จริงหรือไม่? The Sky Sukhumvit คือคอนโดมิเนียมที่น่าซื้อมากที่สุดในย่านใจกลาง Bangna District ประตูสู่สุวรรณภูมิและเมืองเศรษฐกิจภาคตะวันออก

By นายโฮม

สวัสดีครับชาว Propholic วันนี้เราจะพาทุกท่านมาเยี่ยมชมโครงการที่อยู่อาศัยทำเลศักยภาพสูงที่มีอนาคตสดใสอย่างแท้จริง ที่กล้ามั่นใจขนาดนี้เพราะด้วยหลักฐานประจักษ์จริงหลายๆ อย่าง เดี๋ยววันนี้มาตามดูกันครับ

สืบเนื่องจากบทความที่ผมเคยเขียนไว้เรื่อง ชี้เป้า! รถไฟฟ้าสถานีไหนกำลังจะมาแรง วันนี้จะมาทำความรู้จักย่านนี้กันมากขึ้น ทำเลที่เราจะพาไปดูคือทำเลที่ผมขอเรียกว่าเป็นทำเลอนาคตสดใส Bright Future สุดๆ ในเวลานี้ ทำเลนั้นก็คือ “บางนา” ผมขอตั้งชื่อเก๋ๅ ว่า BANGNA DISTRICT ก็แล้วกันครับ 😀

Bangna District คือตรงไหนอะไรยังไง? เอางี้ ลองนึกภาพตามนะครับ สมมุติตอนนี้เรายืนอยู่กลางแยกจุดตัดระหว่างถนนบางนาตราด-สุขุมวิท-สรรพาวุธ ให้ขีดรัศมี 500 เมตรวาดเป็นรูปคล้ายครึ่งวงกลม ซึ่งจะกินอาณาบริเวณมาตั้งแต่สถานีรถไฟฟ้าอุดมสุขมาถึงสถานี BTS บางนาครับ

นี่คือภาพรวมคร่าวๆ ของ BANGNA DISTRICT

ผมอยากชวนทุกคนลองมาเดินลงพื้นที่ไปพร้อมกันแบบไม่ต้องตากแดดตากฝนครับ 😀

ผมเริ่มจากลงสถานี BTS อุดมสุข

เดินรอบๆ สถานีอุดมสุขจะมีโครงการ Community Mall ชื่อ One UdomSuk ติดสถานีเลย มีร้านสะดวกซื้อ คาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านตัดผม ร้านเครื่องสำอาง สถาบันสอนภาษา เทรนเนอร์ฟิตเนส เรียกได้ว่าเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ของย่านนี้ครับ นอกจากนี้ยังมีตลาดอุดมสุข และตอนเย็นๆ จะมีบูทอาหาร Street Food และแบบห้องแอร์ ราคาไม่แพง แถมอร่อยเปิดให้บริการคนย่านนี้มาแล้วยาวนาน

ส่วนที่อยู่อาศัย รอบๆ สถานีอุดมสุขมีหลายโครงการ ได้แก่ City Home Sukhumvit, Ideo Mix Sukhumvit 103, Ideo Blucove Sukhumvit 103, Elio, Elio Del Ray, Centric Scene Sukhumvit 64, Dolce, คอนโดและอพาร์ทเมนต์ต่างๆ ในซอยอุดมสุข  และ The Sky Sukhumvit

จบเรื่องอุดมสุขไป ทีนี้ผมขอกระโดดมาบรรยายรอบๆ สถานี BTS บางนา ลงสถานีบางนาเจอ Community Mall พร้อมโครงการคอนโดชื่อ The Coast มี Supermarket Maxvalu ร้านอาหาร Yayoi, MK คาเฟ่ Coffee World , ธนาคาร และอื่นๆ ครบความต้องการ และรอบๆ Mall นี้มีโครงการที่พักอาศัยชื่อ The Coast และ IDEO O2 ที่ตั้งติดวัดบางนาในด้วย ข้ามมาฝั่งตรงข้ามเจอกับโครงการ Office Building ที่กำลังก่อสร้างจริงๆ ภายในอาณาจักรของศูนย์ประชุมและแสดงนิทรรศการ BITEC

(ดูรูปด้านล่าง ตึกสูงๆ ทางซ้ายสุดคือ Ideo Mobi Sukhumvit-Eastgate ตึกสูงๆตรงกลางคือ Office Building ของ BITEC ส่วนตึกสูงทางขวาคือ The Coast)

ที่เล่ามาทั้งหมดนี้เพื่อจะให้เห็นภาพรวมว่าขณะนี้ที่ตามองเห็นในปี พ.ศ.2559 นี้ BANGNA DISTRICT นั้นมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะกลายเป็นทำเลศักยภาพอย่างแท้จริง (ไม่มโน) เพราะด้วยเหตุผลพื้นฐาน 2 ข้อคือ 1.มีคนรายได้สูงย้ายเข้ามาอยู่มากขึ้น 2.มีตึกออฟฟิศทำให้มีแหล่งงานมากขึ้น นั่นหมายความว่ารายได้ของคนในย่านนี้จะมากขึ้นตาม กลุ่มผู้พัฒนาอสังหาทุกรูปแบบต่างตบเท้าเข้ามาเปลี่ยนพื้นที่ว่างเปล่าจืดชืดให้กลายมามีชีวิตมากขึ้น

ส่วนที่ตายังมองไม่เห็นในปี 2559 แต่เป็น Highlight และจะเป็นแม่เหล็กตัวใหญ่ที่จะดึงดูดผู้คนเข้ามาที่  BANGNA DISTRICT มากที่สุด คือ BANGKOK MALL

Credit ภาพ: http://www.boiffils.com/bangkok-mall-1/

พัฒนาการของพื้นที่บริเวณนี้ยิ่งถูกกระตุ้นไปสู่จุดพีคมากขึ้นไปอีก เมื่อทางกลุ่ม City Realty ประกาศที่จะพัฒนา โครงการ Mix Used แนวสูงระดับแม่เหล็ก โดยจะเป็นผู้พัฒนาอาคารสูง 4 อาคาร บนที่ดิน 17 ไร่ ที่ซื้อต่อมาจาก Property Perfect เป็นอาคารสำนักงาน โรงแรม และ อาคารพักอาศัย ที่คาดหมายกันว่าจะเป็นเซอร์วิสเรสสิเดนซ์ และคอนโดมิเนียม

เผยรายละเอียด …..ชาเทรียม The Bangkok Mall โปรเจค

Master Plan ทั้งหมดทุกโครงการรวมกันจาก http://www.boiffils.com/bangkok-mall-1/

ที่อยู่อาศัยรอบๆ BANGKOK MALL ณ ปัจจุบันมีอยู่ 2 โครงการคือ Dolce คอนโด Low-rise และ The Sky Sukhumvit คอนโด High-rise ติดกับ Bangkok Mall

วันนี้ผมจะพามาดูโครงการ The Sky Sukhumvit ครับ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่น่าเข้ามาสำรวจดูเพื่อเป็นตัวเลือกหนึ่งในการตัดสินใจซื้อเพื่ออยู่อาศัยในย่าน BANGNA DISTRICT ครับ

ถ้าเราเดินมาจากสถานี BTS อุดมสุข จากสถานีมองเห็นโครงการ The Sky Sukhumvit ได้เลยทันที  ตึกสูงๆ น้ำเงิน ทอง ครับ

ไปที่ทางออกที่ 3 แล้วข้ามถนนแบบมีรถยนต์มีไฟแดงหยุดให้คนเดินข้ามถนนง่ายๆ และปลอดภัย ไม่ต้องปีนสะพานลอย

เดินใต้ร่มเงาชายคาตึกแถว ตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 200 เมตรจะเจอปากซอยของโครงการ The Sky Sukhumvit

ระหว่างที่ผมเดินอยู่นี้ พบกับป้ายประกาศการก่อสร้างทางยกระดับ Sky Walk ที่เชื่อมระหว่างสถานีอุดมสุขและสถานีบางนา ตามกำหนดจะเสร็จสิ้นวันที่ 18 เมษายน 2560 และนี่คือหนึ่งในหลักฐานประจักษ์สำคัญที่ทำให้มองเห็นว่าอนาคตของ Bangna District นั้นน่าสนใจมากกว่าอย่างแท้จริง เพราะเมื่อมี Sky Walk แล้วก็ย่อมมีโอกาสที่พื้นที่เปล่ารอบๆ Sky Walk มักจะถูกเปลี่ยนแปลงให้กลายเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆ มากขึ้น สาเหตุเพราะ Sky Walk ทำให้มี Traffic คนสัญจรผ่านไปผ่านมามากขึ้นนั่นเอง และตัวเลขจำนวนคนนี่เองที่จะดึงดูดนักลงทุนรายใหญ่ๆ ต้องเข้ามาพิจารณากันต่อไปว่าจะสร้างอะไรดี

กลับมาเดินถนนอีกครั้ง ตอนนี้ผมเดินผ่านปากซอยสุขุมวิท 103/2 มี Family Mart ให้บริการอยู่

แล้วก็มาถึงปากทางเข้าโครงการ The Sky Sukhumvit ภายในเวลาประมาณไม่เกิน 5 นาทีจากรถไฟฟ้าอุดมสุข

เรามาเริ่มดูภาพความจริงและภาพอนาคตของ Bangna District กันเลยด้วยภาพนี้ครับ ภาพจริงที่เห็นด้วยตาคือมีหมู่อาคารที่พักอาศัย The Sky Sukhumvit ทั้งหมด 5 อาคาร รวม 898 ยูนิต และภาพในอนาคตคือห้างสรรพสินค้า Bangkok Mall สีแดงๆ

จากปากทางเข้าโครงการมี Guard House และบริเวณจอดจักรยานของลูกบ้าน ระยะทางจากปากทางเข้าไปถึงโครงการจริงคือ 300 เมตรครับ ซึ่งอาจจะดูไกลแต่มีรถกอล์ฟไฟฟ้ารับส่งนะครับ และตอนนี้นิติบุคคลกำลังพิจารณาการจัดรถตู้รับส่งด้วยครับ ลองสอบถามอัพเดตข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ได้เลย

เอาละครับ ตอนนี้เรามาถึงตัวโครงการกันแล้ว มาดู Project Plan กันก่อนเลย โครงการนี้มีทั้งหมด 5 อาคารพักอาศัย ได้แก่ ตึก A B C D E และ อาคารจอดรถ 1,2 (มีพื้นที่ส่วนกลางอยู่บนดาดฟ้า) ครับ

ตึก A วางตัวตึกแนวยาวจากเหนือมาใต้ ทำให้มี 2 ฝั่งคือ ตะวันตกและตะวันออก ฝั่งระเบียงทิศตะวันตกได้วิวปัจจุบันเป็นสระว่ายน้ำและอนาคตจะเป็นวิวโรงแรม Chatrium ด้วย ส่วนฝั่งระเบียงทิศตะวันออกได้วิวอนาคตเป็นสวนน้ำซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง Bangkok Mall แต่ปัจจุบันเป็นพื้นที่สีเขียวมีต้นไม้อยู่บ่อน้ำตื้นๆ แบบนี้ครับ

ตึก B C D E จะวางแนวตึกไปทางเดียวกันจากตะวันตกไปตะวันออก ทำให้มี 2 ฝั่งคือ ฝั่งระเบียงทิศเหนือและทิศใต้

ตึก B D วิวทิศเหนือคือบ้าน 2 ชั้น ถ้ามองไกลๆ ห่างไป 500 เมตรจะเป็นวิวคอนโด high-rise ถ้ามองไกลกว่านั้นจะเป็นวิวโรงกลั่นที่สวยในตอนกลางคืน และมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาแบบไกลๆ ได้จากชั้นสูงๆ ครับ ต้องลองมาดูตอนกลางคืนครับ ส่วนวิวทิศใต้จะเป็นวิวสระว่ายน้ำ

ต่อไปบรรยายตึก C E กลับไปดูภาพประกอบ Project Plan ข้างบนอีกทีนะครับจะได้ไม่งง สองตึกนี้ ฝั่งระเบียงทิศใต้จะ take วิว BITEC ถนนบางนาตราด และ Bangkok Mall ครับ จะเป็นวิวไกลโล่งๆ และมั่นใจสูงว่าชั้นสูงๆ จะไม่มีตึกไหนมาบังได้อีกครับ ส่วนวิวทิศเหนือก็เป็นสระว่ายน้ำครับ

อาคารจอดรถ มีตึก 9 ชั้น และ 11 ชั้น ส่วน Rooftop ของอาคารจอดรถเป็นพื้นที่ส่วนกลาง มีทั้ง Fitness Center และ Swimming Pool ระบบเกลือทั้ง 2 ตึกครับ อยากใช้ตึกไหนก็เลือกได้เลยครับ สมมุติสระแรกคนว่ายเยอะก็ย้ายไปว่ายอีกสระหนึ่งก็ได้ ไม่รบกวนกัน

เอาละครับ เราลองเดินเข้ามาสำรวจตึก E กันดีกว่า เพราะเป็นตึกที่ทิศใต้สามารถ take วิวได้ไกลและรับลมใต้ได้ดีสุดยอดครับ

บรรยากาศของ Lobby ชั้นล่าง ดูไม่ค่อยใหญ่โต แต่ได้ความเป็น Double Volume ด้านหน้า Lobby เป็นพื้นที่ร้านค้าปลีก ดูแล้วคล้ายๆกับสไตล์ Compound คอนโดในประเทศแถบเอเชียอย่างจีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ ครับ ซึ่งแต่ละตึกก็จะเป็นสไตล์คล้ายๆกันแบบนี้ครับ แต่ตึก D จะค่อนข้างมีล้ออบี้ที่ใหญ่และแต่งเยอะกว่าตึกอื่นๆ

พื้นที่ร้านค้าปลีก ที่ยังไม่ชัวร์ว่าจะเปิดเป็นอะไร ดูกว้างขวางพอที่จะทำร้านอาหาร หรือร้านกาแฟได้ครับ

ห้องจดหมายอยู่ติดกับล้อบบี้ทางด้านหลัง

โถงลิฟท์

พนักงานขายกดลิฟต์พาขึ้นไปสำรวจห้องตัวอย่างที่ตึก E ห้องนี้ เป็น unit ชื่อว่า “MOFF 56 ตร.ม. 1 ห้องนอน” โดยจะมีเฉพาะชั้น 9, 10, 11, 14, 15, 16, 17 เท่านั้น

มาดูกันก่อนว่ายูนิตนี้หน้าตารวมเป็นอย่างไร

เดินเข้าประตูไป ทางซ้ายจะเป็นบันได พื้นที่ครัว ห้องน้ำ ตรงไปเป็นห้องนั่งเล่นและหน้าต่างบานใหญ่ยักษ์ เปิดประตูสไลด์ออกไปที่ระเบียงได้

ซ้ายมือเป็นบันไดทางขึ้นไปยังส่วนของพื้นที่ชั้นลอยที่เป็น Signature ของ MOFF Design ครับ ใต้พื้นที่ชั้นลอยจะเป็นครัวและห้องน้ำ

ถ้าเงยหน้าขึ้นไปจะเห็นว่าความสูงของห้องจากพื้นถึงเพดานด้านบนสูงถึง 4.5 เมตร ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งสบาย สไตล์ MOFF Design ย่อมาจาก Maximum of Flexible Function Design ซึ่งห้องสไตล์แบบนี้ มีไม่กี่ Developer ในกรุงเทพที่กล้าทำออกมาขายครับ ถือว่าเป็นจุดเด่นที่แตกต่างเมื่อเทียบกับโครงการส่วนใหญ่ในกรุงเทพครับ จากที่สอบถามลูกบ้านที่ซื้อห้อง MOFF ไปเขาให้เหตุผลว่า ซื้อ Unit แบบนี้ไปเพราะเคยซื้อคอนโดฯ มาหลายแบบแล้ว แต่เขายังไม่เคยมี unit ที่มีลักษณะเพดานสูงขนาดนี้ ซึ่งถือว่าแปลกและตรงใจเขาเพราะให้ความรู้สึกมีมิติดี นอกจากนี้เค้ายังให้เหตุผลว่าซื้อเพราะอาศัยอยู่เอง เป็นบ้านแห่งที่ 2 ของเขา

ระเบียงค่อนข้างกว้าง สามารถวางเก้าอี้พักผ่อนได้ 1 ตัว ซึ่งจะเลือกได้ว่าจะหันมองสระว่ายน้ำหรือมองสถานีรถไฟฟ้า เหมาะกับชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวยุโรปที่ชอบระเบียงกว้างๆ ครับ

ห้องตัวอย่างนี้มีระเบียงฝั่งทิศเหนือครับ วิวปัจจุบันจะเป็นแบบนี้ มองยิงตรงไปเห็นสถานี BTS อุดมสุขได้เลย ซึ่งตอนนี้วิวจะเป็นแบบบ้านๆ ไม่มีอะไรโดดเด่นมากนัก แต่อนาคตจะมีโรงแรม Chatrium มาสร้างทำให้ห้องฝั่งนี้จะได้วิวเป็นโรงแรมที่น่าดูสวยงามมากขึ้น แต่จากเจ้าหน้าที่บอกว่าลักษณะการวางอาคารของ Chatrium จะหลบสับหว่างกับตึก E D ของ The Sky ทำให้ไม่ชนชิดกันเกินไปครับ ดูภาพหลุดตัวอย่างของ Chatrium ได้ที่บทความจากคุณ Condoman

บางคนบอกว่าซื้อเพราะทำเลตรงนี้เป็นทางออกไปสมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง เวลาที่เขาต้องเข้ามากรุงเทพชั่วคราวก็จะมาอาศัยที่นี่ จอดรถเอาไว้แล้วขึ้นรถไฟฟ้านั่งเข้าเมืองไป พอจะกลับไประยองก็ไม่ต้องทนรถติดภายในเมือง เพราะโครงการอยู่ขาออกเมือง สามารถขับรถวิ่งถนนบางนา-ตราดออกไปได้เลยทันที นอกจากนักธุรกิจชาวระยองแล้วยังมีกลุ่มนักบินที่ทำงานสนามบินสุวรรณภูมิอีกด้วยที่สนใจทำเลของโครงการนี้

กลับมาบรรยาย Moff Unit กันต่อ จากห้องนั่งเล่นใช่ไหมครับ เปิดประตูเข้าห้องนอนไป เห็นหน้าต่างบานใหญ่อีกรอบ หมุนตัวกลับมามีประตูเข้าห้องน้ำได้เลย ห้องน้ำเข้าได้ 2 ทาง สะดวกสำหรับผู้ใหญ่ครับ 🙂

พื้นห้องน้ำลดระดับ บริเวณส่วนแห้ง  มีอ่างล้างหน้า ไฟอ่างล้างหน้า ปลั๊กไฟเสียบไดร์เป่าผม กระจกส่องหน้า สุขภัณฑ์ และสายชำระ ส่วนเปียกมีบานกระจกใส Temper Glass มี Rain Shower และมีเครื่องทำน้ำอุ่นเพราะก็อกไม่ใช่ก็อกผสม ข้อดีมากๆ ของห้องน้ำในยูนิตนี้คือ มีหน้าต่างเล็กๆ เหนือสุขภัณฑ์ สามารถเปิดระบายกลิ่นและความชื้นออกได้ง่าย และช่วยให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาฆ่าเชื้อโรคได้ ซึ่งคอนโดโครงการอื่นๆ ส่วนใหญ่มักจะมีแค่พัดลมระบายอากาศเท่านั้น แต่นี้ให้ถึง 2 ระบบเลย ทั้งระบบพัดลมระบายอากาศของตึกเองและระบายอากาศส่วนตัวด้วยหน้าต่าง ซึ่งเป็นผลดีต่อสุขอนามัยของผู้อยู่อาศัยดีครับ เป็นเรื่องเล็กๆ ที่โครงการอื่นมักมองข้าม

ออกมาจากห้องน้ำด้วยประตูอีกบาน เชื่อมต่อเข้าสู่ห้องครัวน้อยๆ น่ารักอบอุ่น มีอ่างล้างจาน ก็อกโค้ง ด้านล่าง Top ครัวมีบานเปิดเป็นตู้เก็บของได้ 2 ช่องและพื้นที่วางเครื่องซักผ้าฝาหน้า สำหรับคนชอบทำอาหาร ก็มีเตาไฟฟ้ายี่ห้อ MEX และ Hood ดูดกลิ่น และสามารถเปิดประตูห้องน้ำและเปิดหน้าต่างเล็กเพื่อช่วยระบายกลิ่นอาหารได้

บริเวณใต้บันไดเป็นพื้นที่วางตู้เย็น 2 ประตูได้สบาย นอกจากนี้พื้นที่ใต้บันไดสามารถให้ Interior Designer ที่เราชอบมาออกแบบเป็นห้องเก็บของหรือชั้นวางของมีบานปิดได้ตามใจผู้อยู่อาศัยได้เลย

เดินออกมาจากครัว กลับหลังหัน เจอบันได เดินขึ้นไปชั้นลอยจะเจอกับ Space ที่เป็นจุดเด่นของ MOFF Design เพราะเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้เพิ่มอีก 1 ห้อง ซึ่งจะทำเป็นห้องนอนแขก ห้องนอนลูก ห้องทำงานลอยฟ้าก็ได้ ชั้นลอยนี้สูงประมาณ 2 เมตรครับ

มีหน้าต่าง take วิวไกล วิว Bangkok Mall มองยิงตรงไปเป็น The Coast ในระยะไกลประมาณ 700 เมตรครับ ไม่บัง วิวไกลๆ ช่วยเสริมจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ได้เพราะดูอิสระมากกว่าวิวตึกบังครับ

แวะพักสายตากับวิวมุมผ่อนคลายที่ชั้นลอยครับ
พร้อมลุยต่อหรือยังครับ! Let’s go!

จบแล้วครับสำหรับการสำรวจห้อง MOFF 56 ตร.ม. เรามาดู unit แบบต่อไปกันเลย

ห้องต่อไปคือ รูปแบบ MOFF 42 ตร.ม. 2 ห้องนอน ซึ่งเป็นการอัพเกรดและแตกต่างจาก MOFF 42 ตร.ม. 1 ห้องนอน ลักษณะห้องจะคล้ายกับ MOFF 56 ตร.ม. ที่บรรยายไว้ข้างต้น แต่ที่ชั้นลอยจะมีกั้นห้องด้วยกระจกทำให้ช่วยประหยัดแอร์ได้

และมีการขยายชั้นลอยล้ำเข้าไปที่ห้องนอนชั้นล่างเพื่อวางเตียงนอน Single Bed ได้ เหมาะกับเป็นห้องนอนเด็กและวัยรุ่น ส่วนชั้นล่างบริเวณห้องนั่งเล่นจะมีระยะชิดระหว่างโซฟากับโทรทัศน์ใกล้กันแบบอบอุ่นมากขึ้น ส่วนตู้เย็นวางไว้ที่ใต้บันไดไม่ได้แล้วเพราะต้องย้ายออกมาวางไว้ติดประตูทางเข้าห้องแทน

ยูนิตที่ได้จริง ที่ไม่ใช่ห้องตัวอย่าง จะให้ชุดครัว ชุดสุขภัณฑ์ ส่วนผนังจะได้ Wallpaper สีครีมฟรีด้วยครับ แต่อาจจะสั่งว่าไม่เอา Wallpaper ก็ได้ครับ ลองคุยกับเจ้าหน้าที่ดู

ยูนิต “MOFF 42 ตร.ม. 2 ห้องนอน” เหมาะกับผู้ที่อยากได้ประโยชน์ใช้สอยจากความเป็น MOFF มากขึ้น ใช้งานได้จริงมากขึ้น โดยที่ไม่ได้ต้องการพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่มีขนาดใหญ่

ห้องแบบ MOFF 42 ตร.ม. 2 ห้องนอน นี้ พื้นที่ห้องนอนชั้นล่างจะดูไม่โปร่งเท่าขนาด 56 ตรม. เนื่องจากมีพื้นที่ของห้อง MOFF ยื่นล้ำเข้ามาส่วนนึง และหน้าต่างก็ไม่ใหญ่เท่า

บันไดขึ้นลงของยูนิตแบบ MOFF ครับ อารมณ์คล้ายๆ บ้านเลย จบแล้วครับ สำหรับ “MOFF 42 ตร.ม. 2 ห้องนอน”

แถมห้องเปล่าแบบ MOFF ให้ดูผ่านๆอีก 1 ห้อง ห้องนี้จะเป็นอยู่ฝั่งทิศใต้ครับ ในอนาคตห้องนอนชั้นล่างก็จะเห็นโครงการ The Bangkok Mall ยาวไปจนถึง BITEC…ห้องนี้ขนาด 46 ตรม. ได้ถึง 2 ระเบียงครับ ได้วิวทางฝั่ง Chatrium เพิ่มมาด้วยครับ (แปลนด้านล่างต้องสลับด้านกันครับ)

เราข้ามฟากไปดูที่ตึก D ที่น่าจะเป็นที่เตะตาของใครหลายๆคนกันครับ ยูนิตของตึกนี้จะมีราคาสูงที่สุด โดยมีราคาตั้งแต่ 140,000 บาทต่อตารางเมตรครับ แน่นอนว่าราคานี้ย่อมมีความแตกต่างบางอย่างในส่วนของล้อบบี้ ที่จัดเต็มกว่า มีสไตล์การใช้สีเป็นสีทอง ซึ่งเท่าที่สอบถามมากลุ่มเป้าหมายอย่างคนจีนชอบมากๆครับ ทำให้ตึกนี้ค่อนข้างจะเป็นที่นิยมในหมู่ชาวจีน และสิงค์โปร์

ห้องตัวอย่างเป็นห้องแบบ MOFF 56 ตารางเมตร แบบเดียวกับตึก E ครับ

โครงการ The Sky Sukhumvit นี้มีของแปลกให้ชมอีกรูปแบบครับนั่นคือ ห้องพักอาศัยเริ่มต้นที่ชั้น 1 เป็นอะไรที่แปลกแหวกแนวดี ซึ่งปกติโครงการอื่นๆ ไม่ค่อยทำคอนโดชั้น 1 กัน แต่ Property Perfect ซึ่งเป็น Developer สายแนวราบมาก่อนนั้น มองเห็นต่างเพราะคาดว่าจะมีคนชอบอาศัยอยู่ชั้นเตี้ยๆ เหมือนกัน อารมณ์แบบว่าอยู่บ้านชั้นเดียวแต่มี Security หนาแน่นและปลอดภัยกว่าบ้านเดี่ยว ซึ่งตอนนี้ยังมียูนิตชั้น 1 ที่รอคนมาจับจองอยู่อีกมากครับ ความเห็นส่วนตัวผมคิดว่ายูนิตชั้น 1 เหมาะกับผู้สูงอายุที่ต้องการความปลอดภัยที่เหนือกว่าโครงการบ้านเดี่ยวทั่วไปและไม่ต้องการขึ้นลิฟท์สูงๆ หรือคนที่คิดว่าขี้เกียจเดินลงบันไดหนีไฟหลายๆ ชั้นเวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน อีกกลุ่มที่น่าจะเหมาะสมกับยูนิตชั้น 1 คือผู้ที่ต้องการทำเป็น SOHO: Small Office Home Office ทำเลในเมืองใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ห้างสรรพสินค้า ใกล้ศูนย์ประชุม และมีที่จอดรถช่วงกลางวันที่ค่อนข้างเยอะครับ

ยูนิตรูปแบบต่อไปขอแถมให้ชาว Propholic ที่อยากได้คอนโด Duplex 2 ชั้น 70 ตร.ม. ที่ตึก A อารมณ์ทาวน์โฮมเหินเวหา เพราะอะไรถึงใช้คำว่าเหินเวหา?

เพราะนี่เลยครับ เปิดเข้าไปทั้งห้องนั่งเล่นเป็นห้องกระจกหน้าต่างแบบ Floor to Ceiling เหมาะกับคนชอบอยู่ที่สูง กระจกใสมองเห็นข้างนอกชัดแจ๋ว เวลาอยู่ในห้องให้อารมณ์เหมือนนกบินกลางท้องฟ้าครับ

ชั้นล่าง กว้างมากครับ ภาพนี้ถ่ายจากมุมห้องครัวกั้นแยก

ยืนตรงครัวหันหน้าออกระเบียง ถ้ากลับหลังหัน จะมีห้องน้ำที่ไม่ได้ใช้อาบน้ำครับ (0.5 Bathroom) เหมาะสำหรับเป็นห้องน้ำแขกหรือเพื่อนๆ เวลามาสังสรรค์พบปะกัน จะได้ไม่ต้องให้เขารู้ครับว่าเราใช้แชมพูสบู่ยี่ห้ออะไร

ใต้บันไดมีกั้นเป็นห้องเก็บของด้วย

เมื่อเดินขึ้นไปชั้นบน จากบันได ให้หันขวา1ครั้ง แล้วนึกภาพตามนะครับ
ด้านหลังเราจะเป็นประตูทางเข้าอีกบาน
ด้านซ้ายจะเป็นห้องน้ำเต็มรูปแบบคือมีสุขภัณฑ์และอาบน้ำได้ (1.0 Bathroom) ใช้ร่วมกันแบบต้องเดินออกมาโถงจิ๋วข้างนอกก่อนครับ
ด้านหน้าจะเป็นห้องนอนเล็ก
ด้านขวาจะเป็นห้องนอนใหญ่

หมดแล้วครับสำหรับ Duplex 70 ตร.ม. ถ้าสนใจยูนิตแบบ Duplex ก็ลองสอบถามพนักงานขายได้ครับ มียูนิตแบบนี้เหลือไม่กี่ห้อง เป็นเอกลักษณ์ดี

หลังจากดูยูนิตแบบต่างๆ ไปจนหนำใจแล้ว เราไปดูพื้นที่ส่วนกลางกันบ้างดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

หากต้องการพักผ่อน ดูพระอาทิตย์ตกยามเย็น หรือสูบบุหรี่บนที่สูงวิวดีๆ ก็เข้ามาใช้บริการที่ Sky Deck ชั้น 18 ได้ (ตึก D และ E)โดยติดต่อที่นิติบุคคลเกี่ยวกับคีย์การ์ดเพื่อเข้าสู่ชั้นนี้ก่อนในครั้งแรก

โอเคครับ สมมุติตอนนี้เรากินอิ่ม นอนหลับในคอนโดลอยฟ้าของเราเรียบร้อยแล้ว เรารู้สึกว่าน้ำหนักตัวเริ่มเพิ่มขึ้น ไปครับ เราลงไปออกกำลังกายเผาผลาญแคลอรีที่ Fitness Center และว่ายน้ำที่ Swimming Pool กันดีกว่า ไปที่บริเวณพื้นที่ส่วนกลางบน Rooftop ของอาคารจอดรถ 1 กันครับ

นี่คือหน้าตาของอาคารจอดรถครับ

เมื่อมาถึงอาคารจอดรถ กดลิฟท์ขึ้นชั้นบนสุดเลย จะพบกับสระว่ายน้ำระบบเกลือ  และ Jacuzzi วารีบำบัด ข้อดีของสระว่ายน้ำในโครงการ The Sky อยู่ตรงที่สระว่ายน้ำมีทั้งโซนโดนแดดและโซนในร่ม คนไทยชอบเล่นน้ำในร่ม ส่วนฝรั่งชอบเล่นน้ำกลางแจ้งเพราะอยากโดนแดด แล้วแต่ความชอบเลือกได้เลย

สระลึก 1.2 เมตรครับ รอบๆ จะมีเก้าอี้นอนพักผ่อน อาบแดดได้ หรือตอนเย็นๆ ค่ำๆ ก็นอนชิลๆ พักผ่อนได้ ขอบอกครับว่าตรงบริเวณนี้ ลมดีมากๆ พัดเย็นตลอด ถูกใจคนชอบสายลม ในเมืองๆ หาไม่ค่อยได้ครับโครงการที่ได้รับลมดีขนาดนี้

ถึงจะไม่มี Sauna และ Steam Room แต่โครงการก็ยังมีตู้ล็อกเกอร์และห้องน้ำและห้องอาบน้ำด้วยครับ สำหรับผู้อยู่อาศัยที่ต้องการเก็บของมีค่าขณะว่ายน้ำ

เดินขึ้นมาอีกหนึ่งสเต็ปเจอ Fitness Center ที่กว้างขวาง มีเครื่องออกกำลังกายครบทั้ง Cardio (พื้นลามิเนต) และ Weight Training (พื้นพรม) ตรงพื้นพรมสามารถออกกำลังกายที่พื้นได้ไม่เจ็บ มี Treadmill ให้วิ่งเพลินๆ มองออกไปเห็นวิวสระว่ายน้ำ และที่สำคัญฟิตเนสที่นี่แอร์เย็นครับ ไม่ร้อนตับแตก

โครงการ The Sky Sukhumvit ปัจจุบันใช้นิติบุคคลของบริษัท Knight Frank บริหารจัดการอยู่ครับ ค่าส่วนกลางอยู่ที่ 35 บาทต่อตารางเมตร ถือว่ายังไม่แพง

พามาดูทะลุปรุโปร่งมาเยอะแล้ว นั่งพักก่อนครับ ทีนี้มาดูราคากันบ้างดีกว่าว่าจะสักกี่บาทกันเชียวนะ ราคาของ The Sky Sukhumvit ที่นี่อยู่ประมาณดังนี้ครับ (ราคาเมื่อเมษายน 2559)

ตึก A ห้อง 1 Bedroom (25-30 ตร.ม.) ชั้นเตี้ยๆ 3-8 ขายห้องโปรโมชั่นกันที่ 110,000 บาท/ตารางเมตร

ตึก A ห้อง 1 Bedroom (30-34 ตร.ม.) ชั้นสูงๆ 14,22 ขายกันที่ราคา 115,000-120,000 บาท/ตารางเมตร

ตึก C ห้อง 2 Bedroom (44 ตร.ม.) ชั้น 16 ขายห้องโปรโมชั่นกันที่ราคา 133,000 บาท/ตารางเมตร

ตึก E ห้อง MOFF 1 Bedroom (42 ตร.ม.) ชั้น 9 ขายห้องโปรโมชั่นกันที่ราคา 115,000 บาท/ตารางเมตร

ตึก E ห้อง MOFF 1 Bedroom (57 ตร.ม.) ชั้น 11 ขายห้องโปรโมชั่นกันที่ราคา 121,000 บาท/ตารางเมตร

ตึก E ห้อง MOFF 2 Bedroom (42 ตร.ม.) ชั้น 18 ขายห้องโปรโมชั่นกันที่ราคา 152,000 บาท/ตารางเมตร

ตึก B ห้อง Duplex (68 ตร.ม) ชั้น 19 ขายห้องโปรโมชั่นกันที่ราคา 139,000 บาท/ตารางเมตร

ครั้งแรกที่เห็นราคาก็ถือว่าแอบตกใจเหมือนกัน ซึ่งราคานี้สามารถมองหาโครงการในทำเล Midtown ได้เลยทีเดียว แต่เรื่องนี้แล้วแต่ความชอบในทำเลของแต่ละคน บางคนชอบ Downtown เขตในเมืองเลย แต่บางคนพอใจชอบ Uptown เพราะเป็นทำเลที่ใช่มากกว่าและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

The Sky Sukhumvit คือคอนโดมิเนียมที่น่าซื้อมากที่สุดในย่านใจกลาง Bangna District จริงหรือไม่?

The Sky Sukhumvit มีจุดเด่นตรงที่ติด Bangkok Mall แทบจะเรียกได้ว่าเป็นคอนโดฯ ที่มีห้างอยู่ชั้นล่างเลยทีเดียว และถ้าโครงการฯ สามารถประสานงานให้ทำประตูลัดเข้าสู่ห้างได้จริงๆ แบบนี้จะ Perfect ดีมากๆ แต่จุดเด่นที่กล่าวมานี้ต้องอาศัย “เวลา” เป็นเครื่องพิสูจน์ เราต้องอดทนรอคอย ถ้าเมื่อไหร่ที่ Bangkok Mall เริ่มก่อสร้างจริงเมื่อใด เวลานั้นแหละที่ราคาและความต้องการ Real Demand ที่พักอาศัยย่านนี้จะเพิ่มขึ้นมาทันที ส่วนตอนนี้โครงการ Bangkok Mall มีแต่ที่ดินเปล่าๆ โล่งๆ ว่างๆ มันยังมองเห็นไม่ชัดเป็นตัวเป็นตน อาจจะทำให้เราระมัดระวังในการตัดสินใจมากหน่อยอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติครับ แต่ด้วยเครดิตและชื่อเสียงที่ดีของ The Mall Group เจ้าของโปรเจค Bangkok Mall ความเห็นส่วนตัวผมค่อนข้างเชื่อมั่นว่า Bangkok Mall จะได้สร้างจริง แต่อาจจะต้องรอหลังจากที่กลุ่มบริษัท The Mall สร้าง EmDistrict ครบสมบูรณ์เสร็จแล้วอีกสักพักหน่อย ซึ่ง ณ ปัจจุบันก็คงต้องรอกันต่อไป

โครงการ The Sky Sukhumvit อาจไม่เหมาะกับนักลงทุนสายปล่อยเช่า เพราะความต้องการเช่าห้อง 1 Bedroom ในราคา 25,000 บาทในย่านบางนานั้นแทบไม่มี เพราะหากจะเช่าในราคาขนาดนี้ทางเลือกอื่นๆ เช่น เช่าบ้านเดี่ยวอาจจะตอบโจทย์มากกว่า แต่โครงการนี้เหมาะกับนักลงทุนสายลุ้น Capital Gain ที่มีสายป่านยาวมาก เพราะราคาจะปรับตัวสูงขึ้นได้อีกเพราะเหตุผลเรื่อง Bangkok Mall ที่กล่าวไปแล้ว (โครงการคอนโดมิเนียมติดห้างในกรุงเทพฯ มีไม่มากนัก ทำให้ความต้องการมีสูงขึ้นอีกถ้าห้างสร้างเสร็จพร้อมให้บริการ)

นอกจากนี้ The Sky Sukhumvit เหมาะกับผู้ที่พอใจซื้อเพื่อใช้พักอาศัยเองจริง โดยโฟกัสกลุ่มไปที่เศรษฐีฝั่งตะวันออก เช่น สมุทรปราการ ชลบุรี พัทยา สัตหีบ ระยอง จันทบุรี และกลุ่มรายได้สูงที่ทำงานแถว ABAC บางนาและสุวรรณภูมิ เป็นกลุ่มที่ซื้อเอาไว้เป็นบ้านหลังที่สองหรือซื้อเพื่อเก็บเป็นทรัพย์สินรอขายในอนาคตแต่ระหว่างรอขายในอนาคตก็ใช้พักชั่วครั้งชั่วคราวได้ด้วย เป็นกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ประจำ แต่เดินทางไปๆ มาๆ ที่ต้องการพักทำเลในจุดเชื่อมต่อเมืองใหญ่ทั้งสองเมือง

หากสนใจความแปลกใหม่ของยูนิตสไตล์เพดานสูง แบบ MOFF ของโครงการ The Sky Sukhumvit ก็ลองขับรถเข้าไปเยี่ยมชมห้องสร้างเสร็จจริงได้เลยที่สำนักงานขายครับ