Source - ทันหุ้น (Th) Monday, July 27, 2015  09:14  KTP ทุนใหญ่ฝรั่ง-ไทยตบเท้าขอร่วมทุน และแบ็กดอร์ เผยปัจจุบันบริษัทแม่สิงคโปร์ยังกอดหุ้นแน่น ฟากบอร์ดคอนเฟิร์มภายในปี 2560 ล้างขาดทุนเกลี้ยง 1.22 พันล้านบาท พร้อมแจกปันผล หลังกางแผนเชิงรุกลุยโครงการเดิม 4-5 พันล้านบาท แถมขยายไลน์ผุดคอนโดริมรถไฟฟ้าเตรียมบินลัดฟ้าโรดโชว์ต่างแดนซุ่มซื้อสินทรัพย์สำนักงานให้เช่าย่านธุรกิจดังปี 2558 นี้ ฟากโบรกส่องต้าน 3.10 บาท แหล่งข่าวจาก บริษัท เคปเปล ไทย พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ KTP เปิดเผยกับ "หนังสือพิมพ์รายวันทันหุ้น" ว่า ขณะนี้มีกลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงกลุ่มทุนอุตสาหกรรมอื่นๆ ให้ความสนใจเข้ามาเจรจาขอเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัท ทั้งนี้การเข้ามาเจรจานั้นเป็นทั้งการเสนอขอร่วมทุน, ซื้อกิจการ (เทกโอเวอร์) และแบ็กดอร์อย่างไรก็ดีทางบริษัทแม่ KEPPEL LAND สิงคโปร์ยังไม่ได้ตัดสินใจขายหุ้น KTP แต่อย่างใด (ล่าสุด KEPPEL LAND ถือหุ้นใหญ่ ใน KTP จำนวน 100 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 45.57%) รุกขยายฐาน-ล้างขาดทุนสะสม สำหรับภาพรวมธุรกิจของ KTP นั้น คณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) ตั้งเป้าภายในปี 2560 จะต้องล้างขาดทุนสะสมให้เป็นผลสำเร็จที่ 1.22 พันล้านบาท เพื่อพิจารณาจ่ายปันผลเป็นครั้งแรก โดยบริษัทจะใช้วิธีเร่งเดินหน้าธุรกิจเชิงรุกในระยะ 1-2 ปีนี้ อาทิ การขยายการลงทุนโครงการบ้านเดี่ยวระบบไฮเอนด์ที่มีอยู่  2 แห่ง มูลค่าประมาณ 4-5 พันล้านบาท อาทิ 1. "โครงการ วิลล่า อะคาเดีย ศรีนครินทร์" แบ่งเป็น 2 เฟส มูลค่ารวม 2.8 พันล้านบาท ซึ่งเฟส 1 มีจำนวนบ้านทั้งหมด 209 หลัง มียอดขายแล้ว 94.2% ซึ่งยังทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง และเฟส 2 มีจำนวนบ้านทั้งหมด 156 หลัง ก่อสร้างแล้ว 55 หลัง มียอดขายแล้วประมาณ 70.9% ราคาเฉลี่ย 8 ล้านบาทต่อหลัง โดยคงเหลือบ้านอีก 101 หลัง ปัจจุบันอยู่ระหว่างเริ่มก่อสร้างและทีมผู้บริหารเองจะเร่งเดินหน้าเพื่อเปิดโครงการอย่างเต็มที่ ส่วน 2. "โครงการ วิลล่า อะคาเดีย วัชรพล"บ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์บนเนื้อที่ 78 ไร่ มีจำนวนบ้านทั้งหมด 270 หลัง ก่อสร้างแล้ว 45 หลัง มียอดขายประมาณ 60% ส่วนคงเหลือ 225 หลังนั้น ทีมผู้บริหารอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะปรับเปลี่ยนรูปแบบบ้านหรือไม่ เพราะพื้นที่ในโซนดังกล่าวมีอัตราการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันซึ่งมูลค่าที่ดินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นทีมผู้บริหารจะพิจารณาก่อสร้างบ้านในโครงการนี้อย่างรอบคอบ อย่างไรก็ดีเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะสร้างฐานกำไรและรายได้สูงมากในอนาคต ซื้ออาคาร-โรดโชว์ตปท. นอกจากนี้บริษัทยังมีโครงการอาคารให้เช่า อย่าง "อาคาร จูเวลเลอรี่ เซ็นเตอร์" บริษัทได้ถือกรรมสิทธิพื้นที่ 12,145.64 ตารางเมตร หรือคิดเป็น 28.36% ของพื้นที่อาคารทั้งหมด หรือมีอัตราการเช่าประมาณ 58% ซึ่งบริษัทไม่มีนโยบายเจรจาซื้อพื้นที่อาคารเพื่อปล่อยเช่าเพิ่ม เนื่องจากปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาซื้อสินทรัพย์ ซึ่งเป็นสำนักงานให้เช่าใน ในโซน Central Business Distric หรือ CBD ย่านธุรกิจในกลางเมือง อาทิ สีลม, สาทร, สุขุมวิท, เพลินจิต, ชิดลม, พหลโยธิน เป็นต้น แต่ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจายังไม่ได้ข้อสรุปแต่จะพยายามให้ทันภายในปี 2558 นี้ นอกจากนี้บริษัทมีแผนขยายไลน์ธุรกิจ อาทิ อยู่ระหว่างมองหาและเจรจาซื้อที่ดิน เพื่อเปิดโครงการคอนโดมิเนียม ริมแนวรถไฟฟ้า และในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่ KEPPEL LAND และ บริษัทจะร่วมมือกันนำโครงการนี้ไปโรดโชว์ในต่างประเทศด้วย แหล่งข่าว KTP กล่าวเสริมว่า สำหรับฐานเงินทุนในการขยายฐานธุรกิจนั้น แม้ว่าขณะนี้บริษัทมีขาดทุนสะสมสูงถึง 1.22 พันล้านบาท และ มีอัตราหนี้สิน (D/E) สูงถึง 6.90 เท่า แต่ปัจจุบันบริษัทมีเครดิตกับกลุ่มสถาบันการเงินที่พร้อมจะสนับสนุนวงเงินกู้ พร้อมกันนี้ KEPPEL LAND มีฐานเงินทุนแข็งแกร่งสามารถซัพพอร์ตได้ด้วย นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซียไซรัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น KTP ในช่วงนี้ ฝ่ายวิจัยแนะนำ"เก็งกำไร" โดยมองกรอบแนวต้านไว้ที่ 3.00-3.10 บาท และแนวต้านถัดไปที่ 3.20 บาท ส่วนแนวรับที่ 2.80-2.70 บาท ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น KTP ปิดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ก.ค. 58) ที่ 2.96 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท หรือ 0.68% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 318,000 บาท