช่น Lounge sofa

game zone

co kitchen counter ที่แยกเป็นห้องเฉพาะ มาพร้อมโต๊ะทานอาหารตัวยาว และเคาท์เตอร์ทำครัว

tea room

และ outdoor seating ที่ให้ได้ออกไปนั่งรับลมชมวิวฝั่ง Pearl Tower

นอกจากนี้ยังมี Triple Facilities ที่ชั้น 39, 39M และดาดฟ้า

ชั้น 39 เป็นพื้นที่ของ Dimensional Pool สระว่ายน้ำ 360 องศาของแท้ ระบบเกลือ พื้นที่ประมาณ 370 ตร.ม.

ที่ให้คุณได้ว่ายรอบอาคารของจริง

หรือจะนั่งเล่นรับลมก็มีมุมให้นั่งเล่น

พร้อมวิวเปิดโล่ง 360 องศา

มีลิฟท์แยกเชื่อมชั้น 39 และชั้น 39 M

ชั้น 39M เป็น Horizontal Gym ห้องฟิตเนสแบบ 360 องศา

แยกโซนเครื่องออกกำลังกายแบรนด์ Technogym ไว้ทั้ง 3 ด้าน ให้ได้ออกกำลังกายพร้อมชมวิวที่แตกต่างมุมมอง

ที่ดาดฟ้า เป็นสวนดาดฟ้า Ari Cloud Forest

ที่มาพร้อมพื้นที่สีเขียว และมุมนั่งเล่น

โอบล้อมด้วยวิวเมืองโดยรอบอารีย์

ในส่วนของห้องตัวอย่างจริง ๆ มีให้ชมเยอะมากเกือบทุกตำแหน่งห้อง แต่วันนี้ขอนำห้องตัวอย่างจำนวน 4 Units มาให้ชม คือ 1 Bedroom 26.54 Sq.m., 1 Bedroom 34.95 Sq.m., 1 Bedroom Plus 41.56 Sq.m. และ 2 Bedroom 44.89 Sq.m.

ห้องแรก 1 Bedroom 26.54 Sq.m.

เป็นห้อง Size เล็กที่สุด แต่ Compact ครบทุก Function การอยู่อาศัย กับห้องทรงมาตรฐาน ที่มาพร้อมครัวปิดติดทางเข้า และห้องน้ำในห้องนอนที่ด้านในติดทางออกระเบียง ขายแบบ Fully Furnished

ในแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ พื้นที่ครัวและพื้นที่นั่งเล่น ที่ด้านหน้าติดทางเข้า

และพื้นที่ห้องนอน ห้องน้ำ ที่ด้านในติดหน้าต่างและริมระเบียง

พื้นที่ส่วนแรกเชื่อมต่อกันตั้งแต่ทางเข้าเป็น Built-in ชุดครัวที่ด้านขวา เว้นที่วางตู้เย็นไว้ที่ปลายสุดเคาท์เตอร์

พร้อมเจาะช่องวางไมโครเวฟไว้ที่ด้านบน

และเว้นที่วางเครื่องซักผ้าฝาหน้าไว้ที่ด้านล่าง

โครงการให้เตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมที่ดูดควันของ TEKA อ่างล้างจาน

และชั้นเก็บอุปกรณ์ทำครัวทั้งบนและล่าง แบบแยกช่องเก็บหน้าบานกระจกสีดำสูงจรดเพดาน

ด้านซ้ายเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่ง

พร้อมตู้เก็บของที่ด้านบน

ติดกันเป็นประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน สูงจรดเพดาน กั้นระหว่างพื้นที่ครัว และห้องนอน สามารถปิดเมื่อต้องการแบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วน หรือเปิดเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้เชื่อมต่อกันได้กว้างขึ้น

ภายในห้องนอนแบ่งเป็นพื้นที่ 2 ส่วน คือ

พื้นที่วางเตียงนอนและโซนพักผ่อนที่ด้านในติดหน้าต่างและระเบียง

อีกส่วนหนึ่งคือพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำที่ปีกด้านซ้าย

พื้นที่ส่วนแต่งตัว โครงการให้ Built-in ตู้เสื้อผ้า top กระจก สูงจรดเพดาน และยาวเต็มแนวผนังทางเข้า เชื่อมกับทางเข้าห้องน้ำ

ที่ภายในแบ่งเป็นส่วนแห้งติดทางเข้า และส่วนเปียกที่ด้านซ้ายกั้นด้วยประตู Shower box

โครงการให้ Hand shower และ Rain shower

อ่างล้างหน้าแบบฝังเคาท์เตอร์

สุขภัณฑ์ของ Kohler พร้อมช่องวางอุปกรณ์แบบฝังในผนัง

ที่โซนพักผ่อน สามารถวางเตียงนอน Queen Size พร้อมโต๊ะหัวเตียง ติดประตูริมระเบียง

สามารถเปิดรับลม ให้อากาศถ่ายเทได้ตลอดเวลา พร้อมชมวิวยามค่ำคืนใจกลางเมือง

ที่ปลายเตียงมีพื้นที่กว้างพอให้วางชุดโซฟาสำหรับ 1-2 ที่นั่ง ไว้นั่งพักเอนกาย หรือดูทีวีได้ที่มุมนี้

ที่ห้องนอนสามารถติดทีวีแบบแขวนผนัง เพราะโครงการ built-in ชั้นวางทีวี พร้อมชั้นวางของได้เต็มแนวผนังด้านนี้

ที่ระเบียงยาว แต่แคบ ตามสไตล์ Noble ไว้เปิดรับลม หรือเพิ่มพื้นที่ใช้งานเล็กน้อย แต่ที่ระเบียงกั้นฉากสำหรับวาง air compressor เพื่อความเป็นระเบียบ และทัศนียภาพทางสายตา

ห้องนี้น่าจะเหมาะสำหรับคนทำงาน นักเรียน นักศึกษา อยู่คนเดียว หรืออยู่ 2 คน ก็ยังปรับเปลี่ยนการใช้งานภายในพื้นที่ให้สอดคล้องกับความต้องการได้ รวมทั้งน่าจะเหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหารเพราะมาพร้อมกับครัวปิด

สำหรับใครที่สนใจห้อง 1 Bedroom แต่ไซส์ใหญ่ขึ้นมาหน่อย โครงการก็มีห้อง

1 Bedroom 34.95 Sq.m.

ห้องมุมทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ได้ 2 วิว 2 ระเบียง แบ่งพื้นที่ใช้งานเป็น 2 ส่วนคือ Dining & Living area ที่ด้านหน้าติดประตูทางเข้า และห้องนอนพร้อมห้องน้ำที่ด้านใน

เข้ามาจะพบกับพื้นที่ครัวเข้ามุม เชื่อมต่อกับพื้นที่ Living area ที่ด้านซ้ายติดระเบียง และพื้นที่ห้องนอน ที่ด้านใน

ติดประตูทางเข้า โครงการให้ตู้วางรองเท้าและตู้วางของสูงจรดเพดาน

ติดกันเป็นพื้นที่ครัวเข้ามุม โครงการให้ครัว built-in ที่มุมผนังด้านขวา เว้นที่วางตู้เย็น พร้อมจุดวางเครื่องซักผ้า และช่องวางไมโครเวฟ

โครงการให้เตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมที่ดูดควันของ TEKA

อ่างล้างจานแบบฝังเคาท์เตอร์

และชั้นเก็บอุปกรณ์ทำครัวทั้งบนและล่างแบบแยกช่องเก็บ

หน้าบานกระจกสีดำ

ผนังฝั่งตรงข้าม ติดทางเข้าด้านซ้าย โครงการตั้งโต๊ะทานอาหาร สำหรับ 2 ที่นั่ง

พื้นที่ครัวเปิดโล่งเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น

ที่ห้องนั่งเล่นโครงการให้ built-in ชั้นวางทีวีเต็มผนัง จรดประตูออกระเบียง

ตรงกันข้ามเป็นที่วางโซฟายาวสำหรับ 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง

ไว้ติดริมประตูออกระเบียง ให้ได้นั่งดูหนังเรื่องโปรด เอนกายหรือนอนชมวิวได้มุมกว้าง

ระเบียงที่ห้องนั่งเล่น เป็นเพียงระเบียงขนาดเล็ก สามารถยืนรับลม ชมวิวได้ และก็สามารถเปิดประตูได้กว้าง เสมือนใช้ชีวิตติดอากาศได้มากโดยไม่มีระยะระเบียงกั้น

ด้านในเป็นห้องนอน และห้องน้ำในตัว

ด้านขวาเป็นห้องน้ำ ที่ภายในแบ่งเป็นส่วนเปียกและแห้ง กั้นด้วย Shower box

อ่างล้างหน้าแบบฝังเคาท์เตอร์ พร้อมชั้นวางของด้านล่างและชุดสุขภัณฑ์ของ Kohler

ด้านหน้าทางเข้าห้องน้ำ เป็นตู้เสื้อผ้า built-in ทั้งสองฝั่งผนัง

ด้านซ้ายเป็นที่ตั้งเตียงพร้อมโต๊ะหัวเตียง

ปลายเตียงมีพื้นที่พอให้ตั้งโต๊ะเครื่องแป้ง

ติดกันเป็นประตูกระจกเชื่อมสู่ระเบียงและวิวอีกด้าน

ที่สามารถเปิดประตูออกระเบียงเพื่อรับลมและใช้งานได้

ด้วยการที่เป็นห้องที่มีระเบียงถึง 2 ด้าน อาจเหมาะสำหรับคนที่ชอบแยกพื้นที่ใช้งาน ให้มีพื้นที่ระเบียงสำหรับพักผ่อน 1 ระเบียง และระเบียงสำหรับใช้งาน เช่น ตากผ้า อีก 1 ระเบียง

ห้องนี้กว้างพอให้อยู่ 2 คน หรือคนที่ชอบการใช้งานพื้นที่อย่างมีสัดส่วน ครัวใหญ่ และน่าจะเหมาะสำหรับคนชอบพื้นที่ระเบียงเพราะมีให้เลือกถึง 2 มุมให้ได้ใช้ เปิดรับแสงและลมธรรมชาติได้เต็มที่

ห้องถัดไป คือ 1 Bedroom Plus 41.56 Sq.m.

ห้องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า แบ่งพื้นที่ใช้งานเป็น 2 ส่วนเท่า ๆ กันคือ dinning & living area ที่ด้านขวาติดประตูทางเข้า ส่วนด้านซ้ายของยูนิตเป็นห้องนอน ห้องน้ำแบบ Double access และห้อง Plus

จากทางเข้า เป็น dinning & living area ที่ด้านซ้ายเป็นครัวเข้ามุม

โครงการให้ครัว built-in ที่มุมผนัง เว้นที่วางตู้เย็น พร้อมจุดวางเครื่องซักผ้า และช่องวางไมโครเวฟ

โครงการให้เตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมที่ดูดควันของ TEKA

ชั้นเก็บอุปกรณ์ทำครัวทั้งบนและล่างแบบแยกช่องเก็บ

หน้าบานกระจกสีดำ

ด้านขวาเป็น Living area ที่ให้โต๊ะทานอาหาร สำหรับ 2 ที่นั่ง

พื้นที่ครัวเปิดโล่งเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น

ที่ห้องนั่งเล่นโครงการให้ built-in ชั้นวางทีวีเต็มผนัง จรดประตูออกระเบียง

ตรงกันข้ามเป็นที่วางโซฟายาวสำหรับ 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง

ไว้ติดริมประตูออกระเบียง ให้ได้นั่งดูหนังเรื่องโปรด เอนกายหรือนอนชมวิวได้มุมกว้าง

ระเบียงที่ห้องนั่งเล่น เป็นเพียงระเบียงขนาดเล็ก สามารถยืนรับลม ชมวิวได้ และก็สามารถเปิดประตูได้กว้าง เสมือนใช้ชีวิตติดอากาศได้มากโดยไม่มีระยะระเบียงกั้น

ด้านซ้ายของยูนิตเป็นห้องนอนติด living ห้องน้ำ double access และห้อง Plus

ที่ห้องนอน ด้านหน้าติดประตูทางเข้าห้องนอนเป็นตู้เสื้อผ้า built-in เต็มความกว้างและความสูงของผนัง

ด้านในเป็นที่ตั้งเตียงพร้อมโต๊ะหัวเตียง

ปลายเตียงมีพื้นที่พอให้ตั้งโต๊ะเครื่องแป้ง และสามารถติดทีวีแบบแขวนผนังได้

ข้างเตียงเป็นประตูกระจกเชื่อมสู่ระเบียงวิวเดียวกับห้องนั่งเล่น

ที่สามารถเปิดประตูออกระเบียงรับลมและใช้งานได้

ห้องน้ำ ภายในแบ่งเป็นส่วนเปียกและแห้ง กั้นด้วย Shower box

และชุดสุขภัณฑ์ของ Kohler พร้อมชั้นวางของด้านข้างผนัง

โดยโครงการให้ Double Access ที่สามารถเข้าได้จาก living และห้องนอน

ห้องสุดท้ายคือ ห้อง Plus ที่ไม่มีช่องเปิดหน้าต่าง ซึ่งโครงการให้เฟอร์นิเจอร์ชั้นวางของที่มาพร้อมเตียงแบบพับเก็บได้ เพื่อประหยัดพื้นที่ใช้งาน และรองรับการใช้งานแบบเอนกประสงค์

และตู้เสื้อผ้า

ซึ่งสามารถปรับเป็นห้องใช้งานตามความต้องการส่วนตัวได้ อาทิ ห้องแต่งตัว ห้องทำงาน ห้องซ้อมดนตรี เป็นต้น

ห้องนี้น่าจะเหมาะกับคนที่ชอบห้องไซส์ใหญ่ 1 ห้องนอน แต่กว้างพอให้อยู่ 2 คน มีแขกมาเยี่ยมเป็นบางคราว หรือคนที่ชอบการใช้งานพื้นที่อย่างมีสัดส่วน ครัวใหญ่ ได้ 2 ระเบียงและมีห้องใช้งานเพิ่มตามความต้องการของตัวเอง

ส่วนใครอยู่เป็นครอบครัวหรือมีแผนสำหรับครอบครัวขยายก็น่าจะเหมาะกับ

1 Bedroom Plus 44.89 Sq.m.

ห้องมุมสุดทางเดินห้องใหญ่สุดของโครงการ ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า แบ่งพื้นที่ใช้งานเป็น 2 ส่วนเท่า ๆ กันคือ dinning & living area ที่ด้านซ้ายติดประตูทางเข้า ส่วนด้านขวาของยูนิตเป็นห้องนอน 2 ห้องและห้องน้ำ โดยทุกห้องและทุกพื้นที่ใช้งานติดทางออกระเบียง

จากทางเข้าจะพบกับ dinning & living area ยาวเชื่อมสู่พื้นที่ระเบียง

โครงการให้ครัว built-in ที่ผนังด้านซ้าย เว้นที่วางตู้เย็น พร้อมจุดวางเครื่องซักผ้า และช่องวางไมโครเวฟ

ได้เตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมที่ดูดควันของ TEKA เหมือนทุกห้อง

พื้นที่ครัวเปิดโล่งเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น

ติดกันเป็น Living area ที่โครงการให้โซฟาสำหรับ 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง

ถัดไปเป็นโต๊ะทานอาหาร สำหรับ 2 ที่นั่งไว้ติดริมประตูออกระเบียง

โครงการให้ built-in ชั้นวางทีวีเต็มผนัง จรดประตูห้องนอนที่สอง

ระเบียงที่ห้องนั่งเล่น ได้พื้นที่ระเบียงขนาดเล็ก สามารถยืนรับลม ชมวิวได้ และก็สามารถบานเลื่อนได้กว้าง

ด้านขวาของยูนิตเป็นห้องนอน ห้องนอนใหญ่อยู่ตรงข้ามครัว มาพร้อมห้องน้ำ double access

ที่ห้องนอน เป็นที่ตั้งเตียงพร้อมโต๊ะหัวเตียงที่ด้านขวา

และตั้งโต๊ะเครื่องแป้งที่ด้านซ้าย และสามารถติดทีวีแบบแขวนผนังได้

ข้างเตียงเป็นประตูกระจกเชื่อมสู่ระเบียงวิวเดียวกับห้องนั่งเล่น

ที่สามารถเปิดประตูออกระเบียงรับลมและใช้งานได้

ที่ด้านหลังผนังแขวนทีวี เป็นพื้นที่ตั้งตู้เสื้อผ้าและทางเข้าห้องน้ำ

ห้องน้ำ ภายในแบ่งเป็นส่วนเปียกและแห้ง กั้นด้วย Shower box

มี Hand shower และ Rain shower

และอ่างล้างหน้าแบบฝังเคาท์เตอร์ พร้อมตู้กระจกมีไฟส่องสว่าง เก็บของได้

มีชุดสุขภัณฑ์ของ Kohler พร้อมชั้นวางของด้านข้างผนัง

เข้าห้องน้ำได้แบบ Double Access ทั้งจาก living และห้องนอน

ห้องนอนเล็ก ติดระเบียงวิวเดียวกับห้อง living

โครงการให้เฟอร์นิเจอร์ชั้นวางของที่มาพร้อมเตียงแบบพับเก็บได้

ดูประหยัดพื้นที่ดีมาก

และตู้เสื้อผ้าติดประตูทางเข้า

ห้องนี้น่าจะเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก กว้างพอให้อยู่ 2-3 คน หรือคนที่ชอบการใช้งานพื้นที่อย่างมีสัดส่วน มีระเบียงทุกห้อง

สรุปจุดน่าซื้อของ Noble AROUND Ari

ในมุมมองของคนกรุงเทพฯที่เป็นคนชั้นกลางวัยทำงาน หากถามว่าย่านไหนบนเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีบริบทของทำเล และรูปแบบวิถีชีวิต ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างการทำงานและสีสันหลังเลิกงานได้ดีพอๆกับย่าน Mid Sukhumvit แน่นอนว่าส่วนใหญ่ต้องเอ่ยถึงย่านอารีย์ มากกว่าย่านอื่นๆอย่าง สยาม ราชเทวี และพญาไท ที่ดูจะเป็นย่านเน้นไลฟ์สไตล์ และจุดแข็งในเรื่องของ Medical Hub เป็นหลัก ย่านอารีย์เป็นทำเล  CBD ของพหลโยธินตอนต้น ที่อาจเปรียบได้กับย่าน Mid Sukhumvit ตรงที่เป็นพื้นที่ CBD ของย่านเหมือนกัน และมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆรองรับอย่างครบครัน แถมยังมีโครงการในอนาคตรอการพัฒนาเพื่อยกระดับย่านให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น ทั้งอาคารสำนักงาน และโครงการ Mixed Use ใหม่ๆจากภาคเอกชน เช่นเดียวกับการเป็นย่านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จากการผสมผสานกันอย่างลงตัวของ แหล่งแฮงค์เอ้าท์ ศิลปะวัฒนธรรม ร้านอาหารอันหลากหลาย วิถีชีวิตยามเย็นของคนทำงาน ที่สามารถเดินไปได้สบายๆเพลินๆทั่วทั้งย่าน จนหลายคนเลือกที่จะเดินจากที่ทำงานในย่านสะพานควาย มาขึ้นรถไฟฟ้าที่อารีย์ทุกเย็น และรูปแบบการพักอาศัยที่ค่อยๆทยอยเปลี่ยนผ่านจากแนวราบบ้านเก่า มาเป็นแนวสูงอย่างคอนโด

สำหรับในกลุ่มชาวต่างชาติ ในอดีตที่ผ่านมาพวกเขาเหล่านั้นอาจรับรู้ว่าย่านอารีย์คือแหล่งงานสำคัญ เพราะมีบริษัทชั้นนำจากทั่วโลกหลายแห่ง เช่นเดียวกับสถาบันการเงินขนาดใหญ่ เลือกมาเปิดสำนักงานในย่านนี้ แต่ในปัจจุบันมีชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยเลยที่แวะเวียนมาเที่ยวในย่านนี้ จากการสำรวจของ Time Out The Coolest Neighborhoods in the World 2021 ที่ยกให้ “อารีย์” เป็นย่านที่น่าอยู่ที่สุดในกรุงเทพฯ และติดอันดับ 47 ย่านที่คูลที่สุดในโลก

เมื่อ Perception ของย่านอารีย์ คือย่านธุรกิจแบบไฮบริด เป็นย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่มี Traffic คนวัยทำงานหมุนเวียนกันเข้ามาตลอดทั้งวัน มีการพัฒนาโครงการอสังหาฯขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง จนแทบจะหาพื้นที่ว่างในการพัฒนาโครงการริม 2 ฝั่งถนนไม่ได้อีกแล้ว จึงส่งผลให้ราคาประเมินที่ดินในย่านเพิ่มขึ้นกว่า 43% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เมื่อมีคนทำงานก็ย่อมต้องมีคนพักอาศัย และทางโนเบิลจึงสร้างข้อแตกต่างในการพัฒนาโครงการ Noble AROUND Ari ด้วยการวางตำแหน่งโครงการให้เป็น Iconic Residences ที่ตอบความต้องการเฉพาะด้านของคนทำงานไปเลย ผลลัพธ์ก็คือที่นี่เป็นคอนโดเพียงแห่งเดียวในย่านนี้ ที่ปิดข้อจำกัดในเรื่องของต้นทุนที่ดินที่แพงมหาศาลด้วยการพัฒนาขนาดห้องในรูปแบบ Compact ที่แม้จะมีราคาต่อตารางเมตรที่ราวๆสองแสนบาท แต่ราคารวมต่อยูนิตกลับเริ่มแค่ 5 ล้านบาท  และสิ่งที่ได้ภายใต้ราคานี้ก็คุ้มค่ามากๆ เพราะคุณได้ห้องที่ขายแบบ Fully Furnished ทั้งลอยตัว และ Built – in ซึ่งทุกคนย่อมรับรู้ดีว่าปัญหาของห้องขนาดเล็กก็คือ การเลือกซื้อเฟอร์ฯให้พอดีกับขนาดห้อง ให้ทุกตารางเมตรสามารถใช้สอยได้เต็มพื้นที่หมดในแบบไม่เหลือ Waste Space ซึ่งผมมองว่า ทางโครงการทำรายละเอียดของเฟอร์ฯออกมาได้ดีมาก และน่าจะดีที่สุดในบรรดาทุกโครงการของโนเบิลในระยะหลังเลยครับ…มีตู้เก็บของแบบจัดเต็มให้เยอะมาก เฟอร์ฯเป็นแบบ Multi-Function โดยเฉพาะส่วนของห้อง Plus และโทนสีก็ดู Minimal เข้ากับรูปแบบของโครงการจริงๆ

ผมว่าคนทำงานที่มีตำแหน่งผู้บริหารระดับกลาง – สูง ในย่านนี้ส่วนใหญ่แล้ว ก็มักจะมีบ้านหรือคอนโดที่ไว้พักประจำอยู่แล้วครับ แต่ด้วยแพคเกจราคาที่อยู่ในช่วง 5 – 9 ลบ. ก็ดูจะคุ้มค่า และมีเหตุผลพอที่จะทำให้คนเหล่านั้นตัดสินใจซื้อเพื่อความสะดวกสบายในการ “เดิน” ไปทำงานบนออฟฟิศในย่านอารีย์ในช่วง Week Day มากขึ้นครับ ที่สำคัญก็คือชีวิตยามเย็นของอารีย์นั้นมันช่าง Slow Life ผ่อนคลาย ในแบบที่คนทำงานทุกคนปรารถนาครับ พูดอีกอย่างก็คือ Noble AROUND Ari นั้นค่อนข้างมีภาพของความเป็น High End Business Condo ที่สูงมากในสายตาของผมครับ ลองนึกภาพตามว่าถ้าผมนั่งทำงานอยู่ที่ตึก Pearl หรือวานิชเพลซ อารีย์ แล้วไม่ต้องมานั่งพะวงว่าจะต้องออกจากออฟฟิศดึกแค่ไหนถึงจะไม่เจอรถติด ในขณะที่ตอนพักเที่ยงบางวันก็แวะเข้าไปหาแฟนหรือลูกในห้องได้ หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศสุดเครียดของการประชุมกับลูกค้า ให้มาเป็นสุดชิลที่ UPTOWN SKY LOUNGE มันจะดีต่อใจ และสร้าง Productivity ในการทำงานได้ดีแค่ไหนครับ?

เนื่องจากโครงการมี Point of Different ที่ค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้วในเรื่องของกลุ่มเป้าหมาย และขนาดห้อง อีกทั้งในย่านอารีย์ตอนนี้ไม่มีโครงการที่เพิ่งสร้างเสร็จมาเป็นตัวเปรียบเทียบเลย ผมจึงมองว่าคนที่ซื้อที่นี่อาจจะต้องไปลองชั่งใจดูระหว่างโครงการใหม่ๆในย่านพญาไท – ราชเทวี ครับ ซึ่งก็ต้องบอกว่าแม้ราคาต่อตารางเมตรจะดูสูสีคู่คี่กัน แต่โครงการเหล่านั้นล้วนเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่กว่า และส่วนใหญ่จะพัฒนาขึ้นเพื่อจับกลุ่มตลาด Luxury โดยเฉพาะกลุ่มชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูงครับ ดังนั้นก็อยู่ที่ตัวคุณแล้วครับ ว่าห้องรูปแบบ Compact ที่ Noble AROUND Ari นั้นจะทำให้คุณภาพชีวิตของคุณดีกว่าที่เป็นอยู่หรือไม่ ในราคาต่อยูนิตที่ประหยัดกว่า พร้อมอยู่กว่า เพราะแค่หิ้วกระเป๋าเดินทางพร้อมเสื้อผ้าก็เข้าอยู่ได้เลย

Noble AROUND Ari ทำเลที่ดีที่สุดในอารีย์ เพียง 90 ม. ถึง BTS อารีย์ กับย่านที่น่าอยู่ที่สุดในกรุงเทพ ที่มาพร้อมกับประสบการณ์ชีวิต Limited Edition

– พร้อมใช้ชีวิต Limited Edition ห้อง 1-Bed แต่งครบ* พร้อมอยู่ ใจกลางอารีย์

– ดื่มด่ำวิวแบบ Limited Edition ขอบฟ้าอารีย์ 360 องศา ชมวิวอาทิตย์ลับขอบฟ้าพร้อมแสงไฟยามค่ำคืน

– เป็นหนึ่งเดียวกับสถาปัตยกรรมแบบ Limited Edition บนแนวคิด “Timeless Modernism Design”  เน้นถึงความโปร่งและความเรียบง่าย สไตล์โนเบิล

– ใกล้ทุกใจกลางของไลฟ์สไตล์ Limited Edition ทั้ง ย่าน อารีย์ และ ซอย อารีย์สัมพันธ์ ดีไซน์ ฟังก์ชั่น ส่วนกลางจัดเต็ม มาพร้อมทำเล ใจกลางอารีย์ ที่หาไม่ได้อีกแล้ว แถมราคาจับต้องได้มาก ๆ

ราคาเริ่มต้น 5 ล้าน* 1 ห้องนอน แต่งครบ*

สัมผัสบรรยากาศจริง เลือกห้องสวยก่อนใคร มาก่อนได้ก่อน ลงทะเบียน เพื่อรับส่วนลดพิเศษ คลิก  https://nobleurl.com/3LqpNhs

CONTACT:​
Line: @nobledev or nobleurl.com/line​
Tel: 02-251-9955 

#NobleAroundAri #โนเบิลอราวน์อารีย์ #NobleDevelopment