แสนสิริ แรงต่อเนื่อง กระตุ้นตลาดอสังหาฯ Q3 ชี้โอกาสทองคนอยากมีบ้านและลงทุน ส่งแคมเปญ “ลดแรง” สูงสุด 5 ล้าน จ่าย 0 บาท นานสูงสุด 24 เดือน* มั่นใจโกยยอดขายไตรมาส 3 ตามเป้า 6,100 ลบ. ดันยอดขายรวมทั้งปีทะลุ 35,000 ลบ.
– แสนสิริ กระตุ้นตลาดอสังหาฯ เดินเกมส์รุกไตรมาส 3 ส่งแคมเปญ “ลดแรง” นาทีทองเอาใจคนอยากมีบ้านทั้งอยู่อาศัยเองและเพื่อลงทุน กับทัพโครงการพร้อมอยู่จากแสนสิริในราคาที่คุ้มค่า กว่า 53 โครงการคอนโดฯ บ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม
– แรงต่อด้วยแคมเปญ “ลดแรง” พัฒนาจาก Customer Insight ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า ทั้งลดภาระของคนอยากมีบ้าน ด้วยโปรโมชั่น จ่าย 0 บาท สูงสุด 24 เดือน* และลดเป็นล้านสำหรับนักลงทุน สูงสุด 5 ล้านบาท ตลอดไตรมาส 3
– มั่นใจโกยยอดขายไตรมาส 3 ที่ 6,100 ล้านบาท ทะยานสู่เป้ายอดขายรวม 35,000 ลบ. ยืนหยัดความแข็งแกร่ง “แบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน” และเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงทุกคน
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
“จากภาพรวมดีมานต์ที่อยู่อาศัยที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่องและความสำเร็จของแคมเปญที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อแสนสิริ ในฐานะแบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน อีกทั้งมาตรฐานการออกแบบและคุณภาพโครงการ และบริการหลังการขาย จึงนำมาสู่การพัฒนาแคมเปญ “ลดแรง” ในไตรมาส 3 ซึ่งนับเป็นการสานต่อกลยุทธ์ความแข็งแกร่งของแสนสิริ ที่เข้าใจถึง Customer Insight เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าในปัจจุบันทั้งที่อยากมีบ้านเป็นของตนเองและกลุ่มนักลงทุน ด้วยการลดภาระในการผ่อนที่อยู่อาศัย จ่ายเพียง 0 บาท นานสูงสุด 24 เดือน* รวมถึงมอบส่วนลดเป็นล้าน สูงสุดถึง 5 ล้านบาท* สำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสในการลงทุนในปัจจุบัน
“จากการตอบรับที่ดีของลูกค้าในความเชื่อมั่นของแบรนด์แสนสิริ และการดำเนินธุรกิจ ด้วยกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ลูกค้าให้การตอบรับอย่างสูงและรวดเร็ว ประกอบกับการบริหารจัดการสต๊อกที่ดี ทำให้แสนสิริสามารถปิดการขายโครงการที่อยู่อาศัยไปแล้วถึง 23 โครงการ ตอกย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์แสนสิริ ทำให้ในไตรมาส 3 นี้ บริษัทฯ เร่งเดินหน้าการขายโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ให้เร็วกว่าเดิม โดยสถานการณ์อสังหาฯ ในช่วงไตรมาส 3 กลุ่มลูกค้ายังคงมีความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเพื่ออยู่อาศัยเองและกลุ่มนักลงทุน ในขณะที่สถานการณ์ภาพรวมทางเศรษฐกิจอาจทำให้ลูกค้าบางส่วนมีความกังกล อาทิ กลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อเพื่อการอยู่อาศัยเองมีความกังวลเรื่องภาระที่ตามมา หรือมีความกังวลในเรื่องการกู้ ตลอดจนมีความกังวลในเรื่องการผ่อนจ่าย หรือกลุ่มนักลงทุนที่อยากลงทุนแต่ยังลังเลกับสถานการณ์ในปัจจุบัน หรือมองหาสิทธิสิทธิพิเศษเช่นส่วนลด ความคุ้มค่าในการลงทุน