ต้องมาดูเพื่อให้รู้ว่าแตกต่างกับ RHYTHM Ekkamai โครงการ RHYTHM ซีรีย์ใหม่ที่ดีที่สุดในรอบ 2 ปี

เมื่อสองปีที่แล้ว AP ได้เปิดตัวคอนโดแบรนด์ RHYTHM ฉบับปรับปรุงใหม่ ที่นอกจากจะคง concept การพัฒนาคอนโดที่ดีที่สุดบนทำเลที่ดีที่สุด “ทุกพื้นที่ชีวิตเราคิดเพื่อคุณ” ของ AP ไว้แล้ว โครงการ RHYTHM Ekkamai (ริธึ่ม เอกมัย) ที่มากับจุดเด่นของการออกแบบที่แตกต่าง สร้างตัวตนเฉพาะ กับ “Live Your Best perspective” บนทำเลที่ดีที่สุดของย่านเอกมัย ที่ AP ได้คัดสรรมาเป็นอย่างดี ส่งผลให้โครงการสามารถปิดการขาย Sold Out หมดตึก ได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว และแม้โครงการจะขายหมดไปแล้วแต่กระแสของ Resale Transaction ก็ยังแรงไม่มีตก โดยเฉพาะห้องรีเซลที่อยู่ใน Port Folio ของ BC (BangkokCitiSmart) ที่ยิ่งใกล้โอนก็ยิ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะด้วยการที่เป็น Exclusive Agent ของ AP จึงทำให้ห้องรีเซลทั้งหมดที่บริหารงานขายโดย BC มีราคาที่ดีที่สุด เลือกได้ในทุกแบบยูนิต และยังเป็น Agent รายเดียวที่มีสิทธิ์ในการพาดูห้องโครงการแบบ Exclusive Tour…ซึ่งในครั้งนี้ก็เป็นทาง BC ที่พาเราขึ้นไปดูห้องจริง แบบ Exclusive Tour หลายห้องมากที่โครงการครับ ใครที่สนใจมาดูห้องแบบผมสามารถติดต่อ BC ได้ตามเบอร์นี้  02-6618999 หรือเข้าไปที่เวปไซต์ http://bit.ly/2DwgRHS เพื่อนัดหมายก็ได้ตามสะดวกครับ

เพราะตั้งอยู่บนถนนเอกมัยตอนต้น ติดกับ community mall Park Lane ริมถนนใหญ่เอกมัย ซึ่งเป็นซอยที่รายล้อมด้วยอาคารขนาดเล็ก – กลาง ทำให้พื้นที่มีวิวที่เปิดโล่งรอบด้าน ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีเอกมัยเพียง 280 เมตร ที่รายล้อมไปด้วยสถานีขนส่งเอกมัย อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต community mall ทั้ง Gateway เอกมัย, Major Sukhumvit, Big C, Ekkamai mall (ในอนาคต) รวมถึงร้านค้าร้านอาหาร แหล่ง Nightlife ย่านทองหล่อ ที่เชื่อมต่อถึงกัน เรียกได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางของย่าน Lifestyle ใกล้เมือง ที่มีผู้คนเดินทางสัญจรเข้ามาแวะเวียนมากมาย และมีมูลค่าที่ดินติดอันดับต้นๆของกรุงเทพฯ

เมื่อครั้งที่ AP เลือกเปิดตัวโครงการ RHYTHM Ekkamai บนจุดยุทธศาสตร์ของซอยเอกมัยที่มีศักยภาพดังที่กล่าวไปในตอนต้น โดยในช่วงเวลาดังกล่าวยังไม่ค่อยจะมีคอนโดสูงเกิดขึ้นในอาณาบริเวณ 300 เมตรจาก BTS เอกมัยที่เข้ามาในซอยเอกมัย หรือซอยสุขุมวิท 63 เพราะที่ผ่านมาการพัฒนาคอนโดใหม่ส่วนใหญ่มักจะไปสร้างบริเวณซอยสุขุมวิท 42 หรือไม่ก็ช่วงกลางซอยเอกมัยตัดกับซอยทองหล่อ 10 อีกทั้งก่อนหน้านี้คอนโดที่อยู่ในย่านทองหล่อมีราคาที่ไม่หนีห่างจากย่านเอกมัยมากนัก

แต่ในตอนนี้ราคาคอนโดในย่านทองหล่อกลับแพงกว่าเอกมัยเกือบ1 เท่าตัวและตอนนั้นที่ RHYTHM Ekkamai เปิดตัวก็ทำสถิติ New High ในย่านเอกมัยด้วยราคาขายเฉลี่ยที่ตารางเมตรละแสนเก้า แต่มาวันนี้คอนโดเปิดใหม่ในซอยเอกมัยก็มีให้เห็น ในราคาตารางเมตรละ 2 แสนกว่าๆ และเป็น Low Rise ไม่ใช่ High Rise Condo จึงทำให้ RHYTHM Ekkamai เป็นคอนโด High Rise ใกล้รถไฟฟ้า บนถนนใหญ่ ที่มีราคาและทำเลเป็นต่อในด้านการลงทุนไม่แพ้โครงการไหนบนถนนเส้นเดียวกัน

นอกจากทำเลที่ดีที่สุดที่ AP ภายใต้โครงการ RHYTHM Ekkamai ได้คัดสรรมาเป็นอย่างดีแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือการนำเสนอความเป็นตัวตนผ่านการออกแบบที่พิถีพิถัน ทั้งภายนอกและภายใน เน้นการคำนึงถึงความแตกต่างในเรื่องของมุมมองใหม่ๆ มุมมองที่ผู้พักอาศัย สามารถมองได้จากภายในห้อง ผ่านการออกแบบ Facade อาคาร ที่มีการบิดองศาที่แตกต่างกัน ในแต่ละห้องทำให้เกิดมุมมองที่แตกต่างกัน บนคอนเซปต์ Perspectivism โดยการใช้กระจกเข้ามุม ไม่ติดเสาของอาคาร รวมทั้งบิดองศาตามองศาการมองที่ดีที่สุดของแต่ละห้อง ทำให้เมื่อมองจากภายในห้อง ผู้พักอาศัยจะได้มุมมองใหม่ๆ เป็นมุมมองเฉพาะของแต่ละห้อง ที่ทำองศาเชื่อมมุมมองภายรอบด้านนอก แตกต่างจากมุมมองของคอนโดทั่วไปที่เป็นมุมมองตั้งฉาก เห็นเพียงแค่มิติเดียว

และมุมมองจากภายนอกอาคาร ที่เห็น facade ของอาคาร บิดไปมา สะท้อนผ่านแสง เงา สร้างมิติและความน่าสนใจ สร้างการรับรู้ การจดจำได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นตัวของตัวเองไม่ว่าจะมองจากมุมไหน

และมุมมองจากภายนอกอาคาร ที่เห็น facade ของอาคาร บิดไปมา สะท้อนผ่านแสง เงา สร้างมิติและความน่าสนใจ สร้างการรับรู้ การจดจำได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นตัวของตัวเองไม่ว่าจะมองจากมุมไหน

RHYTHM Ekkamai ยังให้คุณได้สะท้อนการใช้ชีวิตที่โดดเด่น เหนือระดับ เต็มไปด้วยสีสันความหลากหลายของ Life style การใช้ชีวิตทั้งเป็นส่วนตัว และเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อทุกการเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียบพร้อม หรูหรา เหมือนกับอยู่โรงแรมห้าดาว ตั้งแต่สวนติดทางเข้าโครงการ ที่นอกจากออกแบบให้สามารถใช้งานได้แล้ว ยังเป็น buffer zone ระหว่างพื้นที่ถนนและโซนที่พักอาศัย

โดยเฉพาะที่โถง Lobby ที่แยกพื้นที่ระหว่าง Public area ออกจาก Private area ด้วย DOUBLE-FOYER SECURITY เพื่อแยกโซนการใช้งานของลูกบ้าน และผู้มาติดต่อที่ต้องผ่านระบบรักษาความปลอดภัย และยังมีพื้นที่บริการข้อมูลด้านยูนิตที่ปล่อยเช่า-ซื้อ-  ขาย เพื่อรองรับการติดต่อของผู้สนใจที่ Walk in ตลอดเวลา

ส่วนลูกบ้านเพียงแตะคีย์การ์ด ก็สามารถเข้าสู่โถง Lobby หลัก ที่เปิดต้อนรับด้วยเสา หิน Onyx ที่มีคุณสมบัติพิเศษของเนื้อหินที่มีความโปร่งแสง ประกอบกับการออกแบบ Lighting เข้าไป เพิ่มมิติของแสงและเงาให้มากขึ้น แสงจะทะลุผ่านชั้นหิน เห็นเนื้อในที่เป็นลายของหินอย่างสวยงาม ที่ต่อลายหินได้อย่างเรียบเนียน แบบไร้โครงเหล็กยึด ที่ออกแบบให้ซ่อนและเก็บงานเป็นอย่างดี เป็น Signature หลักที่จะเห็นได้ใน Interior ของพื้นที่ Public area ของโครงการ

และนอกจากเสาหิน Onyx ที่โดดเด่นต้อนรับตั้งแต่ทางเข้าแล้ว บริเวณ lobby ยังใช้ Theme หลักของหินเรืองแสงมาใช้กับโต๊ะ และผนัง บริเวณพื้นที่โซนโซฟานั่งพักผ่อน ที่มีมากถึง 3 พื้นที่ใช้งาน

ล้อมรอบด้วยกระจกบานสูงจากพื้นจรดฝ้าเพดาน ที่ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบายรับแสงธรรมชาติจากภายนอกสู่ภายในอาคารได้เป็นอย่างดี

ปลายสุดของโถง lobbyเป็น mail room ที่ยังคงคอนเซปต์การตกแต่งด้วยหินที่เรียบหรูแต่มีลวดลาย

เข้ากับโถงลิฟท์ ที่มีระบบคีย์การ์ดรักษาความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง

ส่วนชั้น 2-6 เป็นที่จอดรถ ชั้นที่พักอาศัยเริ่มที่ชั้น 7-29

และชั้น 31-32 ก็เป็นอีกไฮไลท์ของโครงการ กับ High Sky Facilities

เริ่มจากชั้น 31 ประกอบไปด้วย Panoramic Fitness ที่มีเครื่องออกกำลังครบครัน

แบ่งพื้นที่เป็นโซนเครื่องออกกำลังกายวิวเมือง

และพื้นที่โซนเครื่องออกกำลังกายที่เชื่อมมุมมองกับวิวสวน

พื้นที่ pocket garden ที่มีโซนพื้นที่นั่ง พื้นที่เอนกาย นอนชมวิว มหานครที่รายล้อมโดยรอบ

หรือจะใช้เป็นพื้นที่ out door ในการเป็น Yoga court ก็สามารถ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตได้เช่นกัน

เชื่อมกับพื้นที่ กึ่ง outdoor หรือ pool deck

ที่ทอดยาวเชื่อมต่อกับพื้นที่สระว่ายน้ำ

อย่าง infinity edge pool ที่ยาวกว่า 26 เมตร เชื่อมกับวิวโค้งแม่น้ำและวิวเมืองที่โอบล้อมอยู่เบื้องหน้า

แบ่งพื้นที่สระเด็ก Jacuzzi และ curve นั่งในสระน้ำ

บนเพดานยังมี Fiber Optic Light ที่เป็นลูกเล่นในยามค่ำคืน สร้างสีสันใหม่ๆ และเปลี่ยนบรรยากาศให้กับพื้นที่โซนสระว่ายน้ำ

แถมห้องล้างตัวก่อนลงสระ ก็ยังคงคอนเซปต์ ผนังลายหินไว้อีกด้วย

นอกจากที่ชั้น 31 ที่ชั้น 32 ยังมากับพื้นที่สำหรับเสพวิวเมืองที่สวยที่สุดในรูปแบบที่เหนือกว่า ด้วยพื้นที่พิเศษอย่าง RHYTHM OBSERVATORIUM

พื้นที่ deck กระจกที่ยื่นออกไปเป็นจุดชมวิวสูงสุดของย่านเอกมัยใต้

ส่วนพื้นล่างเป็นวิวสระว่ายน้ำที่ทอดตัวเชื่อมกับพื้นที่เมืองด้านล่าง

เป็นมุมที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ดื่มด่ำกับวิวเอกมัยอย่างเต็มอิ่ม บนความตื่นเต้นและท้าทาย

หรือถ้าใครชอบพื้นที่นั่งชิวแต่ยังเต็มอิ่มกับวิวเมืองได้อยู่ ที่ชั้นนี้ก็มี  RHYTHM Social club ที่ออกแบบอย่างสวยหรู และโอบล้อมด้วยกระจกชมวิวโดยรอบ

แต่ยังมีพื้นที่ให้ได้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นห้องประชุม

นั่งทำงานชิวๆชมวิวไปด้วย

หรือจะเป็นมุมนั่งคุยงาน นั่งทำงาน co-working space

หรือเอนกายแบบส่วนตัวๆ ก็สามารถเลือกใช้งานได้ตามแต่ละความต้องการ

ติดกันมี RHYTHM Panoramic theater lounge

ที่มีระบบเสียง และจอโปรเจคเตอร์สำหรับรับชมภาพยนตร์แบบเลื่อนขึ้นลงได้เมื่อใช้งาน

เป็นมุมนั่งพักผ่อนกับชุดโซฟาที่ทอดยาว

ให้ได้เอนกายดูหนัง กับบรรยากาศสุด exclusive กับวิวเมืองที่โปร่งโล่งไร้สิ่งบดบัง

เสมือนได้ใช้ชีวิตอยู่บนอาคารสูงที่เป็นไอคอนตามมหานครใหญ่ระดับโลก

รวมทั้งที่ชั้นนี้ยังมี Evacuation พื้นที่โล่ง ไว้รองรับเหตุฉุกเฉิน ที่ออกแบบไว้เป็นอย่างดีอีกด้วย

นี่แค่พื้นที่ส่วนกลาง ก็เรียกว่าจัดเต็ม เกินราคา และน่าจับจองเป็นเจ้าของแล้ว ยังไม่นับรวมพื้นที่พักอาศัย ที่นักออกแบบและ AP บอกว่าคิดมาเป็นอย่างดีเพื่อผู้อยู่อาศัยโดยแท้จริง กับยูนิตห้องที่มีให้เลือกมากกว่า 14 ขนาด กับ 3 รูปแบบ คือ ห้อง Studio ที่มีขนาด 30 และ 31 Sq.m. ห้อง 1 Bedroom ที่มีขนาด 35 และ 38 Sq.m. รวมทั้ง 2 Bedroom ที่มีขนาด 70 และ 80 Sq.m.

ซึ่งแต่ละห้องแต่ละขนาดจะมีรูปแบบและไฮไลท์แตกต่างกันไป ซึ่งวันนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่าง ที่โครงการตกแต่งให้ชมที่ชั้น 7 และมีตัวอย่างห้องที่ชั้น 14 เป็นห้องเปล่า ให้ชมในบางห้องอีกด้วย โดยโครงการฯขายแบบ fully fitted

ห้องตัวอย่างที่ชั้น 7 เป็นห้อง Type A13(B) 30 Sq.m.

โครงการให้ประตูเซาะร่องบานใหญ่พร้อม digital door lock

พื้นห้องถูกยก step ขึ้นสูงจากพื้นทางเดิน

ภายในห้อง สูง 2.6 m. ทอดยาวเชื่อมสู่กระจกด้านในสุดของห้อง

ด้านหน้าติดประตูทางเข้าเป็นพื้นที่ครัว และห้องน้ำ ที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนที่สามารถกั้นเป็นครัวปิด (ห้องจริงไม่ได้ให้ครับ) และแยกส่วนจากพื้นที่พักผ่อนและห้องนอนได้ หรือเปิดเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ใช้งานให้กว้างขึ้นก็ได้เช่นกัน

โครงการฯให้ครัว built-in ที่ด้านซ้ายของทางเข้ายาวเต็มผนัง สูงจรดเพดาน

เว้นช่องวางตู้เย็นไว้ติดประตูทางเข้า และให้ชุดเฟอร์นิเจอร์ครัว ทั้งตู้เก็บของด้านบน และลิ้นชักด้านล่าง เจาะช่องวางไมโครเวฟ พร้อมใช้งาน

โดยที่เคาท์เตอร์ครัวโครงการฯให้ เตาไฟฟ้า2หัวของ FRANKE พร้อมที่ดูดควันด้านบนศีรษะ

ติดกันเป็นอ่างล้างจานของ FRANKE ที่ built-in เก็บเรียบใต้เคาท์เตอร์

ฝั่งตรงข้ามครัวเป็นห้องน้ำ

ที่ภายในแบ่งส่วนแห้งติดทางเข้า

โครงการฯให้อ่างล้างหน้าแบบลอยตัวเข้ามุม ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ ของ KOHLER พร้อมกระจกบานยาวเต็มแนวผนัง

พื้นที่ส่วนเปียกอยู่ด้านใน กั้นด้วย glass shower

โครงการให้ Rain shower และ hand shower แบบติดผนัง พร้อมช่องเจาะในผนัง สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำ

ส่วนพื้นที่พักผ่อนด้านใน ค่อนข้างเป็นสัดส่วน และค่อนข้างกว้าง

สามารถวางชุดโซฟา สำหรับ 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง

สำหรับนั่งพักผ่อนและทานอาหาร บริเวณพื้นที่ติดเคาท์เตอร์ครัว

ผนังฝั่งตรงข้ามสามารถ built-in เป็นงานเฟอร์นิเจอร์เชื่อมยาวเต็มผนัง

ไม่ว่าจะเป็นตู้เสื้อผ้า ที่สามารถออกแบบได้สูงจรดเพดาน เพิ่มพื้นที่ใช้งานให้มากขึ้น

หรือชั้นวางของ ชั้นวางทีวี ที่เชื่อมยาวไปจรดระเบียงห้อง และเชื่อมต่อกับมุมพักผ่อนอย่างพื้นที่ตั้งเตียงนอน

ที่สามารถตั้งเตียง king size ไว้ที่พื้นที่ติดหน้าต่างบานใหญ่

พื้นที่ปลายเตียงเป็นที่วางทีวี

และตำแหน่งติดตั้งแอร์ wall type 1 ตัว สำหรับห้อง studio

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ติดหน้าต่าง ที่สามารถทำเป็นมุมทำงาน วางของแบบเข้ามุม หรือปรับเป็นพื้นที่ day bed เล็กๆแบบส่วนตัวๆได้

ติดกันเป็นทางออกระเบียง ที่ระเบียงสูง 2.8 m. พื้นระเบียงเอียงปรับมุมมองให้แก่ห้อง

แบ่งพื้นที่ด้านขวาเป็นที่วางคอมฯแอร์ แบบแขวน และสามารถวางเครื่องซักผ้าได้ที่มุมนี้ พร้อมพื้นที่เหลือพอให้ได้ใช้งาน ออกไปชมวิวด้านนนอกได้

ห้องนี้น่าจะเหมาะสำหรับนักศึกษา คนทำงาน ที่ 1-2 คน ใช้พื้นที่ร่วมกันไม่แบ่งสัดส่วน

หากใครชอบขนาดห้องประมาณนี้ เป็นห้อง studio 30 Sq.m. แต่อยากได้เป็นห้องมุม สุดปลายทางเดิน ก็มีห้อง Type A12

ที่มีแปลนห้องเหมือนกับห้อง A13(B) แต่กลับโซนพื้นที่ซ้ายขวา

คือมีครัวที่ด้านขวาของทางเข้า ผนังฝั่งตรงข้ามครัวเป็นห้องน้ำ

ด้านในเป็นพื้นที่พักผ่อนที่เป็นห้อง studio หัวมุม

แต่พิเศษตรงที่มีหน้าต่างบานยาวที่บริเวณพื้นที่หลักของห้อง

และที่ห้องน้ำก็มีหน้าต่างระบายอากาศบานสูงด้วยเช่นกัน

ทำให้ภายในห้องน้ำสว่างและไม่อับเมื่อใช้งาน

เรียกว่าเป็นห้องสตูดิโอที่เป็นห้องมุมมี 2 วิวในห้องเดียว

หรือถ้าใครชอบพื้นที่เป็นสัดส่วน แต่ขนาดไม่ใหญ่มาก ก็ต้องเป็นห้อง 1 bedroom Type B09 35 Sq.m. หันทิศตะวันตก ห้อง 1 Bedroom ที่ขายดีที่สุดใน 1Bedroom type

เพราะเป็น 1 ห้องนอน type เดียวที่ได้ครัวปิด ติดระเบียง ขนาดใหญ่

เปิดรับด้วยห้องliving area ที่กว้างขวาง เป็นพื้นที่กลางที่เชื่อมห้องนอน ครัว และห้องน้ำ

มีห้องนอนแยกเป็นสัดส่วน พร้อมกระจกบานใหญ่ เปิดรับแสง ลม และเชื่อมวิวภายนอก

ส่วนห้อง type ใหญ่ อย่าง 2 ห้องนอน ที่โดดเด่นของโครงการ ก็น่าจะเป็น ห้อง Type C03 70 Sq.m. ห้องหัวมุมหันทิศใต้และตะวันออก

2ห้องนอน  ห้องมุม ที่แยกพื้นที่เป็นสัดส่วน

โดยได้ครัวปิดติดประตูทางเข้า กั้นด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอน (คนซื้อห้อง Type นี้จะได้ชั้นวางของพร้อมตู้ซ้าย-ขวา พร้อมบานเลื่อนแบบนี้เลยครับ)

เชื่อมกับพื้นที่ living area ตอนลึก เชื่อมยาวกระจกบานเต็มสูงจากพื้นจรดเพดาน เชื่อมสู่ระเบียงด้านนอก

ที่ living area เป็นพื้นที่กลางเชื่อมสู่ห้องนอนทั้ง 2 ห้อง

ที่ห้องนอนใหญ่ ได้กระจกเข้ามุม

และห้องน้ำแบบ sexy bath พร้อมอ่างอาบน้ำ และกระจกระบายอากาศที่ห้องน้ำ

แยกพื้นที่ส่วนเปียกอย่างห้องอาบน้ำ กั้นด้วย glass shower

แยกจากพื้นที่ส่วนแห้ง ที่วางไว้ติดประตูทางเข้าห้องน้ำ

ที่ห้องนอนเล็ก ได้หน้าต่างกระจกบานใหญ่

และห้องน้ำของห้องนอนเล็ก เป็น double access จากห้องนอนเล็ก และจากห้องนั่งเล่น

หรือห้องที่มี layout คล้ายกัน แต่แตกต่างกันเล็กน้อย คือ Type C11 70 Sq.m. คือ 2 ห้องนอนสุดทางเดิน อีกฝั่งหนึ่งของอาคาร หันทิศเหนือและตะวันตก

แต่ห้องนี้เป็นครัวเข้ามุม แบบครัวเปิด

เชื่อมกับพื้นที่ living area มีเข้ามุม ซึ่งห้องนี้ได้กระจก Full Height สูงจากพื้นจรดเพดาน

และ ห้องนอนทั้ง 2 ห้องวางตัวอยู่ที่ปีกซ้ายของห้อง แบบแยกโถงทางเดิน

ที่ห้องนอนใหญ่ ได้กระจกบานใหญ่

และห้องน้ำแบบ sexy bath พร้อมอ่างอาบน้ำ

แยกพื้นที่ส่วนเปียกอย่างห้องอาบน้ำ กั้นด้วย glass shower

แยกจากพื้นที่ส่วนแห้ง ที่วางไว้ติดประตูทางเข้าห้องน้ำ

โดยสรุปแล้ว RHYTHM Ekkamai เป็นโครงการฯที่เน้นการเพิ่มฟังก์ชั่นให้ห้องขนาดเล็ก อย่างห้อง studio และ 1 bedroom บนขนาดพื้นที่ที่สามารถใช้งานจริงทุกตารางนิ้ว ถึงแม้จะเป็นห้องเล็กแต่ก็ได้ครัวปิด และมีห้องหัวมุม โดยเฉพาะห้อง studio ที่ในโครงการอื่นมักไม่ค่อยมีอยู่ในตำแหน่งห้องมุมสักเท่าไหร่ และยังมี 2 นอนที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก ทำให้ราคารวมสามารถจับต้องได้ง่ายกว่าคอนโดอื่นๆในย่านเดียวกัน แต่ได้วิวดีสุดๆ แถมยังมีกระจกบานใหญ่ รับมุมมองแบบโปร่ง โล่ง เต็มสายตา

“ถ้าในอนาคตอีก 3 ปีข้างหน้า ถึงแม้ว่าเอกมัยจะเต็มไปด้วยคอนโดระดับ Luxury – Super Luxury เพิ่มขึ้นมามากมาย แต่ RHYTHM Ekkamai ก็ยังคงถูกจดจำในฐานะที่เป็นโครงการ RHYTHM โฉมใหม่ที่พลิกสถานการณ์ให้แบรนด์ RHYTHM จากที่ดูดรอปลงไปในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กลับมาเป็นที่กล่าวขวัญอีกครั้ง ในฐานะที่เป็น Innovative Condo ที่สร้างความหวือหวาในเชิงนวัตกรรมการออกแบบ และส่วนกลางที่เรียกเสียงฮือฮาได้เสมอ ดั่งเช่น โครงการ RHYTHM ที่นักลงทุนทุกคนถวิลหาในอดีต”…คำพูดนี้ไม่ได้ออกมาจากผู้บริหารคนไหนของเอพี แต่เป็นคำพูดของผมเองที่คิดขึ้นมาได้หลังจากที่ได้ก้าวขึ้นไปสัมผัสที่พื้นที่ส่วนกลางบนชั้น 32 เหนือสระว่ายน้ำ บนสุดของโครงการที่ RHYTHM OBSERVATORIUM จุดชมวิวพื้นกระจกใส ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ดื่มด่ำกับวิวเอกมัยอย่างเต็มอิ่ม โดยที่สามารถมองเห็นสระว่ายน้ำด้านล่างที่ถูกดีไซน์สวยหรู แบบ Infinity edge ทอดยาวขนานไปกับความกว้างของอาคาร ที่ถูกขนาบข้างไปด้วย RHYTHM Social club และ RHYTHM Panoramic lounge สุดไฮเทค

จริงอยู่ที่จุดชมวิวพื้นกระจกแห่งนี้อาจจะไม่ใช่ของใหม่สำหรับคอนโดกรุงเทพฯ ในสายตาของใครหลายๆคน และความเสียวของการยืนอาจจะไม่มากพอที่จะทำให้คนกลัวความสูงอย่างผมเกิดอาการขาสั่น เนื่องจากด้านล่างจุดชมวิวพื้นกระจกนี้ ก็คือสระว่ายน้ำ ถึงมี accident อะไรตกลงไปก็ไม่ถึงกับเป็นอะไรมาก (มั้ง) แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็ต้องบอกว่าหากเปรียบเทียบกับโครงการ RHYTHM ตัวล่าสุดที่เพิ่งโอนไปหมาดๆอย่าง RHYTHM Rangnam, RHYTHM Sukhumvit 36-38 หรือย้อนมาที่ RHYTHM Asoke II แล้ว โครงการ RHYTHM Ekkamai ดูจะมอบประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายให้กับคนซื้อ และคนที่คุ้นเคยกับแบรนด์ RHYTHM พอสมควร เพราะบรรยากาศของส่วนกลางที่นี่ดีกว่าตัวเดิมเห็นๆ อีกอย่างในช่วงเวลานี้คอนโดใหม่ที่ขายในราคาต่ำกว่าตารางเมตรละสองแสน หรือสองแสนนิดๆกลายเป็นของที่หาได้ยากมากในย่านรัศมี 300 เมตรจาก BTS เอกมัย และ BTS ทองหล่อ

หากกล่าวถึงทำเลเอกมัย หลายคนคงจะนึกถึงซอยสุขุมวิท 61 และ 63 ทั้งสองซอยมีความแตกต่างตรงที่ความกว้างของซอยสุขุมวิท 63 จะกว้างกว่า ยาวกว่าและเป็นเส้นหลักของเอกมัย มีครบทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ ไฮเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร ร้านกาแฟจะอยู่ซอยนี้ค่อนข้างเยอะ คอนโด High rise ของเอกมัยส่วนใหญ่ก็ตั้งอยู่บนซอย 63 นี้เช่นกัน ซึ่งลักษณะทางกายภาพของทำเลเอกมัยจะแบ่งเป็นเอกมัยเหนือและเอกมัยใต้ โดยในอดีตที่ผ่านมาโครงการคอนโดในย่านเอกมัยใต้ มักจะเลือกไปเปิดตัวที่บริเวณฝั่งซอยเลขคู่อย่างสุขุมวิท 42 (ที่สามารถเข้าจากฝั่งถนนพระราม 4 ช่วงแยกกล้วยน้ำไท และเดินรถได้ทางเดียวเท่านั้น ทำให้ Value ของโครงการในฝั่งนี้ค่อนข้างเสียเปรียบฝั่งสุขุมวิทเลขคี่พอสมควร) , ริมถนนถัดไปทางช่วงพระโขนง หรือไม่ก็เป็นคอนโด Low Rise ในซอยสุขุมวิท 61 เนื่องจากต้นทุนของราคาที่ดินยังไม่สูงมาก ส่วนคอนโดในย่านเอกมัยเหนือ ตั้งแต่เอกมัย 12 เป็นต้นไป แม้จะเสียเปรียบในด้านการเดินทางที่ไกลจาก BTS เอกมัย และไม่ค่อยจะมีห้างขนาดใหญ่ให้ได้เลือกจับจ่ายซื้อของ แต่ก็ได้ความใกล้กับย่านทองหล่อ เพชรบุรี และสุขุมวิท 71  ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาคอนโด High Rise ส่วนใหญ่ที่ชูจุดขายความเป็นเอกมัยก็มักที่จะเลือกมาเปิดในบริเวณนี้ ในระดับราคาที่สูงพอๆกับบริเวณช่วงเอกมัยใต้…RHYTHM Ekkamai ที่เป็นคอนโดสร้างเสร็จใหม่หมาดๆแห่งเดียวบนเอกมัยใต้ สุขุมวิท 63 ในรอบหลายปี (แทบไม่น่าเชื่อครับ เพราะต้องย้อนไปไกลถึง Noble Reveal หรือไม่ก็เป็นบริเวณใกล้เคียงอย่าง The Lofts Ekkamai และ RHYTHM Sukhumvit 42) โดยที่การพัฒนาโครงการอสังหาฯในช่วงหลังๆก็มักจะเป็นประเภท Service Apartment ซะมากกว่า ทั้ง CIVIC Horizon หรือ Somerset Ekkamai ซึ่งเป็นสิ่งที่การันตีถึงความหายากของที่ดินในบริเวณนี้ รวมถึงศักยภาพในการปล่อยเช่ากลุ่มผู้เข้าพักชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูงพอสมควร

เครดิตภาพ: https://www.somerset.com/thailand/bangkok/somerset-ekamai-bangkok

โดยโครงการ CIVIC Horizon มีราคาปล่อยเช่า 1 ห้องนอน ขนาด 44-56 ตารางเมตร ประมาณ 49,000 – 65,000 บาทต่อเดือน และ 2 ห้องนอนขนาด 62-68 ตารางเมตร ประมาณ 70,000 – 90,000 บาทต่อเดือน ส่วน Somerset Ekkamai มีห้องสตูดิโอเริ่มต้นขนาดเล็กหน่อยที่ 17 -23 ตารางเมตร ก็ทำราคาเช่าสูงถึงเดือนละ 38,660 ส่วนห้องขนาด 1 ห้องนอนขนาด 42-52 ตารางเมตร ก็มีค่าเช่าเดือนละ 47,500 และห้องใหญ่ 2 ห้องนอนขนาดเกิน 100 ตารางเมตรขึ้นไปสามารถทำค่าเช่าได้ถึงเดือนละ 155,000 – 220,000 บาท ในขณะที่ราคาค่าเช่าคอนโดถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีการปรับตัวสูงขึ้นมากแต่ก็มีระดับราคาเฉลี่ยที่ราวๆตารางเมตรละ 800 บาทสำหรับคอนโดที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี ซึ่งก็แน่นอนว่าหากเป็นคอนโดที่สร้างเสร็จใหม่ มีส่วนกลางขนาดใหญ่น่าใช้งาน มีเลย์เอ้าท์ที่สอดรับกับเทรนด์ปัจจุบัน ก็น่าจะทำระดับราคาได้สูงขึ้นกว่านี้ไม่ยาก

นอกจากนี้หากมองในเหตุผลที่ว่าเอกมัยนั้นเป็นทำเลคู่ขนานที่ทดแทนกับย่านทองหล่อได้ในอนาคต RHYTHM Ekkamai ก็ดูจะได้เปรียบในเรื่องของราคาขายที่ยังมีราคาที่ต่ำกว่าคอนโดเปิดตัวใหม่ในย่านทองหล่อถึง 50% และเป็นที่คาดการณ์กันว่าระดับราคาของคอนโดเปิดใหม่ปีหน้าในช่วงเอกมัยซอย 1 ลึกเข้าไปอีกประมาณ 700 เมตร ที่มีดีเวลลอปเปอร์จ่อคิวรอเปิดโครงการใหม่อีกเพียบ (รวมของเอพีด้วย) น่าจะมีราคาที่สูงเกินกว่าราคาขายตอนนี้ของ RHYTHM Ekkamai แน่นอน โดยจากการ Track ข้อมูลของ Resale Transaction ก็จะพบว่าในช่วง 1 เดือนล่าสุดโครงการได้มีการปิดการขายห้องรีเซลกันแบบกระหน่ำ และเจ้าของห้องก็สามารถทำกำไรกันได้ถ้วนหน้าตั้งแต่ 1-2 แสนสำหรับห้องแบบสตูดิโอ – 1 นอน และเจ็ดแสน – 1 ล้านบาทสำหรับห้องแบบสองห้องนอน!! ไม่แพ้โครงการอื่นใดบน Prime Area ย่านอื่นๆที่กำลังโอนกันอยู่เลย

ทั้งหมดนี้ ก็คงพอที่จะสร้างความมั่นใจให้กับหลายๆคนที่กำลังคิดชั่งใจอยู่ว่าจะรอซื้อโครงการเพื่ออยู่ตอนนี้เลย หรือจะรอของใหม่แต่ก็ต้องแลกกับทำเลที่ไม่ใกล้รถไฟฟ้า สารพัดห้างขนาดนี้ แต่กลับมีราคาที่สูงขึ้นจนยากเกินคาดเดาครับ

สนใจเข้าชมโครงการแบบ Exclusive Tour สามารถติดต่อ BC ได้ตามเบอร์นี้  02-6618999 หรือเข้าไปที่เวปไซต์ http://bit.ly/2DwgRHS เพื่อนัดหมายล่วงหน้าครับ