All New!…พาชมอัพเกรดครั้งล่าสุดของ ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแยกไฟฉาย คอนโดใหม่ใกล้ศิริราชที่มีราคาดีที่สุด

พื้นที่ฝั่งธนบุรีในวันนี้กำลังถูกพลิกโฉมหน้าจากย่านที่อยู่อาศัยเก่า มาเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่ถูกพัฒนาและยกระดับให้ทันสมัยมากขึ้น แถมยังเดินทางสะดวก มีทางเลือกหลากหลายมากกว่าในอดีต เพราะมี การพัฒนาจากภาครัฐที่ส่งเสริมการคมนาคมให้สะดวกมากยิ่งขึ้น ทั้งทางรถยนต์ รถไฟฟ้า และการเดินทางทางเรือ ที่มีการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน รถไฟฟ้าสายสำคัญของกรุงเทพฯ ที่วิ่งเชื่อมฝั่งธนฯและฝั่งกรุงเทพฯเข้าไว้ด้วยกัน แถมยังสามารถเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายอื่นๆทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้ครบทุกสาย มีการสร้างถนนพระเทพฯตัดใหม่ พรานนก-พุทธมลฑลสาย 4 ยาวเข้ามาสู่พื้นที่ฝั่งธนฯ เพื่อการเดินทางเข้าเมืองที่สะดวกและรวดเร็ว อีกทั้งเส้นนี้ยังสามารถเชื่อมต่อไปยังโรงพยาบาลศิริราช ศูนย์การแพทย์อันดับต้นๆของประเทศ ได้อีกด้วย จากการพัฒนาอย่างหลากหลายทำให้พื้นที่ฝั่งธนบุรีกลับมาถูกจับตามองอีกครั้งในสายตานักลงทุน จึงทำให้เห็นการพัฒนาในช่วงนี้อยู่ไม่น้อยที่เกาะตามแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน หรือถนนจรัญสนิทวงศ์ โดยเฉพาะช่วงจุด Interchange ที่ถูกจับจองและเปิดตัวโครงการกันไปไม่น้อย แต่เมื่อขึ้นชื่อว่า Interchange ก็ย่อมมีความหนาแน่นและวุ่นวายอยู่ไม่น้อยในพื้นที่โดยรอบ จึงอาจไม่ตอบโจทย์กับคนที่ชอบความสงบ แต่ยังคงเดินทางได้หลากหลายบนทำเลนี้อยู่

หนึ่งในแบรนด์ developer ที่เลือกพื้นที่ย่านฝั่งธนฯมาพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์คนฝั่งธนฯ ก็คือ ศุภาลัย ที่ในช่วงเดือนหน้านี้ มีเปิดโครงการใหม่ถึง 3 โครงการ ซึ่งอยู่บนพื้นที่ฝั่งธนฯทั้งหมด ทั้ง ศุภาลัย ปาร์ค สถานีตลาดพลู ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแยกไฟฉาย และ ศุภาลัย พรีเมียร์ ถนนเจริญนคร แต่โครงการหนึ่งที่ตั้งอยู่บนทำเลที่น่าสนใจไม่น้อย คือ ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแยกไฟฉาย หรือ Supalai Loft Yaek Fai Chai station

ที่ตั้งอยู่บนถนน ถนนพระเทพฯตัดใหม่ พรานนก-พุทธมลฑลสาย 4 ถนนสายสำคัญที่ตัดตรงเชื่อมพื้นที่ชานเมืองฝั่งตะวันตกกับพื้นที่เมืองชั้นในให้เดินทางเชื่อมต่อกันโดยง่าย ทำให้ตลอดเส้นทาง ส่วนใหญ่ถูกพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวราคาแพง เพราะ ข้อจำกัดด้านผังเมืองที่หากเลยจากโครงการไปก็พัฒนาได้แค่บ้านเดี่ยวเกิน 100 ตารางวาขึ้นไป แต่บริเวณสี่แยกไฟฉายเป็นพื้นที่หัวมุมเดียวบนถนน ถนนพระเทพฯ พรานนก-พุทธมลฑลสาย 4 ที่สามารถขึ้นอาคารสูงได้ ทำให้ Supalai Loft Yaek Fai Chai station นอกจากจะตั้งอยู่ใกล้สถานีแยกไฟฉายแล้ว ยังเป็นคอนโดแห่งแรกและแห่งเดียวที่ตั้งอยู่บนถนน ถนนพระเทพฯตัดใหม่ พรานนก-พุทธมลฑลสาย 4 อีกด้วย จึงน่าจะการันตีได้ว่าจะไม่มีอาคารสูงมาบดบังวิวในระยะใกล้ได้เลย

Supalai Loft Yaek Fai Chai station (ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแยกไฟฉาย) ตั้งอยู่ติดถนน ถนนพระเทพฯ พรานนก-พุทธมลฑลสาย 4 ถนนที่สามารถเดินทางเชื่อมไปยังถนนสายสำคัญได้หลากหลาย อาทิ ถนนจรัญสนิทวงค์ ถนนราชพฤกษ์ ถนนเพชรเกษม ถนนกาญจนาภิเษก ถนนอรุณอมรินทร์ ถนนพรานนก ถนนบรมราชนนี พุทธมลฑลสาย 1  พุทธมลฑลสาย 2 พุทธมลฑลสาย 3 พุทธมลฑลสาย 4 และยังใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีแยกไฟฉาย ในระยะเดินได้ เพียง 350 เมตร และ เพียง 1 สถานี ก็ถึง Interchange ของรถไฟฟ้า3สายในอนาคตคือ สายสีน้ำเงิน สายสีส้มและสายสีแดง ที่ตัดกันที่สถานีบางขุนนนท์

3 สถานี ถึงสถานี Interchange หลักของสายสีน้ำเงินที่แยกท่าพระ 4 สถานี สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว สายที่เปิดเดินรถในปัจจุบัน ที่สถานีบางหว้า 9 สถานีถึงศาลาแดง เข้าสู่ย่านธุรกิจ นอกจากนี้ยังเป็นทำเลที่รายล้อมด้วย facilities ระดับเมืองที่ครบครันอยู่แล้ว ทั้ง ย่านการค้า ย่านวัฒนธรรมดั้งเดิม ที่มัทั้งตลาดสดและ Modern trade ผสานกลมกลืนกันอย่างลงตัว ทั้ง แมคโคร เดอะมอลล์ ท่าพระ Foodland  เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า พาต้า ปิ่นเกล้า เทสโก้ โลตัส วังหลัง THE SENSE ฯลฯ รวมทั้งสถาบันการศึกษาอย่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  มหาวิทยาลัยศิลปากร   และสถาบันการแพทย์ชั้นนำอย่าง โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลธนบุรี โรงพยาบาลเจ้าพระยา

เนื่องจาก ตัวทำเลของ Supalai Loft Yaek Fai Chai station (ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแยกไฟฉาย) ที่อยู่บนที่ดินแปลงสุดท้ายของถนนพระเทพฯ พรานนก-พุทธมลฑลสาย 4 ที่สามารถขึ้นอาคารสูงได้ตามข้อจำกัดผังเมืองรวม จึงจะทำให้ตัวอาคารของ Supalai Loft Yaek Fai Chai station (ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแยกไฟฉาย) ที่ออกแบบอยู่บนพื้นที่กว่า 2 ไร่กว่า สูง 24 ชั้น โดดเด่นและมองเห็นได้จากพื้นที่โดยรอบ อีกทั้งยังมีการผสานการออกแบบ ภายใต้คอนเซปต์ LIGHT AND SHADOW (แสงและเงา) คือการเล่นกับแสงธรรมชาติที่ตกกระทบกับงานสถาปัตยกรรมจะทำให้เกิดแสงและเงาที่เกิดเป็นเส้นสายของเงารูปทรงเรขาคณิตแนวเฉียงตามทิศและเวลาของแสงที่ตกกระทบที่ต่างกัน ทำให้เกิดการไล่โทนของแสงและเงา ส่งผลให้ตัวอาคารดูมีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังออกแบบโดยคำนึงถึงความเป็นมิตรต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้กระจกสีเขียวตัดแสงและวัสดุอาคาร ที่ช่วยลดความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ตัวอาคาร และยังให้ความสำคัญกับระบบหมุนเวียนอากาศ ทิศทางแสงแดดและลม  ด้วยการวางผังอาคารเป็นรูปตัว I ในแนวเหนือ-ใต้ เพื่อเลี่ยงความร้อนทางด้านทิศตะวันตก ทำให้ทุกห้องพักมีระบบการระบายอากาศที่ดี และลดการใช้ไฟได้อีกด้วย เรียกได้ว่าทั้งคอนเซปต์และการออกแบบค่อนข้างแตกต่างกับศุภาลัยในอดีตที่เน้นความร่วมสมัยมากขึ้น ทำให้สามารถแตะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อในช่วงเริ่มต้นได้อีกด้วย

บนพื้นที่ 2 ไร่กว่า สูง 24 ชั้น มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 370 ยูนิต เป็นห้องพักอาศัย  366 ยูนิตและร้านค้า 4 ยูนิต แบ่งเป็นร้านค้า และที่จอดรถที่ชั้น 1-4 (57% ของจำนวนยูนิต) ที่พักอาศัย ชั้น 5-24 และ Facilities ที่ดูจะให้เยอะกว่าศุภาลัยในโครงการที่ผ่านมา ที่ชั้น 1, 5, 24 และRoof top

ส่วนรูปแบบห้อง มี 2 Type หลัก คือ 1 Bedroom ขนาด 35 Sq.m. และ 47 Sq.m. และ 2 Bedroom ขนาด 72.5-77.5 ตร.ม. และห้องแบบ PRESIDENTIAL ที่มีเพียง 7 ห้องอยู่ชั้น 24

ส่วนห้องตัวอย่างมีให้ชมกัน 2 ห้อง เป็น 1 Bedroom ทั้งคู่ คือ ขนาด 35 Sq.m. และ 47 Sq.m. โดยโครงการขายพร้อมเครื่องปรับอากาศ วอลเปเปอร์ ชุดครัว Built-in เครื่องทำน้ำอุ่น และ ฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัย (เฉพาะยูนิตที่บริษัทฯกำหนด) และมีโปรโมชั่นพิเศษ คือ เลือกรับ เฟอร์นิเจอร์ครบชุดแบบห้องตัวอย่างได้อีกด้วย

เราเริ่มชมกันที่ห้อง 1 Bedroom Loft suite(a) 35 Sq.m. กันก่อน

ภายในแบ่งเป็นพื้นที่หลักๆ 2 ส่วนคือ พื้นที่ ครัว และ living area ที่ด้านหน้าติดทางเข้า และพื้นที่ของห้องนอนที่ปลายด้านในสุดติดระเบียง ตัวห้องถึงแม้จะขนาด 35 Sq.m. แต่ก็ดูกว้างและใหญ่ เพราะเพดานที่ให้มาสูงถึง 2.7 m และพื้นลามิเนตหนา 12 มิล โทนสีอ่อนที่วางแนวขวางทำให้ห้องดูกว้างขึ้น และมากับไฟ downlight ที่ปกติแล้วศุภาลัยมักจะให้เป็นไฟโคมซาลาเปา

ด้านขวาของทางเข้าเป็นครัว พื้นครัวเป็นกระเบื้อง โครงการให้ Built-in ยาวจากทางเข้าลึกเข้าไปด้านใน ที่ปลายสุดของครัว Built-in มีพื้นที่พอให้วางตู้เย็นพอดีขอบกระเบื้อง

ด้านบนให้ตู้เก็บเครื่องปรุงและอุปกรณ์ พร้อมเจาะช่องสำหรับเครื่องดูดควันและที่วางไมโครเวฟ

ตรงข้ามกับเคาท์เตอร์ครัว ด้านซ้ายของทางเข้าเป็นห้องน้ำ ภายในแบ่งพื้นที่ส่วนเปียก ส่วนแห้ง ด้วยกระจกอาบน้ำบานเลื่อน

แบ่งพื้นที่ส่วนเปียกไว้ด้านในสุด ให้เครื่องทำน้ำอุ่นแบบ hand shower

และพื้นที่ส่วนแห้งที่ด้านหน้าติดทางเข้า ให้ชุดสุขภัณฑ์ สีขาวแบบลอยตัว ของ COTTO

ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่ Living area ที่เชื่อมกับพื้นที่ห้องนอน

มีพื้นที่เข้ามุมที่ด้านซ้ายกว้างพอให้วางโต๊ะทำงาน โต๊ะทานข้าว สำหรับ 2 คน และมีพื้นที่เหลือพอให้วางโซฟาเล็ก พร้อมโต๊ะตัวเล็กได้

ที่ผนังตรงข้าม เป็นตำแหน่งวางทีวี ที่สามารถ Built-in ชั้นให้เต็มผนังเพื่อเพิ่มประโยชน์ใช้สอยได้ และด้านข้างยังมีพื้นที่กว้างพอให้วางตู้ หรือชั้นเก็บของ ชั้นหนังสือ หรือปรับเป็นมุมใช้งานต่างๆได้

ติดกับพื้นที่ Living area เป็นพื้นที่ห้องนอน ที่กั้นด้วยกระจกบานเลื่อน3ตอน สูงจากพื้นจรดเพดาน สามารถเปิดเพื่อเชื่อมการใช้งานให้ห้องดูกว้างขึ้น และสามารถปิดเพื่อกั้นการใช้งานให้เป็นสัดส่วน แต่ยังทำให้ห้องดูกว้างเพราะบานเลื่อนสูงและโปร่ง ยังรับแสงจากภายนอกเข้าสู่พื้นที่ต่างๆในห้องได้อยู่

ภายในห้องนอนกว้างพอให้วางเตียงsizeใหญ่สำหรับคนที่ชอบนอนเตียงกว้างๆ ได้แบบมีพื้นที่ข้างหัวเตียง และพื้นที่ปลายเตียงเหลือ

ที่ผนังปลายเตียง สามารถวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งเข้ามุมได้พอดีขนาดความกว้างของห้อง

ปลายสุดของห้องเป็นระเบียง ที่ค่อนข้างกว้าง

สามารถใช้งานได้เต็มพื้นที่เพราะโครงการฯยกเครื่อง compressor air ไปแขวนไว้ที่ด้านบนเพดาน พร้อมแผงกั้นเพื่อความเป็นระเบียบ ในห้องจริงที่ให้ จะมีก๊อกน้ำ และปลั๊กไฟฟ้าสำหรับเครื่องซักผ้าให้ด้วย

มาถึงห้องที่ 2 1 Bedroom Executive suite 47 Sq.m.

พื้นที่หลักอย่าง living area และห้องนอนคล้ายห้องแรก คือเป็นพื้นที่เชื่อมกัน มีพื้นที่ living อยู่ด้านหน้าติดทางเข้าและห้องนอนที่ด้านในสุด แต่ห้องนี้มีพื้นที่เพิ่มมาคือแยกพื้นที่ครัวไปเป็นครัวติดริมระเบียง ทำให้ห้อง living มีพื้นที่มากขึ้น และน่าจะเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารมากกว่าห้องแรก

และมีห้องเก็บของเพิ่มขึ้นมา ที่ด้านซ้ายติดห้องนั่งเล่น

จากทางเข้าห้องนี้แบ่งเป็นพื้นที่ปีกขวา เป็นพื้นที่ living ที่ใหญ่และลึกไปจรดประตูห้องนอน

พื้นที่ living area สามารถวาง set โซฟา แบบ 2-3 ที่นั่งได้แบบมีพื้นที่เหลือ หรือใครชอบโซฟาเบด จริงๆพื้นที่ก็กว้างพอให้วางไว้ใช้งานได้

ผนังตรงข้ามเป็นตำแหน่งวางทีวีและงานระบบ สามารถ Built-in เป็นชั้นวางทีวีและชั้นวางของได้เต็มแนวผนัง

ที่มุมห้องติดทางเข้าห้องนอน สามารถจัดเป็นมุมรับประมานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่งได้

ห้องนอนและห้องนั่งเล่นกั้นด้วยกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เปิดเชื่อมพื้นที่หรือแบ่งสัดส่วนการใช้พื้นที่ได้ตามความต้องการ

ที่ห้องนอน ก็ถือว่ากว้างมาก เพราะภายในห้องนอนสามารถวางเตียงนอนไว้ติดหน้าต่าง และสามารถวางโต๊ะหัวเตียงพร้อมตู้เสื้อผ้าได้ยาวถึงทางเข้าห้องนอน

ที่ปลายเตียงมีกระจกเข้ามุมไว้นอนชมวิวมุมกว้างได้ทุกค่ำคืน

และผนังติดกัน สามารถวางชั้นวางทีวี พร้อมมุมแต่งตัวได้แบบเต็มพื้นที่

ส่วนพื้นที่ปีกซ้าย เป็นห้องน้ำและครัว ที่มีประตูบานเลื่อนแบบแขวน กั้นพื้นที่เป็นครัวปิดระหว่างห้องนั่งเล่น

พื้นครัวเป็นกระเบื้อง ปูเต็มห้อง โครงการให้ Built-in ยาวขนานผนัง สามารถวางตู้เย็นไว้ที่ปลายหนึ่งของเคาท์เตอร์และ ที่ปลายสุดของครัว Built-in มีพื้นที่พอให้วางเครื่องซักผ้าได้

ด้านซ้ายของทางเข้าครัวเป็นห้องน้ำ

ภายในแบ่งพื้นที่ส่วนเปียก ส่วนแห้ง ด้วยกระจกอาบน้ำบานเลื่อน

แบ่งพื้นที่ส่วนเปียกไว้ด้านในสุด ให้เครื่องทำน้ำอุ่นแบบ hand shower

และพื้นที่ส่วนแห้งที่ด้านหน้าติดทางเข้า ให้ชุดสุขภัณฑ์ สีขาวแบบลอยตัว ของ COTTO

ปลายสุดของครัว เป็นระเบียง

ห้องนี้เป็นระเบียงสี่เหลี่ยมจัตุรัส สามารถใช้งาน ได้เต็มพื้นที่เพราะโครงการฯติด compressor air แบบแขวนไว้ที่ด้านบนเพดาน พร้อมแผงกั้นเพื่อความเป็นระเบียบจากการมองภายนอก

ส่วนพื้นที่ส่วนกลาง ที่เรียกว่าจัดเต็มสำหรับแบรนด์ศุภาลัยอยู่พอสมควร เพราะจัดเต็มพื้นที่ส่วนกลางไว้ตั้งแต่ชั้น 1, 5 และ 24

Lobby ที่ชั้น 1 ที่ออกแบบให้เป็นโถงกว้าง มีมุมรับแขกและมุมพักผ่อน ที่ัรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้โดยรอบ

และพื้นที่ CO – LIVING SPACE CO – WORKING SPACE  Roof Garden ศาลานั่งเล่น และ Meeting Room ที่ชั้น 24 ที่เป็นแบบ double space เกิดพื้นที่ใช้งานที่หลากหลาย

รวมทั้ง สระว่ายน้ำระบบเกลือ+Jacuzzi  แยกสระเด็ก พร้อมห้องออกกำลังกาย ห้องซาวน่า ที่ชั้น 5 ให้คุณได้สัมผัสวิวโดยรอบแบบสุดสายตา

Supalai Loft Yaek Fai Chai station (ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแยกไฟฉาย) อยู่ในทำเลที่เรียกได้ว่าเป็นศักยภาพในการอยู่อาศัยแห่งใหม่อีกแห่งหนึ่ง ที่มีทางเลือกในการเดินทาง และใกล้ facilities หลักของเมืองที่พร้อมให้ใช้บริการ และที่สำคัญราคาเริ่มต้นที่ 2.17 ล้านบาท ที่น่าจะหาได้ยากบนทำเลถนน พระเทพฯ พรานนก-พุทธมลฑลสาย 4 ที่ส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยว hi-end ที่มีจุดขายในเรื่องความสะดวกในการเดินทางเข้าเมือง และที่สำคัญกับการออกแบบภายใต้แบรนด์ LOFT ที่มี งานออกแบบทั้งภายในและภายนอกที่ดีไซน์ใหม่หมด สร้างจุดขายและความแตกต่างกับงานออกแบบแบรนด์ศุภาลัยในอดีต แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพที่การันตีได้ในสไตล์ศุภาลัย

ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแยกไฟฉาย เน้นกลุ่มคน Local Demand เป็นคอนโดสไตล์ลอฟท์ มีพื้นที่ Co Living/ Working Space ดีไซน์ใหม่ บนทำเลสุดคลาสสิคย่านเมืองเก่าฝั่งธนฯ เป็นคอนโดเดียวบนถนนใหญ่พระเทพตัดใหม่ แถมผังเมืองย่านนี้ยังอยู่ในระยะพื้นที่สีน้ำตาลที่สามารถสร้างคอนโดได้ ถัดไปนิดเดียวก็เป้นสีเขียว ทำคอนโดไม่ได้ ทำได้แต่บ้านเดี่ยวพท.เกิน 100 ตรวาขึ้นไปเท่านั้น ดังนั้นคนอยากได้ห้องสองนอนในย่านนี้มีแค่ 2 choices คือไม่ซื้อคอนโดก็ต้องซื้อบ้านเดี่ยวราคาหลายสิบล้าน ซึ่งหากพิจารณาจากราคาต่อตรม.ก็จะพบว่าที่นี่มีราคาที่ถูกที่สุดในย่านแยกไฟฉาย-บางขุนนท์ และยังมีขนาดยูนิตที่กว้างกว่า อยู่สบายกว่าโครงการอื่นๆ ถึงแม้ว่าเลย์เอ้าท์ห้องบาง Type อาจจะขัดใจคนรุ่นใหม่ไปบ้างเช่น 1 ห้องนอนขนาด 47 ตรม. ที่ถ้าเป็นโครงการอื่นก็คงจะทำเป็นขนาด 1 Bed Plus – 2 Bed ไปแล้ว แต่นั่นก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่แพงกว่าประมาณตรม.ละ 40,000 – 50,000 บาท หรือเฉลี่ยห้องละสองล้านกว่าบาท!!

สิ่งหนึ่งที่เป็น Key Takeaway ที่สำคัญคือ ดีมานท์ในย่านนี้อยากอยู่ห้องที่กว้างกว่าใหญ่กว่าในแบบอยู่บ้าน แต่ที่ผ่านมากลับมีแต้ Product ที่ไม่ตอบโจทย์ด้านกำลังในการซื้อของคนในพื้นที่เท่าที่ควร กล่าวคือหากวัดในขนาดพื้นที่ 1 นอน ที่โครงการอื่นมีขนาดเริ่มต้นที่เล็กกว่า ศุภาลัยก็จะดูเสียเปรียบในด้าน Package Price แต่ถ้าเป็นขนาดห้อง 1 นอนใหญ่ – 2 นอน ซึ่งศุภาลัยมีขนาดที่ใหญ่กว่า กลับมีราคาที่ถูกกว่าห้อง Type เดียวกันของโครงการอื่นแบบทิ้งไม่เห็นฝุ่น…นี่คือจุดเด่นของศุภาลัย ที่เป็นตัวกระตุ้น Purchasing Decision ในหมู่กลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ศุภาลัยได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้จุดขายเรื่องจำนวนยูนิตที่น้อยเพียงแค่ 366 ยูนิต พร้อมร้านค้าอีก 4 ยูนิต และมีพื้นที่ส่วนกลางที่ศุภาลัยลงทุนปรับแบบใหม่หมด เพื่อให้สมกับเป็นซีรีย์ใหม่ของแบรนด์ลอฟท์ ก็ดูจะสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับตลาดไม่น้อย เพราะจาก Feedback ของแฟนเพจเราหลายๆคนก็ดูจะไม่เชื่อว่านี่คือโครงการของศุภาลัยจริงๆ…ตอนนี้โครงการเปิดห้องตัวอย่างแล้ว และมีลูกค้าจำนวนมากมาจากศิริราชที่แวะเข้ามาชมโครงการ ยังไงถ้าใครสนใจก็แวะเข้าไปดูได้ครับ หรือไม่ก็ไปลงทะเบียนเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแยกไฟฉาย