แสนสิริ รักษาอันดับหนึ่งผู้นำตลาด เตรียมผงาดเป็น “ผู้นำตลาดแนวราบ” ลุยไตรมาส 2 ผ่านมิติใหม่ในการขายครอบคลุมทุกช่องทางด้วย Sansiri Multi-Channel

เกริก บุณยโยธิน 09 April, 2020 at 17.01 pm

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


ชี้ กรุงเทพกรีฑา – วัชรพล – รามอินทรา ทำเลศักยภาพ ลุย 4 โครงการบ้านเดี่ยว วางเป้ายอดขายรวมไตรมาส 2 ที่ 8,500 ล้าน คาดแนวราบสดใส กวาดสัดส่วนกว่า 53% จากเป้ารวม

 

– แสนสิริรักษาความแข็งแกร่ง อันดับหนึ่งผู้นำตลาด เดินหน้ารุกเป้าหมาย “ผู้นำตลาดแนวราบ” เปิด 12 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 15,200 ล้านบาท

– เผยแผนแนวราบปี 63 รุกแบรนด์สิริ เพลส – อณาสิริ – สราญสิริ เจาะกลุ่มเรียล ดีมานต์ และคนที่อยากมีบ้านหลังแรก พร้อมรักษาความเป็นผู้นำในแบรนด์ระดับบน อาทิ บุราสิริ และ เศรษฐสิริ เพื่อรับกลุ่ม New Demand จากไลฟ์สไตล์ Social Distancing

– ชี้ กรุงเทพกรีฑา – วัชรพล – รามอินทรา ทำเลศักยภาพ ลุยทัพ 4 โครงการบ้านเดี่ยวคุณภาพ เศรษฐสิริ กรุงทพกรีฑา 2, เศรษฐสิริ วัชรพล, บุราสิริ วัชรพลและบุราสิริ ปัญญาอินทรา มูลค่ารวม 13,900 ล้านบาท ตอกย้ำความเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้านแห่งวงการอสังหาฯ ไทย

– บุกต่อไตรมาส 2 ด้วยมิติใหม่ในการขายครอบคลุมทุกช่องทางด้วย Sansiri Multi-Channel ตอบโจทย์คนอยากมีบ้านในยุคโควิด

– พร้อมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวแคมเปญ “แสนสิริผ่อนให้ สูงสุดถึง 24 เดือน” ในบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดพร้อมอยู่จากแสนสิริ 62 โครงการทั่วประเทศ เริ่มต้นเพียง 990,000 บาท

– ตอกย้ำความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยสูงสุด ในการเข้าเยี่ยมชมโครงการ คุมเข้มด้วยมาตรการ “Sansiri Care… เพราะเราห่วงใย” ที่พร้อมยกการระดับดูแลเต็มขั้นในทุกสถานการณ์

– ผนึกความเป็นผู้นำในด้าน Sansiri Service เชื่อมั่นเดินหน้าสู่เป้ายอดขายไตรมาสสอง 8,500 ล้านบาท ได้แน่นอน

นายอาณัติ  กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากความสำเร็จในการสร้างยอดขายที่สูงที่สุดในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก้าวเป็นอันดับ 1  ผู้นำอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาสแรก ด้วยยอดขาย 11,000 ล้านบาท โดยคิดเป็นยอดจากกลุ่มโครงการแนวราบถึงกว่า 4,800 ล้านบาท หรือ 44% ของยอดขายที่ทำได้ในไตรมาสแรก สะท้อนความสำเร็จจาก การได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าจนส่งผลให้เป็น “แบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน” จนส่งผลให้ปิดการขายโครงการบ้านเดี่ยวในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด กว่า 6 โครงการ ได้แก่ โครงการสราญสิริ ติวานนท์ – แจ้งวัฒนะ โครงการนาราสิริ โทเพียรี่, โครงการนาราสิริ พุทธมณฑล สาย 1, โครงการนาราสิริ บางนา, โครงการสราญสิริ เกาะแก้วและบุราสิริ เกาะแก้ว ภูเก็ต เป็นต้น

ล่าสุดในไตรมาส 2 บริษัทได้เดินหน้ารุกสู่เป้าหมายผู้นำตลาดแนวราบตอบรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ ด้วยการวางแผนเปิดตัวโครงการแนวราบในปี 2563 จำนวนทั้งสิ้น 12 โครงการ มูลค่ารวม 15,200 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 6 โครงการ มูลค่ารวม 8,600 ล้านบาท และทาวน์โฮมและมิกซ์โปรเจคต์อีก 6  โครงการ มูลค่ารวม 6,600 ล้านบาท  ทั้งนี้ แสนสิริยังคงยึดมั่นพันธกิจในการเป็นผู้นำตลาดแนวราบใน 3 ปี โดยมีกลยุทธ์ในการสร้างความแข็งแกร่ง ได้แก่ การเดินหน้ามุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพ ครอบคลุมความต้องการที่หลากหลาย ทั้งการโฟกัสในตลาดกลุ่มใหญ่ที่มีดีมานต์ (Mass Market) ด้วยการพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์สิริ เพลสและอณาสิริ เจาะกลุ่มเรียล ดีมานต์ และคนที่อยากมีบ้านหลังแรก ขณะเดียวกัน บริษัทยังพร้อมรักษาความเป็นผู้นำในแบรนด์ระดับบน อาทิ บุราสิริ และ เศรษฐสิริ เพื่อรับกลุ่ม New Demand จากกลุ่มลูกค้าที่เข้าเยี่ยมชมโครงการที่ต้องการมีบ้านใหม่เพื่อแยกครอบครัว หรือต้องการบ้านที่มีพื้นที่กว้างขี้น ซึ่งเป็นผลจากไลฟ์สไตล์ในรูปแบบ Social Distancing นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเปิดตัวบ้านรูปแบบใหม่ รวมทั้งโครงการในแนวคิดใหม่ในปีนี้ เพื่อรองรับดีมานด์และความต้องการที่ตอบโจทย์ Insight ของลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากขึ้นอีกด้วย

สำหรับ สถานการณ์ภาพรวมตลาดบ้านเดี่ยว ในปี 2019 ที่ผ่านมามีจำนวนยูนิตเปิดขายในตลาด 21,000 ยูนิต และมีดีมานต์ความต้องการอยู่ที่ 11,800 ยูนิต ซึ่งเห็นได้ว่า Supply มีจำนวนน้อยลง ขณะที่ดีมานด์ยังสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ Absorption Rate อยู่ที่ 56% สูงกว่า 3 ปีก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นว่ายังมีดีมานต์ความต้องการในโปรดักส์ ที่สามารถตอบโจทย์และตั้งอยู่ในทำเลที่ลูกค้าต้องการได้ ขณะเดียวกัน ความต้องการบ้านเดี่ยวในระดับราคา 10-20 ล้านบาท ยังเพิ่มขึ้นสูงสุดในปี 2019 ถึง 7% เมื่อเทียบกับปี 2018 และบ้านเดี่ยวระดับราคา 3-5 ล้านขายดีที่สุด ดังนั้นในปี 2020 แสนสิริจึงรุกเปิดแบรนด์สิริ เพลส ที่อยู่ในระดับราคา 3-5 ล้านบาท รวมทั้งแบรนด์เศรษฐสิริ บุราสิริ และสราญสิริ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่อยู่อาศัยระดับราคา 10 – 20 ล้านบาท นอกจากนี้ปัจจัยภายนอกที่มีผลต่อตลาดอสังหาฯ ยังมาจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 1.25% เป็น 1% ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดตั้งแต่เคยมีมา นับเป็นการกระตุ้นการลงทุน ที่ส่งผลบวกต่อตลาดอสังหาฯ ทั้งกับ Developer และผู้ซื้อ เพราะทำให้ Developer เพราะมีต้นทุนในการพัฒนาโครงการที่ถูกลง และยังเป็นการลดต้นทุนในการกู้ของผู้ซื้ออสังหา ทำให้มีกำลังในการซื้อมากขึ้น รวมถึงความผันผวนของตลาดหุ้น ซึ่งนับเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้คนมองหาการลงทุนในรูปแบบอื่นที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าและปลอดภัยกว่าในระยะยาว ซึ่งการลงทุนในอสังหาฯ ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

 

ชี้เป้า ทำเลศักยภาพ “กรุงเทพกรีฑา – รามอินทรา – วัชรพล”

“เราเชื่อมั่นว่า แบรนด์เศรษฐสิริและบุราสิริ ระดับราคา 8 – 20 ล้านบาท จะเป็นแบรนด์ที่สร้างยอดขายได้ดีในปี 2020 จากการที่กลุ่มลูกค้าระดับบนได้รับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจน้อย รวมทั้งยังมีทั้ง Real Demand และ New Demand ที่กำลังมองหาบ้านที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่เพื่อการอยู่อาศัยเองและขยับขยายครอบครัวอีกเป็นจำนวนมาก โดยทำเลที่เป็นที่นิยมของกลุ่มลูกค้าระดบบน ได้แก่ โซนกรุงเทพกรีฑา- รามอินทรา- วัชรพล  ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพสำหรับลูกค้าระดับบนซึ่งคาดว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีจากการตั้งอยู่ใกล้ศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) และมีปัจจัยบวกสนับสนุนทั้งในด้านคมนาคมและขนส่งสาธารณะ ใกล้ทางด่วนเชื่อมต่อการเดินทางทุกเส้นทาง แวดล้อมด้วยสถานศึกษา โรงพยาบาลและแหล่งไลฟ์สไตล์ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของทุกวัย ทั้งนี้ สิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าทำเลนี้ ได้รับความนิยมในการอยู่อาศัย คือ ราคาที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโซนรามอินทราและวัชรพลที่ราคาเพิ่มขึ้นจาก 88,000 บาท/ ตร.วา ในปี 2015 เป็น 127,500 บาท/ ตร.วาในปี 2019 หรือเติบโตขึ้นถึง 70% ภายในระยะเวลา 5 ปี ส่วนโซนกรุงเทพกรีฑาก็มีดีมานด์สูงขึ้นต่อเนื่อง เพราะเป็นทำเลที่ใกล้ CBD ที่สุด พิสูจน์ได้จากการปิดการขายโครงการเศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา1 มูลค่าโครงการ 4,300 ล้านบาท ทำให้แสนสิริเชื่อมั่นว่ายังความต้องการอีกมาก จึงได้เปิดตัวโครงการเศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา2 ขึ้นเพื่อรองรับดีมานด์ใหม่ต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ในสถานการณ์ปัจจุบัน อาจจะส่งผลกระทบต่อยอดขายของบางโครงการบ้าง แต่สำหรับแสนสิริยังมียอดขายและยอดเยี่ยมชมโครงการต่อเนื่อง รวมทั้งทำการขายได้ดี เห็นได้จากยอดขายที่เกินเป้าหมายในช่วงไตรมาสแรก ซึ่งเราเชื่อว่าในไตรมาส 2 จะมีการตอบรับดีเช่นกัน ด้วยคุณภาพสินค้า ทำเล และโปรโมชั่นที่พัฒนามาจาก insights ของลูกค้า” นายอาณัติ กล่าว

สำหรับโครงการบ้านเดี่ยวที่ตอบรับดีมานต์ความต้องการในทำเลนี้ ได้แก่ โครงการ “เศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา 2” ต่อยอดความสำเสร็จจากโครงการแรก เศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 4,300 ล้านบาท ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพที่แวดล้อมด้วยระบบคมนาคมที่สะดวกสบาย สามารถเดินทางเข้าสู่ศูนย์กลางธุรกิจย่านพระราม 9 (New CBD) ได้ง่ายดาย ใกล้กับทางด่วนศรีรัช และเพียง 2.3 ก.ม. ถึงรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 เพียง 3.5 ก.ม. ถึงรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2563 ทั้งยังเชื่อมต่อด้วยถนนสายสำคัญต่างๆ เข้าสู่เมือง เช่น ถนนศรีนครินทร์, ถนนรามคำแหง, ถนนกรุงเทพกรีฑา, ถนนพระรามเก้า–มอเตอร์เวย์และถนนพัฒนาการ นอกจากนี้ยังแวดล้อมด้วยสังคมคุณภาพที่ประกอบไปด้วยโรงเรียนนานาชาติชั้นนำ อาทิ ไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพ ซึ่งอยู่ใกล้เพียง 900 ม. และเวลลิงตัน คอลเลจ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุงเทพฯ โรงพยาบาลชั้นนำ อาทิ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ และการเปิดตัวคอมมูนิตี้มอลล์ในอนาคต ที่จะมาเติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและผนึกกำลังเพื่อพัฒนาทำเลสู่การเป็นเมืองเพื่อการอยู่อาศัยที่ดีที่สุด โครงการได้รับการตอบรับที่ดีจนส่งผลให้ปิดการขายโครงการในเฟสแรก มูลค่ากว่า 570 ล้านบาท และเปิดการขายในเฟสที่ 2 ต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าโครงการรวมกว่า 3,500 ล้านบาท

 

โครงการ เศรษฐสิริ พหล-วัชรพล มูลค่าโครงการ 3,700 ล้านบาท เพียง 5.5 กิโลเมตร ถึงรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ส่วนต่อขยาย (หมอชิต-คูคต) สถานีสายหยุด ที่สามารถวิ่งตรงเข้าใจกลางเมืองได้ ทั้งสยาม ชิดลม ทองหล่อ โดยไม่ต้องสลับสายรถไฟฟ้า ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2563 นี้ โครงการตั้งอยู่บนถนนเทพรักษ์ ซึ่งเป็นถนนตัดใหม่ที่เชื่อมสู่ถนนพหลโยธิน ทำให้การเดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวก นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อถนนหลักอีก 2 เส้น คือ ถนนวัชรพลและถนนรามอินทรา ซึ่งมีความคึกคักในการเป็นย่านที่อยู่อาศัยและแหล่งรวมคอมมูนิตี้ต่างๆ นอกจากนี้ยังตั้งอยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ทำให้การเดินทางสะดวกอีกด้วย

 

โครงการ บุราสิริ วัชรพล มูลค่าโครงการ 3,200 ล้านบาท โครงการตั้งอยู่บนทำเลวัชรพลซึ่งเป็นทำเลที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมมากว่า 10 ปี โดยแสนสิรินับเป็นผู้บุกเบิกพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวในทำเลนี้ด้วยการเปิดตัวโครงการ “นาราสิริ วัชรพล” ที่เป็นบ้านเดี่ยวโครงการแรกของแสนสิริ นับเป็นทำเลที่มีการเติบโตมากที่สุดอีกหนึ่งทำเล และมีความคึกคักด้านการแข่งขันสูงจากเป็นทำเลทองของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกตอนเหนือ จากความสะดวกในการเดินทาง ที่สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้ง่าย นอกจากนี้ โครงการบุราสิริ วัชรพล ยังตั้งอยู่ใกล้กับถนน สุขาภิบาล 5 ที่รายล้อมไปด้วยทางพิเศษ อาทิ ทางด่วนรามอินทรา- อาจณรงค์ และยังเชื่อมต่อกับถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันออกรอบนอก) ที่สามารถเดินทางไปยังพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ ได้ โครงการยังตั้งอยู่ใกล้ กับสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (หมอชิต-คูคต) สถานีสายหยุด ที่กำหนดเปิดให้บริการในปี 2563 นี้

 

โครงการ บุราสิริ ปัญญาอินทรา มูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท ตั้งอยู่ในทำเลย่านปัญญาอินทรา ซึ่งแสนสิรินับเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายแรกๆ ที่เริ่มต้นพัฒนาโครงการในย่านดังกล่าวจนประสบความสำเร็จ ตั้งแต่โครงการเศรษฐสิริ รามอินทรา, โครงการสราญสิริ รามอินทรา, โครงการฮาบิเทีย โมทีฟ ปัญญาอินทรา และโครงการพร้อมพัฒน์ ไพร์ม เป็นต้น เนื่องจากโซนที่อยู่อาศัยในย่านดังกล่าวเป็นทำเลที่มีศักยภาพใกล้กับจุดเชื่อมต่อสู่ถนนสายหลัก ทั้งรามอินทรา, ถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันออก), เกษตร-นวมินทร์, เสรีไทย, วิภาวดี-รังสิต และทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ มีศูนย์การค้ารายล้อมทั้งแฟชั่นไอส์แลนด์, เซ็นทรัล รามอินทรา, เดอะ พรอเมนาด จากการตอบรับที่ดีจึงส่งผลให้มียอดขายโครงการนี้ไปแล้วถึง 70%

 

จากความเข้าใจถึงสถานการณ์ปัจจุบัน และความเข้าใจใน Customer Insight บริษัทยังได้เปิดตัวแคมเปญในช่วงไตรมาส 2  “แสนสิริผ่อนให้ สูงสุดถึง 24 เดือน” เพื่อช่วยให้ลูกค้ามีบ้านง่าย ไม่มีภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อนที่อยู่อาศัย สบายใจได้นานตลอดระเวลา 2 ปี และสามารถนำเงินไปใช้จ่ายอื่นได้ เพราะแสนสิริผ่อนให้ ทั้งต้น ทั้งดอก นานสูงสุด 24 เดือน ครอบคลุมถึง 62 โครงการพร้อมอยู่ ทั่วประเทศ พร้อมรับข้อเสนอดีๆ อีกมากมาย อาทิ ฟรีค่าส่วนกลางนานสูงสุด 1 ปีพร้อมรับ Give Voucher สูงสุด 100,000 บาท สำหรับโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม และฟรีค่าส่วนกลางนาน  2  ปี สำหรับคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่จากแสนสิริ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ตั้งแต่ 3 เมษายน จนถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้ ยังรวมไปถึงรุกการขายในทุกช่องทางตอบโจทย์คนอยากมีบ้านในยุคโควิด ด้วย Multi-Channel ซื้อขายครบในทุกช่องทาง และซื้อและเยี่ยมชมโครงการ ง่ายแค่ปลายนิ้ว ได้แก่ ช่องทางที่1 : Sansiri Virtual Sales Gallery เยี่ยมชมโครงการเสมือนจริงบน www.sansiri.com, แสนสิริ ไลน์ ออฟฟิเชียล ช่องทางที่ 2 Line Official Account สนในโครงการไหน แชทคุยได้ตลอดที่ @Sansiriplc ช่องทางที่ 3 Facebook Sansiri PLC เกาะติดทุกข่าวสารทักผ่าน inbox ได้เลย ช่องทางที่ 4 Visit Site เยี่ยมชมโครงการแบบ private tour ที่ทั้งปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ช่องทางที่ 5 24 Hrs. Online Booking จองคอนโดออนไลน์ได้ง่ายๆ ตลอด 24 ชั่วโมง และช่องทางที่ 6 Call Centre อยากรู้เรื่องไหน แสนสิริพร้อมดูแล ที่โทร 1685

 

แสนสิริ ยังได้เตรียมพร้อมรับมือ Covid-19 อยู่เสมอ โดยได้ผนึก พลัส พร็อพเพอร์ตี้ วางมาตรการเน้นย้ำความปลอดภัยและสุขอนามัยของลูกบ้าน ลูกค้า พนักงานและพันธมิตร ซึ่งนับเป็นหัวใจสำคัญ โดยชูแนวทาง “Sansiri Care เพราะเราห่วงใย” เตรียมความพร้อมในการป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยยกระดับ 3 มาตรการแบบเต็มขั้น ได้แก่ มาตรการการป้องกัน การดูแล และการรับมือ ครอบคลุมทั้งในด้านความสะอาด, การอำนวยความสะดวกและเตรียมพร้อมรับมือ พร้อมจัดตั้งทีมงานศึกษา และติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัยทั้งในโครงการและในทุกสำนักงานขาย เพราะความปลอดภัยของลูกบ้าน และลูกค้าที่มาเยี่ยมชมโครงการเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญสูงสุด

 

“ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา และกลยุทธ์ที่มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าในกลุ่มเรียลดีมานต์ รวมถึงการเป็น “แบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน” ทั้งในด้านคุณภาพ ดีไซน์ รวมถึงการบริการหรือ Sansiri Service จากการมอบบริการที่ดีที่สุดทั้งก่อนและหลังการขาย รวมถึง LIV-24 ที่ดูแลความปลอดภัยส่งตรงจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง มาตรฐานแสนสิริที่พร้อมดูแลทุกจุดในโครงการ พร้อมพริวิเล็จมากมายจากแสนสิริ แฟมิลี่ ทำให้เชื่อมั่นว่า บริษัทจะสามารถสร้างยอดขายในช่วงไตรมาส2 ได้ถึง 8,500 ล้านบาทตามที่วางไว้ โดยแบ่งเป็นยอดขายโครงการแนวราบ 4,500 ล้านบาท และยอดขายโครงการคอนโดมิเนียม 4,000 ล้านบาท” นายอาณัติ กล่าว

เกริก บุณยโยธิน

เกริก บุณยโยธิน

ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ

เว็บไซต์

นิว โนเบิล ไฟฉาย - วังหลัง

แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด บางนา-ก...

ศุภาลัย พรีเมียร์ สามเสน-ราชวัตร

ทำเลสามเสน – ราชวัตร เป็นทำเลที่ยังคงมีความเป็นศูนย์...

3 April, 2024

โซลเลซ พหลฯ-ประดิพัทธ์

SOLACE ในภาษาอังกฤษสื่อถึง สิ่งที่ช่วยปลอบประโลมจิตใ...

19 March, 2024

นิว เวิร์ส กรุงเทพกรีฑา

ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาต้องบอกว่าย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม...

28 February, 2024

นิว ซี-สแควร์ สวนหลวง สเตชั่น

ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านมาพบกับโครงการคอนโดพร้อมอ...

30 January, 2024

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง