
เกริก บุณยโยธิน เมื่อ 22 November, 2015 เวลา 00.16 am
Prop score™: 3.1
คะแนนรีวิว: 0.0
0 รีวิว
ข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ
IDEO MOBI CHARAN-INTERCHANGE
บริษัทผู้สร้าง
Ananda Development PLC
สถานที่
ถ.จรัญสนิทวงศ์ แขวงบางกอกน้อย เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
สถานีรถไฟ BTS
-
สถานีรถไฟใต้ดิน
MRT บางขุนนท์ Distance 80 m./MRT จรัญสนิทวงศ์ Distance - m.
Airport Rail Link
-
สถานี BRT
-
พื้นที่
5-3-68 ไร่
ชั้น
คอนโด High Rise 22 ชั้น จำนวน 1 อาคาร
ยูนิต
1,196 ยูนิต+ ร้านค้า 5 ยูนิต
ที่จอดรถ
427 คัน
ลิฟท์
ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว,ลิฟต์ดับเพลิง 2 ตัว
สิ่งอำนวยความสดวก
Socail Club, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, Library Theatre, ห้องอบไอน้ำ, ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า, ห้องซักรีด (ไม่รวมอุปกรณ์), สวน
ประเภทยูนิต
ประเภท
CONDO
studio
21 sq.m.
1 bedroom
33.50 sq.m.
2 bedroom
45 sq.m.
3 bedroom
-
Duplex
-
Penthouse
-
ประเภทอื่นๆ
-
ความสูงจากพื้นถึงเพดาน
2.4 เมตร
ราคาเริ่มต้น / ตรม.
ประมาณ 116,000 บาท
ราคาเริ่มต้น / ยูนิต
2.49 ล้านบาท
ค่าส่วนกลาง
45 บาท/ตร.ม./เดือน
Sinking Fund fee
500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
สร้างเสร็จ
ปี2558
เว็บไซต์
http://www.ananda.co.th/condo/ideomobi/charan/
02-316-2222
มีไม่กี่ทำเลในกรุงเทพฯครับ ที่จะมีศักดิ์ศรีพอจะเรียกได้ว่าเป็นย่านชุมชนเก่าแก่ ที่มีรูปแบบการดำเนินชีวิตที่สืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น… คำว่า “ติดถิ่น” เป็น keyword สำคัญในด้านลักษณะทางพฤติกรรมศาสตร์ ที่หลายๆดีเวลลอปเปอร์มักจะมองหา เวลาที่ไป survey สถานที่ เพื่อซื้อที่ดินและนำมาพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียม เนื่องจากหากพบว่าทำเลที่กำลังเล็งอยู่ มีการพัฒนาของชุมชนโดยรอบอย่างสมบูรณ์ต่อเนื่อง ครบหมดทั้ง การคมนาคมขนส่ง รถไฟฟ้า อาหารการกิน แหล่งช้อปปิ้ง โรงพยาบาล สถาบันการศึกษา และหน่วยงานราชการ โดยที่ในขณะเดียวกันบรรดาผู้ที่อยู่อาศัยแถวนั้นก็ไม่อยากที่จะขายบ้านของตัวเองให้ใคร เพื่อย้ายไปเริ่มต้นใหม่ที่อื่น เพราะว่าติดถิ่นไปแล้วตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ… หากทำเลใดก็ตามที่มีผู้อยู่อาศัยในลักษณะนี้ก็รับรองได้เลยครับ ว่านั่นต้องเป็นหนึ่งในทำเลทอง ที่ราคาที่ดินจะมีแต่พุ่งสูงขึ้น และคอนโดไหนก็ตามที่มีโอกาสได้พัฒนาบริเวณนั้นก็จะได้รับอานิสงค์จากกลุ่มลูกค้า Local demand ไปได้ไม่ใช่น้อยเลย
ทำเลที่คนติดถิ่นนั้นมีอยู่หลากหลายกระจายตัวออกไปครับ ไม่ว่าจะเป็นเยาวราช บางรัก ลาดพร้าววังหิน ปิ่นเกล้า สามย่าน หรือเตาปูน..ไม่นับรวมถึงทำเล CBD หลายทำเลที่ส่วนใหญ่แล้วไม่ได้มีจุดเริ่มต้นมาจากการเป็น residential area แต่อย่างใด….ทำเลจรัญสนิทวงศ์ ก็เป็นอีกหนึ่งทำเลครับ ที่มีความเป็น residential area มาแต่เก่าก่อน ผู้คนที่อยู่โดยรอบมักจะไม่ค่อยอยากจะย้ายไปไหน หากจะแยกถนนจรัญสนิทวงศ์ออกเป็นช่วงๆ ผมก็คิดว่าน่าจะแยกออกได้เป็น 4 ช่วงครับ 1. ช่วงสี่แยกท่าพระ 2. ช่วงแยกบางขุนนนท์ต่อเนื่องแยกปิ่นเกล้า 3. ช่วงบางพลัด สะพานซังฮี้ และ 4. ช่วงจรัญสนิทวงศ์ตอนปลายเชื่อมต่อสะพานพระราม 7…โดยหากวัดศักยภาพโดยใช้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ถนนจรัญสนิทวงศ์ทั้งเส้นก็จะเชื่อมต่อกันด้วยรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ซึ่งหลายๆคนว่ากันว่าจะเป็นรถไฟฟ้าสายที่มีความสำคัญกับชาวกทม.มากที่สุดเพราะว่าจะวิ่งวนรอบกทม.และฝั่งธนเป็นวงกลม คล้ายๆกับสาย Yamanote Line ที่โตเกียว หรือ Circle Line ที่ London มีจุดที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายอื่นแทบจะทุกสี เรียกได้ว่าใครก็ตามที่อยู่ในทำเลที่มีสายสีน้ำเงินผ่านก็สะดวกสบายไปทั้งชาติ…แต่หากว่าเรานับเฉพาะช่วงที่เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายอื่น (Interchange) ก็จะพบว่าทำเลจรัญฯช่วงแยกท่าพระ และช่วงแยกบางขุนนนท์ ก็คือสองทำเลที่มีแต้มต่อมากที่สุดครับ
วันนี้ผมได้มีโอกาสมาเยือนโครงการที่ตั้งอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ช่วงแยกบางขุนนนท์ต่อเนื่องแยกปิ่นเกล้าครับ โครงการที่ว่านั้นคือ ไอดีโอ โมบิ จรัญ – อินเตอร์เชนจ์ (Ideo Mobi Charan Interchange) คอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่จากค่ายอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)…คอนโดแห่งนี้ถือว่าเป็นแบรนด์ ไอดีโอ โมบิ ใน generation ที่ 1.1 ครับ โดย generation แรกนั้น ประกอบไปด้วยแบรนด์ ไอดีโอ โมบิ สาทร, ไอดีโอ โมบิ พญาไท, ไอดีโอ โมบิ พระราม 9 และ ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท ซึ่งทั้งหมดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ไปเมื่อราวๆปีกว่า สองปีแล้ว….ที่บอกว่าเป็น generation ที่ 1.1 ก็เพราะว่าในด้านการดีไซน์ของโครงการ ไอดีโอ โมบิ จรัญ – อินเตอร์เชนจ์ ยังคงเน้นการดีไซน์ที่อิงกับเส้นสายแบบที่เราคุ้นตากันในแบรนด์ไอดีโอ โมบิ ยุคแรกๆ ไม่ว่าจะเป็น ทรงตึกแบบเหลี่ยม มี Facilities อยู่บนชั้นจอดรถ ลวดลาย facade ที่เน้นให้เห็นถึงการผสานกันระหว่าง Horizontal Line และ Vertical Line เป็นปูนสีขาวรอบตึก จะมีแตกต่างกันก็เพียงแค่นี่คือโครงการที่เพิ่งสร้างเสร็จ และก็ให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลางมากเป็นพิเศษครับ…ซึ่งปัจจุบันนี้แบรนด์ไอดีโอ โมบิ ก็ได้เข้าไปสู่ 2nd generation ที่ให้ Rooftop facility และเพิ่มดีไซน์โค้งมน แหวกอากาศ ไปแล้วอย่างโครงการไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท อีสท์เกต, ไอดีโอ โมบิ วงศ์สว่าง อินเตอร์เชนจ์ และตัวล่าสุดคือ ไอดีโอ โมบิ บางซื่อ แกรนด์ อินเตอร์เชนจ์ ครับ
ในเรื่องของการเดินทาง หลายคนที่ทำงานหรืออยู่อาศัยในใจกลางเมืองอย่างย่านสุขุมวิท พญาไท ฯลฯ อาจมองว่าพื้นที่ฝั่งธนฯ (แถวจรัญฯด้วยนะ ไม่ใช่วงเวียนใหญ่) เป็นพื้นที่ชานเมือง เดินทางไกล และลำบาก คงใช้เวลาในการเดินทางไปทำงานมากกว่าหากเลือกที่จะอยู่ในย่านนี้ แต่ด้วยการมาของรถไฟฟ้าทั้งสามสาย ทั้งสายสีน้ำเงิน สายสีแดง และสายสีส้ม จึงทำให้ย่านฝั่งธนฯแถวจรัญฯที่ดูไกล ใกล้ขึ้นและสามารถเดินทางไปรอบกรุงเทพฯได้อย่างรวดเร็วแบบประหยัดเวลาสุดๆ…แต่ช้าก่อน ตอนนี้รถไฟฟ้ายังสร้างไม่เสร็จครับ งั้นเอาเป็นว่าเรามาดูเส้นทางการเดินทางในแบบเข้าใจง่ายๆกันดีกว่าครับ
รอบโครงการมีอะไรบ้าง?
ไอดีโอ โมบิ จรัญ อินเตอร์เชนจ์ ตั้งอยู่บนทำเลทองของการเดินทาง ด้วยรถไฟฟ้า 3 สาย ที่จะเชื่อมโยงคุณเข้าสู่ใจกลางเมือง และทุกมุมของกรุงเทพมหานครได้เพียงไม่กี่ก้าวจากคอนโดซึ่งหากดูพื้นที่โดยรอบก็มีความเป็นไปได้ยากที่จะมีนักพัฒนาที่ดินรายอื่นมาสร้างคอนโด high rise ได้ใกล้สถานีทั้งสามได้เท่านี้อีกแล้ว นอกจากทางขึ้นลงสถานีจะใกล้ทางเข้าโครงการมากขนาดนี้ โดยรอบยังเป็นย่านชุมชนเก่า ทำให้โดยรอบโครงการมีศูนย์การค้าต่างๆรองรับ อาทิ Makro จรัญสนิทวงศ์ Foodlandจรัญสนิทวงศ์ และอยู่ใกล้สาธารณูปการหลัก อย่างโรงพยาบาลศิริราช ศูนย์กลางการแพทย์อันดับต้นๆของประเทศไทย ทำให้ลูกค้าหลักโครงการนี้ ก็คือเหล่าคุณหมอ และนักศึกษาแพทย์ พยาบาล เนื่องจากอยู่ไม่ไกล เพียง 900 เมตรจากที่ตั้งคอนโด และข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาก็เป็นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์ท่าพระจันทร์ จากที่ตั้งคอนโดห่างไปอีก 1.5 กิโลเมตร ก็เป็นตำแหน่งที่ตั้งของ เซ็นทรัลปิ่นเกล้า โลตัสปิ่นเกล้า พาต้าปิ่นเกล้า ย่านศูนย์กลางการค้าเก่าย่านปิ่นเกล้า และสามารถเดินทางไปยังพื้นที่เกาะกรุงรัตนโกสินทร์ ศูนย์กลางเมืองเก่าได้เพียง 2.5 กิโลเมตร…วู้ว นี่แหละคือสาเหตุที่ทำไมคนแถวนี้ถึงติดถิ่นนัก
เมื่อทำเลที่ตั้งที่ทำให้คุณสามารถเดินทางไปยังส่วนต่างๆของกรุงเทพฯได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลาแล้ว จึงทำให้คุณมีเวลามากขึ้นในการใช้ชีวิตตาม lifestyle โครงการนี้จึงออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่มากมาย เพียบพร้อม ให้คุณได้ใช้ชีวิตแบบตัวคุณเองอย่างครบครันบนเวลาที่เหลือเฟือ ทั้งห้องออกกำลังกาย ห้องสมุด สระว่ายน้ำ สวน ห้อง Theater อีกทั้งพื้นที่ร้านค้าด้านหน้าอาคารทางเข้าโครงการก็ถูกจับจองจากร้านค้ารายใหญ่อย่าง Max Valu และ Starbucks เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรียกได้ว่า ตั้งแต่การเดินทาง พักผ่อน และจับจ่ายใช้สอย ภายในและโดยรอบโครงการ มีรองรับอย่างครบครัน
ต้องบอกอีกนิดครับว่า Global Brand ดังอย่าง Starbucks เนี่ย เค้าค่อนข้างจะเลือกสรรทำเลในการเปิดสาขาพอสมควรนะครับ หลายๆที่ยินดีเสนอให้ Starbucks อยู่ฟรี พร้อมก่อสร้างให้ เค้าก็ยังไม่ยอมมาเลยครับ ถ้าไม่ใช่ทำเลยุทธศาสตร์ของเขาจริงๆ ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะเปิดตามห้าง ออฟฟิศ เท่าที่ผมรู้มีคอนโดเพียงแค่ 2 ที่เท่านั้นครับ ที่ Starbucks ตัดสินใจเลือกมาเปิดสาขา ที่แรกคือ Ideo Q พญาไท และอีกที่ก็คือ ที่นี่แหละครับ
ทางเข้าโครงการบริเวณสำนักงานขาย มีการรักษาต้นไม้ใหญ่ต้นนี้เอาไว้ โดยออกแบบ Landscape พร้อมที่นั่งพัก ให้ดูกลมกลืนไปเป็นองค์ประกอบเดียวกันครับ
ตัวอาคารของ ไอดีโอ โมบิ จรัญ อินเตอร์เชนจ์ ถูกออกแบบเป็น 2 ปีก คือ North & South บนพื้นที่ 5-3-68 ไร่ 22 ชั้น 1,196 ยูนิต ปีกทิศเหนือวางตัวเป็นตัว L กลับหัว ได้วิวทิศเหนือและตะวันออกของโครงการ ซึ่งเป็นบริเวณทางเข้าหลัก และติดทางขึ้นลงรถไฟฟ้าทั้ง 3 สายในอนาคต และบางส่วนได้วิวสวนและสระว่ายน้ำส่วนกลางด้านทิศตะวันตก ส่วนปีกด้านใต้วางตัวตั้งฉากกับถนนจรัญสนิทวงศ์ ได้วิวด้าน Makro และทิศตะวันตกได้วิวสวนและสระว่ายน้ำบริเวณพื้นที่ส่วนกลางชั้น 5 ที่เชื่อมโยงถึงกันทั้ง 2 ปีก ส่วนชั้น 6-ชั้น 22 มีห้องเชื่อมกันทั้ง 2 ฝั่ง N & S เห็นวิวพื้นที่ส่วนกลางและรถไฟฟ้า มี Lobby บริการทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งผู้พักอาศัยสามารถขึ้นลงฝั่งใดก็ได้ แต่ชั้นที่พักอาศัยเพื่อความปลอดภัยสามารถเข้าออกได้เฉพาะชั้นของตนเอง
ดูโมเดลโครงการในแต่ละด้านกันครับ
การจัดวางแปลนอาคารเป็น 2 ปีก ทำให้ห้องทั้งหมด 1,196 ยูนิต สามารถเห็นวิวโดยรอบได้ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์และบ้านเดี่ยว มีที่จอดรถให้บริการทั้งหมด 427 คัน ภายในอาคารตั้งแต่ชั้น 1-ชั้น 4
ห้องที่ทางโครงการออกแบบมีทั้งหมด 4 type คือ
ห้อง studio A1-1 ขนาดพื้นที่ 21.5 ตร.ม. แบบหน้ากว้าง ส่วนใหญ่อยู่ปีกด้าน North และบางส่วนอยู่ติด Lift lobby ของชั้น 6-22 ได้วิวทิศตะวันออกและตกของโครงการ
ห้อง studio A2-1 ขนาดพื้นที่ 21.5 ตร.ม. แบบหน้าลึก อยู่บริเวณปีก South เป็นหลัก ได้วิวเมืองด้านMakro
ห้อง 1 bedroom B1-2 ขนาดพื้นที่ 33.5 ตร.ม. กระจายตัวอยู่ทั้งฝั่ง N & S ได้วิวพื้นที่ส่วนกลางอย่างสวนและสระน้ำ รวมทั้งมองเห็นวิวของห้องที่อยู่ปีกตรงกันข้าม
ห้อง 2 bedroom C2-2 ขนาดพื้นที่ 45 ตร.ม. เป็นห้องหัวมุมมีอยู่ทุกชั้นทั้งฝั่ง N & S เช่นกัน
เริ่มจากทางเข้าตัวอาคาร โครงการตั้งอยู่อย่างโดดเด่น บริเวณแยกถนนบางขุนนนท์และถนนจรัญสนิทวงศ์ สถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสีแดงในอนาคต คือสถานีบางขุนนนท์ จะอยู่บริเวณทางแยกหน้าโครงการพอดี…สามารถเลือกขึ้นไปที่ชั้นตัวเองได้ทั้งทาง Lobby A และ Lobby B ครับ แต่ละ Lobby จะมีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว และลิฟท์บริการ 1 ตัว
เราเริ่มจาก South Lobby กันดีกว่าครับ
South Lobby จะมีขนาดใหญ่ กว้างขวาง ทางเข้าติดหน้าถนนจรัญสนิทวงศ์ ใกล้กับร้าน Starbucks ใช้สี Grey tone แต่ด้วยการติดตั้งหน้าต่างกระจกโดยรอบ ทำให้Lobby สว่าง และดูกว้างมากขึ้น
ส่วน North Lobby เป็นบริเวณทางเข้าที่จอดรถของอาคาร
ส่วนห้องตัวอย่างที่วันนี้ได้ขึ้นไปดู คือห้องชั้น 12A ฝั่ง South มีด้วยกัน 3 รูปแบบ คือ ห้อง Studio A2 ,ห้อง 1 bedroom B1 และห้อง 2 bedroom C2 ซึ่งโครงการขายห้องแบบตกแต่งครบพร้อมเฟอร์นิเจอร์ ยกเว้น Prop ตกแต่ง, wallpaper,ผ้าม่าน,เครื่องใช้ไฟฟ้า และฟูกที่นอน เพดานสูง 2.5 เมตร และพื้นห้องเป็นลามิเนตหนา 8 มิล
รูปแบบแรก ห้อง Studio A2 (S7-14) ขนาดพื้นที่ 21.5 ตร.ม. เป็นห้องหน้าลึก อยู่ทางทิศตะวันตก แปลนห้องแบ่งเป็น 4 ส่วน คือ ติดประตูเป็นส่วนห้องน้ำ ห้องครัว ตรงกลางเป็น Living area ปลายสุดเป็นห้องนอน ที่เชื่อมต่อไปที่ระเบียง
พื้นที่ครัวอยู่ทางด้านขวาของห้อง ด้านบนเคาท์เตอร์มีชั้นเก็บของติดผนังสูงจรดเพดาน เครื่องดูดควันของMEX และมีช่องเจาะสำหรับวางไมโครเวฟรองรับ
ด้านซ้ายเป็นห้องน้ำ สุขภัณฑ์หลักของ COTTO ภายในแบ่งส่วนเปียก-แห้ง มีประตูกระจกใสกั้นเป็นสัดส่วน
ด้านในบริเวณที่อาบน้ำ เป็นตำแหน่งเสาอาคาร แต่ก็ใช้มุมเสาให้เป็นประโยชน์ไม่เกิดช่องว่างที่ไม่ได้ใช้งาน ด้วยการใส่ลูกเล่นของ ชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำ
โดยห้อง Studio เฟอร์นิเจอร์ที่ได้จะเป็นของ SB ทั้งหมด ประกอบด้วยตรงกลางห้องมี Sofa เล็ก 1 ชุด
ตรงข้ามเป็นชั้นวางของหรือชั้นวางทีวีที่สามารถปรับเป็นโต๊ะอาหารได้ โดยมีตำแหน่งปลั๊กและช่องเสียบเคเบิ้ลหลังชั้นวางของ
ข้างชุด Sofa วางเตียงติดประตูระเบียงไปเลยครับ ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า
ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อสูงติดเพดาน มีกระจกอยู่ที่หน้าบาน 1 บาน
ประตูออกระเบียง มีผ้าม่านและรางวิ่งจากตู้เสื้อผ้าจรดฝาผนังอีกด้าน ทำให้เวลาเปิดปิดสามารถเก็บได้เป็นระเบียบ
ส่วนวิวจากหน้าต่างและระเบียงของห้องนี้เป็นวิวฝั่ง Makro ไม่มีอาคารสูงอื่นใดมาบดบังวิว
ห้องนี้มีแอร์ตัวเดียว เป่าลมร้อนออกด้านนอกครับ
ห้องที่สอง เป็นห้อง 1 bedroom B1 (S7-17) ขนาดพื้นที่ 33.5 ตร.ม. แปลนห้องแบ่งเป็น 4 ส่วน คือ ติดประตูเป็นครัว ด้านขวาเป็นห้องนอนมีห้องน้ำในตัว พร้อมที่นั่ง Bay Window ตรงกลางเป็นห้องนั่งเล่น และอีกส่วนคือบริเวณระเบียงที่เป็นระเบียง 2 ชั้น
เปิดเข้ามาในห้องด้านซ้ายเป็นเคาท์เตอร์ครัว ประกอบด้วยอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า และช่องใส่เครื่องซักผ้าฝาหน้า
เหนือเคาท์เตอร์ครัวเป็นชั้นวางของสูงจรดเพดาน เก็บเครื่องดูดควันและสามารถวางไมโครเวฟได้
อีกด้านของเค้าน์เตอร์ครัว วาตู้เย็นได้ครับ ขนาดก็ไม่ควรจะใหญ่กว่านี้ไม่งั้นก็คงจะเปิดประตูยากนิดนึงครับ
ถัดมาขวามือเป็นโต๊ะอาหารขนาดเล็ก ซึ่งความพิเศษของเฟอร์นิเจอร์ห้อง 1 bedroom คือออกแบบโดยแบรนด์ Quattro Design
ปลายห้องเป็นห้องนั่งเล่น วางโซฟา และทางออกระเบียง มีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ที่ทำให้สามารถเปิดรับลมได้กว้าง
วิวด้านทิศเหนือ เห็นอาคารฝั่งปีก North ด้านล่างเป็นวิวคอร์ทสวนและสระน้ำส่วนกลาง เชื่อมต่อกับวิวชุมชนเมืองข้างๆ
ด้านซ้ายของห้องเป็นทางเข้าห้องนอน ไม่มีระเบียง แต่มีหน้าต่างพร้อมที่นั่งเล่นเล็กๆเป็น Bay window สามารถจัดมุมทำงานในอีกมุมห้องได้
มองจาก Bay Window ก็มีมุมแฉลบปลายตึกออกครับ
ด้านซ้ายของห้องนอนเป็นตู้เสื้อผ้าสูงติดเพดาน พร้อมกระจกที่หน้าบาน
ห้อง 1 bedroom ห้องน้ำถูกจัดวางให้เชื่อมต่อกับห้องนอน บริเวณด้านซ้ายของห้องนอน
ห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้ง มีประตูกระจกใสกั้น สุขภัณฑ์หลักเป็น COTTO
อ่างล้างหน้า มีบานกระจกติดผนัง เข้ามุม พร้อมชั้นวางในตัว ด้านล่างมีตู้เก็บของเชื่อมจากตัวอ่างล้างหน้า
บริเวณที่อาบน้ำ เป็นตำแหน่งเสาอาคาร แต่ใช้ประโยชน์เป็นชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำแทน
ห้องสุดท้ายเป็น ห้อง 2 bedroom(S7-15) ขนาดพื้นที่ 45 ตร.ม. เป็นห้องหัวมุม ได้วิวทั้งด้านตะวันตกและทิศใต้
เลย์เอ้าท์ห้องแบ่งพื้นที่ออกเป็น 5 ส่วน เป็นสองห้องนอน 1 ห้องน้ำ คือ ห้องนั่งเล่นตรงกลางเชื่อมต่อพื้นที่ระเบียง 2 ชั้น ห้องนั่งเล่นเชื่อมห้องนอนทั้ง 2 ห้อง และเชื่อมส่วนห้องน้ำ ห้องครัว เข้าด้วยกัน
ห้องนั่งเล่นตรงกลาง แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนคือซ้ายมือติดประตูเป็นมุมโต๊ะอาหาร 4 ที่นั่ง เฟอร์นิเจอร์ของห้อง 2 bedroom เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบโดยแบรนด์ Quattro Design เช่นเดียวกับห้อง 1 bedroom
โต๊ะทานข้าวถูกจัดวางอยู่หน้าประตู อาจจะดูไม่ Practical เท่าไหร่ เพราะไม่ได้อยู่ในโซนเดียวกับครัวครับ แต่ข้อดีคือมีพื้นที่ดูทีวีที่เยอะขึ้นครับ
ด้านติดประตูระเบียงเป็นพื้นที่โซฟาและมุมดูทีวี ที่สามารถเห็นวิวด้าน Makro ได้มุมกว้าง
ด้านหลังโซฟาเป็นบริเวณครัว ประกอบด้วยอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า มีเจาะช่องวางเครื่องซักผ้า และมุมวางตู้เย็นด้านซ้าย
ด้านซ้ายของครัวเป็นห้องน้ำ สุขภัณฑ์หลักเป็น COTTO ภายในแบ่งส่วนเปียก-แห้ง มีประตูกระจกใสกั้นเป็นสัดส่วน แบบเดียวกับทุกห้อง
ด้านขวาของห้องเป็นทางเข้าห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็ก
ห้องนอนใหญ่อยู่บริเวณหัวมุมอาคาร หัวมุมเตียงผ้าม่านเป็นกระจกเข้ามุมต่อเนื่อง Take View ได้สองด้านครับ
วิวห้องนอนใหญ่เป็นวิวเดียวกับบริเวณห้องนั่งเล่น…Makro
ด้านซ้ายเป็นตู้เสื้อผ้าสูงติดเพดาน พร้อมกระจกแต่งตัว
ห้องนอนเล็กเห็นวิวด้านทิศเหนือ
ข้างหัวเตียงมีมุมทำงานเล็กๆได้ 1 ตัว และด้านขวาติดประตูเป็นตู้เสื้อผ้าสูงติดเพดาน
โดยรวมของห้องทั้ง 3 แบบ ถึงแม้ขนาดห้องจะดูเล็กหากเทียบกับขนาดที่ควรจะเป็น แต่ด้วยการแบ่งพื้นที่ใช้งานได้เป็นสัดส่วน และการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีความเฉพาะเหมาะกับแต่ละห้อง ก็ถือว่าใช้ Space ของห้องได้อย่างคุ้มค่า ทำให้ห้องขนาดเล็ก มีพื้นที่เหลือเฟือในการใช้งานอื่นๆ
พื้นที่ส่วนกลางของคอนโด อยู่บริเวณชั้น 5
แบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน หลักๆ ด้วยกัน คือ พื้นที่สวนและสระน้ำฝั่งทิศตะวันตก
พื้นที่ห้อง Theater และห้องสมุด ฝั่งทิศเหนือ ซึ่งติดกับ North Lift Lobby
พื้นที่สระว่ายน้ำทางทิศใต้ ซึ่งยังไม่สามารถเข้าไปดูได้
และพื้นที่ส่วนกลางบริเวณ Social club และ ฟิตเนต ที่เป็นพื้นที่กลางเชื่อมส่วนต่างๆเข้าด้วยกัน และติด South Lift Lobby
พื้นที่สวนและสระน้ำฝั่งทิศตะวันตก เป็นสระน้ำ รูปตัว U ล้อมรอบด้วยสวน และที่นั่งพักริมน้ำ ตรงกลางเป็นคอร์ทที่นั่ง out door
พื้นที่ส่วนกลางส่วน Social club สามารถเห็นวิวสระน้ำ มีที่นั่งรองรับจำนวนมาก ทั้งโซฟา หรือบาร์สูง พร้อมปลั๊กไฟบริการทุกโต๊ะที่นั่ง
ด้านขวาเป็นห้องฟิตเนต ที่สามารถเห็นวิวสระว่ายน้ำ Swimming pool ที่มีความลึกและยาว (แต่ยังไม่เสร็จเรียบร้อยจึงไม่มีรูปถ่าย)
ออกจาก Social Club ไปส่วนของห้องสมุดและห้อง Theatre กันบ้างครับ
ห้องสมุด มีมุมอ่านหนังสือ ทั้งแบบ โซฟาและแบบเค้านท์เตอร์ส่วนตัว
มาดูห้อง Theatre กันบ้างครับ เป็นคอนโดอนันดาฯที่แรกที่มีห้องดูหนัง ขนาด 14 ที่นั่ง ชุดนั่งโซฟาของ Zimm Theater Seat
ภายในห้องออกแบบผนัง และอุปกรณ์เครื่องเสียงแบบในโรงภาพยนตร์ ลดเสียงรบกวนและเสียงก้อง ทั้งพื้น ผนังและเพดาน
โดยสรุปแล้วด้วยทำเลของ ไอดีโอ โมบิ จรัญ อินเตอร์เชนจ์ ถือว่ามีแต้มต่อในเรื่องการเดินทางในอนาคต (เมื่อรถไฟฟ้าทั้งสามสายสร้างเสร็จ) เป็นอย่างมากครับ ด้วยรถไฟฟ้า 3 สายในอนาคต ที่จะทำให้คุณไปทุกที่ได้ด้วยความสะดวกสบายบนเวลาที่น้อยกว่า ส่วนขนาดห้องถึงแม้ขนาดจะดูเล็ก แต่ด้วยการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่มีเฉพาะในโครงการและการใช้ทุก Space อย่างคุ้มค่า ประกอบกับวิวด้านนอกที่เปิดโล่งไม่มีอาคารสูงอื่นใดมาบดบัง ก็ทำให้ห้องยังดูโปร่ง โล่ง บนพื้นที่ที่จำกัดและไม่ดูคับแคบจนเกินไป โครงการจับกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มคนวัยเริ่มทำงานในละแวกนั้น จนถึงกลุ่มครอบครัวขนาดเล็ก จึงทำให้รูปแบบหลักของห้องนั้นเป็นห้องที่มีขนาดเล็กเพียงแค่ 21.5 ตรม. และขนาดพื้นที่ห้อง 2 ห้องนอนก็ยังมีขนาดเพียงแค่ 45 ตรม. และมีแค่ห้องน้ำเดียว…การออกแบบห้องในรูปแบบนี้ โครงการจึงจำเป็นต้องสร้างบรรยากาศ และประสบการณ์การอยู่อาศัยนอกห้องทดแทน ด้วยการให้ Full Facility ที่มีความหลากหลายให้เลือกใช้มาก ไม่ว่าจะเป็น Social Club, Mini Theatre, Fitness, Steam Room, Library, Laundry, Urban Pool, Relax Pool สวนลอยฟ้า จนถึงร้านค้าชั้นนำอย่าง Max Valu และ Starbuck…เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอที่จะทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกว่าชีวิตมีพร้อมแล้วทุกสิ่งที่นี่ ด้วยจำนวนยูนิตที่มีถึง 1,196 ยูนิต ในทางปฏิบัติ เมื่อเข้าอยู่จริงพร้อมกันหมดแล้ว ก็คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการใช้ส่วนกลางพร้อมๆกันโดยมิได้นัดหมาย ซึ่งจุดนี้การบริหารงานนิติบุคคลอันเข้มแข็ง เป็นระเบียบ ก็เป็นเรื่องที่จำเป็นมากกว่าเรื่องอื่น
ยอดขาย ณ ปัจจุบันของโครงการอยู่ที่ราวๆ 85% โดยยอดขายในช่วงแรกค่อนข้างเป็นไปอย่างช้าๆ ไม่หวือหวา เนื่องจากปัจจัยสองประการก็คือ 1. เป็นโครงการ High Rise เพียงแห่งเดียวในย่านนี้ ซึ่งบังเอิญมีราคาที่สูงที่สุดกว่าที่อื่นๆ จึงทำให้กลุ่มผู้ซื้อยังคงตื่นตกใจกับราคาต่อตรม. ที่สูงถึงตรม.ละ 110,000 บาท 2. เป็นโครงการที่ทางอนันดาฯต้องมาเริ่มทำการตลาดใหม่กับกลุ่มคน Local Area ซึ่งไม่เคยมีฐานลูกค้ามาก่อน และคนแถวนี้ ก็แน่นอนว่ายังคุ้นชินกับชีวิตแนวราบมากกว่า
ตอนนี้หลังจากโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ เช่นเดียวกับโครงการรถไฟฟ้าที่เห็นสถานีมาวางอยู่เบื้องหน้าโครงการแล้ว (ถึงแม้ว่าจะเลื่อนเปิดออกไปก็เถอะ ทั้งสายสีน้ำเงินที่ยังรอความชัดเจนของสะพานข้ามแยกท่าพระ สายสีส้มที่เพิ่งจะสรุปว่าจะใช้เส้นทางเดิม และรถไฟชานเมืองสายสีแดง ตลิ่งชัน ศาลายา ที่ก็ยังคงไม่ได้เริ่มสร้างสถานีส่วนต่อขยายช่วงตลิ่งชัน ศิริราช) ซึ่งก็ตรงกับจังหวะที่คนในกรุงเทพฯ รวมถึงในย่านนี้ก็เริ่มที่จะรับรู้แล้วว่า ราคาของโครงการที่เฉลี่ยตรม.ละแสนนิดๆก็ถือว่าเป็นราคาแห่งอนาคตของที่นี่ (ปัจจุบันราคาขายขยับขึ้นไปที่ราวๆตรม.ละ 123K แต่ขายพร้อมเฟอร์ฯและโปรฯมากมายก่ายกอง) และสร้างเสร็จออกมาก็ดูเป็นงานละเอียดมากแตกต่างจากซีรีย์เก่าๆที่ผ่านมา
ส่วนคู่แข่งใกล้ที่สุด คือ Dbura พรานนก ของแสนสิริ ที่มีราคาเริ่มโครงการอยู่ที่ ตารางเมตรละ 80,000 บาท ซึ่งตอนนี้ขายและโอนไปหมดแล้ว ส่วนราคารีเซลหลังโอนอยู่ที่ประมาณ ตารางเมตรละ 97,000 บาท ซึ่งก็ประสบปัญหาพอสมควรในช่วงใกล้โอนเพราะมีคนทิ้งดาวน์เป็นจำนวนมาก….ดังนั้นโครงการไอดีโอ โมบิ จรัญ อินเตอร์เชนจ์ จึงไร้คู่แข่งในตลาดพร้อมอยู่ไปโดยปริยาย ซึ่งเร็วๆนี้ค่ายเอพีก็เตรียมที่จะเปิดโครงการ Life ปิ่นเกล้าในราคาเฉลี่ยที่น่าจะแพงกว่าไอดีโอ โมบิ จรัญฯ ประกอบกับมาตรการด้านอสังหาฯของทางรัฐบาลล่าสุด ที่เน้นกลุ่มคอนโดพร้อมโอนราคาต่ำสามล้าน ซึ่งเป็นราคาห้องส่วนใหญ่ของไอดีโอ โมบิ จรัญฯ จึงน่าจะทำให้บรรดาผู้ที่ยังลังเลอยู่ว่าจะซื้อดีมั้ย ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ภายใต้ข้อเท็จจริงว่า “I have no choice”
หากคุณเป็นคนที่ติดในถิ่นฐานของตัวเอง หรือเป็นคนที่บังเอิญต้องมาทำงานไม่ว่าจะศิริราช หรือว่าเรียนหนังสือที่มธ. หรือถ้าคุณอยากอยู่ในย่านฝั่งธนฯ ย่านที่พักอาศัยที่รายล้อมด้วยศูนย์กลางการค้าคุณภาพ อยู่ท่ามกลางชุมชนเก่าดั้งเดิมของย่านปิ่นเกล้า แต่ยังสามารถเดินทางไปยังส่วนต่างๆของกรุงเทพฯได้สะดวกรวดเร็ว และที่สำคัญมองในราคารวมต่อยูนิตที่ยังคงมีราคาต่ำกว่าสามล้าน ผมว่าที่นี่ดูจะเป็นตัวเลือกที่น่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายของคุณครับ
ปัจจุบันโครงการขายไปแล้วเกือบ 85% โปรโมชั่นที่มีคือ (อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้กรุณาสอบถามกับพนักงานขายอีกครั้งนะครับ)
ห้อง Studio ซื้อพร้อมเฟอร์นิเจอร์ ราคาเริ่มต้น 2.75 ล้านได้อยู่ฟรี 1 ปี พร้อมทัวร์ญี่ปุ่น และฟรี Samsung Galaxy S6 Edge หรือซื้อห้องเปล่าราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.79 ล้านบาท รับ Cash Back คืน 300,000 บาท ภายใน 60 วัน (เงื่อนไขตามบริษัทกำหนด)
ห้อง 1bedroom และ2 BEDROOM ซื้อพร้อมเฟอร์นิเจอร์ ได้อยู่ฟรี 1 ปี พร้อมทัวร์ฝรั่งเศส และฟรี Samsung Galaxy S6 Edge หรือซื้อห้องเปล่ารับ Cash Back 250,000-350,000 บาท(เงื่อนไขตามบริษัทกำหนด) ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 4.2 ล้านบาท
ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ
โครงการ ไอดีโอ โมบิ จรัญ – อินเตอร์เชนจ์ (Ideo Mobi Charan Interchange) คอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่จากค่ายอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)…คอนโดแห่งนี้ถือว่าเป็นแบรนด์ ไอดีโอ โมบิ ใน generation ที่ 1.1
PROPSCORE™
3.1
0
0 รีวิว
รูป
ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ
บมจ. เอพี ไทยแลนด์ เผยไฮไลต์สำคัญที่ตลาดคอนโดต้องสะเทือน กับ Strategic Movement ครั้งสำคัญของแบรนด์ LIFE ที่นำเสนอ Brand Purpose ล่าสุด บนคอนเซปท์ Success Like No Others – ให้ความสำเร็จได้ใช้ชีวิต ... อ่านต่อ
3 March, 2025
แรงเกินต้าน! เอพีอวดรายได้ และกำไรฉ่ำ ครองบัลลังก์อันดับหนึ่งด้านยอดขายเหนียวแน่น
ปล่อยเช่ารายวันดีไหมนะ? รวมสารพัดเหตุผลที่ไม่ควรสนับสนุนการปล่อยเช่าระยะสั้นในคอนโด
สวรรค์ของนักช้อปทั่วโลก! เปรียบเทียบขนาด 12 ห้างดังในย่าน CBD บนพื้นที่รวมกว่า 1 ล้านตรม.
บางตัวฟุบ บางตัวฟื้น! CBRE เผยแนวโน้มธุรกิจอสังหาฯปี 2568
ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เผยผลประกอบการปี 2567 กวาดรายได้รวมทั้งสิ้นกว่า 11,985 ล้านบาท ส่งผลกำไร 1,052 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายบ้าน-คอนโดฯ ตามเป้าที่ 35,442 ล้านบาท พร้อมโชว์ยอด Backlog