ยูเนี่ยนเพย์ ตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคไทย ตั้งเป้าขยายบริการ การชำระเงินแบบไร้สัมผัสไปยังท้องถิ่น
วิถีชีวิตแบบ New-Normal ถือเป็นตัวเร่งให้อัตราการใช้บริการชำระเงินแบบดิจิทัลสูงขึ้นอย่างไม่เพียงแต่ในประเทศไทยแต่ส่งผลไปทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนหนึ่งเพราะหน่วยงานภาครัฐและบุคลากรทางการแพทย์ต่างสนับสนุนให้ผู้บริโภคหันมาใช้การชำระเงินแบบดิจิทัลเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัส พร้อมกับเทคโนโลยีการชำระเงินแบบไร้สัมผัสที่ถูกพัฒนาออกมาโดยสามารถชำระเงินแบบไร้สัมผัสได้ผ่านโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สวมใส่ได้ผ่านเทคโนโลยี NFC
จากข้อมูลของ Global Data เผยว่าตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยมีแนวโน้มในการเติบโตและเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มนักช็อปคนไทย และจากข้อมูลของ Statista ได้คาดการณ์ว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยคาดว่าจะทำกำไรได้สูงถึง 8,900 ล้านดอลล่าสหรัฐภายในปี 2564 ซึ่งหนึ่งในปัจจัยเกื้อหนุนมาจากการที่เทคโนโลยีด้านการชำระเงินดิจิทัลยังได้มีการพัฒนาระบบด้านความปลอดภัยและยกระดับประสบการณ์การใช้งานอย่างต่อเนื่องและผู้บริโภคเปิดรับการใช้งานชำระเงินแบบไร้เงินสดมากยิ่งขึ้น โดยกว่า 88% ของผู้บริโภคที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตมากกว่าการเก็บเงินปลายทาง และการชำระเงินด้วย QR Code คาดว่าจะแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นกว่า 23% ในปี 2564
ยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เข้าใจและได้เล็งเห็นถึงแนวโน้มของพฤติกรรมผู้บริโภคในการใช้บริการการชำระเงินแบบดิจิทัลจึงได้ยกระดับการใช้บริการการชำระเงินแบบไร้สัมผัส UnionPay QuickPass โดยได้ขยายการใช้งานฯ ผ่านความร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ อาทิ เซเว่น อีเลฟเว่น (7-Eleven), หัวเว่ยเพย์ (HuaweiPay) และธนาคารไอซีบีซี (ไทย) (ICBC Thai) และยังคงเดินหน้าพัฒนาและยกระดับประสบการณ์การใช้งานอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งจากการเพิ่มช่องทางการใช้จ่ายที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น ประกอบกับพฤติกรรมมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ยอดการทำธุรกิจออนไลน์ผ่านบัตรยูเนี่ยนเพย์ปรับตัวสูงขึ้นถึง 24% ในขณะที่จำนวนการใช้จ่ายผ่านธุรกรรมออนไลน์เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าเมื่อเปรียบเทียบในช่วงเวลาระหว่าง ไตรมาสที่ 1 ของปี 2563 กับ ไตรมาสที่ 1 ของปี 2564 ซึ่งหมวดหมู่ที่ถูกใช้งานสูงที่สุดคือ การสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน (Food Delivery Platform)