The Crown Residences

  

เดอะ คราวน์ เรสซิเดนท์เซส


โครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ที่เชื่อมต่อทั้ง 2 CBDs ทั้งสุขุมวิท และสีลม-สาทร ติดถนนพระราม 4 ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ทั้งสถานีคลองเตยประมาณ 300 เมตร และสถานีลุมพินีประมาณ 450 เมตร รวมถึงจุดขึ้น - ลง ทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร เพียง 4 นาที นอกจากจะติดถนนพระราม 4

wipawan khampuwiang เมื่อ 13 June, 2022 เวลา 11.20 am

Prop score™: 3.8

คะแนนรีวิว: 0.0

0 รีวิว


ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา



    ข้อมูลโครงการ

ชื่อโครงการ

The Crown Residences

บริษัทผู้สร้าง

บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด

สถานที่

ถนนพระราม4

สถานีรถไฟ BTS

-

สถานีรถไฟใต้ดิน

MRT คลองเตย Distance 300 m./MRT ลุมพินี Distance 450 m.

Airport Rail Link

-

สถานี BRT

-

พื้นที่

ประมาณ 1-0-68.1 ไร่

ชั้น

32 ชั้น

ยูนิต

183 ยูนิต

ที่จอดรถ

ประมาณ 66% ไม่รวมจอดซ้อนคัน

ลิฟท์

2 Passenger Lifts + 1 Service Lift

สิ่งอำนวยความสดวก

Garden, Lobby, Mailbox, Meeting Room, Game Zone, Lounge, Fitness Club, All-Day Dining, Crown Bar, Starry Night Infinite Pool, Starry Night Rooftop Riverview, Aqua Sunken Seat


    ประเภทยูนิต

ประเภท

CONDO/คอนโด High Rise/Luxury Condo

studio

-

1 bedroom

26.4 – 43.1 ตร.ม.

2 bedroom

53.4 – 75.2 ตร.ม.

3 bedroom

-

Duplex

-

Penthouse

107.6 – 119 ตร.ม.

ประเภทอื่นๆ

-

ความสูงจากพื้นถึงเพดาน

2.7 เมตร

ราคาเริ่มต้น / ตรม.

237,154 บาท

ราคาเริ่มต้น / ยูนิต

6 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง

ืn/a

Sinking Fund fee

n/a

สร้างเสร็จ

2025

เว็บไซต์

https://se-thai.com/condominium/thecrownresidences

02-007-5555


เพื่อนบ้าน Street View


เหมือนอยู่ท่ามกลางหมู่ดาว! The Crown Residences คอนโด Freehold ทำเลเยี่ยม วิวสวยสุดๆ เยื้อง ONE Bangkok

 

ในกรุงเทพฯ มีย่าน CBD กระจายตัวไปอยู่หลากหลายบริเวณ แต่บริเวณที่อาจเรียกได้ว่าเป็น Ultra CBD ซึ่งมีครบทุกองค์ประกอบของความสมบูรณ์แบบไม่ว่าจะเป็น พัฒนาการที่มีอย่างต่อเนื่อง, Supply ที่ดินในแบบ Freehold ที่หายาก, จำนวนอาคารสำนักงานที่มีพื้นที่ใช้สอยรวมในระดับเกินกว่า 1 ล้านตารางเมตร, รวมไปถึงการเชื่อมต่อกับย่าน Inner CBD อื่นๆ ได้อย่างไร้รอยต่อ ก็คงจะเป็นย่านพระรามสี่ช่วงตัดกับสาทรนี่ล่ะ

 

ถนนพระราม 4 ช่วงตัดกับถนนสาทร เป็นย่าน Ultra CBD ที่เป็นศูนย์รวมของพื้นที่อาคารสำนักงานเกรด A และอาคาร Mixed Use เกิดใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ONE Bangkok, DUSIT CENTRAL PARK, PARK SILOM, The Parq และ PUNN TOWER โดยหากทุกโครงการแล้วเสร็จมีพื้นที่ใช้สอยของอาคารสำนักงานโดยรวมประมาณ 1.2 ล้านตารางเมตร และมีอัตราค่าเช่าเฉลี่ยประมาณ 1,060 บาทต่อตารางเมตร ถือว่าเป็นย่าน CBD ที่มีอัตราค่าเช่าอาคารสำนักงานที่ค่อนข้างสูง อีกทั้งยังมีการเดินทางที่สะดวกทั้งรถส่วนตัวรถไฟฟ้า และขนส่งสาธารณะอื่นๆ เชื่อมต่อได้ทุกทำเล บวกกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในย่านที่มีครบทุกอย่าง โดยเฉพาะสวนสาธารณะขนาดใหญ่ถึง 2 แห่งที่เปรียบเสมือนปอดใจกลางของกรุงเทพฯ อย่างสวนลุมพินี และสวนป่าเบญจกิติ จึงส่งผลให้มีดีมานท์การพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และถือได้ว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพในการเติบโตมากที่สุดของกรุงเทพฯ ชั้นใน

เมื่อได้ฟังแบบนี้ก็พอจะเห็นภาพได้ว่า โครงการที่อยู่อาศัยใดๆ ที่อยู่บริเวณถนนหลักพระรามสี่ช่วงนี้ ก็น่าจะเปรียบดั่งการได้อยู่อาศัยท่ามกลางหมู่ดาว บนย่าน Ultra CBD ที่เต็มไปด้วยโครงการที่อยู่อาศัยในแบบ Leasehold ราคาแพง โดยโครงการ The Crown Residence ที่ผมกำลังจะพามาชมในวันนี้ก็นับว่าเป็นโครงการคอนโดในแบบ Freehold เพียงแค่ไม่กี่โครงการที่อยู่ในย่านนี้ครับ ถ้าพิจารณาจากจุดนี้เป็นหลักก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีความน่าสนใจมากทีเดียว

โครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ที่เชื่อมต่อทั้ง 2 CBDs ทั้งสุขุมวิท และสีลม-สาทร ติดถนนพระราม 4 ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ทั้งสถานีคลองเตยประมาณ 300 เมตร และสถานีลุมพินีประมาณ 450 เมตร รวมถึงจุดขึ้น – ลง ทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร เพียง 4 นาที นอกจากจะติดถนนพระราม 4 ยังมีถนนอีกด้านที่ติดถนนซอยสุวรรณสวัสดิ์ ซึ่งซอยนี้ใช้เป็นทางลัดไปได้ทั้ง สาทร-เย็นอากาศ-นางลิ้นจี่ และเชื่อมต่อไปถึงถนนนราธิวาสฯ ได้อย่างสะดวก

โดยจุดเด่นของโครงการที่นอกเหนือจากเรื่องของทำเล ก็คือวิวที่ผู้พักอาศัยได้รับ ซึ่งจะเป็นวิวพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ รวมกว่า 850 ไร่ จาก สวนลุมพินี สวนป่าเบญจกิติ และพื้นที่สวนสีเขียวจาก ONE Bangkok ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็รู้สึกสดชื่นและสบายตาไปพร้อมๆ กัน ซึ่งอีกไม่นานสวนลุมพินีและสวนป่าเบญจกิติ กำลังมีโครงการทำทางเชื่อมที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

โครงการ The Crown Residence เป็นคอนโดมิเนียมขนาด 32 ชั้น จำนวน 183 ยูนิต มีที่จอดรถ 68% เป็นแบบ Auto Parking และจอดปกติที่ชั้น 1 ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 1-0-68 ไร่ ประกอบด้วยห้องชุดขนาดต่างๆ ได้แก่ ห้อง 1 Bedroom ขนาด 25.30 – 34.90 ตร.ม. ห้อง 1 Bedroom Signature ขนาด 39.40 – 43.10 ตร.ม.ห้อง 2 Bedroom ขนาด 52.30 – 75.30 ตร.ม. และ Penthouse ขนาด 107.6 – 118.70 ตร.ม. มีราคาเริ่มต้น 6 – 20 ล้านบาท ยูนิตที่พักอาศัยถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “THE PARAMOUNT OF PARKSIDE LIVING” ซึ่งหมายถึงการใช้ชีวิตให้ใกล้ชิดสวนสาธารณะขนาดใหญ่ของเมือง โดยห้องพักเริ่มที่ชั้น 5 แต่สูงจากพื้นดิน 27 เมตร เทียบเท่าชั้น 9 ของหลายๆ ตึก คอนโดวางห้องแนวเหนือใต้ไม่มีห้องทิศตะวันตก เป็นส่วนตัวกว่าด้วยจำนวนยูนิตต่อชั้นที่มากสุดเพียง 9 ยูนิตเท่านั้น

ในด้านการออกแบบอาคารนั้นทาง TANDEM ARCHITECT ได้สร้าง Facade ให้โดดเด่นโดยใช้เส้น Horizontal Shading ให้ทุกห้องรับวิวธรรมชาติ มีการไล่ระดับของระเบียงสลับซ้าย-ขวา เพื่อให้ระเบียงของทุกห้องสามารถมองเห็นและผ่อนคลายไปกับธรรมชาติอย่างเต็มที่กับวิวพื้นที่สวนกว่า 850 ไร่

โดยห้องที่เป็นไฮไลท์ของโครงการ จะเป็น 1 Bedroom SIGNATURE มีขอบของห้องเป็นแนวเฉียง ทำให้ได้กระจกกว้างกว่าเปิดมุมมองวิวสวนได้เต็มที่ ที่มีจำนวนเพียง 18 ยูนิตเท่านั้น และ 2 Bedroom Unlimited Parkside กับการออกแบบพื้นที่ให้สามารถใช้งานพร้อมกับเปิดรับวิว ด้วยดีไซน์ห้องหน้ากว้างแบบ Wide Frontage ที่ทำให้สามารถเห็นวิวได้อย่างต่อเนื่องแบบ Unlimited ถึง 9 เมตร

ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลาง ได้รับแรงบันดาลใจมาจากยอดมงกุฎ จึงออกแบบให้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อยู่บนชั้น 32 ซึ่งสูงที่สุดของตัวโครงการ เพื่อให้ได้พักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศวิวสวนและวิวโค้งน้ำบางกระเจ้า แบบ 270 องศา พร้อมส่วนกลางที่รองรับไลฟ์สไตล์การพักผ่อนใจกลางเมืองใหญ่ ทั้ง Starry Night Rooftop Riverview พื้นที่ชั้นดาดฟ้าที่สามารถชมวิวสวนสาธารณะได้แบบพาโนรามา, Starry Night Infinite Pool สระว่ายน้ำ ไร้ขอบ มาพร้อม Aqua Sunken Seat อ่างจากุซซี่เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ และสระว่ายน้ำสำหรับเด็กเล็ก รวมไปถึง Crystal Lounge ที่ประกอบด้วยฟังก์ชั่นรองรับการใช้งานตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็น Crown Bar, All-Day Dining, Fitness Club และ Lounge ทั้งฝั่ง Parkside & Riverside ซึ่งทั้งหมดถูกดีไซน์ให้เปิดมุมมองด้วยกระจกรอบด้าน ทำให้ได้บรรยากาศของการพักผ่อนที่โปร่งโล่ง และผ่อนคลาย

นอกจากนี้ โครงการฯ ยังมีบริการพิเศษระดับโรงแรม ไม่ว่าจะเป็น บริการทำความสะอาด, บริการซื้อของ, บริการนัดหมายจองตั๋ว สำรองที่พัก, บริการขนย้ายเข้า, บริการต้อนรับ และบริการจองรถลีมูซีน / แท็กซี่ออนคอล, Doorman, Bellboy เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตสุดเอ็กซ์คลูซีฟของผู้พักอาศัยได้อย่างแท้จริง

 

เราขึ้นไปดูห้องตัวอย่างที่ชั้น 2 กันครับ โดยห้องตัวอย่างมี 3 ห้อง คือ 1 ห้องนอน ขนาด 27.3 ตร.ม., 1 ห้องนอน ขนาด 34.9 ตร.ม. แล้วก็ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 52.4 ตร.ม. ครับ ทั้ง 3 ห้องเป็นห้องตำแหน่งหัวมุมอาคารหมดเลย ได้ห้องแบบ Fully Fitted พื้นห้องแบบ Hybrid Engineered Wood มีครัว ตู้ Built-in พร้อม Hob & Hood ตู้รองเท้า (บางห้อง) แล้วก็ตู้เสื้อผ้า

ตอนนี้ผมอยู่หน้าห้องตัวอย่างห้องแรก เป็นห้องแบบ 1 นอน ขนาด 27.3 ตร.ม. เป็นห้องแบบหน้ากว้าง บริเวณประตูติดตั้ง Digital Door Lock ให้ พร้อมระบบ Home Automation ภายในห้อง

ในโครงการนี้เป็นห้องแบบครัวหน้าทุกห้อง ของที่ได้ก็จะเป็นเคาน์เตอร์ครัวท็อปหินแบบเดียวกับห้องตัวอย่าง และโครงการติดตั้งพื้นที่ Backsplash ให้ด้วย

 

Hob & Hood ที่โครงการให้มาเป็นแบรนด์ Franke พร้อมอ่างล้างจานแบบ 1 หลุม

ตู้ Built-in ข้างบน โครงการให้แบบนี้เป๊ะๆ มีช่องวางไมโครเวฟ และช่องวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าอยู่ชั้นด้านล่าง ส่วนพื้นที่วางตู้เย็นจะอยู่มุมนี้ติดกับประตูห้อง สวิตช์ไฟภายในห้องใช้ Schneider

ห้องนี้เพดานสูง 2.7 ม. และปูพื้นด้วย Hybrid Engineered Wood หนา 8 มม.

ตรงข้ามครัวเป็นห้องน้ำและตู้เก็บรองเท้าที่โครงการติดตั้งให้ มีแค่บางห้อง เปิดตู้ออกมาใช้เก็บรองเท้าได้หลายคู่ ตู้ชั้นบนใช้เก็บของได้ด้วย

เข้ามาห้องน้ำ ด้านในติดตั้ง Shower Screen ให้ พร้อม Rain Shower และสุขภัณฑ์ใช้แบรนด์ Kohler

ถัดมาเป็นห้องนอน กั้นส่วนนี้ด้วยประตูกระจกบานสไลด์แบบ 3 ตอน สูงติดเพดาน ภายในห้องเป็นผนังแบบฉาบเรียบทาสีขาว

ห้องนอนกว้าง มีพื้นที่ใช้วางโต๊ะทานอาหารและโต๊ะทำงานที่ติดกับกระจกตรงมุมนู้นได้ แถมยังเหลือพื้นที่ให้เดินเยอะ ไม่อึดอัด

บริเวณนี้วางเตียงคิงส์ไซส์ได้ ยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงให้วางโต๊ะหัวเตียงได้อีกด้วย

ตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการให้มาหน้าบานเป็นกระจกแบบนี้ เปิดได้ 3 ตอน สามารถเก็บเสื้อผ้าได้เยอะ

ส่วนทีวีใช้เป็นติดผนังแบบห้องตัวอย่างได้ครับ ไม่เสียพื้นที่ภายในห้องเยอะ

โดยห้องนี้จำลองให้เป็นตำแหน่งของห้องมุม ตรงนี้จะเป็นพื้นที่ของ Bay Window ทำให้ห้องนี้สามารถเห็นวิวด้านนอกได้กว้างกว่า ความสูงของกระจกอยู่ที่ 2.4 ม.

มาถึงประตูบานนี้ ที่เปิดออกไปก็จะเป็นส่วนของระเบียง ที่ใช้วาง CDU แอร์ฯ

มาถึงห้องตัวอย่างห้องที่ 2 เป็นห้องแบบ 1 นอน ขนาด 34.9 ตร.ม. มีการกั้นห้องเป็นสัดส่วน

เข้ามาในห้องก็จะเจอครัวเหมือนเดิมครับ ตำแหน่งตู้เย็นติดกับประตู และเคาน์เตอร์ครัวท็อปหิน พร้อม Built-in ตู้เก็บของด้านบนให้ ส่วน Backsplash ได้แบบเดียวกับห้องตัวอย่าง

 

Hod & Hood ให้แบรนด์ Franke มีอ่างล้างจาน 1 หลุม และช่องวางไมโครเวฟด้านบน ช่องวางเครื่องซักผ้าด้านล่าง

 

ถัดมาเป็นพื้นที่วางโต๊ะอาหาร และมีหน้าต่างบานกระทุ้งอยู่ข้างๆ ตรงนี้ เพราะเป็นตำแหน่งห้องมุม แต่ห้องนี้จะไม่ได้ Built-in ตู้เก็บรองเท้าให้ ใครที่ซื้อมาติดตั้งเองสามารถขยับโต๊ะทานอาหารไปทางโซฟาได้ เพื่อให้มีพื้นที่บริเวณหน้าห้องวางตู้เก็บรองเท้า

ส่วนนี้เป็น Living Room มีพื้นที่วางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง พร้อมวางโต๊ะกาแฟด้านหน้าแบบนี้ได้

ทีวีจะอยู่ฝั่งนี้ ใช้เป็นทีวีตั้งบนโต๊ะก็ยังเหลือพื้นที่ให้เดินเยอะ ส่วนระเบียงห้องจะอยู่บริเวณนี้ครับ กั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์

เข้ามาในห้องนอน มีตู้เสื้อผ้า ซึ่งหน้าบานของตู้จะเป็นกระจกใสเหมือนกับห้องแรก ผนังฝั่งนี้ติดเป็นกระจกทั้งหมด และหน้าต่างแบบบานกระทุ้ง 2 บาน

ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอน ติดตั้ง Shower Screen ให้ มี Rain Shower สุขภัณฑ์ใช้แบรนด์ Kohler

มาถึงห้องตัวอย่างห้องสุดท้าย ที่เป็นห้อง 2 นอน 2 น้ำ ขนาด 52.4 ตร.ม. เป็นห้องหน้ากว้าง ซึ่งแบบ 2 นอน มีหน้ากว้างสูงสุดอยู่ที่ 9 ม.

พื้นที่ในห้องกว้าง มีครัวอยู่ด้านหน้า Hob & Hood แบรนด์ Franke และ Built-in ตู้เก็บของด้านบนให้ ห้องนี้ไม่ได้ชั้นวางรองเท้า

ถัดมาเป็นโต๊ะทานอาหาร และส่วนของ Living Room ที่มีพื้นที่กว้าง ให้ผู้อยู่อาศัยใช้เวลาว่างกับส่วนนี้ได้อย่างเต็มที่

ระเบียงด้านนอกถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ ให้แสงธรรมชาติเข้าห้องได้ตลอดทั้งวัน

เดินมาทางห้องนอน จะเห็นห้องน้ำที่อยู่ติดกับห้องนอนเล็ก ห้องนี้ใช้อาบน้ำได้

ถัดมาเป็นห้องนอนเล็ก ที่วางเตียงขนาด 3 ฟุตได้ และยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงให้เดินได้สบาย ให้ตู้เสื้อผ้ามาด้วย ซึ่งห้องนี้ไม่รู้สึกอึดอัดเลย เพราะแสงเข้าห้องได้ตลอดเวลา จึงทำให้ห้องโปร่งอย่างมาก

ส่วนสุดท้ายภายในห้องคือ Master Bedroom ที่มีห้องน้ำในตัว มีพื้นที่วางโต๊ะเครื่องแป้งแบบนี้ได้ พร้อมตู้เสื้อผ้าภายในห้องโดยหน้าบานเป็นกระจกใส และติดหน้าต่างแบบบานกระทุ้งให้ 2 บาน

ถ้าเหตุผลในการเลือกซื้อคอนโด Luxury ของคุณพิจารณาจากความเป็นส่วนตัว ความหายากของโครงการในแบบ Freehold บนทำเล Leasehold จากวิวที่ได้รับ รวมไปถึงเรื่องความสะดวกสบายในการเดินข้ามไปใช้บริการ Facilities หรือทำงานใน ONE Bangkok เป็นหลัก The Crown Residences น่าจะเป็นคำตอบที่ใช่มากที่สุดสำหรับคุณ

แต่ถ้าใครที่ไม่ได้มีไลฟ์สไตล์ที่วนเวียนอยู่ในย่าน Ultra CBD แบบนี้ และพิจารณาจากเรื่องของสเปควัสดุภายในห้องที่ได้เป็นหลัก ว่าต้องเป็นวัสดุพรีเมียมแบรนด์หรู แบรนด์ดังระดับโลก ที่นี่อาจจะไม่ใช่คำตอบเดียวของคุณ แต่สำหรับผมเองยังไงก็ต้องบอกว่าทำเลและวิวนั้นเป็นสิ่งที่หาทดแทนได้ค่อนข้างยากกว่า เพราะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาของคอนโดทวีมูลค่าสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านพ้นไปมากกว่า

โดยโครงการ The Crown Residences มีกำหนดเปิดจองอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ ณ สำนักงานขาย โดยมีราคาขายอยู่ที่ 6 – 20 ลบ.* ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนติดต่อเข้ารับชมโครงการ ได้ที่เบอร์ตามด้านล่างนี้ครับ www.se-thai.com หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02 007 5555



wipawan khampuwiang

wipawan khampuwiang

จบทางด้านภาษาไทยและชอบงานเขียน ชอบอ่านและดูรูปภาพรีวิวบ้าน คอนโดต่างๆ เบื่อกับการอยู่ห้องทั้งวันแบบไม่มีอะไรทำ ฉะนั้นงานอดิเรกก็เลยชอบหาที่เที่ยวและถ่ายภาพ

เว็บไซต์


PropScore™ 3.8

SCORE:
0.0
From : 0 รีวิว


ยังไม่มีการให้คะแนนและ Comment โครงการนี้


ข้อเท็จจริง และความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ระหว่างอสังหาฯรูปแบบ Freehold และ Leasehold

ในปีนี้เราจะมีโอกาสได้เห็นโครงการ Leasehold ที่กำลังจะสร้างเสร็จพร้อมอยู่หลายที่ครับ และก็ในหลายระดับราคาด้วย ไม่ว่าจะเป็น ONE Bangkok Residence (Tentative Name), AMAN Nai Lert Bangkok, Thirty Thre... อ่านต่อ

17 April, 2024



คัดสรรให้! งบ 7 ลบ. ก็หาซื้อคอนโดหรูพร้อมอยู่ในย่านพร้อมพงษ์ – ทองหล่อ – เอกมัย ได้

หลังจาก ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมท... อ่านต่อ
12 April, 2024

เคาะแล้ว! แพคเกจกระตุ้นตลาดอสังหาฯ โดยกระทรวงการคลัง

สืบเนื่องมาจากข้อมูลของกระทรวงการคลังที่รายงานครม.ไปว่าในช่วงไตรมาสสี่ของปีที่ผ่านมา ภา... อ่านต่อ
10 April, 2024

มาร่วมออกแบบโครงการให้โลกจำเป็นตำนาน ด้วยสูตรลับที่ตกผลึกมาจากประสบการณ์หลากหลายมุมมอง กับหลักสูตรสำหรับคนฝันใหญ่ “Iconic Xperience 2”

ในการพัฒนาโครงการอะไรก็แล้วแต่ แน่นอนว่าเป้าหมายหลักของผู้พัฒนาโครงการก็น่าจะเป็นในเรื่... อ่านต่อ
1 April, 2024

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง