เพราะการซื้อคอนโด ไม่ได้เป็นเพียงแค่การซื้อห้องเล็กๆ เพื่อเป็นที่พักพิงในแต่ละวัน แต่หมายถึงการเลือกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในแบบที่แต่ละคนต้องการมากที่สุด คนบางคนอาจจะเลือกซื้อคอนโดเพื่อแสดงถึงสถานะทางสังคม บางคนอาจเลือกเพราะว่าใกล้ที่ทำงานแหล่งช้อปปิ้ง หรือบางคนก็อาจจะที่จะเลือกเพียงเพราะว่าติดใจในสภาพแวดล้อม และบรรยากาศสีเขียวภายในโครงการ…ชีวิตของแต่ละคนนั้นต่างก็มีหลายเหตุผลของการใช้ชีวิต ซึ่งก็คงจะดีไม่น้อยถ้าหากจะมีโครงการที่พร้อมให้ในสิ่งที่คุณต้องการมากที่สุดในชีวิตได้

เมื่อราวๆปีที่ผ่านมาแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวลล็อปเม้นต์คอร์ปอเรชั่น (MQDC) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียมและโครงการมิกซ์ยูสคุณภาพระดับลักชัวรี่ เจ้าของและผู้พัฒนาโครงการที่พักอาศัยและโครงการมิกซ์ยูสคุณภาพแบรนด์ Whizdom ได้สร้างความฮือฮาครั้งใหญ่ ขึ้นแก่ตลาดอสังหาฯช่วงสุขุมวิทตอนปลาย โดยได้ทุ่มเงินลงทุนราวๆ 30,000 ล้านบาท เพื่อสร้าง “ไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้แห่งอนาคต” อัน ประกอบไปด้วยพื้นที่สาธารณะขนาดใหญ่ ที่พักอาศัย ร้านค้าปลีก สำนักงาน บนเนื้อที่ทั้งหมด 43 ไร่ และจะกลายเป็นหนึ่งในโครงการที่ใหญ่ที่สุดบนถนนสุขุมวิท โดยใช้ชื่อโครงการว่า “Whizdom101” (วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน) ซึ่งถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด “The Great Good Place” ที่ ซึ่งเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวที่สุด ระหว่างที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน และที่พักผ่อนทำกิจกรรมทางสังคมต่างๆ โดยพื้นที่เพื่อกิจกรรมทางสังคมนี้จะเป็นหัวใจสำคัญ และเป็นปัจจัยความสำเร็จของโครงการ ด้วยการมอบพื้นที่ที่ผู้คนสามารถปลีกตัวออกจากภาระหน้าที่ทั้งเรื่องบ้านและ เรื่องงาน มาพักผ่อนหย่อนใจ และมีความสุขกับการพบปะสังสรรค์กับผู้คนในชุมชนได้อย่างเต็มที่

หลังจากที่ได้ชิมลางเปิดขายคอนโดแท่งแรก ภายในโครงการ Whizdom 101 ที่มีชื่อว่า Whizdom Connect ไป ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับอย่างดีเยี่ยม ในเดือนเมษายนนี้ทาง MQDC ก็ถือโอกาสเปิดตัวโครงการคอนโดที่สองอย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่อ “วิสซ์ดอม เอสเซ้นส์ สุขุมวิท” ซึ่งนับว่าเป็นโครงการที่สูงทีสุด (50 ชั้น) ในบรรดาคอนโดทั้ง 3 โครงการที่อยู่ใน Whizdom 101

“วิสซ์ดอม เอสเซ้นส์ สุขุมวิท” เลือกที่จะเปิดตัวด้วยแนวคิด Sense of Perfection ซึ่งก็เป็นการสื่อถึงความสมบูรณ์แบบที่สะท้อนทุกรายละเอียดของการอยู่อาศัย ตอบโจทย์นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ตามแบบฉบับของคอนโดแบรนด์ Whizdom อันประกอบไปด้วยองค์ประกอบสำคัญ 3 อย่างคือ สังคมแห่งการเรียนรู้ การออกแบบในสไตล์ใกล้ชิดธรรมชาติ และเทคโนโลยี Clean energy…ด้วยการที่โครงการ วิสซ์ดอม เอสเซ้นส์ สุขุมวิท นั้นมี Extra Benefits ที่มากกว่าโครงการคอนโดอื่นๆหลายเท่า จนเป็นการยากที่จะถ่ายทอดให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจได้ทั้งหมด มาคราวนี้ทาง MQDC ก็เลยเลือกที่จะถ่ายทอดBrand Promise ออกมาเป็นภาพยนตร์โฆษณาที่จับใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของโครงการถึง 4 executions ด้วยกันครับ

แม้ว่าจะมีถึง 4 ชิ้นงานโฆษณา แต่ความหมายที่ซ่อนอยู่ภายใต้ชิ้นงานโฆษณาทั้ง 4 นี้ก็ล้วนแล้วแต่ บอกเล่าถึง Brand Promise ของ MQDC ในการที่จะส่งมอบสิ่งทีสำคัญที่สุดในการใช้ชีวิต (ที่แตกต่างกัน) ของลูกบ้านแต่ละรายอย่างเต็มที่

เชื่อแน่นอนว่า ในการตัดสินใจซื้อคอนโดแต่ละครั้ง หลายๆคนคงจะมีคำถามอยู่ในใจเสมอว่า เราซื้อโครงการนี้เพื่ออะไร โครงการนี้เหมาะกับเรา หรือคนที่เรารักหรือไม่?… MQDC เริ่มต้นด้วยการตั้งคำถามเพื่อให้ผู้ชมฉุกคิดและหาคำตอบ ว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของชีวิตของคุณ? ในที่นี้ทางทีมงานสร้างสรรค์ (Ogilvy & Mather Advertising) ได้บอกเล่าถึงเรื่องราวของผู้ดำเนินเรื่องหลักทั้ง 4 คน ที่มาพร้อมกับคำตอบในใจของตัวเองว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเขาเหล่านั้น และโครงการวิสซ์ดอม เอสเซ้นส์ สุขุมวิท นั้นได้มี Solution อะไรที่ตอบโจทย์ความต้องการสูงสุดเหล่านั้นบ้าง

การดูแล 30 ปี

ถ้าการดูแลคือคำตอบ: เป็นการบอกเล่าถึงจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์อันเป็นนิรันดร์ของคู่รักคู่หนึ่ง ที่ฝ่ายชายให้คำมั่นสัญญาที่จะดูแลฝ่ายหญิงไปตลอดชั่วชีวิต และในขณะเดียวกันฝ่ายหญิงก็ยึดมั่นและเชื่อในคำมั่นสัญญาที่ฝ่ายชายให้ไว้ จึงได้ตอบตกลงที่จะแต่งงานกัน…ในโฆษณาชิ้นนี้เราได้เห็นบทบาทของความสัมพันธ์แบบ Lover ที่พร้อมจะเป็นเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยาก (Companion) กันตลอดไป เช่นเดียวกับ Brand Promise ของ MQDC ในเรื่องของ “สร้างทุกอย่างเพื่อเหตุผลดีๆของการใช้ชีวิต” โดยที่วิสซ์ดอม เอสเซ้นส์ สุขุมวิท พร้อมดูแลคุณยาวนานถึง 30 ปี

พื้นที่สีเขียวกว่า 2 ไร่

ถ้าความสุขคือคำตอบ: บ่อยครั้งที่เราคอยวิ่งตามเพื่อเสาะหาความหมายของคำสั้นๆที่ชื่อว่า “ความสุข (Happiness)” แต่เหมือนยิ่งวิ่งตาม ยิ่งเสาะหา ยิ่งไขว่คว้า ก็ยิ่งหลงทาง หาคำตอบของความสุขไม่เจอ…โฆษณาชิ้นนี้เปิดโอกาสให้เราได้นั่งพัก เปิดใจรับพลังงานธรรมชาติอันเป็นต้นกำเนิดของทุกสรรพสิ่งบนโลก แค่เอนกายลงนั่งพัก เราก็จะได้พบกับความสุขสงบ ราวกับหลุดเข้ามาในอีกมิติหนึ่ง บนโลกใบเดิมเป็นชิ้นงานโฆษณาที่แตกต่างจากอีก 3 งานที่เหลือ เนื่องจากดำเนินเรื่องแค่คนเดียว ไม่ได้มี sense ของความสัมพันธ์อันใกล้ชิดเข้ามาอยู่ด้วย แต่ความสุขในความหมายของหญิงสาวคนนี้กลับเต็มไปด้วย ความสมบูรณ์แบบแห่งคุณค่าและความรักที่มีต่อธรรมชาติ ราวกับ Earth mother เฉกเช่น วิสซ์ดอม เอสเซ้นส์ สุขุมวิท ที่พร้อมคืนความสุขให้ทุกชีวิต บนพื้นที่สีเขียวกว่า 2 ไร่

เติมออกซิเจนให้เต็มปอด

ถ้าอากาศคือคำตอบ: การอยู่อาศัยในเมืองที่แสนจะวุ่นวาย และเต็มไปด้วยมลพิษ คงไม่ใช่สิ่งที่ดีแน่ๆสำหรับทุกชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งอีกหนึ่งชีวิตที่พร้อมที่จะลืมตาดูโลก โครงการวิสซ์ดอม เอสเซ้นส์ สุขุมวิท ต้องการที่จะสื่อให้เห็นถึง Customer Pain Point สำหรับคนเมือง ที่ในทุกๆวันจะต้องเผชิญกับสภาวะอากาศที่ล้วนแล้วต่อส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยนำเสนอถึง Pain Reliever อย่างเครื่องเติมอากาศ ERV ที่มีติดตั้งเอาไว้ในห้องพักอาศัย เพื่อเติมOxygen ให้กับผู้อยู่อาศัยทุกชีวิตได้อย่างเต็มปอด

Home Automation: จัดการชีวิตผ่านมือถือ

ถ้าการจัดการคือคำตอบ: สำหรับชีวิตคนทำงาน ที่มีแต่ความรีบเร่ง และมีหน้าที่ความรับผิดชอบที่ต้องทำอะไรหลายอย่างพร้อมกัน วุ่นวายจนแทบจะจัดลำดับการทำงานก่อนหลังไม่ได้ บางทีความสามารถในการจัดการ (control) และบริหารเวลา อาจจะเป็นสิ่งที่ต้องการมากที่สุดในชีวิต โฆษณาชิ้นนี้นำเสนอความเป็น Functional benefit ที่จับต้องได้เป็นรูปธรรมมากที่สุดของ วิสซ์ดอม เอสเซ้นส์ สุขุมวิท…ระบบ Home Automation อาจจะไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่ในวงการอสังหาฯ หรือในยุคที่ IOT ครองเมือง แต่ระบบ Home Automation ที่พ่วงด้วย application Whizdom จะไม่ใช่แค่ระบบสั่งการเปิดปิด เครื่องใช้ไฟฟ้า แต่สามารถจัดการชีวิตผ่านมือถือ ไม่ว่าจะเป็นการจองสปอร์ตคลับ ฟิตเนส สั่งอาหารจากร้านอาหารที่คุณชื่นชอบ รวมถึงกิจกรรมต่างๆจากร้านค้าทั้งหมดภายในโครงการได้อย่างง่ายดาย

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ

“วิสซ์ดอม เอสเซ้นส์ สุขุมวิท”เป็นอาคารคอนโดมิเนียมที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ จำนวน 1 อาคารตั้งอยู่บนพื้นที่โครงการ “วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน” มีความสูง 50 ชั้น จำนวน 664 ยูนิต ชูจุดเด่นในเรื่อง Sense of Perfection หรือความสมบูรณ์แบบที่สะท้อนสู่ทุกรายละเอียดของการอยู่อาศัยเติมเต็มมุมมองใหม่เพื่อที่สุดของการใช้ชีวิตเหนือระดับท่ามกลางธรรมชาติเพื่อความผ่อนคลายทั้งกายและใจพร้อมมอบแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ใหม่ที่สร้างได้ทุกวันประกอบไปด้วยห้องชุดพักอาศัยแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 33.7 – 44.9 ตารางเมตร แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 51.9 – 83.8 ตารางเมตร แบบ 3 ห้องนอน ขนาด 100.2 – 101.8 ตารางเมตร และแบบเพ้นซ์เฮ้าส์ ขนาด 195.9 – 209.6 ตารางเมตรราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 140,000 บาทต่อตารางเมตร หรือเริ่มต้นยูนิตละ 3.99 ล้านบาท

“วิสซ์ดอม เอสเซ้นส์ สุขุมวิท”ตอบโจทย์ความต้องการในการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพเหนือระดับได้อย่างรอบด้านและครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ Whizdom Sky Garden และ Rejuvenate Lounge พร้อมกับกระจกแบบ Full Height ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถมานั่งเล่น นั่งทำงานหรือทำเป็นพื้นที่พักผ่อนพร้อมชมวิวในมุมสูงได้โดยไม่มีขอบกระจกมาบังทัศนียภาพ พื้นที่สวนขนาด 2 ไร่ ให้ความร่มรื่นและความสดชื่นแก่โครงการ พร้อม Jogging Track และเลนจักรยานในสวนสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายกลางแจ้ง สระว่ายน้ำในสวน ความยาว 50 เมตร ที่มาพร้อมกับอ่าง Jacuzzi และสระว่ายน้ำสำหรับเด็ก และยังมี ฟิตเนสและห้องโยคะ สำหรับออกกำลังกาย เป็นต้น

และที่พิเศษคือการดูแลนานถึง 30 ปี ใน 4 เรื่องได้แก่ความแข็งแรงของโครงสร้างอาคาร การรั่วซึมของหลังคา การใช้งานประตูหน้าต่างและการรั่วซึมของท่อน้ำ พร้อมมอบเครื่องเติมอากาศบริสุทธิ์ (Fresh Air) ให้ทุกห้องนอนอีกด้วย นอกจากนี้ผู้อยู่อาศัยยังจะได้สัมผัสประสบการณ์เหนือระดับของระบบ Smart Home Automation System  นอกจากนั้นยังมีระบบท่อน้ำทิ้งที่ออกแบบมาเพื่อดูแลรักษาได้ง่ายจากพื้นที่ส่วนกลางโดยลดผลกระทบที่มีต่อห้องข้างเคียง

ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยที่ผู้พัฒนาโครงการได้สร้างสรรค์นวัตกรรมอันทันสมัยและชาญฉลาดเพื่อการใช้ชีวิตยุคใหม่มาอำนวยความสะดวกสบายให้ผู้อยู่อาศัยสามารถสั่งการทำงานต่างๆ ในห้องพักได้จากระยะไกลแม้อยู่ข้างนอก ทั้งการสั่งเปิดปิดไฟ เครื่องปรับอากาศ และโทรทัศน์ มีแอพลิเคชั่นพิเศษ Whizdom Apps ที่ ผู้พักอาศัยสามารถใช้จองฟิตเนส ร้านอาหาร หรือกิจกรรมต่างๆ ในโครงการวิสซ์ดอม วัน-โอ-วันได้อย่างสะดวกสบายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยในยุคดิจิตัลได้อย่างสมบูรณ์แบบ