“พร็อพเพอร์ตี้กูรู” บริษัทแม่ของ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ และ thinkofliving.com 2 เว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย เผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2566

เกริก บุณยโยธิน 25 August, 2023 at 17.02 pm

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


รายได้รวมทั้งไตรมาส 37 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ และมีกำไร Adjusted EBITDA อยู่ที่ 5 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์

– รายได้รวมทั้งหมดเติบโตขึ้น 12% มาอยู่ที่ 37 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 ในขณะที่รายได้รวม โดยที่ไม่รวมรายได้จากประเทศเวียดนามเติบโตขึ้นถึง 22%

– ปัจจัยที่ทำให้ผลกำไร Adjusted EBITDA มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 113% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วก็คือ การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพของกรุ๊ป

– ผลกำไร Adjusted EBITDA เติบโตมาอยู่ที่ 5 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 129 ล้านบาท) ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 3 แสนสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 8 ล้านบาท)

 

พร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป จำกัด หรือชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก NYSE คือ PGRU) (จากนี้จะเรียกว่า “พร็อพเพอร์ตี้กูรู” หรือ “บริษัท”) บริษัทเทคโนโลยีด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (“PropTech”) และเป็นบริษัทแม่ของ 2 เว็บไซต์ด้านอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของไทย ได้แก่ DDproperty.com แพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาฯ อันดับ 1 ของประเทศ และ thinkofliving.com เว็บไซต์รีวิวโครงการอสังหาฯ ชั้นนำของประเทศ ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 ในวันนี้ โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 บริษัทมีรายได้รวม 37 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 956 ล้านบาทเมื่อเทียบกับอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2566) เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 12% ผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 6 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 155 ล้านบาท) และมีผลกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาที่ปรับแล้ว (Adjusted EBITDA) เป็นบวกอยู่ที่ 5 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 129 ล้านบาท) ซึ่งตัวเลขดังกล่าวได้นำมาเทียบกับรายได้สุทธิของไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งอยู่ที่ 4 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 104 ล้านบาท) และผลกำไร Adjusted EBITDA ที่เป็นบวกมูลค่า 3 แสนสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 7.8 ล้านบาท)

 

ความเห็นจากผู้บริหาร

นายแฮร์รี่ วี. คริชนัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า “พร็อพเพอร์ตี้กูรูโชว์การเติบโตของรายได้ที่ดีในช่วงไตรมาสที่สองนี้ ซึ่งเป็นการเติบโตในระดับตัวเลขสองหลักทั้งในส่วนของรายได้ และมาร์จิ้นของ Adjusted EBITDA สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเราท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังเผชิญกับความท้าทายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น ความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากการที่เราเลือกโฟกัสในการลงทุน และดำเนินธุรกิจอย่างรัดกุม แม้ว่าจะมีความท้าทายในทางเศรษฐกิจมหภาคในเวียดนามที่ยังส่งผลอยู่ ซึ่งรัฐบาลได้เข้าแทรกแซงภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และส่งผลกระทบต่อเนื่องมาถึงความความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และการตัดสินใจซื้อ-ขายในตลาดอย่างชัดเจน

 

เราเน้นการนำประโยชน์จาก AI มาช่วยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชั้นนำของตลาด และในขณะเดียวกันเรายังหมั่นปรับปรุงคุณภาพในเรื่องของการเขียนโค้ด และการสร้างสรรค์ด้านวิศวกรรมของเรา เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เราได้เปิดตัว GuruPicks ซึ่งเป็นโซลูชั่นในการคัดกรองประกาศอสังหาริมทรัพย์แบบอัตโนมัติที่ตรงตามความต้องการของแต่ละผู้ใช้ โดยใช้การเรียนรู้แบบอัลกอริทึ่ม และได้มีการอัปเกรดซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการตรวจสอบรูปภาพด้วย AI เพื่อให้ประกาศบนแพลตฟอร์มของเรามีคุณภาพยิ่งขึ้น

 

เมื่อต้นสัปดาห์นี้ เราได้ทำการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ครั้งสำคัญ นั่นคือการประกาศถอนธุรกิจมาร์เก็ตเพลสภายใต้แพลตฟอร์ม Rumah.com ออกจากประเทศอินโดนีเซีย และปิดตัวผลิตภัณฑ์ ฟาสต์คีย์ (FastKey) ที่เป็นซอฟต์แวร์บริการลง เรายังรีวิวขั้นตอนต่าง ๆ ในทางธุรกิจ และดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อปรับทรัพยากรที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งสิ่งต่าง ๆ ที่เราทำนี้ สอดคล้องกับแนวทางที่เราใช้เวลาในการพิจารณาอย่างระมัดระวัง เพื่อโฟกัสการลงทุนในธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตที่มีศักยภาพ และขยายออกไปอีกได้ เราตระหนักถึงผลกระทบของการตัดสินใจในครั้งนี้ที่มีต่อทีมต่าง ๆ เป็นอย่างดี และผมขอเป็นตัวแทนบอร์ดบริหารในการแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อชาวกูรูที่ได้รับผลกระทบจากการตัดสินใจในครั้งนี้ ที่ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และทุ่มเทให้กับกรุ๊ปของเราเป็นอย่างดีเสมอมา ผมขออวยพรให้ทุกท่านโชคดีกับเส้นทางที่ทุกท่านเลือกเดินต่อไปนับจากนี้”

ด้านนายโจ ดิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน “ในไตรมาสที่ 2 นี้ ผลประกอบการธุรกิจโดยรวมของเราถือว่าดี แม้ว่าเราจะเผชิญกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ค่อนข้างช้ากว่าที่คาดในเวียดนามก็ตาม รายได้ของเราในไตรมาสที่ 2 นี้ หากไม่นับรวมเวียดนามแล้ว มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งอยู่ที่ 22% ผลกำไร Adjusted EBITDA อยู่ที่ 5 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 129 ล้านบาท) ซึ่งเป็นการเติบโตอย่างมีนัยจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 จากการที่เราได้กำไรทั้งจากการจัดการค่าใช้จ่ายและต้นทุนทางการเงินที่ดีขึ้น อันเป็นผลให้ทั้งรายได้ และผลกำไร Adjusted EBITDA ของเราเพิ่มขึ้นราว 4 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 104 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ผมตั้งข้อสังเกตอย่างหนึ่งว่า เราเริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกในตลาดเวียดนาม เนื่องจากรัฐบาลได้เริ่มลดอัตราดอกเบี้ย และปรับปรุงการเข้าถึงสินเชื่อให้ทั้งผู้บริโภคและผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ได้ดีขึ้น

 

แม้ว่าภาพรวมของสภาพเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปัจจุบันจะยังคงไม่ฟื้นตัวดีนัก แต่เราจะยังคงมุ่งมั่นที่จะโฟกัสสร้างการเติบโตที่มีผลกำไร และยั่งยืน ด้วยการใช้โซลูชั่นชั้นนำที่เรามีในตลาดต่าง ๆ เราจะจัดการการใช้จ่ายอย่างรัดกุม รอบคอบ และตั้งเป้าในการลงทุนที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกรุ๊ปของเรา ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ การตัดสินใจครั้งล่าสุดของเราที่เกิดขึ้นในอินโดนีเซียและโปรดักส์อย่างฟาสต์คีย์จะช่วยให้เราสามารถลำดับความสำคัญของทรัพยากรและการลงทุนได้ดียิ่งขึ้น และจะไม่มีผลกระทบต่อการคาดการณ์ในปี 2566 ของเราแต่อย่างใด อนึ่ง เราได้ใช้เงินสำหรับค่าใช้จ่ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ราว 8 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 207 ล้านบาท)”

 

ไฮไลต์ทางการเงิน – ไตรมาส 2 ปี 2566

– รายได้รวมทั้งหมดเพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ 37 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 956 ล้านบาท) ในไตรมาสสองปีนี้

– รายได้จากหน่วยธุรกิจมาร์เก็ตเพลสเพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ 35 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ ในไตรมาส 2 ของปีนี้ โดยตลาดรายได้สำคัญยังคงเป็นสิงคโปร์ และผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นในมาเลเซียช่วยถ่วงดุลชั่วคราวให้ความท้าทายที่เกิดขึ้นในตลาดเวียดนามไม่รุนแรง

– รายได้ตามแต่ละเซ็กเมนต์:

– หน่วยธุรกิจมาร์เก็ตเพลสในสิงคโปร์ รายได้โตขึ้น 25% จากปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 22 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 570 ล้านบาท) จากจำนวนเอเจนต์โดยรวม และรายได้เฉลี่ยต่อเอเจนต์ (Average Revenue Per Agent หรือ “ARPA”) โตขึ้นในไตรมาสนี้ โดยในไตรมาสที่ 2 นี้รายได้เฉลี่ยต่อเอเจนต์เพิ่มขึ้น 25% มาอยู่ที่ 1,256 สิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 33,000 บาท) ต่อคน เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และจำนวนเอเจนต์โดยรวมของสิงคโปร์เพิ่มขึ้นกว่า 300 ราย มาอยู่ที่ 16,095 ราย อัตราการต่อสัญญา (renewal rate) ในไตรมาสอยู่ที่ 82%

– หน่วยธุรกิจมาร์เก็ตเพลสในมาเลเซีย รายได้เพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 7 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (181 ล้านบาท) โดยบริษัทยังคงได้รับประโยชน์จากการรวมตลาดกันระหว่างสองแบรนด์ชั้นนำในประเทศ นั่นก็คือ iProperty และ PropertyGuru Malaysia

– หน่วยธุรกิจมาร์เก็ตเพลสในเวียดนาม รายได้ลดลง 27% จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 5 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 129 ล้านบาท) เนื่องจากจำนวนรายการประกาศที่ลดลง ซึ่งถูกชดเชยด้วยรายได้เฉลี่ยต่อประกาศ (average revenue per listing  หรือ “ARPL”) ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ความพยายามในการจำกัดการให้สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ทั้งต่อผู้บริโภคและผู้พัฒนาโครงการยังคงมีผลกระทบชั่วคราวต่อตลาดในไตรมาสที่ 2 ส่งผลให้การซื้อขายในเวียดนามช่วงไตรมาสนี้ลดลง ทั้งนี้ รายการประกาศของเวียดนามลดลงราว 46% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 29 ล้านรายการ รายได้เฉลี่ยต่อประกาศอยู่ที่ (ARPL) 3.86 สิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 100 บาท) เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ปีก่อนหน้าราว 36%

– รายได้จากหน่วยธุรกิจฟินเทค (Fintech) และดาต้า เซอร์วิสเซส (Data services) เพิ่มขึ้น 47% มาอยู่ที่ 5 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 39 ล้านบาท)

– ณ สิ้นสุดไตรมาส เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดของกรุ๊ปอยู่ที่ 302 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 8 พันล้านบาท)

 

รายละเอียดการดำเนินงานในเซ็กเมนต์ต่าง ๆ ของเราแสดงอยู่ด้านล่างนี้ ทั้งนี้ ในปีนี้บริษัทไม่ได้นำค่าใช้จ่ายในการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออกในการคำนวน Adjusted EBITDA ดังนั้น การเปรียบเทียบกับผลประกอบการในปี 2565 จึงมีการปรับใหม่

*Corporate consists of headquarters costs, which are not allocated to the segments. Headquarters costs are costs of PropertyGuru’s personnel that are based predominantly in its Singapore headquarters and certain key personnel in Malaysia and Thailand, and that service PropertyGuru’s group as a whole, consisting of its executive officers and its group marketing, technology, product, human resources, finance and operations teams, as well as platform IT costs (hosting, licensing, domain fees), workplace facilities costs, corporate public relations retainer costs and professional fees such as audit, legal and consultant fees. A portion of the cost of being a listed entity is also included.

 

การเป็นผู้นำในตลาดขับเคลื่อนโอกาสการเติบโตในระยะยาว 

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 พร็อพเพอร์ตี้กูรู ยังคงครองความเป็นผู้นำในตลาดด้วยสัดส่วนมาร์เก็ตแชร์อันดับหนึ่งในประเทศสิงคโปร์, เวียดนาม, มาเลเซีย และไทย

 

สิงคโปร์: 82% – นำหน้าแบรนด์อันดับสอง 5.9 เท่า

มาเลเซีย: 93% – นำหน้าแบรนด์อันดับสอง 13.6 เท่า

เวียดนาม: 82% – นำหน้าแบรนด์อันดับสอง 4.5 เท่า

ไทย: 54% – นำหน้าแบรนด์อันดับสอง 2.3 เท่า

 

ภาพรวมของตลาดในปี 2566

 

บริษัทยังคงคาดการณ์ว่ารายได้ทั้งปีของปี 2566 นี้จะอยู่ที่ระหว่าง 160 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 4.1 พันล้านบาท) – 170 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 4.4 พันล้านบาท) ในขณะที่ Adjusted EBITDA จะอยู่ที่ราวๆ 11 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 285 ล้านบาท) – 15 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ราว 388 ล้านบาท) แม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันในเวียดนามยังคงทรงตัวอย่ แต่เราเชื่อว่ารายได้จะยังคงแตะถึงเป้าต่ำสุดที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ เรายังคงมองว่าสถานการณ์ในเวียดนามจะเริ่มดีขึ้นในไตรมาสต่อ ๆ ไปของปีนี้

 

ดังที่สังเกตในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา การเข้าแทรกแซงในตลาดอสังหาฯ ของรัฐบาลเวียดนาม, ความผันผวนทางการเมืองในมาเลเซียที่ยังคงมีอยู่, นโยบายที่อยู่อาศัยในสิงคโปร์ที่เคร่งครัดขึ้น ประกอบกับความไม่ชัดเจนของนโยบายการคลัง อันเกิดจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เพิ่มสูงขึ้น, แรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อ รวมไปถึงประเด็นเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทานโลก ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นความท้าทายระยะสั้น ที่อาจจะส่งผลต่อการดำเนินงานของบริษัท และคงการคาดการณ์ในแบบที่ไม่หวือหวาเท่าใดนักในปี 2566 นี้ แต่ในระยะยาว บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะเร่งการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพื่อเพิ่มผลกำไร และสร้างโอกาสในตลาดหลัก ๆ ที่เราดำเนินการอยู่

 

Conference Call and Webcast Details

The Company will host a conference call and webcast on Thursday, August 24, 2023, at 8:00 a.m. Eastern Standard Time / 8:00 p.m. Singapore Standard Time to discuss the Company’s financial results and outlook. The PropertyGuru (NYSE: PGRU) Q2 2023 Earnings call can be accessed by registering at:

https://propertyguru.zoom.us/webinar/register/WN_QaSHLCFgTKeDX8kfjAd6SA

 

An archived version will be available on the Company’s Investor Relations website after the call at https://investors.propertygurugroup.com/news-and-events/events-and-presentations/default.aspx

เกริก บุณยโยธิน

เกริก บุณยโยธิน

ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ

เว็บไซต์

แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด บางนา-ก...

ศุภาลัย พรีเมียร์ สามเสน-ราชวัตร

โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์

SOLACE ในภาษาอังกฤษสื่อถึง สิ่งที่ช่วยปลอบประโลมจิตใ...

19 March, 2024

นิว เวิร์ส กรุงเทพกรีฑา

ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาต้องบอกว่าย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม...

28 February, 2024

นิว ซี-สแควร์ สวนหลวง สเตชั่น

ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านมาพบกับโครงการคอนโดพร้อมอ...

30 January, 2024

ริธึ่ม เจริญนคร ไอคอนิค

วันนี้จะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับคอนโดมิเนียมสุดฮอตชื่อโ...

29 January, 2024

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง