ลัดฟ้าพาไปดูโครงการอสังหาฯของ Nomura Real Estate Development ที่เค้าว่ากันว่ามี Common Space Design และ Brand Image ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ชาวญี่ปุ่น
เป็นเวลาเกือบ 3 ปีแล้วที่ทางพร็อพฮอลิคเราได้มีการนำเสนอสกู๊ปพิเศษเกี่ยวกับการสำรวจตลาดคอนโดในแดนปลาดิบ อย่างประเทศญี่ปุ่นครับ ดังที่เราทราบกันดีว่าในช่วง 3-4 ปีให้หลังมานี้ดูเหมือนว่าสภาพตลาดอสังหาฯในเมืองไทยของเราดูเหมือนว่าจะถูกอัดฉีดด้วยเม็ดเงินจำนวนมหาศาล เปรียบดั่งน้ำมันเครื่องชั้นดีจากบริษัทอสังหาฯขนาดยักษ์จากญี่ปุ่นมาหลายต่อหลายเจ้า จนสามารถทำให้เหล่าดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำจากที่เดิมเป็นบิ๊กเนมในตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้ว เมื่อมารวมร่างฟิวชั่นกับดีเวลลอปเปอร์สัญชาติญี่ปุ่น (ที่ก็มองหาลู่ทางในการขยายตลาดในประเทศของตัวเองที่มันจะดูจะตีบตันเข้าไปซะทุกที) กลายร่างเป็นซุปเปอร์ไซย่าก๊อต ที่พร้อมจะกินรวบตลาดในไทยแบบเบ็ดเสร็จจนไอ้จุกไอ้จ้อยรายอื่นๆที่ไม่สามารถไปหาแหล่งเงินทุน และร่วมฟิวชั่นกับใครได้ต้องทยอยล้มหายไปจากวงจรธุรกิจ
จริงๆแล้วมันก็ไม่น่าแปลกใจอะไรที่ธุรกิจอสังหาฯในบ้านเราจะมีบิ้กเนมจากต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากญี่ปุ่น ฮ่องกง และญี่ปุ่น เข้ามาร่วมอัดฉีดเงินลงทุน เจราจาต้าอ่วยเพื่อร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกันเยอะขึ้น เนื่องจากการทำธุรกิจอสังหาฯในถิ่นของตัวเองนั้น อยู่ในสภาพที่ตลาดไม่ค่อยจะมี liquidity มากเหมือนกับในเมืองไทย ด้วยเหตุผลหลักๆก็คือ พฤติกรรมการซื้ออสังหาฯของคนในประเทศนั้นๆ ราคาอสังหาฯที่สูงเกินกว่ากำลังซื้อของคนส่วนใหญ่ในประเทศ และ Law & Regulation ในด้านภาษีที่มักจะเป็น Barrier สำคัญต่อการเข้ามาซื้อเพื่อลงทุนของกลุ่มคนต่างชาติผู้มีอันจะกิน…เมื่อรวมทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกัน ทางออกของบริษัทฯเหล่านั้นก็คือเบนเข็มการทำธุรกิจเพื่อจับกลุ่มเป้าหมายใหม่ หรือไม่ก็ไปลงทุนในประเทศที่ธุรกิจอสังหาฯยังพอจะมี gapให้เล่นได้มากกว่า ทั้งในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานที่รอวันพัฒนาในอนาคต และราคาอสังหาฯในเมืองไทยที่ถึงแม้ว่าตอนนี้จะแพงเกินกว่ากำลังซื้อของคนส่วนใหญ่ของประเทศ แต่ก็ยังเป็นมาตรฐานระดับราคาที่สมเหตุสมผลในประเทศมหาอำนาจอื่นๆทั่วโลก (เรียกง่ายๆว่าคนจีน ฮ่องกง สิงค์โปร์ ควักเงินซื้อได้ง่ายๆ) แถมในตอนนี้ดีเวลลอปเปอร์ไทยส่วนใหญ่ก็พากันเฮโลกันงบประมาณการตลาดมากกว่า 20% เอาไว้ไปทำ International Marketing กันแทบจะทุกโครงการไปแล้ว ยิ่งสื่อถึงนัยสำคัญในอนาคตว่าเห็นทีประเทศไทยคงใกล้ถึงวันที่จะปลดล๊อคกฎการถือครองคอนโดของชาวต่างชาติที่มีลิมิตไว้ที่ 49% ซะแล้ว