Quarter 39

  

ควอเตอร์ 39


ดีเทลที่เป็นจุดสลบของโครงการอย่าง Quarter 39 ก็คือ การดีไซน์ผังโครงการที่เน้นการเชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างบ้าน ไปยังพื้นที่ส่วนกลาง On Ground หน้าบ้านแต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นส่วนตัว โดยดีไซน์ที่จอดรถให้อยู่บริเวณชั้นใต้ดินทั้งหมด และเชื่อมต่อการใช้งานด้วยลิฟท์ส่วนตัวในบ้านตั้งแต่ชั้นใต้ดินนี่ล่ะครับ นอกจากนั้นจะเป็นในเรื่องของงานดีไซน์ที่คิดมาแล้วว่าหน้าตาอาคารและพื้นที่ใช้สอยแนวๆนี้จะเป็นที่ถูกอกถูกใจ กลุ่มกำลังซื้อที่ยังค่อนข้างสองจิตสองใจกับงบประมาณระดับ 40-50 ล้านบาทว่าจะเลือกซื้อคอนโด 3 ห้องนอนที่ทองหล่อดีหรือว่าซื้อโครงการ Quarter 39 นี่ดีล่ะครับ

เกริก บุณยโยธิน เมื่อ 23 September, 2019 เวลา 17.30 pm

Prop score™: 4.5

คะแนนรีวิว: 0.0

0 รีวิว


ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา



    ข้อมูลโครงการ

ชื่อโครงการ

Quarter 39

บริษัทผู้สร้าง

Nye Estate

สถานที่

สุขุมวิท 39 ซอยทวีสุข

สถานีรถไฟ BTS

-

สถานีรถไฟใต้ดิน

-

Airport Rail Link

-

สถานี BRT

-

พื้นที่

2-0-33 ไร่

ชั้น

3.5 ชั้น

ยูนิต

15 ยูนิต

ที่จอดรถ

4 คัน

ลิฟท์

ลิฟท์โดยสาร 1 ตัว

สิ่งอำนวยความสดวก

ระบบรักษาความปลอดภัยหน้าทางเข้าโครงการ, สระว่ายน้ำ, สวนขนาดใหญ่, ที่จอดรถชั้นใต้ดิน


    ประเภทยูนิต

ประเภท

Luxury Urban Residences/TOWN HOME

studio

-

1 bedroom

-

2 bedroom

-

3 bedroom

-

Duplex

-

Penthouse

-

ประเภทอื่นๆ

Type A 380 ตร.ม., Type B 479 ตร.ม., Type C 438 ตร.ม.

ความสูงจากพื้นถึงเพดาน

6 เมตร

ราคาเริ่มต้น / ตรม.

113,000

ราคาเริ่มต้น / ยูนิต

49 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง

15,000 บาท/ยูนิต/เดือน

Sinking Fund fee

10,000 บาท/ตร.ว.

สร้างเสร็จ

2018

เว็บไซต์

https://nyeestate.com/th/project/quarter-39-2/

064-971-0995


เพื่อนบ้าน Street View


ฉีกกฎทุกความสมบูรณ์แบบของการใช้ชีวิตเมืองบนสุขุมวิท 39 ที่ Quarter 39 บ้านแนวใหม่ Luxury Urban Residences ที่ใครเห็นก็ต้องหลงรัก

 

หากครอบครัวของคุณเป็นครอบครัวใหญ่ มีสมาชิกในบ้านหลายคน แต่ยังต้องการที่จะใช้ชีวิตร่วมกันในแบบพร้อมหน้าพร้อมตากันทุกคนในบ้านหลังเดียวตามสไตล์ Multi – Generation ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยเยอะเพื่อรองรับการใช้งานของทุกคนในครอบครัว การเลือกที่อยู่อาศัยก็ต้องเป็นบ้านมากกว่าคอนโด แต่ในปัจจุบันคงยากจะหาบ้านที่อยู่ใจกลางเมืองได้ เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่มีราคาที่แพง แพงจนผู้พัฒนา ต้องหันไปพัฒนาคอนโด เพื่อความคุ้มค่าในการลงทุน แต่ในทางกลับกัน คอนโด ที่มีขนาดพื้นที่ห้องอย่างมาก ก็มีเพียงแค่ 3-4 ห้องนอน จอดรถได้น้อย เลี้ยงสัตว์ไม่ได้ ขาดความเป็นส่วนตัว และไม่ได้กรรมสิทธิ์ในตัวที่ดิน

 

เนื่องจากที่ดินในเมืองมีราคาที่พุ่งสูงขึ้นตามทิศทางการเจริญเติบโตของเมือง ดังนั้นโครงการบ้านเดี่ยวระดับ Luxury ที่เน้นส่วนกลางขนาดใหญ่ ก็มักจะเป็นการพัฒนาในรูปแบบแนวราบ สูงเพียงแค่ 2-3 ชั้น และอยู่ในย่านชานเมือง เนื่องจากสามารถหาที่ดินเป็นร้อยไร่ในราคาไม่แพงมากในการพัฒนาโครงการได้ จึงมีพื้นที่มากพอในการสร้างพื้นที่ส่วนกลางเพื่อรองรับผู้อยู่อาศัยในปริมาณหลายร้อยหลัง ซึ่งหากใครมองหาโครงการบ้านในเขตกรุงเทพฯชั้นใน ก็ต้องเป็นโครงการแนวราบตามสไตล์ Urban Residences บนทำเลที่มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการ ซึ่งในปัจจุบันก็มีอยู่ไม่กี่แห่ง อย่างโซนสุขุมวิท รัชดา พระรามเก้า และเกษตร นวมินทร์ แต่ทำเลที่มีส่วนผสมที่ลงตัวในการ อยู่อาศัย ที่เน้นไลฟ์สไตล์ อยู่ใจกลางเมืองเดินทางสะดวก ครบครัน สิ่งอำนวยความสะดวก มาพร้อมพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ รองรับการอยู่อาศัยแบบ multi-Generation ก็คงต้องเป็นสุขุมวิทตอนกลาง กับการพัฒนาบ้านแนว Luxury Urban Residences ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นโครงการที่มีขนาดเล็กถึงปานกลาง ไม่เน้นพื้นที่ส่วนกลางที่ต้องใช้เนื้อที่เยอะ

 

แต่หากมีโครงการ Luxury Urban Residences ที่มีขนาดบ้านพร้อมที่ดิน และพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ครบครันมาพัฒนา อยู่ใจกลางย่าน Prime Area อย่างสุขุมวิทตอนกลาง ก็คงจะเป็นที่หมายปองของกลุ่มผู้ซื้อที่มีศักยภาพไม่น้อย และยิ่งเมื่อเทียบกับโครงการคอนโดมิเนียม ที่ทำเลเดินทางสะดวกเหมือนกัน ก็จะพบว่าเป็นการซื้อที่สมเหตุสมผลมากกว่า เนื่องจากการซื้อคอนโด Super Luxury ที่มีขนาด 3-4 ห้องนอน พื้นที่ประมาณ 300 ตรม. อาจจะต้องใช้งบประมาณมากถึง 90 ล้านบาท และ supply ห้องขนาดใหญ่แบบนี้ก็มีจำนวนน้อยมาก หรือถ้ามีก็ไม่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่น ต่อเติมอะไรได้มากมาย แถมพื้นที่พักผ่อนแบบเปิดโล่งแนว Courtyard Garden และสระว่ายน้ำ ก็ต้องไปใช้งานร่วมกับคนอีกกว่าหลายร้อยครอบครัว ดังนั้นหากเลือกได้ระหว่าง Luxury Urban Residences กับ Super Luxury Condo บนทำเลเดียวกัน แน่นอนว่า Luxury Urban Residences น่าจะถูกมองเป็นตัวเลือกแรกของกลุ่มมหาเศรษฐีที่มีกำลังซื้อมากกว่า เพราะ Luxury Urban Residences เป็นที่อยู่อาศัยที่ได้พื้นที่ใช้สอยมากกว่าคอนโดมิเนียม ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินทำเลสะดวกกว่าบ้านเดี่ยวชานเมือง ฟังก์ชั่นมากกว่าทาวน์โฮมแนวสูงสไตล์ Vertical Home และมีการผสมผสานการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางเพื่อสร้างความเป็นธรรมชาติ ให้ความรู้สึกพักผ่อนอย่างแท้จริง รูปแบบบ้านมีดีไซน์ภายในแปลกใหม่แบบที่ไม่ค่อยมีให้เห็น เป็นบ้านที่มีความเป็น One of a Kind บน Prime Area อย่างแท้จริง

 

และยิ่งถ้าพูดถึงแบรนด์ที่เป็น Luxury Urban Residences ที่พัฒนาบ้านให้ตอบโจทย์การใช้งานของคนหลาย Generations และยังมีพื้นที่ส่วนกลาง แตกต่างจาก Luxury Urban Residences ที่มีอยู่ในเมือง ก็ต้องยกให้ แบรนด์ Quarter จาก นายณ์ เอสเตท (Nye Estate) ที่กล้านำเสนอแนวคิดการอยู่อาศัยใหม่ๆ แตกต่างจากตลาดทั่วไปให้กับลูกค้า พร้อมกับการพัฒนานวัตกรรมการ ออกแบบใหม่ ๆ และให้ความสำคัญกับการเลือกสรรวัสดุที่มีคุณภาพ ใช้งานได้จริง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่เคยสร้างแบรนด์ภายใต้ Quarter Collection ที่ประกอบไปด้วย Quarter Thonglor และ Quarter 31 ที่ออกแบบสวยงาม และฟังก์ชั่นดีมากที่สุดเท่าที่มีในตลาด Luxury Urban Residences ย่านพร้อมพงษ์

 

โครงการ Quarter 31

รวมทั้ง Quarter 39 ซึ่งก็ยังคงคอนเซปท์ของการเป็น Luxury Urban Residences ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ แตกต่างจากแห่งอื่นๆ บนที่ดิน Super Prime Area ย่านสุขุมวิท 39 ที่หากมี Developer รายไหนได้ไปก็ต้องเอามาพัฒนาเป็นคอนโดแน่นอน เพราะขายได้ราคาต่อตารางเมตรที่แพงกว่ามาก แต่ นายณ์ เอสเตท (Nye Estate) ก็นำที่ดินมาพัฒนาเป็นโครงการที่มีความโดดเด่นทั้งดีไซน์และฟังก์ชั่น จากทีมงานพันธมิตรชั้นนำระดับประเทศ คือ Somdoon Architect, Shma และ PIA ที่ออกแบบให้ดีไซน์ตัวโครงการ ให้เป็นบ้านที่แม้อยู่ใจกลางเมืองแต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นส่วนตัวและมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ใจกลางโครงการเพื่อให้ที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยสำหรับทุกคนในครอบครัวอย่างแท้จริง พร้อมมีที่จอดรถส่วนตัวที่อยู่ใต้ดิน ที่จอดได้ถึง 4 คัน พิเศษจากตัวบ้าน บริเวณห้องนั่งเล่นสามารถเชื่อมสู่พื้นที่สวนส่วนกลางขนาดใหญ่และสระว่ายน้ำกว่า 1 ไร่ได้ทันที และมีทางเดินจากตัวบ้านสู่พื้นที่สวนส่วนกลางขนาดใหญ่ ที่เชื่อมไปยังสระว่ายน้ำ เรียกว่าเป็นงาน landscape ที่สวย มีขนาดใหญ่ที่ และใช้งานได้จริง แถมยังสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะมีโครงการไหนอีกแล้วที่มีทำเลดีขนาดนี้ และพัฒนาเป็นรูปแบบโครงการสไตล์นี้ได้

นอกจากรูปแบบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว Quarter 39 ยังถือว่ามีความคุ้มค่าด้านทำเล เพราะ Quarter 39 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 ซอยทวีสุข ซึ่งตลอดซอยสุขุมวิท 39 เป็นย่านรวมของ Community Mall ที่นิยมของชาวญี่ปุ่นหลายแห่งมาอย่างยาวนาน จนกลายเป็น Community ของชาวต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพชั้นใน มาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ยังเป็น Destination หลักสำหรับการท่องเที่ยว ที่มีทั้ง The Em District ศูนย์กลางย่านการค้า และแหล่ง Supermarket สัญชาติญี่ปุ่นที่ตอบรับดีมานท์ผู้อาศัยในย่านนี้ มีร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต และสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับคนญี่ปุ่นอยู่ตลอดทั้งสาย เป็นศูนย์รวมของการพัฒนาโครงการห้างร้าน สัญชาติญี่ปุ่นอยู่อย่างหนาแน่น ทั้ง Taka Town ศูนย์รวมร้านค้า ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ทันสมัย มีหลากหลายแบรนด์ให้เลือก, Fuji Supermarket หลายสาขาบนสุขุมวิท รวมทั้ง Shinsen Fish Market ตลาดอาหารทะเลพร้อมเสิร์ฟใจกลางกรุงเทพฯ ที่ไม่ว่าจะเป็นล็อบสเตอร์  หอยเชลล์ หรือปูทาราบะ สามารถเลือกสดๆ และปรุงรสเป็นอาหารต่างๆได้อย่างหลากหลายตามความต้องการ อีกทั้งโดยรอบยังมีครบทุกอย่างทั้งโรงเรียน อย่าง นานาชาติโมเดิร์น (Modern International School) และ อนุบาลทาเคโนโกะ  (Takenoko International  Kindergarten) ในซอยสุขุมวิท 39

(ที่มา : https://www.facebook.com/pg/Shinsenfishmarket )

รวมทั้ง Community Mall แห่งใหม่แนว Dog Park & Pet Wellness Center ในซอยสุขุมวิท 39 อย่าง Trail and Tail Community Mall สำหรับคนรักสัตว์เลี้ยง ที่มีทั้งร้านค้าสำหรับคนและน้องหมา คลินิก ร้านอาบน้ำตัดขน ที่รับเลี้ยง ที่ฝึกสุนัข รวมทั้งที่วิ่งเล่น สระว่ายน้ำ ที่น่าจะถูกใจคนที่อยู่ในย่านสุขุมวิท และเลี้ยงสัตว์ด้วย

(ที่มา https://www.facebook.com/trailandtailbkk)

 

โดยคอนโดและอพาร์ทเมนท์ในย่านนี้ก็มีคนเช่ายาวนานต่อเนื่อง ส่วนใหญ่จะเป็นห้องขนาดใหญ่ สะท้อนถึงดีมานท์ของการอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ได้เป็นอย่างดี และยังสามารถเดินทางได้ทั้งรถยนต์ รถไฟฟ้าและเรือ ซึ่งทำให้ราคาที่ดินและราคาคอนโดในละแวกนี้ดีดตัวขึ้นสูงมาก โดยเฉพาะคอนโดที่อยู่ในรัศมีของ The Em District

 

ซึ่งจากผลวิจัยในเรื่องของราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรของคอนโดในย่านนี้ชี้ให้เห็นว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทำเลสุขุมวิท 39 ถึงทองหล่อ ราคาต่อตารางเมตรปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดจาก  183,000  บาท/ตารางเมตร  เป็น  255,000  บาท/ตารางเมตร

จากข้อมูลดังกล่าวถ้าตีเป็นเลขกลมๆ ก็น่าจะอยู่ที่ประมาณห้องละ 76.5 ล้านบาท สำหรับคอนโดที่มีพื้นที่ใช้สอย 300 ตร.ม. ซึ่งหากเทียบกับ Quarter 39 Luxury Urban Residences ที่มีพื้นที่ใช้สอยเฉลี่ยที่ 380-479 ตร.ม. พร้อม Private Lift และที่จอดรถถึง 4 คัน กับราคาเริ่มต้นที่ 49 ล้านบาท  แต่ได้บ้านใจกลางเมืองที่เป็นส่วนตัว มีพื้นที่ส่วนกลาง บนทำเลเดียวกัน เพราะนอกจากจะตั้งอยู่บนซอยสุขุมวิท 39 (ซอยทวีสุข) แล้ว ยังมีจำนวนยูนิตเพียง 15 ยูนิต พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง บนพื้นที่ขนาด 2-0-33 ไร่ ก็ถือว่าเป็นเหตุผลที่ดีและคุ้มค่ามากกว่าในการซื้อ

 

Quarter 39 มีบ้านให้เลือกถึง 3 type คือ

Type A : 28-43 Sq.wah,380 Sq.m. มี 4 ห้องนอน  5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ หน้ากว้าง 7 เมตรมีเพียง 7 ยูนิต

Type B : 34-46 Sq.wah, 479 Sq.m. มี 4 ห้องนอน  5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ หน้ากว้าง 7.4 เมตรมีเพียง 3 ยูนิต

และ Type C : 33-45 Sq.wah, 438 Sq.m. มี 4 ห้องนอน  5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ หน้ากว้าง 8 เมตรมีเพียง 5 ยูนิต

โดยทุกหลัง จะมีที่จอดรถอยู่ที่ชั้นใต้ดิน บริเวณหน้าบ้านของแต่ละยูนิต

หรือถ้าใครจะเดินเข้าออก ก็มีประตูคนเดิน ประตูเล็กให้ได้ใช้งาน แถมยังมีลิฟท์สำหรับผู้ใช้รถเข็นไว้บริการอีกด้วย

ส่วนที่ชั้น 1 ทุกหลังมีทางเดินออกมาที่สวนส่วนกลาง ที่รวมมีพื้นที่กว่า 1 ไร่ ที่เป็นทางเดินยาวเต็มแนวความยาวของโครงการ กว้างพอที่จะสามารถนำสัตว์ออกมาวิ่งเล่นได้

 

โดยสัตว์เลี้ยงที่ทางโครงการอนุญาตให้เลี้ยงคือน้ำหนักไม่เกิน 20 kg

ทางเดินด้านหน้าบ้านเชื่อมไปยังพื้นที่สวนและสระว่ายน้ำส่วนกลาง ที่ยาวกว่า 20 เมตร ที่ยก step ขึ้นสูง เพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน

ตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา และพื้นที่สวนสีเขียว

มีทั้งโซนสระว่ายน้ำ และพื้นที่เก้าอี้นั่งพักผ่อน

โครงการ Quarter 39 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า ด้วยทั้งแนวคิดโครงการและการพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์คนที่ต้องการมีบ้านอยู่ใจกลางเมืองบนที่สุดของทำเลสุขุมวิทที่นับวันจะหาได้ยากและราคาสูงขึ้นทุกวัน โดยตอนนี้ที่โครงการเหลือขายเพียง 3 หลังเท่านั้น คือ

 

Type A1 : ขนาด 42.90 Sq.wah พื้นที่ใช้สอย 433.90 Sq.m. มี 4 ห้องนอน  5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ หน้ากว้าง 7 เมตร 1 ยูนิต เป็นยูนิตหลังมุม

 

Type C1 : ขนาด 45.10 Sq.wah พื้นที่ใช้สอย 480.21 Sq.m. มี 4 ห้องนอน  5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ หน้ากว้าง 8 เมตร 1 ยูนิต เป็นยูนิตหลังมุม

และ

Type C3 : ขนาด 32.60 Sq.wah พื้นที่ใช้สอย 437.67 Sq.m. มี 4 ห้องนอน  5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ หน้ากว้าง 8 เมตร 1 ยูนิต

โดยโครงการขายแบบ Fully Fitted ตกแต่งด้วยวัสดุเกรดพรีเมียม คือให้ครัวและห้องน้ำตามบ้านตัวอย่าง พร้อมลิฟต์ส่วนตัวทุกยูนิต

 

แต่วันนี้ที่จะพาไปชมคือ Type A1 ที่ตกแต่งครบ และ Type C1 แบบบ้านจริงที่ได้รับ โดย Function หลักๆ ที่ชั้น Basement และ 1-3 เหมือนๆกัน ต่างที่ขนาดพื้นที่เท่านั้น

 

หลังแรก Type A1 : พื้นที่ 42.90 Sq.wah พื้นที่ใช้สอย 433.90 Sq.m. มี 4 ห้องนอน  5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ หน้ากว้าง 7 เมตร 1 ยูนิต เป็นยูนิตหลังมุม

ที่ด้านหน้าชั้น 1 ระหว่างทางเดินส่วนกลาง กับตัวบ้าน มีแนวต้นไม้กั้นเป็นแนวแบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วน ที่หน้าบ้านมีทางเดินภายในส่วนพื้นที่บ้าน ก่อนถึงตัวอาคาร ทำให้ตัวบ้านค่อนข้างเป็นส่วนตัวจากพื้นที่ส่วนกลาง

ประตูเข้าบ้านที่ชั้น 1 เป็นประตูไม้บานใหญ่ เปิดเข้าสู่พื้นที่ living area

ที่มีพื้นที่ foyer โถงต้อนรับ พื้นที่กว้างใหญ่ สามารถแขวนภาพติดผนัง เป็นจุดพักคอยหรือวางตู้เก็บของ ใส่รองเท้าได้

ด้านขวาเป็น living area ที่ค่อนข้างโปร่ง โล่ง เพราะความสูง ที่เปิดรับด้วยความสูงกว่า 6 เมตร และล้อมรอบด้วยประตูหน้าต่างกระจกบานใหญ่ และเนื่องจากเป็นยูนิตหลังมุม ทำให้มีหน้าต่างเปิดรับแสงที่ด้านข้างบ้าน เชื่อมต่อกับพื้นที่สวนพิเศษข้างบ้านที่โครงการดูแลให้ แต่อยู่ในกรรมสิทธิ์ของเจ้าของบ้านหลังนี้

สามารถตั้งชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลาง เป็นมุมดูทีวี พักผ่อนของครอบครัว ได้ 4-5 ที่นั่ง โดยบริเวณห้องนั่งเล่นเปิดรับวิวพื้นที่สวนสีเขียว

ติดกัน เป็นโซน Dining ที่เชื่อมด้วยพื้นที่ตั้งโต๊ะอาหาร สำหรับ 6 ที่นั่ง

ด้านหลังเป็นครัว Built-in ที่ให้ตามห้องตัวอย่าง โดยติดเคาท์เตอ์ครัว มีประตูทางออกด้านข้างบ้าน เชื่อมไปยังสวนด้านข้าง

มุมพักผ่อนพิเศษบริเวณสวนด้านข้างบ้าน สำหรับจิบชา ดื่มกาแฟได้

ชุดครัวเป็นครัว L shape จากแบรนด์ดังระดับโลกของ Poggenpohl โครงการให้เตาไฟฟ้าพร้อมที่ดูดควันของ siemens อ่างล้างจานพร้อมเครื่องล้างจาน ติดหน้าต่างด้านหลังบ้าน สามารถเปิดรับแสงทำให้พื้นที่ครัวไม่อับแม้อยู่ด้านในบ้าน

พร้อมช่องตู้ ลิ้นชักเก็บอุปกรณ์ทำครัว แบบแยกการใช้งานทั้งด้านบนและด้านล่างเคาท์เตอร์

โดยที่ตู้ด้านล่างจะให้ชั้นเสริมสำหรับง่ายในการจัดเก็บและหยิบใช้งานบริเวณตู้มุมเคาท์เตอร์

ปลายสุดของเคาท์เตอร์เป็นที่ตั้งเครื่องล้างจาน

ส่วนผนังฝั่งตรงข้าม เป็นชุด built-in สำหรับวางไมโครเวฟ ตู้เย็นบานเปิดคู่ และชั้นวางอุปกรณ์ทำครัว

ด้านหลังเป็นทางออกส่วนพื้นที่หลังบ้าน ที่เทปูน พร้อมใช้งาน

ด้านขวา สุดโถงห้องรับแขก เป็นบันไดขึ้นลง และ private lift ที่โครงการจัดเตรียมไว้ให้พร้อมใช้งาน ที่เชื่อมตั้งแต่ชั้นจอดรถใต้ดิน ขึ้นไปจนถึงชั้น 3 ห้องนอนใหญ่

ด้านล่าง ชั้นใต้ดิน เมื่อออกจากโถงลิฟท์ จะเป็น main entrance สำหรับเข้าจากที่จอดรถ บริเวณใต้บันได เป็นที่เก็บรองเท้า

ติดลิฟท์ เป็นประตู digital สำหรับเปิดสู่ลานจอดรถ

ด้านนอกมีห้องเก็บของที่อยู่ถัดจากโถงลิฟท์ และตู้สำหรับงานระบบ

ที่พื้นที่ด้านในสุด เป็นห้อง maid มีห้องน้ำแยก

ติดกันเป็นพื้นที่ซักรีด

ที่เชื่อมออกไปที่ครัวไทย และคอร์ทชั้น basement สำหรับตั้งเครื่องปั๊มน้ำ ที่เปิดรับแสงจากด้านบน

และพื้นที่จอดรถ สามารถจอดรถยนต์ได้ 3 คัน + มอเตอร์ไซค์อีก 1 คัน

ขึ้นไปที่ชั้นลอย เป็นห้องนอน 4 ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน หรือห้องฟังก์ชั่นอื่นๆได้

ติดประตูทางเข้า เป็นหน้าต่างบานใหญ่ ที่เปิดเชื่อมกับโถง living ด้านล่าง

ที่ชั้นนี้ มีห้องน้ำให้พร้อม ด้านหน้าห้องน้ำ สามารถทำ walk-in closet หรือ built-in ตู้เสื้อผ้าได้ที่ผนังติดทางเข้า

ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่ส่วนแห้ง อย่างอ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์ ไว้ติดทางเข้า

ด้านในกั้นด้วย glass shower บานผลัก เชื่อมสู่พื้นที่ส่วนเปียก ที่โครงการให้ rain shower และ hand shower แบบแขวนผนัง พร้อมหน้าต่างระบายอากาศที่เปิดรับแสง ทำให้ห้องน้ำไม่อับ ถูกสุขลักษณะ

บันไดโครงการให้เป็นไม้จริง แต่บริเวณโถง และห้องต่างๆ เป็น engineered wood

ระหว่างชานพักบันไดเป็นหน้าต่างกระจกเปิดรับแสงจากภายนอก และมีประตูบานเปิดที่เชื่อมออกไปยังบันไดหนีไปและพื้นที่งานระบบด้านนอก

ที่ชั้น 2 เป็นห้องนอน 2-3 มีห้องน้ำในตัว

ห้องแรก ตำแหน่งด้านหลังบ้าน ภายในแบ่งพื้นที่ตั้งเตียงนอนไว้ติดหน้าต่างบานเปิดบานใหญ่ ด้านในสุดของห้อง

พื้นที่ใหญ่พอให้วางเตียง king size พร้อมโต๊ะหัวเตียง และมีพื้นที่ปลายเตียงและรอบๆ เหลือพอให้เดินและใช้งานได้

ปลายเตียงขวามือเป็นห้องน้ำ

ที่ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่ส่วนแห้ง อย่างอ่างล้างหน้า พร้อมกระจกบานยาว และโถสุขภัณฑ์ ไว้ติดทางเข้า

ด้านในกั้นด้วย glass shower บานผลัก เชื่อมสู่พื้นที่ส่วนเปียก ที่โครงการให้ rain shower และ hand shower แบบแขวนผนัง พร้อมหน้าต่างระบายอากาศที่เปิดรับแสง ทำให้ห้องน้ำไม่อับ ถูกสุขลักษณะ

ด้านหน้าห้องน้ำ ซ้ายมือสามารถ built-in หรือจัดวางตู้เสื้อผ้าเข้ามุมได้ตลอดแนวผนัง

ห้องนอนอีกห้อง อยู่ติดกัน แต่มีประตูคั่นระหว่างห้องนอนทั้งสอง เป็นห้องเก็บของประจำชั้นนี้

ส่วนห้องนอนอีกห้อง อยู่ตำแหน่งด้านหน้าโครงการ

จึงเป็นห้องหน้ากว้างขนานเท่ากับความกว้างบ้าน

เข้ามาจะพบพื้นที่ walk-in closet ที่สามารถ built-in เป็น L shape

ติดกันเป็นทางเข้าห้องน้ำ

ที่ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่ส่วนแห้ง อย่างอ่างล้างหน้า พร้อมกระจกบานยาว และโถสุขภัณฑ์ ไว้ติดทางเข้า พร้อมหน้าต่างระบายอากาศที่เปิดรับแสง ระบายอากาศ

ด้านในซ้ายมือ กั้นด้วย glass shower บานผลัก เชื่อมสู่พื้นที่ส่วนเปียก ที่โครงการให้ rain shower และ hand shower แบบแขวนผนัง

ที่ห้องนอน กว้างพอให้วางเตียง King size ติด Juliet balcony พร้อมโต๊ะหัวเตียง

และมีพื้นที่เหลือมากพอให้วางจุดโซฟา หรือชั้นหลังสือ ชั้นวางของได้

ห้องนอนสุดท้ายที่ชั้น 3 เป็นห้อง master bedroom ที่ได้พื้นที่ชั้น 3 ทั้งชั้นเป็นห้องนอน และห้องน้ำในตัว

ที่ชั้นนี้ เปิดเข้ามาจะพบกับ walk-in closet ขนาดใหญ่

เชื่อมกับทางเข้าห้องน้ำ ที่วางไว้ติดโซนด้านหลังบ้าน

ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่ส่วนแห้ง อย่างอ่างล้างหน้าแบบ his & her พร้อมกระจกบานยาว ไว้ติดทางเข้า ยาวเต็มแนวผนัง

ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ตั้งของอ่างอาบน้ำแบบลอยตัว

ด้านหลังผนังอ่างอาบน้ำกั้นด้วย glass shower บานผลัก แบ่งเป็นห้องตั้งโถสุขภัณฑ์ และห้องอาบน้ำที่โครงการให้ rain shower ติดเพดาน และ hand shower แบบแขวนผนัง พร้อมหน้าต่างระบายอากาศที่เปิดรับแสง ระบายอากาศ

ส่วนพื้นที่พักผ่อน หน้ากว้าง ได้พื้นที่หน้าต่างติด Juliet balcony ยาวเต็มหน้ากว้างบ้าน

สามารถแบ่งเป็นพื้นที่ตั้งเตียงนอน king size พร้อมโต๊ะหัวเตียง

ชุดโซฟาพร้อมมุมนั่งดูทีวี ที่บริเวณพื้นที่ปลายเตียง

ที่เปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาตลอดเวลา ทำให้ห้องสว่าง ดูโปร่ง โล่งตลอดเวลา

ทั้งนี้ตลอดทางเดินขึ้นลงบันได มีไฟ motion sensor ที่ติดให้ตลอดทางเดิน เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน

เรียกว่าเป็นบ้าน ที่ครบครันพื้นที่ใช้งาน ทั้งพื้นที่ส่วนตัว หรือพื้นที่ส่วนกลางของครอบครัว และยิ่งเป็นบ้านหลังมุม ที่นอกจากจะเป็นส่วนตัว และยังได้พื้นที่ข้างบ้านเพิ่มขึ้น ทำให้มีพื้นที่สวนข้างบ้าน ที่น่าจะเหมาะสำหรับคนที่ชอบความส่วนตัว ชอบจัดสวน มีมุมให้ใช้งานเพิ่มมากขึ้นกว่าบ้านหลังอื่นๆ

 

บ้านอีกหลังที่โครงการเปิดให้ชม คือ บ้าน Type C1 : ขนาดที่ดิน 45.10 Sq.wah พื้นที่ใช้สอย 480.21 Sq.m. มี 4 ห้องนอน  5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ หน้ากว้าง 8 เมตร 1 ยูนิต เป็นยูนิตหลังมุม แต่ไม่ได้ตกแต่งให้ชม เป็นบ้านมาตรฐานที่ผู้ซื้อจะได้รับจากโครงการ

 

โดยตำแหน่งบ้านจะอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับหลัง A1

ฟังก์ชั่นหลักๆของบ้านคล้ายๆ กัน คือ

ที่ชั้น 1 เป็นพื้นที่ living & dinning area ที่เปิดรับแสง เชื่อมพื้นที่สวนจากด้านหน้าและด้านข้างโครงการ

ปลายสุดของโถง living & dinning เป็นพื้นที่ครัว built-in มีหน้าต่างเปิดเชื่อม ระบายอากาศภายนอก

ที่ชุดครัวโครงการให้เตาไฟฟ้า 4 หัวของ siemens พร้อมที่ดูดควัน

ด้านหลังครัวเป็นพื้นที่ส่วนหลังบ้าน ที่เชื่อมกับถนนในซอยทางเข้าโครงการ

ที่ชั้นลอย เป็น ห้องนอนที่ 4 มีห้องน้ำในตัว มีหน้าต่างเปิดเชื่อมกับโถง living ด้านล่าง ห้องนี้สามารถปรับเป็นห้องฟังก์ชั่นอื่นๆได้

ที่ชั้น 2 เป็นพื้นที่สำหรับห้องนอน 2-3 พร้อมห้องน้ำในตัว

ที่ภายในแบ่งพื้นที่สัดส่วนพร้อมให้วางเตียง และตู้เสื้อผ้า

ชั้นสุดท้ายคือชั้น 3 เป็นห้อง master bedroom แต่สำหรับ type นี้มีความพิเศษ ที่ภายในห้องนอนมี garden court เป็นกระจกล้อมรอบที่สามารถจัดสวน ปลูกต้นไม้ และที่สำคัญคือเปิดรับแสงเข้าสู่ภายในชั้นนี้ได้

ส่วนที่ห้องน้ำ ก็เหมือนที่ type A1 คือให้อ่างอาบน้ำแบบลอยตัว

และแบ่งห้องน้ำและห้องอาบน้ำพร้อมกระจกบานเปิดกั้นแบ่งพื้นที่ใช้งาน

ความประทับใจและสารพัดเหตุผลที่ควรต้องซื้อ

ต้องบอกว่านี่เป็นครั้งที่สองแล้วครับที่ผมได้มีโอกาสเข้ามาเยี่ยมชมโครงการ Quarter 39 แห่งนี้ โดยแต่ละครั้งที่เข้ามาก็จะมีเรื่องราวที่ชวนให้ประทับใจในความน่าอยู่ของที่นี่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆครับ สำหรับดีเวลลอปเปอร์หลายราย การสร้างโครงการอสังหาฯที่มีความได้เปรียบในเรื่องของทำเลอยู่แล้ว ก็ดูจะเป็นแต้มต่อสำคัญที่จะดึงดูดกลุ่มลูกค้า ยิ่งเป็นโครงการแนวราบแต่ตั้งอยู่บนทำเลใจกลางเมืองที่เป็นแหล่งรวมคอนโดราคาแพง ก็ยิ่งการันตีถึงความความหายาก ทำราคาขายได้ดี แค่ใส่ดีไซน์ Façade ที่ดูทันสมัยไปหน่อย เน้นสร้างโครงการที่มีจำนวนยูนิตน้อยๆ ไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่ส่วนกลาง ให้เสียพื้นที่ขาย แค่นี้ก็สามารถทำราคาขายแพงๆได้แล้ว แต่นั่นไม่ใช่ปรัชญาหลักในการพัฒนาโครงการของ นายณ์ เอสเตท (Nye Estate) ดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับ Luxury ที่รู้ดีว่าในสายตาของกลุ่มลูกค้าที่มีงบประมาณในระดับนี้ส่วนใหญ่ มักจะมองหาที่อยู่อาศัยที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองให้ได้มากที่สุด ผลลัพธ์ก็คือเราได้มีโอกาสเห็นจุดขายอันเป็นเอกลักษณ์สำหรับโครงการอสังหาฯทุกโครงการของ NYE Estate ที่ไม่ว่าใครเดินเข้ามาเห็นก็ต้องตะลึงงันในความสวยงาม และฟังก์ชั่นการใช้งานที่ทุกคนล้วนเห็นพ้องต้องกันว่า “ใช่ฉันอยากได้แบบนี้แหละ แต่ทำไมเราไม่เคยเห็นเลยจากที่อื่น” แทบจะทุกคนล่ะครับ…ดีเทลที่เป็นจุดสลบของโครงการอย่าง Quarter 39 ก็คือ การดีไซน์ผังโครงการที่เน้นการเชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างบ้าน ไปยังพื้นที่ส่วนกลาง On Ground หน้าบ้านแต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นส่วนตัว โดยดีไซน์ที่จอดรถให้อยู่บริเวณชั้นใต้ดินทั้งหมด และเชื่อมต่อการใช้งานด้วยลิฟท์ส่วนตัวในบ้านตั้งแต่ชั้นใต้ดินนี่ล่ะครับ นอกจากนั้นจะเป็นในเรื่องของงานดีไซน์ที่คิดมาแล้วว่าหน้าตาอาคารและพื้นที่ใช้สอยแนวๆนี้จะเป็นที่ถูกอกถูกใจ กลุ่มกำลังซื้อที่ยังค่อนข้างสองจิตสองใจกับงบประมาณระดับ 40-50 ล้านบาทว่าจะเลือกซื้อคอนโด 3 ห้องนอนที่ทองหล่อดีหรือว่าซื้อโครงการ Quarter 39 นี่ดีล่ะครับ

 

มองในแง่ของกลยุทธ์ทางการตลาดก็ต้องบอกว่า Quarter 39 ประสบความสำเร็จในการพัฒนา “จุดต่างที่ช่วยสร้างแต้มต่อจากคู่แข่ง” (Extra Point of Different) ทำให้โครงการมีความแตกต่างโดดเด้งขึ้นมาจากคู่แข่ง โดยที่ความแตกต่างดังกล่าวก็เป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการแต่หาไม่ได้จากที่อื่นด้วยเช่นกัน ทำให้ นายณ์ เอสเตท (Nye Estate) สามารถสร้างโครงการบน Prime Area แบบนี้ได้ แต่แทนที่บริษัทฯจะไปโฟกัสในเรื่องของการทำราคาให้ถูกลงเพื่อให้ขายได้ง่ายๆ แต่กลับเลือกในทางที่จะสร้าง Value Creation ที่โดนใจกลุ่มเป้าหมายที่ตัวเองวางไว้หลายๆอย่าง ผลลัพธ์ก็คือการออกมาเป็นสุดยอดโครงการ Luxury Urban Residence ที่เกิดกระแสบอกเล่ากันปากต่อปากถึงความสวยงาม ดังที่เราได้เห็นกันแล้วตามสื่อต่างๆนั่นเองครับ…สำหรับผมในฐานะที่เป็นคนที่เคยอยู่ทั้งคอนโด ชอบชีวิตแนวสูงเดินทางสะดวก และปัจจุบันได้ย้ายมาใช้ชีวิตในโครงการแนว Vertical Home ซึ่งเป็นทาวน์โฮมแนวสูง 3.5 ชั้น ก็ต้องบอกว่ามีไม่กี่เหตุผลหรอกครับที่เป็นปัญหา Classic Case ของคนที่ต้องอาศัยอยู่รวมกันในหมู่บ้านเดียวกัน นั่นก็คือจิตสำนึกสาธารณะของผู้อยู่อาศัยในการพยายามรักษาความเป็น Well-being ของทัศนียภาพโครงการครับ กล่าวคือเวลาเราอยู่หมู่บ้านทั่วไปหน้าบ้านของเราเองก็คือถนนสาธารณะ ซึ่งการที่เป็นสาธารณะเนี้ยทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาหากเพื่อบ้านของคุณมีมารยาทที่ไม่ดีและมีนิติบุคคลที่ไม่แข็งแกร่ง ปัญหาเรื่องการจอดรถขวางหน้าบ้าน เอะอะเสียงดัง ทิ้งขยะไม่เป็นที่ รถขนของเข้าออกไม่เป็นเวลา หน้าบ้านมีสิ่งของวางเกะกะ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ไม่เพียงบั่นทอนประสบการณ์ที่ดีในการอยู่อาศัย แต่ยังเป็นการ Devaluated โครงการในเรื่องราคาขายต่อในอนาคตทั้งนั้น และสำหรับกลุ่มคนที่ชอบใช้ชีวิตในคอนโดก็มักจะมองเหตุผลในการอยู่อาศัยในเรื่องของการที่ได้เทควิวส่วนกลางอย่างสวน และสระว่ายน้ำจากบนห้อง อีกทั้งคนกลุ่มนี้ยังมักจะมองในเรื่องของประโยชน์ที่ได้รับจากพื้นที่ใช้สอยมากกว่าขนาดที่ดิน เนื่องจากเอาไปใช้ทำอะไรไม่ได้ มีส่วนกลางไว้ให้ก็เพียงพอแล้ว ดังนั้นตลาดอสังหาฯในไทยส่วนใหญ่จึงมักมีแต่โครงการที่ไม่ค่อยจะตอบโจทย์ความต้องการทั้งอย่างอย่างในคราวเดียวกัน

ถ้าจะพูดโดยสรุปข้อดีของที่นี่ในย่อหน้าเดียวก็ต้องบอกว่า Quarter 39 เป็น Luxury Urban Residence 1 ใน 3 โครงการของ นายณ์ เอสเตท (Nye Estate) โดยอีกสองโครงการคือ Quarter 31 และ Quarter Thonglor ทั้งสามโครงการมีความเป็น Rare Item ในเรื่องของทำเลที่ตั้ง งานออกแบบ และรูปแบบโครงการ ชนิดที่ว่ายากที่จะหาโครงการอื่นทำได้แบบนี้ ราคานี้บนทำเลเดียวกัน ที่นี่เป็น Cluster Home ที่มีความโดดเด่นเรื่องความสวยงามทางสถาปัตยกรรม (โดย Somdoon Architect) และการดีไซน์ผังโครงการที่เน้นการเชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างบ้าน ไปยังพื้นที่ส่วนกลาง (โดย Shma Design) แต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นส่วนตัว โดยดีไซน์ที่จอดรถให้อยู่บริเวณชั้นใต้ดินทั้งหมด สามารถเชื่อมต่อเข้าถึงทุกยูนิต และสามารถจอดรถได้ถึง 4 คันต่อยูนิต (เห็นบ้านบางหลังมีการต่อเติมพื้นที่บริเวณชั้นลานจอดรถให้เชื่อมกับ Maid Quarter จนมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมด้วย) ซึ่งทุกหลังมีลิฟต์ส่วนตัวในการเชื่อมต่อการเข้าบ้านตั้งแต่ชั้นใต้ดินไปถึงทุกชั้น บนที่ดินขนาด 28-45 ตารางวา ให้พื้นที่ใช้สอย 380 – 479 ตรม.

 

ความพิเศษของชั้นจอดรถใต้ดินคือถูกออกแบบให้มีเฉพาะทางเดินรถเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อให้ชั้น 1 บริเวณหน้าบ้านมีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ได้ทัศนียภาพจาก Center Courtyard โดยดีไซน์ให้เป็นพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 1 ไร่ ประกอบด้วย Courtyard Garden สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 4×20 เมตร พร้อม Sun Deck ที่แวดล้อมด้วยสวนสวยจากไม้นานาชนิด

 

ด้วยราคาของคอนโดมิเนียมที่พุ่งสูงขึ้นโดยเฉพาะในย่าน Super Prime Area อย่างสุขุมวิทตอนกลาง การซื้อคอนโด Super Luxury ที่มีขนาด 3-4 ห้องนอน พื้นที่ประมาณ 300 ตรม. อาจจะต้องใช้งบประมาณมากถึง 90 ล้านบาท และ supply ห้องขนาดใหญ่แบบนี้ก็มีจำนวนน้อยมาก หรือถ้ามีก็ไม่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่น ต่อเติมอะไรได้มากมาย ดังนั้นหากเลือกได้ระหว่าง Luxury Urban Residence กับ Super Luxury Condo บนทำเลเดียวกัน แน่นอนว่า Luxury Urban Residence น่าจะถูกมองเป็นตัวเลือกแรกของกลุ่มมหาเศรษฐีที่มีกำลังซื้อมากกว่า ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในไม่กี่โครงการที่มอบ Living Solutions ให้กับคนมีเงินแต่คิดเยอะแบบนี้ได้อย่างเฟอร์เฟคที่สุด! จริงๆอีกหนึ่งโครงการที่มอบ Solutions แบบนี้ได้ก็เป็นของ นายณ์ เอสเตท (Nye Estate) เหมือนกันนี่แหละกับโครงการ Quarter 31 ส่วนนอกนั้นจะเป็นโครงการขนาดเล็กที่ไม่มีพื้นที่ส่วนกลาง หรือถ้าอยากจะหาโครงการที่มีพื้นที่ส่วนกลางก็ต้องไปเลือกที่ทำเลพัฒนาการ หรือแถวเกษตร-นวมินทร์ในราคาที่พอๆกันเลย

 

ผลจากความทุ่มเทในการพัฒนาทำให้ Quarter 39 สามารถคว้า 3 รางวัลใหญ่ระดับสากลจากเวที Asia Pacific Property Awards 2017-2018 ได้แก่ รางวัลชนะเลิศระดับห้าดาวการออกแบบสถาปัตยกรรมสำหรับที่อยู่อาศัยยอดเยี่ยม (Best Architecture Single Residence) รางวัลชนะเลิศระดับห้าดาวสาขาการออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมสำหรับที่อยู่อาศัยยอดเยี่ยม (Best Residential Landscape Architecture) และรางวัลชนะเลิศระดับห้าดาวโครงการที่อยู่อาศัยยอดเยี่ยม (Best Property Single Unit) พร้อมได้รับเกียรติให้เป็นตัวแทนของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อไปแข่งขันต่อในระดับโลกบนเวที International Property Awards 2017-2018 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และอีกหนึ่งความภาคภูมิใจคือ รางวัลชนะเลิศประเภทที่พักอาศัยระดับราคา 30 ล้านบาทขึ้นไป จาก ASA Real Estate Award 2018 ที่จัดขึ้นโดยสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยเข้ารับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรทราชกุมารี ด้วยคุณลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์ดังกล่าว และความหรูหราที่หายากจึงไม่แปลกที่ราคาในปัจจุบันจะพุ่งสูงจากตอนเปิดตัวเมื่อ 4 ปีที่แล้วพอสมควร (ตอนนั้นเริ่มต้น 37 ลบ.) ยิ่งได้เห็น Malton Private Residences Sukhumvit จาก MDE มาเปิดใกล้ๆกันในราคาเริ่มต้น 80 ลบ. ก็น่าจะเป็นหลักประกันถึงความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของเป็นอย่างยิ่งครับ

อ่านจบแล้วใครที่สนใจอยากได้ต้องรีบกันหน่อยละครับ เพราะตอนนี้เค้าเหลือแค่ 3 หลังสุดท้ายแล้วครับ จากทั้งหมด 15 หลัง โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 49 ลบ.

 

โอกาสสุดท้ายวันนี้! Quarter 39 บ้านหรู แนวคิดใหม่ Luxury Urban Residence ใกล้ EmQuartier

– เป็นส่วนตัวเพียง 15 หลัง พร้อมลิฟท์ส่วนตัวและที่จอดรถ 4 คันทุกหลัง

– บ้านทุกหลังเปิดรับวิวสวนกว่า 1 ไร่และสระว่ายน้ำ เชื่อมต่อจากห้องรับแขกได้ทันที

– Pet Friendly Community

– ใกล้รพ.สมิติเวช ,รร.นานาชาติชั้นนำและร้านอาหารมากมายพร้อม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เหนือระดับสำหรับทุกคนในครอบครัว

 

นัดหมายเยี่ยมชมโครงการ โทร. 064-971-0995

#Quarter39 #NyeSignatureCollection #NyeEstate #ReadyToMoveIn #Phromphong



เกริก บุณยโยธิน

เกริก บุณยโยธิน

ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ

เว็บไซต์


PropScore™ 4.5

SCORE:
0.0
From : 0 รีวิว


ยังไม่มีการให้คะแนนและ Comment โครงการนี้


พาชมบ้านสำเร็จรูปดีไซน์สวย สไตล์บ้านพักตากอากาศสุดหรู The Osmo Scape ในงานสถาปนิก’67

งานสถาปนิก’67 ปีนี้มีบูธน่าสนใจหลายบูธมากครับ จากข้อมูลคือมีแบรนด์ผู้จัดแสดงสินค้าชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศจำนวน 1,000 ราย บนพื้นที่ 75,000 ตร.ม.ที่พร้อมมาเปิดตัวผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ที... อ่านต่อ

2 May, 2024



ครบครันคุ้มค่าในทุกมิติของการอยู่อาศัยที่ 89 Residence Ratchada – Rama9 บ้านแนวคิดใหม่ หนึ่งเดียวใจกลางรัชดา – พระราม 9

บ้านจัดสรรในพื้นที่ Prime Area ใจกลางเมือง และย่านธุรกิจ CBD ของกรุงเทพฯ กำลังลดจำนวนลง... อ่านต่อ
2 May, 2024

LIFE SPACE TREND 2024 อะไรคือเทรนด์การอยู่อาศัยที่เปลี่ยนไปหลังภาวการณ์โรคระบาด โดยเฮียวิทย์ x AP Home

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนธรรมดาสุด Introvert อย่างผมจะได้เข้ามานั่งอิ่มเอมกับบรรยากาศสุดคลา... อ่านต่อ
29 April, 2024

TAIT Sathorn 12 เปิดห้องตัวอย่างใหม่ 1 Bed Iconic Suite แต่งครบ สไตล์ Classical American โดย ‘CHANINTR’ แค่ยูนิตเดียวเท่านั้น!

โครงการ TAIT Sathorn 12 ตอนนี้เค้ามีห้องเหลือขายแค่ 14 ห้องเท่านั้นครับ โดยเป็นห้อง 1 B... อ่านต่อ
25 April, 2024

ข้อเท็จจริง และความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ระหว่างอสังหาฯรูปแบบ Freehold และ Leasehold

ในปีนี้เราจะมีโอกาสได้เห็นโครงการ Leasehold ที่กำลังจะสร้างเสร็จพร้อมอยู่หลายที่ครับ แล... อ่านต่อ
17 April, 2024

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง