“People don’t want to buy a quarter-inch drill, they want a quarter-inch hole.”

“คนซื้อสว่านไม่ได้ต้องการสว่านแต่เค้าต้องการรูต่างหากล่ะ”

คำพูดประโยคสุดคลาสสิคของนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังชาวอเมริกัน Theodore Levitt

ประโยคดังกล่าวมีความหมายในเชิงนัยว่า คนที่ซื้อสินค้าทั้งหมดไม่ได้ซื้อสินค้าเพราะ attribute หรือรูปลักษณ์ภายนอกของมัน แต่เค้าซื้อมันเพราะว่าสินค้านั้นมันทำอะไรให้เขาได้บ้างเท่านั้น… เช่นเดียวกับธุรกิจอสังหาฯที่คอนเซปท์ในการพัฒนาโครงการล้วนแต่เกิดขึ้นจาก Insight & Unmet Needs ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ที่มีจำนวนไม่น้อยเลยที่มองหาที่อยู่อาศัยที่ให้ทั้ง Functional & Emotional Benefits ที่มากกว่าการเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ตอบโจทย์ด้านการกินอยู่หลับนอนเพียงอย่างเดียว ซึ่งก็มีไม่กี่ developer ที่จะจริงจังตั้งใจหาสิ่งที่ลูกค้าคนเมืองต้องการจริงๆ แต่คนที่ทำได้อย่างต่อเนื่องและสำเร็จเป็นรูปธรรม ต้องยกให้อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์

“เราเป็นแบรนด์ที่อยู่อาศัยของคนเมืองที่ตระหนักและเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นในเมืองหลวง พร้อมมุ่งมั่นในการพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความเป็น Urban Living Solutions เน้นการยกระดับคุณภาพชีวิตเมือง สร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่ดีผสานความเป็นอยู่ที่ดีให้กับคนเมืองผ่านแบรนด์ต่างๆ ของอนันดาฯ เพื่อให้ทุกชีวิตเมือง จอยได้ทุกวัน” คำกล่าวของคุณโก้ ชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

นับตั้งแต่ที่อนันดาฯเริ่มก้าวออกจากกรอบของแบรนด์คอนโดไอดีโอ (Ideo) ที่สร้างกระแสความฮือฮาให้กับตลาด City Condo ใกล้รถไฟฟ้าในทุกเซกเมนท์มานับตั้งแต่ช่วงปี 2550 จนเป็นที่รู้จักกันในหมู่คนทั่วไปว่าเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำของเมืองไทย ที่ตระหนักและเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นในเมืองหลวง มีความท้าทายที่มุ่งมั่นในการพัฒนา Urban Living Solutions ผ่านแบรนด์ที่อยู่อาศัยมากมายในรูปแบบและอัตลักษณ์ที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์อย่าง Ashton, Q, Ideo Q, Ideo Mobi, Ideo, Elio และ Unio เช่นเดียวกับแบรนด์ที่เป็นหัวหอกหลักสำหรับตลาดแนวราบอย่าง Artale, Airi, Atoll, ANDA และ Unio Town

แนวทางการสร้าง Corporate Branding ตลอดจนถึงการพัฒนา Product ของอนันดาฯ ก็ได้ Shift จากการสร้างสิ่งปลูกสร้างมีดีไซน์ที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า กลายมาเป็นการพัฒนา Product ทุกอย่างที่เกี่ยวกับการสร้างคุณภาพชีวิต ตลอดจนความเป็นอยู่ที่ดีกลับสู่ชีวิตคนเมือง ผ่านสารพัดโครงการที่ช่วย Contribute Benefits ให้กับคนเมืองและลูกบ้านไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม อาทิ โครงการที่มีส่วนกลางแปลกใหม่เอาใจสายรักสุขภาพอย่าง Ideo Rama 9 – Asoke, Ideo Mobi Sukhumvit Eastpoint หรือ Elio Sathorn – Wutthakat เช่นเดียวกับความตื่นตาตื่นใจในโครงการสไตล์รีสอร์ทสวนน้ำ แต่มีราคาที่ถูกกว่าคอนโดในย่านเดียวกัน อย่าง Elio Del Nest ในขณะที่โครงการที่เป็น Iconic Landmark ที่ช่วยเพิ่ม Value และทัศนียภาพที่ดีให้กับทำเลนั้นๆอย่าง Ashton Silom, Ashton Asoke – Rama 9, Ideo Q Sukhumvit 36 หรือ COCO PARC ก็ได้รับความนิยมในหมู่กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง จนมาถึงแบรนด์ล่าสุดอย่าง CULTURE ซึ่งเป็นคอนโดแนวคิดใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อสร้างพื้นที่แห่งการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่า ผ่านการออกแบบด้วยแนวคิดความยั่งยืน พื้นที่ใช้สอยในรูปแบบคอมมินูตี้ที่เอื้อต่อการเชื่อมต่อระหว่างลูกบ้าน ผ่านกิจกรรมและอีเว้นท์ที่หลากหลาย

นอกจากการพัฒนาสินค้าและบริการที่มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเมือง ทุกการดำเนินกิจกรรมทางการตลาด รวมถึงแบรนด์ดิ้งแคมเปญก็เป็นส่วนที่สำคัญในการส่งต่อวิธีคิด และจุดยืนของอนันดาฯ ที่เป็นแบรนด์ของคนเมือง การให้ความสำคัญกับ Persona ที่หลากหลายของคนเมืองคือสิ่งที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญ โดยเฉพาะ Branding Campaign ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น “Live With Passion” / “ANANDA URBAN SOUL” / “คิด เพื่อชีวิตคนเมือง / “มองขาด ทุกชีวิตเมือง” ล้วนสะท้อนการยืนหยัด การโฟกัส การเน้น Positive Thinking และ Good Vibes ให้กับคนเมือง ได้อย่างแท้จริง

โดยในปีนี้อนันดาฯ ได้ตอกย้ำจุดยืนแบรนด์ที่อยู่อาศัยเพื่อคนเมืองอีกครั้ง ผ่านแบรนด์ดิ้งแคมเปญ “ANANDA JOYFUL LIVING”  ชีวิตเมืองจอยได้ทุกวัน ไปกับที่อยู่อาศัยทำเลใกล้รถไฟฟ้า ที่นับว่าเป็นแบรนด์ดิ้งแคมเปญที่ตอกย้ำแนวคิด Urban Living Solutions ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นแนวความคิดที่ไม่เพียงมุ่งเน้นการแก้ปัญหาให้คนเมืองเท่านั้น แต่ยังพร้อมส่งมอบความรู้สึกและบรรยากาศที่ดีผ่านการสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ และสนับสนุนให้คนเมืองได้มีพื้นที่ทำกิจกรรมและปล่อยพลังบวก และพลังสร้างสรรค์อย่างที่ใจต้องการ

สำหรับแบรนด์ดิ้งแคมเปญ “ANANDA JOYFUL LIVING” #ชีวิตเมืองจอยได้ทุกวัน ไปกับที่อยู่อาศัยจาก อนันดา เป็นแบรนด์ดิ้งแคมเปญที่อนันดา ต้องการสื่อให้คนเมืองเห็นภาพการอยู่อาศัยในโครงการอนันดาที่น่าอยู่ จอยชีวิตได้ทุกวัน ด้วยการสนับสนุนให้ทุกคนมีความ JOYFUL ในการใช้ชีวิตและมีที่อยู่อาศัยที่สะดวกสบาย ภายใต้เมืองที่ดีน่าอยู่ จึงตั้งใจมอบสิ่งต่างๆ ให้คนเมืองด้วยการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดเพื่อคนเมืองที่จะมาเป็นลูกบ้านของอนันดาฯ ทุกโครงการ โดยให้ความสำคัญกับองค์ประกอบ 4 แกนหลัก ที่ match กับคนเมืองได้แก่

เป็นที่รู้กันว่าในแต่ละวันคนเมืองอย่างเราต้องเสียเวลาไปกับการเดินทางด้วยรถยนต์นานเท่าไหร่ หลายครั้งการขับรถจากทองหล่อไปอ่อนนุชในชั่งโมงเร่งด่วนก็กินเวลาไปเกือบสองชม. ทางเลือกในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาติดขัดบ้างในบางวัน และมีปริมาณผู้ใช้งานที่มากขึ้น แต่ก็เป็นรูปแบบการเดินทางสาธารณะที่ไว้ใจได้มากที่สุด โดยเฉพาะในเรื่องเวลา อนันดาฯมองเห็นถึงความสำคัญของการคมนาคมด้วยรถไฟฟ้า จึงเลือกที่จะพัฒนาโครงการคอนโดที่เกาะสถานีรถไฟฟ้าให้มากที่สุด ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคนเมืองได้ออกไปใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ซึ่งข้อนี้ต้องยอมรับว่าอนันดาฯเลือกทำเลได้ตาถึงจริงๆหาตัวจับยาก จนคนติดภาพจำว่าคอนโดติดรถไฟฟ้า หรือหมู่บ้านใกล้ทางด่วนคือเป็นของอนันดาฯ ก็ว่าได้

2. ANANDA SURE มุ่งมั่นใส่ใจส่งมอบมาตรฐานการอยู่อาศัยที่ดี ทั้งคุณภาพการก่อสร้าง (Product Quality) และบริการหลังการขาย (After-Sales Services) ด้วยมาตรฐานจาก อนันดาฯ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของลูกบ้าน และไม่หยุดที่จะมองหาพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของคนเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เช่นบริการมาตรฐานโรงแรมและเซอร์วิสเรสซิเดนซ์มาตรฐานสากล ระดับโลกจาก ดิ แอสคอทท์ และ ดุสิต เป็นต้น

ข้อนี้พัฒนาดีขึ้นๆอย่างจริงจังและเห็นได้เด่นชัดมาก อย่างน้อยก็หนึ่งเสียงจากลูกค้าเก่าอนันดาฯ (ผู้เขียนเอง) ทั้งนี้คุณภาพการบริหารจัดการและบริการ ภายใต้ ANANDA SURE จะครอบคลุมตั้งแต่วันแรกตลอดจนทุกช่วงเวลาของการอยู่อาศัย สู่ความเป็นเลิศด้านปฏิบัติการดูแลลูกค้า ผ่าน 3 แนวคิดสำคัญ SURE Quality  SURE Community และ SURE Worry Free  ที่พร้อมตอบโจทย์การทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อการใช้ชีวิตที่ครอบคลุมทุกความต้องการของ ‘ลูกบ้าน’ ทุกราย

3. URBAN FACILITIES พื้นที่ส่วนกลางที่ดี จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย อนันดาฯ มุ่งมั่นพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตให้ครบ จบ ตรงกับความต้องการ และมีความทันสมัยตลอดเวลา เพื่อตอบโจทย์ LIVE-WORK-PLAY-LEARN ให้จอยได้อย่างเต็มที่ในทุกๆ วัน

ส่วนกลางของคอนโด Elio Del Nest ที่ยังคง DNA ของแบรนด์ Elio =  “Everything Life needs In One” อย่างเหนียวแน่น กับการเป็นคอนโดซึ่งมอบพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่สไตล์รีสอร์ท ทำให้ผู้อาศัยรู้สึกว่าทุกวันเป็นวันหยุดพักผ่อน ด้วยสระว่ายน้ำสุดอลังการทั้งบนดินและลอยฟ้า เห็นแล้วอึ้งทึ่งนึกว่าอุทยานแห่งชาติ

Ideo Rama9 – Asoke คอนโดพร้อมอยู่ใจกลางพระราม 9 ที่มอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้ชีวิตสนุกถึงขีดสุดกับ Mega facilities ที่เยอะ และแตกต่างที่สุดในย่านพระรามเก้า โดยมีทั้งส่วนกลางที่อยู่ชั้น G และส่วนกลางลอยฟ้า ที่มีทั้งโซน Passive และ Active สีสันสดใส มีพื้นที่ให้เลือกใช้งานหลากหลายมุม อีกทั้งยังมีการ Collab กันกับ P7 ที่เป็น Illustrator Artist ชั้นนำของไทยที่ตกแต่งด้วยศิลปะสร้างจุดเด่นให้กับพื้นที่ส่วนกลางให้ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

โดยจุดยืนในการพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางของโครงการแต่ละแห่งนั้น จะเกิดขึ้นจากความต้องการสร้าง Space ส่วนรวมที่ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สีเขียว ส่วนกลาง ที่จะช่วยกระตุ้นพลังแห่งการใช้ชีวิตให้กับคนเมืองให้ก้าวต่อไปในทุกๆวัน ซึ่งก็ต้องบอกว่าส่วนกลางของโครงการของอนันดาฯทำถึงมากทั้งขนาด ฟังก์ชั่นและดีไซน์ ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง

4. URBAN ICONIC DESIGN ออกแบบที่อยู่อาศัยตอบโจทย์คนเมือง อนันดาฯ มี Passion ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยทำเลเมือง โดยมีแรงผลักดันที่ต้องการเห็นความสวยงามของเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพฯ และเอกลักษณ์ของเมืองให้เป็นที่น่าจดจำของคนไทยและชาวต่างชาติ ไม่ใช่แค่อาคารที่สวยงาม แต่ต้องไม่ทำลายทัศนียภาพภายใต้เส้นขอบฟ้าของเมือง “Bangkok Skyline” เส้นสายและการออกแบบจะยังคงอยู่คู่เมือง เป็นแรงบันดาลใจให้คนเมืองได้ชื่นชมและแสวงหาความคิดใหม่ๆ อยู่เสมอ รวมถึงออกแบบและพัฒนาผังห้องพักและบ้านอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เข้ากับวิถีชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย

และถ้าให้รีวิวประสบการณ์ตรงของผู้เขียนที่เคยได้อาศัยจริง อยู่ในโครงการหนึ่งของทางอนันดา ก็บอกได้เลยว่า Joy จริงไม่ได้เป็นแค่คำโฆษณา เพราะ Joy ทั้งทำเลที่สะดวก คุณภาพโครงการที่ตรงกับความต้องการ พร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์จริง และดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ ตอนอยู่ก็รู้สัมผัสได้ถึงการคิดมาดีและพัฒนาอย่างต่อเนื่องสมกับแนวคิด Urban Living Solutions ที่ทำออกมาเป็นรูปธรรม และลงตัวกับการใช้ชีวิตเมืองมาก  

ยืนยันความจอยด้วยลูกค้าเมืองตัวจริงเสียงจริง

แบรนด์ดิ้งแคมเปญที่ดีไม่ควรหยุดอยู่แค่ Brand Story Telling เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคคนเมืองในยุคปัจจุบันไม่ได้อยากรับรู้เฉพาะสิ่งที่แบรนด์ต่างๆต้องการที่จะนำเสนอ แต่การกระทำของแบรนด์ (Brand’s Action) ที่สอดคล้องกับการสื่อสารและความจริงต่างหาก ที่จะส่งผลต่อการรับรู้ที่ดีของผู้บริโภคคนเมือง จนนำไปสู่ประสบการณ์เชิงบวกเกี่ยวกับแบรนด์อนันดาเอง โดยจากข้อมูลผลวิจัยเจาะลึกพฤติกรรมผู้บริโภคตามแนวคิด “Well-being and Sustainable lifestyles” ของบริษัท เทอร์ร่า มีเดีย แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด ในหมวด Brand Perception พบว่า หากนึกถึงแบรนด์คอนโด ก็จะนึกถึงแบรนด์ภายใต้กลุ่มอนันดา เป็นลำดับต้นๆ ทั้งในเซกเมนท์ Luxury, Premium รวมไปถึงการเป็นแบรนด์ที่เหมาะสมกับตัวตนของผู้ถูกสอบถามมากที่สุด (For Me) ซึ่งผลสำรวจดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในตลาดคอนโดมิเนียม เช่นเดียวกับความโดดเด่นเรื่องการออกแบบที่มีเอกลักษณ์, เข้าใจนักลงทุน และสะท้อนตัวตนของเจ้าของ

ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของกลุ่มลูกค้าที่เป็นลูกบ้านโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านรวม 64 โครงการ ครอบคลุมสถานีรถไฟฟ้า 48 สถานี ที่พบว่าเหตุผลหลักในการเลือกซื้อโครงการจากอนันดาคือ ตั้งอยู่ในทำเลเมือง ใกล้รถไฟ (30%) และ ดีไซน์อาคารที่สวย ส่วนกลางใหญ่ ครบ Layout ดี (20%) โดยมีสัดส่วนในการซื้อเพื่อยู่เองสูงถึง 83% และอีก 17% คือการซื้อเพื่อลงทุน อีกทั้งอนันดายังทำโครงการอสังหาที่ตอบโจทย์ทุกกลุ่มระดับเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยให้กับทุกคนในเมืองมีความสุข โดยมี range ของแบรนด์คอนโดมิเนียมที่ค่อนข้างกว้าง เช่น Coco PARC, Culture , Ashton, Ideo Q, Ideo Mobi, Ideo, Elio, Unio ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีกลุ่มลูกค้า ครอบคลุมทุกวัย เพื่อตอบโจทย์คนที่คิดแบบ Gen C ตามกลุ่มช่วงอายุดังต่อไปนี้ 55.4% GEN Y / 40.6% GEN X / และ 4% GEN Z

ผลลัพธ์ที่ได้มาจากการพัฒนาโครงการ การทำ Branding อย่างต่อเนื่องของอนันดา และผลวิจัยดังกล่าว คือบทสรุปที่ชัดเจนในระดับหนึ่งว่า อนันดาคือตัวจริงที่พร้อมส่งมอบชีวิตเมืองที่ให้คุณจอยได้ทุกวันในแบบไม่มีที่สิ้นสุดครับ

#ชีวิตเมืองJoyได้ทุกวัน